ททท.คัดสุดยอดสินค้าปลุกเที่ยว“กรีน-วินเทอร์”ซีซั่น68
โหมขาย6กิจกรรม“ธรรมชาติ-อาหาร-สุขภาพ-ประเพณี”
ชูปฏิทินเที่ยวมิ.ย.-ต.ค.“อาบป่า-แห่เทียน-แคมป์ดูดาว”
เร่งกระบี่ต้นแบบเที่ยวยั่งยืนปี69ต่อยอด7เมืองยูเนสโก
คิงเพาเวอร์ช้อปมันส์6โลเคชั่นแจกเดือดรับกลางปี’68
คิงเพาเวอร์ศรีวารี จัดหนักถึงสิ้นมิ.ย.68ลดทะลุ 50%
ททท.MOU
อสส.ปลุกในประเทศแห่เที่ยว 6 สวนสัตว์
อินทนิลบางจากหนุนงานกาแฟพ่อหลวงสู่ความยั่งยืน
สุขที่เที่ยวสุพรรณฯ“พุเตย-เขื่อนกระเสียว-อ่างเก็บน้ำ”
8อวัยวะในร่างกายกลัวการกินการใช้ชีวิตแบบเสี่ยงๆ
ททท.บูม“ตียกก๊วน กินยกแก๊งค์”แจกกระหึ่มหมื่นบาท
เคป&แคนทารีจัดแพกเกจล่องใต้+ทริปอนุรักษ์ทะเล
วันอาทิตย์ที่
15 มิถุนายน 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านใน www.facebook.com/penroongyaisamsen
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1B9FtE8EBS/
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! “เอิบลาภ ศรีภิรมย์” ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทัพสินค้าท่องเที่ยวปลุกกระแสเที่ยวไทย 2 ฤดู “กรีน-วินเทอร์” ซีซั่น โหมขาย 6 กิจกรรม
“ธรรมชาติ-สุขภาพ-อาหาร-ฝั่งทะเล-เทศกาลประเพณี-ทัวร์กับสัตว์เลี้ยง”
เปิดปฏิทินสุขทันทีเที่ยวไทยรายเดือน “มิ.ย.”อาบป่าฮีลใจ “ก.ค.”แห่เทียน “ส.ค.”
สิงหาพาแม่เที่ยว “ก.ย.-ต.ค.” ปลายฝนต้นหนาวทัวร์ทุ่งดอกไม้ งานอาร์ต ตั้งแคมป์
ชมดาว ดำน้ำ เร่งเครื่องปั้นต้นแบบเที่ยวยั่งยืน “กระบี่โปโตไทป์” ปี’69 ขยายสู่ ภูเก็ต โคราช 7 เมืองสร้างสรรค์ยูเนสโก
นางสาวเอิบลาภ ศรีภิรมย์
ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ฝ่ายสินค้าท่องเที่ยว ททท. เตรียมนำเสนอโปรดักซ์การขายต้อนรับ 2 ฤดู กรีนซีซัน/ฤดูฝน กับวินเทอร์/ฤดูหนาว
ซึ่งไทยมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเป็นตัวชูโรง โดยเฉพาะใน 55 เมืองน่าเที่ยว พื้นที่ท่องเที่ยวชุมชน เริ่มต้นจาก “ฤดูฝน-Green
Season” พื้นที่ในภาคตะวันตก
ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยระหว่างมิถุนายน-สิงหาคม ปลอดมรสุม และภาคอื่น ๆ เด่น ๆ
ทั่วประเทศจะนำเสนอหลัก ๆ ได้แก่
กิจกรรมที่ 1 การท่องเที่ยวธรรมชาติชมความเขียวขจีของป่าเขา
เน้นใช้ธรรมชาติบำบัดฮีลกายใจ ตอบโจทย์นักเดินทางหลายวัยในครอบครัว
เด็กเยาวชนสามารถไปร่วมเรียนรู้ประสบการณ์ดี ๆ พ่อแม่ก็ดูแลกายใจให้สดชื่น
สุขทันทีที่เที่ยวเมืองไทย
กิจกรรมที่ 2 การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพองค์กร Health
and Wellness ททท.สามารถดึงสินค้าเชื่อมโยงเป็นคลัสเตอร์กลุ่มจังหวัดเข้ามาร้อยเรียงขายแต่ละเมืองได้
ยกระดับเป็นมูลค่าสูง เช่น สินค้าท่องเที่ยวยั่งยืน หรือ Green Product สร้างความสุขกายสบายใจ หลัก ๆ จะเน้นภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง
แม่ฮ่องสอน หรือภาคกลาง ก็มี หัวหิน ชะอำ เพชรบุรี สระบุรี “ภาคใต้” ภูเก็ต กระบี่
ระนอง และ “ภาคอีสาน” บางพื้นที่ก็มีเช่นกัน
กิจกรรมที่ 3 การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy) สามารถผสมผสานต่อยอดจากสุขภาพได้ด้วย เช่น Well Being อาหารเพื่อสุขภาพที่มีความหลากหลายกระจายอยู่เกือบทุกพื้นที่
กิจกรรมที่ 4 การท่องเที่ยวเทศกาล งานประเพณี
ได้แก่ เทศกาลท่องเที่ยว วิจิตร@5ภาค
ชมเทศกาลประดับไฟสวยงามด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีสื่อผสม
ขยายเทรนด์การท่องเที่ยวยามค่ำคืน กระตุ้นการพักค้างคืน
กับกระจายรายได้เพิ่มมากขึ้น หรือ “เทศกาลแห่เทียนพรรษา” เดือนกรกฏาคมนี้
ที่จังหวัดอุบลราชธานี ภาคอีสาน ภาคกลาง แล้วช่วงปลายฝนต้นหนาวปี 2568 จะมีงานศิลปะหัตถกรรม Art and Craft เช่น สกลคราฟท์
และอีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน
กิจกรรมที่ 5 การท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล
ต่อเนื่องในช่วงหน้าหนาวเดือนตุลาคมนี้ จะส่งเสริมการท่องเที่ยวยอร์ช ครุยส์ ต่าง
ๆ
กิจกรรมที่ 6 การท่องเที่ยวกับสัตว์เลี้ยง Pet Friendly ททท.ได้สร้างสรรค์เส้นทางและกิจกรรมร่วมกับโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ต่าง ๆ
ทั่วทุกภาค นักท่องเที่ยวที่รักสัตว์สามารถพาน้องแมว หรือน้องหมา
เดินทางไปเช็คอินความสุขด้วยกันได้ มีเว็บไซต์แนะนำเส้นทางยอดนิยมด้วย
ผอ.เอิบลาภ กล่าวว่า
ททท.พร้อมจะนำเสนอสินค้าการท่องเที่ยวพรีเมี่ยมแต่ละเดือน เริ่มต้น เดือนที่ 1 มิถุนายน นี้ ได้แก่ 1.อาบป่าฮีลกายใจทั่วภาคเหนือ รับประทานอาหารออร์แกนิก
สัมผัสบรรยากาศความชุ่มชื้น ท้องนา ป่า ฝน ทะเลหมอก ชุมชน
ได้ทั่วทุกภาคของประเทศสไตล์กรีน ซีซั่น และการท่องเที่ยวแห่งเดือน Pride
Month กับประสบการณ์ความหลากหลายทางเพศในเมืองไทย
เดือนที่ 2 กรกฎาคม การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Wellness
ทำทรีตเมนท์ในสถานประกอบการหรือที่พักมีบริการฮีลกายใจ ผสมผสานอาหาร
กิจกรรมคราฟท์ ต่อด้วยการท่องเที่ยวเทศกาลระดับประเทศ เทศกาลผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย
จังหวัดเลย แห่เทียนพรรษา อุบลราชธานี
เดือนที่ 3 สิงหาคม พาแม่เที่ยว เน้นกลุ่มครอบครัว
คนสูงวัย และคน 3 วัย ชวนกันไปเที่ยวใน “ภาคกลาง”
นำเสนอนั่งรถไฟท่องเที่ยว ตามแลนด์มาร์กสำคัญที่เกิดขึ้น
แล้วก็จะมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ อย่าง จูลาสสิค เวิลด์ ไปเที่ยวตลาดน้ำ ทัวร์คลอง
นั่งเรือดินเนอร์ครุยส์ พาแม่เดินสายทำบุญ
เดือนที่ 4-5 กันยายน-ตุลาคม 2568 นำโดย “ภาคเหนือ”
ชวนกันไปสัมผัสทะเลหมอก ตั้งแคมป์ค้างคืนได้หลายจังหวัด ชมทุ่งดอกไม้เมืองหนาว
เช่น ภูสอยดาวชมดอกหงอนนาค “ภาคอีสาน” มีเทศกาลดูดาวยามฟ้ามืด
Dark Sky จัดทำปฏิทินแต่ละแห่ง กระจายทั่วภูมิภาคมีหลายพื้นที่ให้เช็คอินดูดาวและจัด
Glamping ตั้งแคมป์พักค้างแรม ที่ ขอนแก่น อุดรธานี ชัยภูมิ
เขาใหญ่ นครราชสีมา
“ภาคใต้”
จะเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวดำน้ำตื้น น้ำลึก การล่องเรือยอร์ช ครุยส์ แต่ละฝั่งทะเล
ต่อเนื่องกับเทศกาลท่องเที่ยวถือศีลกินผักหรือกินเจ ที่หาดใหญ่ สงขลา ภูเก็ต
ปัตตานี หรือจะกลับมา “กรุงเทพฯ” ที่ย่านเยาวราช กับย่านสร้างสรรค์
ต่อด้วยงานเทศกาลท่องเที่ยวดีไซน์ วีค งานศิลปะต่าง ๆ
ผอ.เอิบลาภ กล่าวว่า
การพัฒนาให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวโลว์คาร์บอน ปี 2568
ททท.พุ่งเป้าเน้นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable
Tourism) โดยมีสินค้าต้นแบบหรือ Prototype
ที่จังหวัดกระบี่ ครอบคลุม 4 หมวดหลัก ได้แก่ 1.ที่พัก 2.ร้านอาหาร 3.แหล่งท่องเที่ยว
4.กิจกรรม ดังนั้นจึงใส่รายละเอียดเกี่ยวกับ Green
Hotels, Restaurant, Destination, Events มีหลายภาคส่วนร่วมมือกันเป็นอย่างดี
สร้างโมเดลให้จังหวัดต่าง ๆ นำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเอง
เช่นเดียวกับ “จังหวัดภูเก็ต” เริ่มขยับตัวปรับพื้นที่สู่สีเขียวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี
2568 เป็นต้นไป เพื่อเตรียมรับเป็นเจ้าภาพจัดงาน "Thailand
Sustainable Tourism Conference 2026" เดือนเมษายน 2569
ภายใต้แนวคิด "Regenerative Tourism"
โดยจะรวบรวมผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ยวท้องถิ่นและระดับโลก
มาแลกเปลี่ยนพร้อมยกระดับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วย 3 ส่วน คือ งานสัมมนา
จัดบูธนิทรรศการแสดงสินค้าและการจับคู่ธุรกิจ
การแสดงนวัตกรรมและการปฏิบัติที่ยั่งยืน
ททท.ยังได้มุ่งยกระดับการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนในเมืองหลักอย่าง
นครราชสีมา กับจังหวัดที่ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็น เมืองสร้างสรรค์สาขาต่าง
ๆ ทั้ง 7 จังหวัด ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร ด้านการออกแบบ 2. เชียงใหม่
ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน 3.สุโขทัย ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน
4.ภูเก็ต ด้านอาหาร 5.เพชรบุรี ด้านอาหาร
6.เชียงราย ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน 7.นครปฐม
ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน
โดยวางแผนร่วมมือกับ
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)
“อพท.” สมาคมโรงแรมไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง
เดินหน้านำมาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืนมากระตุ้นผู้ประกอบการท่องเที่ยวทุกสาขาเข้าสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ซึ่งมีหลายมาตรฐาน เช่น
1.มาตรฐาน STGs
STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating
เป็นการการประเมินมอบดาวแห่งความยั่งยืนให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ดำเนินงานตามเป้าหมายความยั่งยืน
ยกระดับมาตรฐานและเสริมแรงสนับสนุนให้ธุรกิจต่อไป ซึ่งนำต้นแบบจาก SDGs
:Sustainable Development Goals ของสหประชาชาติมาประยุกต์ใช้กับดาวท่องเที่ยวยั่งยืน
ในกระบี่ ภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา และ 7
เมืองสร้างสรรค์ยูเนสโก พื้นที่สำคัญที่ ททท.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
สมาพันธ์ท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวทั่วประเทศ ทำอย่างต่อเนื่อง
2.มาตรฐาน Travel
Link แพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะด้านการท่องเที่ยวแห่งชาติ
ที่เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
3.มาตรฐาน Safe
Travels By World Travel and Tourism Council (WTTC) ซึ่งเป็นองค์กรการท่องเที่ยวระดับโลก
เพื่อยกย่องโรงแรมที่ดำเนินการตามมาตรฐานด้านสุข อนามัย
และความปลอดภัยด้านสุขภาพครอบคลุมและเข้มงวด
สอดคล้องกับระเบียบและมาตรการป้องกันสุขอนามัยที่ดี
ปัจจุบัน “ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย”
มีหลายแห่งสามารถได้รับระดับดาวยั่งยืนเช่น Green Hotels, Green Leaf ระดับท้องถิ่น ก็จะใช้มาตรฐาน STGs ส่วนระดับโลกก็ต้องพยายามผลักดันพัฒนาตามเข้าสู่เกณฑ์สากล
ซึ่งขึ้นอยู่กับขีดความสามารถของผู้ประกอบการ
เพื่อประโยชน์ในระยะยาวเป็นทางเลือกที่ดีแก่ผู้บริโภคหรือนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติ
ผอ.เอิบลาภ กล่าวว่าขณะนี้การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนถือเป็น “ทางรอด” ไม่ใช่กระแสหรือเทรนด์อีกต่อไป ในภาพรวมทั่วโลกเริ่มขยับมาตรฐานแล้ว จึงขอให้ผู้ประกอบการไทยตื่นตัว เพื่อประโยชน์ของธุรกิจที่ยั่งยืน สามารถลดต้นทุน ตอบโจทย์ความต้องการตลาด ลดความล้าหลัง ช่วยดูแลรักษาทรัพยากรให้คงความอุดมสมบูรณ์ต่อไป แล้วการท่องเที่ยวยั่งยืนสามารถทำได้ทุกระดับ ซึ่งเกิดประโยชน์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกส่วนของประเทศและโลกนั่นเอง
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์ช้อปมันส์6โลเคชั่นแจกเดือดรับกลางปี68
คิง เพาเวอร์ ชี้เป้าดีลดี ช้อปมันส์ได้ทุกโลเคชั่น แจกโปรเดือดรับกลางปีให้ช้อปได้สุด ช้อปที่สาขาในเมือง 6 สาขา ได้แก่ รางน้ำ มหานคร ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และ คิง เพาเวอร์ ซิตี บูทีก
1.ช้อปบิวตี้ไอเทม รับส่วนลดสูงสุด 30% โดยไม่ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อสินค้า (เฉพาะสินค้าแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอางที่ร่วมรายการ)
2.พิเศษ! สำหรับสมาชิก คิง เพาเวอร์ เท่านั้น รับส่วนลด On – top 5% (สำหรับสินค้าราคาปกติ เฉพาะสินค้าแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอางที่ร่วมรายการ)
3.ช้อปคุ้ม ได้เพิ่มยิ่งกว่ารับเงินเพิ่มถึง 30%เพียงซื้อ Cash Card 5,000 บาท ใช้ช้อปได้จริง 6,500 บาท (เฉพาะสินค้าแผนกแฟชั่น นาฬิกา และจิลเวลรี)
ข่าวที่ 2 -คิงเพาเวอร์ศรีวารี จัดหนักถึงสิ้นมิ.ย.68ลดทะลุ 50%
คิง
เพาเวอร์ ศรีวารี จัดให้! มหกรรม Super Sale ลดหนักจัดเต็ม
สูงสุด 50%ไม่ต้องรอ ไม่ต้องบิน ก็ช้อปฟินได้ วันนี้ -30
มิถุนายน 2568
สินค้าแบรนด์ดังยอดนิยม
ไม่ว่าจะเป็น BURBERRY, BVLGARI, ESTÉE LAUDER, GUCCI, ISSEY MIYAKE, JO MALONE,
LANCÔME, LA MER, LA PRAIRIE, SISLEY, TOM FORD, VALENTINO, VERSACE, YSL และสินค้าอีกมากมาย
1.เครื่องสำอาง / สกินแคร์ 2.นาฬิกา / แว่นตา
3.เครื่องดื่มพรีเมียม 4. ขนม / ช็อกโกแลต
5. สินค้าไทย
พิเศษ
!! สมาชิก คิง เพาเวอร์ ลด On-Top สูงสุด
20%ถ้ายังไม่เป็นสมาชิก สมัครฟรี NAVY! แล้วรับสิทธิ์ได้เลย
ข่าวที่
3-ททท.MOU อสส.ปลุกในประเทศแห่เที่ยว 6 สวนสัตว์
ททท.MOU อสส.ขยายตลาดในประเทศ 1 ปี เปิดเที่ยวทั่วไทย 6 สวนสัตว์ 1 โครงการ ปลุกทัวร์คุณภาพ ลุยร่วมมือ 4 เรื่อง
“ทำพีอาร์-กิจกรรมออน/ออฟไลน์-ลุยการตลาด-ซีเอสอาร์”
นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นำ ททท. ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ
(MOU) กับนางสมรัก บุษปธำรง
รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย (สายปฏิบัติการและพัฒนาธุรกิจ) หรือ
“อสส.” เดินหน้าโครงการ “ดำเนินการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวประเทศไทย”
กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในประเทศและผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืน ช่วยส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในสวนสัตว์ทั่วประเทศ
6 แห่ง และ 1 โครงการ ประกอบด้วย
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์อุบลราชธานี
สวนสัตว์ขอนแก่น สวนสัตว์สงขลา และโครงการคชอาณาจักร จ.สุรินทร์
ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจและประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว
ทั้ง 2 หน่วยงานจะร่วมกันผลักดันกิจกรรมด้านประชาสัมพันธ์และและส่งเสริมการตลาดเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับการเรียนรู้ จัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านอนุรักษ์
พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่
สวนสัตว์ รวมทั้งใช้สื่อประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทางต่าง ๆ
เพิ่มการรับรู้ในวงกว้างและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวต่อเนื่องภายในประเทศ
นางสมรัก บุษปธำรง รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย
(สายปฏิบัติการและพัฒนาธุรกิจ) กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งส่งเสริมบทบาทสวนสัตว์ในฐานะพื้นที่เรียนรู้ควบคู่กับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
เน้นประชาสัมพันธ์และสร้างสรรค์กิจกรรมตอบโจทย์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
เพิ่มมูลค่าเชิงประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยว และร่วมกันยกระดับมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวไทยให้เชื่อมโยงกับธรรมชาติ
สิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคมในระยะยาว
MOU ฉบับนี้มีระยะเวลา 1 ปี ททท. กับ อสส.จะร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการขยายตลาดท่องเที่ยวในประเทศ
4 เรื่อง ดังนี้
1.ส่งเสริมการท่องเที่ยว
แลกเปลี่ยนข้อมูล การผลิตเนื้อหาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวร่วมกัน
2.จัดกิจกรรมออนไลน์และออฟไลน์
เริ่มต้นด้วยสิทธิพิเศษดังนี้
“สมาชิก อ.ส.ท.คลับ” ได้ส่วนลด
20% เมื่อเข้าชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์ขอนแก่น สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์อุบลราชธานี
สวนสัตว์สงขลา จากค่าเข้าชมผู้ใหญ่ (ไทย) 200 บาท เหลือ 160 บาท รวม 2,000 สิทธิ์
“สมาชิกสโมสรผู้รักสวนสัตว์แห่งประเทศไทย” ผู้ถือบัตร Zoo Lover
Society สามารถซื้ออนุสาร อ.ส.ท.ราคาเล่มละ 70 บาท จาก 85 บาท
(ไม่รวมค่าจัดส่ง) ช่วงเมษายน - ธันวาคม 2568 รวม 1,500 สิทธิ์ ซื้อทางhttps://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSff0BDqIjhoXiwFYdcntDIRe45uDLnDxQokTOAQWI9o180bOw/viewform
3.ร่วมกันทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวรูปแบบต่าง
ๆ กระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ ขยายสู่กลุ่มคุณภาพ
4.จัดกิจกรรม
CSR
(Corporate Social Responsibility) สนับสนุนแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สร้างความยั่งยืนและความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยในระยะยาว
ข่าวที่ 4-อินทนิล
บางจากหนุนงานกาแฟพ่อหลวงสู่ความยั่งยืน
“อินทนิล”
บางจากหนุนงาน "กาแฟพ่อหลวงสู่ความยั่งยืน :Royal
Coffee from BCG to SDGs)” นำเสนอเมล็ดกาแฟ Single
Origin ดอยแม่สลองขานรับแนวคิดจากเศรษฐกิจ BCG สู่การพัฒนายั่งยืน
นายยศธร
อรัญนารถ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ร่วมพิธีเปิดงาน
“กาแฟพ่อหลวงสู่ความยั่งยืน (Royal Coffee from BCG to
SDGs)” ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่
โดยได้รับเกียรติจาก พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เลขาธิการมูลนิธิโครงการหลวง
และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เป็นประธานในพิธี
ทาง
“อินทนิล” ได้ร่วมออกบูธในงานพร้อมทั้งนำเสนอผลิตภัณฑ์กาแฟเมล็ดพิเศษ “Single
Origin ดอยแม่สลอง” ซึ่งเป็นกาแฟ “พันธุ์อาราบิก้า” คั่วกลางคุณภาพสูง
ผลิตจากแหล่งปลูกในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง
ด้วยกระบวนการผลิตแบบ Washed Process ใส่ใจทุกขั้นตอนการดำเนิงาน
พร้อมผ่านการคั่วอย่างพิถีพิถัน จนได้รสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของอินทนิล
โดยมี Taste Note ได้แก่ Citrus, Tea และ Vanilla Sweet of Brown
Sugar
ปัจจุบัน
“อินทนิล” ยังคงมุ่งมั่นส่งเสริมการปลูกกาแฟในระบบเกษตรปลอดสารพิษ
เพื่อร่วมฟื้นฟูระบบนิเวศ เพิ่มพื้นที่ป่าอย่างยั่งยืน
และสนับสนุนรายได้เกษตรกรในพื้นที่สูง สอดคล้องกับแนวคิด “กาแฟพ่อหลวง
จากเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว
สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” หรือ BCG :Bio-Circular-Green” ที่จับต้องได้
สำหรับงาน
“กาแฟพ่อหลวงสู่ความยั่งยืน” จัดระหว่างวันที่ 11–15 มิถุนายน 2568 เวลา
09.00–18.00 น. ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย เช่น การจัดแสดงสินค้าจากอุตสาหกรรมกาแฟ
การแข่งขันบาริสต้าและการประกวดเมล็ดกาแฟ กิจกรรมให้ความรู้ด้านการปลูกและแปรรูปกาแฟ
การแสดงดนตรีและกิจกรรมบันเทิงตลอดงาน
สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและคนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
สร้างโอกาสและรายได้ให้ท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม
ช่วงที่ 2 ไปเที่ยวเมืองไทยกันเถอะ
ที่ “สุพรรณบุรี” มีธรรมชาติมาชวนนักเดินทางหัวใจสีเขียวเที่ยว 2 คืน 1 วัน ที่อุทยานแห่งชาติพุเตย เขื่อนกระเสียวฟิน
ๆ อ่างเก็บน้ำลำตะเพิน และหุบเขาวง สนุกได้ทุกวัน แล้วฟัง “8
อวัยวะในร่างกาย”กลัวการกินเสี่ยง ๆ ต่อด้วยข่าวเจาะลึก ข่าวแรก
“ททท.จัดแพกเกจตียกก๊วน กินยกแก๊งค์” แจกหลักหมื่นบาท ข่าวที่สอง “2 โรงแรมเคป&แคนทารี” ภูเก็ต จัดแพกเกจห้องพัก +ทริปอนุรักษ์ทะเล
ท่องเที่ยว –สุขทันทีเที่ยวสุพรรณ“พุเตย-เขื่อนกระเสียว-2อ่างเก็บน้ำ”
มาชวนไปเที่ยวใกล้กรุงกันกับ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี เดือนมิถุนายนนี้ ถึงคิว “สายธรรมชาติ”
หัวใจสีเขียว ออกเดินทาง 2 วัน 1 คืน สัมผัสเสน่ห์ความเขียวขจีสูดอากาศดี
ให้เต็มปอด ที่อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ด้วยทริปสั้น ๆ แบบสุขใจเต็มอิ่ม
แพ็คกระเป๋าออกไปสัมผัส
“กลิ่นไอฝนไอดิน ความกรีนของผืนป่า” อากาศเย็นสบาย หมอกในยามเช้า
และความสวยงามของสายน้ำ
พิกัดที่
1 อุทยานแห่งชาติพุเตย - พิชิตยอดเทวดา
- น้ำตกตะเพินคี่ – ป่าสนสองใบ
“อุทยานแห่งชาติพุเตย”
เป็นดินแดนธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ขึ้นสู่ยอดเทวดาจุดชมวิวสูงที่สุดของสุพรรณบุรี
อากาศเย็นสบาย กางเต็นท์นอนดูดาว ชมหมอกยามเช้า
ฟังเสียงลมและธรรมชาติขับกล่อมตลอดคืน เดินเล่นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ - ตะเพินคี่น้อง ผจญภัยเบาๆ ผ่าน ป่าสนสองใบ ที่สวยงาม
และหาชมได้ยากในภาคกลาง
พิกัดที่
2 เขื่อนกระเสียว ปั่นจักรยานชิลล์
ชมวิวพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติกที่สันเขื่อน สนุกสนานกิจกรรมทางน้ำหาดทรายท้ายเขื่อน
และมุมถ่ายรูปสุดปังต้องห้ามพลาด! นะทุกคน
พิกัดที่
3 อ่างเก็บน้ำลำตะเพิน กิจกรรมพายเรือคายัค พายซัพบอร์ด
เล่นน้ำชิลล์ ๆ ชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ก็สวยไม่แพ้ใคร สถานที่พักผ่อนธรรมชาติสุดชิล
พิกัดที่
4 อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง หรือที่รู้จักกันในชื่อ
"ปางอุ๋งสุพรรณ" บรรยากาศเงียบสงบ น้ำใส เขียวขจีเหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลก
พายเรือคายัค นั่งชิลล์ริมน้ำ พักใจ พักกายอย่างเต็มที่ พร้อมอิ่มอร่อยกับ
อาหารพื้นบ้านชุดขันโตก รสชาติท้องถิ่นแท้ ๆ
การท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำหุบเขาวง
ต้องรอให้เปิดบริการตั้งแต่ 12 สิงหาคม – 28
กุมภาพันธ์ ของทุกปี เพราะคนในชุมชนจะปิดชั่วคราวเพื่อให้ธรรมชาติได้พักตัวตั้งแต่
1 มีนาคม – 11 สิงหาคม ของทุกปี
สุขภาพ –8อวัยวะในร่างกายกลัวการกินการใช้ชีวิตแบบเสี่ยงๆ
การดูแลรักษาสุขภาพ
เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่แต่ละวัยจะต้องหันมาใส่ใจเพิ่มมากขึ้น แล้วก็มีสิ่งที่
“อวัยวะในร่างกาย” กลัว...มากเป็นพิเศษ แนะนำให้หลีกเลี่ยง
พร้อมกับรู้ไว้เพื่อดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น กับ 8 อวัยวะ ดังนี้
1.กระเพาะอาหาร กลัวการอิ่มเกินไป
เสี่ยงกรดไหลย้อน แผลในกระเพาะ
2. ปอด กลัวเจอควัน ฝุ่น ควันบุหรี่ ทำลายถุงลม เสี่ยงโรคปอดเรื้อรัง
3. ตับ กลัว แอลกอฮอล์ ทำให้ตับเสื่อม ตับแข็ง มะเร็งตับ
4. ลำไส้ กลัว นั่งนาน ไม่ขยับตัว ระบบย่อยทำงานช้า เสี่ยงท้องผูก
5. หัวใจ กลัว เกลือมากที่สุด โดยเฉพาะ อาหารเค็ม เพิ่มความดันโลหิต
เสี่ยงโรคหัวใจ
6. ไต กลัว การดื่มน้ำน้อย ไตทำงานหนัก เสี่ยงนิ่ว-ไตวาย
7. ตับอ่อน กลัวการกินของทอด ของมันจัด กระตุ้นการอักเสบของตับอ่อน
8.ถุงน้ำดี กลัว ไขมันสูง เสี่ยงนิ่วในถุงน้ำดี ถุงน้ำดีอักเสบ
เคล็ดลับการดูแลสุขภาพ แบบง่าย
ๆ มี 5 อย่าง ดังนี้
1.กินพออิ่ม ไม่อิ่มเกิน 2.ดื่มน้ำให้พอวันละ 6–8
แก้ว 3.ลดเค็ม เลี่ยงของทอด 4.ขยับร่างกายทุก 1 ชั่วโมง 5.หลีกเลี่ยงควันบุหรี่และฝุ่น
PM 2.5
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก –ททท.บูม“ตียกก๊วน
กินยกแก๊งค์”แจกกระหึ่มหมื่นบาท
นายชาญยุทธ
เศวตสุวรรณ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงเทพมหานคร
เปิดเผยว่า ททท.จัดมหกรรมท่องเที่ยว
“ตียกก๊วน กินยกแก๊งค์ Golf
& Gourmet at Bangkok-Pathumthani Season 2”
เดินหน้าต่อยอดตลาดการท่องเที่ยว รองรับนักท่องเที่ยวสายกอล์ฟไลฟ์สไตล์
เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ปัจจุบันในพื้นที่ ปทุมธานี และกรุงเทพฯ มีสนามกอล์ฟศักยภาพสูง
รายล้อมด้วยร้านอาหารรอบสนามกอล์ฟซึ่งพร้อมอำนวยความสะดวกให้นักกอล์ฟ
กิจกรรมนี้จัดขึ้นต่อจากปี 2567 นักกอล์ฟตอบรับเป็นอย่างดี แล้วยังสามารถกระตุ้นค่าใช้จ่าย
และการเดินทางท่องเที่ยวช่วง “วันธรรมดา” เติบโตเพิ่มมากขึ้น ปี 2568
ททท.ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนสนามกอล์ฟในพื้นที่กรุงเทพฯ อีก 1 สนาม พร้อมกับอีก 2 ร้านอาหาร เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
คาดจะกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย และกระจายการท่องเที่ยววันธรรมดาเพิ่มสูงขึ้นด้วย
นักกอล์ฟหรือผู้ชื่นชอบการเล่นกอล์ฟสามารถจองสนามเฉพาะวันธรรมดาแบบเป็นหมู่คณะ ตั้งแต่ 30 คนขึ้นไป แต่ไม่เกิน 50 คน ผ่าน Line : @gourmetgolf โดยเลือกสถานที่เข้าร่วมโครงการในกรุงเทพฯ
และปทุมธานี ทั้งสนามกอล์ฟ และร้านอาหาร จากนั้นกดรับสิทธิ์จะได้รับสิทธิพิเศษ
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม “ฟรี” วงเงินสูงสุด 10,000 บาท
ตามจำนวนนักกอล์ฟที่ลงทะเบียน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่โครงการกำหนด)
พิเศษ!!
ก๊วนที่จองรวม 50 คน ได้สิทธิ์ลุ้นรับรางวัล “โฮลอินวัน” 10,000 บาท/สนาม
(เงื่อนไขเป็นไปตามที่โครงการกำหนด) รับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้-30 มิถุนายน 2568 มาก่อนมีสิทธิ์มีสิทธิ์ก่อน
หรือFirst Come First Serve พร้อมลุ้นรับของรางวัลอีกมากมาย
แจกทั้งหมด 400 สิทธิ์
ข่าวที่สอง –เคป&แคนทารีจัดแพกเกจล่องใต้+ทริปอนุรักษ์ทะเล
โรงแรมเคปพันวา
ภูเก็ต และแคนทารี บีช เขาหลัก จัด 2 แพกเกจล่องใต้
ห้องพักพร้อมทริปเอ็กซ์คลูซีฟเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทะเลกับ “จอห์น เกรย์ ซี แคนู”
2 โรงแรมในเครือ เคป แอนด์ แคนทารี นำ เคปพันวา ภูเก็ต และแคนทารี
บีช เขาหลัก จัดแพ็กเกจชวนเที่ยวภาคใต้ จองห้องพัก 3 วัน 2 คืน พร้อมทริปท่องเที่ยว “ห้องบายสตาร์ไลท์”
พายเรือเที่ยวอนุรักษ์ธรรมชาติกับ จอห์น เกรย์ ซี แคนู พร้อมฝีพาย ไกด์ส่วนตัวที่เชี่ยวชาญนำชมธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาอย่างใกล้ชิด
จองพักได้ตั้งแต่วันนี้- 31 ตุลาคม 2568
แพ็กเกจที่
1 “Unpack Panwa by Starlight” ที่
โรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต ราคาเริ่มต้น 17,176 บาท /2 คน รวมอาหารเช้า ห้องพักหรู 3 สไตล์ คือ 1.ห้องจูเนียร์ สวีท ลิมิเต็ด ซีวิว 53 ตรม. รายล้อมด้วยธรรมชาติเงียบสงบ
2.ห้องเคป สวีท การ์เดน วิว 78 ตรม.สะดวกสบายด้วยระเบียงและเตียงอาบแดด
3.ห้องเคป สวีท ซีวิว
78 ตรม. โชว์ทัศนียภาพทะเลอันดามันสีฟ้าสดใส จองที่ www.capepanwa.com/th/offers/
หรือ 0 7639 1123
สิทธิพิเศษและเงื่อนไข
Unpack Panwa by Starlight สำหรับ 2 คน คือ
1.แพ็กเกจ Hong by Starlight โดยจอห์น
เกรย์ ซี แคนู 2.รถรับส่งระหว่างโรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต และสนามภูเก็ต
3.ฟรีอาหารไทยมื้อค่ำ 1 เซ็ต ที่พันวาเฮ้าส์
4.ส่วนลด 20% ที่เคปสปา 4.เข้าพักก่อนเวลา เช็คอินได้ตั้งแต่10.00 น.
เลทเช็คเอาท์ได้ถึง 14.00 น.
(ขึ้นอยู่กับจำนวนห้องพักว่างในแต่ละวัน)
ส่วนลด
10% อาหารและเครื่องดื่ม (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) เฉพาะเมนูอาลาคาร์ท
(ไม่รวมเครื่องดื่มที่คาเฟ่ แคนทารี และแบมบู บาร์)
แพ็กเกจที่
2 Unpack
Khaolak by Starlight ที่โรงแรมแคนทารี บีช เขาหลัก ราคาเริ่มต้น13,934
บาทสุทธิ/พัก 2 คน รวมอาหารเช้า
ห้องพักสุดพิเศษ 2 แบบ ได้แก่ 1.ห้องสวีท 58 ตรม.พร้อมระเบียง 2.วิลล่า 60 ตรม. สะดวกสบายและเป็นส่วนตัว ใกล้ชิดธรรมชาติ
จองห้องพักที่ www.kantarybeach-khaolak.com/specialoffer/ หรือ
0 7658 4700
สิทธิพิเศษและเงื่อนไข
Unpack Khaolak by Starlight สำหรับ 2 คน
1.แพ็กเกจ Hong by Starlight โดยจอห์น เกรย์ ซี แคนู
2.ฟรีรถรับส่งระหว่างโรงแรมแคนทารี บีช เขาหลัก และสนามบินภูเก็ต
3.ฟรีอาหารไทยมื้อค่ำ 1 เซ็ต ที่คาเฟ่
อันดามัน 4.เลทเช็คเอาท์ได้ถึงเวลา 15.00 น. 5.ส่วนลด 10% อาหารและเครื่องดื่ม
(ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) และเครื่องดื่มฟรีคนละ 1 แก้ว
ที่ออตเตอร์ บาร์ 6.เครื่องเล่นกีฬาทางน้ำแบบไม่ใช้เครื่องยนต์
พิเศษ
!! ทริปล่องเรือ จอห์น เกรย์ ซี แคนู
ใช้เรือโดยสารลำใหญ่ปลอดภัยสะดวกสบายพาออกเดินทางสู่ท้องทะเล
โดยไกด์ท้องถิ่นผู้มากด้วยประสบการณ์มีความเชี่ยวชาญนำล่องเรือเป็นอย่างดี
พร้อมเป็นไกด์ส่วนตัวและพายเรือแคนูให้ลูกค้าตลอดการเดินทางตามจุดท่องเที่ยวชมถ้ำและเกาะน้อยใหญ่
โดยใช้เรือแคนูออกแบบเป็นพิเศษโดยจอห์น เกรย์
และสั่งผลิตจากสหรัฐอเมริกา เน้นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและแนะนำการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
โอกาสดี
นักท่องเที่ยวอาจจะเจอ สัตว์ป่าและสัตว์ทะเลหายาก เช่น ฉลามวาฬ กระเบน ปลาตีน
ปลาดาว ปลิงทะเล นกเงือก นกนางแอ่น เหยี่ยวแดง ลิงแสม
สำหรับ
“บริการอาหารไทย” รสชาติอร่อยเพราะปรุงสดใหม่บนเรือและเลือกใช้วัตถุดิบปราศจากสารเคมีและหลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะใช้แล้วทิ้งที่ทำจากพลาสติก
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น