“วรรณภา
เกียรติพงษา”ผอ.ภูมิภาคภาคกลางททท.รุกปี68
งัดกิจกรรม/อีเวนต์เที่ยวใกล้กระจายรายได้อู้ฟู่17จังหวัด
ชูGrand Moment-ภาคกลางกระหึ่มเทศกาลเที่ยวเมืองไทย
“คิง
เพาเวอร์”ชวนช้อปแบบคนมีทริปช้อปเลือกรับ 5 ฟรี
ช้อปคิงเพาเวอร์Landing
Store15,000บาทจัดส่งฟรีถึงบ้าน
คิงเพาเวอร์จัดพิเศษ 9 วันลดใหญ่50%+Ontopสูงสุด20%
ททท.ประกวดTourism
Awardsทศวรรษที่3เพิ่มรางวัลยั่งยืน
บางจากเติมทุก500บาทรับน้ำฟรี-แลกซื้ออินทนิลครึ่งราคา
เที่ยวสโลว์ไลฟ์เกาะช้างตะวันออก-ดินแดนพญานาคอีสาน
6 โรคที่มากับอาการง่วงนอนชาวออฟฟิศเช็คร่างกายด่วน
นายกอิ๊งค์เปิดSummer
Festเที่ยวไทย7เดือนปั๊ม3.5ล้านล้าน
บินไทยแจงผลงานปี67/แผนปี’68-70/ใช้หมื่นล้านลงทุนMRO
วันเสาร์ที่
1 มีนาคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #วรรณภาเกียรติพงษา
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1A2EZroMEG/
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !! วรรณภา เกียรติพงษา
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยกระดับตลาดภาคลาง 17
จังหวัด “เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย” บูม “โร้ดทริป/ขับรถเที่ยว” EV
รถไฟ รองรับนักท่องเที่ยวมากถึง 8 กลุ่ม
เดินหน้าขาย Grand Moment เทศกาล งานประเพณี เที่ยวธรรมชาติ
วิถีชีวิต ชิมรางจัด Capture the Moment @ภาคกลาง 4 เมืองน่าเที่ยว รอพบงานใหญ่ มี.ค.68 หมู่บ้านภาคกลาง
จัดกระหึ่มเทศกาลเที่ยวเมืองไทย จำลองพระราชวัง สถานีรถไฟหัวลำโพง หัวหิน
ร้านอาหาร ของอร่อยมากมาย มาไว้ที่ศูนย์สิริกิติ์
นางสาววรรณภา เกียรติพงษา ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์ส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวทั่วภูมิภาคภาคกลาง 17 จังหวัด ตามคอนเซ็ปต์ปี 2568 “เที่ยวกลาง เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย” สุขใจเที่ยวได้ทันทีสามารถเที่ยวได้ในเวลา ครึ่งวัน 1 วัน หรือ 2 วัน 1 คืน รองรับนักเดินทางได้หลากหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มครอบครัว สายศรัทธา โดยมี “เสน่ห์ภาคกลาง” ได้แก่ อาหาร กิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ จึงได้เน้นการเดินทางให้สามารถเชื่อมโยงท่องเที่ยวได้ทั่วภาคกลางทุกจังหวัดครอบคลุมทั้ง 3 แบบ ได้แก่
แบบที่ 1 “ขับรถท่องเที่ยวด้วยตัวเอง-Roadtrip” และส่งเสริมการใช้รถยนต์ระบบไฟฟ้า (EV) มุ่งรักษาสิ่งแวดล้อมลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
แบบที่ 2 “นั่งรถไฟท่องเที่ยว” ขณะนี้กำลังอยู่ในกระแสได้รับความนิยมมากจากบริการของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดขบวนพิเศษคือ Royal Blossum และ KIHA
แบบที่ 3 การท่องเที่ยวโดยเครื่องบิน จากภูมิภาคต่าง ๆ เข้ามายังภาคกลาง
“ตลาดกลุ่มเป้าหมาย” พร้อมจะนำเสนอสินค้า กิจกรรม งานเทศกาล ประเพณี
ให้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวครอบคลุมมากถึง 8 กลุ่มประกอบด้วย
กลุ่มที่
1
นักท่องเที่ยวเป็นครอบครัว
กลุ่มที่ 2 ท่องเที่ยวสายศรัทธา แล้วยังได้ขยายกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้น
กลุ่มที่ 3 “คนรักสัตว์เลี้ยงเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว” หรือ Pet Parent ตอกย้ำถึงภูมิภาคภาคมีความพร้อมรองรับตลาดศักยภาพสูง แล้วสามารถนำไปสู่ “Grand Moment” การทำกิจกรรมร่วมกันในโอกาส เวลา และคนพิเศษ สร้างความสัมพันธ์ และความประทับใจ
กลุ่มที่ 4 ท่องเที่ยวเชิงผจญภัยและความท้าทาย ระหว่างมีนาคม-เมษายน 2568 ททท.ภูมิภาคภาคกลาง จัดมหกรรมความสนุก “ตามล่าหาหัวเอเลี่ยน” ที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จ.กาญจนบุรี
กลุ่มที่ 5 สายศรัทธา ชวนท่องเที่ยววัดตูม จ.พระนครศรีอยุธยา สัมผัสประสบการณ์ความมหัศจรรย์เศียรพระพุทธรูปมีน้ำอยู่ตลอดไม่เคยเหือดแห้งมาตลอด 100 ปี “วันพระใหญ่” ปี 2568 ทางวัดได้เปิดเศียรครั้งแรกปะพรหมน้ำมันต์ วันมาฆบูชา วันอาสาฬบูชา วันวิสาขบูชา
กลุ่มที่ 6 สายหวาน โรแมนติก คู่รัก ตอนนี้ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ศาลายา จ.นครปฐม กำลังเบ่งบาน รอต้อนรับนักท่องเที่ยวดังกล่าวอยู่ตลอดเดือนมีนาคมนี้
กลุ่มที่ 7 สายธรรมชาติ สัมผัสสีสันผืนป่ามรดกโลก อุทยานแห่งชาติ จ.เพชรบุรี
กลุ่มที่
8 สายค้นหาความสนุก
ชวนนักท่องเที่ยวไปทำกิจกรรมร่อนทองบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
มีโอกาสได้ทองกลับบ้านด้วย
ผอ.วรรณภา กล่าวว่า ล่าสุดจัดทำโครงการ “Capture the Moment @ภาคกลาง” ททท.จับมือกับพันธมิตรชั้นนำที่มีชื่อเสียงหลายวงการอย่าง EVEANDBOY, BIG Camera, DiveHouse แพลตฟอร์มท่องเที่ยว Gother แทรเวลโลกา นำเสนอขาย “เอ็กซ์คลูซีฟ เอาท์ดอร์ แฟชั่น โฟโต้กราฟฟี่ ทริป” สร้างสีสันให้เกิด Grand Moment กระจายในภาคกลาง 4 เส้นทาง ใน 4 จังหวัด ได้แก่
เส้นทางที่ 1 กรุงเทพมหานคร จัดธีม City of Life สีสันพระนครยามค่ำคืน
เส้นทางที่ 2 ราชบุรี ชูธีม พลังแห่งเสน่ห์ ภูผาหินเขางู ไปชมจุดซ่อนความลี้ลับน่าค้นหาหรือ Hidden Spot มีมุมเก๋ ๆ ให้ได้ถ่ายรูปอย่างเต็มที่
เส้นทางที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ชูธีม LEGEND OF HERITAGE ไปชมความมหัศจรยย์ของแสงพระอาทิตย์สุดอลังการส่องทะลุช่องสวยงามที่ปราสาทพระนครหลวง แสงที่ตกกระทบกำแพงสามารถสร้างสีสันแฟชั่นตลอดทริปท่องเที่ยวได้
เส้นทางที่
4 ประจวบคีรีขันธ์ ชูธีม Ocean Secret ชวนสายที่ชื่นชอบการดำน้ำทั้งคู่รัก หรือคู่เพื่อน
ลงไปถ่ายภาพบริเวณทุ่งลาเวนเดอร์ที่อยู่ใต้ทะเลด้วยกัน
เป็น
Grand Moment ตัวอย่างส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคกลางโดยได้นำเทรนด์
“Fashion & Beauty” เดินทางท่องเที่ยวกับกูรู
ผู้เชี่ยวชาญ เปิดให้ร่วมเวิร์คช้อปสอนแต่งหน้าแล้วทาง Big Camera เน้นสอนเทคนิคการถ่ายภาพสวยงาม จุดประกายให้เกิดไอเดียการท่องเที่ยวมุมมองใหม่
ๆ สร้างความประทับใจตลอดการท่องเที่ยวภาคกลางในเมืองไทย
ผอ.วรรณภา กล่าวว่า ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน นี้ ภูมิภาคภาคกลาง จะมี Must Seek การท่องเที่ยวงานเทศกาลประเพณีต้องห้ามพลาด ได้แก่
งานที่ 1 ไหว้ครูมวยไทย วันที่ 17 มีนาคม ที่วัดหลังคาขาว อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
งานที่ 2 เทศกาลว่าวนานาชาติ 21-23 มีนาคม ที่ชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรี
งานที่ 3 เสน่ห์งานมหาสงกรานต์ นอกเหนือจากกรุงเทพมหานครแล้ว ก็จะมีไฮไลต์น่าเที่ยว อีก 4 แห่ง คือ 1. สงกรานต์ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี 2.เล่นน้ำสงกรานต์กับช้างที่กรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา 3.สงกรานต์รามัญปากเกร็ด อัตลักษณ์ไทย จ.นนทบุรี 4.สงกรานต์มอญ สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
“งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย” จะยกหมู่บ้านภูมิภาคภาคกลาง มาไว้ในกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 26-30 มีนาคม นี้ โดยเตรียมนำแลนด์มาร์กสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม โดยจะจำลองสัดส่วนมาไว้ในศูนย์ประชุมสิริกิติ์อย่าง “พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน” จ.เพชรบุรี “สถานีรถไฟ” หัวลำโพง และหัวหิน บ่งบอกถึงความสะดวกสบายการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวภาคกลาง
รวมถึง “ร้านอาหาร” เป็น Must Taste ที่ต้องแวะมาลิ้มลองรสชาติเมนูขึ้นชื่อจากแต่ละร้าน โดยเฉพาะร้านที่ได้รางวัลมิชลิน ซึมซับเสน่ห์อาหารภาคกลางไม่น้อยหน้าภาคอื่น ๆ มีอัตลักษณ์ รสชาติ ชัดเจน
“งานคราฟท์” เป็น Must Try มีลายผ้าต่าง ๆ ที่นักท่องเที่ยวเมื่อแวะเข้ามาเยี่ยมชมจะได้ลองทำ พวงกุญแจ เพนต์เบญจรงค์ ทำสมุดโน้ตเล่มเดียวในโลกจากผักตบชวา พร้อมของฝากต่าง ๆ เป็นผลิตภัณฑ์ตรวจสอบแหล่งภูมิศาสตร์ได้ หรือสินค้า GI ในพื้นที่ภาคกลาง จากวิสาหกิจชุมชน มากันอุ่นหนาฝาคั่ง
“โปรโมชั่น/ของรางวัล” ตลอดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยปีนี้ ขอยกตัวอย่าง “ภาพลิซ่า” ยืนกลางเยาวราช ศิลปินอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่นักท่องเที่ยวสามารถลองมาทำแล้วได้รับภาพในแบบเดียวกันได้ หรือจะเป็นกิจกรรมหา RC ลุ้นรางวัล และอื่น ๆ ที่จะสร้างความประทับใจในพื้นที่ แล้วยังมี ลีลาศสวิงแดนซ์ จะจำลองมาไว้เป็นภาพเดียวกันกับที่ ททท.เคยปิดถนนทรงวาดจัดลีลาศสวิงแดนซ์อย่างประทับใจ
“การท่องเที่ยวยั่งยืน” ภาพรวมทั่วภูมิภาคภาคกลางปี 2568 นำเสนอขับรถยนต์ไฟฟ้า(EV) ท่องเที่ยว และนั่งรถไฟท่องเที่ยว ล่าสุดจัด Sub ลุ่มแม่กลอง กิจกรรมพายซับใน 3 จังหวัด สมุทรสงคราม ราชบุรี กาญจนบุรี ผนวกการจับมือกับพันธมิตรในพื้นที่ส่งเสริมกิจกรรมสุขภาพ Health and Wellness ทุกกิจกรรมจะมีองค์ประกอบของซีเอสอาร์รวมอยู่ด้วย แล้วยังเน้นการทำ Shape Supply ยกระดับผู้ประกอบการพัฒนาสินค้าและบริการอย่างยั่งยืน รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมกิจกรรม ตัวอย่างเช่น นักท่องเที่ยวกลุ่มรักสัตว์เลี้ยงเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว (Pet Parent) มีความรับผิดชอบการเดินทางท่องเที่ยวสูง และอื่น ๆ
ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2568 “หมู่บ้านภาคกลาง” ได้นำผักตบชวาจากเมืองอู่ข้าวอู่น้ำในภาคกลาง นำพืชจากลำน้ำมาสร้างมูลค่า ทำเป็นสมุดโน้ต หรือการทำของที่ระลึกต่อยอดมูลค่าทำเวิร์คช้อป D.I.Y.เป็นของขวัญกลับบ้านได้ด้วย
ดังนั้นจึงขอเชิญชวนคนออกมาสุขทันทีที่เที่ยวภูมิภาคกลาง เพราะเดินทางง่ายและสะดวก หากมีเวลาขอให้เลือกพักมากกว่า 2 วัน 1 คืน อย่างบรรยากาศทัวร์ประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาไปจนถึงลพบุรี หรืองาน Pride Month เดือนมิถุนายนนี้ นอกจากในกรุงเทพฯ แล้วยังมีที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และอีกหลายพื้นที่ครอบคลุมทุกมิติเที่ยวภาคกลางตลอดปี 2568
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-“คิง
เพาเวอร์”ชวนช้อปแบบคนมีทริปช้อปเลือกรับ 5 ฟรี
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดมหกรรมส่งเสริมการขายกระตุ้นตลาดช้อปแบบคนมีทริปกับคิงเพาเวอร์รับไปเลย 5 ฟรี แจกเต็มพิกัด “คูปองสุดพิเศษ” เมื่อซื้อแพกเกจจากพันธมิตรชั้นนำเพื่อเดินทางต่างประเทศ แล้วนำคูปองที่ได้รับไปเลือกซื้อสินค้า คิง เพาเวอร์ สาขาในเมือง และสนามบิน เริ่มตั้งแต่วันนี้- 30 มิถุนายน 2568 รับฟรีไปเลยถึง 5 รายการ ดังนี้
• ฟรีที่ 1 คูปองส่วนลดช้อปในสนามบินมูลค่ารวมสูงสุด 1,600 บาท นำไปช้อปสินค้าที่ คิง เพาเวอร์ 4 สนามบิน/ท่าอากาศยาน คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต
• ฟรีที่
2 คูปองส่วนลดช้อปสาขาในเมือง มูลค่ารวมสูงสุด
4,000 บาท นำไปช้อปสินค้าได้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี
พัทยา และภูเก็ต
•
ฟรีที่ 3 สมัครสมาชิกใหม่ “คิง เพาเวอร์ NAVY” รับสิทธิพิเศษ!
เมื่อใช้คูปองส่วนลดช้อปในเมือง
•
ฟรีที่ 4 รับสถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ SCARLET เมื่อใช้คูปองส่วนลด แล้วช้อปสาขาในเมืองภายในวันนั้น ๆ จนครบ 20,000
บาทขึ้นไป
•
ฟรีที่ 5 อิ่มอร่อยฟรี สมาชิก คิง เพาเวอร์ รับคูปองอาหารมูลค่ารวม
300 บาท นำไปใช้เลือกรับประทานเมนูร้านดัง ๆ ที่ “ไทย เทสต์ ฮับ คิง เพาเวอร์
รางน้ำ” ภายในวันเดียวกับการช้อปสินค้าที่ชอบและใช่ แถมยังได้คูปองส่วนลดรับประทานอาหารจานเด็ด
ช้อปครบรับทันที ได้แก่
- รับคูปองอาหาร 200 บาท เมื่อช้อปครบ 10,000
บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ และใช้คูปองส่วนลดช้อปในเมือง
- รับคูปองอาหาร 100 บาท เมื่อช้อปครบ 5,000
บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ และใช้คูปองส่วนลดช้อปในเมือง
ข่าวที่ 2 -ช้อปคิงเพาเวอร์Landing Store15,000บาทจัดส่งฟรีถึงบ้าน
ทุกครั้งที่มีทริปเดินทางต้องห้ามพลาดเดินไป
“ร้านคิง เพาเวอร์ ในสนามบิน สุวรรณภูมิ และดอนเมือง ตื่นตากับโซนใหม่ “King
Power Landing Store” ในพื้นที่ช้อปอันตระการตาด้วยศูนย์รวมของฝากมากมาย
ช้อปแล้วนำกลับได้ทันที มีบริการส่งฟรีถึงบ้านด้วย เมื่อซื้อเครื่องดื่มตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป
• “คิง
เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” เปิดโซนช้อป “King
Power Landing Store” อยู่ตรง
อาคารผู้โดยสาร ชั้น 2 ตรงข้ามประตูทางออก 3
และประตูทางออก 10
• “คิง
เพาเวอร์ ท่าอากาศยานดอนเมือง” เปิดโซนช้อป “King
Power Landing Store” อยู่ตรงอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
อาคาร 1 ชั้น 1 ประตูทางออก 7
ช้อปแบบ “ไม่ต้องมีไฟลต์บิน” ก็สามารถทำได้เมื่อเลือกซื้อสินค้า คิง เพาเวอร์
แบบ Take-Home Products แล้วนำกลับบ้านได้เลย ที่สาขาในเมือง รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต
“สมาชิก คิง เพาเวอร์” รับสิทธิ์ส่วนลดตามสถานะสมาชิกสูงสุด
20% ได้ตลอดทุกวัน
ข่าวที่ 3-คิงเพาเวอร์จัดพิเศษ 9 วัน ลดใหญ่ 50%+Ontopสูงสุด20%
คิง
เพาเวอร์ พัทยา จัดโปรโมชั่น Seasonal
Sale 9 วันพิเศษ!
มีไฟลต์-ไม่มีไฟลต์ ก็ช้อปได้ มอบส่วนลดสูงสุด 50% เริ่มช้อปได้เลยตั้งแต่วันนี้ -9 มีนาคม 2568
พิเศษ! สมาชิก คิง เพาเวอร์ ลด ON-TOP สูงสุด 20%
เสาร์-อาทิตย์แจกเพิ่ม! คูปองส่วนลด 1,500 บาท
เมื่อช้อป 3,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จในวันที่ 1-2 และ 8-9 มีนาคม 2568 ได้คนละ
1 สิทธิ์ /วัน
ส่วนลดเพิ่ม
On-Top 20% และ On-Top 10% ใช้ได้เลย
โดยไม่ได้ร่วมกับส่วนลดอื่น ๆ คือ 1.บัตรสมาชิกคิง
เพาเวอร์ 2.สิทธิ์ฉลองวันเกิด 3.ยอดเงินในบัญชีสมาชิกจากรายการส่งเสริมการขาย
4.E-Cash, บัตรโวเชอร์ และบัตรเงินสดต่าง ๆ รวมถึงคูปองส่วนลดอื่นๆ
“ใช้สิทธิ์ร่วมรายการได้”
คือ 1.ยอดเงินในบัญชีสมาชิกที่ได้รับจากการสมัครสมาชิก
และยอดเงินในบัญชีสมาชิกส่งเสริมการขาย VEGA และ CROWN 2.จ่ายผ่านบัตรเครดิตร่วมคิงเพาเวอร์กับธนาคารไทยพาณิชย์
และกสิกรไทย
“การใช้คูปอง”
ส่วนลด 1,500 บาท แลกรับได้คนละ
1 สิทธิ์/วัน กับสินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสอบสินค้าดังกล่าวเพิ่มได้ที่จุดขาย
และคูปองส่วนลดจะหมดอายุภายในวันที่แลกรับ แล้วนำมาใช้ช้อปต่อได้ที่คิง เพาเวอร์
พัทยา เท่านั้น
ข่าวที่
4-ททท.ประกวดTourism Awardsทศวรรษที่3เพิ่มรางวัลยั่งยืน
ททท.จัดประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
:Thailand Tourism Awards ต้อนรับทศวรรษที่
3 ปี’68เร่งยกเครื่อง
shape Supply สินค้าและบริการท่องเที่ยวไทย เพิ่มรางวัลใหม่ครั้งแรก
“Sustainability Awards” รับสมัคร 28 ก.พ.-30
เม.ย.68 ผู้คว้ารางวัลรับสิทธิ์ร่วมงานเทรดลด50
% พีอาร์ฟรี คอร์สอบรมบุคลากร
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้เปิดโครงการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
: Thailand Tourism Awards ครั้งที่ 15 ประจำปี 2568 ในโอกาสก้าวสู่ทศวรรษที่
3 รางวัลแห่งเกียรติยศ ปี 2568 โดยได้เพิ่มครั้งแรกคือ “รางวัลแห่งความยั่งยืน”
(Thailand Tourism Sustainability Awards) สนับสนุนผู้ประกอบการที่มีความโดดเด่นด้านการบริหารจัดการความยั่งยืน เริ่มเปิดให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมประกวดรางวัลได้ตั้งแต่
28 กุมภาพันธ์ -30
เมษายน 2568 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานการบริการยอดเยี่ยม 100 ราย
สามารถสมัครและอัพเดทความเคลื่อนไหวการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างเป็นทางการทาง
https://tourismawards.tourismthailand.org/
หรือ Facebook Page : Thailand Tourism
Awards
ททท.ได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยเน้นสร้างประสบการณ์ทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืนด้วยการพัฒนาฝั่งธุรกิจหรือ
Shape Supply
ยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการท่องเที่ยวของไทยให้มีมาตรฐานตามโครงการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
จัดต่อเนื่องทุก 2 ปี พิเศษปี 2568 ก้าวสู่ปีที่ 30 ครั้งที่
15 เพื่อเชิดชูเกียรติผู้ประกอบการไทยที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล เดินหน้าพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการการท่องเที่ยวให้สอดคล้องตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงระดับโลก
(Global Issues) และสะท้อนความร่วมมือระหว่างพันธมิตร (Partnership
360 องศา) ร่วมสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยให้มีคุณค่าและยั่งยืน
@ปี68เพิ่มครั้งแรกรางวัลท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
Sustainable Awards
การประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ปี 2568 จัดภายใต้แนวคิด Sustainability in Process เพื่อเป็นส่วนหนึ่งผลักดันให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวพัฒนาสู่ความยั่งยืน ซึ่งจะมีความพิเศษคือ
“เพิ่มรางวัลแห่งความยั่งยืน” (Thailand Tourism Sustainability
Awards)
เป็นครั้งแรกให้แก่ผู้ประกอบการที่ยอดเยี่ยมด้านการบริหารจัดการความยั่งยืน
ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์
กล่าวว่า ททท.มุ่งหวังให้โครงการดังกล่าวสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ
ได้การยอมรับภายใต้สัญลักษณ์ “รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย” เพิ่มมากขึ้น พัฒนาขีดความสามารถทางแข่งขันได้ในระดับสากล
ควบคู่การนำเสนอสินค้าและบริการให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกขานรับปี Amazing
Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025
@เปิดให้ชิงรางวัล
5 ประเภท 4ระดับใช้ 4 เกณฑ์ตัดสิน
สำหรับการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยครั้งที่
15 ประจำปี 2568 ประกอบด้วย
“รางวัล” แบ่งเป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1.ประเภทแหล่งท่องเที่ยว 2. ประเภทที่พักนักท่องเที่ยว 3.
ประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 4. ประเภทรายการนำเที่ยว 5.
ประเภทองค์กรสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืน
“รางวัล” แบ่งเป็น
4 ระดับ ได้แก่ 1.รางวัลยอดเยี่ยม (Thailand Tourism Excellence Awards) 2.รางวัลดีเด่น (Thailand Tourism Outstanding Awards) 3.รางวัลเกียรติยศ (Hall of Fame) ส่วนผลงานที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมติดต่อกัน
3 ครั้ง 4.รางวัลแห่งความยั่งยืน (Thailand Tourism
Sustainability Awards) ปีนี้จัดเพิ่มเป็นปีแรก จะต้องมีคะแนนตามเกณฑ์ด้าน
Sustainability and Responsibility Excellence มากกว่า 90 %
“เกณฑ์การตัดสิน” ประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ 1.
ความยอดเยี่ยมด้านสินค้าและบริการ 2.
ความยอดเยี่ยมด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยวยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ
3.ความยอดเยี่ยมด้านการบริหารจัดการธุรกิจ และ 4.
ความยอดเยี่ยมด้านการเป็นองค์กรสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืน
@ผู้คว้ารางวัลรับสิทธิ์ร่วมงานเทรดลด50%-พีอาร์ฟรี-คอร์สอบรม
“ผลงานที่ได้รับรางวัล” จะได้รับสิทธิประโยชน์เข้าร่วมส่งเสริมการตลาด
ประชาสัมพันธ์ และสิทธิการเข้าอบรมพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
เช่น รับส่วนลด 50% เข้าร่วมงานส่งเสริมการขายกับ ททท. ทั้งในและต่างประเทศ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ของ
ททท. และเข้าร่วมการอบรมพัฒนาศักยภาพองค์กร
“วันประกาศผลรางวัล” ผู้ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
ครั้งที่ 15 ประจำปี 2568 จะประกาศผลวันที่ 5 กันยายน 2568 จากนั้นจะจัดพิธีมอบรางวัลวันที่
27 กันยายน 2568 ซึ่งตรงกับวันท่องเที่ยวโลก (World
Tourism day)
ข่าวที่ 5-บางจากเติมทุก500บาทรับน้ำฟรี-แลกซื้ออินทนิลครึ่งราคา
“บางจาก” เปิดปั๊มทั่วประเทศทำแคมเปย “เติมฉ่ำ ซัมเมอร์” วันนี้ -31 มี.ค.68 รถทุกคันแวะเติมน้ำมันบางจากทั้งแก๊สโซฮอล์และดีเซล
รับฟรีน้ำมันขวดใหญ่ 1.5 ลิตร
แถมใช้สลิปแลกซื้อเครื่องดื่มอินทนิลจ่ายแค่ ครึ่งราคา
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ต้อนรับหน้าร้อนด้วยแคมเปญ “เติมฉ่ำ ซัมเมอร์”
เริ่มตั้งแต่วันนี้ 31 มีนาคม 2568 โดยได้จัดสมนาคุณลูกค้าทุกคนเมื่อแวะเติมน้ำมันบางจากทุกชนิดครบ
500 บาท ทั้งกลุ่มแก๊สโซฮอล์และดีเซล รับฟรี น้ำดื่มขนาดใหญ่สุด
1.5 ลิตร 1 ขวด มูลค่า 15 บาท ทุกการเดินทางแวะมาเติมน้ำมันปั๊มบางจากและเอสโซ่เดิมที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
หรือสังเกตจากป้ายหน้าสถานีบริการน้ำมันสาขาต่าง ๆ
พิเศษ !! สมาชิกบางจากกรีนไมลส์
รับเพิ่มอีก 1 ต่อ ด้วยการ “นำสลิป” เติมน้ำมัน “แลกซื้อ” เครื่องดื่มอินทนิล
ได้จ่ายเพียงครึ่งราคาเท่านั้น 1 แก้ว/สลิป เลือกเมนูยอดฮิต อเมริกาโน่เย็น กับชาไทยลาเต้เย็น ขนาด 22
ออนซ์ จากราคาปกติ 60 บาท
โดยใช้สลิปที่เติมน้ำมันระหว่างวันนี้
-31 มีนาคม 2568 ใช้สิทธิ์แลกรับได้จนถึง 15 เมษายน 2568 ที่ร้านอินทนิลทุกสาขาที่เข้าร่วมรายการ
ดูรายละเอียดเพิ่มที่ www.bcpgreenmiles.com และ
www.bangchakmarketplace.com
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยไปเช็คอิน 2 ภาค 2
พิกัด “ภาคตะวันออก” ทัวร์สวนผลไม้จันทบุรี สโลว์ไลฟ์ที่เกาะช้าง “ภาคอีสาน”
เปิดชุมชนขี้เหล็กใหญ่ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ โชว์บ้านกราฟิตี้พญานาค
บ้านเชียงมรดกโลก แล้วชาวออฟฟิศฟังให้ดี “6โรคที่มากับอาการง่วง”
เช็คสุขภาพด่วน และข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก “นายกฯอิ๊งค์” เปิด Thailand Summer
Festival เที่ยวไทย 7 เดือน กระตุ้นรายได้3.5
ล้านล้านบาท ข่าวที่สอง “การบินไทย” โชว์ผลงานปี67 เปิดแผนปี68-70 จ่อลงทุนศูนย์ซ่อม MRO ใน EEC
ท่องเที่ยว
–เที่ยวสโลว์ไลฟ์เกาะช้างตะวันออก-ดินแดนพญานาคอีสาน
ไปเที่ยวเมืองไทยด้วยกัน
เช็คอินความสุขได้ตลอดทั้งปี แนะนำทริปสุขทันทีเที่ยว “ภาคตะวันออก” แบบสโลไลฟ์
ทัวร์สวนผลไม้ จันทบุรี และฟินที่เกาะช้าง หรือจะเป็น “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”
สัมผัสวิถี”ชุมชนหมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่”
อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ตื่นตากับกราฟิตี้บ้านพญานาคสวย ๆ แต่ละหลัง และลิ้มรส“โลคอล
สู่เลอค่า” อาหารจากวัตถุชุมชนเข้าของรางวัลกูร์มองด์ อะวอร์ด
และทัวร์ชุมชนบ้านเชียงแหล่งมรดกโลก
พิกัดที่ 1 “ภาคตะวันออก” เริ่มต้นตั้งเข็มไมล์ขับรถ
“เที่ยวสวนผลไม้” จ.จันทบุรี ในฤดูกาลที่ผลไม้นานาชนิดไว้รอต้อนรับ
สร้างความประทับใจ โดยมีทุเรียนหลายสายพันธุ์ มังคุด เงาะ สละ ลำไย มะม่วง ผลไม้นานาพันธุ์
ชวนมาอิ่มอร่อยทั้งแบบ บุฟเฟ่ต์ผลไม้ไทยแล้ว ยังจะได้เก็บความประทับใจทำกิจกรรมต่าง
ๆ เช่น เดินชมสวน เก็บผลไม้ด้วยตัวเอง ในพื้นที่ทิวทัศน์ที่สวยงามเขียวขจีด้วย
หรือจะเที่ยว
“เกาะช้าง” จ.ตราด มีครบทั้งหาดทรายขาวละเอียดทอดยาวเหมาะแก่การพักผ่อนและกิจกรรมชายหาด
ทะเลสวย น้ำทะเลใสราวคริสตัล การดำน้ำดูปะการัง ชมฝูงปลาหลากสีสัน
การล่องเรือกอนโดลา(ไทย) ได้ในชุมชนบ้านสลักคอก แบบสโลว์ไลฟ์ โดยมีอีกหนึ่งช่วงเวลาความประทับใจเมื่อได้ชมผืนป่าชายเลนที่กว้างใหญ่
และได้สัมผัสวิถีประมงพื้นบ้านที่ยังคงอยู่กับเกาะมาอย่างยาวนาน
พิกัดที่ 2 “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” แนะนำเส้นทางท่องเที่ยว ”ชุมชนหมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่”
อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ อุดมไปด้วยธรรมชาติและแหล่งน้ำหลากหลาย คล้ายเกาะล้อมด้วยสายน้ำ
เติมเต็มอัตลักษณ์ด้วยคนชาติพันธุ์ไทยโซ่ มีวิถีชีวิตเรียบง่าย และอุดมสมบูรณ์
โดยได้จัดตั้ง “พิพิธภัณฑ์ชุมชน” ที่มีชีวิตขึ้น นำศิลปะร่วมสมัยอย่างกราฟฟิตี้
มาหลอมรวมกับอัตลักษณ์ท้องถิ่นได้อย่างมีเสน่ห์
เกิดเป็นกราฟฟิตี้ ‘พญานาค’ ที่แตกต่างอย่างลงตัวด้วยการดึงเอกลักษณ์ของบ้านแต่ละหลังมาผสมผสานกับลายพ่นเล่าเรื่องราวบ้านหลังนั้น
ๆ ทำให้ทั้งหมู่บ้านสวยงาม
มีชีวิตชีวาน่าเที่ยวชม
รวมถึงได้นำแนวคิด
“โลคอล สู่เลอค่า” ทางชุมชนร่วมกันสร้างแล้วพัฒนาต่อยอดของดีในท้องถิ่นให้มีความร่วมสมัย
ทั้งอาหาร ผลิตภัณฑ์ชุมชน จนสามารถคว้ารางวัลกูร์มองด์ อะวอร์ด (Gourmand Awards) หรือรางวัลออสการ์อาหารโลกที่ฝรั่งเศสได้สำเร็จ
“ชุมชนบ้านเชียง” เป็นแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงที่ยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม
นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมแหล่งโบราณคดีที่มีคุณค่าโดดเด่นระดับสากลแล้ว ยังเป็นชุมชนประวัติศาสตร์ที่เปิดให้ร่วมกิจกรรมกับปราชญ์ชุมชน
ทั้ง ปั้นหม้อ และเขียนสี สร้างสรรค์เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง
มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก
สุขภาพ
–6โรคที่มากับอาการง่วงนอนชาวออฟฟิศเช็คร่างกายด่วน
พนักงานออฟฟิศทั้งหลาย
ลองสังเกตุตัวเองว่า “พอตกบ่าย” เริ่มตาปรือ สัปหงก หรือบางทีต้องลุกไปชงกาแฟดื่มแก้ง่วง
เป็นประจำทุกวันหรือเปล่า ถ้ามีอาการง่วงแบบนี้ต้องหันมาเช็คสุขภาพกันแล้ว
เพราะอาจจะเข้าข่ายต้องเผชิญกับโรคที่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน ที่มาพร้อมกับอาการง่วง 6 โรคอันตราย ได้แก่
โรคที่
1 นอนไม่หลับ ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จากการทำงานหนัก งานเยอะ เครียดจนนอนไม่หลับหรือเปล่า ถึงทำให้ง่วงนอน
เพราะนอนไม่เคยพอ หรือไม่ก็ต้องหาวิธีคลายเครียด ลดการทำงานในตอนกลางคืน
หรือปรึกษาแพทย์บ้าง
โรคที่
2 อ่อนเพลีย /ล้าเรื้อรัง เป็นมากกว่านอนไม่หลับ เป็นผลจากร่างกายสะสมความอ่อนเพลียหนักขึ้นเรื่อย
ๆ บวกกับอาจมีสาเหตุจากการกินอาหารประเภทแป้ง น้ำตาลมากเกินไป จนทำให้รู้สึกเพลีย
ล้า ง่วงนอน ความจำไม่ค่อยดี ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หลับไม่สนิท
นอนเท่าไรก็ไม่พอ โรคนี้กลุ่มวัยทำงานมีความเสี่ยงสูงที่สุด
โรคที่
3 เบาหวาน เมื่อเราบริโภคแป้ง
และน้ำตาลสูง จนทำให้เกิดอาการง่วงนอนได้ ทำให้เป็นโรคล้าเรื้อรังแล้ว “เบาหวาน”อาจถามหาได้ด้วย
เพราะเลือดมีปริมาณน้ำตาลสูง โดยมีสัญญาณเตือนแรก ๆ คือ “อาการง่วงนอน” หรือเตือนให้ร่างกายรู้ว่ากำลังอยู่ในภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
อนาคตอันใกล้อาจเป็นเบาหวาน
โรคที่
4 ลมหลับ เป็นโรคง่วงนอนขั้นจริงจัง คือง่วงนอนมากตอนกลางวัน ส่วนตอนกลางคืนกลับนอนไม่หลับ
หรือหลับไม่สนิท พอได้นอนก็ฝันทันที ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลงเรื่อย ๆ ถ้าเป็น “เด็ก”
พัฒนาการสมองช้า เรียนไม่เก่ง ถ้าเป็น “ผู้ใหญ่” การทำงานลดลงจะมีประสิทธิภาพลดลง
หรืออาจเป็นอันตรายต่อการใช่ชีวิต เช่น ง่วงระหว่างขับรถ
หรือใช้เครื่องจักรกลต่างๆ ส่งผลถึงสุขภาพจิตทำให้เป็นคนหงุดหงิดง่ายด้วย
โรคที่
5 โลหิตจาง ยิ่งผู้หญิงจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ง่าย สาเหตุเพราะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ไม่เพียงพอ
(เพราะผู้หญิงเลือกกินมากกว่า) รวมทั้งยังสูญเสียโลหิตจากประจำเดือน
ส่วนสาเหตุอื่นก็มาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ จึงรู้สึกอ่อนเพลีย หน้ามืดบ่อย
เหนื่อยง่าย เชื่องช้า เซื่องซึม ไม่สดใส จึงทำให้รู้สึกง่วงนอนบ่อย ๆ อยู่ตลอด
โรคที่
6 แผลในกระเพาะอาหาร หรืออวัยวะส่วนอื่นๆ ในร่างกาย
ผลของการสูญเสียเลือดในปริมาณมาก ๆ บ่อย ๆ
เช่น มีเลือดออกจากแผลในกระเพาะอาหาร
หรืออาจจะสูญเสียเลือดจากการเป็นโรคริดสีดวงทวารบ่อย อาจเป็นสาเหตุให้อ่อนเพลีย
หรืออยู่ในภาวะโลหิตจางเรื้อรัง เลยแสดงอาการเหนื่อยง่าย หน้ามืด เป็นลมง่าย
อ่อนแรง และง่วงได้เช่นกัน
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก –นายกอิ๊งค์เปิดSummer
Festเที่ยวไทย7เดือนปั๊ม3.5ล้านล้าน
นางสาวแพทองธาร
ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
เป็นประธานพิธีเปิดเทศกาล Thailand Summer Festivals ช่วงเช้าวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นำเสนอความมหัศจรรย์การท่องเที่ยวเมืองไทยภายใต้แนวคิด
"7 Months 7 Wonders Summer Festivals" ชูจุดขาย
“เทศกาลใหญ่ : Grand Festivities”เชิญชวนท่องเที่ยวงานประเพณีในพื้นที่เมืองน่าเที่ยว 7 หมวด ได้แก่ 1.สงกรานต์ 2.Pride/ความหลากหลายทางเพศ 3.วัฒนธรรม 4.ดนตรี 5.มหกรรมกีฬา
6.อาหาร 7.ศิลปะและความคิดสร้างสรรค์
สามารถสร้างสีสันปลุกกระแสการท่องเที่ยวทั่วประเทศให้คึกคัก ปิดจุดอ่อนโลว์ซีซั่น
พร้อมจะสร้างสีสันท่องเที่ยวได้ต่อเนื่องตลอด 7 เดือน
ระหว่างมีนาคม-กันยายน 2568
@ททท.หวังหนุนรายได้ปี68เข้าเป้า 3.5ล้านล้าน
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า โครงการ Thailand Summer
Festival จะเสริมทัพความยิ่งใหญ่ เพิ่มสีสันแห่ง Grand
Festivities ขับเคลื่อนปี Amazing Thailand Grand Tourism
and Sports Year 2025 ตอกย้ำไทยเป็นหมุดหมายสำคัญแห่งการท่องเที่ยวของนักเดินทางทั่วโลก
สร้างรายได้เข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวตามเป้าหมายรวม 3.5 ล้านล้านบาท
วันนี้นายกรัฐมนตรีได้เปิดไฮไลต์
“Maha Songkran World Water Festival 2025”
บริเวณท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน 2568 เตรียมจัดกิจกรรมแห่คานิวัล 8 ขบวน สร้างความตื่นตาตื่นใจ และสนุกสนานให้ผู้เข้าร่วมงาน
ทั้งคนไทยและต่างชาติ
พร้อมทั้งเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวจัดยิ่งใหญ่
“งานเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 5 ภูมิภาค”
ยกระดับประเพณีสงกรานต์ไทยที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกก้าวสู่เทศกาลใหญ่ระดับโลกหรือ
World Event อย่างเป็นรูปธรรมให้โลกรู้ถึงประเพณีอันดีงามของเมืองไทย
@ก.ท่องเที่ยวกระตุ้นท่องเเที่ยวกิจกรรม 7 หมวดใหญ่
นายสรวงศ์
เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้ปี
2568 เป็นปี Amazing
Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ
คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัล จัดเต็มตลอด 7 เดือน ตั้งแต่มีนาคม
- กันยายน 2568
• เดือนมีนาคม เที่ยวสนุก 1.ชมการแข่งขันระดับโลก MOTO GP รายการ PT Grand Pix
of Thailand 2025 ที่บุรีรัมย์ ครั้งแรกที่ไทยเป็นเจ้าภาพสนามที่ 1 เปิดฤดูกาลการแข่งขัน 2.งานไหว้ครูมวยไทยโลก 3.เทศกาลว่าวนานาชาติปี 2568
และ 4.เทศกาลดนตรี Pattaya Music Festival 5.PELUPO
2025 ชลบุรี
• เดือนเมษายน ยกระดับสงกรานต์ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมจัด
Maha Songkran
World Water Festival 2025 วันที่ 11-15 เมษายน ที่ท้องสนามหลวง
และงานเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ทั่วประเทศ 5 ภูมิภาค
• เดือนพฤษภาคม เที่ยวอีเวนต์อาหาร ดนตรี
กีฬา และประเพณี ได้แก่ บุญบั้งไฟ จ.ยโสธร
งานโนราโรงครู จ.พัทลุง งานเทศกาลอาหาร จัด Amazing
Thailand Grand Taste จ.ชลบุรี
เทศกาลผลไม้และของดี จ.ระยอง เทศกาลดนตรี Music & Mutelu Festival จ.นครพนม
สนุกกับอีเวนต์กีฬา วิ่ง Bangsaen 10 จ.ชลบุรี
Amazean Jungle Thailand by UTMB 2025 จ.ยะลาSamui
Regatta จ.สุราษฎร์ธานี และ Thailand Super Series 2025 จ.บุรีรัมย์
• เดือนมิถุนายน ต้อนรับเดือนแห่ง Pride Month ในงาน River Pride of Bangkok 2025 และหลายพื้นที่พร้อมใจกันจัดกิจกรรม เช่น กรุงเทพ สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่
ชลบุรี ภูเก็ต
และงานสำคัญ Splash International Soft Power
Forum 2025 งานซอฟต์พาวเวอร์ฟอรัมสุดครีเอทีฟของไทย
• เดือนกรกฎาคม
เปิดโลกแห่งความเชื่อ
ศรัทธาตามวิถีถิ่นกับประเพณี
“แห่เทียนพรรษา” ใน
อุบลราชธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ รวมถึง แห่เทียนพรรษาทางน้ำ จ.พระนครศรีอยุธยา งานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช
จ.นครพนม
• เดือนสิงหาคม
เติมพลังสร้างสรรค์เที่ยวงานปลาร้า หมอลำ ขอนแก่น งานศิลปวัฒนธรรมอีสานโลก จ.มหาสารคาม Thailand Festival Experience ภาคตะวันออก
ความสุขแดนใต้ Southern Bliss จ.ชุมพร และเทศกาลดนตรี Summer
Sonic Bangkok 2025 และชมแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก FIVB
Women’s Volleyball World Championship ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
4 เมืองหลัก ภูเก็ต เชียงใหม่นครราชสีมา และกรุงเทพฯ
• เดือนกันยายน ด้วย Grand
Moment กับปรากฏการณ์พระอาทิตย์สาดแสงส่อง
15 ช่องประตู ที่อุทยานปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ ประเพณีแข่งขันเรือยาว จ.พิจิตร
อุ้มพระดำน้ำ จ.เพชรบูรณ์ ประเพณีตานก๋วยสลากในจังหวัดภาคเหนือ
สารทเดือนสิบในจังหวัดภาคใต้
และ"ครั้งหนึ่งในชีวิต วิ่งพิชิตดอยสุเทพ" Chiang Mai 22K
2025
ข่าวที่สอง –บินไทยแจงผลงานปี67/แผนปี’68-70/ใช้หมื่นล้านลงทุนMRO
การบินไทยแจงปี’67 รายได้รวม 1.87 แสนล้าน โต 16.7
% ยอดปิดงบการเงินสิ้นปีขาดทุน 2.69 หมื่นล้าน
14 มี.ค.เคาะตั้งกรรมการ 11-12 คน
โชว์แผนปรับขยายฝูงบิน 87 ลำ เดินหน้า MOU การบินกรุงเทพฯ ลงทุนใหม่ศูนย์ซ่อมเครื่อง MRO ใน EEC
เมื่อวันที่
26 กุมภาพันธ์ 2568 บริษัท
การบินไทย จำกัด (มหาชน) นำโดย นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์
ประธานกรรมการผู้บริหารแผนฯ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นายชาย เอี่ยมศิริ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายกรกฎ ชาตะสิงห์” นั่งประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์
ร่วมกันเปิดผลการดำเนินงานและตอบซักถามสื่อมวลชน ถึงผลการดำเนินงานการบินไทยปี 2567
และอนาคตการนำบริษัทออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ และอื่น ๆ
ตามรายละเอียดดังนี้
• มีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) เติบโตขึ้นต่อเนื่อง
187,989 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2566 ทำไว้
161,067 ล้านบาท เติบโต 16.7%
• มีกำไร จากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน
(ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 41,515 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 40,211 ล้านบาท เติบโต 3.2% โดยเฉพาะ กำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน
(ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) (EBIT Margin) ทำได้ 22.1%
ซึ่งดีกว่าประมาณการตามแผนฟื้นฟูกิจการ
• มีผลขาดทุน 26,901 ล้านบาท ตามงบการเงินปี
2567 เกิดจาก 1.ผลขาดทุนทางบัญชีที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากการแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ
45,271 ล้านบาท ซึ่งทำเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อพฤศจิกายนที่ผ่านมา
2.ผลขาดทุนทางบัญชีส่วนใหญ่ 40,582 ล้านบาท
เกิดจากการใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนของเจ้าหนี้ที่ราคาตามแผนฟื้นฟูกิจการซึ่งต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม
และส่วนที่เหลือมาจากการแปลงหนี้เป็นทุนของเจ้าหนี้ที่ได้รับการชำระหนี้ที่เร็วกว่ากำหนดที่ระบุไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการ
@14มี.ค.68ขอเสียงโหวตอนุมัติกรรมการเก่าใหม่11-12คน
• ขั้นตอนถัดไป
ที่ประชุมคณะผู้บริหารแผนดำเนินการเพื่อบรรลุเงื่อนไขผลสำเร็จของแผนฟื้นฟูกิจการข้อสุดท้าย
มีมติเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นซึ่งจะจัดขึ้นตามข้อกำหนดของแผนฟื้นฟูกิจการวันศุกร์ที่
18 เมษายน 2568 และกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมและออกเสียงในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
(Record Date) วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม 2568
เพื่อพิจารณาอนุมัติกำหนดจำนวนกรรมการบริษัท 11 หรือ 12 คน ประกอบด้วย
ส่วนที่ 1 กรรมการปัจจุบัน 3 คน ได้แก่
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร และพลอากาศเอก อำนาจ จีระมณีมัย
และกรรมการเข้าใหม่ 8 หรือ 9 (ตามแต่จำนวนกรรมการที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติอนุมัติ)
ส่วนที่
2 กรรมการเข้าใหม่ เตรียมเสนอรายชื่อต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาเลือกตั้งประกอบด้วย
กรรมการ 6 คน ได้แก่ นายลวรณ แสงสนิท ดร. กุลยา ตันติเตมิท
นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ พลตำรวจเอก ธัชชัย ปิตะนีละบุตร นายชาติชาย โรจน์รัตนางกูร
และนายชาย เอี่ยมศิริ
ส่วนที่
3 กรรมการอิสระอีก 3 คน ได้แก่
นายณปกรณ์ ธนสุวรรณเกษม นายยรรยง เดชภิรัตนมงคล และนายสัมฤทธิ์ สำเนียง
หลังจากบริษัทฯ
ได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นแล้ว
และได้รับอนุญาตจากศาลล้มละลายกลางแล้ว บริษัทฯ จะเดินหน้าจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงจำนวนกรรมการ
และแต่งตั้งจดทะเบียนกรรมการใหม่
ก่อนจะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอยกเลิกการฟื้นฟูกิจการต่อไป
@แผนขยายปรับฝูงบินตัวแปรหลักเพิ่มรายได้อนาคต
นายชาย
เอี่ยมศิริ กล่าวว่า ฝูงบินที่เช่าเพิ่มจะมาไตรมาส 2 ปี 2568
กระทบกับการผลิตไม่สูงเพียง 12 % เพราะรับมอบเครื่องล่าช้า ปีนี้จะรับมอบ 9 ลำ
ปลายไตรมาส 3 คือ A330 รวม 7 ลำ A321 และA
320 อย่างละ 1 ลำ เพื่อเพิ่มรายได้ตามโปรดักชั่นอีก 2 %
ส่วนการแข่งขันในตลาดช่วง 3 ปี ระหว่าง2568-2570
ในช่วงระยะสั้นการแข่งขันไม่รุนแรงและไม่ได้มาเร็วอย่างที่หลายฝ่ายตั้งคำถาม
เพราะมีข้อจำกัดเรื่องซัพพลายทั้งฝูงบิน การซ่อมบำรุง อะไหล่เครื่องบิน
“แผนขยายและปรับฝูงบิน”
ปลายปี 2568 การบินไทยจะมีเครื่องรวมทั้งหมด 87 ลำ ระหว่างปีจะมีเครื่องบินปลดประจำการ B777-200ER
แล้วมีเครื่องบินล็อตใหม่เข้ามาเพิ่มเข้ามาแทนที่
ล่าสุดได้นำฝูงบินล็อตแรกแอร์บัส A320 จำนวน 20 ลำ
ใส่เก้าอี้ Business ให้บริการผู้โดยสารต้องการต่อเครื่องไปยังภูมิภาคเอเชีย
ฝูงบินล็อตสอง ปรับปรุง B777-200ER 14
ลำอายุมากแล้ว “ฝูงบินใหม่ล็อตสาม” B777 มั่นใจจะใส่เก้าอี้ทันสมัย ระบบบริการบันเทิง (IFE) ห้องน้ำ แข่งขันกับสายการบินอื่นได้แน่นอน แล้วปลายปีนี้ยังจะมี แอร์บัส
A321neo เข้ามาเสริมทัพ สามารถปรับเก้าอี้นอนราบได้เทียบชั้นเครื่องลำตัวกว้างซึ่งบินได้ไกลกว่าแอร์บัส
A320 ด้วย
“นายกรกฎ
ชาตะสิงห์” กล่าวว่า
แผนส่งเสริมการตลาดจะเน้นการขายเครือข่ายเส้นทางบินเชื่อมโยงจุดบินมากขึ้น
ตอนนี้มีบริการ 64 เมือง 843 เที่ยว
เส้นทางบินจากไทยสู่ “สาธารณรัฐประชาชนจีน” จะเพิ่มความถี่ กวางเจา ปักกิ่ง จาก 7
เป็น 14 เที่ยว/สัปดาห์ “อินเดีย” มุมไม 11 เป็น 14 เที่ยว “ปากีสถาน”
กำลังเจรจาเพิ่มสิทธิการบินมากขึ้น และ“ยุโรป” มิวนิค จะเพิ่มจาก 7 เป็น 14 เที่ยว
@การบินไทยจ่อMOU
การบินกรุงเทพลงทุนศูนย์ซ่อมMRO
“แผนการลงทุนใหม่” นายชายยืนยัน เตรียมลงนาม MOU กับ บริษัท
การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันทำศูนย์ซ่อมเครื่องบิน (MRO) ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
ขณะนี้การบินไทยเตรียมเงินไว้ราว 10,000 ล้านบาท
เบื้องต้นได้คุยกับทางคณะผู้บริหาร EEC ไปบ้างแล้ว
ตามขั้นตอนทาง EEC จะต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
เสนอแนวทางบริหารจัดการพื้นที่ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้ “ผู้ประกอบการในไทย”
เข้าไปดำเนินการสร้างศูนย์ซ่อมเครื่องบิน
แล้วการบินไทยเป็นหนึ่งในผู้มีประสบการณ์ความสามารถ มีอุปกรณ์ ผู้เชี่ยวชาญทำได้
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง
สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น