ททท.ลุยสื่อสารตลาดเที่ยวครึ่งปีหลังอัด
3 แคมเปญ
“สุขทันทีที่เที่ยวไทย-เที่ยวคนละครึ่ง-Thailand Box”
ชูPrideMonthมิ.ย.ขานรับตลาดLGBTQ+65,000 ล้าน
Exclusiveคิงเพาเวอร์ออนไลน์ช้อปรับฟรีกางเกงช้าง
คิงเพาเวอร์3สาขาหนุนแบรนด์ฮ็อตDrunk Elephant
ททท.นำทีมผนึกGMSดันไทยฮับทัวร์เชื่อมโยงเอเชีย
BCPGเครือบางจากลงทุนใหม่ไต้หวัน2โซลาร์ฟาร์ม
สุขทันทีที่เที่ยวบุรีรัมย์ครบทั้ง 5 สายสบายกายใจ
5 วิธีแก้อาหารปากขม ขมคอสามารถทำให้หายได้
บินไทยจัดTHAI
Networkingรุกฝรั่งเศสชูบินไร้รอยต่อ
กระทรวงท่องเที่ยวแจกตรา“ช้างชูงวงเริงร่า” 448ราย
วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #ทททบุรีรัมย์
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1NbbhpfLdg/
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !!นายนิธี สีแพร
รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระตุ้นท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง
มิ.ย.-ธ.ค.68 จัดเต็ม 3 แคมเปญ
ไฮไลต์แคมเปญแรก “สุขทันทีที่เที่ยวไทย” ผนึก AIS นำร่อง
“สุขใจเที่ยวไทย อุ่นใจทุกที่” 59 จังหวัด 87 กิจกรรม แคมเปญ 2 “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”
เน้นกระจายรายได้ 55 เมืองน่าเที่ยว 5 แสนสิทธิ์
เริ่ม ก.ค.นี้ แคมเปญ 3 “Thailand in The Box” ผนวก Grand Moement บูมแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วไทย
ส่วนเดือน Pride Month กระจายจัด 5 ภูมิภาค
หลังพบรายได้พุ่ง 65,000 ล้าน/ปี และใช้ TTM+2025 โปรโมทเที่ยวเชื่อมโยงเส้นทางสุขภาพ อาหาร จากเชียงใหม่สู่ภาคเหนือ
และเที่ยวข้ามภาคสู่อีสาน และตะวันออก
นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การวางกลยุทธ์การสื่อสารช่วงครึ่งปีหลัง 2568 เริ่มจาก “ตลาดในประเทศ” สร้างความแรง แคมเปญที่ 1 “สุขทันทีที่เที่ยวไทย” สอดรับกับปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sport Years ผนวกเข้ากับ Grand Moment นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจใหม่ ๆ มากมาย เจาะกลุ่มเฉพาะเพิ่มมากขึ้น แล้วก็ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ช่วงมิถุนายนนี้ จัดทำ “สุขใจเที่ยวไทย อุ่นใจทุกที่” ททท.ร่วมกับ AIS นำข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงเข้ากับเครือข่ายการสื่อสาร 5G ส่งมอบความสุขให้นักท่องเที่ยว
เบื้องต้นได้ทำโปรโมชั่นให้สมาชิกและผู้ใช้งานเอไอเอสแลกคะแนนตามโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้า และอื่น ๆ ทั่วประเทศครอบคลุม 59 จังหวัด ระหว่างมิถุนายน-ธันวาคม 2568 ทำมากถึง 87 กิจกรรม
ห้ามพลาด “อิ่มอร่อย” เริ่มต้นจุดพลุ “ถนนบรรทัดทอง” มีจุดเช็คอิน 10 จุด ให้เช็คอินผ่านแอปพลิเคชั่น My AIS แล้วให้สมาชิกใช้ 40-50 คะแนน แลกรับประทานอาหาร
“ตลาดต่างประเทศ” ก็เข้าร่วมแคมเปญ “สุขใจเที่ยวไทย อุ่นใจทุกที่” ได้ด้วยการรับสิทธิพิเศษ ซื้อบัตรเข้าชมมวยไทย ชมหมูเดี้ยงอุทยานแห่งชาติเขาเขียว รับกิฟท์โวเชอร์ช้อปปิ้งที่คิง เพาเวอร์ และห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ
แคมเปญที่ 2 เที่ยวไทยคนละครึ่ง อยู่ระหว่างนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อประกาศให้นักท่องเที่ยวใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป มีจำนวน 500,000 สิทธิ์ ใช้ได้คนละไม่เกิน 5 สิทธิ์ ในเมืองน่าเที่ยว เมืองหลัก วันธรรมดา
ส่วน “55 เมืองน่าเที่ยว” นักท่องเที่ยวที่เลือกเดินทางกับเที่ยวไทยคนละครึ่งจะได้รับส่วนลดถึง 50 % มากกว่าการท่องเที่ยวเมืองหลักจะได้ส่วนลดเพียง 40 %
แคมเปญที่
3 Thailand in The Box นำเสนอสินค้าในกลุ่ม Grand
Moment ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวภูมิปัญญาไทย
และผลิตภัณฑ์หัตถกรรมท้องถิ่น เส้นทางข้าว อาหาร สุขภาพ/เวลเนส แล้วมีกิจกรรม Be
my Guest เชิญบุคคลสำคัญระดับโลกให้สถานฑูตทั่วโลกเชิญคนมาเมืองไทย
แล้วมีคอนเทนท์สะท้อนออกไปถึงเมืองไทยให้ประสบการณ์แปลกใหม่ทั้ง ความปลอดภัย
มาตรฐาน ได้คัดเลือกพื้นที่ต้อนรับไว้คือจังหวัดสุโขทัย จันทบุรี สมุทรสงคราม
และเชื่อมโยงจังหวัดอื่น ๆ เช่น จังหวัดเลย จันทบุรี ระยอง
เพื่อให้เกิดการเดินทางในภาพใหญ่ของตลาดต่างประเทศเข้ามาเสริมด้วย
“ตลาดต่างประเทศ” มีประเด็นสำคัญเรื่อง “ความปลอดภัย” แผนสื่อสาร 1.ตลาดระยะไกล ก็จะเน้นประสบการณ์การบอกเล่าเรื่องราว Stories Teller และ Stories Never End ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสประเทศไทยได้ตลอดทั้งปีไม่ต้องมีฤดูกาลอีกต่อไป จาก อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และอื่น ๆ ใช้จ่ายเงินมากถึง 1 ใน 5 ของตลาดต่างประเทศทั้งหมด 5เดือนแรก เพิ่มขึ้นถึง 20 % 2.ตลาดระยะใกล้ ได้แก่ เอเชียใต้อย่างอินเดีย หรือเอเชียตะวันออก แม้จีนจะชะลอตัวลงบ้าง แต่ก็มีกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพมาไทยเพิ่มมากขึ้น
นายนิธี กล่าวว่า ททท.ยังได้ใช้เวทีงาน Thailand Travel Mart Plus :TTM+2025 เน้นการจัดงานอย่างยั่งยืน พร้อมกับเสนอสินค้าการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health and Wellness) ในเชียงใหม่และภาคเหนือ กับการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy) นำวัตถุดิบท้องถิ่นเป็นออร์แกนิก ลงทุนการสร้างขยะเป็นศูนย์ Zero Food Waste ในภาคเหนือ เช่น กาแฟ โกโก้ ข้าว สินค้าโครงการหลวงต่าง ๆ พร้อมกับจัด “พรี ทัวร์” 9 เส้นทาง เช่น ท่องเที่ยววิถีชุมชน ปั่นจักรยาน ดูแลช้าง เดินท่องเที่ยว สตรีทฟู้ด และ “โพสต์ ทัวร์” ภาคเหนือตอนบน เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ น่าน ตามเส้นทาง ศิลปะหัตถกรรม แหล่งท่องเที่ยวโครงการหลวง เส้นทางชา กาแฟ ต่อเนื่องไปถึงภูมิภาคอื่น ๆ อย่าง เส้นทางเกษตรในขอนแก่น เส้นทางธรรมชาติและอาหารถิ่นระยอง เส้นทางสุขภาพประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี
ส่วนในประเทศทำงานร่วมกับวงดนตรีวัยรุ่น
The Drivers ยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ออกทัวร์ในภาคเหนือ
เผยแพร่การท่องเที่ยว เริ่มที่จังหวัดแพร่ ประตูเมือง จังหวัดน่าน
บริเวณหน้าวัดภูมินทร์ ลำปาง แล้วมาที่เชียงใหม่ตรงประตูท่าแพ
นายนิธี กล่าวว่า ตลอด Pride Month เดือนมิถุนายน 2568 หลังจากไทยประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมทำให้ทั่วโลกมองไทยมีภาพลักษณ์เปิดกว้าง ยอมรับความแตกต่างและหลากหลาย ตามผลศึกษาของ Agoda พบว่ามีนักท่องเที่ยวตลาด LGBTQ+ เพิ่มขึ้น 4 ล้านคน/ปี ทำรายได้ 65,000 ล้านบาท/ปี ไทยเป็นจุดหมายปลายทางติด 1 ใน 10 ของตลาดดังกล่าว ปีนี้จึงจัดฉลองอย่างยิ่งใหญ่ทั่วประเทศภายใต้แคมเปญ “Amazing Thailand Love Win Festival” เพิ่งเปิดตัวในกรุงเทพฯ ต่อด้วย“ภาคเหนือ” จัดที่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก น่าน “ภาคตะวันออก” จัดที่ พัทยา ตราด “ภาคใต้” จัดที่ สมุย ภูเก็ต เพิ่มใหม่คือ หาดใหญ่ สงขลา ตรัง “อีสาน” จัดที่ ขอนแก่น อุบลราชธานี มุกดาหาร /ริมแม่น้ำโขง
ล่าสุดไทยมีข่าวดีที่การ์ตูนชื่อดัง “โดราเอมอน” ของญี่ปุ่น ได้ทำคอนเทนท์เรื่องราวการตามมาแมวโดยใช้การขนส่งในเมืองไทย เช่น นั่งตุ๊กตุ๊ก กินอาหารไทย ไปตลาดน้ำดำเนินสะดวก ไปนั่งช้างไทยสัมผัสเมืองมรดกโลกที่พระนครศรีอยุธยา ข้ามไปถึงอีสาน ไปไหว้และชมความงามพระธาตุหนองบัว อุบลราชธานี ย้อนมาไหว้พระพิฆเนศฉะเชิงเทรา และมีโอกาสได้ร่วมขบวนแห่นางแมวโดยใช้ตุ๊กตาแมวแทนของจริง แล้วให้ชิสุกะได้สวมชุดไทย สะท้อนถึงพลังซอฟท์ พาวเวอร์ ไทย จึงขอเชิญชวนคนไทยออกมาเดินทางท่องเที่ยวตามรอยโดราเอมอนกันตลอดปีนี้
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์ออนไลน์Exclusiveช้อปรับฟรีกางเกงช้าง
คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ จัด Online Exclusive วันนี้ -30 มิ.ย.2568 ช้อปปิ้งสุดคุ้มค่า พร้อมรับของแถม พิเศษฟรี! เฉพาะลูกค้าคนโปรดของเราเท่านั้น รีบมาช้อปเลย! จากคิง เพาเวอร์ ออนไลน์! เมื่อช้อปตามเงื่อนไข
Online Special Offer!! ฟรี! MAHANAKHON กางเกงช้าง มูลค่า 320 บาท จำกัด 100 สิทธิ์
เมื่อช้อปครบ 10,000.- (สุทธิ)
สินค้า Duty-Free สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าที่สนามบิน
แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 6 เดือน รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 18,500 บาท ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง (ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
รับเลย! ส่วนลด 800 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์
รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์
เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000
บาท (สุทธิ)
เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ
ข่าวที่ 2 -คิงเพาเวอร์3สาขาหนุนผลิตภัณฑ์แบรนด์ Drunk
Elephant
คิง เพาเวอร์ สนับสนุนผลิตภัณฑ์ Drunk Elephant เมื่อลูกค้าช้อปที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และคิง เพาเวอร์ ซิตี บูทีก วัน แบงค็อก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทางแบรนด์นี้ได้จับมือกับ โลตัส เวลเนส กรุงเทพฯ จัด “คลาสเวิร์กช็อปสุดพิเศษ” เพื่อเติมพลังใจและกาย ให้ลูกค้าด้วย ที่เพิ่งจบไป ในบรรยากาศเต็มไปด้วยความผ่อนคลายและการดูแลตัวเองจากภายในสู่ภายนอก แต่คุณยังสามารถตามหาความโกลว์ Drunk Elephant กับกิจกรรมรับของรางวัลต่อเนื่อง
พิเศษ !! กิจกรรมแจกของรางวัล! ร่วมสนุกง่าย ๆ กดไลก์โพสต์ kingpower facebook วันนี้- 10 มิ.ย. 2568 พร้อมคอมเมนต์ใต้โพสต์ แล้วบอกถึงความพิเศษของมอยส์เจอไรเซอร์ตัวโปรดของคุณคืออะไร และชอบเพราะอะไร
ผู้โชคดี
3 จากการสุ่ม!
จะได้รับ Drunk Elephant Lala
Retro Whipped Cream ขนาด 50ml จำนวน 1 ชิ้น / คน
รอฟังประกาศผลใต้โพสต์กิจกรรมนี้ วันพุธที่ 11 มิ.ย. 2568
เวลา 18.00 น.
ข่าวที่ 3-ททท.นำทีมผนึกGMSดันไทยฮับทัวร์เชื่อมโยงเอเชีย
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้เชิญหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) และหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวจากภูฏานภายใต้นโยบายความร่วมมือระหว่างสองประเทศ เข้าร่วมงาน Thailand Travel Mart Plus 2025 (TTM+) 2025 เมื่อ 4-6 มิถุนายน 2568 ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ เสริมบทบาทความเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยว ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในภูมิภาคและส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยจะเดินหน้ายกระดับไทยเป็น “ศูนย์กลางการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในภูมิภาค” ผ่านความร่วมมือกับกลุ่มสมาชิก Greater Mekong Subregion (GMS) ประกอบด้วย สมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม สาธารณรัฐประชาชนจีน (เฉพาะ 2 มณฑล ได้แก่ ยูนนาน และกว่างสี)
เดินหน้าร่วมกันทำด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อและขับเคลื่อนเศรษฐกิจร่วมกันอย่างยั่งยืน รวมทั้งลงนามผู้แทนตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวจากภูฏาน ระหว่าง ททท. และภูฏานเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ภายใต้นโยบาย "Two Kingdoms, One Destination" นำเสนอสินค้าการท่องเที่ยว และหารือแนวทางยกระดับการท่องเที่ยวรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วโลก
ทางผู้แทนกลุ่ม GMS และภูฏาน ได้ร่วมออกบูธประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้อัตลักษณ์ของแต่ละประเทศให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวที่เข้าร่วม TTM+2025 มีผู้ซื้อจากทั่วโลก 53 ประเทศ กว่า 400 ราย ตลอดจนแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยวกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของไทย 450 ราย นอกจากเน้นส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศแล้ว ยังเสริมบทบาทของไทยเป็น “ศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวของภูมิภาค” และสามารถเชื่อมโยงการเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคได้อย่างไร้รอยต่อด้วย
ททท.
ได้นำคณะผู้แทนประเทศสมาชิก GMS และผู้แทนจากภูฏาน
นำโดย นางสาวเนย์ คยี วิน ชเว - กงสุล สถานกงสุลใหญ่แห่งเมียนมา นายพี เพียบ รองผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมตลาดต่างประเทศ
กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา และนายพุนทโช เกลเชน ผู้อำนวยการกองส่งเสริมตลาด
กรมการท่องเที่ยวภูฏาน ร่วมเดินทางทดสอบสินค้าคุณภาพทางการท่องเที่ยวในเชียงใหม่
ภายใต้แนวคิด “5 Must Do in Thailand” ได้แก่
• MUST TASTE – ชิมอาหารถิ่นระดับมิชลิน
เช่น ข้าวซอยนิมมาน
• MUST TRY – สัมผัสการนวดฟ้อนเล็บที่ศิราสปา
ได้รับรางวัลกินรี 3 ปีซ้อน จึงได้รับรางวัล Hall of Fame สาขาสปา
ในการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 ปี 2566
• MUST BUY – เลือกชมและซื้อสินค้าชุมชน
งานคราฟต์และหัตถกรรมท้องถิ่น ที่จริงใจมาร์เก็ต
• MUST SEEK –เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด
ทั้งที่ ประตูท่าแพ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
และวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ซึ่งมีพระพุทธรูปและโบราณสถานอายุเก่าแก่
คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่
• MUST SEE – ดื่มด่ำวัฒนธรรมท้องถิ่นล้านนาอันมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว
สำหรับ ททท.
ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งในและระหว่างประเทศ
เพื่อให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายเดินทางเชื่อมโยงภายในภูมิภาคอย่างโดยสะดวก (Ease
of Travelling) คู่กับกิจกรรมด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์
พร้อมนำเสนอกิจกรรมท่องเที่ยวเชื่อมโยงทางบก ทางอากาศ ทางราง และทางน้ำ
ในระดับภูมิภาคและอาเซียน เช่น
• เชื่อมโยงทางบกด้วยรถยนต์
(Self-drive) จัดคาราวานรถยนต์เชื่อมโยงไทย กับ สปป.ลาว
กัมพูชา และเวียดนาม เพื่อกระตุ้นความถี่นักท่องเที่ยวเดินทาง
• เชื่อมโยงการเดินทางโดยรถไฟระหว่างประเทศจากสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ไปยังสถานีคำสะหวาด
ใน สปป. ลาว และเชื่อมต่อสู่คุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน
• เชื่อมโยงการเดินทางโดยเรือสำราญระหว่างไทย-เวียดนาม-กัมพูชา-มาเลเซีย-สิงคโปร์
เพื่อส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางครั้งแรก (First
Visit) ททท.
ได้เจรจากับบริษัทเรือสำราญชั้นนำผลักดันให้ท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือรับ-ส่งนักท่องเที่ยวจากทั่วภูมิภาค
ข่าวที่ 4-BCPGเครือบางจากลงทุนใหม่ไต้หวัน2โซลาร์ฟาร์ม
นายรวี
บุญสินสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด
(มหาชน) เปิดเผยว่า บมจ.บีซีพีจี ในเครือบางจาก
ได้ลงทุนในไต้หวันพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวมกำลังการผลิต 108 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญผลักดันให้ก้าวสู่การผู้นำพลังงานในภูมิภาคเอเชีย
โครงการแรก
เข้าถือหุ้น 100 % ในบริษัท Xiao Zhi ครอบครองสิทธิพัฒนาสถานีไฟฟ้าย่อยและระบบสายส่ง
เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าอนาคตขนาด 200 เมกะวัตต์ ตอนนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง แล้วยังมีสิทธิเช่าที่ดินเพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด
83 เมกะวัตต์ ตามขั้นตอนอยู่ระหว่างขอใบอนุญาต คาดจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในไตรมาส 4
ปี 2568
โครงการที่
2 เข้าถือหุ้น 100 % ในบริษัท Wang
Heng ครอบครองสิทธิการเช่าที่ดินเพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด
25 เมกะวัตต์ โดยมีแผนยื่นขอใบอนุญาตและเริ่มก่อสร้างช่วงไตรมาส 1 ปี 2569
รวมแล้วทั้ง 2 โครงการ มีกำลังการผลิตตามแผนรวมกว่า 108 เมกะวัตต์
สะท้อนถึงบทบาทสำคัญที่พร้อมจะเป็นกำลังหลักการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในภูมิภาค
นายรวี
กล่าวว่า ไต้หวันเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตด้านพลังงานหมุนเวียนสูง
และให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างเป็นระบบ
การลงทุนโครงการนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญด้านการขยายธุรกิจของ บมจ.บีซีพีจี
ระดับภูมิภาค สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ระยะยาวที่จะเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดของภูมิภาคเอเชีย
ช่วงที่ 2 กระตุกต่อมคนชอบเที่ยว
เมืองปราสาทสายฟ้า “บุรีรัมย์” ได้ครบทั้ง 5 สาย กีฬา อาหาร
เซาะกราวเดินชมตลาด เที่ยวธรรมชาติ และสายสุขภาพต้องที่ “เพ ลา เพลิน” ปรับโฉมสู่อาณาจักรสุขภาพแล้วครบจบที่เดียว
ห้ามพลาดฟัง “4วิธีแก้ปากขม ขมคอ” หลังป่วย เกาะติดข่าวฮ็อต
ข่าวแรก “การบินไทยจัด THIA Networking”
รุกฝั่งเศสบินมาไทยไร้รอยต่อ ข่าวที่สอง “กระทรวงการท่องเที่ยวแจกตรา
ช้างชูงวง”มาตรฐานท่องเที่ยว 448 ราย
ท่องเที่ยว –สุขทันทีที่เที่ยวบุรีรัมย์ครบทั้ง
5 สายสบายกายใจ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) ชวนปักหมุด ไปเที่ยวบุรีรัมย์ มีกิจกรรม เทศกาล และประเพณี
เที่ยวบุรีรัมย์ 365 วัน Amazing ยิ่งกว่าเดิม ตลอดเดือนมิถุนายน 2568
สายแรก
ท่องเที่ยวเชิงกีฬา ยังคงมาแรง สนามช้าง
อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต รอต้อนรับแฟนคลับไปชมการแข่งขัน รายการแรก “Yamaha
Support Race R7 Cup”สนาม 1 วันที่ 19-21
มิถุนายน ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
รายการที่ 2 “Nexzter Bric Superbike 2025” สนาม 1 วันที่ 20-22 มิถุนายน รายการที่ 3 “Idemitsu
Super Turbo Thailand 2025” สนาม 5-6 วันที่ 27-29 มิถุนายน
สายที่
2 ท่องเที่ยวชิมอาหาร
รอช่วงปลายเดือนมิถุนายน ต่อเนื่องกรกฎาคม นี้ ไป
“ชิมทุเรียนน้ำแร่ภูเขาไฟบุรีรัมย์” ได้ตามสวนต่าง ๆ ในอำเภอโนนสุวรรณ อำเภอปะคำ
สายที่
3 ท่องเที่ยวแบบชิล ชมถนนคนเดินเซราะกราววอล์คกิ้ง สตรีท ที่
“ถนนรมย์บุรี” ได้ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ ตั้งแต่ 16.00 - 21.00 น.
สายที่
4 ท่องเที่ยวธรรมชาติ
ต้องไปชม นกกระเรียนพันธุ์ไทย
ที่ศูนย์เรียนรู้พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย จังหวัดบุรีรัมย์
สายที่
5 ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
แนะนำให้ “เพ ลา เพลิน บุรีรัมย์” อ.คูเมือง เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่ 8.00
- 17.00 น. ตอนนี้ปรับโฉมใหม่เป็นแหล่งท่องเที่ยวผสานความสุขและการดูแลสุขภาพ Wellcation
จะมาพักผ่อนแบบไปเช้าเย็นกลับหรือ ค้างคืนให้ธรรมชาติบำบัดก็ได้
หน้าฝนนี้
เพ ลา เพลิน บุรีรัมย์ ชวนเช็คอินถ่ายรูปในโรงเรือนดอกไม้ และความงามของ
"ปทุมมา ราชินีแห่งป่าฝน" บานสะพรั่ง อวดสีสันสดใส
โซนใหม่ล่าสุด!
คือ วาซาบิ เวิลด์ ไทยแลนด์ เปิดครั้งแรกในอีสาน
มอบประสบการณ์เรียนรู้เรื่องราววาซาบิตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ สู่ปลายน้ำ
แล้วผ่อนคลายกายใจที่
“อโรคยา เวลเนส ศาลา” ศูนย์สุขภาพองค์รวม
ที่พร้อมดูแลคุณหัตถการที่เหมาะกับหน้าฝนสุดๆ ทั้ง หัตถการ "สุมยา"
สมุนไพร และเวิร์คช้อปผลิตภัณฑ์สุขภาพ
พร้อมมุมฟินความอร่อยที่
“คาเฟ่ บาย เพ ลา เพลิน” เสิร์ฟเครื่องดื่ม กาแฟ หรือชิมก๋วยเตี๋ยวรสเด็ด
และกะหรี่ปั๊บเนื้อแน่น สูตรเฉพาะของ เพ ลา เพลิน
ช้อปเพลินต่อตรงโซน
“จอย ช้อปปิ้ง เพลซ” ศูนย์กระจายสินค้าชุมชน ได้รวบรวมของดี ราคาโดนใจ
ให้ได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ททท. สำนักงานบุรีรัมย์ โทร. 0 4463 4722 หรือโทร. 1672
สุขภาพ –5 วิธีแก้อาหารปากขม
ขมคอสามารถทำให้หายได้
อาการขมปากที่ปรากฎ
คงทำให้หลาย ๆ คนเกิดความไม่สะดวกสบายในการดำเนินชีวิต
จะกินจะดื่มอะไรก็รู้สึกไม่ถูกปาก เพื่อไม่ให้อาการขมปากมาเป็นอุปสรรต่อมื้ออร่อย
ส่วนนี้เราจึงมีเทคนิคการแก้ไขที่ได้ผล ดังนี้
1.การพักผ่อนให้เพียงพอ – เป็นวิธีที่ดีที่สุดของร่างกาย
เพราะการนอนหลับพักผ่อน
จะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่และยังช่วยให้ระบบต่าง ๆ
ของร่างกายทำงานได้ตามปกติอีกด้วย
2.จิบน้ำเปล่าบ่อย ๆ - เพื่อให้ช่องปากมีความชุ่มชื้นตลอดเวลา
จะลดอาการปากแห้ง คอแห้งที่เกิดขึ้นภายในช่องปากได้
แล้วก็ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วยได้อีกด้วย
3.การหมั่นรักษาความสะอาดของช่องปาก -สาเหตุที่ทำให้หลาย ๆ
คนเกิดความขมขึ้นภายในช่องปาก และ ทำให้เกิดกลิ่นปาก
ส่วนนี้ก็ควรแปรงฟันหลังมื้ออาหารทุกมื้อ และงดบริโภคขนมขบเคี้ยว
4.การทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
-จะช่วยให้ต่อมรับรสภายในช่องปากทำงานได้ดียิ่งขึ้น
แถมความเปรี้ยวยังสามารถช่วยกลบความขมที่เกิดขึ้นภายในช่องปากได้อีกด้วย
5.การเคี้ยวหมากฝรั่ง
-ช่วยสร้างสมาธิและช่วยลดปัญหาการขมภายในช่องปากอย่างได้ผลวิธีหนึ่ง
เคล็ดลับที่จะทำให้วิธีนี้เกิดประสิทธิภาพและไม่ก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาคือ
การเลือกหมากฝรั่งแบบไม่มีน้ำตาล
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–บินไทยจัดTHAINetworkingรุกฝรั่งเศสชูบินไร้รอยต่อ
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จัดงาน “THAI Networking in Paris 2025: Grace to Growth – Soaring Beyond Boundaries”เสนอทิศทางการดำเนินธุรกิจ
ตลอดจนกลยุทธ์การขายและการตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดฝรั่งเศส เดินหน้าประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ส่งเสริมการขายผ่านช่องทางตัวแทนธุรกิจ
และกระตุ้นความสนใจจากกลุ่มลูกค้ารายบุคคล (Business to Customer) โดยให้ความสำคัญกับการผลักดันยอดขายเส้นทางหลัก ปารีส – กรุงเทพฯ กับเส้นทางเชื่อมต่อจากกรุงเทพฯ
สู่จุดหมายปลายทางสำคัญในเอเชียและออสเตรเลีย
การบินไทยยังมุ่งขยายตลาดจากเมืองรองในฝรั่งเศส
โดยร่วมมือกับสายการบินพันธมิตรเพื่อเชื่อมโยงผู้โดยสารเข้าสู่เครือข่ายหลักของการบินไทยในยุโรป
ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาไทยและภูมิภาคเอเชียได้อย่างไร้รอยต่อและสะดวก
ปัจจุบัน
การบินไทยให้บริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ – ปารีส ทุกวัน วันละ 1 เที่ยว รวม 7 เที่ยว/สัปดาห์
ด้วยเที่ยวบินที่ TG930/TG931
ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้เข้าร่วม
ได้แก่ นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส และภริยา พร้อมด้วย
นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
นายวิชญ์ กิจจาทร ผู้อำนวยการฝ่ายขายการบินไทย ตัวแทนจำหน่ายรายสำคัญและพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วฝรั่งเศส
ข่าวที่สอง
–กระทรวงท่องเที่ยวแจกตรา“ช้างชูงวงเริงร่า” 448ราย
กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
จัดพิธีมอบเครื่องหมายรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ประจำปี 2568 หรือสัญลักษณ์
“ช้างชูงวงเริงร่า” ที่โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
หนึ่งในโรงแรมที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย
มาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยว ประเภทโรงแรม และมีผู้ประกอบการ โฮมสเตย์ ชุมชน
และแหล่งท่องเที่ยวที่ผ่านการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยด้วย
ทั้งประเภทที่พักเพื่อการท่องเที่ยว บริการท่องเที่ยว กิจกรรมการท่องเที่ยว
แหล่งท่องเที่ยว มาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียน มาตรฐาน ISO และ
Green Destinations ประจำปีงบประมาณ 2567
รวมทั้งสิ้น 488 ราย
ภายในงานจัดเสวนาหัวข้อ “Standards:
The Bridge to Success and Competitive Capabilities” ที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวชั้นนำซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยร่วมแบ่งปันประสบการณ์จริง
ทั้งด้านการพัฒนาคุณภาพบริการและกลยุทธ์กาารบริหารจัดการ
ตอกย้ำว่ามาตรฐานคือสะพานสู่ความสำเร็จและศักยภาพในการแข่งขัน สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ที่มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยผ่านการพัฒนาคุณภาพบริการ
การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและการกระจายรายได้สู่ชุมชน โดยใช้ ซอฟท์
พาวเวอร์ และการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ
เพื่อให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐาน
เป็นเลิศทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับสากล
พร้อมเสริมสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางคุณภาพระดับโลก
ทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ คุณค่า และมูลค่า
ให้เครื่องหมายมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย “ช้างชูงวงเริงร่า”
เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและสาธารณชนทั่วไป
ตลอดจนกระตุ้นและเชิญชวนให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเข้าสู่กระบวนการรับรองมาตรฐานเพิ่มขึ้น
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น