ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

TCEBปลุกธุรกิจไมซ์ตื่นรับสัญญาณดีภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์-วัคซีน “อินเซ็นทีฟ”อเมริกามาส.ค.นี้-ขาใหญ่ศูนย์ประชุมรับเอ็กซิบิชั่นตรีม

 ผู้นำTCEBปลุกธุรกิจไมซ์ตื่นรับสัญญาณดีภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์-วัคซีน

“อินเซ็นทีฟ”อเมริกามาส.ค.นี้-ขาใหญ่ศูนย์ประชุมรับเอ็กซิบิชั่นตรีม

“คิง เพาเวอร์ ศรีวารี”ชวนช้อปเสาร์-อาทิตย์แจกคูปองส่วนลด8พัน

คิงเพาเวอร์จัดโปรเด็ด“SHOP IN THE RAIN”ลด50% ถึง17มิ.ย.นี้

คิงเพาเวอร์แจกดีลดีMake My Daysมิ.ย.นี้รับกิฟท์การ์ดเพิ่ม8พัน

ททท.ชูแพลตฟอร์มEmpoweringTecช่วยธุรกิจ3เรื่องเปิด18มิ.ย.

รมว.พิพัฒน์”นำทีมททท.-เอกชนทวงคืนรายได้2.2แสนล้านปี’65

TCEB”ปลื้มจัดไลออนสากลสำเร็จส่งต่อโมเดลโคราชสู่เชียงใหม่

จัดคิวเที่ยวสังขละบุรีให้หายคิดถึงสะพานมอญสายน้ำซองกาเรีย

10แหล่งอาหารช่วยบำรุงปอดเลือกกินอยู่วิถีใหม่อย่างปลอดภัย

แบงก์ออมสินยอมปล่อยกู้ท่องเที่ยว5แสน/รายไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำ

“ท่องเที่ยว5สมาคม”เข็นรัฐตั้งกองทุนหมื่นล้าน-ส.โรงแรมยันรอเจ๊ง

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา 

ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” 

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #ททท #เพ็ญรุ่งใยสามเสน

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้

ช่วงที่ 1 ฟังข่าวดี กับ “นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ กับวัคซีน สัญญาณใหม่ส่องสว่างตลาดไมซ์ทั่วโลก เด้งรับทันควัน DMC ยืนยันตลาด “อินเซ็นทีฟ” อเมริกา จองมาแล้วกว่า 10 กรุ๊ป เริ่ม สิงหาคม นี้ นำร่อง 200 คน ทีเส็บเตรียมใช้โมเดล “SPECIAL ARRANGE” ตามติดความเคลื่อนไหวไมซ์วิถีใหม่ ยก MICE LANE ปักหลักภูเก็ต เข้มมาตรการสร้างความมั่นใจ 4 ขั้นตอน “คู่ค้าส่งตรวจล่วงหน้าทั้งรายชื่อและประวัติฉีดวัคซีน” ส่วนในประเทศจับเข่าคุยสมาคมจัดแสดงสินค้าและศูนย์ประชุมใหญ่ รอบุกตลาดเอ็กซิบิชั่น คอนเว็นชั่น อินเตอร์ “ศูนย์สิริกิติ์” ตีปีกเปิดก.ย.65 มีลูกค้าจองแล้วเกิน 10 งาน ส่วนการอัดฉีดงบประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า แจกยาวข้ามปี’64-65

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB เปิดเผยว่า การวางแผนพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เรื่องแรกได้ประสานกับทางกระทรวงสาธารณสุขขอวัคซีนมาฉีดให้บุคลากรด่านหน้าในอุตสาหกรรมไมซ์คล้ายคลึงกับภาคท่องเที่ยว ซึ่งไมซ์จะต้องมีส่วนร่วมรองรับตลาดต่างประเทศ 1.เข้าร่วมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยมีการจัดเริ่ม 1 กรกฎาคม 2564 จะมีส่วนงานจัดประชุม 2.ได้รับยันยันและการแสดงความสนใจจากต่างประเทศ ที่จะนำไมซ์เข้ามาภูเก็ตเริ่มสิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ทั้งจากสหรัฐอเมริกา กรุ๊ปละประมาณ 50 คน 80 คน 200 คน ส่งผลให้ทีเส็บต้องร่วมกับภาคเอกชนเตรียมความพร้อมรับตลาดดังกล่าว

ส่วนรูปแบบวิธีปฏิบัติรับตลาดไมซ์ต่างประเทศ ประมวลผลจากโมเดล SPECAIL ARRANGEMENT ช่วงที่ยังไม่สามารถเปิดให้ไมซ์ต่างประเทศเข้ามาได้ ทีเส็บทำงานร่วมกับศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) นำผู้ลงทุนต่างชาติเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน แต่จะต้องได้รับการอนุมัติจาก ศบค.และจะต้องอยู่ใน State Quarantine :SQ หรือดูแลใกล้ชิดตลอด มาครั้งละ 8 คน แต่ไม่เกิน 10 คน ช่วง 2 ปีนี้ทีเส็บทำไปทั้งหมด 3-4 กรุ๊ป

ตัวอย่างคือกลุ่มนักลงทุนจากญี่ปุ่น ใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวบินมาเพื่อตรวจการลงนามสัญญาก่อสร้างโรงงานในเขตนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก มูลค่าการลงทุน 3,000-4,000 ล้านบาท จากนั้นก็เดินทางกลับประเทศผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย

ยืนยันได้ว่าทีเส็บกับ ศบค.นำเข้าแต่ละกลุ่มเข้ามาอย่างมีแบบแผน เพราะฉนั้นจากประสบการณ์ดังกล่าวก็จะนำโมเดลมาใช้กับโครงการ “ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์” คือนำไมซ์ทุกกลุ่มจากแต่ละประเทศเข้ามาอย่างมีแบบแผน โดยมีบริษัทบรหารจัดการเส้นทางครบวงจร หรือ DMC : Destination Management Company หรือบริษัทตัวแทนจัดการนำเที่ยว ซึ่งเคยผ่านการทำงานร่วมกับทีเส็บมาก่อนทำหน้าที่ต้อนรับ


ล่าสุดทาง DMC ยืนยันมีไมซ์ต่างประเทศพร้อมเข้ามาไทยแล้วประมาณ 10 กรุ๊ป ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของตลาดไมซ์อเมริกาและอีกหลายประเทศแสดงความต้องการจะเดินทางมายังจุดหมายปลายทางหลักที่ภูเก็ต  ระหว่างนี้จึงอยู่ในขั้นตอน “เตรียมพร้อมรองรับไมซ์ต่างประเทศ” โดยทางทีเส็บมีผู้อำนวยการสำนักงานภาคใต้อยู่ในพื้นที่ภูเก็ตทำงานร่วมกับทุกฝ่ายอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ขั้นตอนตรวจการฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่า 14 วัน และตรวจทุกขั้นตอนตามที่ ศบค.กำหนด

ตลาดไมซ์กรุ๊ปแรกที่ทีเส็บเตรียมรับคือ “กลุ่มที่ได้รับรางวัลฟรีเพื่อการนักเดินทาง : I -Incentive จะมาช่วงสิงหาคม 2564 จำนวน 80-200 คน เป็นบุคลากรบริษัทยาหรือฟามาเคมิคอล บริษัทเกี่ยวเนื่องทางการแพทย์ รวมทั้งกลุ่มบริษัทจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระหว่างนี้ทีเส็บกำลังประสานงานกันอยู่กับทางบริษัทต้นทางที่จะส่งลูกค้าเข้ามา ความเคลื่อนไหวดังกล่าวตอกย้ำว่าอินเซ็นทีฟจะเป็นไมซ์ที่มีศักยภาพกลุ่มนำร่องเข้าสู่ประเทศไทยปลายปี 2564 เป็นต้นไป

ส่วนภารกิจที่จะต้องทำควบคู่กันไปด้วย คือ วิธีการตรวจสอบแนวทางให้ชัดเจนในกลุ่มอินเซ็นทีฟที่มีรายชื่อเข้ามาไทยจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 โด๊ส ขณะนี้ทาง ศบค.กำลังพิจารณามาตรการว่าทีเส็บจะต้องส่งทีมเจ้าหน้าที่ และบุคลากร DMC ไปปักหลักที่ภูเก็ต เพื่อทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ส่วนอื่น ๆ แล้วใช้ประสบการณ์จากการเคยทำ SPECIAL ARRANGEMENT  ทำให้การต้อนรับไมซ์แต่ละกลุ่มเข้ามาใช้จ่ายเงินในภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ ดำเนินเป็นไปอย่างเรียบร้อยทั้งหมด

ตอนนี้แต่ละบริษัท DMC ต่างก็เตรียมอบรมพัฒนาบุคลากรอย่างเต็มที่ พร้อมกับรอนโยบายชัด ๆ อีกครั้งจากทาง ศบค.ถึงขั้นตอนการปฏิบัติจริงในการตรวจสอบนักเดินทางไมซ์เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน จะต้องตรวจเอกสารประกอบอะไรบ้าง เพื่อแจ้งให้คนเดินทางเตรียมนำมาแสดง ส่วนการนำเข้าอินเซ็นทีฟต่างประเทศนั้นทางบริษัท DMC จะดำเนินการอำนวยความสะดวกให้ทั้งหมดในการเข้าเมือง-ออกเมือง และสามารถแทร็กได้ด้วยว่าแต่ละคนที่เข้ามาแล้วเดินทางไปยังพื้นที่ใดบ้าง

โดยเฉพาะการทุ่มเทร่วมผลักดัน “ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์” จะทำอย่างระมัดระวัง เพราะโครงการนี้เกิดจากความมั่นใจของลูกค้าถึงบริการของภูเก็ต เรื่องหลัก ๆ 1.การอบรมบุคลากรต้องเข้มด้วย 2 H คือ 1.Hygiene มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย กับ 2.Hybrid นำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาให้บริการเต็มรูปแบบ ทีเส็บกำลังเตรียมอำนวยความสะดวก เรื่องหลัก ได้แก่ การจัด MICE LANE ปัจจุบันมีเฉพาะในกรุงเทพฯ แต่พอเป็น ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ ก็จะไปทำที่ภูเก็ตให้ได้ 100 % กำลังขอช่วยเปิดเลนเฉพาะอำนวยความสะดวกให้อินเซ็นทีฟที่มาพร้อมกันเป็นหมู่คณะ 


โดยร่วมมือกันทำ 4 เรื่องหลัก คือ 1.ก่อนเดินทางคู่ค้าจะส่งรายชื่อคนเดินทางเข้ามาก่อนแล้ว 2.ส่งล่วงหน้าเอกสารการยืนยันนักเดินทางแต่ละคนที่ผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเรียบร้อยแล้ว 3.มอบหมายให้มีบริษัท DMC เข้าไปบริหารจัดการการเดินทางตลอดทริป ให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติของ ศบค.ห้ามออกนอกเส้นทางที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อหรือติดโควิด 4.ประชาชนในจังหวัดภูเก็ตต้องได้รับการฉีดวัคซีนล่วงหน้าก่อนเปิดเกาะ คนส่วนใหญ่จะต้องฉีดครบ 2 โด๊ส คิดเป็นเกินกว่า 70 % ของประชากรภูเก็ตทั้งหมด

เมื่อทุกฝ่ายทำทุกอย่างคู่ขนานกันสำเร็จ ทีเส็บก็หวังว่าจะทำภารกิจนำเข้าอินเซ็นทีฟไมซ์เข้ามาใช้จ่ายเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผมมีความเชื่อมั่นว่าการจัดงานที่มีบริษัท DMC ดูแลอย่างใกล้ชิด จะสร้างความสบายใจให้ทั้งทีเส็บและคู่ค้าที่มาเป็นกลุ่มซึ่งสามารถแทร็คหรือติดตามเส้นทางของทุกคนได้ทั้งหมด 

นายจิรุตถ์กล่าวว่าภารกิจสำคัญของทีเส็บนับจากเดือนมิถุนายน-ธันวาคม 2564 กำลังทำงานอย่างหนักร่วมกับนายประวิชย์ ศรีบัณฑิตมงคล นายกคนใหม่ของสมาคมการแสดงสินค้า(ไทย) : Thai Exhibition Association ทำกิจกรรมเชิงรุกเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่สามารถทำให้ไมซ์กลับมาเป็นปกติได้ จึงต้องประชุมกำหนดแนวทางร่วมมือกันทางด้านการตลาดไมซ์ นำเสนอโครงการพิเศษขยายฐานลูกค้ากลุ่มจัดนิทรรศการแสดงสินค้าหรือตัว E : Exhibition ซึ่งมีอีกหลายงานจะต้องเดินหน้าจัดต่อไป

ประกอบด้วย 1.งาน THAIFEX 2021 ตอนนี้ยังไม่ได้ประกาศยกเลิก ทีเส็บจึงต้อง 1.ช่วยสนับสนุน ส่งเสริม ทำให้งานเกิดประโยชน์ต่อภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 2.นำเครื่องมือจัดไมซ์ด้วยไฮบริดต่าง ๆ เข้ามาใช้ 3.เพิ่มโอกาสในอนาคตหลังรัฐบาลทยอยลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์-คมนาคม เต็มรูปแบบ ดังนั้นอีก 1-3 ปี เป็นช่วงที่จะต้องดึงคนเข้ามาดูสภาพความเป็นจริง เพราะอนาคตประเทศไทยมีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับนานาชาติขนาดใหญ่ทั้ง การจัดแสดงสินค้าระดับโลก (Exhibition) และการจัดประชุมนานาชาติ (Convention)

นายจิรุตถ์กล่าวว่าจากการพูดคุยกับทางผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ยืนยันว่าการก่อสร้างศูนย์ประชุมใหม่จะแล้วเสร็จเดือนกันยายน 2565 มีลูกค้าจองใช้สถานที่รออยู่แล้วไม่ต่ำกว่า 10 งาน เพื่อจัดเอ็กซิบิชั่นและคอนเว็นชั่นก่อนพฤศจิกายน 2565 ทีเส็บจึงต้องการเตรียมเทคโนโลยี นวัตกรรมการจัดไมซ์ ร่วมมือกับเอกชนดึงงานอนาคตอีก1-3 ปีข้างหน้ามาจัดในไทย

ส่วน “ไมซ์ในประเทศ” เมื่อสถานการณ์โดยรวมคลี่คลายดีขึ้นก็พร้อมสนับสนุนทุกภาคส่วนจัดงานไมซ์ได้ทันที ชูโรงโครงการ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” มีช่วงเวลาสั้น ๆ จะช่วยผู้ประกอบการได้ ตอนนี้มีเงินราว 25 ล้านบาท เพียงพอจะสนับสนุนผู้จัดงานลงทะเบียนขอไปใช้จัดงานได้ตลอดปีวันนี้ไปจนถึง 31 ธันวาคม 2564 จากนั้นจะทำโครงการ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” ต่อเนื่องไปจนถึงปีงบประมาณ 2565 ด้วย

 

ขณะที่แผนส่งเสริมไมซ์ในประเทศ โดยเฉพาะเอ็กซิบิชั่นการจัดงานแสดงสินค้า เช่น งาน World Halal 2021 ที่สงขลา ล่าสุดต้องประกาศยืดเวลาจัดงานออกไป เพราะสถานที่จัดยังเป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยโควิดอยู่ ซึ่งเป็นภารกิจที่ทุกอย่างเห็นด้วยกับรัฐบาลสิ่งแรกต้องร่วมมือกันกำจัดโควิดให้หมดก่อน แล้วเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้วจึงเริ่มกลับมาจัดแสดงสินค้าต่อไป

ตอนนี้ทีเส็บวางแผน 2 ไว้แล้วโดยได้หารือร่วมกับศูนย์ประชุมของไทยขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น ศูนย์ประชุมอิมแพค เมืองทองธานี (กรุงเทพฯ) ภาคใต้ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลา (หาดใหญ่) ศูภาคเหนือที่นย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งแต่ละแห่งได้ปรับพื้นที่เป็นโรงพยาบาลสนามช่วยผู้ป่วยโควิด-19 ดังนั้นจึงต้องขอเอาใจช่วยแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ รักษาผู้ป่วยหายโดยเร็ว เพื่อจะได้นำศูนย์ประชุมแต่ละพื้นที่กลับมาเตรียมความพร้อมจัดงานต่าง ๆ ตามปกติ

 

ปัจจุบันทีเส็บได้ลงนามข้อตกลงกับผู้จัดงานไมซ์ในประเทศ โดยขอให้ยังคงจัดงานเพียงแต่เลื่อนระยะเวลาออกไป เพื่อกลับมาจัดใหม่โดยรอสถานการณ์ที่เหมาะสมในเร็ววันนี้

            สุดท้ายในฐานะผู้นำทีเส็บอยากจะให้กำลังใจผู้ประกอบการ และภาคอุตสาหกรรมไมซ์ทุกคน เนื่องจากทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบความลำบากจากโควิด-19 สาหัสพอสมควร แต่พอมี “วัคซีน” เข้ามาแล้ว ก็ทำให้เห็นโอกาสที่จะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน ทางทีเส็บมุ่งมั่นทำงานเคียงคู่กับทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ประการสำคัญต้องเป็นกำลังใจให้กันและกัน และร่วมมือกัน นำความสำเร็จของอุตสาหกรรมไมซ์กลับคืนมาให้ได้

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง


ข่าวที่
1
“คิง เพาเวอร์ ศรีวารี”ชวนช้อปเสาร์-อาทิตย์แจกคูปองส่วนลด8พัน

คิง เพาเวอร์ ศรีวารี ชวนช้อปมันส์วันหยุดวีกเอนด์ กับ “King Power Shop & Hop Weekend Market ไม่มีไฟลต์บิน ก็ช้อปมันส์ กินฟิน เช็กอินได้” ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 11.00 – 19.30 น. ตลอดเดือนมิถุนายนนี้

พบสินค้าแบรนด์เนมและสินค้าไทย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในราคาสุดคุ้ม พร้อมเสิร์ฟความสุขทุกจานด้วยโปรโมชั่นช้อปอิ่มฟรี ที่ทำให้วันหยุดนี้ทั้งอิ่มทั้งคุ้ม

           เริ่มกันที่ความคุ้มค่าภายในงานนี้ คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการช้อปมันส์กับขบวนสินค้าในราคาสุดคุ้ม 

        เพียงแค่ลงทะเบียนก็รับฟรี! คูปองส่วนลด 4 ใบ ทันที มูลค่ารวมกว่า 8,000 บาท

-คูปองใบที่ 1 ช้อป 4,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ ลดทันที 2,000 บาท เฉพาะสินค้าพิเศษที่ร่วมรายการในแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอาง

-คูปองใบที่ 2 เเละ 3 ช้อป 6,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ ลดทันที 2,000 บาท เฉพาะสินค้าพิเศษที่ร่วมรายการ และสินค้าราคาปกติในแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอาง

-คูปองใบที่ 4 ช้อป 11,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ ลดทันที 4,000 บาท เฉพาะสินค้าในแผนกที่ร่วมรายการ ยกเว้นแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอาง แผนกอิเล็กทรอนิกส์และแผนกสุรา บุหรี่

                มีนัดไปเจอกันที่ “คิง เพาเวอร์ ศรีวารี” ทุกสัปดาห์ ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตลอดมิถุนายน 2564


ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์จัดโปรเด็ด“SHOP IN THE RAIN”ลด50%ถึง17มิ.ย.นี้

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดแคมเปญ “SHOP IN THE RAIN ช้อปชุ่มฉ่ำ แจกโค้ดกระหน่ำ รับหน้าฝน ระหว่างวันนี้ – 17 มิ.ย. 64 ลดสูงสุด 50% ส่งฟรี! ทั่วประเทศ เมื่อช้อปครบ 699 บาท เลือกช้อปด่วนตอนนี้กับแบรนด์ดัง ราคาพิเศษ แค่ใส่โค้ดส่วนลดสุดคุ้ม สินค้า สกินแคร์ เครื่องสำอาง น้ำหอม แฟชั่น แว่นตา นาฬิกา อิเล็กทรอนิกส์ และอีกมากมาย

รับส่วนลดสูงสุด 50% เมื่อช้อปครบ 3,000 บาท ลดเพิ่มทันที 5% หรือช้อปครบ 5,000 บาท แล้วใส่รหัสส่วนลด RAIN5  

สามารถแบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 600 บาท รับฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง พร้อมรับเลย! ส่วนลด 200 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ > http://bit.ly/2S4uJyi  และรับสิทธิ์สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท(สุทธิ) > https://bit.ly/2H3hwDb


ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์แจกดีลดีMake My Daysมิ.ย.นี้รับกิฟท์การ์ดเพิ่ม8พันบาท

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มี ดีลดี ๆ มาให้ช้อปได้ทุกวัน ตลอดมิถุนายน 2564 กับแคมเปญ “Make My Days” ได้จากร้านสาขาในเมืองทั้ง 5 แห่ง ได้แก่  1.คิง เพาเวอร์ รางน้ำ 2.มหานคร 3.ศรีวารีทุกวันเสาร์-อาทิตย์ 4.พัทยา และ 5.ภูเก็ต ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ  รับ Gift Card ช้อปเพิ่มอีก 8,000 บาท เพียงซื้อ Cash Card 50,000 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มที่  http://bit.ly/3ubgfNW

สามารถมาเดินเลือกช้อปแบรนด์ที่ชอบสินค้าที่ใช่ได้ทุกสาขา ทั้งเครื่องสำอาง น้ำหอม เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และสินค้าแฟชั่นอีกมากมาย เพื่อให้ทุกวันเป็นวันของคุณ

พร้อมทั้งปลดล็อกความกังวลให้นักช้อปทุกคนด้วยโปรโมชั่นผ่อน 0% x 10 เดือน จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ที่ คิง เพาเวอร์  ส่วนเงื่อนไขก็เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

 


ข่าวที่ 4 ททท.ชูแพลตฟอร์มEmpoweringTecช่วยธุรกิจ3เรื่องหลักเปิด18มิ.ย.นี้

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 มิถุนายน 2564 ททท.พร้อมเปิดตัวโครงการ “พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยยุคดิจิทัล : Empowering Tech Tourism” ซึ่งได้รวบรวมนวัตกรรมของผู้ผลิตพร้อมใช้งานมาให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวนำไปใช้เพิ่มศักยภาพธุรกิจ โดยจัดทำศูนย์กลางบนเเพล็ตฟอร์มให้ใช้งานภายใต้ชื่อ www.empoweringtechtourism.com

ประกอบด้วย 3 เรื่อง คือ 1.การบริหารต้นทุนธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ (Cost Efficiency) 2.การปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ (Process Optimization) 3.การพัฒนาบุคลากรด้วยเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพสูงสุด (Human Development) เพื่อช่วยฟื้นฟู ส่งเสริม สร้างโอกาสให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย

ทั้งนี้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานวันที่ 18 มิถุนายน นี้ เวลา 13.30 – 15.30 น. พร้อมทั้งจะมีไลฟ์สดจากโรงแรมแลงเคสเตอร์ กรุงเทพฯ เพื่อให้ผู้สนใจเข้าชมได้ทาง facebook หรือ Youtube : empoweringtechtourism

รวมทั้งร่วมฟังเสวนาหัวข้อ “ฟื้นฟู ส่งเสริม สร้างโอกาส อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน” โดยมีผู้บริหาร ททท.และตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน นำเสนอรายละเอียดรอบด้าน ประกอบด้วย ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ดร.ชินาวุธ ชินะประยูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ผู้บริหารจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) หรือตัวแทน และ ดร.ชาญวิทย์ ตรีเดช ผู้จัดการกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund)

            ตลอดงานเตรียมจัดให้มีกิจกรรมนวัตกรรมไทยพบผู้ประกอบการท่องเที่ยว 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต ได้ให้เข้าถึงผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งมีกิจกรรมหลัก ๆ เช่น การออกบูธจัดแสดงนวัตกรรมเพื่อผู้ประกอบการ การสัมมนาจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ คลีนิกให้คำปรึกษาเพื่อผู้ประกอบการ และการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching)  ติดตามโครงการได้ที่ www.empoweringtechtourism.com และ www.facebook.com/empoweringtechtourism


ข่าวที่ 5 “รมว.พิพัฒน์”นำททท.-เอกชนทวงคืนรายได้ท่องเที่ยว2.2แสนล้านปี’65

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเวทีปาฐกถาพิเศษผ่านออนไลน์ Zoom หัวข้อ “การยกระดับแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัย : Safety Zone เที่ยวปลอดภัย ห่างไกล โควิด-19” เมื่อวันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 เวลา 9.00-12.00 น.ยืนยันนโยบายใส่เกียร์เดินหน้าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ 2 ปีนี้ ระหว่างกรกฎาคม-ธันวาคม 2564 และปี 2565 

ปี 2564 จะใช้โครงการ “ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์” เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่ภูเก็ตตามนโยบายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์อาชา เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564  ตั้งเป้าหลังภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ ประสบความสำเร็จ ช่วงกรกฎาคม-ธันวาคม 2564 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 3-4 ล้านคน และมีนักท่องเที่ยวในประเทศ 100 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้รวม 800,000 ล้านบาท แล้วถ้าปีนี้สามารถส่งลูกได้ดีทำให้ท่องเที่ยวมีรายรับเป็นฐานที่ดีแล้ว ปี 2565 ก็มีโอกาสเติบโต เพราะตอนนี้การกระจายวัคซีนฉีดป้องกันโควิด-19 ตามประกาศของนายกรัฐมนตรีภายใน 31 ธันวาคม นี้ คนในประเทศจะได้รับการฉีด 70-80 % โดยรัฐบาลจะสามารถหาวัคซีนมาได้ 100 ล้านโด๊ส ต่อเนื่องถึงปีหน้าจะได้วัคซีนรวมถึง 150 ล้านโด๊ส

ปี 2565 รมว.พิพัฒน์ ย้ำว่าจะพุ่งเป้าเพิ่มความเข้มข้นด้วยนโยบาย “ท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal ครอบคลุม 4 ด้าน : สะอาด สะดวก ปลอดภัย รักษ์สิ่งแวดล้อม”  ตั้งเป้ากระตุ้นท่องเที่ยว รวม 2.2 ล้านล้านบาท จาก “ตลาดในประเทศ” 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 7 แสนล้านบาท และ “ตลาดต่างประเทศ” มาไทยให้ได้ถึง 20 ล้านคน รายได้รวม 1.5 แสนล้านบาท โดยจะขอให้ ททท.ทั่วโลก 29 สำนักงาน ช่วยกันโปรโมตให้นักท่องเที่ยวดึงรายได้กลับมาได้ถึง 70 %  

โดยย้ำให้ทุกภาคส่วนเข้าใจถึงตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียง “เป้าหมาย” ตามนโยบาย New Normal ซึ่งเกิดจากท่องเที่ยวทั้งอุตสาหกรรมจะต้องปรับราคาขึ้นตามความเป็นจริง ตัวอย่าง “เกาะมัลดีฟ” เปิดรับต่างชาติท่องเที่ยวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ช่วงแรกมีนักท่องเที่ยวเข้าไปแค่หลัก 1,000 คน จากนั้นเพียงเดือนเดียวเพิ่มขึ้นถึง 100,000 คน ทางโรงแรม ร้านอาหาร และอื่น ๆ ปรับขึ้นราคาใหม่ทั้งหมด เนื่องจากปัจจัยที่จะต้องบริหารจัดการความยากลำบากจากโควิดนั่นเอง

ขณะที่ “ประเทศไทย” ตอนนี้ยัง “แข่งขันกันลดราคา” เมื่อถึงโอกาสต้องฟื้นฟูก็ขอให้ภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องทำ ภายใต้เงื่อนไขวิถีใหม่ นั่นคือ “เร่งพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการให้ดีขึ้น” แตกต่างไปจากเดิม

ล่าสุดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากอเมริกาเริ่มวันที่ 9 กรกฎาคม 2564แล้วก็จะทยอยมาเรื่อย ๆ จากนั้นปลายเดือนกรกฎาคมนี้จะมี “ทหารเรือจากอังกฤษ” ที่พักการซ้อมรบ เข้ามาอีก 400-500 คน พักภูเก็ตประมาณ 1 สัปดาห์ สำหรับตลาดภาพรวมจากอเมริกา สหภาพยุโรป ยกเว้นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงยังไม่รับเข้าภูเก็ต ทั้งจากเอเชียใต้ แอฟริกา เพราะต้องช่วยกันประคองและหาวิธีทำให้ ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ ปลอดภัย เพราะนายกรัฐมนตรีย้ำหนักแน่นรัฐกระจายวัคซีนครบตามจำนวนที่จะใช้ฉีดคนในพื้นที่ตามเป้าหมาย

ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ จะเป็นโมเดลเปิดทางให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวปลายปีนี้ ต่อเนื่องปี 2565-2566 ซึ่งจะเป็นช่วงฟื้นฟูทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศกลับมามีมูลค่าใกล้เคียงกับปี 2562 เพราะหลายประเทศยังไม่ยอมเปิดให้ประชาชนของตนเองออกไปเที่ยวต่างประเทศ เกรงจะไปนำเชื้อโควิดจากที่อื่นเข้ามาแพร่ในประเทศนั่นเอง

รมว.พิพัฒน์ กล่าวว่าการทำนโยบายท่องเที่ยวแบบ New Normal ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2565 ประกอบด้วย

1.มุ่งเน้นเพิ่มความปลอดภัยด้านสุขอนามัย 1.อาหารต้องสะอาด 2.บริการดูแลเป็นอย่างดี และ 3.ความเป็นธรรมไม่เอาเปรียบหรือหลอกขายทัวร์ รวมทั้ง 4.รับผิดชอบต่อสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่ง

“ผมได้กำชับสำนักงานตำรวจท่องเที่ยว จะต้องติดตั้ง CCTV ปูพรมเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด ตามเมืองในแหล่งท่องเที่ยวหลักที่ได้รับความนิยมจากต่างชาติ เปรียบเทียบกับต่างประเทศตำรวจจะมีกล้องติดอยู่อกเสื้อเกือบทุกคน เพื่อนถ่ายภาพแล้วนำมาเป็นหลักฐาน กำลังขออนุมัติงบประมาณจากนายกรัฐมนตรี เป็นอีกแนวทางในการพัฒนาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว”

2.จัดอบรมสัมมนา เพิ่มศักยภาพบุคลากร ควบคู่กับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เพื่อกระจายรายได้ท่องเที่ยวท้องถิ่น ตามนโยบายของผู้นำประเทศ ตอนนี้ทางกรมการท่องเที่ยว และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) พร้อม ๆ กับการเติมเต็มด้านการสื่อสารระหว่างมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่จะถ่ายทอดเนื้อหาคุณค่าขอสถานที่ท่องเที่ยวไปยังนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติ

3.ส่งเสริมสินค้าท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทางกรมการท่องเที่ยว มีแนวคิดจะให้บริษัทนำเที่ยวเปิดเส้นทางขายท่องเที่ยวกัญชง-กัญชา ทางการแพทย์ ตัวอย่าง เส้นทางท่องเที่ยวแหล่งปลูก และโรงพยาบาลที่นำมาแปรรูปเป็นสมุนไพรทั้งที่อภัยภูเบศร์ เชื่อมโยงกับเข้าการท่องเที่ยว “โฮมสเตย์” จัดโปรแกรมแต่ละคอร์ส สร้างการรับรู้คุณค่าของสมุนไพรไทยสามารถนำมาใช้ด้านสุขภาพได้

ทั้งนี้ “คนในพื้นที่ภูเก็ต” ปัจจุบันการนำวัคซีนป้องกันโควิด-19 ลงพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดภูเก็ต ตอนนี้คนอายุ 18 ปีขึ้นไป น่าจะได้ครบร้อยเปอร์เซนต์

ขณะที่ “ต่างชาติ” ที่จะเดินทางเข้าภูเก็ต จะต้อง 1.ฉีดให้ครบ 14 วัน และไม่เกิน 1 ปี 2.ต้นทางมาจากประเทศมีความเสี่ยงต่ำหรือปานกลาง 3. เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีเดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครอง เด็กอายุระหว่าง 6-18 ปีต้องสวอปหาเชื้อโควิดทันทีที่สนามบินภูเก็ต 4.นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องแสดงเอกสารการตรวจเชื้อหรือฉีดวัคซีนยี่ห้อที่กฎหมายรับรองหรือองค์กรอนามัยโลก (World Health Organization :WHO) ขึ้นทะเบียนแล้วเท่านั้น 5.ติดตั้งแอพลิเคชั่น 6.ต้องเข้าพักในโรงแรม/รีสอร์ตที่ได้ตราสัญลักษณ์ SHA เท่านั้น 7.เดินทางท่องเที่ยวอยู่ในภูเก็ตได้ 8.ต้องรายงานตัวการตรวจเชื้อโควิด 3 ครั้งด้วยกัน คือ วันแรก วันที่ 6 และวันที่ 12 โดยนับจากวันที่แต่ละคนเดินทางเข้ามายังภูเก็ต

รมว.พิพัฒน์กล่าวว่า รัฐบาลยังได้ประกาศให้ท่องเที่ยวเชื่อมโยงต่อจาก ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ ได้ในอีก 9 จังหวัด โดยแบ่งเป็น 2 กรณี คือ

กรณีที่ 1 ผลจากการเปิดภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ เดินหน้าเดือนแรกแล้วไม่มีแรงกระเพื่อมใด ๆ เลย กำลังเสนอที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบค.) อนุมัติ คือ จะจัดทำเส้นทาง Seal Route ช่วงกรกฎาคม-กันยายน 2564 จะทำเฉพาะบางพื้นที่ให้ท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยง 14 วัน อยู่ภูเก็ตครบ 7 วัน หากสัปดาห์ที่ 2 ต้องการไปเที่ยวสมุย (สุราษฎร์ธานี) ก็สามารถไปเที่ยวได้ โดยโซนนิ่งเฉพาะบางพื้นที่ ในสมัยกับพะงัน หรือ กระบี่ มีแค่ เกาะพีพี เกาะไร่เร หรือพังงามีแค่เขาหลักแห่งเดียว

กรณีที่ 2 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ก็จะเพิ่มพื้นที่โดยไม่กักตัว 14 วัน เปิดให้ครบ 10 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งบุรีรัมย์ ซึ่งกำลังเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน “โมโตจีพี 2021” เดือนตุลาคมนี้ เนื่องจากเมื่อปี 2561-2562 บุรีรัมย์เป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวประสบความสำเร็จ มีทั่วโลกชมการแข่งขันผ่านช่องทางต่าง ๆ กว่า 900 ล้านคน โดยได้รับการโหวต 2 ปีซ้อนให้เป็นสถานที่จัดแข่งขันที่ดีที่สุดในโลกจากแต่ละปีจะจัดเวียนทั่วโลกทั้งหมด 20 สนาม มีความพร้อมสูงสุดบริหารจัดการแข่งขันดีที่สุดในโลกเป็นหน้าตาของประเทศ เป็นงานระดับโลกที่เกิดขึ้นในยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ 1-2


ข่าวที่ 6 TCEB”ปลื้มหนุนจัดไลออนสากลสำเร็จส่งต่อโมเดลโคราชสู่เชียงใหม่

นางยุพวรรณ์ สิทธิคงศักดิ์ ผู้ว่าการไลออนส์สากลภาค 310 อี ปีบริหาร 2563-2564 เปิดเผยว่าความสำเร็จในการจัดประชุมใหญ่ไลออนส์สากลภาครวม 310 ประเทศไทย ครั้งที่ 55 จังหวัดนครราชสีมา เมื่อ 7-9 พฤษภาคม  2564 มีสมาชิกไลออนส์เข้าร่วมงาน 2,250 คน ถือเป็นครั้งแรกและประวัติศาสตร์การประชุมใหญ่ที่จัดแบบ New Normal โดยมีสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” กับจังหวัดนครราชสีมา สนับสนุนพร้อมทั้งได้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามมาตรการของ ศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.)  ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด สมาชิกไลออนส์

การจัดงานดังกล่าวตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของ “นครราชสีมา” ซึ่งทีเส็บประกาศให้เป็นไมซ์ ซิตี้ หรือ 1 เมืองไมซ์แถวหน้าของเมืองไทย ส่วนผู้เข้าร่วมก็มีประสบการณ์และเรียนรู้ร่วมกัน พร้อมจะส่งต่อรูปแบบการจัดประชุมภายใต้วิถีใหม่ การมีส่วนร่วม และการบริหารจัดการ ให้เจ้าภาพการจัดประชุมใหญ่ไลออนส์สกล ครั้งที่ 56 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ต่อไป

ส่วนการจัดงานประชุมใหญ่ไลออนส์สากลภาครวม 310 ที่นครราชสีมา ปีนี้นำรูปแบบไฮบริด อีเวนต์ (Hybrid event) เข้ามาใช้ โดยยึดแนวทางปฏิบัติการจัดงานไมซ์ที่ถูกสุขอนามัยตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่ทางราชการกำหนด สามารถจัดกิจกรรมไมซ์ได้อย่างปลอดภัย ปลอดโรค แบ่งผู้เข้าร่วมงานเป็น 2 แบบ คือ

1.ผ่านระบบออนไลน์ 2,318 คน และ 2.เข้าร่วมงานจริง 474 คน ตลอดการจัดงาน 3 ได้บริหารจัดการโดยกระจายสถานที่พักในโรงแรม 3 แห่ง พร้อมกับสลับเวลาจัดงานในพื้นที่จัดงานตลอด เพื่อปฏัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา(ขณะจัดงาน) กล่าวว่า การจัดงานประชุมใหญ่ไลออนส์สากล ภาครวม 310 ประเทศไทย ครั้งที่ 55 ได้พิสูจน์ให้เห็นศักยภาพความพร้อมของเมืองโคราชพร้อมรองรับการจัดประชุมไมซ์เต็มรูปแบบครบวงจร คือ 1.สถานที่จัดประชุมสัมมนาหรือนิทรรศการขนาดใหญ่ กระจายอยู่หลายแห่ง 2.สถานที่พัก 3.สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นศูนย์กลางการคมนาคมแห่งภาคอีสาน 4.มีวัฒนธรรมที่มีอัตลักษณ์ 5.มีสถานที่ท่องเที่ยวระดับชาติ  6.มีบุคลากรในจังหวัดพร้อมจะให้บริการด้วยอัธยาศัยไมตรีอันดี

การจัดงานประชุมใหญ่ไลออนส์สากล ภาครวม 310 ประเทศไทย ครั้งที่ 55 ทุกภาคส่วนได้ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 และความร่วมมือกันทำให้งานเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อนครราชสีมา  และกระตุ้นทางเศรษฐกิจในพื้นที่เป็นอย่างดี จึงขอขอบคุณผู้มีส่วนร่วมทุกภาคส่วนในการจัดกิจกรรมครั้งนี้

 นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บสนับสนุนการจัดประชุมใหญ่ไลออนส์รูปแบบไฮบริด (Hybrid Event) คือแบบออนไลน์ผสมผสานกับการจัดงานแบบปกติ ผลลัพธ์นอกจากไลออนส์จะบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว ยังสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนในนครราชสีมารวมกว่า 15.7 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้ตรง 9 ล้านบาท และรายได้ต่อเนื่องอื่น ๆ อีก 6.7 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายเงินสู่ภูมิภาคไปยังภาคธุรกิจ โรงแรม ร้านค้า และสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่จัดงาน ตามนโยบายโครงการ “เปิดเมืองปลอดภัย จัดงานไมซ์มั่นใจ ด้วยมาตรฐาน”

ส่วนกลยุทธ์การจัดงานแบบไฮบริดอีเวนต์ครั้งนี้ ทุกฝ่ายร่วมมือกันสร้างโมเดลต้นแบบการประชุมวิถีใหม่ให้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี คือ

1.เลือกใช้สถานที่จัดงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (Thailand MICE Venue Standard – TMVS)

2.จัดงานที่สอดคล้องตามแนวปฏิบัติเบื้องต้นด้านการจัดงานอย่างยั่งยืนของทีเส็บ (Sustainable Events Basic Guidelines) อาทิ การลงทะเบียนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ควบคุมอุณหภูมิในห้องจัดงานทั้งหมดให้ไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส งดการใช้โฟมและดอกไม้สด ไม่ใช้ขวดหรือหลอดพลาสติก ครอบคลุมถึงการเลือกอาหารและเครื่องดื่มออร์แกนิกและของที่ระลึกต้องผลิตโดยชุมชนในพื้นที่ เพื่อให้ประโยชน์แก่ท้องถิ่นมากที่สุด

อีกทั้งทีเส็บได้นำเทคโนโลยีออนไลน์ไลฟ์สตรีมมิง (Live Streaming) มาใช้ผสมผสานร่วมจัดการประชุมแบบปกติ โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบจัดห้องประชุมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีเปิดงานไม่เกิน 40 คน ภายในพื้นที่ห้องจัดงาน 400 ตารางเมตร สามารถเว้นระยะห่างจากเวทีได้เกิน 10 เมตร จัดให้มีเจ้าหน้าที่ อสม. และอาสาสมัคร เข้ามาดูแลคัดกรองผู้เข้าร่วมงานที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นทั่วประเทศ

การประชุมไลออนส์สากล นครราชสีมา จึงถือเป็นโมเดลที่ทีเส็บและหน่วยงานเกี่ยวข้องสามารถบริหารจัดการ ให้นำไปประยุกต์ใช้จัดการประชุมที่ต้องการให้มีสมาชิกจำนวนมากได้มีส่วนร่วมในงานได้ทางออฟไลน์ ออนไลน์ ด้วยเครื่องมือทางเทคโนโลยี มาลดอุปสรรคเรื่องข้อจำกัดเกี่ยวกับต้องปฏิบัติอย่าเคร่งครัดเพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

                ช่วงที่ 2 คิดถึงบรรยากาศอาทิตย์อัสดงที่ “สังขละบุรี” เมืองกาญจน์ รออีกไม่นานจะได้ไปเยือนวิถีใหม่ “ชุมชนมอญ” เดินทอดน่องบนสะพานชมแม่น้ำซองกาเรีย ไหว้พระธาตุวัดวังค์วิเวการาม ชมวัดใต้น้ำอันซีนไทยแลนด์ ทางด้าน “กรมควบคุมโรค” ชี้เป้า กินอยู่เป็นวิถีใหม่ “10 แหล่งอาหารดูแลปอดยุคโควิด” ต่อด้วยข่าวฮ็อต ๆ “แบงก์ออมสิน” ยอมปล่อยกู้ SME ท่องเที่ยวโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำอีกแล้ว ได้รายละ 5 แสนบาท ขณะที่ “ท่องเที่ยว 5 สมาคม” กอดคอเข้าพบรัฐมนตรีท่องเที่ยว ช่วยบอกรัฐบาลตั้งกองทุนหมื่นล้านพยุงธุรกิจ ฝ่ายสมาคมโรงแรมไทยยันถ้าไม่ช่วยอีก 3 เดือนเจ๊งแน่


จัดคิวเที่ยวสังขละบุรีให้หายคิดถึงสะพานมอญสายน้ำซองกาเรีย

นับวันรอไปนั่งชีลท่ามกลางบรรยากาศวิถีใหม่ “สังขละบุรี” เมืองกาญจบุรี คิดถึงตอน ตะวันย่ำอัสดง หมอกลงอรุณฟ้า เดินสะพานมอญค้ำ งามล้ำโบสถ์บาดาล ฟังเรื่องเล่าดี ๆ ได้กินของอร่อยจากชาวบ้าน และใส่บาตรยามเช้ากลางสายหมอก


ภาพจำที่ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) นำเสนอให้เห็นถึงภาพชุมชนที่มีเรื่องราวความหลากหลายทางชาติพันธุ์ โดยเฉพาะวัฒนธรรมเก่าแก่สะท้อนผ่าน “วิถีชีวิตชาวมอญ” เจ้าถิ่นที่รักษากิจวัตร ประเพณี และความเชื่อ ไว้ได้อย่างแข็งแรง รวมทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต เมื่อถึงเวลาโควิดจางหาย ต้องแวะไปเช็คอินกันอีกสักครั้ง

ไฮไลต์ตรง “สะพานมอญ” หรือ “สะพานอุตตมานุสรณ์” ​ที่ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี ชาวบ้านร่วมใจกันสร้างสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเรียไปยังหมู่บ้านมอญ ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในเมียนมา เป็นสะพานแห่งความศรัทธาและสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี


ตามมาด้วย “พระเจดีย์พุทธคยา” เป็นเจดีย์องค์ใหญ่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ตั้งตระหง่านอยู่ที่อยู่คู่กับวัดวังก์วิเวการาม บนเนินเขาใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ มีสีเหลืองทอง มองเห็นแม่น้ำซองกาเรีย ผู้คนนิยมมากราบสักการะ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางประกอบพิธีในวันสำคัญทางพุทธศาสนาและงานเทศกาล ไฮไลต์คืองานวันสงกรานต์ นักท่องเที่ยวจะปักหมุดมาเช็คอินกันเป็นจำนวนมาก

ปิดท้ายที่ วัดใต้น้ำ” หรือ “วัดวังก์วิเวการามเดิม” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ มีซากโบราณสถานจมอยู่ใต้เมืองบาดาล แนะนำว่านักท่องเที่ยวควรมาชมช่วงหน้าร้อนถึงต้นฤดูฝน เดือนมีนาคม – มิถุนายน ของทุกช่วงหน้าแล้งน้ำจะลดลงมาก เดินเข้าไปเยี่ยมชมโบสถ์เก่าได้

เมืองไทย มองไปทางไหน ก็น่าเที่ยว ขึ้นบัญชี “สังขละบุรี”  แล้วทำปฏิทินไว้ได้เลย เพราะยุคนี้ สามารถเที่ยวไป ทำงานไป ได้แล้ว มีโอกาสนัดมาพบกันตรงสะพานมอญแห่งสายน้ำซองกาเรีย กำลังรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ทุกวัน

 

10แหล่งอาหารช่วยบำรุงปอดเลือกกินวิถีใหม่อย่างปลอดภัย


นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย แนะนำให้คนไทยหันมาดูแลสุขภาพในยุคโควิด-19 ต้องกินอยู่เป็น “10 แหล่งอาหารหาง่ายช่วยบำรุงปอด” ได้แก่ ขิง พริกหวาน แอปเปิ้ล ฟักทอง ขมิ้นชัน มะเขือเทศ ธัญพืช น้ำมันมะกอก หอยนางรม และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ กินเป็นประจำช่วยบำรุงปอด

 

ข้อมูลวิชาการที่เผยแพร่ในวารสารต่างประเทศ พบว่าการปรับวิถีชีวิต เช่น การงดสูบบุหรี่ การออกกำลังกายรวมถึงการกินอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารสามารถช่วยปกป้องปอด และลดความเสียหายของปอดจากโรคหรือการติดเชื้อได้ โดยแหล่งอาหาร 10 ชนิดหาได้ง่าย และเมื่อกินเป็นประจำจะส่งผลดีต่อการทำงานของปอด ได้แก่

1. ขิง เป็นสมุนไพรที่ดีต่อระบบทางเดินอาหาร ช่วยต้านการอักเสบ

2. พริกหวาน เป็นแหล่งวิตามินซีที่ดี ช่วยต้านอนุมูลอิสระและทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้เป็นปกติ 

3. แอปเปิ้ล มีใยอาหาร วิตามินซีและมีสารต้านอนุมูลอิสระ

4. ฟักทอง มีสารอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพปอดหลายชนิด โดยเฉพาะแคโรทีนอยด์ เบต้าแคโรทีน ลูทีน และซีแซนทีน

5. ขมิ้นชัน มีสารเคอร์คูมินเป็นส่วนประกอบหลักการศึกษาวิจัยพบว่าการบริโภคเคอร์คูมินมีความสัมพันธ์กับการทำงานของปอดที่ดีขึ้น

6. มะเขือเทศ มีสารไลโคปีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ที่จะช่วยลดการอักเสบของทางเดินหายใจในผู้ที่เป็นโรคหอบหืดและช่วยเรื่องการทำงานของปอดในผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง    

7. ธัญพืชเต็มเมล็ด ที่ไม่ผ่านการขัดสีหรือขัดสีน้อย เช่น ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เลย์ ข้าวฟ่าง เป็นต้น เป็นอาหารที่มีเส้นใยสูงอุดมด้วยวิตามินอี ซีลีเนียมและกรดไขมันจำเป็น ซึ่งดีต่อสุขภาพปอด

8. น้ำมันมะกอก เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเพราะมีสารโพลีฟีนอลและวิตามินอีที่ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

9. หอยนางรม อุดมด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อสุขภาพปอด ได้แก่ สังกะสี ซีลีเนียม วิตามินบีและทองแดง

10. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เช่น สตรอว์เบอรี บลูเบอร์รี มีฟลาโวนอยด์ที่เรียกว่าแอนโธไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง เป็นต้น

การกินผักและผลไม้เป็นประจำให้ได้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม แบ่งเป็นผักสุก 3 มื้อ ๆ ละ 2 ทัพพี ผลไม้ตามฤดูกาลวันละ 3-5 ส่วน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคปอด เนื่องจากผักและผลไม้อุดมไปด้วยวิตามินและ แร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินดี สังกะสี ซิลิเนียม สารอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยสร้างภูมิต้านทานและเสริมการทำงานของเม็ดเลือดขาวให้สามารถกำจัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก แบงก์ออมสินยอมปล่อยกู้SMEท่องเที่ยว5แสน/รายไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำ

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ล่าสุดเปิด “โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ออมสินช่วยเหลือ เอสเอ็มอี ในภาคการท่องเที่ยว” ขยายฐานลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 นอกเหนือกจากโรงแรมแล้ว ยังจะพิจารณาให้กลุ่ม ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านจำหน่ายสินค้า ธุรกิจสปาและนวดแผนไทย ธุรกิจการเดินทางและขนส่ง  ซึ่งตอนนี้มีผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมจำนวนมาก กำลังขาดกระแสเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้พยุงธุรกิจให้รอดจากวิกฤติโควิดรอบ 3

ธนาคารออมสิน เตรียมให้สินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนดำเนินกิจการหรือเสริมสภาพคล่อง 1.วงเงินกู้สูงสุดรายละ 500,000 บาท 2.ระยะเวลากู้ 5 ปี 3.อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปี เท่ากับ 3.99% 4.ปีแรกปลอดเงินต้น 5.ผู้มีสิทธิ์กู้เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล 6.ใช้บุคคลเป็นหลักประกันการกู้ โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์และ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันก็ได้เช่นกัน

โดยธนาคารพร้อมจะผ่อนปรนเกณฑ์พิจารณาโดยดูรายได้ในอดีตของกิจการเป็นหลัก เพราะเข้าใจสภาพปัจจุบันกิจการต่าง ๆ ขาดรายได้เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดนั่นเอง

ข่าวที่สอง “ท่องเที่ยว5สมาคม”เข็นรัฐตั้งกองทุนหมื่นล้าน-โรงแรมไทยยันอีก3เดือนเจ๊ง

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ผู้นำท่องเที่ยว 5 สมาคมหลักได้เข้าหารือกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีทั้งสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรมไทย สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ สมาคมสปาไทย และ สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย ร่วมกันเสนอขอรัฐบาลประกาศมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูธุรกิจช่วยพยุงท่องเที่ยวพ้นวิกฤตโควิด-19 ให้ได้

โดยยังคงย้ำขอให้รัฐบาล 1.ตั้งกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยววงเงิน 1 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน 2.ประกาศใช้มาตรการรัฐช่วยจ่าย Co-Paymentค่าจ้างพนักงานเพื่อรักษาการจ้างและงานและสภาพคล่อง สมทบจ่าย 50 % หรือไม่เกินเดือนละ 7,500 บาท ให้ผู้ประกอบการจะต้องจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เสียภาษีและค่าธรรมเนียมถูกต้อง มีพนักงานอยู่ในระบบประกันสังคม และเป็นธุรกิจขาดทุนระยะยาว สูญเสียรายได้ปี 2563-2564 จากวิกฤตโควิด-19

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการโรงแรมหวังพึ่งพา “กองทุนกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยว วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท” เพื่อนำมาเป็นสายป่านการลงทุนหลังจากตลาดต่างประเทศหายไปปีเศษเพราะโควิด สถานภาพปัจจุบันเหลือเงินหมุนเวียนใช้ได้อีกเพียง 1 เดือนเท่านั้น หากยังไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลยอีก 3-6 เดือนข้างหน้า โรงแรมในเมืองไทยก็คงจะเจ๊งระเนระนาดอย่างแน่นอน

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง