TCEBยึดวิจัยนำไมซ์ปี’68ฝ่ากระแสท้าทายครอง4ตลาดใหญ่
“อินเดีย-จีน-BRICS-อาเซียน”แหล่งรายได้ดันเศรษฐกิจไทย
เม.ย.-มิ.ย.68เมกะไมซ์ขนาด1หมื่น-3แสนคนพร้อมจัด 6งาน
คิงเพาเวอร์“รางน้ำ-วันแบงค็อก-มหานคร-ศรีวารี”ลด20-50%
พัทยาแซงทุกโลเคชั่น-ภูเก็ตสุดคูลช้อปครบหมื่นลดสุด4พัน
ช้อปคิงเพาเวอร์“GET READY WITH PRE-TRIP” ลด
20%
ททท.ชูหนังโฆษณาใหม่ดึงใบเฟิร์นปลุก“สุขทันที ที่เที่ยวไทย”
CEOกลุ่มบางจากยึดเวทีโลกWEFดึงการบินใช้โมเดล SAF
TCEBหนุนจัด
WITS2025 ดันขอนแก่นสู่“เวิลด์ คราฟท์ ซิตี้”
สุขทันทีที่เที่ยว“เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี”ไปเที่ยวได้ทำงานด้วย
5 วิธีง่ายๆ ดูแลสุขภาพรับมือกับช่วงอากาศเปลี่ยนบ่อยๆ
นายกฯอิ๊งถกTHACCAดันซอฟท์เพาเวอร์ไทยฮับศิลปะโลก
บันยันทรีเรสซิเดนซ์ โอเชี่ยนนัสโปรเจกต์ใหม่หรูสุดในภูเก็ต
วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !! “จิรุตถ์ อิศรางกูร
ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ใช้ผลวิจัยใส่เกียร์ลุยตลาดไมซ์ปี’68
ฝ่ากระแสความท้าทายโลกทรัมป์ 2.0 ครองไมซ์อินเตอร์ 4 ตลาด “จีน-อินเดีย-BRICs-อาเซียน” ใส่เกียร์ลุย
“ไมซ์ตลาดต่างประเทศ” เม.ย.-มิ.ย.นี้ ขนาด 10,000-300,000 คน
6 งาน “ตลาดในประเทศ” จัดกระหึ่ม 4 งาน
พร้อมสานต่อเมกะไมซ์ที่เลือกจัดในไทยอีก 4 งาน ระหว่างปี’69-70
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมไมซ์ของไทยมีความท้าทายท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงปี 2568 ซึ่งมีเหตุการณ์ด้านต่างประเทศน่าสนใจเกี่ยวกับนโยบายของทรัมป์ 2.0 กระทบกับบรรยากาศของกลุ่มนักเดินทางไมซ์ ทางทีเส็บได้นำผลวิจัยตลาดไมซ์ปี 2568 มาวิเคราะห์เพื่อรับมือกับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาโอกาสทางรายได้ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง “ไมซ์มูลค่าสูง : High Value Addes MICE Destination ครอบคลุมทั้งความมั่นคงทางอาหาร นวัตกรรมเทคสุขภาพ และ ซอฟท์ พาวเวอร์เชิงสร้างสรรค์ ซึ่งไทยยังสามารถครองความนิยม 4 ตลาด ประกอบด้วย
ตลาดแรก “สาธารณรัฐประชาชนจีน” ขณะนี้โครงสร้างของสภาพเศรษฐกิจภายในจีนไม่ได้คล่องตัวเหมือนเดิม จึงส่งผลทำให้คนชั้นกลาง ข้าราชการ ชะลอการจัดงานประชุม (Meeting) ซึ่งจะมีผลกระทบกับไมซ์ 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.จำนวนนักเดินทางลดลง 2.วันพักเฉลี่ยลดลง 3.หน่วยงานจีนเลือกไปจัดในญี่ปุ่น เวียดนาม มากขึ้น จากแรงดึงดูดด้านอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินเย็นและเงินดองกับเงินหยวนมีสัญญาณที่ดี กับค่าใช้จ่ายด้านอาหาร ที่พัก การจัดอีเวนต์ ราคาถูกลง เปรียบเทียบตอนนี้แตกต่างจากเงินบาทของไทยสูงกว่าสองประเทศดังกล่าว
ภาพรวมตลอดปี 2568 ไมซ์จีนเดินทางมาไทยยังคงมีสัญญาณเพิ่มขึ้น 6 % หรือมากกว่า 400,000 คน ใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 60,000 บาท/คน/ทริป สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 24,600 ล้านบาท
เนื่องจากไทยยังสามารถรักษาตลาดไมซ์จีนกลุ่มจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibition) ยังลงทุนเข้ามาจัดในไทยอย่างต่อเนื่อง ทางทีเส็บได้หารือกับผู้ประกอบการเอกชนพลิกสถานการณ์เป็นเชิงบวกโดยเร็ว 2 เรื่อง
เรื่องที่ 1 เพิ่มเที่ยวบินตรงเข้าสู่จังหวัดที่มีความพร้อมเป็นคอร์ปอเรตเพิ่มจำนวนการจัดแสดงสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น
เรื่องที่ 2 ขยายฐานสู่ตลาดประชุมขนาดใหญ่ระดับนานาชาติหรือ Convention กับองค์กรที่มีเครือข่ายธุรกิจจำนวนมาก (corporate)
ตลาดที่สอง “อินเดีย” ยังมีสัญญาณที่ดีมากกับไทยมีแนวโน้มเป็นตลาดศักยภาพสูง ได้ปัจจัยสนับสนุนจากเที่ยวบินตรงไป-กลับ ระหว่างอินเดียมายังไทยรวมตลอดทั้งปีมีกว่า 3 ล้านที่นั่ง สถิติปี 2567 อินเดียมาไทยกว่า 2.3 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มนักเดินทางไมซ์ประมาณ 200,000 คน ตามผลวิจัยปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีก 50 % ซึ่งได้รับอานิสงจากนโยบายวีซ่าฟรีของรัฐบาลไทย โดยมีตลาดใหญ่คือกลุ่มที่ได้รับรางวัลการเดินทาง (incentive)
ตลอดปี
2568 นักเดินทางไมซ์ตลาดอินเดียจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5
% หรือเพิ่มกว่า 240,000 คน สร้างรายได้เกือบ 15,000
ล้านบาท
ตลาดที่ 3 กลุ่มเศรษฐกิจ BRICS เชื่อมโยงกับไมซ์อินเดียมาไทย กลุ่มนี้มีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึงปีละ 42,000 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมจะจัดการประชุมนานาชาติ (International Convention) ปีละกว่า 200 งาน กับเครือข่ายสมาชิกรวม 9 ประเทศ ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้ เอธิโอเปีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ อิหร่าน ปี 2568 ไทยมีโอกาสเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนความร่วมมือของกลุ่มดังกล่าว
ตลาดที่ 4 อาเซียน อันดับต้น ๆ เป็นกลุ่มอินเซ็นทีฟ จาก มาเลเซีย อินโดนีเซีย ที่มีนักเดินทางไมซ์จากธุรกิจขายตรง พลังงาน
แล้วทีเส็บยังได้ประสานนำงานไมซ์นานาชาติขนาดใหญ่เข้ามาจัดในเมืองไทย มีจำนวนผู้เข้าร่วมแต่ละงานหมื่นคนขึ้นไป ระหว่างเมษายน-มิถุนายน 2568 ขับเคลื่อน “ตลาดไมซ์ต่างประเทศ” ขนาดผู้ร่วมงานละ 10,000 -300,000 คน รวม 6 งาน ประกอบด้วย
• เดือนเมษายน 2568 มี 1 งาน International Diabetes Federation (IDF) World Diabetes Congress 2025 จะเป็นครั้งแรกการจัดประชุมนี้ขึ้นในภูมิภาคอาเซียน ขนาดผู้เข้าร่วมงาน 10,000 คน
• เดือนพฤษภาคม 2568 มี 3 รายการ ได้แก่ 1.ร่วมเทรดโชว์สำคัญรายการใหญ่ IMEX Frankfurt 2025 ทีเส็บจะนำผู้ประกอบการไทยไปทำการตลาด/เจรจาธุรกิจงาน 2.งาน Asia Pacific Life Insurance Congress (APLIC 2025) การสัมมนาสุดยิ่งใหญ่ของกลุ่มตัวแทนประกันชีวิต และที่ปรึกษาการเงินแห่งเอเชียแปซิฟิก ขนาด 10,000 คน 3.THAIFEX-Anuga Asia 2025 งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของเอเชีย ขนาด 85,000 คน
• เดือนมิถุนายน 2568 มี 2 งาน ได้แก่ 1.จัด TIME 2025 : Thailand Innovative Meetings Exchange ของตลาด ประชุมและอินเซ็นทีฟ (MI) มีทั้งมิติแฟมทริป สร้างประสบการณ์ให้ผู้ซื้อกลุ่มตลาดนี้ทั้งคอร์ปอเรตและเอเย่นต์ จับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไมซ์ไทย และจัดคอนเฟอเรนซ์ 2.งาน Isan Creative Festival 202-5 งานเทศกาลอีสานเชื่อมโยงทุนทางวัฒนธรรมและทรัพยากรธรรมชาติด้วยความคิดสร้างสรรค์ ขนาด300,000 คน มีทั้งการจับคู่ธุรกิจ และประชาชนทั่วไปเข้าชมงาน
“ตลาดไมซ์ในประเทศ” มีกิจกรรมการตลาดสำคัญที่จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกระจายไปยังท้องถิ่นทั่วประเทศ ระหว่างเมษายน-พฤษภาคม 2568 รวม 4 งาน ประกอบด้วย
• เดือนเมษายน 2568 มี 2 งาน ได้แก่ 1.งาน MICE Day 2025 เป็นไฮไลต์แห่งปีที่จะรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของชาวไมซ์กว่า 700-800 คน จัดวันที่ 25 เมษายน ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี เดินหน้าสร้างโอกาสขยายเครือข่ายธุรกิจ เชื่อมโยงผู้นำในวงการไมซ์ อัปเดตนวัตกรรมไมซ์ที่ยั่งยืน นำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชันล่าสุด จัดพิธีมอบตราสัญลักษณ์ MICE VENUE STANDARDS 2.งาน TMX 2025 เป็นงานไมซ์ เทรดโชว์ กระตุ้นตลาดในประเทศ ร่วมกับสมาคมไมซ์ เช่น สมาคมจัดการแสดงสินค้า (TEA) และอื่น ๆ
• เดือนพฤษภาคม 2568 มี 2 งานใหญ่ ได้แก่ งานแรก จับคู่จัดงานใหญ่ MICE Bazaar และ MICE City Summit ที่เกาะสมุย ระหว่าง 6 - 8 พฤษภาคม นี้ เน้นแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระดับผู้บริหารทั้งภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการในหน่วยงานภาคีระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์เมืองไมซ์ซิตี้ และเมืองที่มีศักยภาพจากทั่วไทยมารวมตัวกัน
งานที่ 2 ทาง DMICE ของทีเส็บ เตรียมเปิดตัวแคมเปญ “ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย ซีซัน 2” ในเดือนพฤษภาคม 2568 เชิญชวนชาวออฟฟิศจัดกิจกรรมหรือประชุมนอกสถานที่ เปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั่วเมืองไทย
นายจิรุตถ์ กล่าวว่า ได้มุ่งเน้นสานต่อภารกิจต่อเนื่องขับเคลื่อนดึงงานมาแล้ว เป็นไฮไลต์ระดับโลกที่ทยอยจัดระหว่างปี 2569-2570 อีก 4 งาน ได้แก่ งานแรก “มหกรรมพืชสวนโลก 2569 จังหวัดอุดรธานี” รวม 134 วัน ระหว่าง 1 พฤศจิกายน 2569 - 14 มีนาคม 2570 คาดจะมีผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 3,677,556 คน กระตุ้นการใช้จ่าย และขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 20,150.88 ล้านบาท
งานที่สอง Gastech Exhibition & Conference หรืองาน Gastech 2026 งานประชุมเชิงวิชาการและนิทรรศการนานาชาติด้านพลังงานและก๊าซธรรมชาติใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก คาดจะมีคนเดินทางมาร่วมกว่า 40,000 คน สร้างรายได้ 2,640 ล้านบาท เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีกกว่า 4,560 ล้านบาท
งานที่สาม
UFI Asia Pacific Conference 2026 จะเป็นเวทีให้ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนาจใน
การตัดสินใจจากวงการอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าทั่วโลกมาร่วมมือกัน โดยคาดการประชุมฯ ในไทยจะมีผู้ร่วมกว่า 200 คน สร้างรายได้ 13.2 ล้านบาท
งานที่สี่ 2026 Annual Meetings of the International Monetary Fund and the World Bank Group เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลกซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการทำงานร่วมกับกระทรวงการคลัง
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์“รางน้ำ-วันแบงค็อก-มหานคร-ศรีวารี”20-50%
คิง
เพาเวอร์ เปิดมหกรรม “โปรดี ดิวตี้ ฟรี ใกล้ฉัน” ช้อปฟินซัมเมอร์ วันนี้-31 มีนาคม 2568 ย่านกลางเมือง “รางน้ำ-ซิตี้ บูทีค/วัน แบงค็อก-มหานคร-ศรีวารี” ดังนี้
จุดที่
1 “ช้อปในเมือง ย่านอนุสาวรีย์” ที่สาขาหลัก “คิง เพาเวอร์
รางน้ำ” ใจกลางเมือง ได้จัดเตรียมคูปองไว้ให้สายช้อปทุกคนด้วยส่วนลดมูลค่า 2,000 บาท เมื่อเลือกซื้อสินค้าครบ
10,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ ให้สิทธิ์ถึงคนละ 2 ใบ /วัน หรือรวมแล้วไม่เกิน 4,000 บาท
จุดที่
2 “ช้อปโปรดี”
แบบมีสไตล์ ที่ “ONE
BANGKOK : คิง เพาเวอร์ ซิตี บูทีค”
โซนพาเหรด ชั้น 1-2
ระดมร้านค้าที่นำสินค้าร่วมรายการสร้างความสนุกสนานด้วยการมอบดีลสุด
“เอ็กซ์คลูซิฟลดสูงสุด 30%”
พิเศษ
!! สมาชิก คิง เพาเวอร์
รับฟรี รางวัลสะสมคะแนนได้ทันที 500 กะรัต เพียงแค่ช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับคนละ 1 สิทธิ์ /วัน
จัดที่
3 “สายออฟฟิศ ช้อปติดแกลม” ที่ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ที่ชั้น 2-3 นำแบรนด์โดน ๆ
เข้าร่วมรายการเสิร์ฟดีลฮ็อตรับซัมเมอร์ ลดสูงสุด 30%
พิเศษ
! สมาชิก คิง เพาเวอร์
ฮ็อตได้อีก เพียงแค่ช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
รับเพิ่มคะแนนสะสม 500 กะรัต “เสิร์ฟดีลฟรี” สมัครง่ายรับคุ้ม ฟรีสถานะสมาชิก คิง
เพาเวอร์ NAVY (จากปกติเติมเงินเข้าบัญชี 1,000 บาท)
จุดที่
4 “ช้อปใหญ่ที่สุด” ย่านบางนา ที่ “คิง เพาเวอร์ ศรีวารี”
ใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จัดมหกรรมครั้งใหญ่จริงลดสูงสุด 50 %
ข่าวที่ 2 -พัทยาแซงทุกโลเคชั่น-ภูเก็ตสุดคูลช้อปครบหมื่นลดสุด4พัน
คิง เพาเวอร์ นำดิวตี้ฟรี
ในเมืองท่องเที่ยวลดแบบไม่ต้องลังเลในการช้อป 2 แห่ง
แห่งที่ 1 “คิง เพาเวอร์ พัทยา” “โปรแรง
แซงทุกโลเคชั่น” ขยายความสุขช้อปสุดคุ้มต่อเนื่องเต็มคาราเบลลดครั้งใหญ่เช่นกันสูงสุด
50%
เมืองท่องเที่ยวริมชายหาดช้อปได้ท่องเที่ยวด้วยแบบฟิน ๆ
พิเศษ!
สมาชิก คิง เพาเวอร์ ลด ON-TOP
สูงสุด 20% ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ รับฟรี! 22-23,
29-30 มีนาคม 2568 แจกคูปองส่วนลด 1,500 บาท เมื่อช้อปครบ 4,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
แห่งที่ 2 คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต เปิดมหกรรม “ช้อปสุดคุ้ม ดีลสุดฮอต” กับไอเท็มสุดคูล!
เพียงแค่ช้อปให้ครบเพียง 10,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับคูปองส่วนลดรวม 4,000 บาท และรับคูปองส่วนลดมูลค่า 2,000 บาท สมาชิก คิง
เพาเวอร์ NAVY สมัครฟรี! พร้อมรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย
รับเพิ่มทันทีทุกการช้อปด้วยส่วนลดตามหน้าบัตรอีก 5%
ข่าวที่ 3-ช้อปคิง เพาเวอร์“GET READY WITH PRE-TRIP”ลด 20%
คิง เพาเวอร์
จับมือกับธนาคารพันธมิตร มอบโปรโมชั่น “GET READY WITH PRE-TRIP OFFERS” ให้ผู้ถือบัตรเครดิต หรือเดบิต
ธนาคารที่ร่วมรายการ เมื่อมีไฟลต์บินอยู่ในมือแล้วกดซื้อสินค้าไอเทมฮ็อตแบรนด์ฮิต
ทุกการช้อปที่ “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์”ผ่านช่องทาง เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น แล้วจ่ายเงินค่าสินค้าต่าง ๆ ผ่านบัตรดังกล่าวตามกติกา “ช้อปคุ้ม”
ต้องกดใช้ 2 Code รับส่วนลดสูงสุด 20% ได้แก่
• CODE 1: 20MAR25
พิเศษ! บัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ลดเพิ่มทันที 400 บาท
• CODE
2 : รับส่วนลดตามสิทธิ์ ของบัตรเครดิต หรือเดบิต
ธนาคารที่ร่วมรายการ ซึ่งแต่ละบัตรของแต่ละธนาคารจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป
• แบ่งจ่าย 0 %
“คิง เพาเวอร์” ยังให้สิทธิ์นักช้อปเลือกแบ่งจ่ายกับทางธนาคารพันธมิตรแบบ 0 % ได้นานสูงสุดถึง 6 เดือน และรับคุ้มเครดิตเงินคืนสูงสุด 16,500 บาท
ข่าวที่ 4-ททท.ชูหนังโฆษณาใหม่ดึงใบเฟิร์นปลุก“สุขทันที
ที่เที่ยวไทย”
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รุเปิดเผยว่า ททท.
เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ในแคมเปญ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” ชูกลยุทธ์การตลาดเซเลบริตี้โดยได้เลือก
“ใบเฟิร์น : พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” อินฟลูเอนเซอร์ดังมาเป็นพรีเซนเตอร์
ส่งมอบการท่องเที่ยวอันน่าประทับใจหรือ Grand Moment ปลุกกระแสคนทั้งประเทศเชิญชวนคนที่รักออกไปรักษ์เมืองไทยตลอดปี
2568 เพราะการท่องเที่ยวเป็นวิธีสร้างความสุขแบบฉุกเฉินที่ดีที่สุดจึงพร้อมนำเสนอในสไตล์
มิวสิค แคมเปญ ด้วยเพลง “เมืองไทยน่ารัก จังเลยครับ” สอดแทรกเนื้อหาการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible
Tourism) นำไปสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ททท. วางแผนประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าว ผ่านสื่อต่าง ๆ ทุกช่องทางออฟไลน์และช่องออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
เพื่อสร้างการรับรู้เป็นวงกว้าง
ปลุกกระแสให้เกิดการออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศตลอดปี 2568
กระตุ้นนักท่องเที่ยวเลือกใช้สินค้าและบริการจากผู้ประกอบการไทย และเปิดประสบการณ์ใหม่ด้านท่องเที่ยวอันน่าประทับใจเพิ่มการใช้จ่ายเงินมากขึ้นสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตั้งแต่ชุมชนท้องถิ่น
ตามพื้นที่เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว จุดพลังปี Amazing
Thailand Grand Tourism And Sports Year 2025 ให้คึกคักมากขึ้นตลอดทั้งปี
ภาพยนตร์โฆษณาชุด “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” ททท.
ได้ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางอันน่าประทับใจนำแสดงโดย “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก”
ดารา-นักแสดงชื่อดังของเมืองไทยได้รับความนิยมระดับประเทศและอินเตอร์ มีผู้ติดตามผ่านโซเชียล
มีเดีย รวมกว่า 30 ล้านคน ช่องทาง Instagram, Facebook, Youtube และ Weibo เดินหน้ากลยุทธ์การสื่อสารด้วยการนำเพลงน่ารักทำนองคุ้นหูที่ทุกคนจดจำได้
อย่างเพลง “แฟนผมน่ารัก” มาใช้และปรับเนื้อร้องใหม่ เป็น “เมืองไทยน่ารัก
จังเลยครับ”
เนื้อหาได้บรรยายถึงความสวยงามน่าเที่ยวของเมืองไทย ช่วยตอกย้ำแคมเปญสุขทันที
ที่เที่ยวไทย และสร้างภาพจำการท่องเที่ยวไทยอันสวยงาม เปี่ยมด้วยความสุข
ความสนุกและชวน “คนที่เรารัก” ออกไป “รักษ์” เมืองไทย
ด้วยแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ทำให้การท่องเที่ยวสื่อถึงความสุข รอยยิ้ม
การใช้เวลาร่วมกัน การดูแลใส่ใจ คน สิ่งแวดล้อม ชุมชน เพราะ ความสุขของคนที่เรารักไม่สามารถประเมินค่าได้
การเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “สุขทันที
ที่เที่ยวไทย” เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ที่ เดอะ สโตเรย์ สแควร์ ชั้น G ตึก วัน แบงค็อก โดย
ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ เป็นประธานนำเสนอรายละเอียด
โดยมีผู้บริหาร ททท.เข้าร่วม คือ นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด นายกิตติพงษ์
ประพัฒน์ทอง รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา
ข่าวที่
5 -CEOกลุ่มบางจากยึดเวทีโลกWEFดึงการบินใช้โมเดลSAF
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับเชิญร่วมการประชุม WEF
Aviation Day 2025 เวทีโลก ที่ เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม (Wolrd
Economic Forum :WEF) จัดขึ้นที่เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เป็นการรวมตัวของผู้นำอุตสาหกรรมการบิน
สนามบิน ผู้ให้บริการพลังงาน ผู้กำหนดนโยบาย และสถาบันการเงิน เพื่อหารือแนวทาง “ลดการปล่อยคาร์บอนภาคการบิน”
และเร่งพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainabl Aviation Fuel :SAF)
ภายในงานได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับบทบาทของ SAF ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินสู่เป้าหมาย Net
Zero ภายในปี 2593 (ค.ศ. 2050) โดยเน้นความจำเป็นเร่งขยายกำลังการผลิต SAF ควบคู่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนและการสนับสนุนเชิงนโยบายเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นรูปธรรม
แล้วยังได้หารือถึงแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการบินภายใต้แนวคิด Airports
of Tomorrow มุ่งเน้นออกแบบสนามบินให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งปัจจุบันและอนาคตได้
นายชัยวัฒน์ได้ร่วมหารือ
พร้อมสะท้อนมุมมองและนำเสนอข้อเสนอแนะจากประสบการณ์ของกลุ่มบริษัทบางจาก
ในฐานะผู้ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) รายแรกและรายเดียวในเมืองไทยที่สามารถผลิต SAF บริสุทธิ์ 100% จากน้ำมันใช้แล้วจากการปรุงอาหารผ่านหน่วยผลิตเฉพาะ
ได้การรับรองตามมาตรฐานสากล พร้อมเริ่มดำเนินการผลิตและจำหน่ายตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2568 เป็นต้นไป
และได้ย้ำเน้นถึงกลุ่มบางจากมีความมุ่งมั่นผลักดันการใช้ SAF ร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนอนาคตการบินที่ยั่งยืนและสร้างสังคมคาร์บอนต่ำให้เกิดขึ้นอย่างชัดเจน
ข่าวที่ 6 - TCEBหนุนจัดWITS2025ดันขอนแก่นสู่เวิลด์คราฟท์ซิตี้
นายภูริพันธ์
บุนนาค รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB" เปิดเผยว่า
ทีเส็บร่วมสนับสนุนขอนแก่นเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงาน World lkat Textles
Symposium : WITS 2025" ของสภาหัตถกรรมโลก (Worlds
Craft Council : WCC) กำหนดจะจัดต่อเนื่อง 3 วัน
ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2568 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวขอนแก่นมีการจัดงานเทศกาลงานไหมนานาชาติเป็นประจำทุกปี
จึงสามารถเชื่อมโยงกันได้เป็นอย่างดีที่จะโชว์ความพร้อมจัดงานแบบครบวงจร
ช่วยขยายตลาดผ้าไหมและสินค้าชุมชนได้มากยิ่งขึ้น
คาดการณ์ตลอดงาน
WITS 2025 ปี 2568 จะมีต่างชาติในวงการผ้าและหัตกรรมเข้าร่วมกว่า
200 ราย จะทำให้เศรษฐกิจคึกคักสร้างรายได้สะพัดกว่า 300
ล้านบาท
ด้วยไฮไลต์การจัดประชุมมัดหมี่โลกควบคู่การสัมมนาระดับนานาชาติด้านสิ่งทอและหัตกรรมนานาชาติ
ซึ่งจะมีตัวแทนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมด้วย
การจัดงาน
WITS 2025 ปี 2568 ทุกภาคพร้อมจะรวมพลังกันส่งเสริมและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เรื่องผ้ามัดหมี่และสิ่งทอจากทั่วโลก
ซึ่งประเทศไทยจะใช้โอกาสสำคัญนี้เป็นเวทีแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของจังหวัดขอนแก่น
มีความพร้อมยกระดับขึ้นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ด้วยศักยภาพความโดดเด่นสามารถจะก้าวสู่ World Craft City for IKAT (Mudmee)
จากสภาหัตถกรรมโลก
และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยสู่ตลาดสากลอย่างเป็นรูปธรรม
รวมทั้งจะสร้างโอกาสและประโยชน์ให้เกิดขึ้นในขอนแก่น
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เบื้องต้น 4 ส่วน คือ
ส่วนที่
1 ส่งเสริมอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย
ทำให้ทั่วโลกรู้จักผ้ามัดหมี่ภาคอีสานแพร่หลายเป็นวงกว้างมากขึ้น
ส่วนที่
2 สร้างเครือข่ายทางธุรกิจและการลงทุน
ซึ่งจะมีเวทีการจับคู่เจรจาธุรกิจ (business to business) และการจัดนิทรรศการแสดงสิ่งทอระดับนานาชาติ
ส่วนที่
3 กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
ด้วยการนำเสนอท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม รวมทั้งกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับผ้าพื้นเมือง
ส่วนที่
4 ใช้เวทีการประชุมสัมมนา เวิร์คช้อป
ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติมาถ่ายทอดทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านสิ่งทอที่เป็นประโยชน์ในปัจจุบันและอนาคตต่อไป
ภายในงาน
WITS 2025 มีพันธมิตรจากภาคส่วนต่าง ๆ หน่วยงานรัฐ
เอกชน และผู้เกี่ยวข้อง
จะเข้าร่วมเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการผลิตและออกแบบหัตถกรรมมัดหมี่
รวมถึงจะมีกิจกรรมหลัก ๆ เช่น งานประชุมวิชาการ การจับคู่เจรจาธุรกิจ
จัดนิทรรศการแสดง จัดสาธิต เปิดตลาดผ้าทอ จัดแฟชั่นโชว์ในกาล่าดินเนอร์
ผลักดันขอนแก่นพร้อมจะเป็น “ศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและการค้าสิ่งทอ”
โดยมีไฮไลต์หลักคือการประชุมสัมมนาสิ่งทอและหัตถกรรมระดับนานาชาติ
ช่วงที่ 2 ปิดเทอมนี้ชวนพาครอบครัวไปเที่ยว “เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี” มีกิจกรรมสนุก ๆ
รออยู่เพียบ ในพื้นที่กว่า 819 ไร่ นิสิต นักศึกษา มีโปรลด
50 % จนถึง 31 พ.ค.68 ไปชมสัตว์
120 ชนิด หรือพักรีสอร์ต จัดงานอินเอาท์ดอร์ได้หลายแบบ
แล้วฟัง “5วิธีดูแลสุขภาพ” ช่วงสภาพอากาศเปลี่ยนบ่อย
เกาะติดข่าวฮ็อต ข่าวแรก “นายกฯ ถกTHACCA”
ดันซอฟท์พาวเวอร์ไทยสู่เมืองศิลปะโลก ข่าวที่สอง “บันยันทรีเรสซิเดนซ์
โอเชี่ยนนัส” เปิดใหม่สุดหรูที่ภูเก็ต
ท่องเที่ยว
–สุขทันทีเที่ยว“เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี”เที่ยวได้ทำงานด้วย
ปิดเทอมนี้ ที่ “เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี” อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาสนุกสนากับน้อง “เอวา” และสัตว์แสนน่ารักอีกมากมาย
สนุกกับการท่องเที่ยวช่วงปิดเทอม
ตลอด 3 เดือนนี้ ทางสวนสัตว์มีโปรโมชั่น
"ปิดเทอมแสนสนุก สุขใจกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี"
ลด
50% ให้นักเรียน นักศึกษา วันนี้- 31
พฤษภาคม
2568
ชวน “คุณพ่อคุณแม่” ยกครอบครัวลูๆ หลาน
ๆ มาเที่ยวช่วงปิดเทอมสนุกสนานกับกิจกรรมการท่องเที่ยวครบวงจร เด็ก ๆ
จะได้ตื่นตาตื่นใจสนุกกับการเรียนรู้ชีวิตสัตว์กว่า 120 ชนิด
ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ภายในสวนสัตว์มีบริการร้านอาหาร เครื่องดื่ม ที่พัก
หรือกลุ่มองค์กรหน่วยงาน “รัฐ” บริษัท “เอกชน”
ก็สามารถใช้สถานที่จัดประชุมสัมมนาตามเทรนด์ ทำงานได้เที่ยวด้วย หรือ Workation เช่นกัน
“เชียงใหม่ไนท์ ซาฟารี”
มีไฮไลต์การท่องเที่ยวเหมาะกับสายธรรมชาติ รักสัตว์ และชื่นชอบการเรียนรู้
สามารถเลือกเที่ยวได้ตามโซนต่าง ๆ
“โซนเดินชมสัตว์ จากัวร์เทรล” จัดทำเส้นทางเดินเล่นชมสัตว์รอบทะเลสาบแบบเพลินท่ามกลางธรรมชาติระยะทาง
1.2 กิโลเมตร มีสัตว์ป่านานาชนิดกว่า 57 อย่าง มาเดินชิวชมสวนสัตว์ตามเส้นทางนี้ได้
11.00 น.-20.00 น.
“นั่งรถชมสัตว์กลางวัน” (Day
Safari) และ
“ชมสัตว์ยามค่ำคืน” มีรถออกทุก 30 นาที
กลางวันเริ่มบริการ13.30 น. – 16.00 น. รอบ14.30 น., 15.00
น., 15.30 น.,16.00
น.) กลางคืน เริ่ม 17.30-21.00 น. รอบ 17.30 น. 18.00 น. 18.30 น., 19.00
น., 19.30 น., 20.00
น., 20.30 น., 21.00
น.
เส้นทางความสนุกจะใช้เวลานั่งรถรางชมวิถีชีวิตสัตว์ต่าง
ๆ แบบจุใจประมาณ 1 ชั่วโมง
ทั้ง 2 โซน
โซนเเรก “สวานา ซาฟารี” สัมผัสกับสัตว์อย่างใกล้ชิด เช่น
ยีราฟ ม้าลาย จิงโจ้แดง และสัตว์น่ารักอีกหลากหลายชนิด
โซนที่ 2 พรีเดเตอร์ พรอว์ล (Predator Prowl) ศึกษาเรียนรู้โซนสัตว์นักล่าอย่าง
เสือโคร่งขาว สิงโต ไอยีน่าลายจุด และอื่น ๆ
“ที่พัก” มีบริการ
“เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี รีสอร์ท” ในบรรยากาศสไตล์ซาฟารีใกล้ชิดธรรมชาติพื้นที่กว่า
819 ไร่ โอบล้อมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์
และสัตว์นานาชนิดกว่า 120 ชนิด
ตื่นนอนตอนเช้า
“กวาง” ที่เลี้ยงแบบอิสระจะเดินไปทั่วบริเวณเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพื่อทักทายนักท่องเที่ยว
ยามค่ำคืนก็มีเสียงสัตว์น้อยใหญ่ขับกล่อมในบางเวลา เป็นอีกประสบการณ์แห่งการพักผ่อนสบาย
ๆ
ภายในที่พักมีสิ่งอำนวยความสะดวก ห้องพักมีระเบียง และของใช้ต่าง ๆ รวม อาหารเช้า 2 คน ราคาเริ่มต้น :1,800 บาท – 2,700 บาท/ห้อง
“จองที่พัก” ได้หลายช่องทาง
โทร. 053 999 089 : marketing.nightsafari@gmail.com
Facebook :
https://www.facebook.com/chiangmainightsafarifanclub/shop/
“แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง”
สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวรอบบริเวณได้หลายสไตล์
มีทั้ง วัดดอยคำ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ , วัดอุโมงค์
แกรนด์แคนยอน เชียงใหม่
“ห้องประชุมสัมมนา” เช่าพื้นที่ประชุมสัมมนา
ทำจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ทั้งในอาคาร และนอกอาคาร
“เฮือนวารีกุญชร” อาคารกลุ่มลานนาวิลเลจริมทะเลสาบ
Swan Lake มองเห็นวิวทิวทัศน์ดอยสุเทพ-ปุย
มี 2 ส่วน
คือ ส่วนที่ 1 ประชุมกลางแจ้งโดยใช้
“ระเบียงริมน้ำ” จัดเลี้ยงอาหารค่ำ งานเลี้ยงส่วนตัว ปาร์ตี้ริมทะเลสาบ ส่วนที่ 2 “พื้นที่ในอาคาร”
ขนาด 230 ตารางเมตร รองรับการจัดประชุม แต่งงาน งานเลี้ยง แถลงข่าวและอื่น ๆ
“อาคารไกรสรราชสีห์” สไตล์ล้านนาอยู่ท่ามกลางแมกไม้น้อยใหญ่
เงียบสงบ ออกแบบพิเศษให้ใช้เป็นที่ประชุมสัมมนาโดยเฉพาะ มีสิ่งอำนวยความสะดวกโสตทัศนอุปกรณ์ทันสมัยครบ
พร้อมด้วยบุคลากรคุณภาพคอยให้การบริการ ด้านหลังของอาคารชั้นบนเป็นระเบียงให้ชมความสวยงามของทะเลสาบ
สามารถทำกิจกรรม “ห้องประชุมใหญ่” ขนาด
200 ตารางเมตร รองรับการประชุมขนาด 150 คนมีโต๊ะกลม เธียเทอร์ คลาสรูม และอื่นๆ “ห้องประชุมเล็ก” ขนาด 78 ตารางเมตร รองรับได้
30-50 คน “เทอร์เรซ” พื้นที่เปิดโล่งอยู่ด้านหลังอาคารไกรสรราชสีห์ ขนาด 210
ตารางเมตร เหมาะใช้จัดงานเลี้ยง50 – 60 คน
สอบถามและจองห้องประชุมได้ที่งานบริหารการขาย
ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ โทร. 053-999089 โทรสาร. 053-999088
เที่ยวเชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี
ช่วงปิดเทอมนี้ มีโปรโมชั่น และตลอดทั้งปี จะไปเช็คอินที่พัก
หรือจองสถานที่จัดงานก็ได้ด้วยเช่นกัน
สุขภาพ –5 วิธีง่ายๆดูแลสุขภาพรับมือกับช่วงอากาศเปลี่ยนบ่อย
กรมอนามัย แนะนำรับมือกับ
“อากาศเปลี่ยนแปลง” ทำให้ “สุขภาพดี”
ได้โดยไม่แปรปรวนไปตามสภาพสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
โดยเฉพาะเมื่อเกิดสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวฝน เดี๋ยวแดดร้อนจ้า
อาจทำให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ง่าย
โดยเฉพาะกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
เสี่ยงป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ไข้หวัด ภูมิแพ้อากาศ
ทางกรมอนามัยจึงแนะนำลองทำตาม 5 วิธีง่าย ๆ ดังนี้
วิธีที่ 1
ดื่มน้ำเปล่าวันละ 6-8 แก้ว เพื่อให้อุณหภูมิในร่างกายคงที่
วิธีที่ 2 กินอาหารปรุงด้วยสมุนไพรไทย เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบกะเพรา
เพิ่มอุณหภูมิให้แก่ร่างกาย
วิธีที่ 3 กินผัก-ผลไม้ตามฤดูกาล เช่น มะเขือเปราะ มะนาว ถั่วพู ชะอม ผักหวาน
กล้วยน้ำว้า ส้มโอ เงาะ ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคหวัด เพิ่มภูมิต้านทานในร่างกายได้ และควรกินเป็นประจำก็จะยิ่งดี
วิธีที่ 4 ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ สัปดาห์ละ 3-5 วัน วันละ
30 นาที
วิธีที่ 5 นอนพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เด็กเล็กควรนอน 11-14
ชั่วโมงและวัยสูงอายุ ควรนอน 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
กรณีเมื่อตัวเปียกฝน
ให้รีบทำความสะอาดเช็ดตัวให้แห้ง
แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเปียกชื้นออกทันทีเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายอยู่เสมอ
ทุกคนสามารถทำให้ครบทั้ง 5 วิธีนี้ได้ ก็จะช่วยให้ปลอดภัยจากอากาศเปลี่ยนทุกฤดู
แล้วสุขภาพแข็งแรงไปไม่ป่วยง่ายด้วย
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–นายกฯอิ๊งถกTHACCAดันซอฟท์เพาเวอร์ไทยฮับศิลปะโลก
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ
เป็นประธานประชุมครั้งแรกในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ : THACCA”
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม
2568 พร้อมกับเปิดตัว
“Thai Youth Streets Art” ประกาศออกมาตรการภาษีสนับสนุนอุตสาหกรรมผลักดันไทยเป็น
“Art Hub : ศูนย์กลางศิลปะโลก”
และเปิดเวทีให้เยาวชนนำเสนองานศิลปะอันโดดเด่นของสถาบันอุดมศึกษา 46 แห่ง 33
จังหวัด และช่วงสงกรานต์ปี 2568 เชิญชวนทุกคนสวมใส่กางเกงลายอัตลักษณ์ประจำของจังหวัด
@THACCAชูซอฟท์พาวเวอร์ไทยสู่ฮับศิลปะโลก
THACCA จัดประชุมเมื่อวันพุธที่ 19 มีนาคม 2568 มุ่งขับเคลื่อนนโยบายนำซอฟท์ พาเวอร์ ไทย
เป็นศูนย์กลางศิลปะโลก : Art Hub โดยมีวาระเด่น
ๆ ดังนี้
• ประกาศใช้มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมศิลปะ
• เปิดพื้นที่ให้เยาวชนโชว์ความสามารถด้านศิลปะผ่านโครงการ
Thai Youth Streets Art เพื่อขับเคลื่อนไทยสู่ศูนย์กลางศิลปะระดับโลก
• เชิญชวนคนไทยร่วมมหาสงกรานต์
สวมใส่กางเกงช้างหรือลายประจำจังหวัด ส่งเสริมเอกลักษณ์ท้องถิ่น
@กระทรวคลังลั่นลดหย่อนภาษีงานศิลปะสูงสุด1แสน
ขณะที่“กระทรวงการคลัง” ประกาศความพร้อมจะร่วมส่งเสริมอุตสาหกรรมศิลปะ
3 มาตรการ ได้แก่
• มาตรการที่ 1 ลดหย่อนภาษีงานศิลปะ – บุคคลธรรมดา ที่ซื้องานศิลปะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดปีละ
100,000 บาท
• มาตรการที่ 2 หักค่าใช้จ่ายศิลปินเพิ่มขึ้น-ศิลปินที่สร้างงานศิลปะได้มากขึ้นก็จะสามารถหักค่าใช้จ่ายจากรายได้สูงสุดถึง
60%
• มาตรการที่ 3 ตั้งเขตปลอดอากรประเภทหอศิลป์-ยกเว้นภาษีนำเข้าศิลปะ
จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เมษายน 2568 เป็นต้นไป
เพื่อดึงนักสะสมและผู้จัดนิทรรศการเลือกไทยเป็นศูนย์กลางการแสดงและเก็บรักษาผลงานศิลปะ
@THACCA เปิดตัว
Thai Youth Streets Art
นายแพทย์สุรพงษ์
สืบวงศ์ลี
กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีเน้นส่งเสริมศิลปะกลุ่มเยาวชน
จึงได้เปิดตัวโครงการ Thai Youth Streets Art สนับสนุนการวาดภาพบนพื้นที่สาธารณะด้วยคอนเซ็ปต์ “Dream
of Thailand” นำร่อง 33
จังหวัด 46 สถาบันอุดมศึกษา เปิดรับสมัครเยาวชนระดับมัธยม และนิสิตนักศึกษา
ทีมชนะเลิศจะได้รับโล่รางวัลจากนายกรัฐมนตรี พร้อมเงินรางวัลรวม 500,000 บาท
@ก.ท่องเที่ยวปลุกมหาสงกรานต์ใส่กางเกงลายช้าง/จังหวัด
นายสรวงศ์
เทียนทอง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เชิญชวนประชาชนร่วมสนุก “มหาสงกรานต์ : Maha Songkran World
Water Festival 2025” ระหว่าง
11-15 เมษายน 2568
ร่วมสวมใส่
“กางเกงช้างหรือกางเกงประจำจังหวัด” เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์แต่ละท้องถิ่น ปีนี้จะจัดยิ่งใหญ่ที่ท้องสนามหลวง ไฮไลต์ประกอบด้วย
ขบวนพาเหรด การแสดงศิลปวัฒนธรรม บูธสินค้าประจำจังหวัด โดยมีหน่วยงานต่าง ๆ
สนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์ไทยเผยแพร่สู่สายตาทั่วโลก
ข่าวที่สอง –“บันยันทรีเรสซิเดนซ์
โอเชี่ยนนัส”โปรเจกต์ใหม่หรูสุดในภูเก็ต
บันยัน กรุ๊ป เปิดเผยว่า เตรียมเปิด “บันยันทรี บีช
เรสซิเดนซ์ โอเชียนนัส โครงการใหม่ล่าสุดระดับ ultra-luxe ที่จะเพิ่มประสบการณ์การใช้ชีวิตริมทะเลอันเหนือระดับ บนชายหาดบางเทาอันงดงาม อยู่ติดทะเลในลากูน่า ภูเก็ต ออกแบบอย่างพิถีพิถัน
ด้วยความพิเศษของเรสซิเดนซ์ทั้ง 16 หลัง
ทุกยูนิตมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง เริ่มต้นด้วย “ยูนิตทั่วไป” ขนาด 416 ตารางเมตร ไปจนถึง “เพนท์เฮาส์” สุดหรู 768
ตารางเมตร
“ดีไซน์” ด้วยความใส่ใจในรายละเอียดและก่อสร้างโดยคำนึงถึงมาตรฐานสูงสุด
เลือกใช้วัสดุคุณภาพเยี่ยม เน้นมอบไลฟ์สไตล์ความหรูหราเหนือชั้นไม่มีที่ใดเทียบได้บนทำเลหนึ่งในชายหาดสวยงามที่สุดในโลก
และตั้งอยู่บนที่ดินผืนงามทำเลหายาก สอดรับความต้องการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรีในภูเก็ตกำลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
จึงมีแนวโน้มจะสร้างสถิติราคาใหม่ในตลาดด้วย
@บ๊อส
“สจ๊วต เรดดิ้ง”โชว์จุดแข็งบันยันกรุ๊ปเรสซิเดนซ์
“สจ๊วต เรดดิ้ง”
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บันยันกรุ๊ป เรสซิเดนซ์ กล่าวว่า ด้วยที่ดินติดชายหาดระดับพรีเมียมเหมาะสร้างวิลล่าเดี่ยวนั้นมีจำกัด
จึงมุ่งพัฒนาคอนโดมิเนียมติดชายหาดขนาดใหญ่และหรูหรา ในพื้นที่ใช้สอยเทียบเท่ากับวิลล่า
มี “ข้อได้เปรียบ” คือผู้อยู่อาศัยไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลรักษาพื้นที่ด้วยตนเอง
“ชั้นล่าง” ของเรสซิเดนซ์ ออกแบบให้มีสระว่ายน้ำส่วนตัวทอดยาวต่อเนื่องบนระเบียงอันกว้างขวาง
• “เพนท์เฮ้าส์” โดดเด่นด้วยวิวทะเลอันดามันอันงดงามระหว่างผืนทะเลสัมผัสขอบฟ้า
มองเห็นได้ทั้งจากระเบียงห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่และชั้นดาดฟ้าตระการตา มาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวอันสวยงาม
• “พื้นที่ใช้สอย” ขนาดใหญ่พิเศษกว้างกว่า
13 เมตร เชื่อมต่อด้วยระเบียงที่ร่มรื่นด้วยพรรณไม้เขียวขจีขนาดใหญ่ลงตัว
ทุกยูนิตมาพร้อมห้องนอนใหญ่พิเศษพร้อมห้องน้ำในตัว 2 ห้อง ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความหรูหราที่มอบให้ผู้อยู่อาศัย
• “การตกแต่งภายใน” เน้นสไตล์ร่วมสมัยผสมผสานกับองค์ประกอบความเป็นท้องถิ่น
ออกแบบเป็นพิเศษทำให้บ้านหรูงดงามแห่งนี้มีเอกลักษณ์ชัดเจน
• “ไลฟ์สไตล์” เติมเต็มการพักผ่อนสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
ด้วยการจัดสรรพื้นที่ส่วนตัวให้ผู้พักอาศัยเท่านั้น ประกอบด้วย สระว่ายน้ำขนาดใหญ่
เพื่อว่ายออกกำลังกายพร้อมระเบียงกลางแจ้ง สนามหญ้าเปิดโล่งพร้อมเตียงอาบแดด
รวมพื้นที่รับประทานอาหารกลางแจ้งได้ด้วย
บันยันทรี บีช
เรสซิเดนซ์ โอเชียนนัส ตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวในโครงการลากูน่า ภูเก็ต เป็นรีสอร์ทครบวงจรชั้นนำของเอเชีย
ห่างจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตเพียง 30 นาที
@ แจกฟรีสิทธิพิเศษอำนวยความสะดวกในชุมชน
บันยันทรี บีช
เรสซิเดนซ์ โอเชียนัส ให้ลูกบ้านรับสิทธิพิเศษและผลประโยชน์เหนือระดับแบบครบวงจร รวมวีซ่า
Thailand
Elite และสมาชิกภาพสนามกอล์ฟลากูน่า ภูเก็ต ที่ได้รางวัลยอดเยี่ยม ใช้บริการฟรีค่า
“แจกสิทธิ์พิเศษ” ในการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการระดับพรีเมียมหลากหลาย
ตั้งแต่บีชคลับสุดหรูส่วนตัว
ศูนย์ฟื้นฟูด้านสุขภาพและบริการทางการแพทย์ชั้นนำจากบีดีเอ็มเอส เวลเนส ร้านอาหารซิกเนเจอร์
สปาระดับโลก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านนันทนาการมากมาย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง
สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น