ททท.ชูปฏิบัติการทำเกราะ3ชั้นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์-120วันเปิดประเทศ ย้ำรัฐ-เอกชนใช้4แผนรับมือ“ต่างชาติ-ไทย”-เราเที่ยวด้วยกันเฟส3ดีเดย์ส.ค.
ผู้นำททท.ชูปฏิบัติการทำเกราะ3ชั้นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์-120วันเปิดประเทศ
ย้ำรัฐ-เอกชนใช้4แผนรับมือ“ต่างชาติ-ไทย”-เราเที่ยวด้วยกันเฟส3ดีเดย์ส.ค.
ครม.เคลียร์ชัดคิงเพาเวอร์สัมปทานดอนเมือง10ปียกเลิกมติเดิม50ปีก่อน
คิงเพาเวอร์เปิดช้อปบิ๊กแคมเปญ“ONCE UPON A MONTH”ลดพิเศษ60%
พูลแมนคิงเพาเวอร์ชูFlashSaleที่เท็นโกะเสิร์ฟโอมากาเสะ1,500บ./10เมนู
ททท.ปลุกธุรกิจ400รายซ้อมใช้ “SHA BA”ระบบจองพักภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
ททท.โชว์โพลล์เอกชนท่องเที่ยวขอตัวช่วย7เรื่องด่วนสุดช่วยแชร์จ่ายค่าจ้าง
“TCEB”ลุยทำเทคพิชชิ่ง70นวัตกรรมMICE innovation Catalogพัฒนาไมซ์
ชวนเที่ยวหัวลำโพง105 ปี
สัมผัสความเลอค่าศิลปะ-สถาปัตย์-ประวัติศาสตร์
รีบหันกินด่วน “8 อาหารลดคอเลสเตอรอล”ทั้งรสชาติอร่อยแถมดีต่อสุขภาพ
อึ้ง!!นักท่องเที่ยวยุโรป5เมืองซื้อตั๋วบินไทยเข้าภูเก็ต1-31ก.ค.นี้แค่1,455ที่นั่ง
ธุรกิจเฮผู้ว่าฯภูเก็ตสั่งปลดล็อก10กิจกรรมรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ฟื้นเศรษฐกิจ
ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #ททท #PhuketSandbox
#การบินไทย
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://fb.watch/6moOp2UZCL/
ช่วงที่ 1 เกาะติดโค้งสุดท้าย กับ “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร”
ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินเครื่องรับต่างชาติชิมราง
“ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์” 1 ก.ค.64
ยัน
“ใส่เกราะต่างชาติ 3 ชั้น”
เตรียมใช้ 4
แผนรับมือเต็มพิกัด “คุมติดเชื้อไม่เกิน90คน/สัปดาห์-การระบาดต้องไม่เกิน3อำเภอ6ตำบล-จัดเตียงสแตนบายไว้80% -ลดเลิกยุติ” ทดลองทำ “2 มิติ” นำเข้าต่างชาติ 3 เดือน ก.ค.-ก.ย.64 รวม 100,000 คน ทำรายได้ 9พันล้าน “ชวนไทยเที่ยวภูเก็ต”
ปูพรมสร้างต้นแบบนำไปใช้เปิดประเทศอีก 120 วันข้างหน้า เหนียวแน่นสร้างความสำเร็จ 3 เรื่อง
“แผนกระจายวัคซีน-พัฒนาเมือง-ตลาดเชิงรุก” ส่วน 2 โครงการกระตุ้นไทยเที่ยวไทย
“เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3-ทัวร์เที่ยวไทย” รออีกอึดใจ จะเริ่มได้ต้นเดือน
ส.ค.นี้
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หัวใจสำคัญการเตรียมความพร้อมรับโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ที่จะเปิดพื้นที่นำร่องให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าภูเก็ตโดยไม่กักตัว 14 วัน เริ่ม 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ตามเป้าหมายและนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยทยอยนำเข้าต่างชาติ จัดพื้นที่นำร่อง และยอมรับความเสี่ยงได้ ไว้พร้อม 80-90 % แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดเตรียมมาตรการป้องกันนำนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกเข้ามาอย่างระมัดระวังเพื่อให้ปลอดภัยด้วยกันทุกฝ่าย โดยใส่เกราะผู้ที่จะเดินทางเข้ามาไว้ถึง 3 ชั้น
เกราะชั้นที่ 1 คัดเลือกนักเดินทางจากประเทศต้นทาง ตามเงื่อนไขต้องมีความเสี่ยงต่ำและเสี่ยงปานกลาง
โดยการทำงานร่วมกันระหว่าง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ
และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เกราะชั้นที่ 2 นักท่องเที่ยวแต่ละคนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีน ให้ครบทั้ง 2 เข็ม ก่อนเดินทางอย่างน้อย 14 วัน เพื่อรอให้ภูมิคุ้มกันก่อนเดินทางมาถึงประเทศไทย
เกราะชั้นที่ 3 นักท่องเที่ยวแต่ละคนจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด 72
ชั่วโมง ก่อนขึ้นเครื่องบินมาถึงเมืองไทย
เมื่อมาถึงประเทศไทยก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะมาตรการด้านสาธารณสุข D-M-H-T-T-A ตามกฎคือ จะต้องอยู่ภูเก็ตให้ครบ 14 วัน แต่จะต้องตรวจหาเชื้ออีก 2 รอบ ในวันที่ 6-7 และวันที่ 12-13 จึงจะเดินทางต่อไปยังพื้นที่ใหม่ที่กำหนดได้ หรือหากต้องการออกจากประเทสไทยก่อน 14 วันก็ได้
สำหรับคนที่อยู่ภูเก็ตครบ 14 วัน แล้วต้องการไปยังพื้นที่อื่น จะมีช่องทางเข้า-ออก อย่างเป็นระบบ “ทางอากาศ” เฉพาะที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต “ทางบก” เฉพาะท่าฉัตรไชย “ทางน้ำ” อ่าวปอ เพื่อควบคุมและป้องกันสัดส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนหมู่และบางส่วนไม่ได้รับวัคซีนให้สมดุล และเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ที่จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดภายในภูเก็ตได้
หรือแม้กระทั่งหากเกิดระบาดขึ้น
“ภูเก็ต” เตรียมแผนปฏิบัติการความพร้อมรับมือไว้แล้ว เป็นการจัดทำ “แผนเผชิญเหตุ”
ซึ่งซักซ้อมเป็นอย่างดี การแบ่งระดับความเข้มข้น แต่ละแผน “รับมือ-ชะลอ-ยกเลิก”
จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ตัวเลขที่ได้รับรายงาน โดยได้แบ่งตามกรณี 4 แผนปฎิบัติการ ดังนี้
1.“มีผู้ติดเชื้อรายใหม่”
เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ตมากกว่า 90 ราย
/สัปดาห์
2.ลักษณะ
“การกระจายของโรค” 3 อำเภอ มากกว่า 6 ตำบล เกิดการระบาดเกิน 3 คลัสเตอร์ หรือเป็นวงกว้าง
ต้องหาสาเหตุและความเชื่อมโยงให้ได้
3.ความพร้อมรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ”
โดยมีเตียงรองรับ 80 % ของจังหวัด
4 .หากพบเชื้อระบาดกลายพันธุ์แบบวงกว้าง สิ่งที่ภูเก็ตจะต้องดำเนินการอย่างเป็นขั้นตามลำดับ เริ่มตั้งแต่ ลดกิจกรรม-ควบคุมเส้นทางหรือ Sealed Route หรือการนำเข้าไปกักตัวในโรงแรมที่กำหนด Hotels Quarantine และสุดท้ายหากระบาดมากขึ้น ทางจังหวัดภูเก็ตจะต้องทบทวนยุติ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” หรือไม่ อย่างไร ?
ดร.ยุทธศักดิ์
กล่าวว่า ได้ให้นโยบายสำนักงาน ททท.ทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก
โดยแบ่งภารกิจตามโครงการ คือ โครงการที่ 1 “ภูเก็ต
แซนด์บ็อกซ์” จะต้องทำภายในพื้นที่นำร่องในภูเก็ตเท่านั้น ทดลองทำการท่องเที่ยวใน 2
มิติ
มิติที่ 1 นำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าภูเก็ต ตั้งเป้า ภายในเวลา 3 เดือน (กรกฎาคม-กันยายน 2564) จำนวน 100,000 คน รวมถึงการจัดทำแฟมทริป นำทีมตัวแทนบริษัทนำเที่ยว (Agents) กลุ่มผู้มีชื่อเสียง KOL : Key Operation Leader กลุ่มสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เข้ามาช่วงกรกฎาคมนี้ รวม 200 คน โดย ททท.ทำงานร่วมกับสายการบินนานาชาติ และสนามบินนานาชาติภูเก็ต เอเย่นต์ต่าง ๆ
จำนวนนักท่องเที่ยว
100,000 คน
ได้ผ่านการคัดสรรเป็น “กลุ่มคุณภาพ” จึงไม่ได้มองเรื่อง “จำนวน” แต่เน้น
“กลุ่มที่พร้อมใช้จ่ายเงินสูงได้” ซึ่งมีความต้องการจะเดินทางมาท่องเที่ยวจริง ๆ
ผนวกกับ “ภูเก็ต” ปรับปรุงพัฒนาทุกอย่างให้ดีขึ้นเพื่อเตรียมการไว้รอรับนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่มดังกล่าว
ตามคาดการณ์เมื่อเปิดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ แล้ว ช่วง 3 เดือนแรก ระหว่างกรกฎาคม-กันยายน 2564 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประมาณการจะรายได้ 9 พันล้านบาท จากนักท่องเที่ยว 100,000 คน โดยนักท่องเที่ยวจะต้องยึดถือหลักปฏิบัติตามมาตรการ ศบค. และการท่องเที่ยวแบบ New Normal อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งป้องกันตนเอง เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อโควิด-19 หรือการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นได้
มิติที่ 2 นำนักท่องเที่ยวในประเทศหรือคนไทยเข้าภูเก็ต ภายใต้มาตรการควบคุมโรค ตัวอย่าง
คนในประเทศที่จะเดินทางมายังภูเก็ต 1.จะต้องได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ
2 เข็ม
หรือแอสตราเซเนก้า 1 เข็ม 2.หากไม่ได้ฉีดวัคซีนก็ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดที่มีผลเป็นลบ
ดังนั้นจึงให้นโยบาย ททท.ทั้ง 45 แห่ง ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุผลความจำเป็นที่รัฐบาลประกาศเปิดประเทศ นำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติมายังภูเก็ต รวมทั้งการกระตุ้นเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่นำร่องอื่น ๆ รอบภูเก็ตด้วย
ส่วน “คนไทยที่เดินทางจากต่างประเทศมายังภูเก็ต” ก็ต้องใช้หลักการปฏิบัติแบบเดียวกัน 1.ต้องมาจากต้นทางในประเทศมีความเสี่ยงต่ำ/ปานกลาง 2.หากเป็นคนกรุงเทพฯ เดินทางไปต่างประเทศ แล้วเลือกใช้วิธี เดินทางกลับเข้ามาตามโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ก็ต้องมาจากประเทศเสี่ยงต่ำ/ปานกลาง เช่นกัน โดยสามารถอยู่ภูเก็ตได้ 14 วัน โดยไม่ต้องกักตัวในห้อง จึงจะสามารถเดินทางกลับกรุงเทพฯ ได้
ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า การวางแผนต่อเนื่องตามนโยบายรัฐบาลประกาศ “เปิดประเทศภายใน 120 วันข้างหน้า” เรื่องนี้ ททท.กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอโร้ดแมฟไปยังนายกรัฐมนตรี ขอเปิดประเทศโดยไม่กักตัวระยะแรก 14 วัน ซึ่งช่วงเริ่มต้นนั้น ฯพณฯ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอโร้ดแมฟมาตั้งแต่ต้นไว้ว่าหากสถานการณ์โควิดระบาดคลี่คลายลง จะขอเปิดพื้นที่ท่องเที่ยว 10 จังหวัดด้วยกัน ภายในไตรมาส 4 ก่อนเปิดประเทศไตรมาสที่ 1 ปี 2565
ทว่านายกรัฐมนตรีประกาศนโยบายเปิดประเทศก่อนภายใน 120 วันข้างหน้า สิ่งที่ ททท.กับทุกภาคส่วน จะต้องนำร่องทำให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปี 2564 ประกอบด้วย 1.จังหวัดภูเก็ต เริ่ม 1 กรกฎาคม นี้ ตามมาด้วย 2.สุราษฎร์ธานี 3 เกาะ คือ สมุย-พะงัน-เกาะเต่า เริ่ม 15 กรกฎาคม นี้ 3.พื้นที่ส่วนขยายหรือ Extension จากภูเก็ต เชื่อมโยงไปยัง “กระบี่” โดยเฉพาะ 3 เกาะ คือ พีพี-เกาะไหง-เกาะไร่เร และ “พังงา” อุทยานแห่งชาติเขาหลัก เกาะยาว จะเริ่มเดือนกันยายน นี้
สำหรับพื้นที่อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่ ชลบุรี (พัทยา/บางละมุง/สัตหีบ) บุรีรัมย์ เจ้าภาพจัดโมโตจีพี 2021 เดือนตุลาคมนี้ คาดจะทยอยเปิดตั้งแต่กันยายนนี้เป็นต้นไป
ส่วน “เครื่องมือการสื่อสาร” ที่ ททท.เลือกนำมาใช้ เพื่อสร้างความเข้าใจกับคนในแต่ละพื้นที่ที่จะต้องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่กักตัว 14 วัน ได้ทำมาตลอดโดยเน้น 3 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 ทำแผนการกระจายวัคซีน เพราะสิ่งสำคัญสุดรัฐบาลต้องสร้างความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ ดังนั้นจึงต้องระดมฉีดวัคซีนให้คนในพื้นที่อย่างน้อย 1 เข็ม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ รวมทั้งสร้างความเข้าใจ ความมั่นใจ และยอมรับเมื่อเปิด “จะมีความเสี่ยง” อย่างไร เพื่อเตรียมและปฏิบัติตามมาตรการที่จัดไว้
ส่วนที่ 2 การพัฒนาเมือง เพราะต้องการเห็นอย่างที่สุดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ตอบรับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ทุกคน
ส่วนที่ 3 แผนการตลาด โดย
ททท.จะต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ประกอบการในพื้นที่
เพื่อค้นหาความต้องการมาตอบโจทย์นักท่องเที่ยว
แนวโน้ม
“ความพร้อมของการเปิดพื้นที่แบบค่อยเป็นค่อยไป” จะยึดปฏิบัติตามนโยบาย นั่นคือ
“เลือกพื้นที่ซึ่งมีความพร้อมก่อนอันดับแรก ตามที่นายกรัฐมนตรีขอให้เปิดแหล่งท่องเที่ยวพื้นที่เกาะก่อน
ดังนั้น “ภาคใต้” กับ “ภาคตะวันออก” ตามมาด้วย ภาคเหนือ กับภาคอีสาน ต่อไป
แต่ผมคิดว่าท่านนายกรัฐมนตรีประกาศเปิดประเทศ
120 วันข้างหน้า
ก็จะมีบางพื้นที่นอกเหนือจากนี้เปิดได้เช่นกัน
เนื่องจากมียอดผู้ติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโควิดค่อนข้างน้อยมาก
เทียบสีตามเกณฑ์ของศูนย์บริหารความเสี่ยงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) มีพื้นที่ “สีขาว” หลายแห่ง โดยเริ่มจาก
“การเดินทางของตลาดในประเทศก่อน” หลังจากนั้นจึงเริ่มก้าวไปสู่การรับ
“นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่กักตัว 14วัน”
ดร.ยุทธศักดิ์
กล่าวว่า ระหว่างทยอยเปิดประเทศ ช่วงไตรมาส 3 ที่ยังคงมีการเปิดตลาดในประเทศผ่านอีก 2 โครงการ ซึ่งจะเริ่มสิงหาคม-กันยายน นี้ คือ
“เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” กับ
“ทัวร์เที่ยวไทย” ที่รัฐบาลสนับสนุนเงินท่องเที่ยวเพื่อช่วยผู้ประกอบการทั่วประเทศ
สามารถทำไปพร้อม ๆ กันได้ คล้ายกับแซนด์บ็อกซ์ นั่นคือ 1.เปิดประเทศโดยไม่กักตัวต่างชาติ 14 วัน 2.กระตุ้นการเดินทางในประเทศหลังโควิด-19
หรือหลังวิกฤตการระบาดระลอก 3
ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนัก
ประเมินจากอัตราการเข้าพักทั่วประเทศช่วงเดือนพฤษภาคม 2564 ลดลงเหลือแค่ 6.97 %
ดังนั้นถ้าพื้นที่ใดยังไม่สามารถเปิดรับ
“นักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัว 14
วันได้” ด้วยข้อจำกัดเรื่องการกระจายวัคซีนฉีดให้คนในพื้นที่ หรือ
ความพร้อมหรือไม่พร้อมของในพื้นที่เอง จึงต้องขอให้เปิดรับตลาดในประเทศไปก่อน
ฉนั้นสิ่งที่ “รอคอย” อยู่ขณะนี้นั่นคือ 1.สามารถควบคุมการระบาดได้ดี
2.คนไทยเองได้รับวัคซีนแล้ว
สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างมั่นใจเรื่องความปลอดภัย
การเดินหน้ากระตุ้นคนไทยเดินทางผ่านทั้ง 2 โครงการ
ททท.ก็พร้อมจะทำตามขั้นตอนทันที
ขณะที่การกลับมากระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศผ่านโครงการ
“เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” กับ
“ทัวร์เที่ยวไทย” น่าจะเริ่มได้ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม นี้ เริ่มจากขั้นตอน
เปิดรับลงทะเบียนนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ เข้าสู่ระบบดิจิทัล
ซึ่งมีรูปแบบการควบคุมใหม่ เพื่อป้องกันการโกงต่าง ๆ กระทั่ง
“นักท่องเที่ยวกลุ่มแรก” ที่จะออกเดินทางกับ 2 โครงการนี้ น่าจะเริ่มได้ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2564
เป็นต้นไป
สำหรับ
“ข้อควรระวัง” กับ ททท.สำนักงานในประเทศ และต่างประเทศทั่วโลก
และเจ้าของพื้นที่ทั้งหมด ที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี
มุ่งเน้นให้ความสำคัญที่สุดเรื่อง “ความมั่นใจความปลอดภัย” ของทุกคน กับ “ความพร้อม”
ของประชาชนในพื้นที่ เพราะการเปิดรับนักท่องเที่ยว
เปิดให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว ขอให้เป็น “ส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ”
ดังนั้น
“พื้นที่ที่เปิดก่อน” ก็ควรจะเป็น “ต้นแบบ” ของพื้นที่อื่น ๆ ได้ศึกษา “ข้อจำกัด”
หรือ เรื่องอื่น ๆ ที่สามารถดำเนินการได้ต่อไป
ให้ประสบความสำเร็จตามนโยบายของรัฐบาล
ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ประเด็นสำคัญมากคือ
“ต้องยอมรับเงื่อนไขความเสี่ยง” เพราะเราเองคงต้องอยู่กับโควิดไปอีกสักพัก
แต่จะอยู่โดยไม่ลงมือทำอะไรเลย ก็คงไม่ได้เช่นกัน เพราะปัญหาปากท้องความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนก็ต้องแก้ไข
จึงต้องดำเนินการควบคู่กันไปอย่างระมัดระวัง
ให้เกิดความมั่นใจสูงสุดว่าพี่น้องประชาชนมีความปลอดภัย
ขณะที่ “ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว” ททท.ต้องการให้กำลังใจทุกธุรกิจ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เฉพาะประเทศไทยแต่ได้รับผลกระทบกันทั่วโลก สิ่งที่ ททท.และฝ่ายต่าง ๆ พยายามทำไม่ใช่แค่ “ความหวังอย่างเดียว” แต่จะต้องพยายามความหวังกลายเป็น “ความสำเร็จ” กับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคเอกชน ที่จะต้องร่วมมือกัน ระหว่างทางอาจเจออุปสรรคบ้าง แต่ขอให้ยึด “เป้าหมายที่มั่นคงเดียวกัน” แล้วช่วยกันก้าวไปให้ถึง รวมพลังก้าวฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ด้วยกัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 มีมติพิจารณารายละเอียดที่กระทรวงคมนาคม รายงาน เรื่องสิทธิของ “กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์” ที่ชนะการประมูลได้รับสัมปทานประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรในสนามบินนานาชาติดอนเมืองอย่างถูกต้อง เป็นเวลา 10 ปี 6 เดือน พร้อมทั้งยกเลิกมติเดิมตั้งแต่ 50 ปีก่อน ครม.เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2516 เรื่องร้านค้าปลอดภาษี เคยอนุมัติให้ บริษัท การบินไทย จำกัด (ขณะนั้น) เป็นผู้ดำเนินการร้านค้าปลอดภาษี ณ ท่าอากาศยานกรุงเทพ หรือดอนเมือง
ล่าสุดทางกระทรวงคมนาคมจึงต้องนำเข้า ครม. เพื่อยกเลิกมติเดิม พร้อมรายงานผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเสนอแนะเมื่อ 21 กันยายน 2561 ให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. พิจารณาทบทวนมติ ครม.ดังกล่าว หากเห็นว่าไม่สอดคล้อง ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน หรืออาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนระหว่างรัฐและภาคประชาชนเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของ ทอท.กับบริษัท การบินไทย ให้เสนอเรื่องต่อสำนักเลขาธิการ ครม.เพื่อขอยกเลิกต่อไป
ส่วนการยกเลิกมติ ครม.ดังกล่าว สืบเนื่องจากปัจจุบันได้มีการตรา พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 เพื่อใช้บังคับแทน พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2562
ขณะที่การประมูลสัมปทานดังกล่าว ทอท.ประกาศเชิญชวนคัดเลือกผู้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อ 24 ตุลาคม - 8 พฤศจิกายน 2562 เพื่อหาผู้ประกอบกิจการรายใหม่ต่อจากผู้ประกอบการรายเดิม หรือ กลุ่มคิง เพาเวอร์ ตามสัญญาปัจจุบันจะสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565
ระหว่างเปิดยื่นซองมีผู้สนใจซื้อเอกสารเพียง 2 ราย แต่มีผู้มายื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว ได้แก่ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิประกอบกิจการดังกล่าวเป็นเวลา 10 ปี 6 เดือน ระหว่าง วันที่ 1 ตุลาคม 2565-31 มีนาคม 2576
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์เปิดช้อป“ONCE UPON A MONTH”7ลดพิเศษ60%
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดแคมเปญ “ONCE UPON A MONTH” #ขอสักครั้ง 7 วันพิเศษ ลด60 % ระหว่างวันนี้-30 มิถุนายน 2564
นักช้อปคลิกเข้ารับรหัสส่วนลดใช้ได้ที่
www.kingpower.com และ แอปพลิเคชัน KING
POWER เท่านั้น ตามกติกาดังนี้
เมื่อช้อปขั้นต่ำ
3,000 บาทขึ้นไป รับทันทีส่วนลดสูงสุด 60% สั่งซื้อสินค้าที่ร่วมรายการในแคมเปญนี้ แบ่งชำระ 0% ระหว่างวันนี้ - 31 ธันวาคม 2564 เมื่อช้อปครบ 15,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ แบ่งจ่ายนานสูงสุด 10 เดือน เมื่อช้อปครบ
10,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ
แบ่งจ่ายได้ถึง 6 เดือน
ข่าวที่ 3 พูลแมนคิงเพาเวอร์ชูFlash Saleที่เท็นโกะเสิร์ฟโอมากาเสะ1,500บาท/10เมนู
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) เปิดมหกรรม “FLASH SALE” ราคาพิเศษอีกครั้ง ตอบโจทย์ผู้ที่หลงรักเมนูอาหาร “โอมากาเสะ” ต้องห้ามพลาด !! ดีลสุดคุ้ม ที่ “ห้องอาหาร เท็นโกะ” เสิร์ฟโปรโมชั่นราคาพิเศษ สามารถซื้อคูปองโปรดังกล่าวได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2564 แล้วนำไปใช้ได้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม -31 ตุลาคม 2564
Flash Sale รอบนี้มีคอร์สมื้อกลางวัน ราคา 1,500 บาทสุทธิ 10 เมนู และคอร์สตามฤดูกาลมื้อค่ำ ราคา 3,500 บาทสุทธิ รวมชุดใหญ่ 16 เมนู ทางเชฟญี่ปุ่น “โกจิ โคบายาชิ” ของห้องอาหารเท็นโกะ Tenko Omakase Bangkok ซึ่งทุกเมนูรังสรรค์ความอร่อย แวะมาเติมความอร่อยแต่ละมื้อได้ห้องอาหารตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ของโรงแรม
คลิกซื้อคูปอง https://bit.ly/2SXxWTt สอบถามเพิ่มเติมโทร.
02-680-9999
ข่าวที่ 4 ททท.ปลุกธุรกิจ400รายซ้อมใช้ “SHA BA”ระบบรับจองพักภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
นางสาวนันทาศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต เปิดเผยว่า ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ จัดการบรรยายเรื่อง “แนวทางการดำเนินการ SHA Plus+ ภายใต้โครงการ Phuket Sandbox” เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 เพื่อเตรียมความพร้อมสถานประกอบการต้อนรับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าภูเก็ตจากต่างประเทศ 1 กรกฎาคม 2564 โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟังกว่า 400 คน ผ่าน 2 ช่องทาง คือ 1.ช่องทางออฟไลน์ ณ โรงแรมรามาด้า พลาซ่า เจ้าฟ้า 2.ช่องทางออนไลน์ Zoom Application
เพื่อสร้างความเข้าใจให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติตาม SHA Plus+ Manager ดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในสถานบริการของตน ตามโครงการ Phuket Sandbox ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ให้ได้รับความสะดวกและเป็นไปตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ตลอดระยะเวลา 14 วัน ก่อนจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่น ๆ ในประเทศไทยได้ หรือตลอดการพำนักแต่ไม่เกิน 14 วัน ก่อนจะเดินทางกลับไปยังประเทศต้นทางหรือประเทศต่อไปได้
สำหรับการใช้งาน “SHABA : SHA Plus Booking Authenticator” เป็นระบบจัดการและตรวจสอบเพื่อยืนยันการจองที่พักที่ได้รับมาตรฐาน SHA Plus+ ของผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศเข้าภูเก็ตตามโครงการ Phuket Sandbox เพื่อสร้างความเข้าใจในการออกเอกสาร SHABA Certificate ให้แก่ผู้เดินทางสามารถนำไปใช้ประกอบการขอ COE เข้าประเทศไทยได้ด้วย
ทั้งนี้มีผู้ทรงคุณวุฒิการกรมควบคุมโรค
ประกอบด้วย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
ผู้แทนจากสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ผู้ดูแลระบบ SHABA ร่วมบรรยายให้ความรู้การใช้งานระบบดังกล่าวให้เกิดประสิทธิภาพต่อไป
ข่าวที่ 6 ททท.โชว์โพลล์เอกชนท่องเที่ยวขอตัวช่วย7เรื่องด่วนสุดช่วยแชร์จ่ายค่าจ้าง
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ททท.ได้จัดทำแบบสอถามความประสงค์การฉีดวัคซีนโควิด-19
ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วประเทศ และสอบถามด้านอื่น ๆ
ได้ข้อสรุปว่า “สถานประกอบการต้องการได้รับการเยียวยาจากรัฐ” เร่งด่วน 7 เรื่องหลัก 7 อันดับ ดังนี้
เรื่องที่
1 มาตรการเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ
76.57 %
เรื่องที่
2 มาตรการช่วยเหลือแรงงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ
70.77 %
เรื่องที่
3 ยกเว้นค่าธรรมเนียมภาษีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยว
70.30 %
เรื่องที่
4 กองทุนฟื้นฟูผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและบริการ
65.63 %
เรื่องที่
5 กระตุ้นด้านอุปสงค์การท่องเที่ยวในประเทศ
65.28 %
เรื่องที่
6
สถาบันการเงินพักชำระหนี้เงินต้น
และดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการธุรกิจในภาคการท่องเที่ยว 57.05 %
เรื่องที่
7 กระตุ้นอุปสงค์การเดินทางของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
54.78 %
ความต้องการของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวไทยทั้งประเทศ ที่กำลังรอความหวังจากรัฐบาล ให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน นับจากนี้เป็นต้นไป
ข่าวที่ 7 “TCEB”ลุยเทคพิชชิ่ง70นวัตกรรมMICE innovation Catalogพัฒนาไมซ์
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีเส็บอยู่ระหว่างนำเสนอนวัตกรรม Tech Pitching ครั้งที่ 4 เพื่อคัดเลือกนวัตกรรมไมซ์ที่จะนำมาใช้เพิ่มศักยภาพทุกภาคส่วนใน MICE innovation Catalog ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรวบรวมผลงานทางเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์ไว้ให้ผู้ประกอบการได้เลือกนำไปใช้ประโยชน์กว่า 70 นวัตกรรม
การคัดเลือกครั้งนี้มีผลงานผ่านการพิจารณาเบื้องต้นแล้ว 5 นวัตกรรม โดยมีคณะกรรมการร่วมพิจารณา 3 คน ประกอบด้วย นายสมชาย ผู้แทนสมาคมการแสดงสินค้าไทย (TEA) นายศิวกร ผู้แทนสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และนายพีรชัย อัศดาชาตรีกุล ผู้จัดการอาวุโสสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
โดยมีนวัตกรรมสร้างสรรค์ที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เช่น อุปกรณ์ IoTs healthcare & tracking และอีกกว่า 70 นวัตกรรม ตั้งเป้านำมาใช้เป็นเครื่องมือเตรียมความพร้อมและช่วยยกระดับไมซ์ด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีท่ามกลางภาวะวิกฤตทำให้อุตสาหกรรมไมซ์ฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันทีเส็บและพันธมิตร ได้คัดเลือก 70 นวัตกรรม จาก 50 บริษัท ที่เหมาะนำไปใช้จัดงานต่าง ๆ เปิดให้โดยผู้จัดงานไมซ์เลือกใช้นวัตกรรมที่สนใจ และขอรับการสนับสนุนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผ่านช่องทาง Hero Technology Voucher ในเว็บไซต์ https://innocatalog.tceb.or.th
สำหรับ “MICE INNOVATION CATALOG” เป็นเสมือนตลาดกลางที่ทีเส็บจัดขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการนัดพบระหว่างผู้ให้บริการนวัตกรรมทางเทคโนโลยีกับผู้ประกอบการไมซ์ เข้ามาเลือกบริการให้ตรงกับความต้องการของแต่ละธุรกิจ ช่วยสร้างระบบนิเวศน์ (Ecosystem) นำไปพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ได้อย่างรวดเร็ว
โดยทีเส็บทำหน้าที่สนับสนุนเงินทุนเพื่อการจัดหานวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพหรือยกระดับการจัดงานไมซ์ มีช่องทางให้ภาคธุรกิจเจ้าของเทคโนโลยีที่มีผลิตภัณฑ์ดี ๆ สามารถเข้าถึงพร้อมขยายตลาดและสร้างรายได้จากการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ทันต่อการแข่งขันในระดับสากล นำพาไมซ์ของระเทศก้าวสู่ความสำเร็จในเวทีนานาชาติได้ด้วย
ช่วงที่ 2 การเดินทางในกรุงเทพฯ ก็เป็นส่วนหนึ่งในการเที่ยว “หัวลำโพง” 105 ปี ร่วมประสบการณ์สิ่งเลอค่าทางด้าน “ศิลปะ-สถาปัตยกรรม-ประวัติศาสตร์” ก่อนจะแปลงโฉมเป็นพิพิธภัณฑ์ปลายปีนี้ “รีบหันมากินด่วน8อาหารลดคอเรสเตอรอล” รสชาติอร่อยแถมดีต่อสุขภาพ พร้อมเกาะติดข่าวเอ็กซ์คลูซีฟ “อึ้ง!!บินไทยเปิดยุโรปบินภูเก็ต” 5 เมือง ลอนดอน ปารีส แฟรงเฟิร์ต ซูริก โคเปนเฮเก้น จองซื้อตั๋ว 1-31 ก.ค.64 แค่ 1,455 ที่นั่ง และ “10ธุรกิจเฮ” ผู้ว่าฯ สั่งปลดล็อกค้าขายได้ช่วงเปิดภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ เริ่ม 1 ก.ค.นี้ เป็นต้นไป
เที่ยวหัวลำโพง105 ปีสัมผัสสิ่งเลอค่าศิลปะ-สถาปัตย์-ประวัติศาสตร์
อีกไม่นาน “สถานีรถไฟหัวลำโพง” อยู่คู่กับประเทศไทยมาถึง 105 ปี ปลายปีนี้เตรียมจะแปลงโฉมเป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว จึงขอชวนย้อนวันวานกลับไปยังเหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2459พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงให้เริ่มสร้างและเปิดใช้งานนำความเจริญให้บังเกิดขึ้นกับกรุงเทพและสยามประเทศ
ทำให้ “สถานีรถไฟหัวลำโพง” เป็นศูนย์กลางการคมนาคมเชื่อมต่อการขนส่งระหว่างกรุงเทพฯ เข้ากับหัวเมืองต่าง ๆ ทั้งการเดินทางของผู้คนและขนส่งสินค้า ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เป็นต้นทางในการนำความเจริญออกไปทั่วประเทศไทยในทุกทิศ จากภาคกลาง สู่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้
เปิดขบวนรถไฟหลวงสายแรกมุ่งสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2439 จากนั้นก็ทยอยสร้างทางรถไฟสายต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ทำให้สถานีรถไฟกรุงเทพแห่งแรกตรงบริเวณหลังอาคารกรมรถไฟหลวง ไม่สามารถรองรับให้บริการของประชาชนได้เพียงพอ ตอนนั้น “กรมรถไฟหลวง” จึงต้องเริ่มสร้างสถานีรถไฟกรุงเทพทให้ทันสมัย สวยงาม ส่งผลมาถึงปัจจุบันถึงคุณค่านานัปการ ที่ชวนให้เหล่านักเดินทางหลงไหลเสน่ห์ของตัวอาคาร
“คุณค่าทางศิลปกรรม” การออกแบบที่มีเอกลักษณ์ โดยฝีมือช่างสุดประณีตงดงาม และไม่สามารถที่จะสร้างทดแทนหรือหาใหม่ได้
“คุณค่าทางประวัติศาสตร์” บอกเล่าเรื่องความมีความเกี่ยวพันกับบุคคล เหตุการณ์ สำคัญ ๆ ทางประวัติศาสตร์ในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นตัวกลางเชื่อมโยงปัจจุบันกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์อย่างเป็นรูปธรรมได้ด้วย
“คุณค่าทางสถาปัตยกรรม” การพัฒนาและแนวคิดของสถาปนิกผู้ออกแบบ ที่มีรูปแบบเฉพาะ สื่อถึงความคิดสร้างสรรค์
“คุณค่าทางด้านเศรษฐกิจ” สามารถนำมาปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยสนองความต้องการของคนในปัจจุบันได้
อีกไม่นานหัวลำโพงแห่งนี้จะกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ใจกลางกรุงอีกแห่งที่น่าท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
รีบหันมากินด่วน 8อาหารลดคอเลสเตอรอลรสชาติอร่อยแถมดีต่อสุขภาพ
เมื่อร่างกายมีระดับคอเลสเตอรอลสูงขึ้น นั่นอาจหมายถึงความเสี่ยงต่อโรคหัวใจที่เพิ่มขึ้น
แต่รู้หรือไม่ว่า
การปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารเป็นตัวช่วยหนึ่งที่สำคัญในการลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดีให้มากขึ้น
ในบทความนี้ได้รวบรวมอาหารลดคอเลสเตอรอลมาให้ศึกษากัน
หลายคนอาจไม่รู้ว่าคอเลสเตอรอลแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
1.คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ที่เป็นตัวการหนึ่งในการก่อโรคหลอเลือดและหัวใจ
อย่างภาวะหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมองหรือโรคหลอดเลือดแดงตีบ
เนื่องจากคอเลสเตอรอลชนิดนี้จะไปเกาะตามผนังหลอดเลือดและทำให้เกิดการอุดตันได้
2.คอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยจะไปลดปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีในหลอดเลือด จึงอาจทำให้ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจลดลง
มีอาหาร 8 ชนิด สามารถลดคอเลสเตอรอลหาทานง่าย ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี แถมยังส่งผลดีต่อสุขภาพหลอดเลือดและหัวใจด้วย ซึ่งตัวอย่างอาหารลดคอเลสเตอรอล ได้แก่
1. อโวคาโด - มีงานวิจัยชี้ว่าอะโวคาโดอาจช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ฉะนั้น ในเมนูโปรดในมื้อถัดอาจจะเป็นอาหารทานเล่น กินเคียงกับอาหารจานหลัก สลัดผัก หรือแซนวิชก็ได้
2. กระเทียม - มีสารอัลลิซิน (Allicin) ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมและคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีได้เล็กน้อย รวมทั้งยังอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจอื่น ๆ ด้วย
3. ธัญพืช - ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้ไม่น้อย โดยเฉพาะข้าวโอ๊ตและข้าวบาร์เลย์ เพราะอัดแน่นไปด้วยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ อย่างสารเบต้ากลูแคนอัน (Beta-Glucan) ที่มีส่วนช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลรวมและคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีได้ผลชะงัด
4. ปลา -ที่มีกรดไขมันดี
โอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า หรือปลาแมคเคอเรล
เป็นต้น ซึ่งกรดไขมันชนิดนี้ส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ โดยอาจช่วยลดระดับไตรกีเซอไรด์
ลดความดันโลหิต เพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดดีให้มากขึ้น
รวมถึงลดความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด
6. ชา - ช่วยเสริมสร้างสุขภาพหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นชาเขียว ชาดำ หรือชาขาว เนื่องจากในใบชาประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างสารคาเทชิน (Catechins) และสารควอซิทิน (Quercetin) ซึ่งมีการศึกษาพบว่าสารเหล่านี้อาจมีคุณสมบัติช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวม คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
7. น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ -มีสารอาหารสำคัญ อย่างกรดไขมันดี ที่อาจช่วยเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดดีและลดปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี มีสารโพลีฟีนอลต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจได้อีกทาง
8. ถั่วเหลือง - หนึ่งในพืชตระกูลถั่วที่ส่งผลดีสุขภาพหัวใจ
มีผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อย่างเต้าหู้ น้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง
ยังอุดมไปด้วยโปรตีนจากพืช นอกจากไม่มีคอเลสเตอรอลแล้ว
ยังอาจช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดดีให้มากขึ้นด้วย
อึ้ง!!นักท่องเที่ยวยุโรป5เมืองซื้อตั๋วบินไทยเข้าภูเก็ต1-31ก.ค.นี้เพียง1,455ที่นั่ง
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
รายงานว่า ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรป มียอดจองซื้อตั๋วโดยสารการบินไทย
ระหว่างวันที่ 1-31 กรกฎาคม
2564 เพียง
1,455 ที่นั่งเท่านั้น ซึ่งอาจจะมีจำนวนไม่มาก
และ/หรืออาจจะก่อให้เกิดการขาดทุนต่อเนื่องเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ จำนวนผู้โดยสารกลุ่มแรกทยอยซื้อตั๋วการบินไทยเรียงจำนวนตามลำดับดังนี้
1.ลอนดอน 527 ที่นั่ง ยอดจองตั๋วเดินทางชั้นธุรกิจ 90 ที่นั่ง ชั้นประหยุด 437 ที่นั่ง
2.แฟรงก์เฟิร์ต 355 ที่นั่ง ยอดจองตั๋วเดินทางวันแรก 2 กรกฎาคม ชั้นธุรกิจ 11 ที่นั่ง ชั้นประหยัด 69 ที่นั่ง ส่วนยอดจองโดยรวมตลอดทั้งเดือน ชั้นธุรกิจ 58 ที่นั่ง ชั้นประหยัด 297 ที่นั่ง
3.ปารีส 246 ที่นั่ง ยอดจองตั๋วเดินทางวันแรก 2 กรกฎาคม ชั้นธุรกิจ 8 ที่นั่ง ชั้นประหยัด 37 ที่นั่ง ส่วนยอดจองโดยรวมตลอดทั้งเดือน ชั้นธุรกิจ 43 ที่นั่ง ชั้นประหยัด 203 ที่นั่ง
4.ซูริก 196 คน ยอดจองโดยรวมตลอดทั้งเดือน ชั้นธุรกิจ 36 ที่นั่ง ชั้นประหยุด 160 ที่นั่ง
5.โคเปนเฮเกน 131 ที่นั่ง ยอดจองตั๋วเดินทางวันแรก 2 กรกฎาคม ชั้นธุรกิจ 6 ที่นั่ง ชั้นประหยัด 42 ที่นั่ง ส่วนยอดจองโดยรวมตลอดทั้งเดือน ชั้นธุรกิจ 17 ที่นั่ง ชั้นประหยุด 114 ที่นั่ง
ทางด้าน นายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีแผนเตรียมการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งคนไทยที่อยู่ต่างประเทศที่รับการฉีดวัคซีนครบโดส เดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว บริษัท การบินไทยฯ พร้อมขานรับนโยบายดังกล่าว ด้วยการให้บริการเที่ยวบินตรงสู่จุดหมายในเส้นทางต่างๆ อย่างสะดวกสบาย ปลอดภัย โดยไม่ต้องแวะพัก
เริ่มจากเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2564 ตรงเข้าภูเก็ตรวม 16 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางเอเชีย 10 เส้นทาง ออสเตรเลีย 1 เส้นทางรวและยุโรป 5 เส้นทาง ได้แก่ โคเปนเฮเกน แฟรงก์เฟิร์ต ปารีส ลอนดอน และซูริก เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้โมเดล ภูเก็ต แซนด์บ๊อกซ์ (Phuket Sandbox) และเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19
อีกทั้งการบินไทย ยังมีแผนจัดเที่ยวบินเพิ่มเติมในตารางบินฤดูหนาวปี 2564 เพื่อรองรับการเดินทางอย่างต่อเนื่องซึ่งจะทยอยประกาศในแต่ละฤดูกาลบินต่อไป
ข่าวที่สอง ผู้ว่าฯภูเก็ตปลดล็อกธุรกิจ10กิจกรรมรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ฟื้นเศรษฐกิจ
นายณรงค์
วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ผ่อนคลายการปิดสถานที่
และกำหนดมาตรการป้องกัน เฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019
(เพิ่มเติม)
เพื่อเตรียมการรองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวตามแผน ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์
วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 โดยได้ผ่อนคลายเปิดให้บริการได้โดยจำกัดจำนวนคนไม่เกินกิจกรรมละ
200 คน/รอบ จำนวน 10 กิจกรรม
1. โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภทสามารถใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอนการสอบการฝึกอบรมหรือการทำกิจกรรมใดๆได้ตามความเหมาะสม
2. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า
คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดได้ตามเวลาปกติ
ยกเว้นส่วนตู้เกมเครื่องเล่นร้านเกมและสวนสนุกต้องงดบริการ
3.ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ไม่ได้เป็นสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ
ให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ในเวลาที่กำหนด โดยให้จำหน่ายและบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านได้
ไม่เกิน 23:00 น.
4.ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต
ให้เปิดได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ
5.สนามกีฬาหรือสถานีเพื่อการออกกำลังกาย
ยิม ฟิตเนส แบดมินตัน สามารถเปิดได้ตามปกติ
และจัดการแข่งขันได้โดยจำกัดผู้เข้าชมในสนาม
6.ร้านเสริมสวย
ร้านตัดผมตกแต่งทรงผมสุภาพบุรุษและสตรีสามารถเปิดได้ตามปกติ
7. สถานที่จัดให้มีโต๊ะสนุกเกอร์บิลเลียดโต๊ะพูลหรือการเล่นที่มีลักษณะคล้ายกัน โดยจัดให้เล่นได้ระหว่าง 15.00 - 23.00 น .
8. ร้านเกมคอมพิวเตอร์ เกมออนไลน์ สามารถเปิดได้ตามกฎหมายกำหนด
9.โรงภาพยนต์ โรงมหรสพ สวนน้ำให้เปิดได้ตามปกติของสถานที่นั้น ๆ ยกเว้นสวนสนุก เครื่องเล่นประจำที่ หรือเครื่องเล่นแบบเคลื่อนที่กลางแจ้ง ให้เปิดได้ตั้งแต่ 06.00-20.00 น.
10.การรวมกลุ่มทำกิจกรรมสังสรรค์จำหน่ายบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ ชายหาด สวนสาธารณะให้ถือปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้เพื่อผ่อนคลายให้สอดคล้องกับนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะใช้ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เป็นพื้นที่นำร่องก่อนจะขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น