ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

“TCEB”เปิดเกมรุกไมซ์ตลาดโลกดึงยูนิซิตี้54ชาติแห่ใช้เงินในไทย บูมขาย7ธีมไมซ์พรีเมี่ยม แจกงบประชุมเมืองไทยสร้างเศรษฐกิจไทยต.ค.65

TCEB”เปิดเกมรุกไมซ์ตลาดโลกดึงยูนิซิตี้54ชาติแห่ใช้เงินในไทย

บูมขาย7ธีมไมซ์พรีเมี่ยมโกย“ประชุมองค์กร+อินเซ็นทีฟ”ไทย-เทศ

แจกงบปลุกในประเทศประชุมเมืองไทยสร้างเศรษฐกิจไทยต.ค.65

คิงเพาเวอร์ช้อปทางClick&Collectง่ายทั้งขาออก-ขาเข้าด้วยรหัสFLY

ช้อปคุ้มซื้อแคชการ์ด3หมื่นรับกิฟท์การ์ด1หมื่น-ช้อปLineง่าย3สเต็ป

ททท.นำโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์คว้ารางวัลเอเชียAREAองค์กรยั่งยืน

บางจาก”เปิดโมเดลปั๊มเพื่อสังคมหนุนสินค้าเกษตรไทยกว่า 24 ปี

“TCEB”ผนึกจัดไมซ์EMTMทะเลตะวันออกเชื่อมEEC+SEZ+SilkRoad

ทริปทัวร์สกายวอล์ควัดผาตากเสื้อหนองคายชมวิวน้ำโขงสองแผ่นดิน

7 เคล็ดลับกินอยู่อย่างถูกวิธีทำให้สุขภาพดีทุกเพศทุกวัยอายุยืนยาว

TravelokaจัดEPIC Sale2022เที่ยวไทยโต2เท่า-ทัวร์นอกแรง3ประเทศ

-“อนันตราสยาม-แกรนด์ไฮแอท”ชูขายขนมไหว้พระจันทร์ถึง10ก.ย.65

 

ศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” 

 วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #สกายวอล์ควัดตากผีเสื้อหนองคาย #เทศกาลขนมไหว้พระจันทร์

 ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...https://www.facebook.com/QFMQualityNewsStation/videos/1015864615763648/

ช่วงที่ 1 ติดเทอร์โบตลาดไมซ์กับ “ศุภวรรณ ตีระรัตน์” รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดประเทศปุ๊บโกยปั๊บ ไมซ์ประชุมองค์กร-อินเซนทีฟ นำร่องดึงเครือข่ายธุรกิจขายตรง ยูนิซิตี้ 54 ประเทศ 10,000 คน ใช้เงินในไทย 4 วัน 660 ล้านบาท พร้อม 2 ข่าวดี “มาตรการลดหย่อนภาษีบริษัท ห้างร้าน จัดประชุมปี65” รวมทั้งรอเปิดโครงการแจกงบล็อตใหม่ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” 1 ต.ค.65 ทั่วไทย 1,000 กรุ๊ป เปิดแผนลุยจัดทัพสินค้า “7 ธีมไมซ์+ไมซ์ พรีเมี่ยม” ปลุกสินค้า ไมซ์ชุมชน ไมซ์ ซิตี้ คึกคักต่อเนื่องปลายปี65-66

 

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB เปิดเผยว่า ทีเส็บได้นำงานประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (incentive) ซึ่งตอนสถานการณ์โควิดระบาดลูกค้าหายไปเกือบ 90 % พอรัฐบาลประกาศนโยบายเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ปลดล็อกมาตรการต่าง ๆ ทำให้ตอนนี้มีงานไมซ์จากตลาดต่างประเทศทั้งงานวิชาการ เมกะอีเวนต์ ประชุม และการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล หลั่งไหลเข้ามาไทย


 

“กลุ่มประชุมองค์กร” เป็นตลาดแรกที่สามารถนำเข้ามาได้เร็วที่สุด เพราะบริษัทต่าง ๆ สามารถตัดสินใจได้เลยทันที แตกต่างจากการประชุมของสมาคมตามขั้นตอนจะต้องรอมติคณะกรรมการ หรืองานแสดงสินค้า (exhibition) จะจัดได้ต้องไปสอบถามผู้เข้าร่วมว่าจะมางานได้หรือไม่ ทีเส็บจึงได้หันไปจับตลาดประชุมองค์กร (M : meetingและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (I : Incentive) เพิ่มขึ้น

 

ตลาดใหญ่สุด คือ “กลุ่มเครือข่ายขายตรง” ในเดือนสิงหาคม นี้ ทาง “ยูนิซิตี้” เป็นผู้นำธุรกิจขายตรงสินค้าสุขภาพ มีเครือข่ายกระจายอยู่ทั่วโลก 54 ประเทศ ตัดสินใจเลือกมาจัดในงานไทยชื่อ 2022 Global Leadership Innovation Conference เป็นการเชิญสมาชิกระดับหัวหน้าที่ทำยอดขายได้จำนวนมากถึง 10,000 คน มาร่วมประชุมกันในเมืองไทย ระหว่าง 5-8 สิงหาคม 2565 ที่กรุงเทพฯ เพื่อกระจายรายได้ จากนั้นหัวหน้างานบางส่วนจำนวนนับพันคนอยู่เพิ่มเพื่อเดินทางไปเที่ยวต่อในพัทยา ภูเก็ต 

สมาชิกยูนิซิตี้ที่มาจัดประชุมในเมืองไทยต่อเนื่องเป็นเวลา 4 วัน จะสามารถสร้างเงินช่วงสั้น ๆ ให้ไทยได้กว่า 660 ล้านบาท รวมทั้งกระจายรายได้สู่จังหวัดอื่นด้วย เพราะกลุ่มตลาดนี้เป็นผู้ใช้จ่ายเงินรายใหญ่หรือ Big Spender เลือกจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่ชื่นชอบความเป็นไทย

ทางทีเส็บได้ให้การสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 เงินสนับสนุน ส่วนที่ 2 อำนวยความสะดวกประสานกงศุลไทยทั่วโลกเรื่องจัดทำวีซ่าเข้าไทย ส่วนที่ 3 เปิด MICE LANE ในสนามบินสุวรรณภูมิให้สิทธิพิเศษอำนวยความสะดวกการตรวจหนังสือเดินทางให้คณะนี้ทั้งหมด 10,000 คน  ตอกย้ำนโยบายเปิดประเทศแล้วไปได้เป็นอย่างดี และยืนยันถึงไทยยังครองความนิยมตลาดไมซ์กลุ่มธุรกิจขายตรงนานาชาติ รวมทั้งทำให้ทั่วโลกมั่นใจศักยภาพความพร้อมต้อนรับการจัดงานขนาดใหญ่พร้อมกันนับหมื่นคน ตามหัวหลักทั้งในกรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา เป็นโมเดลที่จะดึงพื้นที่ ไมซ์ ซิตี้ ทั่วไทยทั้ง 10 จังหวัด ใช้เป็นต้นแบบจัดงานได้ด้วย

 

ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป ทีเส็บสามารถดึง “ประชุมองค์กรงานระดับนานาชาติ” เข้ามาจัดในไทยมีมากถึง 50-60 % ของงานทั้งหมดที่เข้ามาในไทย สถิติตอนนี้มากกว่า 25 งาน ภายในแต่ละงานจะมีทั้งการจัดประชุมวิชาการ การแสดงสินค้า และการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล

ขณะนี้ทีเส็บกำลังเร่งทำตลาดอเมริกา ยุโรป เพิ่งจะไปร่วมงาน IMEX FRANKFIRT 2022 หลายประเทศอั้นมานานก็อยากเดินทางมาจัดงานไมซ์ในประเทศแถบเอเชีย โดยมองถึงความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เป็นมิตรไมตรี ซึ่งไทยติด 1 ใน 10 ของโลก

 


นางศุภวรรณกล่าวว่า ตั้งแต่กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป มีข่าวดีแจ้งกับทางผู้ประกอบการ 2 เรื่อง คือ เรื่องที่ 1 ทางกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ประกาศมาตรการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมเป็นอินเซ็นทีฟให้บริษัท ห้างร้าน องค์กร ที่จัดงานประชุม และงานแสดงสินค้า ในประเทศ เรื่องที่ 2 ทีเส็บเตรียมเปิดตัวโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เปิดให้ผู้ประกอบการประเภท องค์กร สมาคม มูลนิธิ ถ้าจะจัดการประชุมทางทีเส็บมีงบประมาณช่วยเหลือการจัดงาน เพื่อเร่งให้เกิดการกระจายรายได้ทั่วประเทศ ซึ่งโครงการนี้กำลังรองบจากรัฐที่จะได้รับเริ่ม 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ถ้าเงินได้มาก็จะทำโครงการนี้ทันทีสามารถกระจายการจัดประชุมทั่วประเทศได้ประมาณ 1,000 กรุ๊ป คาดการณ์เคลื่อนไหวคนประชุมได้ 30,000-50,000 คน

 

ส่วนการวางกลยุทธ์ “การกระจาย” ผู้เข้าร่วมงานประชุมองค์กรและเดินทางเพื่อเป็นรางวัล พื้นที่ที่จะได้รับประโยชน์เต็ม ๆ คือ จังหวัดที่มีสถานที่จัดประชุมรองรับคนจำนวนมากได้พร้อม ๆ กัน อย่างกรุงเทพฯ มีศูนย์ประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา แล้วเดือนกันยายนนี้ศูนย์ประชุมนานาชาติสิริกิติ์ซึ่งปิดปรับปรุงและขยายพื้นที่เพิ่มก็จะเปิดบริการแล้ว

 

ขณะที่ช่วงเดือนมิถุนายน 2565 ทีเส็บได้สนับสนุนนำงาน Global Women Leadership มาจัดในกรุงเทพฯ มีผู้สตรีแถวหน้าของโลกมารวมตัวกันนับพันคน นอกเหนือจากนั้นก็มีงานประชุมแพทย์สาขาต่าง ๆ การประชุมองค์กรจากประเทศแถบเอเชีย อาเซียนอย่าง มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ตลอด 2 เดือนมีเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้งนั่งเช่ารถชัตเติ้ลบัสผ่านช่องทางบกและทางอากาศ

 

นางศุภวรรณ กล่าวว่า นโยบายของภาครัฐต้องการกระจายเม็ดเงินสู่ชุมชน ทีเส็บได้วางกลยุทธ์เปิดเส้นทางขายเชื่อมโยงหลังเสร็จสิ้นการเข้าร่วมแต่ละงาน นักเดินทางไมซ์ตลาดต่างประเทศก็จะเดินทางจากจังหวัดหลักไปจังหวัดใกล้เคียง เช่น เชียงใหม่ ไปลำพูน ลำปาง ทั้งเพื่อการเรียนรู้และการกระจายรายได้ นำไปสู่การแจ้งเกิด “ไมซ์ชุมชน” ควบคู่กับ “ไมซ์ซิตี้” ตอนนี้มีทั้งหมด 10 เมือง ได้แก่ “ภาคเหนือ” 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ลำปาง พิษณุโลก “ภาคกลาง” 1 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ “ภาคใต้” 3 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานีรวมสมุย ภูเก็ต สงขลา “ภาคอีสาน” 3 จังหวัด คือ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และ ภาคตะวันออก 1 จังหวัด คือ พัทยา ชลบุรี

 

ทีเส็บจึงได้จัดทำเป็น “เส้นทางไมซ์ -MICE Routing กระจายไปยังชุมชน โดยแบ่งเป็น 7 ธีม สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้บริการซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรสมัยใหม่ เป็นตลาดที่ต้องการรุกเจาะให้ใช้จ่ายเงินตรงเข้าชุมชนเพิ่มขึ้น


 

ธีมที่ 1 ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เป็นการนำเสนอให้ผู้เข้าร่วมงานที่ต้องการค้นหาวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของพื้นที่นั้น ๆ ได้สัมผัสประสบการณ์ดี ๆ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ

ธีมที่ 2 การผจญภัย (Adventure) ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบทำกิจกรรมท้าทาย ผ่านกิจกรรมรุปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถต่อยอดไปถึงเรื่องการทำการสร้างทีมเวิร์กต่อไป

ธีมที่  3 การสร้างทีมเวิร์ก หรือ Team Building แตกต่างจากท่องเที่ยวทั่วไป เพราะจะมีเรื่องการทำเกี่ยวกับ พนักงาน กิจกรรม สัมพันธ์ ต่าง ๆ สร้างความร่วมมือกันทำงานเป็นทีมด้วยกัน

ธีมที่ 4 CSR และการประชุมเชิงอนุรักษ์สไตล์ Green Meeting นำเสนอให้องค์กรต่าง ๆ หันมาทำความดีตอบสนองความรับผิดชอบต่อสังคม แตกต่างจากเดิมจะเน้นปลูกป่า ปัจจุบันจะมีกิจกรรมมากขึ้น เช่น การสร้างห้องสมุดโรงเรียน กิจกรรมชุมชน และอื่น ๆ

ธีมที่ 5 กิจกรรมบรรยากาศชายหาด การจัดประชุมต้อนรับบนชายหาด บนเกาะ ริมทะเล ตามรีสอร์ตธรรมชาติทั้งภาคใต้ ภาคตะวันออก

ธีมที่ 6 การจัดงานและกิจกรรมความหรูหรามีระดับ หรือ luxury ขณะนี้องค์กรที่มีความหรูก็ต้องการเลือกทำสิ่งใหม่ ๆ ในหลากหลายจังหวัดสามารถทำกิจกรรมได้พิเศษมากกว่าพื้นที่ทั่วไป

ธีมที่ 7 กิจกรรมนำเสนออาหารไทยในทุกการจัดงานที่หลากหลาย โดยแนะนำให้เลือกใช้วัตถุดิบภายในท้องถิ่นเข้ามาปรุงเมนูต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ทำอาหารไทย เป็นธีมที่ทีเส็บให้ความสำคัญมาก ๆ

 


ขณะนี้มีเทรนด์ใหม่เกิดขึ้น เช่น “ภาคเหนือ” ที่เชียงใหม่ มีเกี่ยวกับกิจกรรมการขี่ช้างเปลี่ยนเป็นการทำอาหารให้ช้างกิน เนื่องจากระยะหลังชาวต่างชาติต่อต้านการทรมานช้าง จึงส่งผลทำให้ปางช้างต่าง ๆ ต้องปิดกิจการ ดังนั้นทีเส็บจึงหันมาทำกิจกรรมชวนผู้เข้าร่วมงานไมซ์ชุมชนหรือไมซ์ซิตี้ หันมา “เลี้ยงดูช้าง” กลายเป็น Rehabitation Center ศูนย์บำบัดเลี้ยงช้าง แทนการขี่ช้าง เรียนรู้วิถีชีวิตช้าง อาบน้ำช้าง ทำอาหารให้ช้าง ทำยาแก้ท้องผูกด้วยสมุนไพรให้ช้างกิน และทำกิจกรรมร่วมกันกับช้าง หลายพื้นที่ให้ช้าง วาดรูป หรือระบายสีโลโก้องค์กรจัดประชุมนั้น ๆ กลายเป็นความน่ารักอีกมุมในเชิงบวก หรือ “ภาคใต้” นำไปร่วมปล่อยเต่าลงสู่ทะเล ปลูกหญ้าทะเล ซึ่งเป็นประโยชน์กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน

สำหรับ “ช่องทาง” การเข้าไปดูรายละเอียดการนำเสนอเส้นทาง 7 Theme MICE ได้ที่เว็บไซต์ www.thaimiceconnect.com  เป็นแพลตฟอร์มรวมให้ผู้ที่สนใจจะจัดงานเข้ามาดูรายละเอียด เพื่อนำไปใช้เสนอเป็นเจ้าภาพจัดงานไมซ์ต่าง ๆ ได้ โดยมีรายชื่อผู้ประกอบการทั้งหมด



นางศุภวรรณ กล่าวว่ายังมีอีกโปรเจ็กต์ใหญ่คือ “MICE Premium-เส้นทางสร้างสรรค์ใหม่ บนเส้นทางสายไมซ์” แบ่งเป็น 1.ไมซ์ชุมชน ซึ่งมีเกือบ 1,000 เส้นทาง เป็นการต่อยอดมา 3-4 ปี โดยนำอัตลักษณ์ชุมชนแต่ละจังหวัด มานำเสนอต่อสมาคม องค์กรต่าง ๆ นอกจากไปเยี่ยมชมชุมชน ยังสามารถนำผลิตภัณฑ์มาต่อยอดขายได้ด้วย เช่น เทศกาลปีใหม่ จะนำสินค้าต่าง ๆ มาใช้ค่อนข้างมาก และพรีเมี่ยมไมซ์ ไม่ได้มีแต่เฉพาะ หัตถกรรมเท่านั้น ยังมีอาหาร ข้าวออร์แกนิก สปาต่าง ๆ สามารถค้นหาข้อมูลได้ทาง www.thaimiceconnect.com    รวมทั้งมีหลายบริษัทที่ได้ไปเยี่ยมชมชุมชนจริง ๆ แล้วกลับมาก็นำผลิตภัณฑ์ชุมชนมาใช้ในองค์กร ได้ช่วยเหลือกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นด้วย 

ปี 2566 วางแผนต่อยอดขายไมซ์ พรีเมี่ยม ในชุมชนทั่วประเทศ ทีเส็บจะเจาะในจังหวัด ไมซ์ ซิตี้ ก่อน เพราะได้เข้าไปบ่มเพาะ พัฒนาผู้ประกอบการในชุมชนเรียบร้อยแล้ว เช่น พัทยา แต่เดิมจะนึกถึงแต่เกาะล้าน แต่ใกล้ ๆ พัทยายังมีอีก 2 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้านชากแง้ว มีกิจกรรมเปิดตลาดคนเดินวันเสาร์-อาทิตย์ โดดเด่นเด่นด้านวัฒนธรรมจีน  กับชุมชนตะเคียนเตี้ย มีสวนมะพร้าวหลายร้อยไร่ ได้นำองค์กรเข้าไปจัดกิจกรรมในชุมชนทั้งสองแห่งนี้ค่อนข้างมาก

 


ขณะนี้มีโปรดักซ์กว่า 400 ชุมชน สรุปเป็นเล่มและอยู่บนเว็บไซต์ MiceConnect ปี 2566 จะเน้นชูขายเชื่อมโยงชุมชนต่อเนื่องกันกับเมืองหลัก 10 ไมซ์ ซิตี้ เช่น ภาคเหนือ   พิษณุโลก ไปยังสุโขทัยเมืองเฮอริเทจ มรดกโลก “ภาคใต้” บูมเป็นคลัสเตอร์อันดามัน ภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง หรือทางสงขลา พัทลุง ปัตตานี “อีสาน” จากขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุดรธานี

ปี 2565 เพิ่งจะทำเส้นทางไมซ์ชุมชนจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ชูจุดขายผลิตข้าวค่อนข้างมาก มีชื่อเสียงเรื่องดินภูเขาไฟมาทำผ้ามัดย้อม และปลูกพืชที่มีชื่อเสียงอย่าง ทุเรียนภูเขาไฟ ถือเป็นหนึ่งในโปรดักซ์ที่จะดึงเข้ามาอยู่ในไมซ์ พรีเมี่ยม

 ฟังข่าวต้นชั่วโมง


ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ช้อปทางClick&Collectง่ายขาออก-ขาเข้าด้วยรหัสFLY 

นักช้อปที่มีไฟลต์บินต้องห้ามพลาด แค่มีไฟลต์บินก็ช้อปได้ง่ายๆ กับ King Power Click & Collect ตั้งแต่ตัวยังไปไม่ถึงสนามบิน ก็สามารถช้อปได้พร้อมรับโปรโมชั่นสุดพิเศษทั้งขาเข้า-ขาออก ตั้งเเต่วันนี้– 31 สิงหาคม 2565

ช้อปเต็มที่ รับขาออก กรอกรหัสลด : FLY1000 ลดทันที 1,000 บาท* เมื่อช้อป 5,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ

ช้อปไม่ต้องหิ้ว รับขาเข้า กรอกรหัสลด : FLY2000 ลดทันที 2,000 บาท* เมื่อช้อป 8,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ

พิเศษสุด! ช้อปสินค้า Travel Exclusive จากแบรนด์ดังมากมาย เฉพาะช้อปที่ King Power Application หรือ www.kingpower.com #มีไฟลต์ต้องช้อป #KingPowerClickAndCollect

 


ข่าวที่ 2 ช้อปคุ้มซื้อแคชการ์ด3หมื่นรับกิฟท์การ์ด1หมื่น-ช้อปLineง่าย3สเต็ป

 

ช้อปคุ้มค่าทุกการเดินทางที่ “คิง เพาเวอร์” ตอนนี้จัดเต็ม PRIVILEGES & PROMOTION  เมื่อซื้อสินค้าดิวตี้ ฟรี โดยมีไฟลต์บินตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2565 ทั้งการซื้อแคชการ์ดและผ่าน Line Official

 

เริ่มต้นด้วยการซื้อ CASH CARD 30,000 บาท รับ GIFT CARD 10,000 บาท เพื่อให้นำไปใช้ช้อปได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา ที่ รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต และศรีวารี ทุกวันเสาร์-อาทิตย์

 

เตรียมตัว!! สำหรับนักเดินทางสายช้อป เมื่อมีไฟลต์แล้วก็ตลุยช้อป DUTY FREE ONLINE ได้เลยไม่ต้องรอ  ได้ทาง LINE OFFICIAL ACCOUNT   ก่อนบินทริปต่อไป อย่าลืมช้อป! ADD LINE : @kingpower

คลิก https://lin.ee/QxLtQ1b  ง่าย  ๆ แค่ 3 Step

 

Step 1 ลิสต์ไอเทมให้พร้อม ก่อน ADD LINE OA :  @kingpower

Step 2 เลือกปุ่ม SHOP NOW ตามด้วย King Power Click & Collect

Step 3 ช้อปไอเทมมากมายพร้อมโปรฯ คุ้มได้เลย! เลือกรับสะดวกได้ทั้งขาเข้าและขาออก

 


ข่าวที่  3 ททท.นำโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์คว้ารางวัลเอเชียAREAองค์กรยั่งยืน

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้รับรางวัลชนะเลิศ Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2022 สาขา Social Empowerment ในฐานะองค์กรที่มีความโดดเด่นด้านการเสริมสร้างพลังทางสังคมระดับภูมิภาคเอเชีย จากการส่งผลงาน “Leader in Opening the Phuket Sandbox for Foreign Tourists” เข้าร่วมประกวด Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2022  ซึ่งจัดโดย Enterprise Asia องค์กรพัฒนาเอกชนชั้นนำที่ส่งเสริมศักยภาพของหน่วยงานองค์กรในทวีปเอเชีย เป็นเวทีเน้นมอบรางวัลให้องค์กรที่มีผลงานโดดเด่นในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน

ครั้งนี้ ททท. คว้ารางวัล AREA มาได้ ในฐานะเป็นผู้นำการขับเคลื่อนการฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทย หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง สามารถฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับคืนได้เร็วที่สุด โดยได้ขับเคลื่อนท่องเที่ยวอย่างเข้มข้น 4 ปัจจัยหลัก ดังนี้

ปัจจัยที่ 1 ทำให้ไทยเป็น Top of Mind ยังคงเป็นประเทศจุดหมายปลายทางแถวหน้าในใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ปัจจัยที่ 2 สามารถรักษาสมดุลระหว่างมาตรการทางสาธารณสุขกับเป้าหมายทางเศรษฐกิจนำแนวคิดการพัฒนาตลาดท่องเที่ยวตามรูปแบบ City Marketing มาช่วยพลิกฟื้นวิกฤตที่เกิดขึ้น  โดยใช้ความสำเร็จของภูเก็ตเป็นต้นแบบเปิดประเทศอีกครั้ง รวมทั้งนำบทเรียนจาก Phuket Sandbox มาปรับใช้เป็นแนวทางเปิดประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อเนื่องในการนำไปใช้เปิดเกาะสมุย และอีกหลายพื้นที่ท่องเที่ยวระดับนานาชาติ สร้างสำเร็จก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษกิจทั้งหมดมาจากท่องเที่ยวโดยตรง และห่วงโซ่อุปทานที่สนับสนุนการท่องเที่ยวทั้งระบบ

ปัจจัยที่ 3 ฟื้นความเชื่อมั่นกลับมาได้อย่างรวดเร็วทำให้พันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตั้งแต่รัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นมา ทำให้ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางเข้ามาไทยวันละกว่า 35,000 คน

ปัจจัยที่ 4 ททท. ได้นำผลลัพธ์จากการดำเนินงานที่เกิดขึ้นมาศึกษาและวิเคราะห์ปัจจัยภายในและภายนอก รับฟังทิศทางและนโยบายด้านการท่องเที่ยวจากภาครัฐ ความต้องการและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียครอบคลุมกลุ่มผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อวางทิศทางในการทำการตลาดการท่องเที่ยวไทยในอนาคต

ล่าสุด ททท.ได้จัดทำแผนวิสาหกิจการท่องเที่ยวระยะ 5 ปี ระหว่าง พ.ศ. 2566 – 2570 โดยพร้อมเป็นผู้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยสร้างประสบการณ์ทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืน ครอบคลุมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวครบทั้ง 3 มิติ ได้แก่

มิติแรก “ด้านเศรษฐกิจ” สร้างเสริมความเติบโตทางเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ พร้อมยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยว

มิติที่สอง “ด้านสิ่งแวดล้อม” ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบ รักษาความยั่งยืนของแหล่งท่องเที่ยวและระบบนิเวศ

มิติที่สาม “ด้านสังคม” มุ่งสร้างอาชีพให้คนในชุมชนท่องเที่ยว ตลอดจนกระจายรายได้อย่างยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาองค์กรไปสู่การดำเนินงานและสร้างหมุดหมายให้ประเทศไทยมีการท่องเที่ยวที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมและเป็นไปตามมาตรฐานความยั่งยืนต่อไป 

ทั้งนี้ทางองค์กร Enterprise Asia ได้จัดพิธีประกาศรางวัลเมื่อ 21 กรกฎาคม 2565 ซึ่งใช้รูปแบบการจัดด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ในระบบเสมือนจริง หรือ Virtual Award Ceremony ดำเนินการถ่ายทอดสดผ่าน YouTube : Enterprise Asia ให้ทั่วโลกได้รับชมการประกาศรางวัลดังกล่าว โดยมีผู้ประกอบการและหน่วยงานจากองค์กรต่าง ๆ รวมถึงบุคคลสำคัญในด้าน CSR เข้าร่วมอย่างคับคั่ง เป็นสักขีพยานให้ ททท.และประเทศไทยในการคว้ารางวัลชนะเลิศ Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2022 สาขา Social Empowerment ในฐานะองค์กรที่มีความโดดเด่นด้านการเสริมสร้างพลังทางสังคมระดับภูมิภาคเอเชียประจำปี 2565

 


ข่าวที่ 4 “บางจาก”เปิดโมเดลปั๊มเพื่อสังคมหนุนสินค้าเกษตรไทยกว่า24ปี

 

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำเสนอเรื่องดีดี ที่ปั๊มบางจาก มากกว่าโปรโมชั่น คือ การตลาดเชิงรุกที่ยั่งยืน ภารกิจเสาะหาและคัดสรรสินค้าของเกษตรจากทั่วประเทศมาสมนาคุณลูกค้าผู้เติมน้ำมันด้วยสินค้าเกษตร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมไทย โดยของแถม หรือ สินค้าสมนาคุณ จะหมุนเวียนต่างกันไปตามความจำเป็นและปัญหาสินค้าล้นตลาด ราคาตกต่ำ ที่กลุ่มเกษตรกรไทยต้องเผชิญในแต่ละปี 

“วิภาส เจริญเผ่า” ผู้จัดการส่วนโฆษณาและส่งเสริมการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  อธิบายที่มาการนำสินค้าเกษตรมาเป็นของสมนาคุณในปั๊มบางจากเริ่มทำต่อเนื่องมากว่า 24 ปี นับตั้งแต่ปี 2541 จนถึงปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ที่ปั๊มบางจากเคยแจกเพื่อสร้างความประทับใจแก่ลูกค้ามาแล้วมีหลากหลายชนิด ทั้งกล้วยอบเนย มะนาว เผือกอิ่มใจ สับปะรดกวน ทอฟฟี่มะขาม ลูกหยีกวน สบู่สับปะรด ลำไยอบแห้ง ข้าวอบกรอบ และอื่น ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของกลุ่มเกษตรกรและร่วมอุ้มชูภาคเกษตรกรรมที่เป็นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ 

 ของสมนาคุณดังกล่าวจะมีการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ใส่ในบรรจุภัณฑ์สวยงาม หรือมีลวดลายการ์ตูนและข้อความ พร้อมตั้งชื่อสินค้าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ผู้รับ ส่วนในแต่ละปีจะเป็นอะไรนั้น จะผลัดเปลี่ยนเวียนไปโดยพิจารณาเกษตรกรที่ประสบปัญหายากลำบาก และมีปริมาณการผลิตที่เพียงพอต่อการจัดโปรโมชั่นที่มักจะยาวนานราว 2 สัปดาห์

 


ประการสำคัญสินค้าเหล่านั้นจะต้องมีคุณภาพ สอดรับกับสิ่งที่ผู้บริโภคมองหา หรือมีแนวทางที่สอดคล้องกับบางจากฯ เช่น เป็นผลไม้สายพันธุ์น้ำตาลน้อยดีต่อสุขภาพ ผู้บริโภค หรือ มีกระบวนการผลิตซึ่งรบกวนสิ่งแวดล้อมน้อยลงกว่าเดิม

 

ซึ่งเป็นกลยุทธ์ “ต่อยอดความช่วยเหลือสู่เกษตรกร ร่วมกับภาครัฐ” ซึ่งเป็นภารกิจงานส่งเสริมการตลาดของปั๊มบางจากเรื่องการสานต่อสิ่งที่บางจากฯ ทำมานาน ต่อยอดในมุมกว้างและยั่งยืน

ส่วนที่ 1 คือการต่อยอดสู่ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐอย่างกระทรวงพาณิชย์และกรมการค้าภายในเพื่อบรรเทาปัญหาผลผลิตทางการเกษตร ล้นตลาด ควบคู่ไปกับ การวางแผนจัดการเพื่อสนับสนุนสินค้าเกษตรของไทยอย่างยั่งยืน ผ่านการแปรรูปที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทาง การเกษตร

ส่วนที่  2 บางจากร่วมสร้างรอยยิ้มให้เกษตรกรไทย ทั่วประเทศ เติมความสุข และส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตั้งแต่ปี 2564 ผลผลิตทางการเกษตรของไทยประสบปัญหาภาวะล้นตลาด ราคาตก และจำหน่ายไม่ได้ จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์และกรมการค้าภายในมอบความช่วยเหลือสนับสนุนสินค้าเกษตร ภายใต้วัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือ กระจายช่องทางจัดจำหน่าย การสร้างงาน สร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับกลุ่มเกษตรกร

ทางบางจากฯ ได้ตอบรับให้ความร่วมมือ ผ่านการมอบสินค้าเกษตรสดใหม่เป็นของสมนาคุณแก่ลูกค้าโดยไม่ผ่านการแปรรูป เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่เดือดร้อนได้อย่างทันท่วงที เช่น แจกสับปะรดเป็นลูก มังคุดเป็นลูก หอม กระเทียม หรือ พืชสามหัว ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าที่มีผลผลิตสู่ท้องตลาดในปริมาณมากเกิน ความต้องการในขณะนั้น

ทั้งหมดเป็นภารกิจที่บางจากฯ พร้อมจะทำประโยชน์ดี ๆ คืนสู่สังคม ทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน



ข่าวที่ 5 TCEB”ผนึกจัดไมซ์EMTMทะเลตะวันออกเชื่อมEEC+SEZ+SilkRoad

สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)  “TCEB” รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้จับมือกับเครือข่ายท่องเที่ยว 5 สมาคม ทำกิจกรรมกระตุ้นไมซ์ในภาคตะวันออก โดยได้จัดงานเสวนาและเจรจาธุรกิจ Eastern MICE & Travel Mart 2022 (EMTM)   เพื่อขยายฐานตลาดด้วยเส้นทางไมซ์เชื่อมโยงเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออก 4 จังหวัด (CVTEC)  ได้แก่ ชลบุรี จันทบุรี ระยอง ตราด รวมถึงนำเสนอสถานการณ์ความคืบหน้าเกี่ยวกับข้อมูลการท่องเที่ยวและไมซ์แต่ละจังหวัด รวมถึงข้อมูลการท่องเที่ยวและไมซ์กัมพูชาและเวียดนาม

โครงการ CVTEC นอกจากจะกระจายโอกาสในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงที่เคยกระจุกตัวแล้ว ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชากรในพื้นที่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นช่องทางสร้างงานและการพัฒนาภูมิภาคเชื่อมโยงกับพื้นที่เขตเศรษฐกิจสำคัญถึง 3 โครงการด้วยกัน คือ

1.โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคภาคตะวันออก หรือ EEC : Eastern Economic Corridor

2.พื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zone : SEZ) จังหวัดตราด

3.โครงการพัฒนาความเชื่อมโยงกับ Belt and Road Initiative (BRI) โดยเฉพาะเส้นทางสายไหมทางทะเล หรือ “Maritime Silk Road”   ส่งผลถึงกิจกรรมการค้าในพื้นที่ชายแดน อันจะนำไปสู่การขยายผลความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของพื้นที่เศรษฐกิจหลังเปิดประเทศจากสถานการณ์โควิด

ทั้งนี้มีพันธมิตรหลักที่ร่วมกับทีเส็บจัดงานครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก 2.สมาคมแหล่งท่องเที่ยวชลบุรี 3.สมาคมสปาและเวลเนสภาคตะวันออก 4.สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา และ 5.ภาคีเครือข่ายภาคธุรกิจท่องเที่ยว 

                ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยสุดคูล ในอีสาน ตอนนี้ต้องยกให้ “สกายวอล์ค วัดตากผีเสื้อ” อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย สัมผัสธรรมะ ธรรมชาติ ทะเลหมอกหน้าฝน วิวพาโนรามาแม่น้ำโขง คลื่นเกล็ดพญานาค และวิถีชีวิตไทย สสป.ลาว จากนั้นรีบทำด่วน “7 เคล็ดลับกินอยู่สุขภาพดีอายุยืน” และเกาะติดข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “Traveloka” เปิดมหกรรมขาย EPIC Sale 2022 เห็นชัดคนไทย “เที่ยวไทย” พุ่ง 2 เท่า ไทยเที่ยวนอก 3 ประเทศมาแรง ข่าวที่สอง “อนันตราสยาม-แกรนด์ไฮแอท” ชูขายขนมไหว้พระจันทร์ วันนี้ -10 ก.ย.65

 


ท่องเที่ยว - ทริปทัวร์สกายวอล์ควัดผาตากเสื้อหนองคายชมวิวน้ำโขงสองแผ่นดิน

        

อีสานเขียว เที่ยวหน้าฝน เที่ยวทางบุญไปพร้อม ๆ กับเที่ยวธรรมชาติ และการผจญภัย แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งใหม่ “วัดผาตากเสื้อ” ตำบลผาตั้ง อำเภอ สังคม จังหวัดหนองคาย เมื่อครั้งอดีตเรียกกันว่า “วัดถ้ำพระ” ตั้งอยู่บนเขาสูงเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม โอบล้อมด้วยธรรมชาติเขียวขจีอย่างสมบูรณ์ มีความสงบร่มเย็น ทิวทัศน์สวยงาม

           

นักเดินทางที่มุ่งหน้าสู่ “วัดตากผีเสื้อ” สามารถที่จะไปเก็บแต้มเติมบุญปฏิบัติธรรมกรรมฐานแล้ว ยังสามารถเดินเลาะตามหน้าผา ไปชมธรรมชาติและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยเชื้อสายลาวได้ชัดเจนจากมุมสูงที่หาชมได้ยาก เปิดทุกวัน เวลา 6.00 – 18.00 น.

 


ไฮไลต์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ตอนนี้คือ “สกายวอล์ค วัดตากผีเสื้อ” อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 550 เมตร เป็นจุดชมวิวพาโนรามาแม่น้ำโขง และวิถีชีวิตคนสองแผ่นดินไทย-ลาว ซึ่งสามารถเดินบนกระจกใสยื่นออกไปบริเวณหน้าผารูปเกือกม้า เพื่อชมวิวได้ 180 องศา ด้านซ้ายจะเห็นวิวแม่น้ำโขงวาดยาวโค้งเป็นคุ้งน้ำ กลางแม่น้ำมีเกาะขนาดใหญ่ทำให้แม่น้ำโขงช่วงนี้มีลักษณะคล้ายแยกเป็นรูป Y ที่มองเห็นประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ได้ชัดเจน

สกายวอล์คแห่งนี้สร้างเป็นรูปเกือกม้า พื้นปูด้วยกระจกใสแทมเพอร์ลามิเนต มั่นคงแข็งแรง ทนทาน หนา 4 เซนติเมตร ยึดเหล็กติดกับฐานชั้นหินด้านล่างหน้าผา ระยะทางเดินทั้งหมด 16 เมตร บนพื้นกระจกใสสูงจากระดับพื้นดิน 15 เมตร สร้างยื่นออกไปบริเวณชะง่อนผา 6 เมตร เหล็กกันสนิม

ตอนช่วงน้ำในแม่น้ำโขงลดลงจะเห็นสันทรายเป็นริ้วคล้ายเกล็ดพญานาค นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติรังสรรค์ขึ้น แต่ช่วงเช้าก็ยังคงเป็นช่วงเวลายอดนิยมที่นักท่องเที่ยววัดดวงมาสัมผัสทะเลหมอกสีขาวโพลนที่ลอยเข้ามาใกล้ ราวกับว่าได้เดินอยู่บนท้องฟ้าอย่างไงอย่างนั้น

 


สามารถรับน้ำหนักนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปยืนได้ประมาณ 20 คน หรือประมาณ 2,500 กิโลกรัม ส่วนด้านข้างใช้กระจกใสกั้นเป็นขอบแบบเดียวกัน นักท่องเที่ยวนิยมไปยืนชมทิวทัศน์ ยิ่งช่วงหน้าฝนจะยิ่งสวยงามเมื่อมีทะเลหมอกเคลื่อนตัวอยู่เหนือแม่น้ำโขง หรือจะเป็นช่วงพระอาทิตย์โผล่จากขอบฟ้าหรือลับลงสู่ท้องน้ำยามเย็น ให้อารมณ์ความรู้สึกแสนงดงาม


 

สุขภาพ -7 เคล็ดลับกินอยู่อย่างถูกวิธีทำให้ทุกเพศทุกวัยสุขภาพดีอายุยืนยาว

การมีอายุที่ยืนยาวได้มีความสุขกับครอบครัว ต้องเร่งดูแลสุขภาพ จะอยู่อย่างไร ให้มีอายุที่ยืนยาว ด้วยวิธีง่ายๆ ใครก็สามารถทำได้ กับ  7 เคล็ดลับการกิน ดังนี้

1.รับประทานมื้อเช้าที่มีประโยชน์ทุกวัน เลือกอาหารเส้นใยสูง เช่นธัญพืช หรือข้าวกล้อง ลดเสี่ยงโรคหัวใจ ความดันสูง และเบาหวาน

2.นอนหลับให้เพียงพอ เพราะช่วยฟื้นฟูเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย และควรนอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมง

3.หมั่นบริหารความคิด ด้วยการเล่นปริศนาอักษรไขว้ หมากรุก อ่านหนังสือ หรือเรียนภาษาใหม่ ๆ

4.ทำอาหารทานเอง ช่วยป้องกันสมองเสื่อม เพราะต้องคิดเมนูไล่เลียงลำดับ ดมกลิ่น สังเกต ชิมรส ได้ฝึกประสาทสัมผัสทั้ง 5

5.บริจาคเลือด ช่วยลดปริมาณธาตุเหล็กที่มีมากเกินไปในเลือด ซึ่งหากมีธาตุเหล็กมากไป อาจส่งผลเสียกับร่างกายได้

6.หายใจให้ถูกวิธี คือการหายใจด้วยท้อง ซึ่งจะช่วยให้กระบังลมขยับขึ้นลง ทำให้สมองและร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ

7.อย่าอยู่ว่าง ลองมองหางานจิตอาสาที่ถนัด จะช่วยให้ได้บริหารทั้งร่างกาย และความคิด

หากนำวิธีเหล่านี้ไปปฏิบัติ รับรองว่าสุขภาพของแต่ละคนจะแข็งแรง 

 ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 


ข่าวแรก -TravelokaจัดEPIC Sale2022เที่ยวไทยโต2เท่า-ทัวร์นอกแรง3ประเทศ

นางสาวปณิชา ธนณาเคนทร์ ผู้อำนวยการ Traveloka ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้จัด แคมเปญ Traveloka EPIC Sale 2022 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในประเทศไทย สามารถได้ทำลายสถิติยอดจองเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า เป็นกระแสตอบรับของนักเดินทางที่สะท้อนการเติบโตของทราเวลโลก้าและยืนยันถึงคนไทยตื่นตัวที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวเดินทางมากขึ้น แคมเปญนี้เป็นทั้งแรงบันดาลใจรวมทั้งช่วยสร้างความมั่นใจแก่นักเดินทางช่วงเปิดประเทศ พร้อม ๆ กับสนับสนุนการดำเนินงานของพันธมิตรธุรกิจด้วยทั้งโรงแรม ผู้ให้บริการกิจกรรม Xperience สายการบิน และอื่น ๆ  

สำหรับ แคมเปญ Traveloka EPIC Sale 2022 คนไทยตอบรับจากล้นหลามถึง 800,000 ราย โดยมียอดใช้แอปและการจองต่าง ๆ มากกว่าช่วงปกติกว่า 2 เท่า ปีนี้ทราเวลโลก้ามีพันธมิตรธุรกิจด้านที่พักเข้าร่วมมากกว่า 900 ราย ทั้งโรงแรม วิลล่า รีสอร์ต แกลมปิ้ง อพาร์ตเมนต์ และ อื่น ๆ  รวมถึงพันธมิตรผู้ให้บริการเดินทางอีกกว่า 200 ราย พันธมิตรกิจกรรม Xperience มากกว่า 100 ราย และพันธมิตรผลิตภัณฑ์และบริการด้านท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์อื่น ๆ อีกมากมาย

จากข้อมูลการจองในช่วง EPIC Sale พบความต้องการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศยังคงเพิ่มขึ้นรวดเร็วและต่อเนื่อง ส่งสัญญาณที่ดีต่อกับการเดินทางภายในประเทศปี 2565 มีแนวโน้มฟื้นตัวแข็งแกร่งเกินกว่าคาดการณ์ โดยมีการจองที่พักหรู กิจกรรมกลางแจ้ง ซื้อประกันภัยการเดินทางเพิ่มขึ้น

 

“ตลาดไทยเที่ยวในประเทศ” มีเส้นทางยอดนิยม 3 จังหวัดหลัก คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต มีปริมาณการจองเที่ยวบินและที่พัก รวมทั้งให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยในการเดินทาง โดยซื้อประกันการเดินทางมากขึ้นถึง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาการเดินทางปกติทั่วไป

 

ข้อมูลจากแคมเปญนี้พบมียอดจองเที่ยวบินเพิ่มขึ้นทั้งในจังหวัดหลัก เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ (สงขลา) ภูเก็ต และเมืองท่องเที่ยวรองก็จองเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเช่นกันคือ เชียงราย และอุดรธานี

เทรนด์ที่ได้รับความนิยมคือ “Staycation” การเดินทางไปพักผ่อนพร้อมกับทำงานควบคู่กันไป  โดยการจองห้องพักโรงแรมระดับ 4 ดาวและ 5 ดาว โรงแรมหรูเพิ่มขึ้นถึง 80 % ในพื้นที่หลัก กรุงเทพฯ และพัทยา  

รวมทั้งสนใจท่องเที่ยวกลางแจ้งและกีฬาทางน้ำเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า

 

“ตลาดไทยเที่ยวต่างประเทศ” จุดหมายปลายทางยอดนิยมที่เลือกเดินทางปี 2565 ได้แก่ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ เวียดนาม ทางทราเวลโลก้าพบว่ามียอดจองเที่ยวบิน ที่พัก และผลิตภัณฑ์ Xperience ฟื้นตัวเร็วมาก

 

ทั้งนี้ ทราเวลโลก้า : Traveloka ซึ่งเป็นซูเปอร์แอปไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มียอดดาวน์โหลดกว่า 100 ล้านครั้ง ซึ่งช่วยทำให้เห็นสัญญาณการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังเห็นผลตอบรับจากแคมเปญ EPIC Sale ในประเทศไทย เมื่อ 1-7 กรกฎาคม 2565 จัดขึ้นแล้วประสบผลสำเร็จ โดยมีข้อมูลจากแคมเปญ EPIC Sale ของทราเวลโลก้า แสดงให้เห็นถึงกระแสความต้องการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากผู้ใช้บริการมั่นใจเดินทางอย่างปลอดภัยมากขึ้น มีความต้องการสูงในการเลือกพักหรู ทำกิจกรรมกลางแจ้ง และประกันการเดินทาง  รวมทั้งแคมเปญที่จัดขึ้นยังได้รับผลตอบรับที่ดีจากพันธมิตรธุรกิจของทราเวลโลก้าเข้าร่วมโครงการถึง 1,200 ราย บ่งบอกถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทย



ข่าวที่สอง -“อนันตราสยาม-แกรนด์ไฮแอท”รุกขายขนมไหว้พระจันทร์1ส.ค.-10ก.ย.65


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงแรมในกรุงเทพฯ ที่มีชื่อเสียงด้านทำขนมจำหน่ายช่วงเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์ ระหว่าง 1 สิงหาคม – 10 กันยายน 2565  นั้น มี 2 โรงแรมทยอยวางขายแล้ว  

แห่งแรก “อนันตรา สยาม”  ทีมเชฟเบเกอรี่ ได้รังสรรค์ขนมไหว้พระจันทร์ เลือกถึง 5 รสชาติยอดนิยมอย่าง ทุเรียนหมอนทองไข่เดี่ยว พุทราจีนไข่เดี่ยว ลูกบัวไข่เดี่ยว ครีมคัสตาร์ด และไส้ช็อคโกแลตบราวนี่ ซึ่งเป็นรสชาติใหม่ เริ่มขายตั้งแต่ 1 สิงหาคม ถึง 10 กันยายน 2565  ที่ร้านเบเกอรี่ มอคค่า แอนด์ มัฟฟินส์ ชั้น 1   หรือสั่งซื้อผ่านบริการ LINE @anantarasiambkk และรับส่วนลดพิเศษ 15% เมื่อสั่งซื้อขนมไหว้พระจันทร์ล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้ถึง 8 สิงหาคม 2565

ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพชั้นดี ปราศจากสารกันบูด บรรจุในกล่องดีไซน์สวยหรูสีน้ำเงินเข้ม บนกล่องรูปทรงหนังสือ ออกแบบพิเศษโดยพิมพ์ลวดลายปลากัดไทยสีทอง ซึ่งเป็นสัตว์น้ำประจำชาติและเป็นปลามงคลที่มีความหมายดี สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์ เปี่ยมไปด้วยความหมายอันเป็นมงคลเหมาะสำหรับการเลือกสรรเพื่อนำไปมอบเป็นของฝากสำหรับญาติผู้ใหญ่ ลูกค้าคนสำคัญ หรือของขวัญให้กับคนพิเศษ  โดยมีรูปแบบกล่องให้เลือก 3 แบบ

 

1.กล่องแพลทินัม ภายในบรรจุขนมไหว้พระจันทร์ 4 ชิ้น ขนาด 150 กรัม ราคากล่องละ 1,588 บาทสุทธิ

2.กล่องพระจันทร์สีทอง บรรจุขนมไหว้พระจันทร์ 6 ชิ้น ขนาด 60 กรัม ราคากล่องละ 1,288 บาทสุทธิ

3กล่องพระจันทร์สีน้ำเงิน  บรรจุขนมไหว้พระจันทร์ 4 ชิ้น ขนาด 150 กรัม ราคากล่องละ 988 บาทสุทธิ

 

                สั่งซื้อโทร. 02 126 8866 ต่อ 1226, 1227 ดูข้อมูลที่ www.anantara.com/en/siam-bangkok



แห่งที่ 2 โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ” บรรจงรังสรรค์ขนมไหว้พระจันทร์อย่างพิถีพิถันด้วยวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมจากสูตรต้นตำรับที่ได้รับความนิยมอย่างยาวนาน เพื่อนำเสนอเป็นของขวัญชิ้นพิเศษประจำเทศกาล บรรจุในกล่องของขวัญแบบ 4 ชิ้น และ 8 ชิ้น พร้อมลวดลายสวยงามที่ได้รับแรงบันดาลใจแบบจีนสมัยใหม่ในเฉดสีส้มสดใสที่สะท้อนความสิริมงคล เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับเลือกสรรเพื่อส่งมอบแด่บุคคลที่เคารพรัก ญาติสนิทและมิตรสหาย เปรียบเสมือนคำอวยพรในของขวัญชิ้นพิเศษตามความหมายและความเชื่อดั้งเดิมสำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์อย่างแท้จริง

 

เปิดให้บริการสั่งซื้อล่วงหน้า ตั้งแต่วันนี้ ถึง 10 กันยายน 2565 ดังนี้

 

1.ขนมไหว้พระจันทร์บรรจุ 4 ชิ้น ราคา 988 บาทสุทธิ โดยมี 6 รส

 

2.ขนมไหว้พระจันทร์บรรจุ 8 ชิ้น ราคา 1,888 บาทสุทธิ โดยมี 6 รส

 

รสหลัก ๆ ได้แก่ รสทุเรียนและไข่ รสลูกบัวหอมและไข่ รสแปดเซียน รสคัสตาร์ดครีม รสคัสตาร์ดมะพร้าวใบเตย และรสส้มยูซุและถั่วเเมคคาเดเมีย

 

สั่งซื้อโทร. 02-254-1234 ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.grandhyatterawanbangkok.com.

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai