ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

 TCEB”ถอดรหัสความหวังเจ้าภาพงานSpecial Expo 2028

เปิดเบื้องหลังธีมสมดุลชีวิต-Future of Lifeบี้คู่แข่งยักษ์โลก

ลุ้นปี’71ภูเก็ตดันยกระดับทั้งอันดามันสู่“เมดิคัลเวลเนสฮับ”

คิงเพาเวอร์จัดบิ๊กช้อปทุกองศาEnd of Season Sale3คุ้มค่า

ชมฟรีที่มหานครคิวบ์นิทรรศกาลWhat the CUBEถึง31ส.ค.

ททท.เปิดหนังโฆษณาสื่อทั่วโลกWrite Your New 3Chapters

บางจากลุย“BCP NET”ชูBangchak WOWโมเดลลดคาร์บอน

คูลอีสานเที่ยวธรรมชาติสุดอะเมซิ่ง“ภูบ่อบิด-ภูกระดึง”จ.เลย

7วิธีดูแลปอดให้แข็งแรง/ห่างไกลเชื้อโรค/เสริมความแข็งแรง

AOTลั่นก้าวสู่ปี43ปี66ทำองค์กรดิจิทัลปรับใหญ่3สนามบิน

การบินไทยยื่นขอแก้แผนฟื้นฟูด่วนเพิ่มทุนใหม่8หมื่นล้าน

 


 วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #เที่ยวภูบ่อบิดจังหวัดเลย #การบินไทยแก้แผนฟื้นฟูเพิ่มทุน8หมื่นล้าน

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/e0RleIg_vm/

 

ช่วงที่ 1 เปิดเบื้องหลังความสำเร็จยกแรกกับ “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” นำทีมไทยแลนด์บุกฝรั่งเศสโชว์พลัง “สมดุลชีวิต-Future of Life- living in harmony, sharing prosperity” ปะกบยักษ์ใหญ่อเมริกา ยุโรป ชิงงาน Specialised Expo 2028 ปักธงจัดที่ภูเก็ตปี’71 พลิกโฉมครั้งยิ่งใหญ่นำอันดามันก้าวสู่เมือง “เมดิคัล เวลเนส ฮับ โลก” ลุ้นนำเสนอผลงานอีก 2 ยก เดือนพ.ย.65 และ ก.ย.66 พร้อมตั้งทีมเดินสายหาเสียงสมาชิก 171 ประเทศ ยืนยันความมั่นใจเนื้อหาสอดรับ SDGs ของยูเอ็นปี คศ.2030 หากไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงานเดียวเงินไหลมากองในประเทศ 50,000 ล้านบาท และชุมชนจะมีส่วนร่วมมั่งคั่งยั่งยืนระยะยาว

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ความน่าสนใจการไปร่วมประมูลงาน Specailised Expo 2028 เพื่อนำมาจัดในประเทศไทยที่จังหวัดภูเก็ต ปี 2571 ตามปกติงานเอ็กซโประดับโลกจะมี 2 รายการ คือ 1.Dubai Expo ขนาดใหญ่ที่สุดระดับโลกจัดทุก 5 ปี เช่น คศ.2005,2010,2015 แลและ 2.International Expo จะมีขนาดการจัดงานไม่ใหญ่มาก จะจัดระหว่างกลางเช่น ช่วง 2005-2010 ก็จะจัดช่วงปี 2008 แล้วตอนนี้ทางคณะกรรมการ BIE กำหนดให้ประเทศที่สนใจเข้าร่วมประมูลงานนี้ได้ที่ฝรั่งเศส เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคม 2565

 

ทีเส็บกับทางจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมดได้คัดเลือกภูเก็ตเป็นพื้นที่พร้อมรองรับดึงงาน Specailised Expo 2028 มาจัดในประเทศไทย จึงได้รวมตัวกันไปนำเสนอข้อมูลทั้งหมดในรอบที่ 1 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นการ “ปักหมุด” ให้ทั่วโลกเห็นศักยภาพของไทยมีสถานที่พร้อมจัดงานระดับโลก ซึ่งจะได้เห็นถึงการพัฒนาและความพร้อมของเมืองภูเก็ต

 

จากการประเมินตัวเลขรายได้ในระบบเศรษฐกิจหากได้เป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ ระหว่างเมษายน-ธันวาคม รวมทั้งหมด 49,000 ล้านบาท จำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 9 ล้านคน-ครั้ง ซึ่งจัดนอกฤดูท่องเที่ยวด้วย

 

“ไทย” เป็นประเทศเดียวในเอเชียที่ขึ้นเวทีเสนอธีม Future of Life- living in harmony, sharing prosperityเป็นการวางแผนการใช้ชีวิตของมนุษย์บนโลกใบนี้ต้องเผชิญปัญหาที่เกิดขึ้นทั้ง สงคราม ความขัดแย้ง โรคภัยต่าง ๆ จึงได้นำเสนอ “ชีวิตสมดุล” หากไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงานทุกประเทศที่เข้ามาร่วมจัดงานจะต้องนำเสนอตามคอนเซ็ปต์คือ การมีสุขภาพที่ดี/Well being สอดคล้องกับปี คศ.2030 หรือ พ.ศ.2573 ทางองค์การสหประชาชาติ (United Nation) ตั้งเป้าให้เป็นปีแห่งการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่ง ยืน หรือ SDGs :Sustainable Development Goals

 

จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่ทุกประเทศทั่วโลกที่ได้เข้าร่วมงาน Specialised Expo 2028 ตามธีมของประเทศไทยก็จะใช้ชีวิตอย่างสมดุลมีสุขภาพดีอยู่กับธรรมชาติอย่างมีความสุข มุ่งเน้นแนวคิดหลักด้วยความหมายอันลึกซึ้งของ Future of Life การผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวตามแนวคิดหลัก 2 ส่วน คือ

 

ส่วนที่ 1 มนุษย์จะต้องปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับธรรมชาติ หรือ Living in Harmony ส่วนที่ 2 มนุษย์ต้องแบ่งปันทรัพยากร ความอุดมสมบูรณ์ทั้งทางกายและทางใจ เพื่อให้ทุกชีวิตดำรงอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างเท่าเทียม หรือ Sharing Prosperity ซึ่งหลอมรวมกันเป็นหนึ่งซึ่งเป็นที่มาของแท็กไลน์โครงการที่ว่า living in harmony, sharing prosperity

 

อีกทั้งยังมีแนวคิดรอง ที่จะทำให้งาน Specialised Expo 2028, Phuket Thailand สามารถนำเสนอมุมมองตอบโจทย์ Future of Life ครอบคลุมทุกมิติ 3 เรื่อง ดังนี้

 

เรื่องที่ 1 Life & Well Being ในอนาคตสุขภาพและการดำเนินชีวิตที่ดีคือแนวทางการดำรงอยู่ของมนุษยชาติ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขได้ในราคาเหมาะสม ทั้งบริการแพทย์ทางเลือก วิทยาการแพทย์สมัยใหม่ ขอแค่เพียงมนุษย์รู้จักเลือกใช้เทคโนโลยีและองค์ความรู้ด้านสุขภาพท้องถิ่นให้เหมาะกับตัวเอง แล้วแบ่งปันองค์ความรู้นี้กระจายไปยังประเทศอื่น ๆ ได้ด้วย

 

เรื่องที่ 2 Humans & Nature มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่กับธรรมชาติอย่างลงตัวได้ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การบริโภคอย่างมีสติ การดูแลสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานทางเลือก การดูแลโลกใต้น้ำ ทำทุกอย่างโดยไม่เอาเปรียบธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นจุดร่วม จุดยื่น ของมนุษย์ทั่วโลกที่จะดำรงชีวิตอยู่กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน

 

เรื่องที่ 3 Matual Prosperity มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้สามารถเริ่มต้นด้วยการแบ่งปัน ด้วยการช่วยกันเติมเต็มช่องทางระหว่างขั้วตรงข้ามเพื่อดำรงชีวิตอยู่ ทั้งเรื่อง คุณภาพชีวิต การศึกษา รายได้ การเข้าถึงสุขภาพ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั่วโลกต่างก็นำเสนอถึงเรื่อง New Model of Sharing Economy, Balanced Prosperity, inclusion and Diversity

ขณะที่คู่แข่งทั้งหมดล้วนเป็นตัวแทนจากยุโรปต่างก็นำเสนอเสนอธีมการแข่งขันที่จะนำมาแข่งขันกับประเทศไทย จาก  4 ประเทศ ประกอบด้วย

 

1.สหรัฐอเมริกา จะจัดที่เมืองมินิโซต้า ภายใต้ธีม : Healthy People, Healthy Planet: Wellness and Well-Being For All รอบแรกเสนอธีม Health People Health Planet เน้นเรื่องการรักษาชูโมเดลเมโยโรงพยาบาลที่ดีที่สุด ลักษณะธีมคล้ายกับประเทศไทย แต่ของไทยมุ่งไปในเรื่องสุขภาพองค์รวม Wellness สมดุลชีวิต การรักษาธรรมชาติ

 

2.เซอร์เบียร์ จะจัดที่เมือง เบลเกรด ภายใต้ธีม : Play for Humanity - Sport and Music for all รอบแรกเน้นเรื่องทั่วโลกให้มาแชร์ความสุขด้านดนตรีกับกีฬา

 

3.สเปน จะจัดที่มะลาก้าซึ่งเป็นเกาะคล้ายภูเก็ต ภายใต้ธีม : The Urban Era: towards the sustainable city รอบแรกชูเรื่องสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ถือว่าเป็นคู่แข่งน่ากลัวที่สุด

 

4.อาร์เจนตินา จะจัดที่เมืองเซนคารอส เดอ บาริโลเช่ ภายใต้ธีม: Nature + Technology = Sustainable Energy. A viable future for humanity มาเป็นครั้งที่สองโดยย้ายเมืองจัดงานจากเดิมเสนอเมืองบาร์เซโลน่า

 

ตามโจทย์ที่ทางคณะกรรมการ BIE ใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกประเทศที่เหมาะสมจะได้เป็นเจ้าภาพ Specialised Expo 2028 ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ดังนี้

 

ส่วนที่ 1 หลังเสร็จสิ้นการจัดงานแล้วมีแผนบริหารจัดการพื้นที่จัดงานขนาดใหญ่เพื่อใช้ประโยชน์อย่างไรต่อไป “ประเทศไทย” ได้นำเสนอสิ่งที่เป็น 2 ปัจจัยบวก ได้แก่ 1.เลือกใช้พื้นที่รองรับจัดงานครั้งนี้ซึ่งจะทำเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพองค์รวม : Wellness Center อยู่แล้ว เป็นของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ขณะนี้อยู่ระหว่างเลือกวิธีจะร่วมทุนกับเอกชนรายอื่นหรือลงทุนเองทั้งหมด เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต 2.สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (สศช./สภาพัฒน์) ประกาศสนับสนุนภูเก็ตเป็นเมืองสุขภาพยั่งยืนเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลก :World Medical Hub

 

ส่วนที่ 2 สังคมชุมชนรอบพื้นที่จัดงานเอ็กซโปได้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นอย่างไรบ้าง ประเทศไทยได้นำเสนอว่าพื้นที่เตรียมจัดงาน Specialised Expo 2028 เกิดขึ้นจากแรงผลักดันของชาวภูเก็ตโดยตรงเสนอมายังรัฐบาลเริ่มตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน ทางทีเส็บจึงได้เข้าไปทำงานร่วมกับทางนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.) ในการเตรียมข้อเสนอก่อนยื่นร่วมประมูลงาน ผนวกกับการจัดทำธีมงานก็มีทีมบริษัทที่ปรึกษามืออาชีพ

 

รวมทั้งภูเก็ตตั้งเป้าจะพลิกโฉมการสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่มากกว่าหนึ่งเสา จากปัจจุบันมีรายได้จากเสาเดียวคือ “การท่องเที่ยว” ต่อไปจะขยายฐานใหม่เป็นเรื่องอาหาร กับเมดิคัล เวลเนส ฮับ เซนเตอร์ มาช่วยทำให้ภูเก็ตสามารถมีรายได้ทางอื่น ๆ เพิ่มขึ้น

 

ส่วนที่ 3 จำนวนชาวต่างชาติที่จะเข้าร่วมงาน Specialised Expo 2028 ด้วยศักยภาพของภูเก็ตเป็นจังหวัดท่องเที่ยวมีชื่อเสียงติดอันดับโลกจึงมีโอกาสสูงที่คนทั่วโลกต้องการจะเดินทางมาร่วมงาน จากผลการศึกษาหากไทยจัดที่ภูเก็ตจะมีคนเข้าร่วมประมาณ 9 ล้านคน-ครั้ง หนึ่งคนอาจจะมางานมากกว่าหนึ่งครั้ง 

 

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ไทม์ไลน์การร่วมประมูลงาน Specialised Expo 2028 จะต้องนำเสนอรวมถึง 3 รอบ คือ รอบแรก เดือนพฤษภาคม 2565 นำเสนอข้อมูลเบื้องต้นภาพรวม รอบสอง-เดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งทุกประเทศจะต้องลงลึกในรายละเอียดถึงโครงสร้างสถานที่จัดงาน ตึกแต่ละส่วน รูปแบบการจัดงาน รอบสาม-เดือนกันยายน 2566 พร้อมกับรับฟังผลการตัดสิน

ทั้งนี้จะมีตัวแทนคณะกรรมการ BIE จาก 7 ประเทศ เดินทางมาประเทศไทย ระหว่างวันที่ 25-29 กรกฎาคม 2565 โดยเข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลทีเส็บ และรัฐมนตรีเกี่ยวข้อง จากนั้นก็จะไปภูเก็ตมาภูเก็ตเพื่อสำรวจพื้นที่การก่อสร้างสถานที่จัดงาน และโรงแรมที่จะรองรับผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งไทยมีโรงแรมให้เลือกพักอย่างหลากหลาย

 

ประเมินผลโอกาสของประเทศไทยจากการนำเสนอรอบแรกภายใต้ธีม Future of Life- living in harmony, sharing prosperityไทยไม่เป็นรองคู่แข่ง เพราะสามารถตอบโจทย์องค์การสหประชาชาติเรื่อง SDGs และHuman Capility แต่สิ่งที่ต้องทำงานอย่างหนักคือ “ล็อบบี้หรือหาเสียง” กับสมาชิกซึ่งมีกว่า 171 ประเทศ เฉพาะแอฟริกามีถึง 54 ประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีนที่ให้การสนับสนุน ทางไทยมีกระทรวงการต่างประเทศและทางเอกอัครฑูตไทยกรุงปารีส และฑูตพาณิชย์ไทยในฝรั่งเศส เข้ามาช่วยอย่างเต็มที่

 

“การหาเสียง” กับสมาชิกเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะคู่แข่งแต่ละประเทศอย่าง สหรัฐอเมริกา มีพลังพอสมควร แต่ทางคณะกรรมการส่วนใหญ่จะให้กลุ่มประเทศในโลกที่สามได้มีโอกาสจัดงานมากกว่า ขณะนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบแล้ว

 

ตัวอย่างการจัดงาน Phuket Night ที่จัดขึ้น ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศส ในการร่วมประมูลรอบแรก ได้รับความสนใจจากสมาชิกกว่า 350 คน จาก 171 ประเทศ ทางนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้เกี่ยวข้องได้นำอัตลักษณ์ไปจัดแสดงให้คนทั่วโลกได้ชม เช่น รำโนราห์ อาหารถิ่นภาคใต้

 

ตอกย้ำถึงถึงความร่วมมือของไทยตั้งแต่นายกรัฐมนตรีให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ อนุมัติงบประมาณลงทุนพัฒนาพื้นที่จัดงานกว่า 4,000 ล้านบาท รวมทั้งนายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลทีเส็บ และทุกภาคส่วนพร้อมใจกันทำทุกเรื่องเต็มที่ ทำให้เห็นโอกาสการดึงงานมาได้ เพื่อสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประเทศตลอดการจัดงานไม่ต่ำกว่า 49,000 ล้านบาท

 

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ประโยชน์อย่างชัดเจนที่ประเทศไทยจะได้รับอย่างเต็มที่หลังเสร็จสิ้นการจัดงาน Spoecailised Expo 2028 คือ “ไทยและภูเก็ต” จะเป็น “Medical & Wellness Hub” บริการสุขภาพองค์รวมครบวงจร เรื่อยไปจนถึง Rehabitation หรือศูนย์กลางบริการฟื้นฟูสุขภาพคนทั่วโลก ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ชาติและสภาพัฒน์ ในการผลักดันเป็น Hub ทางด้านสุขภาพ กระตุ้นกลุ่มตลาดทั่วโลกเดินทางเข้าไทย ไม่เฉพาะภูเก็ตเท่านั้นแต่จะขยายครอบคลุมพื้นที่ทั่ว “อันดามัน” ภูเก็ต พังงา กระบี่

 

ไทยเป็นประเทศติดสถิติบริการด้านเมดิคัลอันดับ 5 ของโลก ตอกย้ำกับการสร้างสุขภาพความยั่งยืน SDGs ได้ชัดเจน ระหว่างงานเองแต่ละประเทศทั่วโลกก็จะแสดงให้เห็นถึงอนาคตการดูแลสุขภาพอย่างสมดุลด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นพร้อมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ของภูมิภาคเอเชียด้วย

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 -คิงเพาเวอร์จัดช้อปทุกองศาEnd of Season Sale 3 คุ้มค่า

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดมหกรรม คุ้มค่าทุกองศาการช้อปรับส่วนลดทันที วันนี้ - 31 กรกฎาคม 2565

ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต และทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ ที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี 1.ช้อปครบ 6,000 บาท / ใบเสร็จ รับส่วนลดทันที 1,200 บาท 2.ช้อปครบ 15,000 บาท / ใบเสร็จ รับส่วนลดทันที 3,200 บาท 3.ช้อปครบ 30,000 บาท / ใบเสร็จ รับส่วนลดทันที 7,000 บาท*

 

สนุกกับ END OF SEASON SALE คุ้มค่าทุกองศาเมื่อช้อปสินค้าแฟชั่น ด้วย 3 คุ้มสุด ๆ 

 

คุ้มที่ 1 : ส่วนลดสูงสุด 50% เฉพาะสินค้าแฟชั่น และสินค้าที่ร่วมรายการ

คุ้มที่ 2 : รับ Gift Voucher สูงสุด 3,000 บาท ช้อปครบ 15,000 บาท (สุทธิ) รับ Gift Voucher 1,000 บาท

หรือช้อปครบ 30,000 บาท (สุทธิ) รับ Gift Voucher 3,000 บาท เฉพาะสินค้าแฟชั่น และนาฬิกา, จำกัด 1 สิทธิ์ / ท่าน / วัน

คุ้มที่ 3 : รับกะรัตรีวอร์ด 2,000 กะรัต เมื่อสะสมยอดช้อปครบ 50,000 บาทสุทธิ เฉพาะสินค้าแฟชั่น และนาฬิกา  จำกัด 1 สิทธิ์ /คน/ วัน

 

ข่าวที่ 2 -ชมฟรีที่มหานครคิวบ์นิทรรศกาลWhat the CUBEวันนี้-31ส.ค.

 

คิง เพาเวอร์ ชวนดื่มด่ำงานศิลป์เปิดให้ชมฟรีนิทรรศการ “What the CUBE... เพราะคิวบ์ มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด” จัดโดย “มหานคร คิวบ์” ผ่านผลงานทางทัศนศิลป์จาก 5 ศิลปินชื่อดัง ทั้ง LOLAY / RUKKIT / BEERPITCH / PIM SUDHIKAM และ BENZILLA พร้อมเอาใจใครหลายๆ คนที่ชื่นชอบและหลงใหลในงานศิลปะให้ได้เสพศิลป์กันได้ ตั้งแต่วันนี้– 31 สิงหาคม 2565 ที่ชั้น 3 ตึก มหานคร คิง เพาเวอร์ เวลา 10.00 – 19.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติม: https://fb.me/e/2GsDbsWdA  

สำหรับมหานครคิวบ์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10:00 - 22:00 น. อยู่สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี ทางออก 3 โทร 02-677-8721

 

ข่าวที่ 3 ททท.ทุ่มสร้างหนังโฆษณาสื่อทั่วโลกWrite Your New 3Chapters

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา ชุด “Write Your New Chapter” พลิกโฉมท่องเที่ยวด้วยการเชิญชวนคนไทยและทั่วโลกสร้างสรรค์ประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยมิติใหม่ ภายใต้กรอบแนวคิด “Visit Thailand Year 2022 – 2023 : Amazing New Chapters” ต่อยอด SOFT POWER 6F : 4M นำเสนอคุณค่าการท่องเที่ยวผ่าน Cinematic Theme ใน 3 Chapters ได้แก่ Nature, Love และ Experience ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์และยกระดับสู่การเป็น World Class Destination มุ่งกระตุ้นการเดินทางจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก

 

            ททท. วางแผนจะนำเสนอภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ เผยแพร่ในต่างประเทศผ่านสื่อออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงรูปแบบอื่น ๆ เช่น สื่อ Out of Home ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกรุงโซล เกาหลีใต้ สนามบินในต่างประเทศ และช่องทางของ ททท. สำนักงานต่างประเทศทั่วโลก 29 แห่ง รวมถึงเป็นสัญญาณประกาศความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกเข้ามายังประเทศไทยได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป

 

ปี 2565 ตั้งเป้าให้เกิด Greatest Change ด้วย Soft Power of Thailand ตามแนวคิด  6F : 4M ประกอบด้วย Food-Fashion-Film-Festival-Fight -Friendship และ Music-Museum-Master-Meta เพื่อเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวคุณภาพ และนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง นำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงบนพื้นฐานการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและดิจิทัล

 

สื่อสารการตลาดด้วยแคมเปญ “Visit Thailand Year 2022 – 2023 : Amazing New Chapters” นำเสนอความพิเศษในการท่องเที่ยวผ่านเมนูประสบการณ์ที่มีคุณค่าเหนือราคา From A to Z Amazing Thailand Has it All ชูอัตลักษณ์ของประเทศไทย (Thai Cultural Values) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้ออกเดินทางมาสัมผัส แสวงหาประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ ๆ  ที่น่าประทับใจมากกว่าที่เคย รวมถึงยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทย สู่การเป็น World Class Destination

 

ททท.ได้นำเรื่องภาพยนตร์โฆษณา หรือ FILM หนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์สำคัญ เรื่องบริการสถานที่ถ่ายทำที่มีความหลากหลายที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล ด้วยกลยุทธ์การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์วัฒนธรรม วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนไทยสู่สายตาชาวโลก มีภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงประสบความสำเร็จมากมายเดินทางเข้ามาถ่ายทำในไทย เช่น เรื่องเจมส์ บอนด์ 007 ตอน “เพชฌฆาตปืนทอง” (The Man with the Golden Gun) ปี 2517 ถ่ายทำบริเวณเขาตะปู จ.พังงา เรื่อง Lost in Thailand ปี 2555 ถ่ายทำในเชียงใหม่ เรื่อง The Beach นำแสดงโดยลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ ถ่ายทำที่อ่าวมาหยา เกาะพีพีเล จ.กระบี่ เป็นต้น ซึ่งสร้างการรับรู้ถึงความสวยงามให้กับผู้ชมทั่วโลก

 

จากการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมและเทรนด์นักท่องเที่ยวต่างประเทศ พบปีที่ผ่านมาตลอดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ช่องทาง Online VDO Services ผู้ติดตามเติบโตกว่า 26 % ผ่านช่องทางออนไลน์ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นถึง 1,100 ล้านคน สะท้อนพฤติกรรมคนยุคดิจิทัลให้ความสำคัญกับการรับ-ส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างชัดเจน

 

ททท. จึงได้ใช้แนวทางการบอกเล่าและส่งต่อประสบการณ์ท่องเที่ยวมิติใหม่ในรูปแบบ Cinematic Theme เป็นภาพยนตร์โฆษณา ชุด “Write Your New Chapter” ความยาว 4 นาที ภายใต้การผลิตภาพยนตร์โฆษณาของบริษัท บีบีดีโอ กรุงเทพ และฝีมือกำกับของนายณัฐดนัย ป้อมบ้านต้า ผู้กำกับ บริษัท อันบอกซ์นาว จำกัด พาสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยว 3 Chapters ได้แก่

 

1.Amazing New Chapter of Nature ฉายภาพครอบครัวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวทะเลไทย ก่อนพบเจอธรรมชาติกลับมาสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ

 

2.Amazing New Chapter of Love ติดตามความรักสุดคลาสสิกของวัยเก๋าในเส้นทางท่องเที่ยวสุดโรแมนติกของประเทศไทยที่จะช่วยเติมเต็มช่องว่างให้พร้อมเริ่มใหม่ได้เสมอ

 

3.Amazing New Chapter of Self Discovery ชวนออกตามล่า ค้นหาตัวตนในรูปแบบภาพยนตร์ Sci-Fi ท่องโลก Metaverse ที่น่าค้นหาและสร้างแรงบันดาลใจไม่รู้จบ

 

โดยทั้ง 3 Chapters นี้ จะช่วยสะท้อนเสน่ห์ของการท่องเที่ยวไทยในมุมมองที่หลากหลาย แปลกใหม่ สร้างแรงบันดาลใจ (Inspire) ให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาค้นหา (Explore) และ สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวมิติใหม่ (Experience) ที่น่าประทับใจ ผ่านการออกแบบเรื่องราว (Chapter) บทต่อไปของการท่องเที่ยวไทยในแบบฉบับของตัวเอง ตลอดจนแบ่งปันสู่ผู้คนทั่วโลก

ข่าวที่ 4 บางจาก“BCP NET”ชูBangchak WOWโมเดลลดคาร์บอน

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท บางจากฯ เปิดเผยว่า  บางจากมุ่งมั่นเดินหน้าร่วมขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำด้วยแผน BCP NET ล่าสุด ได้ลงนามความร่วมมือพัฒนาพื้นที่และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนสู่ Low Carbon Destination หมู่เกาะหมาก อ.เกาะกูด จ.ตราด ร่วมกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก วิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานบ้านอ่าวนิด โดยมีองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ร่วมเป็นพยาน เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องด้วยโมเดล Bangchak WOW

 

สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศตั้งเป้าทำ "Net Zero" หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ที่ประเทศและองค์กรต่างๆ ได้ประกาศเพื่อร่วมบรรเทาภาวะโลกร้อน ประเทศไทยได้กำหนดเป้าหมายปี 2565เป็น Net Zero กลุ่มบางจากฯ ก็ประกาศเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอนปี ค.ศ. 2030 และ Net Zero ปี ค.ศ. 2050 เช่นกัน

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า จากวิกฤติโลกร้อนทุกประเทศทั่วโลกได้ให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าวิกฤติเศรษฐกิจ เข้าร่วมประชุม World Economic Forum 2022 เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ เรื่องหลัก ๆ ที่ผู้นำระดับโลกหารือกันมีอยู่ 3 เรื่อง คือ

1.ปัญหาด้านพลังงานที่เกิดจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน 2.ผลกระทบที่จะตามมาเรื่องการขาดแคลนอาหาร และภาวะเงินเฟ้อ 3.ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) สู่พลังงานสะอาด โดยมีปัจจัยสำคัญคือ Green Economy หรือเศรษฐกิจสีเขียว

กลุ่มบางจากฯ พร้อมที่จะร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว มุ่งสู่สังคม คาร์บอนต่ำ โดยกำหนดแผน BCP NET ครอบคลุม 4 แนวทาง เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายองค์กร Carbon Neutrality ปี 2030 และ Net Zero ปี 2050

3.เน้นกระบวนการที่จับต้องได้และสามารถหวังผลในระยะยาวดังนี้

B = Breakthrough Performance เน้นกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง การปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน ปล่อยคาร์บอนต่ำและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่นการใช้เทคโนโลยีและเชื้อเพลิงที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากกระบวนการผลิตในโรงกลั่นน้ำมันบางจาก การเปิดสถานีบริการ Net Zero การใช้ไฟฟ้าจากระบบกักเก็บพลังงาน (แบตเตอรี่) ธุรกิจผลิตไฟฟ้าของบีซีพีจี

 

C = Conserving Nature and Society สนับสนุนการสร้างสมดุลทางระบบนิเวศและเชื่อมโยงสู่สังคม คาร์บอนต่ำ ผ่านการดูดซับคาร์บอนด้วยวิถีธรรมชาติ มุ่งเน้นพัฒนากิจกรรมเพิ่มพื้นที่ดูดซับคาร์บอนจาก 2 ระบบนิเวศ ได้แก่

1.ระบบนิเวศจากป่า (Green Carbon) เช่นโครงการปลูกป่ากับกรมป่าไม้ โครงการอนุรักษ์ป่าชุมชนร่วมกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯและปลูกต้นไม้ในพื้นที่ปฏิบัติการทั่วประเทศ เช่น โครงการปลูกป่าในโรงไฟฟ้าของบีซีพีจี เป็นต้น

2.ระบบนิเวศทางทะเล (Blue Carbon) จากแหล่งป่าชายเลนและหญ้าทะเล เช่น โครงการปลูกป่าชายเลนร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โครงการสนับสนุนคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้แหล่งหญ้าทะเลเพื่อช่วยในการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกในแนวปะการังบริเวณเกาะหมากและเกาะกระดาด จังหวัดตราด  

P = Proactive Business Growth and Transition เปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่พลังงานสะอาด มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ด้วยเทคโนโลยีเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจสีเขียว เน้นขยายการลงทุน ใหม่ ๆ ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจ ศึกษาเทคโนโลยีตอบโจทย์ธุรกิจคาร์บอนต่ำ เช่น Blue/Green Hydrogen เชื้อเพลิงทางเลือกคาร์บอนต่ำ เช่น เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนหรือ Sustainable Aviation Fuel (SAF) หรือน้ำมันกรีนดีเซล Green Diesel เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) และธุรกิจซื้อขายคาร์บอนเครดิต เพื่อส่งเสริมสร้างวัฒนธรรมคาร์บอนต่ำ

 

ปัจจุบันสัดส่วนของธุรกิจสีเขียวคิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของ EBITDA ของกลุ่มบางจากฯ ซึ่งประมาณการว่าสัดส่วนธุรกิจสีเขียวจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างน้อย 50% ปี 2030

 

NET = Net Zero Ecosystem สร้างระบบนิเวศเพื่อรองรับการไปสู่เป้าหมาย Net Zero อาทิ การดำเนินธุรกิจขนส่งเชื้อเพลิงโดยบริษัท BFPL การให้บริการและจำหน่ายเชื้อเพลิงทางเลือกคาร์บอนต่ำ การจัดทำแพลตฟอร์มให้เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Winnonie การก่อตั้ง Carbon Markets Club เพื่อส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอนเครดิต การร่วมก่อตั้ง Syn Bio Consortium การสร้างวัฒนธรรมคาร์บอนต่ำในองค์กรผ่านโครงการรณรงค์ต่าง ๆ เช่น ‘Bangchak100x Climate Action ทุกคนช่วยได้’ ไปจนถึงโครงการรณรงค์ลดขยะกับลูกค้าและผู้บริโภค เช่น ‘แก้วเพาะกล้า’ ‘รักษ์ ปัน สุข’ และ ‘ขยะกำพร้าสัญจร’

 

รวมถึงการให้ความสำคัญกับการให้ความรู้และสื่อสารกับผู้ที่มีส่วนได้เสียทางธุรกิจ เช่นซัพพลายเออร์ นำไปสู่การปฏิบัติ เพื่อให้เกิดห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน (sustainable supply chain) โดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง

                ช่วงที่ 2

ท่องเที่ยว -คูลอีสานเที่ยวธรรมชาติสุดอะเมซิ่ง“ภูบ่อบิด-ภูกระดึง”จ.เลย

 

เที่ยวหน้าฝนถิ่นอีสาน Cool Isan แสงแดด สายลม ทุ่งหญ้า ทุ่งนา เขียวขจี บรรยากาศเย็นสบายแสนคลาสสิก เที่ยว 3 ธรรม “ธรรมชาติ-ธรรมะ-วัฒนธรรม”  เที่ยวอีสานเขียว “จังหวัดเลย” เมืองท่องเที่ยวมีอากาศเย็นสบาย ปกคลุมด้วยหมอกสวย ๆ เสมอ และยังคงความเป็นธรรมชาติได้อย่างดีเยี่ยม

 

ตั้งแต่สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป นักผจญภัยที่ชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติจะเที่ยวให้หายคิดถึงกันแล้วที่ "วนอุทยานภูบ่อบิด" ตั้งอยู่ตรงถนนเจริญรัฐ ตำบลกุดป่อง อ.เมืองเลย ได้รับการจัดอันดับติด 4 ใน 7 ของโลก สถานที่ธรรมชาติที่ใกล้เมืองมากสุด จุดหมายปลายทางคือ “ยอดภูบ่อบิด” จะมีระเบียงยื่นออกไปให้เป็นจุดชมวิวใกล้ตัวเมืองที่สวยงาม และชมพระอาทิตย์ทั้งขึ้นและตก เตรียมเปิดให้ยลโฉมการปรับปรุงใหม่ 3 เส้นทาง คือ เส้นทางเดินรอบยอดภูบ่อบิด  เส้นทางเดินขึ้นจากถ้ำพระ-ยอดภูบ่อดบิด และเส้นทางเดินจากถ้ำพระ-ทางสำนักสงฆ์  

 

“ฤดูท่องเที่ยว” วนอุทยานภูบ่อบิด ช่วงปลายฝนกับหน้าหนาวจะน่าเที่ยวสุด ๆ จะได้ชมทะเลหมอกปกคลุมทั่วเมือง ส่วนหน้าฝนจะเห็นทะเลหมอกหรือไม่ขึ้นกับสภาพอากาศซึ่งสามารถเที่ยวได้ทั้งปี

 

“กิจกรรม” ที่นักท่องเที่ยวไปแล้วต้องชอบ คือ ไหว้พระที่ถ้ำพระภูบ่อบิด ชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตก และทะเลหมอกบนยอดภูถ่ายรูปวิวสวย ๆ  เปิดให้ขึ้นฟรีตั้งแต่ตี 5  จนถึง 6 โมงเย็น แต่จะปิดไฟทางประมาณ 20.00 น.

 

“บริการรถนำเที่ยว “ จะมีรถสาธารณะพาขึ้นไป “ถ้ำพระภูบ่อบิด” ราคาเฉลี่ยคนละ 40 บาท แล้วให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นบันไดเหล็กไปอีกราว 180 เมตร ก็จะถึง “ยอดภูบ่อบิด” ค่าบริการรถ  หน้าหนาวฤดูท่องเที่ยวจะพาขึ้น ถึงจุดจอดศาลาด้านบนแล้วเดินต่อไปยังถ้ำพระ  

    

   “สถานที่เที่ยวใกล้เคียง”  สามารถไปเดินชมช้อปชิมตลาดผลไม้บ้านไร่ม่วงอยู่ห่างออกไปราว 13.36 กม. แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอุทยานแห่งชาติภูเรือ 39.59 กม. เมืองเชียงคาน 46.69 กม. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 68.22 กม.และขึ้นภูกระดึง 68.46 กม.

ที่พักไกลเคียง ภูบ่อบิด โรงแรมเลย พาเลซ ห่าง 3.70 กม. โรงแรมภูหลวง ห่าง 4.20 กม.ที่พักในตัวเมืองเลยทั้งหมด

จังหวัดเลย มี “อุทยานแห่งชาติภูกระดึง” ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบปีนขึ้นไป เพื่อไปสัมผัสประสบการณ์แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น “ผานกแอ่น” จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามมาก มองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างซึ่งเป็นท้องทุ่งและเทือกเขา ระหว่างสองข้างทางเดินจะมีดอกกุหลาบป่าชื้นเป็นดงใหญ่ ซึ่งจะบานสะพรั่งมีนาคม-เมษายนของทุกปี

หรือ “ผาหล่มสัก” ลานหินกว้างมีทิวสนต้นหนึ่งอยู่ชิดริมผาเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกชัดเจนที่สุด นักท่องเที่ยวกับช่างภาพชอบใช้เป็นจุดไปถ่ายภาพสัญลักษณ์ภูกระดึง อีกทั้งยังมีสระอโนดาต น้ำตกเพ็ญพบ ผาเหยียบเมฆ และอื่น ๆ

 

จังหวัดเลยมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิมทั้งที่ วนอุทยานภูบ่อบิด อุทยานแห่งชาติภูกระดึง คิดถึงเมื่อไรวางแผนเดินทางมาท่องเที่ยวได้ทันที

 

สุขภาพ -7วิธีดูแลปอดให้แข็งแรง/ห่างไกลเชื้อโรค/เสริมความแข็งแรง

 

ปัจจุบันคนไทยต้องเผชิญฝุ่น PM 2.5 ที่มีผลกระทบต่อระบบหายใจและปอดของเรา ดังนั้นจึงต้องหันมามาดูแลสุขภาพ ด้วย 7 วิธี ดังนี้

1. รับประทานอาหารบำรุงปอด -ทำได้หลากหลายวิธี อย่างดื่มรังนกแท้ที่มี NANA (นานะ หรือ N-Acetyl-Neuraminic Acid) ก็นับเป็นหนึ่งใน อาหารบำรุงปอด ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เนื่องจากนานะเป็นโปรตีนที่พบในรังนกแท้ มีคุณสมบัติพิเศษทำงานเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย จากการศึกษาวิจัยพบว่า สารสำคัญในรังนกสามารถยับยั้งไม่ให้ไวรัส เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ เข้าสู่เซลล์ร่างกายได้ เพราะมีกลไกในการขัดขวางการจับตัวระหว่างเชื้อไวรัสกับเซลล์เม็ดเลือดแดงโดยตรง

นักวิจัยจึงค้นพบว่ารังนกที่มีปริมาณนานะสูง ก็จะมีความสามารถในการต้านไวรัสดีขึ้นตามไปด้วย สอดคล้องกับการพบว่าไกลโคโปรตีนในรังนกทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวเพิ่มจำนวน จึงนับได้ว่ารังนกมีส่วนช่วยการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และอาจเป็นสารสำคัญในการต้านไวรัสได้นั่นเอง

 

2. ออกกำลังกายบริหารปอด การออกกำลังกายแบบ ‘คาร์ดิโอ’ Cardio Exercise สามารถเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจก็สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากเมื่อหัวใจสูบฉีดเลือดก็จะทำให้ปอดแข็งแรงมากขึ้นตามไปด้วย และสามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสุขภาพปอดให้แข็งแรง ควรเคลื่อนไหวขยับร่างกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที เช่น วิ่ง เดินเร็ว เดินยกขาสูง เต้นแอโรบิก กระโดดเชือก ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ

 

3. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำลายปอด เลี่ยงการสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสาเหตุเพิ่มความเสี่ยงในโรคติดเชื้อในปอด เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ทำให้กลไกป้องกันการติดเชื้อของปอดลดลง รวมไปถึงควรหลีกเลี่ยงการสูดดมกลิ่นควันรถยนต์และมลภาวะ ลดความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งปอดได้

 

4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ผู้ใหญ่ที่มีอายุ 18-64 ปี ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละประมาณ 7-9 ชั่วโมง เพื่อให้อวัยวะสำคัญได้ทำงานและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการนอนหลับเกี่ยวข้องกับการทำงานของต่อมไร้ท่อและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย คนที่อดนอนหรือนอนดึกติดต่อกันเป็นเวลานาน มักมีปัญหาด้านสุขภาพและสภาพจิตใจ อาจเกิดปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจได้อีกด้วย

 

5. ดื่มน้ำให้ปอดชุ่มชื้น การดื่มน้ำเปล่าสะอาดถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ต่อร่างกาย มีส่วนช่วยเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต ระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย เราจึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือประมาณวันละ 6-8 แก้ว เนื่องจากน้ำจะช่วยบำรุงปอดให้ชุ่มชื้น ทำให้ปอดไม่แห้ง เพราะหากปอดแห้งจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองในปอด เมื่อปอดขาดน้ำและมีอุณหภูมิสูง ก็มักทำให้ปอดติดเชื้อได้ง่าย ส่งผลให้ภูมิต้านทานตก มีอาการหิวน้ำ ไอแห้ง ๆ มีไข้ หายใจเร็ว หอบเหนื่อย อาจส่งผลกระทบต่อทางเดินหายใจ

 

6. รักษาปอดให้อบอุ่นอยู่เสมอ หากอยู่ในสถานที่มีอากาศหนาวเย็น ควรสวมเสื้อผ้าหนา ๆ หรือห่มผ้าให้มิดชิด เพื่อสร้างความอบอุ่นแก่ปอดอยู่เสมอ เนื่องจากเมื่ออากาศแห้งและเย็นจะเป็นสิ่งกระตุ้นให้ปอดของเราระคายเคือง อาจส่งผลให้เกิดอาการไอ หายใจหอบ เหนื่อยง่าย บางครั้งอาจมีเสียงหวีดขณะหายใจ หากปล่อยไว้นาน ๆ อาจเป็นปวดบวม ปอดชื้น และปอดติดเชื้อ จนมีอาการทางระบบหายใจที่รุนแรงมากขึ้น การทำให้ปอดอบอุ่นอยู่เสมอจึงถือเป็นวิธีดูแลปอดให้แข็งแรง

 

7. หายใจเข้า-ออกแบบลึก ๆ กระบวนการหายใจจำเป็นต้องพึ่งพาปอดเป็นหลัก เนื่องจากเมื่อเราหายใจเข้า จะนำออกซิเจนเข้าปอดและไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เมื่อเราหายใจออก ปอดก็จะเป็นการนำคาร์บอนไดออกไซด์ขับออกจากร่างกาย เราสามารถช่วยดูแลปอดให้แข็งแรงได้ในทุกวัน ผ่านการฝึกหายใจเข้า-ออกแบบลึก ๆ อย่างน้อยวันละ 10 ครั้ง เพื่อบริหารปอด กระบังลม และกล้ามเนื้อทรวงอก วิธีสูดลมหายใจเข้า-ออกลึก ๆ จะทำให้ปอดได้ขยายตัวอย่างเต็มที่ ส่งผลให้เราหายใจได้สะดวกขึ้น ร่างกายก็แข็งแรง

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –AOTลั่นก้าวสู่ปี43ปี66ทำองค์กรดิจิทัลปรับใหญ่3สนามบิน

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) "ทอท.หรือ AOT"เปิดเผยว่า ในโอกาสวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นวันที่บริษัทก้าวสู่ปีที่ 43 จึงขอประกาศให้เป็น "องค์กรดิจิทัล" เต็มรูปแบบ  โดยการเพิ่มประสิทธิภาพบริการรองรับผู้เดินทางที่จะฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็วหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกคลี่คลายลง 

 

โดยมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจสนามบิน 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ (ทสภ.) ดอนเมือง (ทดม.) เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ภูเก็ต และหาดใหญ่ ฟื้นกลับมาโดยเร็วในปีงบประมาณ 2565 คาดว่าจะมีผู้โดยสารรวมทั้งหมด 45 ล้านคน คิดเป็น 33%ของปีปกติ 2562 จากนั้นภายใน 2 ปี ตั้งแต่ปี 2567 จะกลับสู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้งด้วยจำนวนผู้โดยสาร  142 ล้านคน สอดคล้องตามพยากรณ์ของหน่วยงานระดับโลก 3 งค์กร ได้แก่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association : IATA) องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) และ S&P Global 

 

AOT ความมั่นใจจะสามารถให้บริการและอำนวยความสะดวกผู้โดยสารด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใช้บริการ ดำเนินธุรกิจด้วยมาตรฐานเหนือระดับ สร้างมูลค่าเพิ่มและสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม บริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน

 

ด้วยการพัฒนาทุกสนามบินตามแผนแม่บทแล้ว ควบคู่การนำองค์กรก้าวสู่ยุคการบริหารยุคนวัตกรรมที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการบริการและดำเนินการโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและข้อมูลมากมายที่กระจายอยู่ทั่วองค์กรมาทำการศึกษาข้อมูล นำไปวิเคราะห์โดยคำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคล ทำความเข้าใจให้ทุกส่วนเชื่อมโยงกัน เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การบริหารจัดการและให้บริการในโลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบภายใต้โครงการ AOT Digital Platform ที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการด้วยความสะดวกสบาย ปลอดภัย และรวดเร็ว ทั้งด้านการเดินทางและการรับ-ส่งสินค้าทางอากาศ 

 

นายนิตินัยยืนยันว่า ตามแผนปีงบประมาณ 2566 AOT พร้อมก้าวสู่ปีที่ 43 ตั้งเป้าจะทำให้ทั้ง 6 สนามบินมีผู้โดยสารเพิ่มจากปัจจุบัน 2 เท่า รวมประมาณ 96 ล้านคน ฟื้นตัวกลับมาได้ 68% พร้อมกับเฝ้าระวังสถานการณ์ปีงบประมาณ 2567 ต้องป้องกันตัวแปรที่จะส่งผลต่อการเดินทางของผู้โดยสาร 2 ปัจจัยหลักคือ

 

ปัจจัยแรก -นโยบายการเปิดประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นตัวแปรสำคัญต้องติดตามอย่างใกล้ชิด หากจีนเปิดประเทศ 1.เดือนตุลาคม 2565 AOT จะได้ประโยชน์จากช่วงวันหยุดยาวประจำชาติจีน หรือช่วง Golden Week 2.หากเปิดประเทศเดือนมกราคม 2566 ก็เตรียมนักเดินทางเทศกาลปีใหม่ ยกเว้นจีนจะเปิดประเทศหลังสองช่วงนี้ไปแล้ว ไทยก็จะเสียโอกาสช่วงดังกล่าวไปอย่างน่าเสียดาย

 

ในช่วงเวลาสำคัญในการรอรับตลาดจีน AOT ยังคงจะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่าย เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยกันอย่างเข้มแข็งและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์

 

ปัจจัยที่สอง-โอกาสการกลับมาระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ หรือโรคระบาดอื่นๆ 

 

 

นายนิตินัย กล่าวว่า ช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เมื่อปี 2562 มีผู้โดยสารได้กว่า 141.87 ล้านคน นับจากปี 2565 เป็นต้นไปไม่ว่าปริมาณผู้โดยสารจะฟื้นตัวกลับมาในปีใดก็ตาม AOT ก็ยังคงพร้อมให้บริการอยู่เสมอ โดยไม่เคยลดคุณภาพการให้บริการ ไม่ลดพนักงาน และยังคงมีการฝึกอบรมบุคลากร รวมถึงการต่อใบอนุญาตตามมาตรฐานของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง 

 

ขณะนี้ AOT ยังได้เตรียมความพร้อมในส่วนอาคารสถานที่ตามมาตรฐานสากลตลอดมา เมื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ 43 จะเพิ่มความเข้มข้นแผนการลงทุนเดินหน้าพัฒนาทุกด้านให้มีประสิทธิภาพและดียิ่งขึ้นต่อไป เพื่อเพิ่มขีดความสามารถพร้อมรับผู้โดยสารทั้งประทศและทั่วโลก ที่จะนำรายได้เข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตอันใกล้นี้

 

รวมทั้ง AOT ไเร่งปรับปรุงศักยภาพขีดความมสามารถของ 3 สนามบิน ดังต่อไปนี้ 

 

เริ่มจาก "สนามบินสุวรรณภูมิ" 1.อยู่ระหว่างทดสอบระบบต่าง ๆ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1)  เตรียมเปิดให้บริการผู้โดยสารเพิ่มขึ้นได้อีกปีละ 45 เป็น 60 ล้านคน 2.อยู่ระหว่างก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ก้าวหน้าไปแล้วกว่า 35.68% คาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2566 สามารถรองรับเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเป็น 94 เที่ยว/ชั่วโมง และรองรับเที่ยวบินในช่วงที่ปิดซ่อมทางวิ่งเส้นที่ 1 และเส้นที่

 

ต่อด้วย "สนามบินดอนเมือง" จะเริ่มเปิดใช้งาน Taxi Drop Lane ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป ซึ่งจะเพิ่มช่องจราจรแยกเฉพาะรถแท็กซี่ได้ 2 เลน ช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดหน้าอาคารผู้โดยสาร 

 

"สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย" 1.อยู่ระหว่างก่อสร้างระบบทางขับขนานด้านทิศเหนือ 2.ปรับปรุงทางขับท้ายหลุมจอด พร้อมทางขับ A และ B โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน (Maintenance, Repair and Overhaul : MRO) 3.ปรับปรุงพื้นที่หัวทางวิ่งด้าน 03 และ 21 

 

ข่าวที่สอง การบินไทยยื่นขอแก้แผนฟื้นฟูด่วนเพิ่มทุนใหม่8หมื่นล้าน

 

คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่มีนายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เป็นประธาน ได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อวันศุกร์ที่  1 กรกฎาคม 2565  เนื่องจากต้องการสร้างความเชื่อมั่นต้อนรับธุรกิจการบินในประเทศและทั่วโลกฟื้นตัว ผนวกกับการบินไทยมีรายได้เติบโตแบบก้าวกระโดด ทำให้มีคล่องสูงสุดในรอบ 24 เดือน ปัจจุบันมีเงินสดหมุนเวียนอยู่ราว 14,000 ล้านบาท ส่วนสาระสำคัญการแก้ไขแผนครั้งนี้เบื้องต้นมีดังนี้

 

1.ขอเพิ่มทุน 80,000 ล้านบาท ตามมีรายละเอียดดังนี้

1.1 จัดหาสินเชื่อใหม่แบบสินเชื่อระยะยาว (Term Loan) ไม่เกิน 6 ปี และ/หรือตราสารหนี้ที่มีอายุการไถ่ถอนไม่น้อยกว่า 6 ปี ไม่เกิน 12,500 ล้านบาท กับเตรียมการจัดหาสินเชื่อหมุนเวียน (Revolving Facility) สำรองไว้ในวงเงินไม่เกิน 12,500 ล้านบาท

1.2 เพิ่มทุนจดทะเบียนประมาณ 31,500 ล้านหุ้น โดยมีเป้าหมายให้ส่วนทุนเป็นบวก บริษัทมีโครงสร้างทางการเงินมั่นคง และบริษัทจะได้ให้นำหลักทรัพย์กลับไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้งได้ตามขั้นตอน

 

(ก) ให้สิทธิผู้สนับสนุนสินเชื่อใหม่มีสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนในจำนวนเดียวกับจำนวนหนี้สินเชื่อใหม่ที่บริษัทเบิกใช้จริง (Drawdown Amount) ประมาณ 12,500 ล้านบาท

 

(ข) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อชำระหนี้เดิมของเจ้าหนี้ทางการเงินตามแผนด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยกระทรวงการคลังซึ่งเป็นทั้งเจ้าหนี้ทางการเงินและผู้ถือหุ้นหลักเดิมจะได้รับชำระหนี้ด้วยการแปลงหนี้เงินต้นทั้งเป็นทุน

 

ขณะที่ “เจ้าหนี้ทางการเงินกลุ่มอื่น ๆ และเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้” จะได้รับชำระหนี้ด้วยการแปลงหนี้เงินต้นจำนวน 24.5 %เป็นทุน โดยหนี้เงินต้นส่วนที่เหลือ 75.5 % จะได้รับชำระหนี้จากกระแสเงินสดของการบินไทยตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผนเดิม การแปลงหนี้เป็นทุนนี้จะทำให้การบินไทยมีส่วนทุนเพิ่มเติมและลดภาระหนี้ตามแผนลงประมาณ 37,800 ล้านบาท

 

(ค) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อร้องรับการใช้สิทธิแปลงหนี้ดอกเบี้ยตั้งพักตามแผนเป็นทุน ในราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น เพื่อให้การบินไทยสามารถลดภาระการชำระหนี้ดอกเบี้ยได้ 4,845 ล้านบาท

(ง) จัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ราคาที่ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการเห็นสมควรและไม่ต่ำกว่า 2.5452 บาทต่อหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิม และกรณีที่ไม่มีผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน หรือผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เต็มจำนวน ให้นำหุ้นส่วนที่มาเสนอขายให้แก่พนักงานบริษัท และหรือบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) คาดว่าจะสามารถระดมทุนเพิ่มเติมได้อีก 25,000 ล้านบาท

 

“การบินไทย” คาดการข้อแก้ไปแผนฉบับนี้จะสามารถปรับโครงสร้างทุนข้างต้นให้แล้วเสร็จภายในปี 2567 หากเป็นไปตามข้อเสนอดังกล่าว จะมีผลต่อให้ทุนจะกลับมาเป็นบวกได้ปี 2567 และหลักทรัพย์ของบริษัทน่าจะสามารถกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป

 

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai