“วสุมน เนตรกิจเจริญ”นายกสมาคมท่องเที่ยวอีสาน-TEATAพลิกเกมสู้วิกฤตฟื้นธุรกิจปี’64 ปลุกอีสาน20จังหวัดเที่ยวอีสาน-เปิดเทรนด์ขายทัวร์โลว์คาร์บอน5ภาค
“วสุมน”นายกส.ท่องเที่ยวอีสาน-TEATAพลิกเกมสู้วิกฤตฟื้นธุรกิจปี’64
ปลุกอีสาน20จังหวัดเที่ยวอีสาน-เปิดเทรนด์ขายทัวร์โลว์คาร์บอน5ภาค
คิง
เพาเวอร์จัดโปรตั๋วชม”มหานครสกายวอล์ค”จองผ่านเว็บลดทันที10%
“เลอสปา”พูลแมนคิงเพาเวอร์ลดนวดเท้าเพื่อสุขภาพเหลือ400บาท/ชม.
รมว.ท่องเที่ยวนำททท.ลุยREOPENรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เข้ม4มาตรการ
ททท.ทำมิชลินไกด์อยุธยาปลุกไทย-ต่างชาติแห่ทัวร์กินของอร่อยปี’65
TCEBหนุนธุรกิจไมซ์ร่วมเวทีนวัตกรรมดิจิทัล
AUGUST SERIES 2021
ชวนไป”ชุมชนท่องเที่ยวบ้านแหลม”สุพรรณฟรียกก๊วน1ก.ค.-31ส.ค.นี้
สุขภาพดีสร้างได้ด้วย“5
วิธี”ทำได้ครบทุกเรื่องเชื่อชีวิตเปลี่ยนดีขึ้นชัวร์
“ททท.ระดม10องค์กรหนุนใช้ดิจิทัลฟื้นท่องเที่ยวเต็มรูปแบบหลังโควิด
รร.อลอฟท์สุขุมวิท11ชวนช้อปอาหารกล่องกูร์เมต์เริ่ม499-1,299บาท
อพท.ลุยจัดสัมมนาขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์เที่ยวยั่งยืน22-23
มิ.ย.64
ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT
#สทอท #สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้
ช่วงที่ 1 สำรวจธุรกิจอีสานกับ “นางสาววสุมน เนตรกิจเจริญ นายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอีสาน และนายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA) นำ “สมาชิก” 20 จังหวัดสู้ทุกรูปแบบ รุกกระตุ้น “อีสานเที่ยวอีสาน” หันพึ่งอาชีพที่ 2 เปิดเพจ “BUFFSHOP” ดัน 5อาหารพื้นเมือง หารายได้พยุงความอยู่รอด เดินหน้าลุย MOU กับ ททท.ผนึกกำลังยกเครื่องบิ๊กโปรเจ็กต์ “Low Carbon” รับการท่องเที่ยววิถีใหม่ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ชู 5 เส้นทาง “เหนือ-ใต้-กลาง-ตะวันออก-อีสาน” บูมขายครึ่งปีหลัง’64
นางสาววสุมน
เนตรกิจเจริญ นายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอีสาน
และนายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA)
เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในอีสาน 20 จังหวัด
อัตราการเข้าพักนักท่องเที่ยวมีเป็นหลักสิบเปอร์เซนต์ แต่ปริมาณการติดเชื้อน้อยลง
จึงทำให้เริ่มเกิดการขับรถท่องเที่ยวบ้าง โดยพฤติกรรมจะเป็นอีสานเที่ยวอีสานดูจากทะเบียนรถยนต์ส่วนใหญ่มีถึง
80 %
มาจากอีสานแต่ละโซนทั้งอีสานใต้(บน) อีสานเหนือ (ล่าง)
จากนี้เตรียมวางแผนหารายได้จาก 1.ช่วง 3 เดือนข้างหน้า
พึ่งพาอีสานเที่ยวอีสาน เพื่อรอการทยอยฉีดวัคซีนระหว่างมิถุนายน-กรกฎาคม-สิงหาคม
นี้ 2.หลังเดือนกันยายน
นี้ มีความหวังจะได้ขับเคลื่อนตลาดขยายฐานนำเข้าจากภาคอื่นเข้ามาบ้าง
การท่องเที่ยวแบบรถตู้ของกลุ่มครอบครัว
ทางคุณสมชาย ชุมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้งบสนับสนุนในลักษณะ ค่าอาหารแต่ละมื้อให้บริษัทนำเที่ยวไปใช้บริการนักท่องเที่ยวที่ซื้อแพกเกจท่องเที่ยว รวมทั้งการทำโปรโมชั่น
อีกทั้งผู้ประกอบการท่องเที่ยวยังได้ร่วมประชุมผ่านออนไลน์กับ ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.ถึงการมีส่วนร่วมกระจายท่องเที่ยวจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3” มายังภาคอีสานบ้าง เรื่อยไปจนถึงขณะนี้เอกชนท่องเที่ยวอีสานเดินหน้าทำโครงการ “เที่ยวให้ชินกับ SHA” ซึ่งเป็นมาตรฐานตราสัญลักษณ์ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เพื่อรณรงค์ให้คนสามารถออกเดินทางท่องเที่ยวอย่างมั่นใจ
ขณะนี้ธุรกิจในอีสานตื่นตัวเข้าร่วมโครงการรับมาตรฐาน SHA ทางสมาคมกับ ททท.ทั้งส่วนกลางและในพื้นที่ร่วมกันผลักดันผู้ประกอบการเข้าร่วมให้ได้มากที่สุด ทุกโปรโมชั่นจะระบุต้องผ่านมาตรฐานดังกล่าวก่อน รวมถึงการต้องดูแลมาตรฐานหลังจากได้รับตราสัญลักษณ์ SHA มาเรียบร้อยแล้ว
ระหว่างนี้ภาคธุรกิจเร่งปรับตัวโดยใช้เวลาว่างหันมาเรียนเพิ่มทักษะทำท่องเที่ยว โดยมีบริษัทนำเที่ยวหลายบริษัทหันไปเพิ่มอาชีพที่สองมากขึ้นเกี่ยวกับการ “ขายสินค้าพื้นเมือง” ทางสมาคมการค้าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอีสานเอง ตอนนี้พัฒนาสร้างแอพลิเคชั่นให้สมาชิกได้ขายสินค้าอย่างเต็มทีในชื่อ “BUFFSHOP” เข้ามาร่วมอยู่ใน Page Facebook เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทาง ททท.ก็นำสินค้าอีสานไปช่วยประชาสัมพันธ์ด้วย
สินค้ายอดนิยมใน “BUFFSHOP” ส่วนใหญ่เป็นของอาหารพื้นเมือง 5 ได้แก่ 1. “เส้นก๋วยจับ”ของอุดรธานี บึงกาฬ หนองคาย นครพนม มหาสารคาม เส้นก๋วยจับอีสานใต้เส้นจะแข็ง แต่ถ้าเป็นอีสานเหนือจะนุ่ม หรือแม้กระทั่ง 2.“น้ำปลาร้า” ซึ่งแต่ละจังหวัดมีรสชาติแตกต่างกันไป 3.“น้ำพริกปลาแม่น้ำ” ลำน้ำโขง มูล ชี หรือ “น้ำมันกากหมู” อุบลราชธานี นำมาเป็นส่วนผสมของน้ำพริก
4.“คุ้กกี้คันฆาต” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสัตว์ในตำนานของบั้งไฟยโสธร เป็นการช่วยกันอุดหนุนในพื้นที่อีสานด้วยกัน รวมทั้งเปิดให้ทางกรุงเทพฯ ภาคอื่น ๆ สั่งซื้อทางออนไลน์ได้ด้วย
5.ผลไม้ “ทุเรียน เงาะ อีสาน” ทั้งที่ นครราชสีมา ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอีกหลายจังหวัด เพราะใช้ดินภูเขาปลูกได้ดี เป็นอัตลักษณ์เฉพาะทำให้รสชาติผลไม้ รวมทั้งทุเรียนแตกต่างกันไป
นางสาววสุมน
กล่าวว่า ทางด้านของสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA)
ได้ลงนาม MOU ร่วมกัน
3 ฝ่าย
คือกับ ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายเกียรติชาย
ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) “อบก.” เดินหน้าอย่างจริงจังในการทำโครงการ
“Low Carbon : การท่องเที่ยวลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใกล้ศูนย์เปอร์เซนต์”
หรือปีละไม่น้อยกว่า 50 ล้านตัน
ซึ่ง ททท.ทำมานานพอสมควรแต่จะเป็นในรูปแบบ 7 Green ตอนนี้เพิ่มโครงการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรเศรษฐกิจสีเขียว
หรือ BCG : Bio Circular
Green Economy ตามนโยบายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ส่วนทางสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย
จะขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยุคนี้ที่โลกต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิจนเกิดภาวะโลกร้อน
หรือ Climate Change กับภาวะก๊าซเรือนกระจก
ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหลายด้านด้วยกัน สมาคมจึงคิดสร้างสรรค์ทำโปรแกรมนำร่องการท่องเที่ยวแต่ละเส้นทางล้วนน่าสนใจ โดยมีทาง อบก. เป็นพี่เลี้ยงคอยให้ความรู้
เบื้องต้นทางสมาชิกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย มุ่งหน้าทำเป้าหมายเรื่อง
“เพิ่มมูลค่า” ในเชิง “คุณภาพ” ลดความเสียหายต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ผนวกการทำซีเอสอาร์ การจัดการพิเศษ เพื่อขยายกลุ่มสู่คนคิด ทำดี เพื่อโลก
ขณะที่ราคาแพกเกจหรือโปรแกรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ก็อาจจะสูงกว่าโปรแกรมการท่องเที่ยวทั่วไปเล็กน้อย ในการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวต้นแบบ
“โลว์ คาร์บอน” ที่สมาคมฯ เตรียมเริ่มเสนอขายเร็ว ๆ นี้ 5 ภาค 5 เส้นทาง
ประกอบด้วย
1.ภาคเหนือ เชียงใหม่ “ช้างอิ่มทอง
เราอิ่มใจ เดินทางไปชิมชาของพ่อ ดอยหมื่นลี้ เน้นจุดขายใน 5 ชุมชนหลัก
2.ภาคใต้
อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม ที่ภูเก็ต 3.ภาคกลาง Glamping & Wellness กาญจนบุรี
4.ภาคตะวันออก
“ปั่นสวน ปีนต้นไม้ อาบป่า สายชีวิตกลางแจ้ง” ที่นครนายก ปราจีนบุรี 5.ภาคอีสาน
เที่ยวอีสาน ถ3 แนว ใน
“ถิ่นนคราธานี” ทำร่วมกัน 3
จังหวัด
อุดรธานี-หนองคาย-บึงกาฬ 2 สมาคม
ไปชวนเพื่อบริษัทนำเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวข้องทำไปด้วยกัน
พร้อมทั้งใช้รูปแบบปฏิบัติตามแนวทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ SDG :Sustainable Development Goals เข้ามาพัฒนาโปรแกรมการท่องเที่ยวแต่ละเส้นทาง ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซมีค่าเป็นศูนย์ หรือ Carbon Neutral ด้วยการรณรงค์ทุกฝ่าย ลดการใช้พลาสติก ท่องเที่ยวแบบประหยัดการใช้พลังงาน การนำสิ่งของมาใช้ซ้ำ แล้วต่อยอดเรื่องการวัดเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
โดยจะพยายามนำมาใช้ในการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยว เพื่อลดมลพิษและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ตามเป้าหมาย ผนวกกับหากปล่อยไม่ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานก็จะใช้วิธี “ซื้อคาร์บอนเข้ามาชดเชย” เพื่อให้เป็นศูนย์ (0) ให้ได้นั่นเอง
สำหรับในเมืองไทยมีหลายองค์กรทำมานานแล้วทั้งการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการซื้อคาร์บอนเครดิตมาชดเชย ตัวอย่างคือ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB แล้วตอนนี้สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย ก็เดินหน้าแผนงานดังกล่าวเต็มรูปแบบ โดยยอมรับปัจจุบันยังมีบางส่วนต้องไปซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อมาชดเชยในส่วนที่ไม่ได้ให้เป็นศูนย์ เพื่อช่วยให้โลกดีขึ้น รวมถึงจะช่วยทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยในอนาคตยั่งยืนอย่างแท้จริง
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิง เพาเวอร์จัดโปรตั๋วชม”มหานครสกายวอล์ค”จองผ่านเว็บลดทันที10%
คิง เพาเวอร์ ชวนซื้อบัตรเข้าชม “มหานคร สกายวอล์ค” ชั้น 78 ที่อาคาร คิง เพาเวอร์ มหานคร สัมผัสประสบการณ์ดูวิวกรุงเทพฯ สุดตระการตาบนจุดชมวิวที่สุดในเมืองไทยได้ทุกวัน ตั้งแต่ 11.00-21.00 น. พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 10% เมื่อซื้อผ่านเว็บไซต์ http://bit.ly/Mahanakhon-SkyWalk-Tickets
ราคาบัตรขึ้นไปชม “มหานคร สกายวอร์ค” ช่วงวันธรรมดา จันทร์-ศุกร์ ผู้ใหญ่คนละ ลด 5% เหลือ 504 บาท จากราคาเต็ม 530 บาท ส่วนวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ ผู้ใหญ่ ลด 10% เหลือคนละ 792 บาท จากราคาเต็ม 880 บาท ส่วน เด็ก วัย 3-15 ปี กับผู้สูงอายุ วัย 60 ปี ขึ้นไป จ่ายเพียงคนละ 250 บาทเท่านั้น
ทั้งนี้ คิง เพาเวอร์ มหานคร
ได้ปฏิบัติมาตรการดูแลป้องกันตามที่ภาครัฐกำหนดอย่างเข้มงวดมาตลอด
และเน้นย้ำกำกับใช้มาตรการ D-M-H-T-T ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
ข่าวที่
2 “เลอสปา”พูลแมนคิงเพาเวอร์ลดนวดเท้าเพื่อสุขภาพเหลือ400บาท/ชม.
โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) จัดโปรโมชั่น “สปาเท้าแบบตะวันตก” ในราคาเพียง 400 บาท/ชั่วโมง จากปกติ 1,500 บาท/ชั่วโมง ระหว่างวันนี้ - 30 มิถุนายน 2564 พิเศษด้วยเทคนิคการกดจุดเพื่่ฟื้นฟูสมดุลของร่างกาย
ล่าสุด “เลอ สปา” กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 – 19.00 น. ถึงเวลาที่จะต้องเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมหลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาแล้ว พบกับโปรโมชั่นสปานวดเท้าแบบตะวันออก ในบรรยากาศแบบไทยร่วมสมัยในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ เพื่อฟื้นฟูสุขภาพให้แต่ละคนกลับมามีพลังทำงานกันให้เต็มที่
จึงได้รวมเทคนิคการกดจุดเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูสมดุลของร่างกายสร้างสมดุลให้ร่างกายและจิตใจ
เพื่อชวนกันมาใช้บริการสปาที่จะทำให้ทุกคนประทับใจ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจองได้ที่โทร.
02-680 -9999
ข่าวที่ 3 รมว.ท่องเที่ยวนำททท.โชว์แผนREOPENรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เข้ม4มาตรการ
นายพิพัฒน์
รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกันแถลง “เดินหน้าเตรียมความพร้อมเปิดประเทศ :
Moving Forward to Reopen Thailand”
หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.)
เห็นชอบในหลักการให้เดินหน้าเปิดเมืองได้ ในพื้นที่นำร่องจังหวัดภูเก็ตภายใน
“ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม
2564 เป็นต้นไป
โดยมีรายละเอียดสร้างความชัดเจนที่ได้รับความสนใจเบื้องต้น 2 ส่วนหลัก ประกอบด้วย
ส่วนที่ 1 “REOPEN THAILAND การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว
โดยไม่กักตัวในระยะแรก : เริ่มจากการเปิดเมือง (พื้นที่นำร่อง)
ให้แล้วเสร็จในไตรมาส 3 : Island Approach และ Sealed
Approach คือ
1.“พื้นที่นำร่อง” พื้นที่แรก จังหวัดภูเก็ต :
Better Phuket เริ่ม 1
กรกฎาคม 2564 วันเปิดจริง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
จะเดินทางไปต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มแรกที่มาถึงสนามบินนานาชาติภูเก็ตด้วยตนเอง
โดยในวันที่ 25 มิถุนายน 2564
นายอนุทิน ชาญวีระกุล
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กับนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะลงพื้นที่ตรวจความพร้อมทั้งหมด
2.พื้นที่นำร่อง แห่งที่ 2 Sealed
Routes (0+3+4+7) จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน
เกาะเต่า) หรือ SAMUI PLUS เริ่ม
15 กรกฎาคม 2564
3.พื้นที่ขยายไปยังกระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง หาดไร่เล : Krabi Even
More Amazing
ต่อเนื่องไปจนถึง เขาหลัก เกาะยาว
4.พื้นที่กำหนดตามเป้าหมาย เริ่มเปิด ตุลาคม 2564
ได้แก่ 1.เชียงใหม่ (3 อำเภอ ได้แก่ เมือง-แม่แตง-ดอยเต่า) : Charming Chaing Mai 2.ชลบุรี (พัทยา บางละมุง สัตหีบ ) : Neo
Pattaya 3.บุรีรัมย์ ในอำเภอเมืองและ สนามช้างอารีน่า
เตรียมรับการจัดมหกรรมการแข่งขันมอเตอร์ไซด์ทางเรียบระดับโลก โมโตจีพี 2021 ต้นเดือนตุลาคม นี้ 4.กรุงเทพฯ 5.หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 6.ชะอำ เพชรบุรี
ส่วนที่
2 หลักการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต
และจังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) ประกอบด้วย 4 มาตรการ ดังนี้
มาตรการที่
1 “ก่อนเดินทางเข้ามาถึง” ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ 8 ข้อ
1. ตรวจข้อมูลตามเงื่อนไข
1.1 กำหนดประเทศของนักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ
และปานกลาง ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข
1.2 คนต่างชาติต้องพำนักอยู่ในประเทศเสี่ยงต่ำและปานกาลางอย่างน้อย
21 วันก่อนการเดินทางเข้าพื้นที่
1.3 คนไทย และต่างชาติที่พำนักในไทย
ที่เดินทางกลับจากกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำและปานกลาง
1.4 ได้รับการฉีดวัคซีนที่รับรองโดย
องค์การอาหารและยา หรือ องค์การอนามัยโลก (WHO) ครบกำหนดตามประเภทวัคซีนอย่างน้อย 14 วัน และมีเอกสารรับรองการได้รับวัคซีน หรือ Vaccine
Certificate อย่างถูกต้อง
1.5 กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี มากับผู้ได้รับวัคซีนให้เดินทางพร้อมผู้ปกครองได้
1.6 กรณีที่เคยติดเชื้อ
ต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบตามประเภทของวัคซีน อย่างน้อย 14 วัน
1.7 ต้องมีผลการตรวจโควิด-19 (COVID-19 FREE) RT-PCR ภายใน
72 ชั่วโมง
1.8 มีประกันสุขภาพ ที่ครอบคลุมโควิด-19 วงเงินคุ้มครองไม่ต่ำกว่า 100,000 US
2. ยื่นเอกสารรับใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศ หรือ COE
3. ยืนยันผลการอนุมัติพร้อมกับเอกสาร COE
4. ลงทะเบียนผ่านทาง www.entrythailand.go.th เพื่อตรวจสอบข้อมูลการได้รับวัคซีนอย่างถูกต้อง
มาตการที่ 2 “เมื่อเดินทางมาถึงภูเก็ต (ประเทศไทย)” เรียบร้อยแล้ว จะต้องปฏิบัติดังนี้
1.เข้ารับการตรวจหาเชื้อ ณ สนามบิน ที่มาถึง
2.ติดตั้งแอพลิเคชั่นหมอชนะ (ภาษาอังกฤษ)
3.เดินทางเข้าพักโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA+ ด้วยพาหนะที่กำหนด กรณี เกาะสมุย เกาะพะงัน
เกาะเต่า ต้องเข้าพักโรงแรมทางเลือก ALQ :Alternative State Quarantine
4.รอผลการตรวจในห้องพัก เมื่อไม่พบเชื้อ แบ่งเป็น
พักอยู่ภูเก็ต
-สามารถออกจากห้องพักได้ และเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่ภูเก็ตได้
พักเกาะสมุย-พะงัน-เกาะเต่า
สามารถออกนอกห้องพักได้ และใช้บริการในพื้นที่บริเวณโรงแรมที่พักเท่านั้น
1.1 เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า
คืนที่
1-3
นักท่องเที่ยวสามารถออกนอกห้องได้ และใช้บริการได้เฉพาะบริเวณโรงแรมที่พักเท่านั้น
คืนที่
4-7
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวนระบบปิด ตามเนทางที่กำหนดเฉพาะในพื้นที่เกาะสมุยเท่านั้น
คืนที่
8-14 นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวระหว่าง
3 เกาะได้
สมุย-พะงัน-เต่า
2.ต้องตรวจ
RT-PCR ตามระยะเวลาที่พัก
คือ วันที่ 6-7 และวันที่ 12-13
3.ต้องปฏิบัติตามมาตรการ
D-M-H-T-T-A
มาตการที่ 4 ก่อนเดินทางออกนอกประเทศไทย
จากภูเก็ต เกาะสมุย เกาะพะงัน
เกาะเต่า ไปยังหวัดอื่น ๆ ในประเทศไทย
ให้แสดงหลักฐานยืนยันว่าได้พักอย่างน้อย 14 วัน
และมีหลักฐานการควบคุมโรค ตามที่จังหวัดปลายทางกำหนด
ข่าวที่ 4 ททท.ทำมิชลินไกด์อยุธยาปลุกไทย-ต่างชาติแห่ทัวร์กินของอร่อยปี’65
ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับมิชลินไกด์
เตรียมเปิดคู่มือ มิชลิน ไกด์ ฉบับที่ 5 “พระนครอยุธยา” ซึ่งจะได้คัดสรรร้านอาหารที่ผ่านมาตรฐานได้รับมิชลินมาเป็นอีกทางเลือกของนักชิม
นักท่องเที่ยว ปี 2565 โดยอยุธยามีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเก่าแก่เป็นเมืองที่ยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี
2534 อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมอาหารอร่อยหลากชนิดจากตลาดพื้นบ้านหรือร้านอาหารในท้องถิ่น
จึงถือเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
เมื่อทุกคนได้อ่านคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับล่าสุดนี้แล้ว
จะเกิดแรงบันดาลใจเดินทางมาค้นพบเสน่ห์และมนต์ขลังเดินทางไปยังพระนครศรีอยุธยาเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
นายเกว็นดัล
ปูลเล็นเนค ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่คู่มือ
‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวปลายปี 2564
จะมีโอกาสแนะนำอ “อยุธยา” ในฐานะเมืองที่บรรยากาศธุรกิจร้านอาหารมีความโดดเด่นเฉพาะตัวบนพื้นฐานของการผสานความเก่าและใหม่เข้าด้วยกันได้อย่างน่าประทับใจ
โดยมีทั้งร้านอาหารหลากหลายทั้ง
เก่าแก่สุดคลาสสิก ร้านใหม่ ๆ ในอาคารเก่าที่ผ่านการดัดแปลงปรับปรุงอย่างเก๋ไก๋ หรือในอาคารใหม่ออกแบบให้มีรูปลักษณ์ทันสมัย
ร้านกาแฟและคาเฟ่ที่มีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายภาพหลากหลายมุม
ไปจนถึงร้านเด็ดในตลาดบกและตลาดน้ำพื้นบ้าน
ประกอบกับภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยาวนาน
คือเสน่ห์ที่แตกต่างซึ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศกลับมาเยือนอยุธยาอยู่เสมอ
“พระนครศรีอยุธยา”
ถือเป็นเมืองลำดับ 5 ที่คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’
ประเทศไทย ฉบับล่าสุด ที่ทางมิชลินเลือกสำรวจ คัดเลือก และจัดอันดับร้านอาหาร
โดยคู่มือฉบับดังกล่าว มีกำหนดตีพิมพ์เผยแพร่ปลายปี 2564ในชื่อ
‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา 2565’
: The MICHELIN Guide Bangkok, Phra Nakhon Si Ayutthaya, Chiang Mai, Phuket
& Phang-Nga 2022
ในฐานะของจังหวัดที่มีความโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรมอาหารไทย
เต็มไปด้วยมนต์ขลังและร่องรอยทางประวัติศาสตร์แห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางการทูตและการค้าระดับโลก
ทำให้ได้รับอิทธิพลจากหลายชาติ อาทิ โปรตุเกส ญี่ปุ่น อินเดีย เปอร์เซีย และอื่น ๆ
ซึ่งมีบทบาทต่ออาหารไทยในท้องถิ่น ขณะที่ยุทธศาสตร์ที่ตั้งซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ 3 สายยังส่งผลให้อยุธยาเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์
ทั้งปลาน้ำจืด กุ้งแม่น้ำ ตลอดจนผักและผลไม้สดมากมาย
โดยได้รับอิทธิพลด้านวิวัฒนาการอาหารไทยสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
ทั้งการใช้กะทิและเครื่องเทศในแกง เป็นอิทธิพลจากอินเดียและเปอร์เซีย
ต่อยอดพัฒนาเป็นแกงไทยจานเด่น อาทิ แกงมัสมั่น การใช้ไข่และไข่แดงในการทำขนมไทย รับอิทธิพลจากโปรตุเกส
อาทิ ทองหยิบ และทองหยอด
ปัจจุบันอยุธยาเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยอดนิยม
เนื่องจากตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
ซึ่งเป็นเมืองหลวงในปัจจุบัน และยังสะดวกในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
ทั้งทางรถไฟและทางเรือ
รวมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจให้เลือก
อาทิ การไหว้พระตามวัดสำคัญ ๆ เพื่อความเป็นสิริมงคล การเที่ยวชมหมู่บ้านชาวต่างชาติ
อาทิ หมู่บ้านญี่ปุ่น หมู่บ้านโปรตุเกส และหมู่บ้านฮอลันดา
รวมถึงพิพิธภัณฑ์เฉพาะทาง อาทิ พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธุ์
และพิพิธภัณฑ์เรือไทย การนั่งเรือชมทัศนียภาพและวิถีชีวิตริมสองฝั่งแม่น้ำ และอื่น
ๆ
ข่าวที่ 5 TCEBหนุนธุรกิจไมซ์ร่วมเวทีนวัตกรรมดิจิทัลAUGUST SERIES2021
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า
ทีเส็บได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทย ลงทะเบียนเข้าร่วมรับฟังงานสัมมนาวิชาการและแสดงนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี
โครงการ August Series
2021 ที่เตรียมจัดระหว่างวันที่
25-26 สิงหาคม 2564 ณ
โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ อาคารศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ห้องวายุภักษ์ 2 - 4 ชั้น 4 และ ห้องวายุภักษ์ 5-7 ชั้น 4 และ ห้องวายุภักษ์ 5-7 ชั้น 5
โครงการ August Series 2021 มีเจ้าภาพหลัก คือกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
(MDES) และสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) ร่วมกันจัดงานประชุมสัมมนาทางวิชาการและแสดงนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยีจะประกอบด้วย
5 งานหลัก
ได้แก่ 1. eGovernment Forum 2.Education Next
Forum 3.Healthcare Technology Summit 4. AI & IoT Summit และ 5.SME Smart Manufacturing
ไฮไลต์ภายในงานผู้ประกอบการจะได้ฟัง การสัมมนาวิชาการ
ควบคู่การปาฐกถาพิเศษ เสวนาระดับสูง
แลกเปลี่ยนความรู้กับผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากภาครัฐ และเอกชน
นำเสนอหัวข้อเทคโนโลยีและโชลูชั่น รวมถึงถ่ายทอดประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ
ประโยชน์ของเทคโนโลยีจากผู้ประกอบการ และผู้ใช้ไอที
พร้อมชมส่วนแสดงนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี ที่เหมาะอย่างยิ่งในการนำมาประยุกต์ใช้กับ
เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจไมซ์ให้เข้มแข็งทั้งปัจจุบันและอนาคตได้
ช่วงที่ 2 ชาวบ้านที่ “วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลบ้านแหลม” จังหวัดสุพรรณบุรี
มาชวนคนไทยไปเที่ยวฟรี ต้อนรับการกลับมาเปิดบริการใหม่อีกครั้ง 250 คนแรก ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบแล้ว 250 คนแรกจองตอนนี้มาเที่ยวได้ 1 ก.ค.นี้ ไปนั่งเรือล่องแม่น้ำสุพรรณ
ดูบ้านเรือนไทย กินมื้อเที่ยงอร่อย ๆ
แล้วก็ดูการทำธูปสีตามวันเกิดแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน ช้อปเครื่องจักสานผักตบชวา และอีกหลากหลายกิจกรรม
หากใครที่ยังไม่รู้ มี “5วิธีทำแล้วสุขภาพแข็งแรงชัวร์”
ปิดท้ายกับข่าวยิ่งรู้ยิ่งได้ประโยชน์ “ททท.ระดม 10องค์กรขาใหญ่”
นำดิจิทัลช่วยภาคธุรกิจท่องเที่ยวฟื้นกิจการ “โรงแรมอลอฟท์สุขุมวิท11” งัดกลยุทธ์กล่องกูเมร์ เริ่ม 499-1,299
บาท
เจาะลูกค้าปิกนิค สังสรรค์ และครอบครัว ที่กำลังเวิร์ค ฟอร์ม โฮม
ชวนไป”ชุมชนท่องเที่ยวบ้านแหลม”ที่สุพรรณฟรียกก๊วน1ก.ค.-31ส.ค.นี้
ถึงคิวชุมชนใกล้กรุงเทพฯ
อย่างสุพรรณบุรี เริ่มทยอยเปิดแหล่งท่องเที่ยว
ชาว “วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลบ้านแหลม” ไม่รอช้า จัดกิจกรรมดี ๆ
มาชวนคนไทยออกไปเที่ยวตามแบบวิถีใหม่ New Normal เปิดฟรีให้นักท่องเที่ยว 250 คนแรก มาเที่ยวฟรี มีกติกาเพิ่มสีสันความสนุกเล็กน้อย คือ
นักท่องเที่ยวที่จะได้รับสิทธิ์เที่ยวชุมชนบ้านแหลมฟรี
จะต้องฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว จะได้สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
เตรียมตัวเคลื่อนล้อรวมทีมมาเที่ยวได้ช่วงวันธรรมดา
ระหว่างวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่ 10 โมงเช้า ไปจนถึง บ่าย 3 โมงเย็น
รีบจองกันเข้ามาได้ รายการฟรีแบบนี้เป็นช่วงนาทีทอง 2 เดือนเท่านั้น
เริ่ม 1 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2564
ให้ฟรี 250 คน โดยบริหารจัดการเที่ยวได้รอบละ 10 คน จองก่อนเที่ยว โทร.จองด่วน ๆ ที่ 080-073-7397
ของฟรีที่“วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลบ้านแหลม”
เตรียมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว มีทั้งของกินอร่อย“อาหารกลางวัน”
ระหว่างล่องเรือชมวิถีชีวิต “ชมเรือนไทยโบราณ” ริมแม่น้ำสุพรรณ พายเรือ-แจวเรือ
และปั่นจักรยานน้ำ
ส่วนกิจกรรมเสริมความเรียนรู้ ให้เข้าชม กรรมวิธีการ “ตากธูปสมุนไพร”
ตามแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน นักท่องเที่ยวสามารถลองทำธูปสีประจำวันเกิด ดูขั้นตอนการทำขนมไทยโบราณขึ้นชื่ออย่าง
“ทองพับ” และชมการสาธิตทำเครื่องจักสานผักตบชวา
“วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลบ้านแหลม” กลับมาเปิดบริการอีกครั้งตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน
2564 ด้วยสโลแกน “สุขแบบไม่ปรุงแต่ง ที่ชุมชนบ้านแหลม สุพรรณบุรี” เป็นชุมชนต้นแบบที่เกิดจากความรัก
ความสามัคคี ความร่วมมือร่วมใจของทุกคน ที่ได้ผสมผสาน การท่องเที่ยว วิถีชีวิต
ภูมิปัญญาได้อย่างลงตัว
มีกลิ่นอายเก่าแก่ของชุมชนที่มีบ้านเรือนไทยโบราณอายุกว่า
100 ปี
ปลูกเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำสุพรรณบุรีเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตแบบไม่เร่งรีบหรือ
Slow life ท่ามกลางอ้อมกอดธรรมชาติ อย่างเรียบง่าย
นักท่องเที่ยวที่ไปถึง ““วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลบ้านแหลม”
ต้องห้ามพลาด “ล่องเรือไหว้พระ” ตามรอยเสด็จประพาสต้นรัชกาลที่
5 ย้อนรอยนิราศสุพรรณของสุนทรภู่
ไปพร้อม ๆ กับรับอาหารบนเรือ
เคล้าบรรยากาศวิถีชีวิตไทยริมสองฝั่งแม่น้ำแสนสุขสงบ เป็นแบตเตอรี่ชาร์ตพลังที่ดีเลยทีเดียว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี จึงขอชวนคนไทยไปเที่ยวชุมชนบ้านแหลม เพื่อเติมสุขไปกับ
เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม
สุขภาพดีสร้างได้ด้วย
5 วิธีทำครบทุกเรื่องแล้วชีวิตเปลี่ยนดีขึ้นชัวร์
ตอนนี้ทุกคนล้วนอยากมีสุขภาพที่ดี แต่วิถีการใช้ชีวิตในปัจจุบันมีสิ่งยั่วยุมากเหลือเกิน
ทั้งอาหารการกิน การเสพสื่อโซเชียล จนแทบไม่มีเวลาออกกำลังกาย แถมยังบั่นทอนทำให้สุขภาพเราทรุดโทรม
ดังนั้นจึงขอนแนะนำ 5 วิธี ลงมือทำแล้วสุขภาพจะดีขึ้นชัวร์
1.
เลือกรับประทานอาหาร ให้เหมาะสมเพื่อนำไปพัฒนาและซ่อมแซมส่วนต่าง
ๆแล้วก็ลดอาหารแคลอรีสูง ของทอด ปิ้ง-ย่าง หรืออาหารไขมันเยอะที่จะเข้าไปสะสมในร่างกาย
ทางที่ดีควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณเหมาะสม เลือกที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
2. บริหารสมอง เพื่อช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้ดีขึ้นได้
โดยลองหาเกมฝึกสมองมาเล่น เช่น เกมอักษรไขว้ เกมจำตำแหน่งภาพ เกมจับผิด เกมซูโดกุ
หมากรุกจีน แล้วก็เลือกรับประทานผลไม้พวก ส้ม องุ่น เบอร์รี่ให้มากขึ้นด้วย ล้วนมีสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ
ลดอาการหลง ๆ ลืม ๆ ได้ บวกกับหัวเราะบ่อย ๆ เพื่อให้เลือดไหลเวียนดียิ่งขึ้น
3. พักสายตาจากการเสพสื่อโซเชียล
เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อดวงตาเมื่อยล้า ตาแห้งเพราะต้องคอยจ้องอยู่ที่หน้าจอนาน
ๆ กระทั่งเกิดอาการเบลอ สายตาพร่ามัว หรือ
สายตาสั้นได้ ทางที่ดีควรพักสายตา และบริหารดวงตาของเราด้วย เช่น กระพริบตา
กลอกตาไปมาเพื่อป้องกันตาแห้ง หรือมองไปยังวัตถุที่อยู่ไกล แนะนำให้ลดเสพโซเชียลลงจะทำสุขภาพจิตดีขึ้น
4. ออกกำลังกาย
อย่างน้อยวันละ 30 นาที เลือกเวลาช่วงหลังเลิกงานไปเดินในสวนสาธารณะใกล้บ้าน
หรือจะวิ่ง ทำแอโรบิค เลือกได้ตามที่ชอบ หากไม่มีเวลาออกกำลังกายจริง ๆ ก็หันมาทำงานบ้านอาจจะช่วยได้เหมือนกัน
เช่น ทำสวน กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างรถ ได้ออกกำลังกายไปในตัว แถมบ้านสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย
5. พักผ่อนให้เพียงพอ ครบวัน
8 ชั่วโมง แนะนำต้องนอนให้เป็นเวลา เพราะหากนอนดึกเกินไป ร่างกายอาจเหนื่อยล้าได้ และมีผลเสียตามมา
เช่น มีริ้วรอย เสี่ยงต่อโรคภัยต่าง ๆ ทางที่ดีควรพักผ่อนให้เพียงพอ
เมื่อตื่นขึ้นมารับวันใหม่ ร่างกายจะได้สดชื่นและตื่นตัวตลอดทั้งวัน
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ททท.ระดม10องค์กรใหญ่หนุนใช้ดิจิทัลฟื้นท่องเที่ยวเต็มรูปแบบหลังโควิด
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า
ได้เปิดตัว “โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการท่องเที่ยวยุคดิจิทัล (Empowering Tech Tourism)” โดยได้พันธมิตรที่พร้อมให้ความร่วมมือฟื้นฟูและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยให้ก้าวไปสู่ยุคดิจิทัลหลังโควิด-19 คลี่คลายลง ประกอบด้วย 10 หน่วยงานด้วยกัน คือ
1.สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
(depa)
2.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
(NIA)
3.สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
4.สมาคมท่องเที่ยวต่าง ๆ 5.ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
6.กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม
(TEDFund)
7.กลุ่มธนาคาร
อาทิ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) 8.ธนาคารกรุงเทพ 9.นักลงทุนจากสมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน
10.นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนส่วนบุคคล
ระหว่างการเปิดโครงการ
มีเวทีจัดเสวนาหัวข้อ “ฟื้นฟู ส่งเสริม สร้างโอกาส
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน” ร่วมกับ 5 พันธมิตร มีทั้ง นายชำนาญ
ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรมสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ดร.ชินาวุธ ชินะประยูร
ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ดร.ชาญวิทย์ ตรีเดช
ผู้จัดการกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TEDFund) และ ดร.เปาว์ ศรีประเสริฐสุข SVP ผู้จัดการฝ่ายนวัตกรรม ธนาคารกรุงเทพ
จำกัด (มหาชน)
และได้จัดงานนวัตกรรมไทยพบผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวควบคู่ไปด้วยใน
3 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้ประกอบการในพื้นที่
ภายในงานยังได้เปิดโอกาสให้เอกชน ฟังสัมมนาจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ มีบริการคลีนิกให้คำปรึกษาผู้ประกอบการ
และการจับคู่ทางธุรกิจ เพื่อสร้างความตื่นตัวให้ท่องเที่ยวแต่ละพื้นที่นำดิจิทัลเข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ข่าวที่สอง รร.อลอฟท์สุขุมวิท11ชวนช้อปอาหารกล่องกูร์เมต์เริ่ม499-1,299
บาท
โรงแรม อลอฟท์ กรุงเทพ
สุขุมวิท 11 แบรนด์ห้องพักในเครือ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล นำเสนอกล่องกูร์เมต์
เจาะตลาดกลุ่มลูกค้าสังสรรค์กับเพื่อนและครอบครัวช่วงหยุดทำงานอยู่บ้าน และเหมาะเป็นของขวัญในโอกาสต่าง
ๆ
กล่องกูร์เมต์จากอลอฟท์มีให้เลือก 3 ขนาด ทั้ง เล็ก-กลาง -ใหญ่ ราคากล่องเล็ก 499 บาท กล่องกลางราคา 899 บาท กล่องใหญ่ราคา 1,299 บาท โดยทีมเชฟได้คัดสรรวัตถุดิบสดใหม่อย่างดี มาปรุงทั้งเมนูคาวหวานพร้อมเป็นเมนูโปรด
อาทิ มะกอกรวม คาปรีเซ่สลัด ตับไก่บด ขนมปังขาไก่กระเทียมหรือพาร์เมซานพริก
แครกเกอร์ ถั่วลิสงรสต้มยำ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เบคอนและเชดดาร์ชีส ครูดิท เป็นต้น
ลูกค้ายังสามารถอัปเกรดกล่องกูร์เมต์ Live@Aloft – Home edition โดยสั่งเพิ่มเนื้อโคลด์คัทและชีสได้อีกด้วยราคากล่องเล็กเพิ่มอีก
299 บาท กล่องกลาง 499 บาท 699 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ https://onlinestorealoftbangkok.com/collections/live-aloft-home-edition
ข่าวที่สาม อพท.ลุยจัดสัมมนาขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์เที่ยวยั่งยืน22-23 มิ.ย.64
องค์การบริหารเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(อพท.) รายงานว่า ได้กิจกรรมขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(Thailand Creative Cities Network 2021)
โดยเชิญชวนผู้ประกอบการท่องเที่ยวร่วมฟังการเสวนากิจกรรมขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(Thailand Creative Cities Network 2021) รูปแบบออนไลน์ ระหว่างที่ 21 - 22 มิถุนายน 2564 โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน
โดยจะใช้เวทีนี้สร้างการรับรู้ประโยชน์การขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก
จัดปาฐกถาพิเศษจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านเมืองสร้างสรรค์ของประเทศไทยและเวทีเสวนาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับเมืองสร้างสรรค์ ระหว่างผู้ทรงคุณวุฒิ
นักพัฒนาพื้นที่นักวิชาการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในความรู้เรื่องเมืองสร้างสรรค์
ที่มีผลต่อการพัฒนาเมืองในหลายมิติ
ซึ่งจะส่งผลต่อการใช้ทรัพยากรพื้นที่ต่าง
ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผสมผสานกับทุนทรัพยากรบุคคลที่มีความสร้างสรรค์
ก่อให้เกิดการรังสรรค์ผลงานหลากหลายรูปแบบที่รวมกันเป็นเอกลักษณ์ของเมือง สร้างความโดดเด่นดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้เยี่ยมชมได้อย่างมีคุณภาพ
พร้อมสร้างงานและรายได้ต่อชุมชนในพื้นที่ให้มีทั้งคุณค่าและมูลค่าคู่ขนานกันไป
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น