“ดวงเด็ด ย้วยความดี”ผ่าตลาดทองเอ็กซิบิชั่น TCEB ปี’68
อีเวนต์คุณภาพระดับโลกเลือกมาไทยรายได้โต2.8หมื่นล้าน
มี.ค.-ธ.ค.จัด5ท็อปอีเวนต์เอเชีย-ผนึกTHACCAลุยงานอาร์ต
คิงเพาเวอร์คว้ารางวัล1st InnovateAzure&AIครั้งแรกของโลก
จัดไป!!คอลเลคชั่นใหม่ที่คิงเพาเวอร์แจกคูปองกินช้อปฟรี
ช้อปก่อนบินที่คิงเพาเวอร์ทั้ง“3 สนามบิน”มีส่วนลด10+10%
ททท.ควง40แบรนด์จัด“Grand Songkran-Privillages”ลด80%
บางจากปลื้มผ่านรับรอง“หัวจ่ายน้ำมันระดับสีเงิน”มากสุด
TCEBผนึกอิมแพ็ครุกตลาดไมซ์ปี’68โหมบริการใหม่ 3 ส่วน
สุขที่เที่ยวศูนย์ศิลปาชีพบางไทรโฉมใหม่ในอยุธยา 5 พิกัด
กินกระเจี๊ยบเขียวดีต่อสุขภาพกับสารพัดประโยชน์ 7 อย่าง
การบินไทย MOU 2 พันธมิตรรุกธุรกิจซ่อมบำรุงเครื่องบิน
ดุสิตบริหารเพิ่มแห่งใหม่รีสอร์ตหรูKaliwatu-Dusit Collection
วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #เที่ยวศูนย์ศิลปาชีพบางไทรโฉมใหม่
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/15k1JfhtL7/
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !! ดร.ดวงเด็ด
ย้วยความดี ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” ผ่าตลาดทองปี68
“เอ็กซิบิชั่น” ไทยเนื้อหอมในเวทีโลก ขึ้นแท่นเบอร์ 4 เอเชีย
ได้งานคุณภาพหลั่งไหลมาเพียบ มี.ค.-ก.ย.นี้ จัดใหญ่ 5 งานท็อปเอเชีย
ตั้งเป้ารายได้เกิน 28,000 ล้านบาท โตถึง 10 % มี 3 ปัจจัยหนุน
“นโยบายวีซ่า-บริโภคอุตสาหกรรมหลัก-เจ้าบ้านที่ดี”
นายดวงเด็ด ย้วยความดี ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดจัดงานการแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibition) ตั้งแต่มีนาคม 2568 เป็นต้นไปมีสัญญาณการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เริ่มจากสัปดาห์นี้มี VIV ASIA 2025 งานอุตสาหกรรมปศุสัตว์อันดับ 1 ของเอเชีย เมื่อ12–14 มีนาคม 2568 ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี ปีนี้ขยายพื้นที่จัดงานมากที่สุดถึง 75,000 ตรม.จากปกติ 50,000-60,000 ตรม.สะท้อนไทยมีศักยภาพจัดงานแสดงสินค้าเติบโตอย่างชัดเจน
ปี 2568 ไทยนำเอ็กซิบิชั่นติดอันดับ 4 ของเอเชีย โดยวัดจากขนาดพื้นที่จัดงาน ซึ่งไทยไม่อาจจะแข่งขันกับสาธารณรัฐประชาจีน หรือญี่ปุ่น ซึ่งจัดเมกะอีเวนต์ต่อเนื่อง แต่ทีเส็บใช้วิธี “จัดงานอย่างต่อเนื่อง” ตอนนี้ไทยมีพื้นที่จัดงานประมาณ 200,000 ตรม.ปี 2568 ถ้าผลักดันให้เติบโตโดยไทยตั้งเป้าความท้าทายจะเติบโตอีก 7-10 % เปรียบเทียบเชิงมูลค่าก็อาจจะชนะจีนได้ซึ่งจะโตเพียง 3 % และค่าเฉลี่ยตามมาตรฐานสมาคมการแสดงสินค้าโลก (UFI) ตั้งไว้ 3-5 % ทีเส็บเป็นทั้งองค์กรกลางไปดึงงานจากนานาชาติ ปีนี้ยังได้ปรับกลยุทธ์ 2 เรื่อง คือ
เรื่องที่ 1 จับมือทำให้พันธมิตรขยายตัวด้วย เช่น การจัดเอ็กซิบิชั่นด้านพลังงาน หรืองานความยั่งยืน ซึ่งจะต้องใช้เวลาเตรียมประมูลงาน 5-7 ปี ตอนนี้ทีเส็บออกไปคุยกับพันธมิตรช่วยชี้เป้าให้เห็นว่ามีงานสำคัญระดับโลกที่น่าสนใจควรดึงมาจัดในไทยในฐานะผู้รับผิดชอบคอนเทนท์โดยใช้ความชำนาญมาร่วมมือกัน เพื่อสร้างงานขนาดใหญ่ขึ้นผลักดันเอ็กซิบิชั่นมีโอกาสเติบโตสองหลักจึงทำได้ไม่ยาก
เรื่องที่ 2 วางแผนระยะยาวและบูรณาการงบประมาณให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
โดยจะต้องหารือกับทางสำนักงบประมาณ
นำเอ็กซิบิชั่นมาจัดในไทยเพิ่มขึ้นซึ่งปัจจุบันมีตลาดคุณภาพดีกว่าหรือปริมาณ
แล้วงานส่วนใหญ่เข้ามาจัดในไทยยังได้การรับรองมาตรฐานระดับสากลจากสมาคมการแสดงสินค้าโลก
(UFI Certiflies) ทำให้ไทยเป็นประเทศอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอันดับ 14 ของเอเชีย
ด้วยคุณภาพงานไมซ์ยังสะท้อนให้เห็นถึงไทยคือ “จุดหมายปลายทางไมซ์ด้านเอ็กซิบิชั่น”
มีกำลังการใช้จ่ายเงินมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 3 เท่า
ไทยจึงสร้างรายได้หมุนเวียนค่อนข้างดี
สถานการณ์ตั้งแต่มีนาคม 2568 เป็นต้นไป สล็อตของสถานที่จัดงานแสดงสินค้านานาชาติขนาดใหญ่ตอนนี้เต็มยาวเกือบทั้งหมด เช่น “อิมแพ็คเมืองทองธานี” เตรียมเปิดทางเชื่อมต่อบริการรถไฟฟ้าเข้าไปยังพื้นที่ ต่อไปผู้คนจะเลือกไปจัดงานเพิ่มขึ้นส่งผลต่อการ “ขยายจำนวน” เพิ่มตามไปด้วย
ปี 2568 ทีเส็บคาดการณ์แนวโน้ม “รายได้” ตลาดเอ็กซิบิชั่นมีมูลค่ารวมตามเป้าหมายประมาณ 28,000 ล้านบาท จากภาพรวมทั้งหมดตลอดปีตั้งไว้ 200,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1 % ของจีดีพีประเทศ โดยมีจำนวนนักเดินทางตลาดต่างชาติเพื่อเข้ามาร่วม “เอ็กซิบิชั่น” ในไทยสูงถึง 400,000 คน เติบโตขึ้นจากปี 2567 ไม่ต่ำกว่า 10 % ซึ่งมีผู้เดินทาง 300,000 คน ทำรายได้ไว้ 23,000 ล้านบาท
วิธีประเมินรายได้จาก “ไมซ์-เอ็กซิบิชั่น” ก่อนให้เกิดผลเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจที่มาจากทางตรง ทางอ้อม และต่อเนื่อง มีมูลค่ารวมปีละเกินกว่าแสนล้านบาท เบื้องต้นมาจาก 3 ส่วน ดังนี้
• ส่วนที่ 1 รายได้ทางตรง คำนวณจากคนเดินทางเข้ามาจองที่พักโรงแรม รับประทานอาหาร ใช้บริการที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
• ส่วนที่ 2 รายได้ทางอ้อม คำนวณจากการจับคู่ธุรกิจซื้อขายสินค้าระหว่างกัน แต่ละปีไทยมีงานแสดงสินค้านานาชาติประมาณ 150 งาน สามารถสร้างรายได้ทางอ้อมเกินกว่า 10,000 ล้านบาท/ปี
• ส่วนที่ 3 รายได้จากต่อยอดนำเทคโนโลยีที่ซื้อขายกันระหว่างงานเอ็กซิบิชั่นตลอดทั้งปี ไปพัฒนาธุรกิจ ซึ่งมีมูลค่าหลัก “แสนล้านบาท” ก็เป็นได้
สำหรับการจัดงานเอ็กซิบิชั่นตลาดต่างประเทศในไทยจะเติบโตเกินกว่า
10 % โดยได้รับแรงสนับสนุนจาก 3 ปัจจัยบวก ประกอบด้วย
ปัจจัยที่ 1 นโยบายลดขั้นตอนความซับซ้อนการขอวีซ่าเข้าไทย จึงทำให้มีงานเอ็กซิบิชั่นใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศระยะใกล้แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ปัจจัยที่ 2 ไทยเป็นประเทศผู้บริโภคอุตสาหกรรมหลักที่รัฐบาลส่งเสริม จึงเกิดดีมานต์หรือความต้องการสินค้าต่าง ๆ จึงมีนักเดินทางทางเทคโนโลยี เข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้ นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ
ปัจจัยที่ 3 ไทยเป็นประเทศเจ้าบ้านที่ดี มีอาหารการกินที่ดี การเดินทางสะดวก ปลอดภัย เป็นแรงดึงดูดให้ผู้จัดเอ็กซิบิชั่นและผู้เข้าร่วมชมงานสนใจเลือกมาเมืองไทย ปัจจุบันก่อนการจัดงานเอ็กซิบิชั่นจะมีการทำสำรวจก่อนทุกครั้ง โดยมีไทยติดอันดับต้น ๆ มาตลอด
ระหว่างเดือนมีนาคม -ธันวาคม 2568 ไทยได้รับความสนใจเป็นสถานที่จัดงานแสดงสินค้านานาชาติรายการใหญ่ ได้แก่
งานที่ 1 ProPak Asia 2025 วันที่ 11 - 14 มิถุนายน 2568 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เป็นศูนย์รวมงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีด้านกระบวนการผลิต แปรรูปและบรรจุภัณฑ์ อันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชีย ที่จะมีผู้ผลิตมาจัดแสดงเทคโนโลยีด้านกระบวนการผลิต แปรรูป และบรรจุภัณฑ์จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ภายในงานจะได้พบกับผู้ประกอบการกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการผลิตทั้งหลาย ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย กิจกรรมใหม่ ๆ มากมาย
งานที่ 2 THAIFEX - ANUGA ASIA 2025 วันที่ 27 - 31 พฤษภาคม 2568 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานีเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มขนาดใหญ่และครบวงจรที่สุดในเอเชีย เจ้าภาพหลักคือ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทย ร่วมกับ โคโลญเมสเซ่ เปิดเวทีให้ผู้เกี่ยวข้องนำเสนอนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มใหม่ ๆ ที่จะจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างผู้ผลิต ผู้ประกอบการและคู่ค้า สามารถค้นหาซัพพลายเออร์ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มแบบครบวงจร
งานที่ 3 METALEX 2025 เป็นงานแสดงสินค้าโลหะการ จัดวันที่ 19 - 22 พฤศจิกายน 2568 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เป็นมหกรรมการแสดงสินค้าเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีโลหการอันดับ 1 ของอาเซียน พร้อมจะนำเสนออุตสาหกรรมโลหะการมากกว่า 100,000 ราย โดยมีชิ้นงานระดับมาสเตอร์พีซจากผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเทคโนโลยี วัสดุอัจฉริยะและเทคโนโลยี AI จากทั่วโลกกว่า 3,000 แบรนด์
งานที่ 4 Medical Fair Thailand 2025 วันที่ 10 - 12 กันยายน 2568 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ นำเสนอความโดดเด่นด้วย แอปพลิเคชั่นเมดิคอล การใช้ AI วิเคราะห์นำไปสู่โซลูชั่นให้กับวงการแพทย์ ซึ่งจะทำให้ไทยมีศักยภาพในการรักษาสูงขึ้น และเป็นแหล่งรวมองค์ความรู้ต่าง ๆ ในงานยังจะเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ทางด้านการแพทย์ การดูแลสุขภาพระดับนานาชาติ ของอุตสาหกรรมด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพ โรงพยาบาล อุปกรณ์และเวชภัณฑ์เพื่อการวินิจฉัยและเภสัชกรรม การแพทย์ และเวชศาสตร์ฟื้นฟู เรื่อยไปจนถึงงานทางการแพทย์เชิงลึกอย่างงาน IBS เป็นงานเกี่ยวกับการเจริญพันธุ์ มีน้อยประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะได้รับเลือก ซึ่งสามารถไทยสามารถจัดงานเหล่านี้ได้
งานที่ 5 งานเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงต่าง
ๆ
ตอนนี้ไทยตื่นตัวกับการแสดงสินค้าหมวดนี้สูงมาก
แล้วก็ยังมีอีกหลากหลายงานตลอดทั้งปี
ดังนั้นการจัดงานแสดงสินค้าหรือเอ็กซิบิชั่นระดับนานาชาติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเมืองไทย จึงเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญในการผลักดันให้อุตสาหกรรมการผลิตนำเทคโนโลยีไปต่อยอดทำให้เกิดการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ผอ.ดวงเด็ด กล่าวว่าปี 2568 ทีมทีเส็บทุกภาคส่วนร่วมมือกันทำงานอย่างหนักเดินหน้าสนับสนุนคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ หรือ “THACCA” โดยได้ประสานงานและผลักดันการแสดงสินค้า 13 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ที่เกี่ยวข้องกับซอฟท์ พาวเวอร์ ตัวอย่าง
งานที่ 1 จัดแสดง Art Exhibition วางแผนจัดเอ็กซิบิชั่นขนาดใหญ่ดึงความร่วมมือกับนานาชาติเข้ามาเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อยกฐานะไทยเป็นประเทศศูนย์กลางของงานศิลปะสำคัญงานที่ 6 แห่งเอเชีย ปัจจุบันในมีอยู่แล้ว 5 งาน ที่เซี่ยงไฮ้ /สาธารณรัฐประชาชนจีน โตเกียว/ญี่ปุ่น โดยจะนำเสนอการออกศิลปะมูลค่าสูงซึ่งจะได้เห็นในไทยปี 2569 เป็นต้นไป
งานที่ 2 เกมส์
ส่งเสริมผู้ประกอบการสตาร์ตอัพของไทย
มีศักยภาพนำคอนเทนท์ได้การยอมรับและก้าวไปสู่ตลาดโลกได้
ทางทีเส็บจะจับมือกับกระทรวงที่เกี่ยว เช่น กระทรวงดิจิทัล และคณะกรรมการ
ส่งเสริมภาคเอกชนจัดงานอยู่แล้วเพิ่มขนาดงานให้ใหญ่ขึ้น
เพิ่มเวทีการจับคู่เจรจาธุรกิจกับธุรกิจ B to B
งานที่ 3 ผ้าไหมนานาชาติ
ร่วมกับมือกับทีเส็บสำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผู้คนชุมชนในพื้นที่
เพื่อสร้างสรรค์งานไหมให้เกิดขึ้น
ทางทีเส็บจะมีบทบาทในการกระจายการจัดงานซอฟท์
พาวเวอร์ 13 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ตามรูปแบบที่แตกต่างกันไป
ส่วนเอ็กซิบิชั่นจะเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่จะทำให้เกิดการซื้อขายจึงจะร่วมมือกับสมาคมการตลาดแบบครบวงจร
ผอ.ดวงเด็ดกล่าวว่า แรงดึงดูดงานเอ็กซิบิชั่นมาจัดในไทย ตลาดทั่วโลกจะมองจุดหมายปลายทางแถบเอเชีย ซึ่งมีไทยติดความต้องการ 1 ใน 5 ของทั่วโลก โดยมีความโดดเด่น 3 องค์ประกอบหลัก คือ
1.บุคลากรมีมาตรฐานสากลหรือ Global Standard ผ่านคอร์สต่างประเทศ เช่น การอบรมด้านเอ็กซิบิชั่น โดยสมาคมแสดงสินค้าสหรัฐอเมริกา หรือคอร์สจัดงานจากสมาคมการแสดงสินค้าโลก ซึ่งทีเส็บมี MICE Capibility ทำหน้าที่ส่งเสริมการอบรมตั้งแต่ระดับเยาวชนขึ้นไป มีผู้ผ่านการระดับสากล 1 ใน 3 ของเอเชีย แล้วไทยยังมีมาตรฐานที่พัก ร้านอาหารมิชลิน ที่ดี และปลอดภัย
2.กำลังซื้อภายในประเทศที่มาจัดงาน เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมนั้น ๆ ซึ่งไทยมีกลยุทธ์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ แล้วยังมีซอฟท์ พาวเวอร์ ด้วย
3.ไทยมีอุตสาหกรรมหลายอย่างเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เป็นผลมาจากนโยบายการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการผลิตชิพหรือแผงวงจรครบวงจร จึงดึงดูดอุตสาหกรรมการผลิตเข้ามาตั้งโรงงานในไทยมากขึ้น และมีมาตรฐานจัดงานระดับสากล ส่งเสริมอุตสาหกรรม และบุคลากรที่มีความพร้อม
สำหรับ “พื้นที่จัดงานไมซ์ดาวรุ่ง” ที่ได้รับนิยมให้เป็นจุดหมายปลายทางจัดเอ็กบิชั่นของโลก คือ 10 MICE City กระจายจากส่วนกลางในกรุงเทพฯ สู่ภูมิภาค อย่างเป็นระบบขึ้นอยู่ความต้องการของผู้จัดงานและศักยภาพพื้นที่ ไฮไลต์ แห่งที่ 1 ภูเก็ต มีความเป็นเมืองทางเมดิคัล ฮับ และการเดินทางเข้าถึงทางเครื่องบินตรงเข้าสู่พื้นที่ได้ทันที แห่งที่ 2 พัทยา เมื่อท่าอากาศยานอู่ตะเภา มีรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งนักเดินทางตรงเข้าพื้นที่ได้ทันที แห่งที่ 3 เชียงใหม่ มีเที่ยวบินเชื่อมต่อกระจายสู่ต่างประเทศเติบโตเร็วมาก แห่งที่ 4 ขอนแก่น
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์คว้ารางวัล1st
InnovateAzure&AIครั้งแรกของโลก
คิง เพาเวอร์ คว้ารางวัล “1st
Innovate with Azure Open AI and SAP in Thailand” จากไมโครซอฟท์ ครั้งแรกของโลกด้วยการ Azure OpenAi
มาประยุกต์เข้า SAP เพิ่มประสิทธิภาพระบบการทำงาน
ดร.ลิสา พัทธ์วิวัฒน์ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านดิจิทัล
และคุณเชิงชาย เรืองฤทธิ์
รองประธานเจ้าหน้าที่สายงานโครงสร้างทางเทคโนโลยีและปฏิบัติการ บริษัท คิง
เพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด รับรางวัล “1st Innovate with Azure OpenAI and
SAP in Thailand” เป็นครั้งแรกของโลกในการนำ Azure OpenAI มาประยุกต์ใช้กับระบบ
SAP เพื่อแก้ไขปัญหาที่พบในระบบ
และพัฒนาโซลูชันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
ความสำเร็จของคิง เพาเวอร์ ครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือระหว่าง The Able by King Power หน่วยธุรกิจด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ภายใต้การบริหารร่วมกัน 3 องค์กร ระหว่าง บริษัท คิง เพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท ไมโครซอฟท์
(ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เพ็ตตาไบท์ จำกัด
สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ ในการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้พัฒนาธุรกิจ
และสร้างคุณค่าในยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจาก คุณภักดี อัญญะกมล
รองกรรมการผู้จัดการสายงานกลุ่มลูกค้าองค์กร และกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม บริษัท
ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้มอบรางวัล
คิง เพาเวอร์ รางน้ำ สร้าความภาคภูมิใจให้ทุกคน
ข่าวที่ 2
-จัดไป!!คอลเลคชั่นใหม่ที่คิงเพาเวอร์แจกคูปองกินช้อปฟรี
คิง
เพาเวอร์
จัดเต็ม NEW
ARRIVAL FOR MARCH คอลเลคชั่นใหม่มาแรง ที่จะทำให้คุณต้องร้องว้าว!
พบกับไอเทมสุดฮอตที่ใครๆ ก็ต้องมี รีบมาช้อปก่อนใคร อยู่ที่ไหนก็ช้อปได้สะดวกสบาย
ช้อปเลยวันนี้ที่คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ วันนี้ -31 มีนาคม 2568
สินค้าเข้าใหม่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
ทั้งน้ำหอม เครื่องสำอาง สกินแคร์ แว่นตา นาฬิกาและอื่นๆอีกมาก อย่ารอช้า
ต้องรีบกดก่อนของขาดตลาด และรอรับสินค้าง่ายๆที่สนามบิน
Online
Special Offer สะสมยอดช้อปออนไลน์สูงสุดตลอดทั้งเดือนมีนาคมนี้
ฟรีที่
1
! คูปองส่วนลดอาหารโอมากาเสะใช้ที่ ห้องอาหารญี่ปุ่น Tenko Omakase ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ รวม Top Spender ทั้งหมดจำนวน
25 รางวัล
รางวัลที่
1
- 5 คูปองส่วนลดอาหารมูลค่า 2,900 รับฟรี 1
รางวัล/ 2 คน
รางวัลที่
6
- 25 คูปองส่วนลดอาหารมูลค่า 1,690 รับฟรี 1
รางวัล/ 1 คน
ฟรีที่
2
! The Coral Lounge Voucher มูลค่า 1,000 บาท เมื่อช้อปครบ 15,000 บาท ช้อปออนไลน์: 1
วันนี้- 31 มีนาคม 2568
•
สินค้า
Duty-Free
สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าที่สนามบิน
•
แบ่งชำระ
0%
นานสูงสุดถึง 6 เดือน
•
รับเครดิตเงินคืนสูงสุด
18,000
บาท
•
ฟรี!
ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง (ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
•
รับเลย!
ส่วนลด 800 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์
•
รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก
คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท (สุทธิ)
ข่าวที่ 3-ช้อปก่อนบินคิงเพาเวอร์“สุวรรณภูมิ-ภูเก็ต-เชียงใหม่”ลด10+10%
คิง
เพาเวอร์ แนะนำช้อปก่อนอันดับแรกเมื่อเที่ยวบินจะ Take Off ต้อง Shop First!! ตั้งแต่วันนี้– 31 มีนาคม 2568 ในร้านค้าของคิง เพาเวอร์ 3 สนามบิน สุวรรณภูมิ เชียงใหม่
“ช้อป”
น้ำหอม เครื่องสำอาง ดิวตี้ ฟรี ลดให้ไม่มีกั๊ก 10% เป็นสมาชิกฯ ลดเพิ่มอีกสูงสุด 10%
เริ่มต้นที่
คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
• ลูกค้าชาวไทย
ลดคุ้มสุด 10%
• สมาชิก
คิง เพาเวอร์
• ลดเพิ่ม
ON-TOP 5% เมื่อช้อปครบ 10,000
บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
• ลดเพิ่ม
ON-TOP 7% เมื่อช้อปครบ 20,000
บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
• ลดเพิ่ม
ON-TOP 10% เมื่อช้อปครบ 30,000
บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
หรือจะช้อปที่อีก 2 สนามบิน คิง เพาเวอร์
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และภูเก็ต
• ลูกค้าชาวไทย
ลุดคุ้มสุด 10%
• สมาชิก
คิง เพาเวอร์
• ลดเพิ่ม
ON-TOP 5% เมื่อช้อปครบ 5,000
บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
• ลดเพิ่ม
ON-TOP 10% เมื่อช้อปครบ 10,000
บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
ข่าวที่
4-ททท.ควง40แบรนด์จัด“Grand Songkran-Privillages”ลด80%
ททท.ผนึก
40 แบรนด์ชั้นนำในไทยลุยจัด “Grand Songkran
Grand Privileges” ดึงต่างชาติเที่ยวไทย ตลอด เม.ย.68 แจกกระจายส่วนลด 80 % ห้าง สปา ร้านอาหาร สวนสนุก
ลุ้นรางวัล “ตั๋วบินฟรี” ในไทย เร่งกระตุ้นรายได้ปี68 เข้าเป้า
3.5 ล้านล้านบาท
นางสาวภัทรอนงค์
ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.กับตัวแทนผู้ประกอบการแบรนด์ชั้นนำ ร่วมแถลงจัด “Grand
Songkran Grand Privileges” โปรโมชั่นพิเศษต้อนรับสงกรานต์กระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางและใช้จ่ายเงินเที่ยวเมืองไทยตลอดเดือนเมษายน
2568 ทำได้ตามเป้าหมาย 39 ล้านคน สร้างรายได้ 3.5
ล้านล้านบาท ขานรับปี “Amazing Thailand Grand Tourism and
Sports Year 2025”
ททท. ได้ทำแคมเปญทางการตลาด (Grand Privilege) ด้วยแนวคิด “2 BY
4 Global Campaign Amazing Month campaign” โดยจะมอบประสบการณ์เหนือระดับและสิทธิประโยชน์ให้นักท่องเที่ยว
เดือนเมษายน ภายใต้ “Grand Songkran Grand Privileges”
เป็นกิจกรรมประจำเดือนเมษายน ด้วยวิธีร่วมกับพันธมิตรผู้ประกอบการแบรนด์ชั้นนำให้สิทธิพิเศษมากมายเจาะกลุ่มหลักตลาดครอบครัว
(Hidden Gem & Family)
สอดคล้องกับประเพณีของคนไทยในครอบครัวจะรวมตัวพบปะกันช่วงสงกรานต์
การจัดกิจกรรม
“Grand Songkran Grand Privileges” ททท.เดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรผู้ประกอบการแบรนด์ชั้นนำกว่า
40 ราย ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้จ่ายผ่านส่วนลดด้วยสิทธิพิเศษกว่า 60 ดีล มูลค่าลดสูงสุดถึง
80 % กับธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ห้างสรรพสินค้า
ร้านอาหาร สวนสนุก การคมนาคม สปา ร้านสะดวกซื้อ ร้านของที่ระลึก เมื่อเดินทางไปหรือกลับจากสนามบินจะโค้ดลดราคาส่วนลด
นำไปใช้รถเช่าราคาสุดพิเศษ รับแก้วลายสงกรานต์ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ Amazing
Thailand จากเต่าบิน และอื่น ๆ
รวมทั้งเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยรับความพิเศษอันประทับใจอีกหลากหลาย
ได้แก่
• ความประทับใจที่
1 ลุ้นรางวัลเพื่อรับของที่ระลึกที่นำเสนอความเป็นไทยเข้ากับบรรยากาศสงกรานต์ตลอดเดือนเมษายน
นี้ ตรงเคาน์เตอร์กิจกรรมใน 4 สนามบิน ได้แก่ สุวรรณภูมิ
ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต
พิเศษ
! ลุ้นรับรางวัลใหญ่ ตั๋วเครื่องบินในประเทศจากสายการบินชั้นนำวันละ
6 รางวัล ตลอดเมษายนนี้ ลุ้นได้ทุกวันอาทิตย์ในคอนเซ็ปต์ Sunday
Special
• ประทับใจที่
2 ร่วมกิจกรรม Post and Share ถ่ายทอดความประทับใจหลังการเดินทางพร้อมใส่แฮชแท็ก
#grandsongkrangrandprivileges และ #amazingthailand ลุ้นรับแพ็กเกจท่องเที่ยว ตั๋วเครื่องบินพร้อมห้องพักกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกครั้ง
นักท่องเที่ยวลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษเพื่อเก็บดีลจาก Splash Box เปิดบริการ 20 มีนาคม 2568 เป็นต้นไปได้ทางเว็บไซต์ www.grandsongkrangranprivilege.com เพื่อใช้ดีลสิทธิพิเศษได้ตั้งแต่1
– 30 เมษายน 2568
ข่าวที่ 5-บางจากปลื้มผ่านรับรอง“หัวจ่ายน้ำมันระดับสีเงิน”มากสุด
นายเสรี
อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากผ่านการรับรอง
"หัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน" ระดับสีเงิน จากโครงการของกรมการค้าภายใน
กระทรวงพาณิชย์ ทำให้เป็น “แบรนด์สถานีบริการน้ำมัน” ที่ได้รับการรับรองจำนวนมากที่สุด
ตั้งเป้าหมายเพื่อรักษามาตรฐานในการให้บริการสถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศ
บางจากได้ให้ความสำคัญกับมาตรฐานของสถานีบริการน้ำมันมาโดยตลอด
เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจถึงคุณภาพการใช้พลังงานดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
ด้วยการได้ใช้น้ำมันถูกต้องตามมาตรฐาน ซึ่งทางบางจากได้เข้าร่วมโครงการ
‘หัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน’ ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพราะเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยรักษามาตรฐานสถานีบริการน้ำมันบางจาก
เพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนผู้เข้าใช้บริการมีความมั่นใจเติมน้ำมันจากสถานีบริการน้ำมันบางจากมากยิ่งขึ้นต่อไป
ข่าวที่ 6-TCEBผนึกอิมแพ็ครุกตลาดไมซ์ปี’68โหมบริการใหม่ 3 ส่วน
TCEB รวมพลังกับอิมแพ็คเมืองทองธานี
กระตุ้นตลาดไมซ์ปี’68 นำเสนอบริการใหม่ 3 ส่วน “ทางเชื่อมรถไฟฟ้าสีชมพู-สมาร์ท ซิตี้-ขยายโรงแรมหมื่นห้อง”
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ปี 2568 ทีเส็บกับอิมแพ็คเมืองทองธานี ผนึกความร่วมือกันขานรับตลาดไมซ์สอดคล้องตามเป้าหมายนำรายได้ทางตรงเข้าประเทศตลอดปีนี้ไม่ต่ำกว่า
2 แสนล้านบาท จากจำนวนนักเดินทางไม่ต่ำกว่า 34 ล้านคน
ขณะนี้อิมแพ็คเมืองทองธานี
ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำบริการสถานที่งานไมซ์ระดับนานาชาติเคียงข้างอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศมาตลอด
ได้ขับเคลื่อนสิ่งอำนวยความสะดวกซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักรองรับตลาดไมซ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
3 ส่วน ประกอบด้วย
ส่วนที่
1 ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานแผนพัฒนาการลงทุน “สมาร์ท
ซิตี้” เพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย
สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้บริการทั้งตลาดคนไทยและต่างชาติ
ส่วนที่
2 เดินหน้าโครงการ Sky Entrance หรือสะพานเชื่อมต่อระหว่างระบบรางรถไฟฟ้าสีชมพูเข้าสู่เมืองทองธานี
เริ่มเดือนพฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป
แล้วทีเส็บก็ได้นำโครงการดังกล่าวไปอัพเดทในงาน UFI CEO Forum 2025 เรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่พร้อมอำนวยความสะดวกให้นักเดินทางตอบโจทย์การจัดงานไมซ์อย่างยั่งยืน
ส่วนที่
3 สร้างโรงแรมที่พักระดับ 4-5 ดาว
มีจำนวนห้องพักร่วมกันกว่า 1,000 ห้อง กำหนดจะแล้วเสร็จปี 2571
ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนยกระดับอิมแพ็คเมืองทองธานีเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของโลก
(Worldclass Tourism Destination) ที่มีบริการครบวงจร และพร้อมจะร่วมกับทีเส็บขยายตลาดไมซ์ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก
ช่วงที่ 2 ไปเที่ยว
“ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรโฉมใหม่” ที่พระนครศรีอยุธยาด้วยกัน กับ 5 พิกัด หมู่บ้านไทย ศาลาพระมิ่งขวัญ/แหล่งศิลปหัตถกรรม
ไหว้เจ้าแม่กวนอิมพันพระหัตถ์ วังปลา สวนนก ดูแลสุขภาพด้วย “การกินกระเจี๊ยบเขียว”
ได้ประโยชน์ 7 อย่าง และเกาะติดข่าวเด่น ข่าวแรก “การบินไทย”
เปิด MOU 2 พันมิตร ลุยธุรกิจศูนย์ซ่อมเครื่องบิน ข่าวที่สอง
“ดุสิต” นำแบรนด์บริหารรีสอร์ตใหม่ Kaliwatu-Dusit Collection ที่โคโดโม เมืองกิ่งก่ายักษ์ อินโดนีเซีย
ท่องเที่ยว –สุขที่เที่ยวศูนย์ศิลปาชีพบางไทรโฉมใหม่ในอยุธยา
5 พิกัด
เที่ยวใกล้
เที่ยวง่าย สุขทันทีที่เที่ยว “ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร”
(ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร เดิม) ต.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดให้นักท่องเที่ยวแวะเข้าชมได้แล้วในพื้นที่เขียวขจีเกือบ 1,000 ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจัดทำเป็นสวนหย่อมและพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี
ตั้งแต่ปี
2568 เป็นต้นไป เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรีทุกวัน
ตั้งแต่ 08.30 – 16.30 น. ปักหมุดชมไฮไลต์ 5 พิกัด
• พิกัดที่
1 หมู่บ้านศิลปาชีพ 4 ภาค เดินชมสถาปัตยกรรมบ้านทรงไทย ฉายภาพให้เห็นถึงบ้านเรือนความเป็นอยู่ของผู้คนในแต่ละภูมิภาค
แต่ละภาคนำเสนอหัตกรรมของท้องถิ่นต่าง ๆ
• พิกัดที่
2 ศาลาพระมิ่งขวัญ ละลานตากับนิทรรศการ
เล่าเรื่องสืบสานงานศิลปหัตถกรรม และผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมงานฝีมือ
หนึ่งเอกลักษณ์เสน่ห์ไทยหรือ ซอฟท์ พาวเวอร์ ที่มีคุณค่าและมูลค่า
ในอาคารมีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศาร และชั้นล่างจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ
เชิญชวนนักท่องท่องเที่ยวกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เปิดให้ชมวันธรรมดา 9.00-17.00 น. วันหยุด 9.00-18.00 น.
• พิกัดที่
3 สวนนก โซนธรรมชาติที่มีนกประจำถิ่นของไทยกว่า 100 ชนิด อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมกึ่งสวนป่าใกล้เคียงธรรมชาติ
• พิกัดที่
4 แวะเข้าไปสักการะบูชาพระโพธิสัตว์กวนอิมพันพระหัตถ์
นายถู เจี๋ย
ศิลปินแกะสลักไม้ จากสถาบันแกะสลัก สูง 6 เมตร ประดิษฐานอยู่ในศูนย์ศิลปาชีพ
บางไทร เปิดให้ประชาชนที่เลื่อมพระโพธิสัตว์กวนอิมได้มากราบไหว้บูชาได้ทุกวันตั้งแต่
09.00-17.00 น.
• พิกัดที่
5 วังปลา เป็นสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ เป็นอะควาเรียมจัดแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดประจำถิ่นทั้งเล็กและใหญ่ให้ชมจำนวนมาก
รวมทั้งมีนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และเรื่องราวเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำที่มีประโยชน์อย่างมากกับนักท่องเที่ยวทุกวัย
ศูนย์แห่งนี้สร้างขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
เปิดเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2527
เพื่อฝึกอบรมงานช่างฝีมือและศิลปะไทยแก่ประชาชนในพื้นที่
เพิ่มรายได้พร้อมรักษางานศิลป์ไทยให้คงอยู่สืบไป
สุขภาพ –กินกระเจี๊ยบเขียวดีต่อสุขภาพกับสารพัดประโยชน์
7 อย่าง
กระเจี๊ยบเขียว หนึ่งในพืชสมุนไพรท้องถิ่นอุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ
และสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย การบริโภคกระเจี๊ยบเขียวเป็นประจำ
ช่วยส่งผลดีต่อสุขภาพ คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานมาก การรับประทานสดๆ
นำไปประกอบอาหารต่างๆ สารพัดเมนูรสชาติดี แถมอัดแน่นด้วยประโยชน์
7 อย่าง
1.
ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน และคนที่กำลังควบคุมน้ำตาล-น้ำหนัก
2.
ลดอาการท้องผูก
เพราะมีเมือกที่ช่วยให้อุจจาระอ่อนตัวขึ้น และยังมีใยอาหารที่ดีต่อการขับถ่าย
3.
ลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย
4.
ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกระเพาะอาหาร
เยื่อบุกระเพาะอาหารอักเสบ และลำอักเสบได้
5.
ใครที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอยู่แล้ว
การทานกระเจี๊ยบเขียวพร้อมเมือกเหนียวๆ ใสๆ
จะช่วยเข้าไปเคลือบแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย
6.
ฝักกระเจี๊ยบต้มเกลืออ่อนๆ
สามารถแก้อาการกรดไหลย้อนได้
7.
มีโฟเลตสูง
ช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง และเป็นสิ่งจำเป็นต่อพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์
ดังนั้นจึงเหมาะกับหญิงมีครรภ์
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก –การบินไทยMOU2พันธมิตรรุกธุรกิจซ่อมบำรุงเครื่องบิน
นายเชิดพันธ์
โชติคุณ ประธานเจ้าหน้าที่สายช่าง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
นำการบินไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการ “พัฒนาธุรกิจด้านการซ่อมบำรุงชิ้นส่วนอากาศยาน” ที่สายช่างการบินไทย
สุวรรณภูมิ กับพันธมิตร 2 บริษัท คือ นายกรกฤช จุฬางกูร
ประธานบริหาร ซัมมิท กรุ๊ป ในนามบริษัท ซัมมิท เลนโซ่ จำกัด และ นายตติย มีเมศกุล
นายกสมาคมอุตสาหกรรมอากาศยานไทย
การบินไทยมุ่งมั่นจะยกระดับขีดความสามารถอุตสาหกรรมการซ่อมบำรุงอากาศยาน
ด้านการซ่อมและการผลิตชิ้นส่วนอากาศยานของไทย เช่น ชิ้นส่วนภายในห้องโดยสาร
เพื่อรองรับอุตสาหกรรมการบินของประเทศเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีผู้ประกอบการในประเทศที่มีศักยภาพซ่อมและผลิตที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับในระดับสากล
หากไทยมีสิ่งแวดล้อม Ecosystem การซ่อมบำรุงอากาศยานที่ดี จะส่งผลดีเรื่องต้นทุน
ทำให้ผู้ประกอบการสายการบินต่าง ๆ ในไทยมีต้นทุนการใช้จ่ายเงินอย่างเหมาะสม แล้วยังเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในระดับโลกได้ด้วย
ทั้ง
3 พันธมิตร คือ
การบินไทย บริษัท ซัมมิท เลนโซ่ จำกัด และสมาคมอุตสาหกรรมอากาศยานไทย จะเดินหน้าร่วมมือกัน
ศึกษา วิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการพัฒนาบุคลากร องค์ความรู้ การพัฒนาขีดความสามารถ
กระบวนการรับรองมาตรฐานในระดับสากล และการนำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ดำเนินธุรกิจ
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านอุตสาหกรรมการบิน การซ่อมและการผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน
ของประเทศให้โดดเด่นมากขึ้น
จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะยกระดับอุตสาหกรรมการบินในไทยด้านการซ่อม
การผลิต การบริการ แบบครบวงจร รองรับอุตสาหกรรมการบินไทยและทั่วโลกเติบโต
ช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศ สนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติก้าวสู่ศูนย์กลางการบินของภูมิภาค
การสร้างความสามารถทางการแข่งขัน แล้วยังได้พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ควบคู่กันไปได้ด้วย
ข่าวที่สอง
–ดุสิตบริหารเพิ่มใหม่รีสอร์ตหรูKaliwatu-Dusit Collection
ดุสิต
อินเตอร์เนชั่นแนล
หนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมชั้นนำของไทย ได้ลงนามข้อตกลงกับ บริษัท
พีที โคโมโด พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนท์ เข้าบริหารจัดการโรงแรม “Kaliwatu
Residences – Dusit Collection” รีสอร์ทหรูแห่งใหม่สุดพิเศษ
โดยใช้แบรนด์ “ดุสิต คอลเลคชั่น” บริหารเป็นครั้งแรกใน ลาบวนบาโจ เกาะฟลอเรส ในอินโดนีเซีย
ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่มีการท่องเที่ยวเติบโตเร็วที่สุด เดินหน้าสานต่อความสำเร็จ
Elite Havens บริษัทในเครือในฐานะผู้บริการวิลล่าหรูให้เช่าอันดับ
1 ของภูมิภาค ขณะนี้ได้บริการโรงแรมต่าง ๆ ในบาหลี และลอมบอก
อินโดนีเซีย อยู่แล้ว
Kaliwatu
Residences – Dusit Collection ตั้งอยู่บนปลายสุดด้านตะวันตกของเกาะโฟลเรส
ห่างจากสนามบินนานาชาติโคโมโดและเมืองบาดโจอันมีชีวิตชีวา และมีเสียงโด่งดังเป็นประตูสู่สวนสาธารณะแห่งชาติโคโมโด
ขึ้นชื่อเรื่องมังกรโคโมโดในตำนาน รวมถึงเป็นแหล่งดำน้ำระดับโลก ใช้เวลาขับรถเพียง
10 นาที รีสอร์ตหรูแห่งนี้พร้อมจะมอบการพักผ่อนอันเงียบสงบในบรรยากาศเนินเขาส่วนตัว
รายล้อมด้วยความงามทางธรรมชาติ และมีทิวทัศน์ทะเลแบบพาโนรามาสุดตระการตา
โครงการรีสอร์ตหรูแห่งนี้ได้พัฒนาต่อเนื่องกำหนดแล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการได้ตั้งแต่ไตรมาส
2 ปี 2571 ภายในประกเอบด้วย
• ส่วนที่
1 วิลล่าส่วนตัวกว้างขวางและตกแต่งอย่างดี 63 หลัง พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว
• ส่วนที่
2 อพาร์ทเมนต์ร่วมสมัย 194 ยูนิต
• ส่วนที่
3 สิ่งอำนวยความสะดวก มีทั้ง คลับเฮาส์ที่มีร้านอาหาร
บาร์ ร้านค้า ห้องออกกำลังกาย สปา และสระว่ายน้ำบนดาดฟ้า
สำหรับแบรนด์
Dusit Collection ซึ่งเป็นโรงแรมและเรสซิเดนซ์หรูในทำเลโดดเด่น เน้นผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมร่วมสมัยอันทันสมัยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์และมาตรฐานของยุโรป
วิลล่าแต่ละหลังได้รับการออกแบบรูปทรงและทำเลที่ตั้งอย่างพิถีพิถันสร้างเอกลักษณ์ให้กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติได้อย่างลงตัว
มอบประสบการณ์พิเศษสุด ๆ ให้แขกผู้เข้าพักจะได้ดื่มด่ำความหรูหราอย่างเต็มที่
เหนือกว่าบริการหรูหรา
รีสอร์ตแห่งนี้ยังมอบการเข้าถึงจุดขายเด่น ๆ 6 อย่าง ได้แก่ 1.แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของลาบวนบาโจอย่างสะดวกสบาย
2.ชายหาดสีชมพูอันน่าทึ่ง 3.ถ้ำใต้ดินที่น่าตื่นตาตื่นใจ
น้ำตกที่ไหลลดหลั่นระดับกันไป 4.เส้นทางเดินป่าอันมหัศจรรย์ 5.จุดชมวิวแบบพาโนรามา 6.การพบปะกับมังกรโคโมโด หรือเจ้ากิ้งก่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ภายในอุทยานแห่งชาติโคโมโดเลื่องชื่อ
ส่วน
“ลาบวนบาโจ”
ได้การยอมรับว่าเอกลักษณ์เด่นสุดคือมีสัตว์ป่าและสภาพแวดล้อมทางทะเลอันบริสุทธิ์
และได้รับยกย่องให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในอินโดนีเซีย 5 อันดับแรก ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากปีละ 1.5
ล้านคน
โดยได้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง
แล้วล่าสุดยังได้อัพเกรดสนามบินนานาชาติโคโมโด เดือนมีนาคม 2568 จะมีเที่ยวบินตรงใหม่หลายประเทศเปิดบริการเพิ่มด้วย
ได้แก่ กัวลาลัมเปอร์ (มาเลเซีย) สิงคโปร์
ส่วนเที่ยวบินเมืองเพิร์ธ ออสเตรเลีย เพิ่งเปิดบินเมื่อเร็ว
ๆ นี้ จึงสามารถช่วยยกระดับสถานะของลาบวนบาโจให้เป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำทั้งทางด้านการพักผ่อนและการผจญภัย
@COOดุสิตชูแบรนด์หรูอัตลักษณ์ไทยในลาบวนบาโจ
มร.จิลล์
ครีทัลลาซ เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล
เปิดเผยว่า การเซ็นสัญญากับ Kaliwatu
Residences – Dusit Collection ถือเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์การขยายตัวของดุสิต
และเสริมความแข็งแกร่งในตลาดโรงแรมระดับหรูในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเติบโต
โดยเฉพาะลาบวนบาโจเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ธรรมดาและมีศักยภาพมหาศาล
เรายินดีจะเปิดตัวบริการหรูหราอันเป็นเอกลักษณ์ของดุสิตในทำเลที่สวยงามแห่งนี้
โครงการนี้ได้สะท้อนถึงทุกสิ่งที่ดุสิตยึดมั่นพัฒนาธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็นความหรูหราสุดประณีต ความอุดมสมบูรณ์ทางวัฒนธรรม
ความมุ่งมั่นสร้างคุณค่าให้ชุมชนได้กว้างขึ้น เราชาวดุสิตจึงหวังจะได้มอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับแขกของเราทุกคนมีความสุขตลอดการพักผ่อนทุกครั้ง
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น