วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2568

บพท.-ธนาคารโลกประสานเสียงแนะรัฐปลดล็อกยุทธศาสตร์ชายแดนไทย

 

บพท.กับธนาคารโลก เปิดรายงานแผนยุทธศาสตร์เมืองชายแดนไทยถึงเวลาต้องปลดล็อกเศรษฐกิจให้โต

บพท.เปิดรายงานชี้เป้ารัฐปลดล็อกศักยภาพชายแดนไทย

ธนาคารโลกยัน31จังหวัดที่ตั้งดีแนะใช้กลไกแก้เศรษฐกิจ

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #บพท #ปลดล็อกศักยภาพชายแดนไทย

บพท.เปิดรายงานเชิงนโยบายเผยแผนยุทธศาสตร์ ธนาคารโลกยันผลศึกษา 31 จังหวัด ที่ตั้งดีแต่เศรษฐกิจโตช้า ชี้เป้าภาครัฐ ผนึกกำลังเร่ง “ปลดล็อกศักยภาพชายแดนไทย ใช้ “ประตู” ขยายการค้า การลงทุน สร้างเศรษฐกิจเติบโตยั่งยืน

ดร.สีลาภรณ์ บัวสาย ประธานคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาการขับเคลื่อนวิทยสถาน “ธัชภูมิ”  เปิดเผยว่า หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมมือกับธนาคารโลก ได้นำเสนอผลรายงานเชิงนโยบายล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 โดยชี้ถึงพื้นที่ชายแดนไทยมีศักยภาพขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เป็นประตูสู่การค้าและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน สร้างรายได้เติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืน

ทาง บพท. ได้เล็งเห็นปัญหาการพัฒนาพื้นที่เมืองชายแดน ถึงแม้จะไม่สามารถกำกับนโยบายของประเทศอื่นได้ แต่ไทยจะทำได้คือทำให้พื้นที่เมืองชายแดนเป็นพื้นที่ที่กระจายความเจริญพอที่จะสร้างศูนย์กลางความเจริญไปสู่ภูมิภาคได้ อันเป็นที่มาของ “โครงการวิจัยการพัฒนาพื้นที่เมืองชายแดนให้เติบโตอย่างยั่งยืน” เกี่ยวกับการจัดการปัญหาที่ซับซ้อนและความต้องการระบบ Area base Approach นำมาสร้างกลไกการจัดการเสริมการทำงานแบบ Function base ด้วยวิธีหลัก ๆ ดังนี้



@เปิดรายงานบพท.แนะรัฐปลดล็อกยุทธศาสตร์ชายแดนไทย

1.สร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานให้ได้ความรู้ ข้อมูล จะทำให้เกิด “การมองเป้าที่ชัดเจนและจัดลำดับความสำคัญ” ในการแก้ไขปัญหา และจะจัดการปัญหาให้ตรงจุดที่เกิดขึ้นอยู่ตรงไหน

2.มีกลไกจัดลำดับวิธีต้องปฏิบัติ ทั้งระดับนโยบายและพื้นที่

โดยมีความเชื่อมั่นเรื่องความร่วมมือระหว่างหน่วยงานจะ “สร้างการเปลี่ยนแปลง” ให้แต่ละพื้นที่ได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นการสร้างความร่วมมือเพื่อทำให้ประเทศไทยแก้ไขปัญหาที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนร่วมกันได้ จากกลไกการจัดการความร่วมมือโดยใช้ความรู้ และข้อมูล ได้อย่างยั่งยืนต่อไป



@ธนาคารโลกยันผลศึกษา31จังหวัดเศรษฐกิจโตช้ามาก

นายสตีเวน รูบินยิ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงสาธารณภัยธนาคารโลก กล่าวว่า การพัฒนาพื้นที่ชายแดน มุ่งเน้นมากกว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะสามารถยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตประชาชนได้ด้วย การพัฒนาชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพต้องดำเนินการแบบองค์รวม โดยปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา และการบริหารจัดการ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญปลดล็อกศักยภาพชายแดนไทย

ตามผลการศึกษาชี้ถึงพื้นที่ชายแดนของไทยใน 31 จังหวัด ถึงแม้จะได้เปรียบจากตำแหน่งที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ แต่เศรษฐกิจในพื้นที่กลับเติบโตอัตราช้า ไม่เหมาะสมกับศักยภาพทางภูมิศาสตร์ โดยรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรในพื้นที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศถึง 34 % อีกทั้ง “แรงงานในพื้นที่” ส่วนใหญ่ทำงานในภาคการเกษตร ส่วน “แรงงานในอุตสาหกรรม” ที่มูลค่าสูง เช่น อุตสาหกรรมการผลิต มีเพียง 12%

“ภาคเศรษฐกิจสำคัญ” ที่นำมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ “ภาคเหนือและอีสาน” คือ ภาคเกษตร ส่วน “ภาคใต้” โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา แม้ประชากรจะประกอบอาชีพหลากหลายและมีฐานทางเศรษฐกิจมั่นคงกว่า แต่ยังคงตามหลังภูมิภาคอื่นของประเทศเช่นกัน

 


@ชำแหละความจริงการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ 10 จังหวัด

ผลจากรายงานฉบับนี้ระบุแนวทางปลดล็อกอุปสรรคและปัญหาเป็นข้อเสนอแนะให้นำไปปฏิบัติดังนี้

ส่วนที่ 1 การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zones: SEZs) ในพื้นที่ชายแดน 10 จังหวัด ไม่ได้ผลตามที่ตั้งเป้าไว้ทั้งหมด เขตเศรษฐกิจพิเศษบางจังหวัด เช่น สงขลาและสระแก้ว ได้ใช้จุดที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ได้เปรียบ เพื่อขยายตลาดและดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ แต่ในพื้นที่ชายแดนอื่น ๆ ยังประสบความท้าทายเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดนอย่างต่อเนื่อง

เช่น ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน ปัญหาด้านกฎหมายและระเบียบที่ไม่สอดคล้องกัน ขาดแคลนแรงงาน  โดยได้นำเสนอกรณีศึกษา5 จังหวัดหลัก ได้แก่ เชียงราย สงขลา สระแก้ว หนองคาย และมุกดาหาร

หากเขตเศรษฐกิจพิเศษใน 5 จังหวัดข้างต้น ได้รับการเยียวยาและพัฒนาอย่างเพียงพอ จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เติบโตแบบก้าวกระโดดได้

ส่วนที่ 2 จากการศึกษาพื้นที่เชิงลึกพบว่า “จังหวัดมุกดาหาร” มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี มี GPP ต่อหัวระหว่างปี 2554-2563 เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 4% แล้วยังได้เปรียบ “ทำเลที่ตั้ง” อยู่ติดกับแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ซึ่งมีประชากรหนาแน่น แม้จะมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง

แต่ในกรณีศึกษามุกดาหารกลับได้คะแนนต่ำสุดจาก 5 จังหวัดเนื่องจากอัตราการย้ายถิ่นฐานที่สูง สัดส่วนประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้น การพึ่งพาแรงงานข้ามชาติ และโอกาสทางการศึกษาขั้นสูงมีจำกัด

แม้ประชากรในมุกดาหารครึ่งหนึ่งจะอาศัยอยู่ในเขตเมือง แต่ไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมหรือเศรษฐกิจที่สอดคล้องกัน

“จังหวัดสงขลา” เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในอาเซียน มีจุดผ่านแดนรองรับการเดินทาง สถิติปี 2565 มีจำนวนเกือบ 7 ล้านครั้ง มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 878,000 ล้านบาท มีโครงสร้างเศรษฐกิจหลากหลาย ในกรณีศึกษาส่งผลให้สงขลาได้รับคะแนนสูงสุดจาก 5 จังหวัด

แต่สงขลาประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เพราะข้อจำกัดด้านวีซ่าและทักษะที่ไม่ตรงต่อความต้องการตลาด โครงสร้างพื้นฐานยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ เช่น ท่าเรือน้ำลึก และระบบรางเดี่ยว รวมถึงกระบวนการรับรองมาตรฐานอาหารฮาลาลที่ซับซ้อน

@ชี้เป้าใช้เมืองชายเป็นประตูขยายการค้า-การลงทุนใหม่

ดังนั้น “กลยุทธ์การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ” เหล่านี้ ควรเน้นนำศักยภาพในพื้นที่ที่มีจุดผ่านแดนระหว่างประเทศ ซึ่งเป็น “ประตู” การค้าการลงทุน แหล่งท่องเที่ยว และแหล่งส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตร มายกระดับพัฒนาให้สอดคล้องกับความเหมาะสม ควบคู่กับเดินหน้าแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า ทั้งด้านคุณภาพของแรงงานที่ยังมีช่องว่างทางทักษะ การขาดโครงสร้างพื้นฐานในบางพื้นที่ การบูรณาการทำงานและวางนโยบายของหน่วยงานต่าง ๆ ให้เอื้อต่อการค้าอย่างเต็มที่

และมีข้อแนะนำเพิ่มเติมให้ “ภาครัฐ” ควรจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายพัฒนาพื้นที่ชายแดนเพื่อบริหารจัดการกลยุทธ์การลงทุนและประสานความร่วมมือด้านนโยบายให้ได้ประโยชน์สูงสุด นำไปสู่การส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านกระตุ้นการค้าระหว่างกัน และการบรรจุจังหวัดชายแดนไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจระดับชาติและภูมิภาค เพื่อให้ไทยใช้เป็นกุญแจสำคัญสู่อนาคตที่มั่งคั่งและยั่งยืน

รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุน ด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กล่าวว่า ภูมิภาคจะเจริญเติบโตอย่างเดียวไม่พอ ไทยจำเป็นต้องเห็นการเติบโตซึ่งเป็นรั้วของชาติทำให้เมืองชายแดนมีคุณภาพมากขึ้น จึงควรยกระดับ “กลไกการพัฒนาพื้นที่” พร้อมกับร่วมกันสร้างยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่และเมืองชายแดนครอบคลุมในแต่ละมิติและทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ผลักดันแผนพัฒนาพื้นที่เมืองชายแดน สร้างโอกาสการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานแบบใหม่ของคนในพื้นที่เมืองชายแดนเทียบเท่าคนในเมือง จึงจะสามารถปลดล็อกเศรษฐกิจ สังคม เติบโตได้อย่างแท้จริง

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วันดี เผื่อนอุดม ททท.ลุยขายเที่ยวมี.ค.-เม.ย.ุ68 นคนายก ปราจีน สระแก้ว

  วันดี เผื่อนอุดม ผอ.ททท.สำนักงานนครนายก   เปิดพื้นที่เที่ยวเต็มพิกัด  3  จังหวัด “นครนายก-ปราจีนบุรี” “วันดี เผื่อนอุดม” นำททท.ลุยขายเที่ย...