ไทยใช้ TTM+2025 ทัวร์สุขภาพ-อาหารในตลาดโลก

 

ไทยใช้ TTM+2025ขูขายทัวร์สุขภาพ-อาหารในตลาดโลก

ขานรับ5เดือนต่างชาติเที่ยวไทย14ล้านรายได้6.5แสนล้าน

ททท. ใช้เวที TTM+ 2025 ประกาศจุดขาย “เที่ยวเชิงสุขภาพและอาหาร”กับตลาดทั่วโลก

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #TTMPlus2025  

ททท. ใช้เวที TTM+ 2025 โชว์ไทยแลนด์ โปรดักซ์ อัพเดท ประกาศจุดขาย “เที่ยวเชิงสุขภาพและอาหาร” สร้างประสบการณ์ที่มีความหมายไม่รู้ลืม ขานรับต่างชาติเที่ยวไทย 5 เดือน ทะลุ 14 ล้านคน สร้างรายได้ 6.5 แสนล้านคน กระตุ้นอนาคตเที่ยวไทยยั่งยืน

          นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  เปิดเผยว่า ททท. จัดทำสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวไทยด้วยไทยแลนด์ โปรดักซ์ อัพเดท ในงาน Thailand Travel Mart Plus (TTM+) 2025 ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ นำเสนอจุดขายประเภท “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ  (Health and Wellness) กับการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ให้ผู้ประกอบการต่างประเทศและสื่อมวลชนที่เข้าร่วมกว่า 500 ราย รวมทั้งตอกย้ำแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainability) สร้างประสบการณ์เดินทางอย่างมีคุณค่าและความหมายให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและนำเรื่องราวไปบอกต่อได้อย่างไม่รู้จบ (Your Story Never End) เพื่อเดินหน้าสู่อนาคต

            ขานรับสถานการณ์การท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศ ตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 พฤษภาคม 2568 มีต่างชาติเดินทางเข้าไทยสะสมรวม 14,362,694 คน สูงสุด  5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 1,958,939 คน มาเลเซีย 1,901,464 คน อินเดีย 978,600 คน รัสเซีย 961,143 คน และเกาหลีใต้ 673,563 คน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวรวมแล้ว 650,000 ล้านบาท

การสร้าง “Your Story Never End” ให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทย สอดคล้องกับปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ททท. จึงฉายภาพสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวไทยเพื่อจะเป็นกุญแจดอกสำคัญกระตุ้นนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาไทย ใช้แม่เหล็กดึงดูดด้วยเพื่อสุขภาพและอาหาร ยกระดับคุณภาพการเดินทางเพิ่มความมั่นใจในการท่องเที่ยวจะสร้างประโยชน์ต่อทั้งผู้มาเยือนและชุมชนท้องถิ่น

            ส่วนกิจกรรม ไทยแลนด์ โปรดักซ์ อัพเดทด้วยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยเฉพาะกิจกรรม “ฟื้นฟูสุขภาพกายและจิตใจ” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิปัญญาสะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น เน้นจุดเด่นแต่ละภูมิภาค ได้แก่

ภาคเหนือ : สปาล้านนา ที่ Fah Lanna Spa และ การนวดฟ้อนเล็บ ที่ ZiRa Spa

ภาคกลาง : ผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ The Soul จังหวัดสระบุรี ผสมผสานศาสตร์การแพทย์ไทยและจีนอย่างครบวงจรที่ ChivaRak Wellness จังหวัดเพชรบุรี

ภาคตะวันออก : การนวด ZILA Stone Massage โดยใช้หินอ่างศิลาหายาก ที่ MASON Spa การนวดบำบัดแบบไทยพร้อมแช่บ่อน้ำแร่สไตล์ออนเซ็น ทรีตเมนต์สครับสับปะรดศรีราชา ที่ SPA Cenvaree ศรีราชา จังหวัดชลบุรี

ส่วนการท่องเที่ยวเชิงอาหาร สวรรค์ของนักชิม เมืองไทยมีให้เลือกตั้งแต่ร้านสตรีทฟู้ดไปจนถึงภัตตาคารมีดัง ด้วยวัฒนธรรมความหลากหลายและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ทั่วโลกยอมรับ โดย “มิชลิน ไกด์ ไทยแลนด์2025” ได้แนะนำร้านอาหารทั่วประเทศกว่า 400 แห่ง  เฉพาะในเชียงใหม่มีถึง 50 แห่ง ปี 2568  ร้าน “ศรณ์”  เป็นร้านอาหารแรกของเมืองไทยที่ได้รับดาวมิชลิน 3 ดาว สามารถเชื่อมโยงกับแนวคิดเรื่องสุขภาพ ภายใต้แนวคิด “Wellness on a Plate : สร้างสรรค์เมนูอร่อย” จากวัตถุดิบออร์แกนิกในท้องถิ่น เช่น ร้าน Blackitch ในเชียงใหม่

แล้วยังได้นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเชียงใม่ เช่น แลนด์มาร์กด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปะแห่งใหม่ Lannatique by AWC แพ็คเกจเส้นทางรถไฟหรูจากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ The Blue Jasmine Rail Journey เตรียมเปิดเดือนพฤศจิกายน 2568 ตลอดการเดินทางผู้โดยสารจะได้ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น สัมผัสวัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนตลอดเส้นทาง 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา อุทัยธานี สุโขทัย และเชียงใหม่

            ททท. มุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสร้างมาตรฐานและสนับสนุนความยั่งยืนในแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย โดยเฉพาะโครงการ “Krabi Prototype” โมเดลการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเลือกกระบี่เป็นต้นแบบนำเสนอด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและความแข็งแกร่งของชุมชนท่องเที่ยวเรื่องความยั่งยืน เช่น  อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ชมรมธุรกิจท่องเที่ยวอ่าวไร่เลย์ กำลังผลักดันเข้าสู่ Green Destinations Top 100 Stories เพื่อตอกย้ำการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสามารถดำเนินควบคู่กันไปได้อย่างสมดุล

ขณะที่ “น่าน” เมืองเก่าได้รับรางวัลระดับ Gold จาก Green Destinations Award นับเป็นความสำเร็จของไทยในการสร้างภาพลักษณ์ยกระดับแหล่งท่องเที่ยวไทยสู่มาตรฐานอย่างยั่งยืนสากล

            ททท. ยังเตรียมจัดและสนับสนุนกิจกรรมอีเวนต์การท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนการเดินทางมาไทยต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยมีไฮไลต์ เช่น  1.Amazing Thailand Love Wins Festival ทั่วประเทศ ในเดือนแห่ง Pride Month 2.เทศกาลผีตาโขนจังหวัดเลย 3.เทศกาลดนตรีนานาชาติ เช่น Summer Sonic Bangkok, Rolling Loud Thailand ในพัทยา และ 4.Wonderfruit ชลบุรี 5.เทศกาลถือศีลกินผักภูเก็ต

ส่วนอีเวนต์ด้านกีฬา ได้แก่ 1.ONE Championship Muay Thai series 2.การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก (FIVB Women’s Volleyball World Championship) 3.Amazing Thailand Marathon 2025 4.การแข่งขัน SEA Games ครั้งที่ 33

ช่วงปลายปีจัดยิ่งใหญ่ “เทศกาลแห่งแสงเสียง” เช่น ลอยกระทง วิจิตรเจ้าพระยา และ Amazing Thailand Countdown 2026