“พิพัฒน์ รัชกิจประการ”ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์64+ถอดรหัสNewNormalปี’65 จัดทัพSafety Zone ทวงคืนเป้าท่องเที่ยว2.2ล้านล้าน-ปูพรมรอฟ้าใสปี’66
“พิพัฒน์ รัชกิจประการ”ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์64+ถอดรหัสNewNormalปี’65
จัดทัพSafety Zone ทวงคืนเป้าท่องเที่ยว2.2ล้านล้าน-ปูพรมรอฟ้าใสปี’66
นายพิพัฒน์
รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเวทีปาฐกถาพิเศษผ่านออนไลน์
Zoom หัวข้อ
“การยกระดับแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัย : Safety Zone เที่ยวปลอดภัย ห่างไกล โควิด-19” เมื่อวันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 เวลา 9.00-12.00 น.ยืนยันนโยบายใส่เกียร์เดินหน้าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ
2 ปีนี้
ระหว่างกรกฎาคม-ธันวาคม 2564 และปี 2565
ปี 2564
จะใช้โครงการ “ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์”
เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่ภูเก็ตตามนโยบายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์
จันทร์อาชา เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม
2564 ตั้งเป้าหลังภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์
ประสบความสำเร็จ ช่วงกรกฎาคม-ธันวาคม 2564 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม
3-4 ล้านคน และมีนักท่องเที่ยวในประเทศ
100 ล้านคน-ครั้ง
สร้างรายได้รวม 800,000 ล้านบาท แล้วถ้าปีนี้สามารถส่งลูกได้ดีทำให้ท่องเที่ยวมีรายรับเป็นฐานที่ดีแล้ว
ปี 2565 ก็มีโอกาสเติบโต
เพราะตอนนี้การกระจายวัคซีนฉีดป้องกันโควิด-19 ตามประกาศของนายกรัฐมนตรีภายใน 31 ธันวาคม นี้ คนในประเทศจะได้รับการฉีด 70-80
% โดยรัฐบาลจะสามารถหาวัคซีนมาได้ 100
ล้านโด๊ส
ต่อเนื่องถึงปีหน้าจะได้วัคซีนรวมถึง 150 ล้านโด๊ส
ปี 2565
รมว.พิพัฒน์ ย้ำว่าจะพุ่งเป้าเพิ่มความเข้มข้นด้วยนโยบาย
“ท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal ครอบคลุม 4 ด้าน : สะอาด สะดวก ปลอดภัย รักษ์สิ่งแวดล้อม”
ตั้งเป้ากระตุ้นท่องเที่ยว รวม 2.2 ล้านล้านบาท
จาก “ตลาดในประเทศ” 160 ล้านคน-ครั้ง
สร้างรายได้ 7 แสนล้านบาท และ
“ตลาดต่างประเทศ” มาไทยให้ได้ถึง 20 ล้านคน
รายได้รวม 1.5 แสนล้านบาท
โดยจะขอให้ ททท.ทั่วโลก 29
สำนักงาน ช่วยกันโปรโมตให้นักท่องเที่ยวดึงรายได้กลับมาได้ถึง 70 %
โดยย้ำให้ทุกภาคส่วนเข้าใจถึงตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียง “เป้าหมาย” ตามนโยบาย New Normal ซึ่งเกิดจากท่องเที่ยวทั้งอุตสาหกรรมจะต้องปรับราคาขึ้นตามความเป็นจริง ตัวอย่าง “เกาะมัลดีฟ” เปิดรับต่างชาติท่องเที่ยวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ช่วงแรกมีนักท่องเที่ยวเข้าไปแค่หลัก 1,000 คน จากนั้นเพียงเดือนเดียวเพิ่มขึ้นถึง 100,000 คน ทางโรงแรม ร้านอาหาร และอื่น ๆ ปรับขึ้นราคาใหม่ทั้งหมด เนื่องจากปัจจัยที่จะต้องบริหารจัดการความยากลำบากจากโควิดนั่นเอง
ขณะที่ “ประเทศไทย” ตอนนี้ยัง “แข่งขันกันลดราคา” เมื่อถึงโอกาสต้องฟื้นฟูก็ขอให้ภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องทำ ภายใต้เงื่อนไขวิถีใหม่ นั่นคือ “เร่งพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการให้ดีขึ้น” แตกต่างไปจากเดิม
ล่าสุดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) รายงานว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากอเมริกาเริ่มวันที่ 9 กรกฎาคม 2564แล้วก็จะทยอยมาเรื่อย ๆ
จากนั้นปลายเดือนกรกฎาคมนี้จะมี “ทหารเรือจากอังกฤษ” ที่พักการซ้อมรบ เข้ามาอีก 400-500
คน พักภูเก็ตประมาณ 1 สัปดาห์ สำหรับตลาดภาพรวมจากอเมริกา สหภาพยุโรป
ยกเว้นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงยังไม่รับเข้าภูเก็ต ทั้งจากเอเชียใต้ แอฟริกา
เพราะต้องช่วยกันประคองและหาวิธีทำให้ ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ ปลอดภัย
เพราะนายกรัฐมนตรีย้ำหนักแน่นรัฐกระจายวัคซีนครบตามจำนวนที่จะใช้ฉีดคนในพื้นที่ตามเป้าหมาย
ภูเก็ต
แซนด์ บ็อกซ์ จะเป็นโมเดลเปิดทางให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวปลายปีนี้ ต่อเนื่องปี 2565-2566
ซึ่งจะเป็นช่วงฟื้นฟูทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศกลับมามีมูลค่าใกล้เคียงกับปี
2562 เพราะหลายประเทศยังไม่ยอมเปิดให้ประชาชนของตนเองออกไปเที่ยวต่างประเทศ
เกรงจะไปนำเชื้อโควิดจากที่อื่นเข้ามาแพร่ในประเทศนั่นเอง
รมว.พิพัฒน์ กล่าวว่าการทำนโยบายท่องเที่ยวแบบ New Normal ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2565 ประกอบด้วย
1.มุ่งเน้นเพิ่มความปลอดภัยด้านสุขอนามัย 1.อาหารต้องสะอาด 2.บริการดูแลเป็นอย่างดี และ 3.ความเป็นธรรมไม่เอาเปรียบหรือหลอกขายทัวร์ รวมทั้ง 4.รับผิดชอบต่อสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่ง
“ผมได้กำชับสำนักงานตำรวจท่องเที่ยว จะต้องติดตั้ง CCTV ปูพรมเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด ตามเมืองในแหล่งท่องเที่ยวหลักที่ได้รับความนิยมจากต่างชาติ เปรียบเทียบกับต่างประเทศตำรวจจะมีกล้องติดอยู่อกเสื้อเกือบทุกคน เพื่อนถ่ายภาพแล้วนำมาเป็นหลักฐาน กำลังขออนุมัติงบประมาณจากนายกรัฐมนตรี เป็นอีกแนวทางในการพัฒนาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว”
2.จัดอบรมสัมมนา เพิ่มศักยภาพบุคลากร ควบคู่กับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เพื่อกระจายรายได้ท่องเที่ยวท้องถิ่น ตามนโยบายของผู้นำประเทศ ตอนนี้ทางกรมการท่องเที่ยว และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) พร้อม ๆ กับการเติมเต็มด้านการสื่อสารระหว่างมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่จะถ่ายทอดเนื้อหาคุณค่าขอสถานที่ท่องเที่ยวไปยังนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติ
3.ส่งเสริมสินค้าท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทางกรมการท่องเที่ยว มีแนวคิดจะให้บริษัทนำเที่ยวเปิดเส้นทางขายท่องเที่ยวกัญชง-กัญชา ทางการแพทย์ ตัวอย่าง เส้นทางท่องเที่ยวแหล่งปลูก และโรงพยาบาลที่นำมาแปรรูปเป็นสมุนไพรทั้งที่อภัยภูเบศร์ เชื่อมโยงกับเข้าการท่องเที่ยว “โฮมสเตย์” จัดโปรแกรมแต่ละคอร์ส สร้างการรับรู้คุณค่าของสมุนไพรไทยสามารถนำมาใช้ด้านสุขภาพได้
ทั้งนี้ “คนในพื้นที่ภูเก็ต” ปัจจุบันการนำวัคซีนป้องกันโควิด-19 ลงพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดภูเก็ต ตอนนี้คนอายุ 18 ปีขึ้นไป น่าจะได้ครบร้อยเปอร์เซนต์
ขณะที่ “ต่างชาติ” ที่จะเดินทางเข้าภูเก็ต จะต้อง 1.ฉีดให้ครบ 14 วัน และไม่เกิน 1 ปี 2.ต้นทางมาจากประเทศมีความเสี่ยงต่ำหรือปานกลาง 3. เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีเดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครอง เด็กอายุระหว่าง 6-18 ปีต้องสวอปหาเชื้อโควิดทันทีที่สนามบินภูเก็ต 4.นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องแสดงเอกสารการตรวจเชื้อหรือฉีดวัคซีนยี่ห้อที่กฎหมายรับรองหรือองค์กรอนามัยโลก (World Health Organization :WHO) ขึ้นทะเบียนแล้วเท่านั้น 5.ติดตั้งแอพลิเคชั่น 6.ต้องเข้าพักในโรงแรม/รีสอร์ตที่ได้ตราสัญลักษณ์ SHA เท่านั้น 7.เดินทางท่องเที่ยวอยู่ในภูเก็ตได้ 8.ต้องรายงานตัวการตรวจเชื้อโควิด 3 ครั้งด้วยกัน คือ วันแรก วันที่ 6 และวันที่ 12 โดยนับจากวันที่แต่ละคนเดินทางเข้ามายังภูเก็ต
รมว.พิพัฒน์กล่าวว่า รัฐบาลยังได้ประกาศให้ท่องเที่ยวเชื่อมโยงต่อจาก ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ ได้ในอีก 9 จังหวัด โดยแบ่งเป็น 2 กรณี คือ
กรณีที่ 1 ผลจากการเปิดภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ เดินหน้าเดือนแรกแล้วไม่มีแรงกระเพื่อมใด ๆ เลย กำลังเสนอที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบค.) อนุมัติ คือ จะจัดทำเส้นทาง Seal Route ช่วงกรกฎาคม-กันยายน 2564 จะทำเฉพาะบางพื้นที่ให้ท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยง 14 วัน อยู่ภูเก็ตครบ 7 วัน หากสัปดาห์ที่ 2 ต้องการไปเที่ยวสมุย (สุราษฎร์ธานี) ก็สามารถไปเที่ยวได้ โดยโซนนิ่งเฉพาะบางพื้นที่ ในสมัยกับพะงัน หรือ กระบี่ มีแค่ เกาะพีพี เกาะไร่เร หรือพังงามีแค่เขาหลักแห่งเดียว
กรณีที่ 2 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ก็จะเพิ่มพื้นที่โดยไม่กักตัว 14 วัน เปิดให้ครบ 10 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งบุรีรัมย์ ซึ่งกำลังเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน “โมโตจีพี 2021” เดือนตุลาคมนี้ เนื่องจากเมื่อปี 2561-2562 บุรีรัมย์เป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวประสบความสำเร็จ มีทั่วโลกชมการแข่งขันผ่านช่องทางต่าง ๆ กว่า 900 ล้านคน โดยได้รับการโหวต 2 ปีซ้อนให้เป็นสถานที่จัดแข่งขันที่ดีที่สุดในโลกจากแต่ละปีจะจัดเวียนทั่วโลกทั้งหมด 20 สนาม มีความพร้อมสูงสุดบริหารจัดการแข่งขันดีที่สุดในโลกเป็นหน้าตาของประเทศ เป็นงานระดับโลกที่เกิดขึ้นในยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ 1-2
เช่นเดียวกันกับการจัดแข่งขันแบดมินตัน 3 ซีรีย์ ในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนมกราคม 2564 ประสบความสำเร็จ กระทั่งททางประเทศญี่ปุ่นนำรูปแบบไปใช้จัดการแข่งขันโอลิมปิกเดือนสิงหาคม นี้
อีกทั้งประเทศไทย ยังมีโปรแกรมจัดแข่งขันกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวรายการระดับโลก อาทิ Amazing Thailand Marathon 2021 จะจัดในกรุงเทพฯ เดือนธันวาคม 2564 โดยไม่ปิดถนน มีผู้เข้าร่วมแข่งขันประมาณ 30,000 คน จะใช้วิธีจัดแข่งขันตรงสนามปั่นจักรยานในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยจะขอความอนุเคราะห์จาก บริษัท ท่ากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ลดปัญหาการรบกวนประชาชน และไม่กระทบการจราจรแต่อย่างใด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น