ททท.นำทีมธุรกิจท่องเที่ยวระยองเร่งอัดฉีด6โปรเจ็กต์ดึงรายได้โค้งสุดท้ายปี’64 เที่ยวไม่ธรรมดากับ“ดา เอ็นโดรฟิน”พีค6ล้านวิว-จ่อทำหนังทัวร์ใต้ทะเลสุดอันซีน
ททท.นำทีมธุรกิจท่องเที่ยวระยองเร่งอัดฉีด6โปรเจ็กต์ดึงรายได้โค้งสุดท้ายปี’64
เที่ยวไม่ธรรมดากับ“ดา เอ็นโดรฟิน”พีค6ล้านวิว-จ่อทำหนังทัวร์ใต้ทะเลสุดอันซีน
ฮือฮา!“มัลติพลายบายเอท”กลุ่มคิงเพาเวอร์ปั้นโปรดักซ์ใหม่“คลิปหอม”5กลิ่น5สี
คิงเพาเวอร์เปิดคอลเลคชั่นใหม่ให้ช้อปด่วนกระเป๋าเก๋COACH-PRE FALL 2021
ช้อปคิงเพาเวอร์สุดคุ้มSUPER DEALS SUPER BRANDSลด30%ตลอดมิ.ย.นี้
ททท.ผนึกคิงเพาเวอร์ดึง3นักเตะเลสเตอร์ทำหนังปลุกหันทั่วโลกเที่ยวเมืองไทย
ททท.กาญจนบุรีโหมโปรโมตเทศกาลเที่ยวงานทุเรียนทองผาภูมิ 19-27 มิ.ย.64
เที่ยวพิพิธภัณฑ์“เจ้าสามพระยา”ชมความงดงามผ้าศิลปาชีพสัญจร23-27มิ.ย.นี้
“ศักดิ์สยาม”สั่ง“บก-น้ำ-อากาศ-ราง”10จังหวัดเตรียมพร้อมรับท่องเที่ยวต่างชาติ
ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง
ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.
ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋
#KingPower #TAT #ทททระยอง #เที่ยววันธรรมดาที่ไม่ธรรมดากับดาเอ็นโดรฟิน
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://fb.watch/6dcxjIhioU/
ช่วงที่
1 อัครวิชย์
เทพาสิต ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง
เร่งเครื่องโค้งสุดท้ายงัดแคมเปญกระตุ้นท่องเที่ยว 6 โปรเจ็กต์
ไฮไลต์ด้วยคาราวาน “เที่ยววันธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา กับ ดา เอนโดฟิน” หลัง MV ชุด
“ถ้าเธอโอเค” ปั๊มยอดแฟนคลับล้นหลามทะลุ 6 ล้านวิวแล้ว
จ่อเฮโลเที่ยวสวนพฤกษศาสตร์ อุทยานทางทะเล ในระยอง เริ่มปลาย มิ.ย.64
สร้างปรากฏการณ์ “ห้องพักเพิ่มวันธรรมดา” พร้อมเชิญ “KOL”
เร่งรีวิว แหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร สินค้าพื้นเมือง ดึง“ผู้กำกับมือดี”
ทำหนังสวย ๆ ชวนเปิดโลกใต้ทะเลกับ Unseen New Series
ระดมโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก เข้ามาตรฐาน SHA สร้างความเชื่อมั่นระยะยาว
นายอัครวิชย์
เทพาสิต ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง
เปิดเผยว่า หลังผ่านสถานการณ์ความท้าทายจากวิกฤตโควิด-19
ต่อเนื่องถึง 4 ครั้งมากกว่าพื้นที่อื่นในประเทศ
โดยมีกรณีโควิดทหารต่างชาติเข้ามาแล้วเกิดการแพร่ระบาดรวมอยู่ด้วยสั้น ๆ 10 วัน
ทาง
ททท.กับภาคธุรกิจต้องหาวิธีฟื้นฟูนักท่องเที่ยวกลับมาโดยอาศัยศักยภาพของระบบคมนาคมขนส่งสะดวก
บวกกับระยะทางอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 เป็นต้นไป
สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงพอสมควร
สถิติผู้ติดเชื้อโควิดไม่ได้อยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของระยอง
ตามเป้าหมาย
ททท.ได้ทำแผนการตลาดเชิงรุกมาตลอด
โดยสร้างแรงจูงใจลงมือทำการขายท่องเที่ยวทันทีต่อเนื่องหลังจากได้รับงบประมาณปี 2564
มาก็ลุยทำแต่ละส่วนอย่างเต็มที่ อัดฉีด กระตุ้น จึงทำให้ตัวเลขชี้วัด KPI จึงไม่ได้ห่วงเรื่องเป้าหมายรายได้ที่ตั้งไว้
เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้าย ระหว่างมิถุนายน-กันยายน 2564
ก็ยังตื่นตัวทำต่อเนื่อง โดยต้องประเมินสถานการณ์ภาพรวม กับนโยบายภาครัฐ
จะให้ขยับการท่องเที่ยวได้มากน้อยขนาดไหน
ททท.ระยองพยายามใช้เครือข่ายพันธมิตร
กับงบประมาณ กระตุ้นทุกโอกาส โดยจับมือกับกลุ่มพันธมิตรคอปอเรต
เพื่อจัดงานเทศกาลท่องเที่ยวให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น โปรโมตให้คนมาเที่ยว ไฮไลต์
คืองานดนตรี และกีฬา ชายหาด กำหนดจัดสิงหาคม หรือ กันยายน นี้
ดังนั้นหมู่เกาะต่าง
ๆ และพื้นที่ท่องเที่ยวทะเลบริเวณชายหาดต่าง ๆ
จึงเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการช่วงวันหยุดบ้างแล้ว
ช่วงก่อนเปิดเทอมมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (Occupacy Rate : OR สูงถึง 90 % หรือโรงแรมบางแห่งที่พักเต็ม
100 % พอเปิดเทอมแล้วสัปดาห์ปลายเดือนมิถุนายนนี้ยอดจองห้องพักลดลงเหลือประมาณ
40-50 % ปัจจัยอาจจะมาจากสภาพเศรษฐกิจ
นักท่องเที่ยววางแผนใช้เงินอย่างระมัดระวังมากขึ้น
ปรากฎการณ์ใหม่ที่พบคือนักท่องเที่ยวหันมา
“เที่ยววันธรรมดา” เพิ่มมากขึ้น เพราะสามารถลดความออัด ปฏิบัติตามมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม
(Social Distancing)
ได้ดี
รวมทั้ง
“ททท.ระยอง” ได้ประชุมร่วมกับผู้เกี่ยวข้องด้านท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดระยอง
ทั้ง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวระยอง
สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเกาะเสม็ด สรุปเป็นแผนงานที่จะเดินหน้าต่อไป อย่างน้อย 6
โครงการ ได้แก่
1.จัดแคมเปญภายใต้ชื่อ Sea You Rayong ตอกย้ำความเป็นทะเลธรรมชาติอันสวยงาม
เพราะคนไทยอาจจะนึกถึงแต่ทุเรียน ความจริงแล้วระยองยังมีหมู่เกาะและโลกใต้ทะเล
2.ททท.ระยอง
ร่วมกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำโปรแกรมท่องเที่ยว
รวมทั้งจะเตรียมนำเสนอภาพอันซีนของแนวปะการังดำน้ำลึกใต้ทะเล ภายใต้โครงการ Unseen New Series in Rayong
เผยแพร่ไปยังนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องโลกใต้ทะเล
3.โครงการความร่วมมือกับเพจที่มีศักยภาพ นำเสนอขายแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬา เชิงวัฒนธรรม
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรวมข้อมูลเชิงสร้างสรรค์ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมิถุนายน
นี้ จากนั้นจะเผยแพร่เชิญชวนให้คนในประเทศมาเที่ยวระยองช่วงครึ่งปีหลัง 2564
4.โครงการกด like กด Share เริ่มเฟสแรกแล้ว
โครงการ “ระยองเที่ยวทิพย์” พร้อมมอบของรางวัลสัปดาห์นี้ จากนั้นจะทำต่อทันทีเฟส 2 โดยมีของรางวัลน่ารักมอบใหม่
5.ร่วมกับ KOL :Key Operation Leader หรือผู้มีอิทธิพลต่อการปลุกผู้คนให้ออกมาเดินทางท่องเที่ยว
มีประมาณ 8-9 ราย
มาพูดคุยเพื่อเปิดมหกรรมรีวิวสินค้า มีทั้ง แหล่งท่องเที่ยว อาหาร
ผลิตภัณฑ์พื้นเมือง ผ่านเนื้อหาและภาพถ่ายสวยงาม
6.ททท.ระยองจับมือกับทางอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าเกาะเสม็ด
เชิญชวนศิลปิน หรือผู้กำกับภาพยนตร์ฝีมือดี ร่วมโครงการผลิตหนังท่องเที่ยวระยอง
เป็นกิจกรรมบูรณาการทำงานร่วมกันของแต่ละฝ่าย
สร้างการรับรู้ให้คนอยากเที่ยวระยองเพิ่มมากขึ้น
เมื่อเร็ว ๆ
นี้ ททท.ระยองยังได้จับมือกับ 28 สตูดิโอ ผลิต MV เพลงของ “ดา เอ็นโดรฟิน”
ในชื่อเพลง “ถ้าเธอโอเค” กระแสตอบรับดีมากมียอดกว่า 6
ล้านวิวแล้ว รวมทั้งมีคนเข้ามาคอมเมนท์แสดงความต้องการอยากมาเที่ยวระยองตาม MV เมื่อเปิดเมืองระยองอย่างเต็มที่
ช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ จะปล่อยคาราวาน “เที่ยววันธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา กับ ดา เอ็นโดรฟิน”
โดยผู้บริหาร ททท.ส่วนกลางให้การสนับสนุนเต็มที่ เพื่อให้ชวนกันไปตามรอยศิลปิน ดา
เอ็นโดรฟิน ไปท่องเที่ยว ไปถ่ายภาพสวย ๆ ที่ไหน ก็จะมีแฟนคลับเดินทางตามเส้นทางเหล่านั้นไปเที่ยวด้วย
โครงการ
“เที่ยววันธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา กับ ดา เอ็นโดรฟิน”
ได้เลือกนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวสาธารณะ เช่น ทุ่งโปรงทอง และสวนพฤกษศาสตร์ต่าง ๆ
ต้อนรับนักท่องเที่ยว และกำลังเตรียมโปรโมชั่นหากนักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบ
2 เข็มแล้ว
จะได้ส่วนลดค่าเข้าหรือค่าใช้บริการแหล่งท่องเที่ยวลดสูงสุดถึง 70 %
ขณะนี้ในระยองทยอยเปิดบริการ
“สถานที่ท่องเที่ยว” 4
ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ 1.อุทยานทางทะเล
หมู่เกาะต่าง ๆ ได้แก่ “เกาะเสม็ด” (แต่จะมีบางเกาะเล็ก ๆ ปิดตามแผนตามฤดูกาล) 2.สวนพฤกษศาสตร์ของเอกชน
เช่น สวนตะบองเพชร 3.ร้านอาหาร
เปิดบริการ 100 % 4.สวนผลไม้
รุ่นสุดท้ายกำลังใกล้ออกปลายเดือนมิถุนายน นี้
จะเริ่มสุกแก่พร้อมให้นักท่องเที่ยวมารับประทานได้ เช่น กินทุเรียนอร่อย
ยังมีบริการ โดยจะต้องตรวจสอบข้อมูลจากแต่ละสวนก่อนล่วงหน้า ยังคงมีหลายสวนมีผลไม้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่เหมือนกัน
ผอ.อัครวิชย์
กล่าวว่า “ระยอง” พร้อมรองรับโครงการของรัฐทั้ง “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3” และ
“ทัวร์เที่ยวไทย” ที่กำลังรอประกาศเดินทางได้อย่างเป็นทางการนั้น
ระยองเปิดทางเลือกใหม่ ๆ ด้วยใช้ช่องทางสื่อโซเชียล มีเดีย
ให้นักท่องเที่ยวเลือกมายัง สถานที่ท่องเที่ยวมนุษย์สร้างขึ้น ManMade ต่าง
ๆ พิพิธภัณฑ์ หรือุทยานทางทะเลมากมาย
พุ่งเป้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลัก
เป็นนักเดินทางจาก กรุงเทพฯ ภาคเหนือ ภาคกลาง
ซึ่งทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วระยองกระตือรือร้นมาก โดยมี
ททท.คอยช่วยเหลือให้คำปรึกษา
ถึงแม้ภาพรวมส่วนใหญ่คนจะไปเที่ยว
พัทยา ชลบุรี มากกว่า แต่ด้วยศักยภาพของ “ระยอง” ก็มีแม่เหล็กดึงดูดเพื่อเป็น
“ทางเลือก” จากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” กับ “ทัวร์เที่ยวไทย”
ช่วงก่อนเดิอนกันยายนนี้
ขณะเดียวกัน
ททท.กระตุ้นให้ “ธุรกิจหรือผู้ประกอบการ” แต่ละสาขา
เข้าร่วมลงทะเบียนเพื่อรับตราสัญลักษณ์มาตรฐาน SHA :Amazing Thailand Safety and Health Administration
ตอนนี้กลุ่มที่เข้าร่วมมากสุดคือธุรกิจโรงแรมได้มาตรฐาน
SHA เกินกว่า
80 % รวมถึงสมาชิกสมาคมท่องเที่ยวระยอง
เข้าร่วมเกือบทั้งหมดแล้ว ยังคงเหลืออีก 2 ธุรกิจ คือ
“ร้านขายของที่ระลึกกับร้านอาหาร” ต้องพยายามรณรงค์ต่อไป
ผอ.อัครวิชย์
ยืนยันว่า ขณะนี้ระยองสามารถท่องเที่ยวได้
ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบแล้วหรือไม่ก็ตาม
แต่จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุขด้านสุขอนามัย รวมทั้งขอฝากถึงนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวกรีน
ซีซัน หน้าฝน “อาหารทะเล” สดอร่อย ราคาถูกและดี ในบรรยากาศริมทะเล
มาระยองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 ฮือฮา!“มัลติพลายบายเอท”เครือคิงเพาเวอร์ปั้นโปรดักซ์ใหม่“คลิปหอม”5กลิ่น5สี
นายรวิ อิทธิระวิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัลติพลาย บาย เอท จำกัด บริษัทในเครือ คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ได้นำ X8 หรือ มัลติพลาย บาย เอท ออกแบบคิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกรูปแบบเหมาะกับการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ ๆ ล่าสุดนำผลิตภัณฑ์บุกตลาดที่เหมาะกับลักษณะการดูแลเฉพาะบุคคล (Personal Care) มุ่งสร้างเทรนด์การบริโภค (Consumer Trend) โดยได้จับประเด็นช่วงสถานการณ์ Covid-19 ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่ระบาด จึงนำเสนอทางเลือกช่วยแก้ปัญหาผู้บริโภคยุค New Normal อย่างเข้าใจ โดยใช้ดีไซน์มาช่วยแก้ปัญหากลิ่นอับ และความอึดอัดภายใต้หน้ากากอนามัย แล้วใส่ไอเดียเสริมประสิทธิภาพของใช้จำเป็นด้วย “คลิปหอม” ติดแมสก์ (Clever Mask Clip) ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ พาสเทล (Pastel)
ผลิตภัณฑ์ใหม่ “คลิปหอม” มีคุณสมบัติช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ใต้หน้ากากอนามัย ทำให้ลมหายใจโล่งสบาย รู้สึกผ่อนคลาย ได้กลิ่นหอมตลอดทั้งวัน ใช้งานสะดวก พกพาง่าย เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ให้ทุกวันเป็นวันสดชื่น” (Good days start with Pastel) พร้อมตั้งเป้าเดินหน้าพัฒนาแบรนด์และสินค้าของใช้อนาคตที่ทุกคนขาดไม่ได้ในยุค Next Normal
รวมถึงเป็นดีไซน์แรกของเมืองไทยจะมาพร้อม
5 กลิ่นหอม ต่างอารมณ์ หลากสไตล์ 5 สี 5 กลิ่น ราคาจับต้องได้ 1 ซอง 2 ชิ้น
ราคา 50 บาท
สามารถใช้ได้นาน 3-5 วัน พร้อมทั้งมีโปรโมชั่นช่วงแนะนำสินค้า
พิเศษ!! ซื้อ 4 กลิ่น แถมฟรี 1 กลิ่น (ได้รับครบทั้ง 5 กลิ่น SAVE 50 บาท) ส่งฟรี
ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2564 เปิดให้สั่งซื้อตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ผ่านทางออนไลน์ Facebook | Instagram | LINE : @pastelcreative ได้แก่
FACEBOOK : https://bit.ly/3zeknPV
INSTAGRAM : https://bit.ly/3wcsSca
LINE : https://lin.ee/0H2kFUH
ONLINE SHOP : https://bit.ly/3pQ4g6Z
หรือช่องทางการจัดจำหน่ายอื่น
ๆ King Power : https://www.kingpower.com/brand/pastelcreative
Shopee : https://bit.ly/3wjucKz
Lazada : https://bit.ly/3pGal5v
โดยมีผลิตภัณฑ์คลิปหอมให้เลือกช้อปกลิ่นที่ชื่นชอบดังนี้
1. กลิ่น BLOOMING IN SPRING กลิ่นดอกไม้ร่าเริง (ซองสีแดง) ปลุกความมีชีวิตชีวาไปกับกลิ่นเย็นชื่นใจ
แฝงความหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้
ให้ความรู้สึกสดใส ร่าเริง เหมือนอยู่ท่ามกลางดอกไม้นานาพันธุ์ ที่กำลังผลิบาน
2. WINTER FROST กลิ่นหนาวจับใจ (ซองสีน้ำเงินฟ้า) หอมเย็น สบายจมูก
กระตุ้นความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ชวนสัมผัสกลิ่นอายของเมืองหนาว
แม้อยู่ท่ามกลางอากาศร้อนของเมืองไทย
3. AFTER THE RAIN กลิ่นสุขหลังฝน (ซองสีเขียว) ช่วยให้รู้สึกสงบ สดชื่น ผ่อนคลายไปกับกลิ่นหอมเย็น ชุ่มชื่น เหมือนได้อยู่ในบรรยากาศท่ามกลางแมกไม้เขียวชอุ่มหลังหยาดฝนโปรยปรายเพิ่งขาดสายไป
4. SUMMER MORNING กลิ่นอาทิตย์สดใส (ซองสีส้ม) ช่วยปรับอารมณ์ให้กระฉับกระเฉง สดใสดั่งแสงแรกยามเช้า ด้วยกลิ่นหอมสะอาด เบาสบาย ให้ความรู้สึกสดชื่น สดใสเหมือนเริ่มวันใหม่ตลอดทั้งวัน
5. MIDNIGHT IN FALL กลิ่นเวลาแสนสงบ (ซองสีม่วง) ช่วยละทิ้งจากความวุ่นวาย เข้าสู่บรรยากาศของความสงบเสมือนยามค่ำคืน
ด้วยกลิ่นหอมสดชื่นที่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ปลอดโปร่ง มีสมาธิ
นายรวิ กล่าวเพิ่มว่า ผลิตภัณฑ์ Pastel Clever Mask Clip จะได้รับความสนใจจากกลุ่มตลาดคนรุ่นใหม่ที่อาศัยอยู่ในเมือง ซึ่งเคร่งเครียดในชีวิตประจำวัน กลุ่มแรก “นักเรียนนักศึกษา” ต้องอ่าน ท่องจำ จึงต้องใช้สมาธิ และ “กลุ่มวัยทำงาน” โดยเฉพาะงานด้านบริการ ได้รับความกดดันสูง รวมทั้ง “กลุ่มผู้ที่กำลังมองหาไอเท็มที่ดีต่อภาพลักษณ์” ชื่นชอบสุนทรีย์ของกลิ่น ให้คุณค่าต่องานสร้างสรรค์และดีไซน์ หรือทันกระแสสังคม (Fashion Follower) จึงคาดการณ์คลิปหนีบแมสก์ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต จะเป็นไอเท็มใหม่ของยุค Next Normal อย่างแน่นอน
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์เปิดคอลเลคชั่นใหม่ให้ช้อปด่วนกระเป๋าCOACH-PRE FALL 2021
คิง
เพาเวอร์ นำเรื่องราวของแบรนด์ Coach เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่
“Pre Fall 2021” โดยมีเหล่าสมาชิก Coach Family ได้แก่ Hari
Nef, Dree Hemingway และ Rickey Thompson มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวมิตรภาพในการเดินทางท่องเที่ยว
ที่มีทั้งความสนุกสนาน อิสรเสรี และการผจญภัย
โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิสัยทัศน์ในจิตวิญญาณที่รักอิสระของ Stuart
Vevers ครีเอทีฟไดเรกเตอร์
ผสมผสานกับงานฝีมือที่สืบทอดต่อกันมาจนกลายเป็นมรดกเฉพาะแบรนด์ สอดแทรกเข้ากับการแต่งกายสปอร์ตแวร์ของคนอเมริกัน
นำเสนอผ่านมุมมองความคลาสสิกแบบสปอร์ตวินเทจ
Coach
พร้อมแล้วที่จะให้เหล่าสาวกมาร่วมออกเดินทางไปกับกระเป๋าจากคอลเลคชั่น
“Pre Fall 2021” ได้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี (เปิดวันเสาร์
– อาทิตย์ ตลอดเดือนมิถุนายน 2564) พัทยา และภูเก็ต
การนำคอลเลคชั่นรุ่นดั้งเดิมอย่าง
The Coach Originals Quilties กระเป๋าหนังนุ่ม Nappa
และผ้าเดนิมลายซิกเนเจอร์ ตามด้วยชุดเดรสลายดอกไม้
ไปจนถึงเสื้อไหมพรมถักลายทำด้วยมือ มาร่วมบอกเล่าเรื่องราวใหม่ๆ
ในคอลเลคชั่นนี้ด้วย
ครั้งนี้ได้ช่างภาพชื่อดัง
Max Farago นำเสนอมุมมองความมีชีวิตชีวาของทิวทัศน์ทุ่งหญ้าท่ามกลางแสงแดดบรรยากาศนอกเมืองลอสแอนเจลิส
ถ่ายทอดเรื่องราวของเพื่อนๆ ที่มีทั้งความสนุกสนาน อิสระ
และการท่องเที่ยวผจญภัยด้วยรถในช่วงฤดูร้อน
Stuart
Vevers กล่าวว่า “คอลเลคชั่น Pre Fall นี้
ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ‘ความคิดถึง’ ‘อิสระ’ และ ‘ความหวัง’ ซึ่งทั้ง 3 ความรู้สึกนี้จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน
เราจึงนำมาเชื่อมโยงเป็นเรื่องราวของการผจญภัยครั้งใหม่ๆ
เข้ากับงานฝีมือมรดกทางวัฒนธรรมของ Coach และกลิ่นอายความเป็นสปอร์ตแวร์
เพื่อทำให้คอลเลคชั่นนี้มีชีวิตชีวา ผ่านการแสดงของเหล่า Coach Family ซึ่งได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับมิตรภาพและการได้อยู่ร่วมกันในช่วงเวลาสั้นๆ”
แคมเปญนี้
ยังได้รวมคำพูดของเหล่านักแสดงจากการพูดคุยร่วมแชร์ความทรงจำในการขับรถเที่ยว
และสิ่งที่พวกเขารอคอยมากที่สุดในฤดูร้อน กับคำพูดที่ว่า “Dream
on” ซึ่งคำนี้จะปรากฏอยู่บนเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นนี้ด้วย
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ นำเสนอ NEW ITEMS ADDED! SUPER DEALS SUPER BRANDS สินค้าเข้าใหม่น่าช้อป
พร้อมดีลสุดคุ้ม ให้คุณช้อปที่บ้านได้อย่างปลอดภัย ระหว่าง– 30 มิถุนายน 2564 มอบส่วนลดสูงสุดถึง 30% เมื่อช้อปครบ 2,000 บาท พร้อมกับใส่รหัสส่วนลด SUPERDB ช้อปเลยที่ - https://bit.ly/2RTS0pp
โดยมีสินค้าราคาพิเศษ
ละลานตามาให้เลือกคลิกสั่งซื้อทางออนไลน์ www.kingpower.com และแอพลิเคชั่น
King Power ทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ สกินแคร์
เครื่องสำอาง น้ำหอม สินค้าแฟชั่น แว่นตา นาฬิกา และสินค้าแบรนด์ดังอีกมากมาย
แจกสิทธิประโยชน์เพียบ
ดังนี้ 1.ส่งฟรี! ทั่วประเทศ เมื่อช้อปครบ 699.- (สุทธิ) 2.แบ่งชำระ 0%* นานสูงสุดถึง
10 เดือน 3.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 600.-*
> http://bit.ly/2OzUV1k 4.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง > http://bit.ly/31yjocR(ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
5.รับเลย! ส่วนลด 200.-
เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ > http://bit.ly/2S4uJyi
6.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000.-
(สุทธิ) > https://bit.ly/3lyQbrs
ข่าวที่ 4 ททท.ผนึกคิงเพาเวอร์ดึง3นักเตะเลสเตอร์ทำหนังปลุกทั่วโลกหันเที่ยวเมืองไทย
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ได้จับมือกับกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
ธุรกิจคนไทยเจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ นำ 3 นักเตะเลสเตอร์ ซิตี้ ร่วมเป็นพรีเซนเตอร์ผลิตภาพยนตร์โฆษณาการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาลไทยในโครงการ
“ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ : Phuket Sandbox” เพื่อนำร่องเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาภูเก็ตได้ภายในเงื่อนไขมาตรการความปลอดภัยเต็มรูปแบบเริ่มตั้งแต่
1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป
ททท. จึงได้ขยายความร่วมมือกับกลุ่มบริษัท คิง
เพาเวอร์ เอกชนไทยที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนภาครัฐทำประชาสัมพันธ์ประเทศไทยมาโดยตลอด
โดยมีโครงการไฮไลต์คือ Thailand smiles
with you :
ยิ้มให้โลก ให้โลกยิ้ม” สื่อสารถึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก ล่าสุดยังร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวทำแคมเปญ
"Phuket is now open" ภายใต้แนวคิด "Amazing Thailand, Now even more Amazing"
โดยได้นำกีฬามาเป็นจุดดึงดูดให้เกิดการท่องเที่ยว หรือ Sport Tourism เชิญนักฟุตบอลสังกัด สโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์ เอฟเอ คัพ ปีนี้ 3 คน คือ เจมส์แมดดิสัน (James Maddison) ฮาร์วีย์บาร์นส (Harvey Barnes) เคลิซี่ อิเฮียนาโช่ (Kelechi Iheanacho) มาร่วมในภาพยนตร์โฆษณา เพื่อบอกถึงเรื่องราวแห่งความประทับใจในรอยยิ้มของคนไทยและความตื่นตาตื่นใจมากกว่าเดิม ที่กำลังรอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนอยู่ในภูเก็ต
ททท.เตรียมเผยแพร่ผ่านช่องทางต่าง ๆ ประกอบด้วย 1.สื่อต่างประเทศทางสถานีโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ ได้แก่ BBC World News และ Euro News 2.ช่องทางประชาสัมพันธ์ของ King Power 3.ช่องทางประชาสัมพันธ์ของสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ 4.ช่องทางประชาสัมพันธ์ของ Dug out (บริษัทมีเดียเฉพาะด้านฟุตบอลระดับโลก) ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป
นายธเนศวร์กล่าวว่า ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว
เมื่อเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยว ผนวกกับตอกย้ำการจดจำแบรนด์ Amazing Thailand ภายใต้แนวคิดการสื่อสาร “Amazing Moments” สร้างให้ประเทศไทยคงอยู่ในใจนักท่องเที่ยวหรือ Top of mind ด้วยภาพลักษณ์ที่แตกต่าง ปลอดภัย และประทับใจ โดยตั้งเป้าหมายสร้างการรับรู้การเข้าถึงผู้ชมรวมกว่า
44 ล้านคน/ครั้ง จากสื่อออฟไลน์ต่างประเทศ 20 ล้านคน/ครั้ง
และสื่อออนไลน์ต่างประเทศ 24 ล้านคน/ครั้ง
มุ่งเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเดินทางในเวลาอันใกล้ โดยเฉพาะ 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.มิลเลนเนียล 2.กลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) 3.กลุ่มครอบครัว 4.กลุ่มชาวต่างประเทศที่พำนักในประเทศไทย
(EXPAT)
สำหรับภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ ททท.ใช้ชื่อ "Amazing Moments in Phuket" โดยมุ่งเน้นสื่อสารผ่านโปสการ์ดซึ่งเป็นกระดาษแห่งความทรงจำที่ถ่ายทอดความคิดถึงรอยยิ้มของคนไทยและแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตด้วยกิจกรรมเชิงกีฬา ที่น่าตื่นตาตื่นใจ อาทิ การดำน้ำ กระดานโต้คลื่น การล่องเรือ การกระโดดร่มพาราชู้ต ไตรกีฬา รวมทั้งได้อยู่กับห้วงเวลาอันประทับใจกับทิวทัศน์ที่สวยงามของแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ การเดินชมย่านเมืองเก่า และลิ้มลองอาหารที่มีความหลากหลาย ในเมืองท่องเที่ยวภูเก็ตที่มีชื่อเสียงได้รับความนิยมติดอันดับโลก
ข่าวที่ 5 ททท.เมืองกาญจน์โหมโปรโมตเที่ยวงานทุเรียนทองผาภูมิ 19-27 มิ.ย.64
นางสาวปิยพัชร์วงศ์โดยหวัง ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่สนับสนุนการจัดงานเทศกาล “ทุเรียนทองผาภูมิและผลไม้จังหวัดกาญจนบุรี ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 19-27 มิถุนายน 2564 ณ สวนไทรโยครีสอร์ท อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี โดยทุกฝ่ายพร้อมจะผลักดันการสร้างแบรนด์ “ทุเรียนทองผาภูมิ” ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งกำลังขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ( GI:Geographical Indication) สร้างมูลค่าเพิ่มและขยายความต้องการไปยังผู้บริโภค เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรในท้องถิ่น ประการสำคัญยังได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวสวนผลไม้ชุมชนควบคู่กันไปด้วยในระยะยาว
การจัดงานเทศกาลทุเรียนทองผาภูมิและผลไม้
ครั้งที่ 1 ททท.ร่วมกับทาง สมาคมการค้าอาหารจังหวัดกาญจนบุรี เครือข่ายธุรกิจ Biz
Clubจังหวัดกาญจนบุรี กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่
หอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี(YEC) และเจ้าของสวนไทรโยครีสอร์ท
ในอำเภอทองผาภูมิยังผลไม้ตามฤดูกาลอร่อย ๆ เช่น เงาะทองผาภูมิ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งมี ส้มโอ มังคุด อินทผลัมสด ให้เลือกซื้อไปพร้อม ๆ กับการเดินทางมาพักผ่อน สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจี
ระหว่างที่ 19-20 มิถุนายน 2564 ททท.ยังได้สนับสนุน บริษัท เจ.ทราเวล จำกัด จัดแพกเกจทริปเยี่ยมชมสวนทุเรียนทองผาภูมิ วันที่ 19-20 มิถุนายน 2564 โดยทางพาณิชย์สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งใจที่จะทำเรื่องขอดัชนีชี้วัดทางภูมิศาสตร์ GI ทุเรียนทองผาภูมิ ต่อจากเงาะทองผาภูมิได้ขึ้นทะเบียน GI เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับมีโปรแกรมพาเที่ยวเที่ยวอุโมงค์ 3 มิติ แพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์เมืองกาญจนบุรี
แพกเกจท่องเที่ยว ชิมผลไม้ทองผาภูมิ สายพันธ์ที่ได้รางวัลชนะเลิศระดับนานาชาติ นั่นคือพันธ์พวงมณี ที่สวนของลุงเบิ้ม ราคาคนละ 999 บาท ประกอบด้วย 1. ค่ารถตู้ วีไอพี นั่งคันละ 8 ท่าน (มีมาตรการความปลอดภับ SHA มาตรฐานของ ททท. และสาธารณสุข) 2. ค่าอาหารกลางวัน (นั่งโต๊ะละ 4 คน ตามมาตรฐานความปลอดภัย SHA และการบริการแบบ New Normal) 3. ค่ารถโฟล์วีลพาเที่ยวชม อุโมงค์ 3 มิติ และยอดเขาเอเวอเรสต์เมืองกาญจน์ 4. ค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทาง คนละ 1,000,000 บาท
ข่าวที่ 6 TCEBกอดคอTEAลุยงานเอ็กซิบิชั่นครึ่งปีหลัง64-ปี’65ดัน5โปรเจ็กต์ทำเงิน
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้จัดประชุมออนไลน์ เตรียมวางแผนขับเคลื่อนตลาดในอุตสากรรมไมซ์ทั้งในและต่างประเทศช่วงงบประมาณครึ่งปีหลัง 2564 ต่อเนื่องปี 2565 ร่วมกับสมาคมจัดแสดงสินค้า (TEA) เตรียมเดินหน้ากิจกรรกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มผู้ประกอบการ ประกอบด้วย 5 โครงการหลัก ได้แก่
ช่วงครึ่งปีหลัง 2564 ลุยทำโครงการที่ 1 จัดงานแสดงสินค้าในประเทศที่สงขลาและเชียงใหม่
ปี 2565 จะเดินหน้าทำต่อเนื่องอีก 4 โครงการ
ได้แก่
โครงการที่ 2 จัดกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจงานเอ็กซิบิชั่นในประเทศต่อเนื่องในแต่ละภูมิภาค
โครงการที่ 3 จัด Roadshow ที่จังหวัดพิษณุโลกและอุดรธานี
โครงการที่ 4 ทำ Focus city และกิจกรรมบูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน ควบคู่ โครงการ ที่ 5 Familiarization Trip จังหวัดนครศรีธรรมราช และพื้นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายฝั่งทะเลตะวันออก ( EEC :Eastern Economic Coridor)
ตามแผนทีเส็บกับสมาคม TEA จะเป็นผู้นำการขับเคลื่อน และรองรับการขยายตัวของงานแสดงสินค้าในประเทศ หรือเอ็กซิบิชั่น (E :Exhibition) เดินหน้านำอุตสาหกรรมไมซ์ร่วมพลิกฟื้นเศรษฐกิจทั่วภูมิภาคของประเทศ กระตุ้นให้เกิดการกระจายรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ช่วงที่ 2 ตอนนี้บางพื้นที่เริ่มออกเที่ยวได้แล้ว จะชวนไป “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชมงาน “นิทรรศการผ้าศิลปาชีพสัญจร (Craft Journey: The SUPPORT Textiles Traveling Exhibition) หรือ Craft Journey “ ระหว่าง 23-27 มิถุนายน 2564 ตื่นตากับมรดกความงามของผ้าไทยหาชมได้ยาก แล้วฟังเรื่องการ “เดินแค่วันละ 1,000 ก้าว” ป้องกันโรคหัวใจได้ และข่าวคมนาคม เด้งรับเปิดประเทศ “บก-น้ำ-อากาศ-ราง” ตบเท้ารับนโยบายลุยยกเครื่องบริการในพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่องรับต่างชาติ 10 จังหวัด
เที่ยวพิพิธภัณฑ์“เจ้าสามพระยา”ชมผ้าศิลปาชีพสัญจรดื่มด่ำมรดกไทย23-27มิ.ย.นี้
การออกเดินทางไปหาประสบการณ์ใหม่ช่วงปลายเดือน มิถุนายน นี้ สถานที่ให้ความรู้เปิดบริการแล้ว ตามนโยบายรัฐบาล ที่จะชวนไปใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เพื่อชมความงดงามที่ยิ่งใหญ่ “นิทรรศการผ้าศิลปาชีพสัญจร (Craft Journey: The SUPPORT Textiles Traveling Exhibition) หรือ Craft Journey “ ใน “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เปิดให้เข้าชมฟรี ระหว่างวันที่ 23-27 มิถุนายน นี้ ตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนกระทั่งถึง 4 โมงเย็น
โดยทางพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา จับมือกับ “พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ร่วมกันจัดนิทรรศการผ้าศิลปาชีพสัญจร (Craft Journey: The SUPPORT Textiles Traveling Exhibition) หรือ Craft Journey ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 88 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม
ภายในงานนิทรรศการ นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่หลงรักผ้าไทย จะได้ตื่นตากับเนื้อหามากมาย ทั้งเรื่องเกี่ยวกับการทรงงานด้านผ้า และประวัติการก่อตั้งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ การจัดแสดงให้มีผ้าทอประเภทต่าง ๆ รวมถึงการถ่ายทอดกระบวนการทอผ้า การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม วงจรหนอนไหมและแมลงทับสีธรรมชาติ เรื่อยไปจนถึงห้องสมุดเคลื่อนที่
ดูข้อมูลการสัญจร ได้ที่ Facebook : Craft Journey
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สนับสนุน และเชิญชวนคนที่มีผ้าไทยอยู่ในหัวใจ ต้องห้ามพลาด นัดมาเจอกันได้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ภายในวันที่ 27 มิถุนายน นี้
'เดิน'แค่วันละ1,000 ก้าวหนึ่งในวิธีออกกำลังกายให้ห่างไกล'โรคหัวใจ'
มีการเผยแพร่งานวิจัยชิ้นใหม่ที่พบว่า
การออกกำลังกายด้วยการ "เดิน" ให้มากขึ้นในแต่ละวัน
สามารถช่วยให้คุณมีอายุยืนยาวได้ โดยเป็นผลงานวิจัยเรื่อง
"การระบาดและการป้องกัน : ไลฟ์สไตล์และสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด"
จากสมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกา
ระบุว่าผู้ที่เดินบ่อย ๆ เดินมาก ๆ จะมีอายุยืนยาวกว่าผู้ที่เคลื่อนไหวน้อย แต่จะต้องเป็นการเดินออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
เดินแบบกระฉับกระเฉง ไม่ใช่เดินเรื่อยเปื่อย
แค่ "เดิน" ออกกำลังกายให้ได้วันละ 1,000 ก้าว ก็ช่วยลดความดันโลหิต และห่างไกลจาก "โรคหัวใจ" แล้วควรเดินอย่างไรให้ครบ 1,000 ก้าวทุกวัน? ได้ง่าย ๆ
1.วิธีกระตุ้นตัวเองให้เดินได้ 1,000 ก้าวต่อวัน
เคล็ดลับที่จะทำให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายการเดินให้มากขึ้นวันละ
1,000 ก้าว คือให้ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองทีละน้อย อย่าหักโหมตั้งแต่ตอนแรก
อาจเริ่มด้วยกิจกรรมเหล่านี้ ได้แก่
1.1 เดินเล่นในช่วงพักกลางวัน ทำความสะอาดบ้าน หรือเดินอยู่กับที่ขณะดูทีวี
1.2 เปลี่ยนมาเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์
1.3 เดินเป็นระยะทางไกลขึ้นไปยังจุดหมายปลายทาง เช่น หากขับรถไปทำงาน ลองเลือกที่จอดรถที่ไกลออกไป และใช้การเดินไปยังอาคารให้มากขึ้น
2.การเดินดีต่อสุขภาพทั้งระยะสั้น และระยะยาว
ดร.เจนนิเฟอร์ หว่อง แพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจและผู้อำนวยการคลินิกโรคหัวใจและหลอดเลือด MemorialCare ศูนย์การแพทย์ออเรนจ์โคสต์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ระบุว่า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้ เพราะเกิดการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ทำให้ระดับไขมันในเลือดลดลง
อีกทั้งการ "เดิน" ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ ซึ่งโรคหัวใจถือเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ของชาวอเมริกัน โดยข้อดีของการเดินแบ่งเป็น 2 ระยะคือ
3.1 ข้อดีระยะสั้น : คนที่เดินมากขึ้นจะมีร่างกายแข็งแรงขึ้น และสมรรถภาพต่างๆ ทางร่างกายดีขึ้น การเดิน ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และช่วยป้องกันการหกล้มและการบาดเจ็บ
3.2 ข้อดีระยะยาว : การเพิ่มจำนวนก้าวในแต่ละวัน จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะหัวใจหยุดเต้น และลดการเสียชีวิตได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ศักดิ์สยาม”สั่ง“บก-น้ำ-อากาศ-ราง”10จังหวัดเตรียมพร้อมรับท่องเที่ยวต่างชาติ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้จัดประชุมกับผู้บริหารหน่วยงานคมนาคมทั้งหมดเพื่อ
“เตรียมความพร้อมด้านคมนาคมเพื่อรองรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ” ทั้งทางบก
ทางน้ำ ทางอากาศ ช่วงไตรมาส 3-4
ปีนี้
ตามที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศในพื้นที่นำร่อง 10
จังหวัด โดยมี “ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์” เป็นโมเดลที่จะเริ่มเปิดรับต่างชาติวันที่ 1
ก.ค. 2564
จากนั้นจะขยายไปยังพื้นที่อื่น 9 แห่ง ได้แก่ พังงา กระบี่
เกาะสมุย ชลบุรี (พัทยา) เชียงใหม่
กรุงเทพ ชะอำ หัวหิน และบุรีรัมย์ ดังนั้นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมจะต้องเตรียมความพร้อมด้านคมนาคมให้ครอบคลุมทั้งหมด
ประกอบด้วย
“ทางอากาศ” ทั้ง 3 หน่วยงาน
ต้องวางแผนปฏิบัติการให้ชัดเจน คือ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.”
และกรมท่าอากาศยาน “ทางน้ำ “ มี กรมเจ้าท่า
ดูแลรับผิดชอบท่าเรือท่องเที่ยว และท่าเรือสาธารณะ “ทางบก”
มี กรมการขนส่งทางบก “ทางราง”
มีกรมการขนส่งทางราง และการรถไฟแห่งประเทศไทย จะต้องเร่งมือเตรียมความพร้อมทั้ง 10
พื้นที่ โดยจะต้องมีแผนปฏิบัติการ ดังนี้
1.ทุกหน่วยงานจัดทำ Checklist และ Timeline เพื่อตรวจสอบความพร้อมตามมาตรฐานสาธารณสุข และมาตรฐานด้านความปลอดภัย ในการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพื่อสร้างความมั่นใจด้านคมนาคมในการเดินทาง
2.ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการบริการอย่างเป็นมิตร
(Service Mind) กับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อให้เกิดความประทับใจแรกที่ได้กลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกครั้ง
(First Impression) และเตรียมพร้อมกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน (Emergency
Case )
3.ทุกหน่วยงานต้องให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนให้แก่เจ้าหน้าที่ด่านหน้าให้ครบ
100 % เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ รวมทั้งพิจารณาการตรวจระดับภูมิคุ้มกันภายหลังการฉีดวัคซีนครบ
2 เข็มแล้ว
ขณะนี้ทุกฝ่ายได้รับนโยบายคมนาคม
ไปเร่งปรับปรุง พัฒนา ให้แต่ละเรื่อง ให้เสร็จสมบูรณ์
พร้อมจะเข้าสู่แผนปฏิบัติการเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาลนำร่อง 1 กรกฎาคม
นี้ ต่อเนื่องถึงการประกาศเปิดประเทศ ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ภายใน 120 วัน
หรือประมาณต้นเดือนตุลาคม 2564
เป็นต้นไป
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น