ข่าวดี!! “การบินไทย”ปลดล็อกแผนฟื้นฟูกิจการสำเร็จ
ศาลล้มละลายกลางสั่ง16มิ.ย.-ลุยต่อยอดธุรกิจโตยั่งยืน
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #การบินไทย
ข่าวดี!! การบินไทยออกจาก “แผนฟื้นฟูกิจการ” สำเร็จแล้ว หลังศาลล้มละลายมีคำสั่ง 16
มิ.ย.68 พิจารณาเรียบร้อยแล้ว นำธุรกิจผ่านเกณฑ์ครบ
4 ข้อ พร้อมลุยต่อยอดความแกร่ง ส.ค.68 กลับเข้าตลาดหลักทรัพย์ไทย นำประเทศผงาดสู่ฮับการบินภูมิภาค
สร้างอุตสาหกรรมการบินโตยั่งยืน
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า
วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่ง
“ยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ” ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หลังจากได้ยื่นคำร้องดังกล่าวไปเมื่อ
28 เมษายน 2568 เนื่องจากการดำเนินงานประสบความสำเร็จตามเงื่อนไขในแผนฟื้นฟูกิจการครบทั้ง
4 ข้อ ได้แก่
ข้อที่
1 การจดทะเบียนเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ
เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างทุน
ข้อที่
2 การดำเนินการตามแผนฟื้นฟู โดยไม่เกิดเหตุผิดนัด
ข้อที่
3 สามารถทำ EBITDA หลังหักค่าเช่าเครื่องบินตามงบเฉพาะกิจการย้อนหลัง
12 เดือนประมาณ 40,308 ล้านบาท ระหว่างเมษายน
2567 -มีนาคม 2568 ได้สูงกว่าที่กำหนดไว้อย่างมีนัยสำคัญ
20,000 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ
เป็นบวกจากการปรับโครงสร้างทุน
ข้อที่
4 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการใหม่เมื่อ
18 เมษายน 2568 ตามขั้นตอนหลังจากนี้จะเดินหน้าขออนุญาตหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องเพื่อ
“นำหุ้นการบินไทย” กลับเข้า “ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” อีกครั้ง คาดจะแล้วเสร็จช่วงต้นเดือนสิงหาคม
2568
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการและอดีตประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดที่ผ่านมา 4 ปี บริษัทฯ
ได้ดำเนินมาตรการสำคัญตามแผนฟื้นฟูกิจการสำเร็จลุล่วงด้านต่าง ๆ เช่น 1.ปรับโครงสร้างและขนาดองค์กรให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มความคล่องตัว
2.ขยายเครือข่ายเส้นทางบินครอบคลุมภูมิภาคต่าง ๆ 3.ปรับปรุงฝูงบินและห้องโดยสาร 4.พัฒนาระบบดิจิทัลและยกระดับมาตรฐานการให้บริการในทุกจุด
ได้แก่ ช่องทางการสำรองที่นั่งและออกบัตรโดยสารผ่านเว็บไซต์และโมบายแอพพลิเคชั่น
ห้องรับรองพิเศษ การบริการระหว่างเที่ยวบิน โปรแกรมสะสมไมล์รอยัล ออร์คิด พลัส และอื่น
ๆ
การบินไทยเดินหน้ายกระดับสู่การเป็น
“สายการบินชั้นนำในภูมิภาค” มุ่งเชื่อมต่อเที่ยวบินโดยมีกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลาง เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในมิติต่างๆ
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถสร้างรายได้ ควบคุมต้นทุน เพิ่มความรวดเร็วและคล่องตัวตอบสนองต่อความต้องการลูกค้าและการแข่งขันในอุตสาหกรรม
แล้วการบินไทยยังเสริมความแข็งแกร่งเรื่อง
“ฐานะทางการเงิน” ผ่านกระบวนการการแปลงหนี้และดอกเบี้ยตั้งพักของเจ้าหนี้เป็นทุน พร้อมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นก่อนการฟื้นฟูกิจการและพนักงานบริษัทฯ
ซึ่งทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นการบินไทย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568
กลับเป็นบวกถึง 55,221 ล้านบาท จากเดิม ณ
สิ้นสุดปี 2563 ติดลบอยู่ 127,235 ล้านบาท ขณะเดียวกันทาง Airline Weekly ได้ดจัดทำข้อมูล
ยืนยันการบินไทยสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานต่อเนื่องทุกไตรมาสตั้งแต่ปี 2566
เป็นสายการบินที่มีกำไรจากการดำเนินงานสูงสุด 3 อันดับแรกของโลกติดต่อกันล่าสุดช่วง 2 ไตรมาส
ส่วนของ “การชำระหนี้” ตามแผนฟื้นฟูกิจการ
จากมูลหนี้ที่เจ้าหนี้จำนวนกว่า 10,000 ราย ยื่นขอรับชำระหนี้
ณ วันที่ บริษัทฯ ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางเดือนพฤษภาคม 2563
โดยมีมูลหนี้รวมกว่า 400,000 ล้านบาทนั้น
ปัจจุบันการบินไทยมีภาระหนี้จะต้องชำระแก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการตามคำสั่งถึงที่สุดให้ได้ประมาณ
189,578 ล้านบาท ตามที่บริษัทฯ ได้ทยอยชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ที่ได้รับคำสั่งถึงที่สุดให้ได้รับชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการต่อเนื่องมาตลอด
จนถึงไตรมาส
1 ปี 2568 การบินไทยได้ชำระหนี้ไปแล้วทั้งสิ้นจำนวนประมาณ
94,080 ล้านบาท โดยมีมูลหนี้คงเหลือที่ยังต้องชำระจนถึงปี 2579
อีกประมาณ 95,498 ล้านบาท
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า
ความสำเร็จเรื่องฟื้นฟูกิจการการบินไทยครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญสะท้อนถึงความร่วมแรงร่วมใจ
ความมุ่งมั่น ทุ่มเท อดทน และเสียสละของผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ ทุกภาคส่วน
ทั้งเจ้าหนี้ ผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า อดีตพนักงาน และพนักงานปัจจุบันทุกคน สร้างผลดีให้การเงินปัจจุบันของบริษัทความแข็งแกร่ง
ควบคู่กับพัฒนาการต่าง ๆ ที่ดำเนินการผ่านกระบวนการฟื้นฟูกิจการ
จะเป็นพื้นฐานที่ดีเพื่อการต่อยอดความสำเร็จสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในมิติ ธุรกิจ
สังคม และสิ่งแวดล้อมในอนาคต ด้วย
หลังจากนี้การบินไทยจะมุ่งมั่นสร้างการพัฒนาต่อเนื่องทุกด้าน
เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้ผู้โดยสาร ลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น สังคมและชุมชนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
รวมทั้งมุ่งยกระดับศักยภาพการบินในระดับสากล และผลักดัน “ไทยเป็นศูนย์กลาง” ทางการเดินทางทางอากาศระดับภูมิภาค
ทำให้คนในประเทศภูมิใจ ก้าวสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาวอีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น