“TCEB”ใส่เกียร์ลุยชิงต่อรอบ2-3“Specialised Expo 2028” นำBIEพบนายกฯ25-29ก.ค.นี้-ตั้งทีมบุกหาเสียง171ประเทศ
“TCEB”ใส่เกียร์ลุยชิงต่อรอบ2-3“Specialised Expo 2028”
นำBIEพบนายกฯ25-29ก.ค.นี้-ตั้งทีมบุกหาเสียง171ประเทศ
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน
“TCEB”ใส่เกียร์ลุยชิงเจ้าภาพ “Specialised Expo
2028” มาไทยจัดในภูเก็ต มี.ค.-มิ.ย.2571
เตรียมเปิดทำเนียบต้อนรับกรรมการ BIE เข้าพบนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรี
25-29 ก.ค.65 เดินเกมบุกต่อ “รอบสอง” กระทรวงต่างประเทศของไทยตั้งทีมลุยหาเสียงจากสมาชิก
171 ประเทศ ก่อนลุ้นฟังผลตัดสินใน “รอบสาม” ก.ย.66
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
“TCEB” เปิดเผยว่า แผนการชิงงาน Specialised Expo
2028 เข้ามาจัดในประเทศไทยให้ได้อีก 6 ปีข้างหน้าที่จังหวัดภูเก็ตปี
2571 หลังผ่านพ้นการเสนอข้อมูลรอบแรกที่กรุงปารีส ต่อคณะกรรมการ
BIE : Bureau International des Expositions ขั้นตอนต่อไป ในวันที่ 25-29 กรกฎาคม 2565 ตัวแทนคณะกรรมการจากทั้ง 7 ประเทศ ผู้รับผิดชอบคัดเลือกเจ้าภาพ
เตรียมเดินทางมาประเทศไทยโดยจะเข้าพบ “พลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กำกับดูแลทีเส็บ และรัฐมนตรีของไทยเกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมสนับสนุนการจัดงานดังกล่าว
แล้วคณะกรรมการ
BIE ชุดดังกล่าว มีกำหนดการเดินทางต่อไปยังภูเก็ตเพื่อสำรวจพื้นที่ก่อสร้างสถานที่จัดงาน
รวมทั้งโรงแรมที่จะรองรับผู้เข้าร่วมงาน
ซึ่งไทยมีที่พักอย่างหลากหลายให้เลือกได้ตามต้องการทุกระดับ
ขณะที่จังหวัดภูเก็ตตั้งเป้าจะใช้งานนี้แปลงโฉมจุดขายใหม่ทำให้ภูเก็ต
เป็น World Medical Hub พร้อมกับพัฒนากระบี่ พังงา
เชื่อมโยงทำเป็น “Andaman Wellness Medical Hub” พร้อม ๆ
กับจะใช้งานระดับโลกรายการนี้ดึงเม็ดเงินจากการเลือกจัดนอกฤดูท่องเที่ยวกระจายทั่วพื้นที่
ตามแผนหากไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจะจัดงานระหว่างวันที่
20 มีนาคม -17 มิถุนายน 2571
สร้างเม็ดเงินตรงเข้าระบบเศรษฐกิจประเทศรวมกว่า 49,000 ล้านบาท ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้กว่า 9 ล้านคน-ครั้ง
เนื่องจากสถิติปัจจุบันไทยที่ได้รับการจัดให้เป็นประเทศเมดิคัลอันดับ
5 ของโลก
เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้การเดินหน้าสร้างสุขภาพอย่างยั่งยืนได้อย่างราบรื่น
รวมทั้งยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ SDGs : Sustainable
Development Goals ขององค์การสหประชาชาติ รวมทั้งในช่วงจัดงาน Specialised
Expo 2028 ไทยจะได้รณรงค์และแสดงให้ทุกประเทศที่ลงทะเบียนร่วมเปิดพาวิลเลี่ยน
ได้เห็นถึงอนาคตการดูแลสุขภาพอย่างสมดุลด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และอื่น ๆ
ที่จะเกิดขึ้นพร้อมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ของภูมิภาคเอเชียด้วย
นายจิรุตถ์กล่าวว่า
การนำเสนอแผนประมูลงาน Specialised
Expo 2028 “รอบสอง” จะเกิดขึ้นช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 ไทยและคู่แข่งทุกประเทศจะต้องลงลึกในรายละเอียดถึงโครงสร้างสถานที่จัดงาน
รูปแบบการใช้งานแต่ละส่วนในอาคาร และรูปแบบการจัดงานอย่างสมบูรณ์แบบให้ได้มากที่สุด
เพื่อติดตามผล “รอบสาม” ในเดือนกันยายน 2566 ทางคณะกรรมการ
BIE จึงจะประกาศผลการตัดสินว่าประเทศใดจะได้รับการคัดเลือกเป็นเจ้าภาพต่อไป
ไฮไลต์การชิงงานมาจัดในไทยให้ได้เรื่องสำคัญที่สุด
ทีมไทยแลนด์จะต้องต้องเร่งทำงานอย่างหนักต่อไปคือ “ล็อบบี้หรือหาเสียง”
กับสมาชิกกว่า 171 ประเทศ
เฉพาะในทวีปแอฟริกามี 54 ประเทศ
ทางสาธารณรัฐประชาชนจีนสนับสนุนไทย
โดยมีกระทรวงการต่างประเทศกับทางเอกอัครฑูตไทยกรุงปารีส ฑูตพาณิชย์ไทยในฝรั่งเศส
เข้ามาช่วยอย่างเต็มที่ โดยได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบเรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากในรอบแรกประเมินผลแล้วประเทศไทยนำเสนอธีม
“Future of Life- living in harmony,
sharing prosperity” มีโอกาสที่ดีไม่เป็นรองประเทศคู่แข่งทั้ง อเมริกา เซอร์เบีย สเปน
อาร์เจนตินา เพราะเนื้อหาสามารถตอบโจทย์องค์การสหประชาชาติเรื่อง SDGs และ Human Capility
รวมถึง
“ไทย” ยังเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่นำเสนอธีม “Future of Life- living in harmony, sharing
prosperity” เน้นวางแผนการใช้ชีวิตของมนุษย์บนโลกอนาคตอาจจะต้องเผชิญปัญหาทั้งสงคราม
ความขัดแย้ง โรคภัยต่าง ๆ ดังนั้นจึงเน้นเรื่อง “ชีวิตสมดุล” เน้นการสร้างสุขภาพที่ดีหรือWell being สอดคล้องกับในปี คศ.2030 หรือ พ.ศ.2573 ทางองค์การสหประชาชาติ (United
Nation) ตั้งเป้าให้เป็นปีแห่งการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน หรือ
SDGs : Sustainable Development Goals
ตอบโจทย์คณะกรรมการ
BIE : Bureau International des Expositions ได้กำหนดโจทย์หลักเพื่อใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกประเทศที่เหมาะสมจะได้เป็นเจ้าภาพ
Specialised Expo 2028 ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก
คือ
ส่วนที่ 1
หลังเสร็จสิ้นการจัดงานแล้ว ประเทศที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพ
มีแผนบริหารจัดการพื้นที่จัดงานขนาดใหญ่เพื่อใช้ประโยชน์อย่างไรต่อไป
“ประเทศไทย”
ได้นำเสนอจุดแข็ง 2 ปัจจัยบวก ได้แก่
ปัจจัยที่ 1 -เลือกใช้พื้นที่ที่จะลงทุนพัฒนาเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพองค์รวม : Wellness Center อยู่แล้ว
เป็นของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้อยู่ระหว่างเลือกแนวทางจะร่วมทุนกับเอกชนรายอื่นหรือลงทุนเองทั้งหมด
เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคตต่อไป
ปัจจัยที่ 2 ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (สศช./สภาพัฒน์)
ประกาศสนับสนุนภูเก็ตเป็นเมืองสุขภาพยั่งยืนเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลก : World Medical Hub
ส่วนที่ 2 สังคมชุมชนรอบพื้นที่จัดงานเอ็กซโปได้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นอย่างไรบ้าง
“ประเทศไทย”
ได้นำเสนอเรื่องพื้นที่เตรียมจัดงาน Specialised
Expo 2028 ครั้งนี้เกิดขึ้นจากแรงผลักดันของคนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตโดยตรง
ระดมสมองแล้วนำโครงการมาเสนอรัฐบาลเริ่มตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
จากนั้นทีเส็บได้เข้าไปทำงานร่วมกับ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.) ดำเนินการเตรียมทำข้อเสนอก่อนเดินทางไปร่วมประมูลงานรอบแรกที่กรุงปารีส
ฝรั่งเศส ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2565 ส่วนธีมจัดงานมีทีมบริษัทที่ปรึกษามืออาชีพเข้ามาวิเคราะห์จนตกผลึกด้วยคอนเซ็ปต์
“Future of Life- living in harmony, sharing prosperity”
ทาง “จังหวัดภูเก็ต”
ทั้งภาครัฐ เอกชน และพันธมิตรเกี่ยวข้อง ตั้งเป้าจะใช้งาน Specialised Expo 2028 พลิกโฉมสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่เพิ่มมากกว่าหนึ่งเสา
จากปัจจุบันมีรายได้จากเพียงเสาเดียวคือ “การท่องเที่ยว” ต่อไปจะขยายฐานจุดขายใหม่เรื่องอาหาร
และบริการสุขภาพองค์รวม หรือ Medical Wellness Hub สามารถมีรายได้จากทางอื่น
ๆ เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
ส่วนที่ 3 จำนวนชาวต่างชาติที่จะเข้าร่วมงาน Specialised Expo 2028 ด้วยศักยภาพของภูเก็ตเป็นจังหวัดท่องเที่ยวมีชื่อเสียงติดอันดับโลก จึงมีโอกาสสูงดึงดูดคนทั่วโลกซึ่งต้องการจะเดินทางมาร่วมงาน
จากผลการศึกษาหากไทยจัดที่ภูเก็ตจะมีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 9 ล้านคน-ครั้ง หนึ่งคนอาจจะมาเยี่ยมชมงานมากกว่าหนึ่งครั้ง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น