“Thai Craft Destination"ททท.โชว์ต้นแบบเที่ยวไทยยั่งยืน
“DMC-อินฟลู”ตลุย4ภาค4เส้นทางเสน่ห์ทั่วไทยCraft Hero
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #ThaiCraftDestination #CraftHero
ททท.ลุยโครงการ “Thai Craft Destination" ต้นแบบ “ท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ตรง-เที่ยวไทยยั่งยืน” ตอบโจทย์เทรนด์คนรุ่นใหม่ Gen Z สัมผัสเสน่ห์
Craft Hero 4 ภาค “อีสาน-เหนือ-ใต้-ตะวันออก”
ตลุยขาย 4 เส้นทาง “สกล-อุดร/น่าน-แพร่/ชุมพร-ระนอง/จันทบุรี”
“กองสร้างสรรค์สินค้าการท่องเที่ยว” การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดบันทึกหน้าใหม่ “การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์” โดยได้ริเริ่มโครงการ "Thai Craft Destination" เสร็จเรียบร้อยแล้วช่วงเดือนกันยายน 2568 สร้างความสำเร็จตอบโจทย์กลุ่มนักเดินทางรุ่นใหม่ “Gen Z” ที่หันมาแสวงหาความหมายที่ลึกซึ้ง สร้างความสัมพันธ์อันมีคุณค่า (Meaningful Traveling) กับผู้คนและวัฒนธรรมท้องถิ่น มากกว่าเพียงแค่การเดินทางเพื่อไปเสพความงามทางธรรมชาติเท่านั้น ทำให้ “การเดินทาง” คือการค้นพบคุณค่าหล่อเลี้ยงหัวใจ เป็นบันทึกการเดินทางที่ทุกคนจะไม่มีวันลืม
@เปิดโลก Thai Craft สู่ Destination จุดหมายปลายทางท่องเที่ยว
หัวใจหลักของโครงการ "Thai Craft
Destination" คือผลักดันเส้นทางเหล่านี้เป็น "จุดหมายปลายทาง (Destination)" ที่น่าสนใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งแหล่งท่องเที่ยวหลักหรือเมืองใหญ่ แนวคิดนี้กับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวปัจจุบันซึ่งเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการมองหาความแปลกใหม่และประสบการณ์ที่แตกต่างมากขึ้น
โครงการนี้ ททท.มุ่งสร้างสรรค์แจ้งเกิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ในเมืองไทย ตามหลักการ
“ส่งเสริมการท่องเที่ยว” ผ่านเส้นทาง “เครื่องดื่มคุณภาพ”
ที่มีรากฐานมาจากภูมิปัญญาและมรดกวัฒนธรรมของท้องถิ่น
ทั้ง กาแฟ ชา โกโก้ ผลไม้ไทย และสุราชุมชน
ตลอดโครงการได้ “เชื่อมโยงแหล่งปลูก วัฒนธรรมการแปรรูป
และคาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์” เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์หลากหลายและน่าจดจำนำไปสู่ 1.การพัฒนายกระดับสินค้าเกษตรไทย 2.กระจายรายได้สู่ชุมชน 3.สร้างความภาคภูมิใจสินค้าเกษตรและภูมิปัญญาไทยอย่างยั่งยืน
@6วัตถุประสงค์สร้างความสำเร็จในแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ
“ขับเคลื่อน Thai Craft Destination” สู่ความสำเร็จทุกมิติแห่งจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ พร้อมพิสูจน์ให้เห็นความสำเร็จตาม 6 วัตถุประสงค์ดังนี้
1.
สร้างจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่
โครงการนี้ได้พิสูจน์ความสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น
(Craft
Products) โดยยกระดับแหล่งผลิตให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวดึงดูดนักเดินทางได้โดยตรง
2..เพิ่มคุณค่าผ่านประสบการณ์เชิงเรียนรู้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทดลองใช้สินค้า (Product Testing ) สัมผัสถึงคุณค่าและมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวผ่านประสบการณ์มีส่วนร่วมและลงมือปฏิบัติจริง ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์เครื่องดื่มคุณภาพชนิดต่าง ๆ
3.ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงลึกซึ้ง สร้างให้เกิดความสัมพันธ์อันมีความหมาย ระหว่างนักท่องเที่ยวกับชุมชน อย่างแท้จริง (Meaningful Traveling) ผ่านเรื่องราวของเครื่องดื่ม
(Craft Drink) ที่มีรากฐานจากภูมิปัญญาท้องถิ่น นำไปสู่ความเข้าใจวัฒนธรรมลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม
4.กระจายพื้นที่เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวและส่งเสริมการพักค้าง โดยเปิดเส้นทางและกิจกรรมใหม่ๆ ในหลากหลายภูมิภาค
ทำให้แหล่งท่องเที่ยวกระจายตัวได้ครอบคลุมทั่วไทย สร้างทางเลือกการเดินทางและกิจกรรมอันหลากหลาย
เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาในพื้นที่ยาวนานขึ้น
5.สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวร่วมสมัย พัฒนาสินค้าและกิจกรรมการท่องเที่ยวให้ทันสมัย ตอบสนองพฤติกรรมและความต้องการนักเดินทางกลุ่ม
Gen Z
6.บูรณาการแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสร้างคุณค่าให้แต่ละเส้นทาง โดยเชื่อมโยงเข้ากับแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีอยู่เดิม ทำให้โปรแกรมการเดินทางสมบูรณ์หลากหลายมิติ ช่วยส่งเสริมความเข้าใจในบริบทและอัตลักษณ์ของท้องถิ่น
@“Product
Testing : ค้นพบ 4 เส้นทางแห่งความประทับใจ
เมื่อเดือนสิงหาคม 2568 ททท.นำผู้เข้าร่วมทดสอบอสินค้า และกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์
เป็น “คณะผู้บริหารจัดการท่องเที่ยว” (DMC) จาก
บริษัท หนุ่มสาวทัวร์ จำกัด ทัวร์เอื้องหลวง บริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน บริษัท
ชัยทัวร์ จำกัด ฟ้าสวย ทราเวล - ฟันนี่ ทริป ทราเวล บริษัท มาลัยสยามทัวร์ จำกัด เอเชี่ยน เทรลส์ จำกัด ดีทีเอช แทรเวล ซิลเวอร์
ฮอว์ค, เซเรเนต้าโฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ต กรุ๊ป และ “อินฟลูเอนเซอร์” จากเพจท่องเที่ยว ตะล๊อปก๊อปแก๊ป, Hang
Togerther, The Layoffgang ตกงานก็ยังเที่ยว, เที่ยวแล้วยัง, ปักหมุดท่องเที่ยว,
เที่ยวไหน ยังไงเล่า, Journey All Around และพาใจไป
เดินหน้าทำประชาสัมพันธ์ “Thai Craft Destination” ด้วยการติด hastag #ThaiCraftDestination #SipJourney #AmazingThailand
#การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ประกอบด้วย 4 เส้นทาง ดังนี้
● เส้นทางที่ 1 : สกลนคร – อุดรธานี
"SENSATION ROUTE" ปักหมุดในดินแดนอีสานด้วยการชวนผู้ร่วมกิจกรรมได้สัมผัสกับ "Sensation" หรือความรู้สึกดื่มด่ำกับเครื่องดื่พร้อมประสบการณ์สร้างสรรค์
หัตถกรรมท้องถิ่นจาก “Craft Hero” ศูนย์การเรียนรู้ศิลปหัตกรรมที่เชื่อมโยงธรรมชาติกับการต่อยอดเชิงสร้างสรรค์
เริ่มต้นเดินทางไปลิ้มรส “ไวน์อินทผลัม” จากสวนอินทผลัมตาลคู่ และไวน์องุ่นจากสวนปลอดสารที่ “สวนกุลณดา” สะท้อนถึงศักยภาพของเกษตรกรในภูมิภาค แล้วผู้ร่วมกิจกรรมยังได้เรียนรู้กระบวนการผลิต
“ช็อกโกแลต บาร์” จาก Tree 2 Bar แหล่งผลิตโกโก้คุณภาพ ค้นพบเสน่ห์ “White Spirit” จาก ONSON โรงกลั่นสุราชุมชนสะท้อนภูมิปัญญาการกลั่นแบบท้องถิ่น
เส้นทางนี้นอกเหนือจากเครื่องดื่มยังมีหัตถกรรม “ผ้าย้อมคราม” จากสวนแมน “ผ้าย้อมบัวแดง” จากศูนย์เรียนรู้กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก เป็นอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมงานคราฟท์แต่ละชิ้นมี เพียงหนึ่งเดียวในโลก รวมทั้ง “เครื่องปั้นดินเผา” จาก
ดอนหมูดิน
● เส้นทางที่ 2 : น่าน – แพร่
"CAFFEIEN ROUTE" สัมผัสเสน่ห์วัฒนธรรม ดื่มด่ำกาแฟและโกโก้ภาคเหนือตอนบน ของไทย
เดินทางสู่ “ชุมชนดอยมณีพฤกษ์” แหล่งปลูกกาแฟคุณภาพสูงบนดอย หัวใจสำคัญของเมล็ดกาแฟชั้นเลิศ ได้สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมและกระบวนการปลูกอย่างใกล้ชิด
แล้วไปต่อยัง "หมู่บ้านโกโก้"
อย่าง COCOA VALLEY
เป็นทั้งแหล่งเพาะปลูกและมีที่พักให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืนได้ด้วย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้วิถีชุมชนหลากหลายอย่าง
จากนั้นจึงไปยัง “โรงคั่วกาแฟ น.น่าน” มีห้องทดลองกาแฟทันสมัย เข้าถึงเรื่องราวเจาะลึกจากผู้เชี่ยวเรื่องกรรมวิธีการคั่วและชิมกาแฟ ปิดท้ายด้วยการลิ้มรสชาติ สุราชุมชน "เล่าน่าน" ที่ได้รับรางวัลระดับโลก “Gingerbread House” แหล่งรวมคราฟต์สุราชุมชน ตอกย้ำภูมิปัญญาไทยในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มคุณภาพระดับสากล พร้อมเล่าเรื่อง และเสิร์ฟเป็นคอร์สคู่กับขันโตกพื้นเมืองสไตล์ไฟน์ ไดนิ่ง
● เส้นทางที่ 3 : ชุมพร – ระนอง
"COCOA-COFFEE ROUTE" สำรวจภาคใต้ของไทย ไฮไลต์ตามเส้นทางกาแฟโรบัสต้าและโกโก้ชุมชน 4 พิกัด
ดังนี้
พิกัดที่ 1
“ก้องวัลเล่ย์” ศูนย์การเรียนรู้ครบวงจร จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ
โดยได้เรียนรู้การทำกาแฟทุกขั้นตอน ตั้งแต่ปลูก เก็บเกี่ยว แปรรูป และชงกาแฟ แหล่งผลิตและแปรรูปโกโก้
พิกัดที่ 2 “คาเฟ่โกโก้
ระนองช็อกโกแลต หรือ วิสาหกิจชุมชนโกโก้ระนอง” เจ้าของรางวัล Safety Product เป็นต้นแบบทำเกษตรยั่งยืน
พิกัดที่ 3 “คาเฟ่โกโก้
พีโกโก้ชุมพร” โชว์ถึงความตั้งใจผลิตวัตถุดิบคุณภาพบ่งบอกถึงความตั้งใจทำอย่างพิถีพิถัน
พร้อมให้ผู้ร่วมกิจกรรมร่วมแปรรูปโกโก้กาแฟจากชุมชนท้องถิ่น
พิกัดที่ 4 ศูนย์การเรียนรู้และคาเฟ่ริมทะเล
"บ้านต้นไม้อวดชุม" ได้ทั้งความรู้ ความเพลิดเพลิน
ท่ามกลางบรรยากาศความสวยงามชายทะเลชุมพร
● เส้นทางที่ 4 : จันทบุรี "FRESH
FRUIT ROUTE" จังหวัดในภาคตะวันออกขึ้นชื่อเป็น "เมืองราชินีผลไม้" สดชื่นและมีชีวิตชีวา ชวนสัมผัส “ชุมชนริมน้ำจันทบูร” ย่านวัฒนธรรมเก่าแก่ ต่อด้วย
“มีใจ สตูดิโอ” ตกแต่งกระเป๋าเสื่อกกจันทบูร ร่วมสมัย “iDear
Chan Decoupage” ศูนย์เรียนรู้ประจำชุมชนริมน้ำจันทบูร และเยี่ยมชม
“สวนมะปี๊ดอินทรีย์ของสวนมะปี๊ด by
ธนัท”
แหล่งผลิผลไม้พื้นถิ่นเชิงเดี่ยว ด้วยวิธีธรรมชาติ
แล้วไปเรียนรู้การปลูกและกระบวนการทำ
“พิซซ่าหน้าผลไม้ที่สวนอรุณบูรพา” แปรรูปยกระดับอาหารถิ่น ไปจนถึงเยี่ยมชม "GEN FRUIT CAFE" คาเฟ่ผลไม้เชิงสุขภาพนำเสนอเมนูผลไม้สดชื่นตามฤดูกาลบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์และนวัตกรรมนำผลไม้มาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ได้อย่างหลากหลาย
@Thai Craft Destination กับภารกิจด้านความยั่งยืน
กองสร้างสรรค์สินค้าการท่องเที่ยว ททท. มุ่งเน้นจัดทำโครงการ “Thai Craft Destination” มุ่งเน้นนำเสนอโมเดลการท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทำกระบวนการ “ชดเชยคาร์บอน”
(Carbon Neutral) สร้างความมั่นใจให้ทุกการเดินทางเป็นมิตรต่อโลก สามารถเป็นได้มากกว่า “การจัดกิจกรรมท่องเที่ยว”
หากแต่คือก้าวสำคัญที่ได้พิสูจน์ศักยภาพ “ประเทศไทย”
มีศักยภาพแข็งแกร่งพร้อมเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ สามารถดึงดูดนักเดินทางให้มาสัมผัสแก่นแท้ครบทุกเสน่ห์ไทย ทั้ง วัฒนธรรม ภูมิปัญญา ผลิตภัณฑ์คุณภาพในท้องถิ่นทั่วทุกภาคของไทย
ทำให้การท่องเที่ยวไทยเกิด
“คุณภาพมาก่อนปริมาณ” (Value
over Volume) พร้อมกับยกระดับ “เกษตรกร” และพัฒนาสินค้าชุมชนเป็น “Craft Hero” สร้างแรงบันดาลใจ และต้นแบบการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
เติมพลังให้ชุมชนเสริมคุณค่าทางเศรษฐกิจ จุดประกายความภูมิใจในภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่คู่คุณค่าเชิงประสบการณ์ ใช้พลังอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวขับเคลื่อนเสน่ห์ไทยอย่างยั่งยืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น