วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บางจากลั่นผลิตSAFดันไทยผู้นำน้ำมันการบินยั่งยืน ปี69ผสม 1%

บางจากลั่นผลิตSAFดันไทยผู้นำน้ำมันการบินยั่งยืน

ปี69ผสม 1%-ลงทุนท่อส่งเข้าสุวรรณภูมิ/ดอนเมือง

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #บางจาก #SAF

กลุ่มบางจากย้ำในเวที ASAFA IPS Thailand 2025 ตอกย้ำไทยพร้อมผลิต “SAF” ผงาดขึ้นผู้นำการผลิตน้ำมันการบินยั่งยืนแห่งภูมิภาค ปี69 นำร่องผสม 1 % มีระบบมาตรฐานท่อส่งเข้าสุวรรณภูมิ ดอนเมือง


            นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นำกลุ่มบริษัทบางจากตอกย้ำความมั่งมั่นด้วยการขับเคลื่อนระบบนิเวศ “น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน -Sustainable Aviation Fuel: SAF ของประเทศไทย ในเวทีการเสวนาหัวข้อ “Scaling Advanced SAF in Thailand: From Biomass to Global Markets” งาน ASAFA Innovation & Policy Summit (IPS) Thailand 2025

โดยมีโอกาสนำกลุ่มบริษัทบางจากร่วมสนับสนุนข้อเสนอมาตรการกำหนดสัดส่วนผสม SAF (SAF Blending Mandate) ในไทย ปี 2569 เริ่มนำร่องผสมขั้นต้น 1 % แม้มาตรการนี้ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อจะช่วยสร้างความชัดเจนให้ “ผู้ผลิตและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง” พร้อมแสดงความเห็นร่วมกันได้ แม้ปัจจุบันต้นทุนการผลิต SAF ยังสูงกว่าน้ำมันเครื่องบินทั่วไป แล้วการผสมในสัดส่วน 1 % ดังกล่าว จึงจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญกับ “ค่าโดยสารการบิน” อีกทั้งการลงทุน SAF ยังถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนระยะยาว



“กลุ่มบริษัทบางจาก” เป็นผู้บุกเบิกการผลิต SAF ชนิด Neat SAF (100%) จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว (Used Cooking Oil: UCO) รวมถึงวัตถุดิบทางเลือกอื่น ๆ เช่น ของเหลือทิ้งจากภาคอุตสาหกรรมและบริการ โดยมีกระบวนการผลิตอยู่ภายใต้การรับรองมาตรฐานระดับสากลจาก International Sustainability and Carbon Certification (ISCC) 

รวมถึงยังมี “โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ” คือ “ระบบท่อส่ง SAF เชื่อมต่อโดยตรงจากหน่วยผลิต SAF ที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง ไปสู่ท่าอากาศยาน “สุวรรณภูมิและดอนเมือง” ช่วยสนับสนุนการกระจายเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งส่งเสริมการนำระบบ Book & Claim กับตลาดคาร์บอนมาใช้เพื่อสะท้อนผลการลดการปล่อยคาร์บอนจากการบินอย่างแท้จริง สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สายการบินและลูกค้า


นางกลอยตากล่าวว่า หน่วยผลิต SAF ของกลุ่มบริษัทบางจากได้ใช้ “วัตถุดิบ” คือน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต SAF แต่ยังมองเห็นโอกาสทางเลือกในการนำน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) มาใช้เชิงกลยุทธ์เพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไทยเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของโลก และมีทรัพยากรอยู่มากเพียงพอ ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อผลิต SAF ได้อย่างมีศักยภาพ

แม้การนำน้ำมันปาล์มดิบหรือ CPO จะยังไม่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน EU RED II หรือ ICAO CORSIA แต่ไทยมีความพร้อมจะพัฒนาระบบรับรองอย่างเข้มงวดและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งจะช่วยสร้างสมดุลระหว่างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม กับการเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน รวมถึงส่งเสริมเศรษฐกิจการเกษตรของประเทศ

นางกลอยตาได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ควบคู่กับการจัดทำกรอบปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อขับเคลื่อนให้ไทยก้าวสู่การเป็น “ศูนย์กลาง SAF ของภูมิภาค” อย่างชัดเจน



            การเสวนาครั้งนี้ มีMr. Gabriel Ho, Founder & CSO of Asia Sustainable Aviation Fuel Association (ASAFA) เป็นผู้ดำเนินรายการ พร้อมผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ ดร.เสกสรรค์ พรหมนิช รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ธันยวีร์ พงษ์วัฒนาสุข กรรมการผู้จัดการธุรกิจเอทานอล กลุ่มมิตรผล ร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนา SAF เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยด้านเศรษฐกิจการบินคาร์บอนต่ำระดับโลก โดยเฉพาะศักยภาพไทยในฐานะผู้ผลิตเอทานอลรายใหญ่ สามารถต่อยอดสู่เทคโนโลยี Alcohol-to-Jet (AtJ) ได้อย่างมีศักยภาพต่อไป

สำหรับงาน “ASAFA IPS Thailand 2025” จัดโดย Asia Sustainable Aviation Fuel Association (ASAFA) เป็นอีกเวทีสำคัญการเชื่อมโยงภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนแนวนโยบาย เทคโนโลยี รูปแบบการลงทุน เพื่อเร่งการพัฒนา SAF ในภูมิภาคเอเชียให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อควาเซอร์คัสภูเก็ตจัดโปร“คนไทย”ตั๋วราคาพิเศษ 450-500บาท

  อควาเซอร์คัสภูเก็ตจัดโปรปัง “นักท่องเที่ยวไทย” 18 มิ.ย.- 31 ก.ค.ซื้อตั๋วราคาพิเศษ 450-500 บาท/คน เรื่องโดย... # เพ็ญรุ่งใยสามเสน #guru...