อนันต์ สีแดง ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่
ททท.แพร่4เดือนโกย1.4พันล้าน-มิ.ย.-ก.ย.บูมเที่ยว5งาน
ดึงโรงแรม/ร้านอาหารลุยเปิดฤดู“เที่ยวแพร่
แค่ฝนพรำ”
งัดจุดขายใหม่4เส้นทาง+เสน่ห์ศิลปะล้านนาตะวันออก
สมาชิกคิงเพาเวอร์ลุ้นช้อปฟรี-ใช้บัตรKTCช้อปแลกคืน
คิงเพาเวอร์กระหน่ำThe Power Saleลด30%ถึง30มิ.ย.
ช้อปน้ำหอมแบรนด์ดังคิงเพาเวอร์ออนไลน์ลดฉ่ำ
30%
TTM+2025จัดกระหึ่มเชียงใหม่โกยรายได้
4,296 ล้าน
บางจากขยายทอดไม่ทิ้งเริ่ม30มิ.ยทั่วไทยกว่า600แห่ง
TCEBผนึก3องค์กรหนุนPaint the City with“MY PRIDE”
สุขทันทีที่เที่ยวเพชรบุรีเมืองเสน่ห์ไทยตลอดมิ.ย.68
4กลุ่มอาหารสร้างภูมิต้านทานไข้หวัดรีบกินกันไว้ด่วน
ททท.-เปิดวิจิตร@เชียงใหม่10จุดดึงท่องเที่ยว5.5หมื่น
เวียตเจ็ทจัดตั๋วซื้อง่ายรัฐ-องค์กรบินทั่วไทยเริ่ม1,680บ.
วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #ทททแพร่
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! “อนันต์
สีแดง” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่
เร่งกระตุ้นตลาด 4
เดือนแรก ม.ค.-เม.ย.ตุนรายได้แล้วเกือบ 1,400 ล้านบาท
ด้วยกลยุทธ์การจัดมหกรรมงานประเพณีต่อเนื่องทุกเดือน ม.ค.-พ.ค. 7 งาน
แผนครึ่งปีหลัง “มิ.ย.-ส.ค.68”
เดินหน้าลุยเปิดฤดูท่องเที่ยว พร้อมกิจกรรมมากมาย 5 งาน
ไฮไลต์กรีนซีซั่นด้วย “เที่ยวแพร่หน้าฝน แค่ฝนพรำ” มีจุดขายใหม่ ๆ นำเสนอ 4 เส้นทาง
“ถนนสีฟ้า บ้านสีชมพู-ถนนลอยฟ้าพระธาตุภูแก-แพะเมืองผี-แพร่-อำเภอลอง”
เสน่ห์ศิลปะล้านนาตะวันออก Prea
Charm of Arts ห้ามพลาดฤดูฝนนี้แพร่มีของดีให้เที่ยวมากมาย
นายอนันต์ สีแดง ผู้อำนวยการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดการท่องเที่ยวแพร่ช่วง 5 เดือนแรก มกราคม-พฤษภาคม 2568 เป็นจุดหมายปลายทางล้านนาตะวันออกในภาคเหนือ
ได้รับความสนใจด้วยสภาพอากาศหนาวมกราคม-เมษายน 2568 มีนักท่องเที่ยว 663,785 คน สร้างรายได้เกือบ 1,400 ล้านบาท อัตราการพักเฉลี่ย 66 % ช่วงไตรมาสแรกมีกิจกรรมสนับสนุนร่วมกับจังหวัดแพร่
เช่น งานที่ 1 ประเพณี
“ตากธัมม์ ตานข้าวใหม่ หิงไฟพระเจ้า" วัดสูงเม่น เป็นงานประเพณีสืบทอดกันมายาวนาน
เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดแพร่และภูมิภาค
งานที่ 2 เมืองแพร่แห่ตุงหลวง ที่อารามหลวง วัดพระธาตุช่อแฮ กำลังยกสู่ระดับประเทศ โดยใช้ตุงเป็นสัญลักษณ์มงคล หลายภาคส่วนรณรงค์อบรมสืบสานภูมิปัญญาไทย โดยได้พัฒนาตุงนอกจากวิถีถิ่นล้านนา ประยุกต์โดยใช้ผ้าหม้อฮ่อมมาตัดเป็นตุง
งานที่
3 สงกรานต์
ยาวนานสุด 7-21เมษายน
จะมีประเพณีดั้งเดิมของชาวล้านนาคือ “จุดสะโป้กเมืองแพร่”
เป็นการจุดคล้ายประทัดใช้กระบอกไม้ไผ่กับแก๊สจะมีเสียงดัง
สนุกสนานปลอดภัยจุดทุกวันที่ 13
เมษายน
ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ปิดท้ายเป็น
งานที่ 4 ถนนหม้อฮ่อม ทุกวันที่ 17 เมษายน คนจะใส่เสื้อมาเล่นน้ำสงกรานต์กัน หลายจังหวัดจะเดินทางมาเที่ยว
งานที่ 5 สงกรานต์อาบน้ำช้าง ที่อำเภอวังชิ้น วิถีคนกับช้าง สืบสานภูมิปัญญานำช้างมาเดินบนถนนแล้วไปทำพิธีคล้องขวัญช้าง
เดือนพฤษภาคม
2568 มีงานสำคัญ
งานที่ 6 ประเพณีไหว้พระพุทธโกศัยศิริชัยมหาศากยมุนีที่วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร
จัดขึ้นเพื่อสักการะพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแพร่
มีทั้งนักท่องเที่ยวและสาธุชนมาชม งานที่ 7 แพร่มาราธอน 25 พฤษภาคม จัดปีแรกวิ่งระยะทาง 42 กม.ชมเมืองเก่าแพร่
มีผู้เข้าร่วม 1,800 คน
เดือนมิถุนายน 2568 มีความท้าทายในบรรยากาศหน้าฝนมีแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองแพร่ เพื่อกระจายรายได้และจำนวนคนที่จะมาชมความเขียวขจีหลายพื้นที่กรีนซีซั่น ททท.สำนักงานแพร่ ได้บูรณาการประชุมร่วมกับสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแพร่ การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดแพร่ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม เพื่อจัดกิจกรรม
งานที่ 8 จัด “แพร่ สตรีทฟู้ด” วันที่ 29-30 มิถุนายน ที่ประตูชัย ซึ่งเป็นไฮไลต์ศูนย์กลางโรงครัว ห้องรับแขก ทุกฤดูตั้งแต่เที่ยงวันถึงเที่ยงคืน เพื่อนำเสนอเมนูและร้านเด่น ๆ
เดือนกรกฎาคม 2568 งานที่
9 เปิดฤดูกาล “เที่ยวแพร่หน้าฝน แค่ฝนพรำ”
เตรียมประกาศรายละเอียดเริ่มกลางเดือนมิถุนายน- 30 กันยายน นี้
เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารในจังหวัดแพร่
จะเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยราคาพิเศษ แนะนำการท่องเที่ยวหน้าฝน
นาขั้นบันได วัดบนเขา ทะเลหมอก
งานที่ 10 “ถนนสีฟ้า บ้านสีชมพู” ผ้ามัดย้อมหม้อฮ่อม ความมั่งคั่ง และบ้านสีชมพูจะเป็นคุ้มเจ้าหลวง ททท.ร่วมกับโรงแรม ที่พัก นักท่องเที่ยวสามารถนำสลิปหรือหลักฐานการชำระเงินจะได้รับผ้าคล้องคอหม้อฮ่อม
เดือนสิงหาคม 2568 งานที่ 11 นึกถึงอำเภอลอง เมืองงานผ้าซิ่นตีนจก สถานีรถไฟบ้านปิน ขนมจีนน้ำย้อย และเมืองแพร่แห่ระเบิดเป็นขบวนแห่ระฆังทำจากระเบิดที่ชาวบ้านนำมาถวายวัดในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทิ้งไว้เพื่อทำลายสะพานรถไฟ งานที่ 12 สานศิลป์ถิ่นหัตถกรรมอำเภอลอง จัดช่วงศุกร์-เสาร์ กลางเดือนสิงหาคม เป็นปฏิทินท่องเที่ยวที่ร่วมกับทางสำนักงานจังหวัดแพร่
ผอ.อนันต์ กล่าวว่า
แพร่มีสนามบินหรูแต่ตอนนี้สายการบินยกเลิกไป จึงใช้กลยุทธ์เดินทางเชื่อมโยง
นั่งรถไฟจากเชียใหม่-บ้านปิน อ.ลอง จ.แพร่ หารือกับทางบริษัทนำเที่ยวทำแพกเกจขาย
หรือเส้นทางรถไฟจากกรุงเทพฯ-เด่นชัย ส่วนการหารือกับสายการบินไทย แอร์ เอเชีย
กระตุ้นร่วมกับบริษัทนำเที่ยว เพื่อขาย แพร่-น่าน
ซึ่งมีเที่ยวบินลงน่านแล้วสามารถเช่ารถมาแพร่ได้ เหมาะกับตลาดเดินทางด้วยตนเอง
หรือกลุ่มครอบครัว “รถยนต์ส่วนตัว” มีนักท่องเที่ยวใช้บริการประมาณ 80-90 %
ส่วนเส้นทางใหม่ ๆ
ที่จะแนะนำเดินทางท่องเที่ยว ได้แก่
เส้นทางที่ 1 อำเภอเมืองแพร่-พระธาตุช่องแฮ-บ้านนาตอง สามารถเช่าหรือใช้รถยนต์ส่วนตัว ไปไหว้พระ สักการะวัดพระธาตุช่อแฮ ถวายตุง เยี่ยมชมคุ้มเจ้าหลวง แล้วไป “บ้านนาตอง” หมู่บ้านในหุบเขา มีลำธารไหลผ่านกลางหมู่บ้าน มีคาเฟ่ โฮมสเตย์
เส้นทางที่
2 ถนนลอยฟ้า
พระธาตุภูแก แห่งภูเขาเทเลทรัปบี้
นักท่องเที่ยวจะได้เห็นทิวเขาสลับลดหลั่นมีพระธาตุอยู่บนเขา มีร้านกาแฟ และที่พัก
เป็นจุดถ่ายรูป บรรยากาศการเดินทางจากแพร่ ผ่านบ้านนาคูหา มีพระเจ้าโตนหลวง
พระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่กลางทุ่งนา สะพานไม้ไผ่ นาขั้นบันได เชื่อมต่อสู่พระธาตุภูแก
เส้นทาง
3 แพะเมืองผี
ปัจจุบันยังคงความสวยงาม ผ่านบ้านทุ่งโฮ้ง ร้านอาหาร
นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติจะถามถึงแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว
เส้นทางที่ 4 แพร่-ลอง ทาง ททท.แพร่ได้จัดทำจุดขาย Charm of Arts งานคราฟท์ ภูมิปัญญาคนแพร่ มีกิจกรรมช่วงสิงหาคม จะเป็นอีกเส้นทางเชื่อมจากน่าน แวะชม พิพิธภัณฑ์บ้านอาจารย์โกมล ชมผ้าซิ่นตีนจก แวะบ้านแม่ประนอม ทาแปง เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาประณีตศิลป์-ศิลปะการทอผ้า ปี 2553 มีบ่อเหล็กลองด้วยในการนำมาทำศาสตราวุธ 1 ปี จะเปิดเพียงครั้งเดียว แล้วไปชมระฆังเมืองแพร่แห่ระเบิดอำเภอลอง แล้วไปเที่ยวต่อที่อำเภอบ้านปิน
ผอ.อนันต์ กล่าวว่า ฝนนี้อยากเชิญชวนออกเดินทางเที่ยวเมืองไทยสุขทันทีที่ “เมืองแพร่” มีความสงบเรียบง่าย กลิ่นอายล้านนา ในบรรยากาศวิถีชีวิตแพร่เงียบมากเมื่อได้มาเมืองโกศัยแพร่ทั้งความสงบสุขของผู้อยู่และผู้มาเยือน การเดินทางเข้าถึงสะดวก อาหารถิ่น และเที่ยวแพร่ แค่ฝนพรำ
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-สมาชิกคิงเพาเวอร์ลุ้นช้อปฟรี-ใช้บัตรKTCช้อปแลกคืน
คิง เพาเวอร์ เปิดให้ลงทะเบียนลุ้นช้อปฟรี แฮปปี้ตลอดหยุดยาว! “เฉพาะสมาชิก คิง เพาเวอร์” วันนี้ -8 มิ.ย.2568 ได้คนละ 1 สิทธิ์/วัน
1.ลุ้นช้อปฟรี!กับ GIFT VOUCHER 2,000 บาท
ไม่มีขั้นต่ำ หรือ คูปองส่วนลด 30% หรือ คูปองส่วนลด 25% หรือ คูปองส่วนลด 20%
2.พิเศษ! ช้อปครบแลกคืน ผู้ถือบัตรเครดิต KTC วันนี้ -30 มิ.ย.2568 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และภูเก็ต
แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน
สูงสุด 14% เมื่อช้อปครบ 30,000 บาทขึ้นไป
ข่าวที่ 2 -คิงเพาเวอร์กระหน่ำThe Power Saleลด30%ถึง30มิ.ย.
THE POWER SALE ช้อปสนั่น มันส์ได้เกินต้าน! กับส่วนลดสูงสุด 30% เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ
ที่ชั้น 2-3 คิง เพาเวอร์ มหานคร เท่านั้น วันนี้ -30
มิถุนายน 2568
1.สมาชิก คิง เพาเวอร์ เท่านั้น! รับเลย Carat Rewards 500 Carats* (เมื่อช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ)
2.คุ้มเกินได้เกินต้าน! สมัครสมาชิกวันนี้ ฟรี พร้อมรับสถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY (จากปกติเติมเงินเข้าบัญชี 1,000 บาท)
มีไฟลต์
หรือไม่มีไฟลต์ก็ช้อปได้สินค้าป้ายขาว ช้อปก่อนบิน รับสนามบิน สินค้าป้ายฟ้า
ไม่ต้องบิน รับกลับทันที
ข่าวที่ 3-ช้อปน้ำหอมแบรนด์ดังคิงเพาเวอร์ออนไลน์ลดฉ่ำ30%
คิง
เพาเวอร์ ชวนช้อป น้ำหอมแบรนด์ กลิ่นหรูดูแพง แบบผู้ดี ด้วยแบรนด์ LANCOME,
DAVIDOFF, CHLOÉ, BVLGARI , GIORGIO ARMANI, JEAN PAUL GAULTIER, PRADA, DIPTYQUE,
MAISON MARGIELA, MONTBLANC และอื่น ๆ อีกมากมาย
เข้าไปส่องไอเทมเด็ดก่อนใคร พร้อมรับดีลพิเศษได้ง่าย ๆ ได้เลย
กดช้อปและรับของที่สนามบิน วันนี้ -8 มิถุนายน 568 ลดแรงสูงสุด 30%
แคมเปญ
6.6 ONLINE SALE : ALL DAY SUPER SAVE ช้อปให้ฉ่ำ จัดเต็มรับหน้าฝน ลดแรงสูงสุด 30%
ให้ฉ่ำกว่าเม็ดฝนที่โปรยปราย โปรแน่นเหมือนกระเป๋า ตอนเงินเดือนออก!
ห้ามพลาดที่คิง
เพาเวอร์ ออนไลน์ ไอเทมจำเป็นสำหรับทริปหน้าฝนนี้
นำมาให้ช้อปกันแบบจุใจพร้อมรอรับของที่สนามบินขาออกประเทศ
ลดสูงสุด
30% ช้อปแบบไม่มีขั้นต่ำ
สำหรับนักเดินทาง
Travellers ทั่วไป ลดเพิ่มทันที 5% (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ)
รหัสส่วนลด 30SAVE5
เฉพาะ
Member Online ที่เชื่อมบัญชีออนไลน์แล้วเท่านั้น
ลดเพิ่มสูงสุด 10% รหัสส่วนลด 30SAVE10
ข่าวที่ 4-TTM+2025จัดกระหึ่มเชียงใหม่โกยรายได้
4,296 ล้าน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิด Thailand
Travel Mart Plus (TTM+) 2025 งานส่งเสริมการท่องเที่ยวรายการใหญ่ วันที่
4 – 6 มิถุนายน 2568 ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์
จังหวัดเชียงใหม่ นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย 450 ราย เสนอสินค้าและบริการกว่า
406 ราย จากทั่วโลก 53 ประเทศ คาดจะจับคู่เจรจาธุรกิจกว่า
13,000 นัดหมาย รายได้หมุนเวียนกว่า 4,296 ล้านบาท
นายสรวงศ์
เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า งาน Thailand Travel Mart
Plus 2025 (TTM+ 2025) เป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยจะได้นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว เจรจาธุรกิจกับคู่ค้าต่างประเทศ
สร้างเครือข่ายทางธุรกิจที่เข้มแข็ง
ยกระดับสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวสู่สากล ครั้งนี้จัดขึ้นในเชียงใหม่จะได้โชว์ศักยภาพจังหวัดเชียงใหม่
และภาคเหนือของไทย มีธรรมชาติอันสวยงาม ลุ่มรวยด้วยมรดกทางวัฒนธรรม
และสินค้าบริการทางการท่องเที่ยวที่หลากหลาย แล้วยังนำเสนอสินค้าและบริการทั้งพื้นที่เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
สร้างโอกาสทำตลาดและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นทั่วประเทศ
รวมถึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างความเชื่อมั่นให้นักเดินทางมายังไทย
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. ปรับกลยุทธ์มุ่งกระตุ้นตลาด
ทั้งประเทศทั้งท่องเที่ยวหลักและรองของไทย โดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งจะมีผู้ประกอบการเดินทางมาถึงมาจากเมืองหลักและรอง
97 ราย ถือเป็นสัญญาณบวกที่จะเร่งฟื้นฟูตลาดจีน
รวมถึงตลาดศักยภาพใหม่ ๆ จากประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง เช่น
อาร์เจนตินา บราซิล ซาอุดีอาระเบีย เซาท์แอฟริกา ภูมิภาคยุโรปตะวันออก โดยมีตัวแทนผู้ซื้อท่องเที่ยวทั่วโลก
(Buyers) 406 รายเข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ขายไทย (Sellers) 450 ราย เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวได้ตรงต่อความต้องการ
ปี 2568 ททท.ได้ขยายโอกาสไปสู่ผู้ประกอบการเมืองน่าเที่ยว
14 จังหวัด และยังคงหัวใจหลักจัดงานถึงความยั่งยืน (Sustainability)
ทุกมิติ ททท. หวังให้ TTM+2025
สร้างเครือข่ายทางธุรกิจ และเพิ่มโอกาสการทำตลาดศักยภาพใหม่ทั้งตลาดระยะใกล้และระยะไกล
ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยยั่งยืนระดับสากล
เวทีเจรจาธุรกิจงาน TTM+ 2025 มีผู้ซื้อ (Buyers) ทั่วโลกเข้าร่วม 406
ราย จาก 53 ประเทศ แบ่งเป็นสภูมิภาคเอเชียตะวันออก 33.25 % อาเซียน
เอเชียใต้และแปซิฟิกใต้ 32.51 % ยุโรป 26.35 % และอเมริกา ตะวันออกกลางและแอฟริกา 7.88 % ส่วนผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย (Sellers) เข้าร่วม 450
ราย ประกอบด้วย ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท 81.78 % ธุรกิจนำเที่ยว
8.44 % สถานบันเทิงและสันทนาการ 6 % ธุรกิจด้านสุขภาพ 0.89 % ธุรกิจด้านการคมนาคมขนส่ง 0.44 % และธุรกิจอื่น
ๆ 2.44 %
รวมถึงผู้ประกอบการเมืองน่าเที่ยว 14 จังหวัด
30 หน่วยงาน องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ (NTO) จากกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS)
ได้แก่ กัมพูชา เมียนมา และประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ ได้แก่ ภูฏาน
รวมสื่อมวลชนจากทั้งในและต่างประเทศกว่า 108 ราย
แล้วยังมีกิจกรรมไฮไลต์อื่น
ๆ เริ่มต้นที่ TTM+ Talk ปีนี้ได้นำเสนอภายใต้ธีม
“The Soul of Thailand: 3F Essentials” ถ่ายทอด “Thai
Charm” หรือเสน่ห์ไทยผ่าน 3
องค์ประกอบสำคัญของวิถีชีวิตสอดคล้องกับแนวคิด “5 Must Do in Thailand”
เปิดด้วย Keynote Speaker
นายแพทย์ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
รองประธานคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ
ให้เกียรติบรรยายภายใต้หัวข้อ “Thailand Soft Power Outlook”
พร้อม
3 Speakers
นำเสนอเสน่ห์ไทยแง่มุมต่าง ๆ ได้แก่ นายคิม สเต็ปเป้
ประธานกรรมการบริหาร Blue
Elephant International Group ในหัวข้อ “Flavors of Siam:
The Essence of Thai Gastronomy” นายปราโมทย์ เดชะบุญศิริพานิช
กรรมการผู้จัดการ PAÑPURI หัวข้อ “Fulfillment & Flourish: Thai Wellness
Traditions for a Balanced Life” นางสาวกมลนาถ องค์วรรณดี,
ผู้ประสานงานเครือข่าย Fashion Revolution Thailand หัวข้อ “Fabrics of Thai Identity: Opportunities in Local
Textiles”
จากนั้นได้จัดกิจกรรม
Thailand
Product Update ฉายภาพสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวไทยจะเป็นกุญแจดอกสำคัญกระตุ้นการท่องเที่ยวปี
Amazing
Thailand Grand Tourism and Sport Year 2025 โดยมีการจัดโชว์เคส Travel
Tech นำเสนอระบบ Smart Business AI by TAT แพลตฟอร์มเครื่องมือการตลาดอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและพันธมิตรทั่วไทย
ระบบ TATAI การใช้เทคโนโลยี AI
ช่วยตอบคำถามนักท่องเที่ยวได้ตรงประเด็น
รวดเร็ว แม่นยำ
ส่วน
TAGTHAi
แพลตฟอร์มให้บริการครอบคลุมความต้องการนักท่องเที่ยวที่จะค้นหาสถานที่น่าสนใจ
การใช้ Generative
AI เข้ามาช่วยออกแบบวางแผนการเดินทางเชื่อมต่อบริการสายด่วนฉุกเฉิน (SOS) ใช้นวัตกรรม Access to AR MAP นำเสนอข้อมูลโซนต่าง ๆ ทั้งนำทางไปยังบูธที่สนใจในงาน
การเปิด Product Showcase และเวิร์คช้อปนำเสนอภายใต้แนวคิด The Wisdom and
Wellness Experience ถ่ายทอดประสบการณ์ศาสตร์ดูแลสุขภาพผสาน Thai
Wisdom ภูมิปัญญาล้านนาผ่านกิจกรรมเชิงสุขภาพสะท้อนอัตลักษณ์ไทยประยุกต์และความยั่งยืน
ในมิติ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส
จากผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น นวดนิ้วมือ ทำพวงกุญแจลูกประคบจิ๋ว
การนวดแบบล้านนาด้วยท่วงท่าของสัตว์มงคล 5 ชนิด สาธิตการทำเมนูสมุนไพรเมี่ยงกลีบบัว ชงชาจากดอกไม้และสมุนไพร
การทำยาดมสมุนไพร การทำสครับผิว และทำแผ่นหอมจากกลิ่นหอมระเหยที่เหมาะกับเรือนธาตุ
การระบายสีพัดลายดอกไม้โดยใช้สีจากธรรมชาติ Music & Dancing Therapy
(Mini Perform) ได้แก่ พิณเปี๊ยะและฟ้อนเจิง, Handpan,
และ ขันธิเบต Chiang Mai Holistic
ข่าวที่
5-บางจากขยายทอดไม่ทิ้งเริ่ม30 มิ.ยทั่วไทยกว่า
600
แห่ง
กลุ่มบริษัทบางจากใช้โอกาสที่ดีวันสิ่งแวดล้อมโลก
5 มิถุนายน 2568 เชิญชวนประชาชน “ลดโลกร้อน เพิ่มรายได้” เปลี่ยนน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วให้เป็นพลังงานสะอาดแห่งอนาคต
พร้อมสร้างรายได้เสริม ขยายโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง”
รับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วครอบคลุมทุกสถานีบริการน้ำมันบางจากกรุงเทพฯ
และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
โดยนายบัณฑิต หรรษาไพบูลย์
ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ-โรงกลั่น และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่
กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน นำทีมผู้บริหารที่เกี่ยวข้องร่วมกิจกรรมคือ นายเสรี
อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด นางกลอยตา ณ ถลาง
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ นายอนุวัตร รุ่งเรืองรัตนากุล
รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจโรงกลั่น บริษัท
บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน)
ร่วมเชิญชวนให้ประชาชน
นำน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วมาจำหน่ายให้โครงการ “ทอดไม่ทิ้ง”
ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก 448 สาขาในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
เพื่อนำไปผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) โดย
บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด โดยราคารับซื้อ ณ เดือนมิถุนายน 2568 อยู่ที่กิโลกรัมละ
19 บาท (ราคาอาจมีการปรับขึ้นลงตามกลไกตลาดน้ำมันพืช)
โครงการนี้ ยังได้รับความร่วมมือกับ บริษัท
วินโนหนี้ จำกัด และ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์สผู้บริหาร
แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทย โรบินฮู้ด โดยมี นางมรกต ยิบอินซอย
กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยิบอินซอย จำกัด
ร่วมสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ให้ถึงผู้บริโภคในวงกว้าง พร้อมแผนขยาย
“สถานีทอดไม่ทิ้ง” จุดรวบรวมน้ำมันปรุงอาหารใช้ในโรงเรียนอีก 40 แห่ง
ร่วมกับมูลนิธิใบไม้ปันสุข เพื่อปลูกฝังแนวคิดการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและการจัดการของเสีอย่างยั่งยืน
เชิญชวน “ลดโลกร้อน เพิ่มรายได้”
ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากทุกสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่ 30 มิถุนายนนี้
และอีกกว่า 200 สาขาในจังหวัดอื่น ๆ โดยโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง”
พร้อมเดินหน้าขยายจุดรับน้ำมัน
ใช้แล้วสู่สถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง
ข่าวที่ 6- TCEBผนึก3 องค์กรหนุนPaint the City with “MY PRIDE”
นายภูริพันธ์
บุนนาค รักษาการ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บได้สนับสนุนมหกรรม “MY
PRIDE THAILAND” ตลอดเดือนมิถุนายน 2568 ขานรับนโยบายการสร้างสังคมที่น่าอยู่อย่างเท่าเทียม
ทีเส็บ
จึงได้จัด Paint the City with “MY PRIDE” โดยร่วมกับหน่วยงานชั้นนำของประเทศ
3 องค์กรหลัก ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
(องค์การมหาชน) “CEA” สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และซอฟต์พาวเวอร์
(CISPI) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
นำเสนอและสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ ซอฟท์ พาวเวอร์ โชว์เสน่ห์ความเป็นไทย
ที่จะขับเคลื่อนสังคมที่หลากหลายและเท่าเทียม โดยใช้การสื่อสารแบบทันสมัย
เข้าถึงง่าย เต็มไปด้วยพลังสร้างสรรค์
รวมทั้งสร้างความพิเศษ
ร่วมกับ Pink Blue Black & Orange (PBBO) และ ARTSAVEWORLD
ออกแบบ “คาแรกเตอร์ MY PRIDE” กว่า 50 แบบ
เพื่อให้พันธมิตรนำไปสร้างสรรค์ต่อผ่าน 3 รูปแบบ ประกอบด้วย
รูปแบบที่
1 Media Partner - นำไปตกแต่งสถานที่
สื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ
รูปแบบที่ 2
Creative Product Partner – นำไปผสานเข้ากับสินค้าภายใต้แบรนด์ต่าง
ๆ ส่งต่อพลังแห่งความหลากหลาย
รูปแบบที่
3 Souvenir Partner – นำไปผลิตสินค้าหรือของที่ระลึกอย่างไทย
สำหรับงานจัด
MY PRIDE THAILAND ถือเป็นบทบาทสำคัญของประเทศไทยในการขับเคลื่อนสังคมไทยอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน
ผ่านมุมมองที่เปิดกว้าง ทันสมัย และเท่าเทียม
สู่การต่อยอดความเป็นไทยหลากหลายรูปแบบอย่างไร้ข้อจำกัด ซึ่งจะช่วยเสริมพลัง ซอฟท์
พาวเวอร์ ไทยให้เด่นชัดขึ้นในระดับสากล
ช่วงที่ 2 มาปักหมุดสุขทันที่เที่ยวเสน่ห์ “เพชรบุรี ไม่มีเหงา” ตลอด มิถุนายน 2568
จัดให้ครบชมมหกรรมไทยไฟต์ ร่วมสีสันเดือนแห่งไพรด์ เดินชมตลาดสวนลอย
ไหว้หลวงพ่อพระใหญ่ แล้วฟัง “4 กลุ่มอาหารกินแก้หวัด”
ช่วงหน้าฝน ต่อด้วยข่าวเข้ม ๆ ข่าวแรก ททท.เปิดวิจิตร@เชียงใหม่ น้ำพุร้อนสันกำแพง 10 จุด ดึงนักท่องเที่ยว 5.5 หมื่นคน
ข่าวที่สอง “เวียตเจ็ทจัดโปรตั๋วภาครัฐ-องค์กร” บินทั่วไทย เริ่ม 1,680 บาท
ท่องเที่ยว –สุขทันทีที่เที่ยวเพชรบุรีเมืองเสน่ห์ไทยตลอดมิ.ย.68
เมืองไทย
เที่ยวสนุก มีสีสัน สุขทันทีเที่ยว “เพชรบุรีไม่มีเหงา” ตลอดเดือนมิถุนายน 2568
กับความหลากหลายเสน่ห์ไทย เริ่มตั้งแต่งาน “ลานวัฒนธรรม” วันที่ 8
มิถุนายน ที่วัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง อ.ท่ายาง ต่อด้วยการชมความสนุกกับตำรับการต่อสู้ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
“THAI FIGHT” วันที่ 8 มิถุนายน
ที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระนครคีรี อ.เมือง
ชมฟรี 18:00-21.40 น. ประตูเปิดเวลา 16.00 น.
สัมผัสเสน่ห์ไทย
5 Must Do ในงาน “Thai Fight เพชรบุรี”
ถิ่นพระนครคีรี มีดีทั้งขนมหวาน มรดกโลกแก่งกระจาน สำราญหาดเจ้า
ตื่นตากับมวยคาดเชือก มวยไทยดั้งเดิม นำโดย แสนชัย น้องโอ ไลอ้อน เขี้ยวเพชร ดาวแพร่
กล้าศึก ฟ้าใส พร้อมคู่มวยรอบ Isuzu Thailand Championship “ขุนศึกเล็ก”
พบ “ขวัญ” และ “ธนูเงิน” พบ“ชัยบุรี”
แล้วรอเที่ยวฟรี
“Ride With Pride ปั่นสบาย หัวใจหลากสี” วันที่ 13-14
มิถุนายน ที่เซ็นทารา ไลฟ์ ชะอำ บีช รีสอร์ท หัวหิน
ชวนมาร่วมขบวนจักรยานแรลลี่กรีนไบค์ รับฟรี! เสื้อกิจกรรม LIMITED EDITION พร้อมสนุกสุดเหวี่ยงกับ PRIDE PARTY สุดปัง!
ไฮไลต์ในงานมีกิจกรรมหลากหลายด้วยเช่นกัน
ได้แก่ ตลาดสวนสนลอย เพ้นท์หน้าสีรุ้ง ศิลปะกำแพง Pride โชว์กระบองไฟสุดตระการตคอนเสิร์ตจาก “ฤทธิ สมิหลา” และ “โบว์ The
Voice”
หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินชม
“ตลาดสวนสนลอย” วันที่ 21 มิถุนายน นี้ ใกล้ ๆ เซ็นทารา ไลฟ์ ชะอำ แล้วไปสัมผัสประสบการณ์คลายร้อนได้ในงาน “RINMA
SUMMER BEACH 2025” แบบยาว
ๆ ฉ่ำ ๆ วันที่ 21-29 มิถุนายน ที่ ซี แซนด์ ซัน หัวหิน รีสอร์ท หรือจะไปเดินชิลอีกแห่งที่
“ตลาดริมน้ำจามจุรี” ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์
ที่ชุมชนบ้านถ้ำเสือ อ.แก่งกระจาน
หรือสนุกสนานในบรรยากาศวิถีถิ่นกับงานประจำปี
“เจ้าพ่อเขาใหญ่ และของดีเมืองชะอำ” วันที่ 21-29 มิถุนายน
บริเวณหน้าศูนย์ราชการ อ.ชะอำ
เที่ยวเพชรบุรี
เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย เที่ยวได้ทุกวัน ออกมาเมืองไทย เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน
มีรายได้อย่างยั่งยืน
สุขภาพ –4กลุ่มอาหารสร้างภูมิต้านทานไข้หวัดรีบกินกันไว้ด่วน
พอเข้าสู่ฤดูฝน
รวมทั้งโรคไข้หวัดกำลังระบาด ดังนั้นจึงจะขอมาแบ่งปันวิธีการป้องกันไข้หวัด
ด้วยกลุ่มอาหารที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันไข้หวัดแบบง่าย ๆ ด้วย 4 กลุ่มอาหาร
1
.เนื้อสัตว์ -ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีปริมาณแร่ธาตุสังกะสี (Zinc,
Zn) ที่มีส่วนช่วยลดระยะเวลาของอาการป่วยเป็นไข้หวัดได้ เช่น
หอยนางรม, ไข่แดง, เนื้อแดง เช่น
เนื้อหมู และเนื้อวัว เนื้อสัตว์เหล่านี้
ยังมีคุณสมบัติในการลดอาการป่วยข้างเคียงได้ด้วย
2
.ผักสีสด-
มีความสำคัญในการมีส่วนช่วยเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เช่น แครอท, พริกหวาน, มะเขือเทศ
เป็นผักที่มีวิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระ
ซึ่งควรรับประทานในรูปแบบของผักสดเท่านั้น
ไม่ควรรับประทานในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ที่มีความเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้
3
.ผลไม้ - ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะผลไม้ประเภทมีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม, ฝรั่ง, กีวี่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ควรเลือกรับประทานเป็นผลไม้สดมากกว่าการรับประทานในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ซึ่งไม่ควรบริโภคเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน และดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อย 2
ลิตร เพื่อป้องกันการเกิดนิ่ว
4
.กระเทียม - กระเทียมสด ตัวช่วยชั้นดีป้องกันไข้หวัด มีสารอะลิซิน
ที่มีส่วนช่วยในการเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย แต่สามารถถูกทำลายได้ด้วยความร้อน
โดยแนะนำให้รับประทานโดยสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือรับประทานการเทียมสดบด 2-4
กลีบต่อวัน จะมีส่วนช่วยป้องกันไข้หวัดได้เป็นอย่างดี
หมายเหตุ
: สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง และไตเสื่อม
ควรรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับโรค ตามที่แพทย์และนักกำหนดอาหารแนะนำ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–ททท.-เปิดวิจิตร@เชียงใหม่10จุดดึงท่องเที่ยว5.5หมื่น
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) จัดการท่องเที่ยวหน้าฝน “วิจิตร@เชียงใหม่
สีสันแห่งเส้นแสง น้ำพุร้อนสันกำแพง โครงการตามพระราชดำริ ตอน ออนเซ็น@สันกำแพง” ภายใต้แนวคิด “เดอะ เมจิก ออฟ ออนเซ็น ไนท์ (The Magic
of ONSEN Night)” ระหว่างวันนี้ – 8 มิถุนายน 2568 โดยร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่
กิจการน้ำพุร้อนสันกำแพงโครงการตามพระราชดำริ ชุมชนบริเวณรอบน้ำพุร้อนสันกำแพง และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนในพื้นที่ จัดการแสดงนวัตกรรมแสง เสียง สุดตระการตา 10 จุด
สะท้อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและความวิจิตรวัฒนธรรมเมืองล้านนาเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ คาดจะมีผู้เข้าร่วมงาน 55,000 คน สร้างรายได้ท่องเที่ยว 70 ล้านบาท
โดยมี พลเอก เฉลิมชัย
สิทธิสาท องคมนตรี ร่วมเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
นางจิระวดี คุณทรัพย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
ททท. นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ททท. เข้าร่วมงาน
พลเอก
เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี
เปิดเผยว่า หลังจากโครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง ตามพระราชดำริเกิดขึ้นเมื่อปี
2518 ตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ต่อมาในปี 2527 ได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนธรรมชาติ
แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เป็นตัวอย่างการดำเนินธุรกิจน้ำพุร้อนในประเทศ
สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับประชาชนในพื้นที่มาอย่างยั่งยืน
การจัดงาน
“วิจิตร@เชียงใหม่
สีสันแห่งเส้นแสง น้ำพุร้อนสันกำแพง โครงการตามพระราชดำริ ตอน ออนเซ็น@สันกำแพง” เป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจะเปิดมุมมองทางการท่องเที่ยวใหม่ให้กับน้ำพุร้อนสันกำแพง
ซึ่งปัจจุบันอยู่ในโครงการพระราชดำริและเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร
เพื่อสืบสานพระราชปณิธานตามหลักการเศรษฐกิจพอเพียงสู่ความยั่งยืน
นายจักรพล
ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ปี 2567 งานนี้สร้างความสำเร็จและผลตอบรับที่ดี
สร้างพึงความพอใจให้ผู้เข้าร่วมงาน 91.39 % และอยากให้จัดงานอีก
99.89 % เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ชัดเจนถึงหนึ่งในกลไกสำคัญกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว
และเศรษฐกิจของประเทศ สอดคล้องกับนโยบายระดับชาติ ภายใต้แคมเปญ Amazing Thailand Grand Tourism & Sports
Year 2025 ททท. จึงได้ต่อยอดจัดงาน “วิจิตร@เชียงใหม่
สีสันแห่งเส้นแสง น้ำพุร้อนสันกำแพง โครงการ
ตามพระราชดำริ” ปีที่ 3 นำส่งความสุขภายใต้แนวคิด “The Magic of ONSEN Night” ชวนสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของแสง
และศิลปะดิจิทัล เข้าไว้ด้วยกัน เพราะเมื่อเส้นแสงและสายน้ำผสานกัน...
จึงได้เกิดค่ำคืนมหัศจรรย์แห่งสีสัน จากน้ำพุร้อนสันกำแพง นำเสนอผ่านเทคนิคแสง
เสียง ผสานสื่อผสม
และเทคโนโลยีสมัยใหม่
นายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า
เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางทางการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงมากทั้งในกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ
เนื่องจากเป็นจังหวัด
ที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวระดับประเทศและนานาชาติ
พร้อมส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวทุกรูปแบบ อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกมิติ ด้วยจำนวนและความถี่ของสายการบิน
การพัฒนาเมืองในเชิงสร้างสรรค์ สถานที่ประกอบการเป็นเจ้าบ้านที่ดี
มิตรไมตรีในการต้อนรับนักท่องเที่ยวของชาวเชียงใหม่
การจัดงาน
“วิจิตร@เชียงใหม่
สีสันแห่งเส้นแสง น้ำพุร้อนสันกำแพง โครงการตามพระราชดำริ ตอน ออนเซ็น@สันกำแพง” เป็นความพยายามร่วมกันของจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานภาครัฐ
ภาคเอกชนและภาคประชาชนในพื้นที่ เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์บนพื้นฐานการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น
พร้อมกับน้อมนำแนวพระราชดำริด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่ทรงเน้นการรักษาดุลยภาพระหว่างเศรษฐกิจ สังคม
และสิ่งแวดล้อมมาเป็นหลักสำคัญขับเคลื่อนกิจกรรม
อีกทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวเชียงใหม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจก่อให้เกิดรายได้ท่องเที่ยวกรีนซีซั่นภาคเหนือ
งาน
“วิจิตร@เชียงใหม่
สีสันแห่งเส้นแสง น้ำพุร้อนสันกำแพง โครงการตามพระราชดำริ
ตอน ออนเซ็น@สันกำแพง” ระหว่างวันนี้– 8 มิถุนายน 2568
นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความตระการตาของการจัดแสดงเทคนิค แสง เสียง
ผสานสื่อผสมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ผ่าน 10 จุด ในลักษณะเดินชม (Walking Tour ได้แก่
1.ประตูกาลเวลา ซุ้มประตูโค้งยาวต่อเนื่องเป็นอุโมงค์
จัดวางเป็นจังหวะชีวิตของธรรมชาติ
2.ม่านแสงดาว ม่านเส้นแสงไฟ Tiny Light bulbs
3.แสงธารา LASER Swamp บนพื้นถนน
4.เสียงตามแสง แสงที่สอดประสานกับเสียงของธรรมชาติ และดนตรี
5. พราวน้ำพุร้อน ฉายแสงสีลงบนไอน้ำจากน้ำพุร้อน
ทำให้เกิดม่านหมอกแห่งสีสัน
6.ออนเซ็นแสง ฉาบแสงสีบนผิวลำธาร สร้างมิติใหม่ของการแช่เท้าในน้ำพุร้อน
7. ป่ารุ่งเรือง จัดวางแสงย้อนต้นไม้ ให้เกิดมิติของสี แสงและเงา
8.ลานแคมป์ไฟ กองไฟจำลอง (Faux Fire) และคบไฟ
ที่ถูกจัดวางองค์ประกอบ ประหนึ่งงานศิลปะ
9.บิ๊กไข่ ต้นกำเนิดของชีวิตและจินตนาการ
10. นิทานแสง การย้อมแสงสีชมพู และประดับประดาไฟกลุ่มต้นไม้หลากหลายรูปแบบ
ตลอดงานมีกิจกรรมอื่น
ๆ เช่น การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ การแสดงทางวัฒนธรรมร่วมสมัยประกอบน้ำพุดนตรี
การบรรเลงเพลง พระราชนิพนธ์ประกอบน้ำพุ การออกร้านสินค้าชุมชน อาหารท้องถิ่น
ฟู้ดทรัค งานวัดย้อนยุค
ข่าวที่สอง
–เวียตเจ็ทจัดตั๋วซื้อง่ายรัฐ-องค์กรบินทั่วไทยเริ่ม1,680 บาท
เวียตเจ็ทไทยแลนด์
เดินหน้าขยายแคมเปญพิเศษ ผู้โดยสารภาครัฐและองค์กร ภายใต้แนวคิด “ซื้อง่าย
ได้ตั๋วไว จองแล้วเดินทางได้เลย”
โดยเพิ่มช่องทางขายตั๋วโดยสารที่ห้องขายของสายการบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เพิ่มจากบริการผ่านตัวแทนขายทั่วประเทศ บัตรโดยสารนี้ใช้บินภายในประเทศราคาสุดคุ้ม
เริ่มต้นเพียง 1,680 บาท (รวมภาษีและค่าธรรมเนียมต่อเที่ยวบิน)
พร้อมสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น น้ำหนักสัมภาระเช็คอิน ห้องบริการรับรอง
เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่และทำงานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ด้วยราคาเข้าถึงได้ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
ผู้โดยสารภาครัฐและองค์กรสามารถสำรองตั๋วโดยสารราคาพิเศษและเดินทางได้ทันที
เพียงแสดงบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่หน่วยงานขณะจองตั๋วที่ห้องขายตั๋วของเวียตเจ็ทไทยแลนด์
ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผ่านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือช่องทางการขายอื่น ๆ
ของสายการบิน มีแผนจะขยายแคมเปญดังกล่าวไปยังห้องขายตั๋วในจังหวัดต่าง ๆ
ที่มีเที่ยวบินให้บริการเร็ว ๆ นี้
เพื่อเพิ่มช่องทางการจองตั๋วความสะดวกสบายรองรับความต้องการเดินทางภาครัฐและองค์กรทั่วทุกภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม
เช่น การเลือกที่นั่งฟรี สิทธิ์โหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่อง
ผู้โดยสารชั้นประหยัดได้สูงสุด 40 กิโลกรัม ชั้นSkyboss
ได้ 60 กิโลกรัม
รวมถึงสิทธิ์เข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษในสนามบิน ถ้าเป็นชั้น SkyBoss (ขึ้นอยู่กับความพร้อมให้บริการของแต่ละสนามบิน)
แคมเปญนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับการเดินทางที่ยืดหยุ่น
จองและเดินทางได้ทุกเมื่อ ตามเงื่อนไข
เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีภารกิจหรือการเดินทางเพื่อธุรกิจเร่งด่วน
เวียตเจ็ทไทยแลนด์มุ่งมั่นนำเสนอเที่ยวบินที่มีคุณภาพ
ปลอดภัย ตรงต่อเวลา ราคาเข้าถึงได้ พร้อมบริการอบอุ่นและเป็นมิตร
เพื่อให้ทุกการเดินทางธุรกิจของผู้โดยสารภาครัฐและองค์กรเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางจนถึงจุดหมายปลายทาง
ขณะนี้เวียตเจ็ทไทยแลนด์ให้บริการในประเทศ
11 เส้นทาง ได้แก่
กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ อุดรธานี
หาดใหญ่ ขอนแก่น อุบลราชธานี และสุราษฎร์ธานี รวมถึงเที่ยวบินข้ามภูมิภาค จาก
ภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ เชียงราย พร้อมเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศสู่จุดหมายยอดนิยมในภูมิภาค
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เคาน์เตอร์ที่ขายตั๋วโดยสารเวียตเจ็ทไทยแลนด์
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือผ่าน LINE Official: @vzthsales
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง
สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น