ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ผู้นำททท.เปิดข้อมูลชงครม.ขยายสิทธิ์“เราเที่ยวด้วยกัน”ยาวถึงเม.ย.64 หวังโกยทัวร์ไทยถึงสงกรานต์-จัดทัพ4สินค้าวิถีใหม่รอต่างชาติQ2ปีหน้า

 ผู้นำททท.เปิดข้อมูลชงครม.ขยายสิทธิ์“เราเที่ยวด้วยกัน”ยาวถึงเม.ย.64

หวังโกยทัวร์ไทยถึงสงกรานต์-จัดทัพ4สินค้าวิถีใหม่รอต่างชาติQ2ปีหน้า

คิงเพาเวอร์นำแบรนด์LCFCผนึกATMOSบูมผ้าย้อมคราม3ชุมชนไทย

“คิง เพาเวอร์”ชวนคริสต์มาส-เคาน์ดาวน์ที่มหานครสกายบาร์-พูลแมน

ททท.มอบSHAเส้นทางทัวร์แห่งศรัทธา2วัดกทม.“วัดไตรมิตร-วัดประยูร”

"ททท.-บ.โลเคเนชั่น"เปิดศูนย์บิ๊กดาต้าที่พักASQไทยดึงห้างเพิ่มรายได้

“TCEB”-กรมควบคุมโรคดึงมหาลัยอบรมDMC-IVAรับไมซ์อินเตอร์

เที่ยวแสงเสียงล่องเรือวิถีริมน้ำใกล้กรุงที่“อยุธยา”ส่งท้ายปีชีลกว่าที่คิด

รู้หรือยังว่า!!ถึงเวลาเปลี่ยนนิสัยการกินก่อนป่วยด้วยหลักคิด9ก่อนกิน

เจาะลึก“ชำนาญ ศรีสวัสดิ์”นั่งประธานสภาท่องเที่ยวคนใหม่ปี63-65

เบื้องหลัง“บินไทย”กลับลำบินในประเทศแข่งไทยสมายล์เริ่ม25ธ.ค.63

“ชาญศิลป์DDบินไทย” ติดใจขายเที่ยวบินพิเศษรับพรปีใหม่1ม.ค.64

 


ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #ทททหวังรายได้คนไทยยาวถึงสงกรานต์64  #คิงเพาเวอร์ชวนเที่ยวคริสต์มาสปีใหม่ #ชำนาญศรีสวัสดิ์คว้าเก้าอี้ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  ฟัง Live สดจากลิงค์นี้https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1515070135353706&id=100005522016696

            ช่วงที่ 1 เจาะลึก “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิด 2 ปัจจัย ชงรัฐเพิ่มสิทธิ์โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” สร้างพลังฟื้นเศรษฐกิจปี’64 เร่งหาทุกทางระดม “รายได้ในประเทศ” ยืนยันสถิติไทยเที่ยวไทยตั้งแต่ ต.ค.63 กลับสู่ปกติยอดทะลุ 15 ล้านคน-ครั้ง/เดือน ตั้งเป้าเพิ่มยุทธศาสตร์อุดช่องโหว่ต่างชาติยังเข้ามาไม่ได้ ช่วยกระจายเม็ดเงินเข้าภูเก็ตมีโรงแรมแสนห้องเพิ่งเปิดได้เพียง 15 % พร้อมเร่ง ททท.ทั่วโลก 29 แห่ง เร่งทำ 3 โปรเจ็กต์ “Top of Mind-Safe Partner-เกาะติดความเคลื่อนไหวคู่แข่งขัน” เร่งปรับทัพสินค้าท่องเที่ยวแนวใหม่รุกขายต่างชาติ 4 หมวดใหญ่“เที่ยวเชิงสุขภาพ-เชิงกีฬา-เชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม-เที่ยวเชื่อมโยงไทยกับอาเซียน” หลังเห็นสัญญาณแอร์ไลน์สเริ่มเปิดบินแบบ Semi-Commercial

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ทำหน้าที่เสนอรัฐบาลเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ปรับตามพฤติกรรมนักท่องเที่ยว ในการจองใช้บริการห้องพัก ตั้งแต่ 6.00-22.00 น. บวกสิทธิ์วันพักจาก 10 เป็น 15 คืนพัก/คน เพิ่มจำนวนโรงแรมถึงจะไม่ได้จดทะเบียนแต่จ่ายภาษีถูกต้อง เพิ่มคูปอง E-Vochure และเพิ่มพันธมิตรทั้ง รถเช่า เรือ สายการบินต่าง ๆ เข้าร่วมโครงการได้ ส่วนที่ 2 สร้างพลังการท่องเที่ยวเป็นกลไกฟื้นเศรษฐกิจประเทศปี 2564 ตามนโยบายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงเสนอขยายเวลาใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันจาก 31 มกราคม 2564 เพิ่มขึ้นอีก 3 เดือน ไปสิ้นสุด 30 เมษายน 2564 และเพิ่มจำนวนห้องพักเข้ามาอีก 2 ล้านคืนพัก กระตุ้นคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเกินปีละกว่า 120 ล้านคน-ครั้งขึ้นไป

เมื่อเพิ่มและขยายสิทธิประโยชน์โครงการเราเที่ยวด้วยกันแล้ว หวังผลเชิงรูปธรรมหลังจากเริ่มกระตุ้นมาตั้งแต่กรกฎาคม 2563 พบสถิติตลอดเดือนตุลาคม 2563 การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศกลับสู่ปกติแล้วเฉลี่ย 15 ล้านคน-ครั้ง/เดือน อาจมาจากคนอยู่บ้านนาน คนไทยจึงเริ่มออกท่องเที่ยวรับลมหนาว ดังนั้น ททท.จึงต้องการรักษาโมเมนตั้มการเดินทางไว้ที่เดือนละ 15 ล้านคน-ครั้ง ด้วยสภาพอากาศเย็นสบาย คนเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น น่าจะส่งผลให้การท่องเที่ยวระหว่างธันวาคมนี้-เมษายน 2564 ราบรื่นคึกคัก เนื่องจากยังไม่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเหมือนปกติได้



ผนวกกับสำนักพยากรณ์เศรษฐกิจหลายแห่งระบุสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยเริ่มฟื้นเร็วกว่าปกตินั้น ททท.เห็นสัญญาณสดใสเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ประกาศค่าใช้จ่ายเงินในประเทศดีขึ้นตามลำดับในเรื่องการท่องเที่ยว แต่ก็ต้องยอมรับปัญหาเชิงโครงการว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยพึ่งพารายได้จากตลาดต่างประเทศเป็นหลัก โรงแรมแต่ละภาคหลายพื้นที่ยังไม่สามารถกลับมาเปิดให้บริการตามปกติได้ เช่น จังหวัดภูเก็ต มีโรงแรมให้บริการห้องพักรวมกว่า 100,000 ห้อง แต่ตอนนี้เปิดได้เพียง 15,000 ห้องเท่านั้น จึงกระทบเรื่องการจ้างงาน ยิ่งต่างชาติยังไม่กลับเข้ามาก็จะกระทบไปถึงยอดการใช้จ่ายเงินในพื้นที่ด้วย

ฉนั้นจึงต้องพยายามหาช่องทางนำการท่องเที่ยวในประเทศเข้ามาทดแทนแทนได้มากเท่าไร ก็ยิ่งจะทำให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ โดยเฉพาะโครงการเราเที่ยวด้วยกัน นอกจากจะทำให้ธุรกิจกลับมาเปิดบริการได้มากขึ้น ยังสามารถพยุงการจ้างงาน และช่วยโรงแรมที่เคยรับตลาดต่างชาติมาก ๆ มาก่อน

 

โดยได้รับแรงสนับสนุนดีมากจากโครงการที่ 2 กระตุ้นต่างชาติพำนัก (Expat) ในไทยท่องเที่ยวในประเทศ เป็นนโยบายอันเข้มข้นของรัฐมนตรีพิพัฒน์ทุ่มเททำอย่างเต็มที่ การตอบรับดีจากทูตานุฑูตต่างประเทศประจำประเทศไทยหลากหลายประเทศด้วย จึงเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทยกระจายเดินทางมากขึ้น ททท.จะต่อยอดด้วยกลยุทธ์ทำให้กลุ่มนี้ขยายผลไปชวนเครือข่ายครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง เมื่อเปิดประเทศรับต่างชาติโดยเฉพาะทางยุโรป ต้องการหนีหนาว มาพักยาวในไทยได้ และมีความปลอดภัยจากโควิด-19 ได้


ขณะที่ “ตัวแปรหรือปัจจัยใหม่ ๆ”ที่การท่องเที่ยวจะช่วยให้เศรษฐกิจประเทศฟื้นตัวได้เร็ว เรื่องที่ 1 ความมั่นใจด้านความสะดวกในการเดินทางเข้าประเทศโดยมีวัคซีนป้องกัน เรื่องที่ 2 ตามคาดการณ์ขององค์การท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ UNWTO ระบุท่องเที่ยวจะฟื้นประมาณปลายปี 2564 แต่เมื่อการพูดถึงวัคซีนกับสายการบินเริ่มเปิดบินแบบ Semi-Commeercial น่าจะเห็นการกลับมาของตลาดต่างประเทศเร็วกว่าคาดการณ์ ททท.จึงได้เตรียมความพร้อมให้ทุกสำนักงานทั่วโลกทั้งยุโรป อเมริกา ซึ่งสนใจออกเที่ยวทั่วโลกช่วงฤดูร้อน ควบคู่การกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ

 สถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศ ปี 2563 แนวโน้มจะปิดตัวเลขจำนวนได้ดีทำได้ประมาณ 95 ล้านคน-ครั้ง ใกล้เคียงตามเป้าหมายที่ได้รับนโยบายจากรัฐมนตรีพิพัฒน์ รัชกิจประการ แต่ปี 2564 ต้องการเห็นตัวเลขทะลุเกิน 100 ล้านคน-ครั้ง

 ดร.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า การวางกลยุทธ์ให้ ททท.ต่างประเทศทั่วโลก 29 แห่ง ยังคงปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ปิดสำนักงานชั่วคราว ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาจนถึงขณะนี้ ก็เพราะทุกสำนักงานถึงแม้จะอยู่ในภาวะเสี่ยงหรือมีบางแห่งติดโควิดรักษาหายแล้ว ก็ทุ่มเททำหน้าที่ปรับตัวแล้วรายงานเข้ามายังสำนักงานใหญ่  3 โครงการหลัก ได้แก่

1.การรักษาตำแหน่งให้ไทยเป็น Top of Mind จัดกิจกรรมทำอาหารไทย เชิญชวนให้คนแต่ละประเทศร่วมกันเขียนรูปภาพบอกถึงประสบการณ์ที่เคยมาท่องเที่ยวในประเทศไทย 2.ดูแลพันธมิตรที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว หรือ Safe Partner ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม KOL, influencer , blogger ต่าง ๆ คนเหล่านี้ก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างจากไทย แต่จะทำอย่างไรเมื่อเปิดประเทศแล้วคนเหล่านี้ต้องการมาเยือนประเทศไทย 3.เก็บข้อมูลประเทศคู่แข่ง ถึงการเตรียมตัวเพื่อนำมาปรับกลยุทธ์เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันเมื่อเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้ามาได้

 

ส่วนโครงการ “ซ่อม-สร้าง” ททท.ยอมรับหลายสินค้ายังกลับมาได้ไม่เต็มที่ เช่น ภูเก็ต โรงแรมมีหลักแสนแต่เปิดได้แค่หลักหมื่นห้าพันห้อง ตอนนี้จึงเน้นเรื่องการพัฒนาสินค้า ร่วมกับกระทรวงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงแรงงาน DEPA ทำให้พนักงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีทักษะจากการ Re & Up Skill โดยพยายามให้คนทำความเข้าใจว่าเราจำเป็นจะต้องอยู่กับโควิดไปอีกสักระยะ ฉนั้นก็ยังมีเวลาปรับปรุงพัฒนาสินค้าท่องเที่ยว เมื่อผู้ประกอบการเริ่มฟื้นตัวก็ให้ความสำคัญกับท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เช่น การท่องเที่ยววิถีใหม่เชิงรักษาดูแลสุขภาพ Health & Wellness ทุกคนจะใส่ใจมากขึ้น

ททท.จะใช้เวลานับจากนี้เป็นต้นไปเข้าไปช่วยภาคธุรกิจพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวยุคใหม่อย่างมีทิศทาง

ดร.ยุทธศักดิ์ ย้ำว่าสินค้าใหม่ ๆ ที่จะพัฒนาเตรียมไว้เพื่อตอบโจทย์หรือรองรับตลาดต่างประเทศในอนาคต ได้แก่ 1.การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Health and Wellness มีกลุ่มคนยินดีพร้อมจ่าย ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในทางเลือกที่คนสนใจใช้เงินสูง ๆ เพื่อเดินทางมาใช้บริการ 2.การท่องเที่ยววเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียน มาไทยบินต่อไปสิงคโปร์ หรือกลุ่ม CLMV ซึ่งต้องเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ 3.การท่องเที่ยวเชิงกีฬา SPORT TOURISM เพราะเกี่ยวกับสุขภาพโดยตรง 4.การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม สินค้าประเภท Green Tourism หรือการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ Responsibilty Tourism เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวหลังโควิดแสวงหามากเป็นอันดับต้น ๆ 

ททท.จึงจะเร่งร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จัดทัพสินค้าดังกล่าวทั้ง 4 ประเภท ขานรับพฤติกรรมความต้องการของนักท่องเที่ยวนานาชาติหลังโควิด-19 ต่อไป

สำหรับการเตรียมแถลงแผนการตลาดประจำปี 2564 ในเดือนธันวาคม 2563 เตรียมนำ ประเด็นการสื่อสารหลักหรือ Key Message “ประเทศไทยพร้อมก้าวสู่ท่องเที่ยวมูลค่าสูงจากการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ” โดยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะต้องอยู่กับสถานการณ์โควิด ต้องปรับตัวประมาณ 2 ปี ททท.กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะวางแผนอย่างไรมองผ่าน 2 ปีหน้า จะกลับมาเข้มแข็งไม่เหมือนเดิม เมื่อดำเนินการตามแผนใหม่แล้วประเทศไทยจะมีภาพลักษณ์ดีขึ้น หาทางทำอย่างไรจากที่เคยเป็นประเทศท่องเที่ยวเชิงปริมาณ (mass) เปลี่ยนเป็นคุณภาพ (quality) จำนวนน้อยลง แต่จะสร้างความมั่นใจถึงคนที่เข้ามาแล้วต้องใช้เงินเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการต้องร่วมมือสร้างความยั่งยืนทำกำไรระยะยาว สุดท้ายผลลัพธ์ต้องการร่วมมือกันสร้างท่องเที่ยวไทยเป็นอุตสาหกรรมมูลค่าสูงจากการกระตุ้นท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ

 ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 


ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์นำแบรนด์LCFCผนึกATMOSบูมผ้าย้อมคราม3ชุมชน

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เจ้าของสโมสรฟุตบอลระดับพรีเมียร์ลีกเลสเตอร์ ซิตี้  รายงานว่าได้นำแบรนด์ LCFC หรือ เลสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลคลับ จับมือกับร้านสนีกเกอร์ระดับโลกสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง atmos  (แอทมอส) สร้างสรรผลงานสปอร์ตแฟชั่นเป็นครั้งที่ 2 ด้วยการผสมผสานนำผ้าย้อมครามภูมิปัญญาคนไทย ยกระดับสู่สากลเต็มรูปแบบ สร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์แฟชั่นสตรีทแวร์คอลเลคชั่นใหม่พิเศษล่าสุดส่งท้ายปี 2020 ในชื่อ  “Fearless Collection”

เตรียมเปิดตัวพร้อมกันทั่วโลก 7 ประเทศ ในวันพ่อแห่งชาติ วันที่ 5 ธันวาคม 2563 นี้ มีเพียง 2,700 ตัวเท่านั้น ผลิตเพียงโทนสีละ  900 ตัว จำหน่ายราคาตัวละ 1,884 บาท ตอกย้ำถึงศักยภาพผ้าย้อมครามภูมิปัญญาไทยในแบบสตรีทแฟชั่น สอดแทรกการบอกเล่าเรื่องราวเชิงวัฒนธรรม ควบคู่กับการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco Friendly) และตอบโจทย์แฟชั่นนิสต้าสายสตรีทแวร์ทั่วโลกควบคู่กันไปด้วย

 

โดยสตรีทแวร์คอลเลคชั่นใหม่จาก LCFC และ atmos ในชื่อชุด “Fearless Collection” ถือเป็นคอลเลคชั่นที่สร้างสรรค์จากแรงบันดาลใจการก้าวผ่านความกลัวทุกขีดจำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในการเลือก ผ้าย้อมครามที่มีลวดลายอันเกิดจากเทคนิคการ  ม้วน มัด ย้อมที่มีความซับซ้อนมากขึ้นยกระดับ หัตกรรมครัวเรือนจาก 3 ชุมชนของไทยก้าวสู่งานแฟชั่นระดับสากลที่มีเอกลักษณ์ สวมใส่ง่าย มีให้เลือก 3 สี 3 แบบ ผลิตเพียงโทนสีละ  900 ตัว จำหน่ายราคาตัวละ 1,884 บาท ได้แก่ 

 

โทนสีขาว-ฟ้า (Blue stripes) ใช้เทคนิคม้วน มัด ย้อมให้ได้ลวดลาย จากชุมชนบ้านนาขาม จ.สกลนคร โทนสีน้ำเงินเข้ม (Cloud navy) และโทนสีเหลือง (Yellow harmon) จากชุมชนบ้านหัวช้าง จ.ลำพูน

 

            คอลเลคชั่น “Fearless Collection” ได้แรงบันดาลใจการเลือก 3 โทนสี   ตามปี ค.. การก่อตั้งสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ คือ ค..1884 ผลิตขึ้นเพื่อให้แฟนคลับฟุตบอลสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ตัดสินใจซื้อเป็นของที่ระลึกและของขวัญพิเศษส่งท้ายปี 2563 ผ่านช่องทาง atmos Online  7 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น อเมริกา เกาหลีใต้ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และทาง LCFC Shop Online ประเทศอังกฤษ รวมถึง atmos Pop-up Store ในประเทศไทยและเกาหลี ตลอดจนร้าน atmos Bangkok ทุกสาขา หรือสั่งซื้อผ่าน www.kingpower.com และ LINE @Leicestershop_th

           

เข้ามาเยี่ยมชมภาพคอลเลคชั่นและค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมที่ Leicestershop_th /IG/ FB, www.atmos-bangkok.com  และ www.kingpower.com


 

ข่าวที่ 2 “คิง เพาเวอร์”ชวนคริสต์มาส-เคาน์ดาวน์ที่มหานครสกายบาร์-พูลแมน

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เชิญชวนมาร่วมเทศกาลความสุข ฉลองคริสต์มาสและเคาน์ดาวน์ส่งท้ายปีได้ใน 2 บรรยากาศ ทั้งที่ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” และ “โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ” สัมผัสรูปรสกลิ่นอายอาหารอร่อยมื้อพิเศษกับคนสำคัญในครอบครัว เพื่อนฝูง คนรู้ใจ พร้อม ๆ กับเมื่อจองล่วงหน้าก็รับไปเลยส่วนลด 10-15 %

“มหานคร แบงค็อก สกายบาร์” คิง เพาเวอร์ มหานคร ชวนมาร่วมฉลองเทศกาลคริสต์มาสบนชั้น 76 ร้านอาหารหรูสูงที่สุดในเมืองไทย ได้จัดเตรียมเมนูพิเศษคริสต์มาสอีฟดินเนอร์ ไว้ต้อนรับค่ำคืน 24 ธันวาคม นี้ และคริสต์มาสบรันช์ วันที่ 25 ธันวาคม 2563 รับส่วนลดสูงสุดทันที 15% เมื่อสำรองที่นั่งล่วงหน้าก่อนวันที่ 11 ธันวาคม 2563 ที่ https://bit.ly/MHK-A-Christmas-To-Remember หรือทางอีเมล์ mahanakhonskybar@kingpower.com หและโทร. 02-677-8722 

 

“ดินเนอร์หรูคริสต์มาสอีฟ” ค่ำวันที่ 24 ธันวาคม 2563 พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่เวลา 17.00 ไปจนถึง 01.00 น. เตรียมพบกับเมนูอาหารค่ำ 4 คอร์ส พร้อมแชมเปญ 1 แก้ว ราคาเพียง คนละ 2,950++ บาท เสิร์ฟเมนูไฮไลท์อย่าง ฟัวกราส์/ฟัวกราส์เทอร์รีน ไก่ต๊อกจากเปอริกอร์ดยัดไส้ 

“วันคริสต์มาส” วันที่ 25 ธันวาคม 2563 อิ่มอร่อยได้ตั้งแต่เวลา 11:30-16:00 น.  กับอาหารมื้อสาย ๆ กลิ่นหอมชวนชิมเมนูบรันช์ 3 คอร์ส พร้อมโพรเซ็กโก้ 1 แก้ว ราคาเพียงคนละ 1,990++ บาท  ห้ามพลาด !! เมนูไฮไลท์อย่าง Seafood Platter อาหารทะเลรสเลิศส่งตรงจากทวีปยุโรปมาพร้อมกับ Maine Lobster กุ้งแลงกู๊สทีนจากสกอตแลนด์ หอยหลอดจากฮอลแลนด์ หอยหวานจากฝรั่งเศส (มอง แซง มิเชล) และหอยนางรมจากฝรั่งเศส (นอร์มังดี) พร้อมอาหารจานหลักให้เลือกตามความชอบ อาทิ ไก่นุ่มซอสใบไทม์ พาสต้าแก้มวัวตุ๋น ปลากระพงพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเข้มข้น ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานตำนานฝรั่งเศส ได้แก่ แอปเปิลตาแต็ง หรือช็อกโกแลตทาร์ต 

 

เพื่อให้การพักผ่อนอย่างมีความสุขต่อเนื่องคริสต์มาสนี้ ทาง “มหานคร แบงค็อก สกายบาร์” พร้อมเสิร์ฟต่อเนื่องช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ วันเสาร์ที่ 26 และอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2563 พร้อมจัดเตรียมเสิร์ฟความอร่อยสไตล์ด้วยเมนูบรันช์ ช่วงระหว่าง 11:30-16:00 น. ราคาเพียงคนละ 2,500++ บาท ละลานตาด้วยบุฟเฟ่ต์ซีฟู๊ดจากยุโรป อาทิ กุ้งแลงกู๊สทีนจากสกอตแลนด์ หอยหวานจากฝรั่งเศส (มอง แซง มิเชล) หอยนางรมจากฝรั่งเศส (นอร์มังดี) และซุป Clam Chowder รวมทั้งอะลาคาร์ทบุฟเฟ่ต์รสเลิศ หากจ่ายเพิ่มอีกคนละ 990++ บาท ฟรีโฟลว์โพรเซ็กโก้แบบไม่จำกัด หรือจ่ายเพิ่มอีกคนละ 590++ บาท เลือกเป็นเครื่องดื่มซอฟดริ้งแบบไม่จำกัด

 

รวมถึง “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ยังมีแคมเปญ “บอกรักพ่อ” มอบให้เป็นมื้อค่ำสุดพิเศษในวันที่ 5 ธันวาคม 2563 ที่ มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ เปิดให้แต่ละครอบครัวพากันมาร่วมฉลองวันพ่อแห่งชาติ นั่งดื่มด่ำความงดงามของสายน้ำเจ้าพระยา ชมทิวทัศน์มุมสูงอันตระการตาของกรุงเทพมหานคร เพิ่มความพิเศษในช่วง 19.30 -20.30 น.ฟังนักร้องเสียงคุณภาพจากเวทีเดอะสตาร์ “กัน – นภัทร อินทร์ใจเอื้อ” ขับกล่อมบทเพลงดัง

สำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ http://bit.ly/Reserve-MahanakhonBangkokSkyBar หรือโทร 0 2677 8722 ดูรายละเอียดทาง www.kingpowermahanakhon.co.th   

ทางด้าน “โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ” ได้จัดเตรียมโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์สุดอลังการประจำปี 2563 เชิญชวนให้มาดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งความสุขของเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่เพื่อเฉลิมฉลองอย่างมีสไตล์ด้วยอาหารทะเลและบาร์บีคิวอาหารไทยญี่ปุ่นและอาหารนานาชาติที่ ท่ามกลางการประดับประดาแสงไฟระยิบระยับ กับ เทศกาลสำคัญ

เทศกาลแรก “คริสต์มาสซีฟู้ดและบุฟเฟ่ต์บาร์บีคิวมื้อค่ำ” ที่ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก (Cuisine Unplugged) วันที่ 24-25 ธันวาคม 2563 เวลา 18.00 - 22.30 น. ผู้ใหญ่  2,021 บาทสุทธิ/คน พร้อมน้ำดื่ม 1 ขวด หรือ 2,400 บาทสุทธิ/คน พร้อมเครื่องดื่มฟรีไม่อั้น

เทศกาลที่สอง “บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำฉลองส่งท้ายปีเก่า” ที่ห้องควิซีน อันปลั๊ก ในวันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม 2563 เวลา 18.00 - 22.30 น. ราคา 2,021 บาทสุทธิต่อผู้ใหญ่ 1 คนพร้อมน้ำดื่ม 1 ขวด 2,400 บาทสุทธิต่อผู้ใหญ่พร้อมเครื่องดื่มฟรี

มอบสิทธิพิเศษ สำหรับ “สมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ และบัตรแอคคอร์ พลัส” จองทางออนไลน์รับส่วนลด 10% ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีรับประทานอาหารฟรี เด็กอายุ 6-11 ปีรับส่วนลด 50% จากราคาเต็ม

โดยสำรองที่นั่งล่วงหน้า 3 วัน สอบถามข้อมูลเพิ่มโทร. 02 680 9999 หรือคลิก https://bit.ly/3784222

 


ข่าวที่ 3 ททท.มอบSHAเส้นทางทัวร์แห่งศรัทธา2วัดกทม.“วัดไตรมิตร-วัดประยูร”

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้นำตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration (SHA) ประเภทกิจการนันทนาการและแหล่งท่องเที่ยว มอบให้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งศรัทธาของนักท่องเที่ยว โดยได้นำไปถวายวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ในโอกาสได้เข้าพบสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส พร้อมทั้งยังหารือกับทางวัดเพื่อพัฒนาวัดพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยว ตามมาตรการสาธารณสุข และแผนการดำเนินงานโครงการ Road to SHA ต่อไป

 

ส่วนทางกองสร้างสรรค์สินค้าการท่องเที่ยว ททท. ก็ได้ถวายตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing thailand Safety & Health Administration (SHA) ประเภทนันทนาการและแหล่งท่องเที่ยว ให้วัดประยุรวงศาวาสวรวิหารด้วยเช่นกัน เรื่อยไปจนถึงไปสำรวจดูความเรียบร้อยแล้วแหล่งท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงและย่านเยาวราช เพื่อดำเนินงานโครงการท่องเที่ยวริมแม่น้ำ เพื่อรณรงค์เข้าร่วมปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยรับตราสัญลักษณ์ SHA ตอกย้ำให้นักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่นในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย ตลอดสถานการณ์ที่ยังอยู่ในช่วงต้องช่วยกันป้องกัน ดูแล ควบคุม การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด1-19

ดร.ยุทธศักดิ์ย้ำว่าสถานที่ท่องเที่ยววัด ชุมชน แหล่งช้อปปิ้งท้องถิ่น ล้วนมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักที่ ททท.ตั้งเป้ากระจายรายได้และเชิญชวนให้มีนักท่องเที่ยวเข้าไปกระจายรายได้ สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนเข้าถึงท้องถิ่น ททท.จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายร่วมด้วยช่วยกันร่วมปฏิบัติตามมาตรฐานภายใต้ตราสัญลักษณ์ SHA ไปด้วยกัน

 

ข่าวที่ 4 "ททท.-บ.โลเคเนชั่น"เปิดศูนย์บิ๊กดาต้าที่พักASQทั่วไทยดึงห้าง-ประกันเพิ่มรายได้

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์  รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ร่วมกับ บริษัท โลเคเนชั่น จำกัด เปิดตัวศูนย์รวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่กักตัวทางเลือกแห่งรัฐสำหรับชาวต่างชาติ (ASQ Paradise) เพื่อเป็นช่องทางอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทางจากต่างประเทศ ค้นหาโรงแรมที่ผ่านมาตรฐานโรงแรมกักตัวทางเลือกแห่งรัฐสำหรับชาวต่างชาติ (Alternative State Quarantine : ASQ) ผ่านทางเว็บไซต์ www.asq.locanation.com ถือเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านสาธารณสุขของไทย ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก จนสามารถอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ภายใต้เงื่อนไขและข้อปฏิบัติที่กำหนด   

บริษัท โลเคเนชั่น จำกัด เป็น 1 ในสต๊าตอัพที่คว้ารางวัลจากการประกวด TAT Travel Tech Startup Season 2 ด้านนวัตกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ของ ททท. ที่สามารถใช้นวัตกรรมสร้างแพลตฟอร์มเพื่อแก้จุดอ่อน (Pain Point)  เรื่องการเข้าถึงข้อมูลของนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาประเทศไทยและจำเป็นต้องมีการกักตัวตามมาตรการของรัฐในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 มาเป็นผู้ออกแบบและดูแลระบบ รวมทั้วได้ชมรม ASQ Thailand Club รวมถึงหน่วยงานภาครัฐซึ่งเป็นพันธมิตรที่ดีเยี่ยมในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่กักตัวทางเลือกแห่งรัฐที่เชื่อถือได้

ขณะที่ ททท. จะสนับสนุนให้มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ผ่อนคลายระหว่างการกักตัว เช่น กิจกรรมนันทนาการ Quarantine Shopping online กิจกรรม Happy DIY Set ซึ่งจะเป็นสินค้าพรีเมี่ยมจากชุมชนท่องเที่ยวของประเทศไทย แจกจ่ายให้กับนักท่องเที่ยวที่ทำการจองและเข้าพักใน ASQ โดยจะประสานงานกับชมรม ASQ Thailand เพื่อนำส่ง Happy DIY Set ให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรมระหว่างกักตัว

โดย ททท. จัดทำช่องทางการสื่อสารในรูปแบบ Line Official Account เพื่อใช้สื่อสาร ให้ข้อมูลและตอบข้อซักถามแก่นักท่องเที่ยวตลอดระยะเวลาโครงการ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ให้บริการทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน เพื่อประสานงาน ตอบข้อซักถามและให้ความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวระหว่างกักตัวใน ASQ รวมไปถึงช่วยประชาสัมพันธ์แพลตฟอร์มนี้ผ่านสำนักงานของ ททท. ทั้ง 29 แห่ง ทั่วโลก เพื่อให้ความมั่นใจแก่ชาวต่างชาติว่าเรามีมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มแข็ง ช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายและการเดินทางหลังจากกักตัว

นายเปเป้ อรุณานนท์ชัย ผู้ก่อตั้ง บริษัท โลเคเนชั่น จำกัด กล่าวว่า จากประสบการณ์การทำงานร่วมกับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับชั้นนำของประเทศ ประกอบกับโอกาสที่ได้เข้าร่วมการประกวด TAT Travel Tech Startup Season 2 ของ ททท. ควบคู่การนำเสนอแพลตฟอร์มอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวใช้ค้นหาและเลือกจองที่พักที่เป็นสถานที่กักกันตัวแห่งรัฐตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้ชื่อ asq.lacanation.com

สำหรับแพลตฟอร์มนี้จะครอบคลุมโรงแรม ASQ ทั้งหมดในประเทศไทยกว่า 100 แห่ง ตั้งแต่  3-5 ดาว ช่วงราคาตั้งแต่ 27,000-220,000 บาท ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวเลือกจองที่พักได้ตามความต้องการ

ทางบริษัทได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง สร้างสรรค์และนำเสนอกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างกักตัวสามารถมีส่วนร่วมได้โดยไม่ขัดต่อมาตรการทางสาธารณสุข เช่น ASQ Thailand Club สนับสนุนให้สมาชิกเข้าร่วมแพลตฟอร์ม กลุ่มห้างสรรพสินค้าชั้นนำ กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มเดอะมอลล์ คิงพาวเวอร์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (ดีแทค) เสนอบริการพิเศษในการชอปปิ้งสินค้าออนไลน์

ด้านทิพยประกันภัย นำเสนอแพคแกจการประกันภัยและประกันสุขภาพรูปแบบต่าง ๆ ที่เหมาะกับความต้องการของผู้ใช้บริการ รวมถึงแพคเกจการเดินทางท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่น่าสนใจมาความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและผู้ประกอบการ เพื่อให้ช่วงเวลาตั้งแต่การวางแผนเดินทางและช่วงเวลาระหว่างการกักตัวก่อนที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย เป็นช่วงเวลาที่เป็น Happy Quarantine หรือ ASQ Paradise

นายปรินทร์ พัฒนธรรม ประธานชมรม ASQ Thailand Club  กล่าวว่า  ความร่วมมือกับพันธมิตรครั้งนี้ เป็นครั้งที่สำคัญมากในการฝ่าฟันวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เนื่องจากที่ผ่านมาข้อมูลเกี่ยวกับการกักตัวของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาประเทศไทยนั้น กระจัดกระจายและไม่เป็นระเบียบ ผู้ที่เดินทางจากต่างชาติต้องหาข้อมูลเอง และการจองห้องพักก็ต้องจองโดยตรงกับโรงแรมที่เข้าร่วมเป็น ASQ  แต่เมื่อมี asq.locanation.com เป็น online travel agent ที่ให้บริการด้านนี้เป็นที่แรกและที่เดียวในประเทศก็สามารถอำนวยความสะดวกแก่ผู้ค้นหาข้อมูลอย่างมาก เว็บไซต์นี้จะตอบโจทย์ทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี

 




ข่าวที่ 5 TCEB”-กรมควบคุมโรคดึงมหาลัยอบรมDMC-IVAรับไมซ์อินเตอร์

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพให้แก่บุคลากร และมาตรการการติดตาม ควบคุม กำกับ และประเมินผลด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในโครงการ MICE Hygiene Discipline Guidelines (แนวปฏิบัติด้านสุขอนามัย สำหรับอุตสาหกรรมไมซ์) เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน -1 ธันวาคม 2563 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

 

ตามที่ทีเส็บได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นหน่วยงานรับผิดชอบร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงต่างประเทศ นำเสนอขั้นตอนการอนุญาตเข้าประเทศ โดยต้องมีผู้ติดตามทางการแพทย์สาธารณสุข และบริษัทที่ดูแลบริหารการเดินทาง หรือ DMC (Destination Management Company) เพื่อจัดและบริหารแผนการเดินทาง สำหรับนักธุรกิจที่เดินทางเข้ามาในระยะสั้นแบบไม่กักตัว ตั้งแต่ก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทาง และหลังการเดินทางกลับประเทศ และบุคลากรด้านการบริการลูกค้าชาวต่างชาติ หรือ International Visitor Assistant (IVA) เพื่อรองรับนักธุรกิจชาวต่างชาติในอนาคต

 


ทีเส็บจึงให้ทางเครือข่ายภาคการศึกษาไมซ์ (MICE Academic Cluster) ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรอบรมครั้งนี้ขึ้น เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจตามมาตรฐานการติดตาม ควบคุม กำกับ และประเมินด้านการแพทย์และสาธารณสุข สำหรับนักเดินทางต่างชาติเพื่อป้องกันโควิด 19 ประกอบด้วยมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้แก่ 1.ศิลปากร 2.วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล 3.มหาวิทยาลัยขอนแก่น 4.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 5.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 6.วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยบูรพา ร่วมกันยกระดับศักยภาพการบริการบุคลากรในกลุ่ม Destination Management Company (DMC) และInternational Visitor Assistant (IVA)

เน้นการเตรียมความพร้อมบุคลากรเรื่องวิธีสร้างมาตรฐานการบริการด้านความปลอดภัย ถูกสุขอนามัย เรียนรู้เกี่ยวโควิด 19 และการป้องกัน ผนวกการให้บริการที่ต้องรักษามาตรฐานเจ้าบ้านที่ดีที่มีการบริการได้มาตรฐาน Beyond Expectation ตามแบบ Thai Hospitality ที่มีชื่อเสียง และสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างงานแก่บริษัทให้บริการต่าง ๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ไกด์ที่จะยกระดับความสามารถ หรือ Re-Skill ตามนโยบายของภาครัฐ เตรียมความพร้อมรองรับธุรกิจในอนาคตอย่างยั่งยืนต่อไป

อีกทั้งหลักสูตรการอบรมครั้งนี้ ยังคงเป็นไปตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) หรือ ศบค. เรื่องข้อตกลงความร่วมมือช่องทางพิเศษ (Special Arrangement) เพื่ออนุญาตให้ผู้ไม่มีสัญชาติไทยเดินทางเข้ามาในประเทศ ซึ่งเป็นมาตรการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทยในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ตามข้อตกลงพิเศษกับต่างประเทศ (ยกเว้นการกักตัว 14 วัน) ที่ระบุเงื่อนไขต่าง ๆ การเดินทางเข้ามาประเทศไทยของชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในระยะสั้น โดยกำหนดโควต้าจำนวนผู้เดินทาง และมาตรการที่ผู้เดินทางต้องปฏิบัติตามทั้งก่อนการเดินทางและระหว่างที่อยู่ในประเทศไทย

 

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรมควบคุมโรคหวังให้หลักสูตรนี้สามารถนำความรู้ เทคนิค และประโยชน์ต่างๆ ไปใช้พัฒนาและเพิ่มศักยภาพให้แก่บุคลากร และมาตรการการติดตาม ควบคุม กำกับ และประเมินผลด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในโครงการ MICE Hygiene Discipline Guidelines ไปใช้ปฏิบัติจริงให้เกิดประโยชน์สูงสุด และขอสนับสนุนส่งเสริมการเดินทางไมซ์อย่างปลอดภัยไร้โรค ในอนาคตอันใกล้

           

นายปัญจพล เหล่าพูนพัฒน์ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า ได้รับมอบหมาจากทีเส็บให้เป็นผู้บริหารการจัดการอบรม เพิ่มความรู้และทักษะ 5 ด้านหลัก ๆ  คือ 1.ให้ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ การคัดกรองผู้ติดเชื้อและทักษะด้านสาธารณสุขเบื้องต้น 2.มีทักษะความรู้การบริการ การเป็นเจ้าบ้านที่ดี และการประสานงาน 3.มีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ (English for Specific Purpose: ESP) เพื่อสื่อสารและเจรจาต่อรองกับคณะ/ผู้ไม่มีสัญชาติไทยตลอดการเดินทางในประเทศไทยอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสามารถสื่อสารข้ามวัฒนธรรมได้อย่างเหมาะสม 4.มีความรู้ ความเข้าใจระบบการเข้าเมือง และการจัดการข้อมูลของผู้เดินทางจากต่างประเทศ และ 5.มีทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เคารพความหลากหลายและยอมรับในความแตกต่างระหว่างกัน

รวมทั้งมีความรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ตลอดจนมีคุณธรรมจริยธรรม ไม่เปิดเผยความลับของผู้ถูกคุมไว้สังเกตจากต่างประเทศให้ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับทราบ เรื่อยไปจนถึงมุ่งเน้นพัฒนาองค์ความรู้สู่บุคลากร บริษัทดูแลบริหารการเดินทาง หรือ Destination Management Company (DMC) และบุคลากรด้านการบริการลูกค้าชาวต่างชาติ หรือ International Visitor Assistant (IVA) ครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมฝึกอบรมกว่า 150 คน


                ช่วงที่ 2 เตรียมตัวให้พร้อม เพื่อออกไปท่องเที่ยว ชมแสงสีเสียงใกล้กรุงล่องเรือชมวิถีชีวิตกรุงเก่าที่ “พระนครศรีอยุธยา” ย้อนยุคไปเยือนอุทยานประวัติพระนครศรีอยุธยา” ตื่นตากับงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” 11-20 ธันวาคม 2563 ต่อด้วยข้อแนะนำสุขภาพ “ถึงเวลาเปลี่ยนนิสัยการกินด้วย9หลักคิด” และข่าวด่วนสุดฮ็อต “โกจง-ชำนาญ ศรีสวัสดิ์” ชนะเลือกตั้งคว้าเก้าอี้ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หมาด ๆ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 4 ธ.ค.63 เตรียมโชว์ผลงานปลายปี 63-65 “การบินไทย” กลับลำแล้วหันมาบินในประเทศ เริ่ม 25 ธ.ค.63 เป็นต้นไป ลงสนามบินแข่งกับไทยสมายล์สายบินลูกที่ตัวเองถือหุ้น 100 % “ชาญศิลป์ ตรีนุชกร” DD การบินไทยเริงร่ากับการเปิดเที่ยวบินพิเศษ “รับพรปีใหม่” 1 ม.ค.64 เกาะติดกันต่อไป 14 ธ.ค.63 หน้าตาแผนฟื้นฟูกิจการที่การบินไทยจะต้องยื่นศาลล้มละลายกลางจะออกหัวหรือก้อยอย่างไร



เที่ยวแสงเสียงล่องเรือชมวิถีริมน้ำใกล้กรุง“พระนครอยุธยา”ส่งท้ายปีชีลกว่าที่คิด

 

สัปดาห์หน้าเตรียมหมุนเข็มไมล์ขับรถเที่ยวใกล้กรุงในเมืองเก่า “จังหวัดพระนครศรีอยุธยา”  ไปชมงานท่องเที่ยวแห่งปี “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ประจำปี 2563 จัดต่อเนื่องกัน 10  วัน เลือกวันที่สะดวกปลอดโปร่งได้ระหว่างวันที่ 11 - 20 ธันวาคม 2563 ทางอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา พร้อมจะนำความยิ่งใหญ่อลังการแสง สี เสียง เพื่อเฉลิมฉลองสถานที่ท่องเที่ยวโบราณสถานสำคัญ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มรดกโลกทางวัฒนธรรม ที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนมายาวนานเกือบ 20 ปี โดยคณะกรรมการมรดกโลกแห่งองค์การสหประชาชาติ (UNESCO) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534 ณ กรุงคาร์เธจ ประเทศตูนิเซีย

 

อากาศเย็นสบายภายใต้แสงดาวในบรรยากาศกลางโบราณสถาน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสอรรถรสการแสดงแสงเสียง สุดยิ่งใหญ่ตระการตา ชุด "อโยธยาแห่งไมตรีศิลปศรี วีรกษัตราธิราช" วางแผนก่อนเข้าชมงาน ด้วยการจองบัตรเข้าชมการแสดงแสดงแสง เสียง ได้ที่ที่ทำการปกครองจังหวัด (เสมียนตราจังหวัด) ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาโทร. 0-3533-5244 และททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยาโทร.0-352-46076-7

รวมทั้งสามารถติดต่อบริจาคสิ่งของร้านกาชาด สลากการกุศล สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทร. 035-242868 , 035-243613

 

เมื่อไปถึงกรุงเก่าแล้ว แนะนำให้วางแผนนั่งเรือท่องเที่ยวกับ “เรือแกรนด์ สุริยันจันทรา” กิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟสุดมันส์ พร้อม Live Band จาก เจแปน นาย เติ้ล พร้อมรับประทานอาหารไทยโบราณหายาก  13 เมนู  แต่ละรอบเรือจะรองรับได้ 15 คน โดยมีบริการ อาหารว่าง เครื่องดื่ม ไวน์ และน้ำผลไม้กับการล่องชมบรรยากาศริมน้ำเมืองเก่าแก่ ตลอดการพักผ่อนอยู่บนเรือตลอด 2 ชั่วโมง

 

เมื่ออยู่บนเรือนักท่องเที่ยวจะได้ชมความงดงาม และความสมบูรณ์ของแม่น้ำน้อย แม่น้ำที่รุ่งเรืองในอดีต ท่าเตียนบ้านแพน เส้นทางแห่งวิถีชีวิต ธรรมชาติ เรื่องราวประวัติศาสตร์ ของกรุงศรีอยุธยา แวะสักการะ “หลวงพ่อปาน” วัดบางนมโค พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของประเทศ เป็นวัดโบราณสร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายปี 2310

 

อำลาทริปด้วยการแวะนั่งชีลที่ร้านกาแฟ The Summer House คาเฟ่ริมแม่น้ำ นำบ้านหลังเก่ามาปรับปรุงเป็นร้านอาหารตกแต่งในบรรยากาศบ้านสวนหลังใหญ่มีมุมถ่ายรูป และชมแสงอาทิตย์ริมน้ำ สูดโอโซนบริสุทธิ์ให้เต็มปอดก่อนขับรถกลับกรุงเทพฯ

ทริปท่องเที่ยวเมืองเก่า “พระนครศรีอยุธยา” เลือกเดินทางมาพักผ่อนวันธรรมดา จะยิ่งสะดวกสบาย เสมือนได้เป็นเจ้าของแหล่งท่องเที่ยวทุกที่กันเลย

 


รู้หรือยังว่า!!ถึงเวลาเปลี่ยนการกินก่อนป่วยด้วยหลักคิด 9 ก่อนกิน

 

การกินมากหรือกินไม่ถูกต้อง นำมาซึ่งโรคภัยต่างๆมากมาย เช่น โรคอ้วน เบาหวาน โรคไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็ง เป็นต้น เราควรหันมาดูแลสุขภาพ รีบเปลี่ยนการกิน ก่อนจะป่วย ด้วยหลักคิด 9 ก่อนกิน

 

1. กินอาหารครบ 5 หมู่ 2. เลี่ยงอาหารรสหวานจัด มันจัด และเค็มจัด  หวาน 6 - มัน 6 เค็ม 1 3. กินในปริมาณเท่าที่ร่างกายต้องการ  ทำงานน้อย กินน้อย ทำงานหนัก กินมากหน่อย กินให้เหมาะกับวัยและกิจกรรตนเอง 4. ออกกำลังกายให้เหมาะกับวัยและอาหารที่บริโภค  ถ้ากินอาหารมากเกินความต้องการ ร่างกายก็จะเก็บสะสมไว้เป็นไขมัน เมื่อพลังงานที่ได้รับเกินทุกๆ 7,700 กิโลเเคลอรี่ น้ำหนักตัวก็จะเพิ่มขึ้นอีก 1 กิโลกรัม

5. หมั่นดูแลน้ำหนักตัว  รักษาดัชนีมวลกายให้ต่ำกว่า 23 & รอบพุงไม่เกิน 36 นิ้ว (ชาย) ไม่เกิน 32 นิ้ว (หญิง) 6. ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย  วันละ 1 -2 แก้ว เลือกดื่มนมจืด นมพร่องมันเนย นมไขมันต่ำ 7. เลิกบุหรี่ ยาเสพติด 8. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 9.ผ่อนคลายจิตใจ

 ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ คว้าตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยปี 2563-2565

ข่าวแรก เบื้องลึก “ชำนาญ ศรีสวัสดิ์”ชนะเลือกตั้งประธานสภาฯท่องเที่ยวคนใหม่ปี63-65

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเลือกตั้งประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม 2563 ผลปรากฎว่า “นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์” ประธานสมาพันธุ์ธุรกิจท่องเที่ยวภูมิภาคแห่งประเทศไทย และเจ้าของบริษัทนำเที่ยวในกระบี่ คว้าตำแหน่งประธานคนใหม่เพื่อปฎิบัติหน้าที่บริหารสภาท่องเที่ยวในช่วงปี 2563-2565 โดยขับเคี่ยวเอาชนะคู่แข่งอีก 2 ทีม คือ ทีมแรก นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาท่องเที่ยวคนปัจจุบันที่อยู่ในตำแหน่งครบเทอมและหมดวาระเดือนธันวาคม 2563 ทีมที่ 2 นางศิริรัตน์ เด่นวรพงศาสุข เจ้าของโรงแรมในจังหวัดอุบลราชธานี

การลงคะแนนเลือกตั้งประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ต่อสู้กันอย่างดุเดือดเริ่มลงคะแนนตั้งแต่เวลา 16.00 น.จนถึง 24.00 น.ระหว่างทีมของนายชำนาญ ซึ่งมีสมาชิกเครือข่ายท่องเที่ยวภูมิภาคสนับสนุน กับ นางศิริรัตน์ ที่มีนายวิจิตร ณ ระนอง และนายกงกฤช หิรัญกิจ อดีตประธานสภาท่องเที่ยวเป็นที่ปรึกษา โดยทั้งสองทีมขับเคี่ยวกันเนื่องจากคะแนนจากผู้สนับสนุนสูสีกันมาก กระทั่งรอบสุดท้ายต้องใช้วิธีโหวตลงคะแนน

ผลการโหวตปรากฎว่า นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ได้คะแนนในรอบสุดท้าย 18 เสียง ส่วนนางศิริรัตน์ ได้เพียง 13 เสียง การแข่งขันจึงยุติลงเวลาเกือบเที่ยงคืน

ข่าวที่สอง เปิดเบื้องหลัง“บินไทย”กลับลำลุยเปิดบินในประเทศแข่งไทยสมายล์เริ่ม25ธ.ค.63

รายงานข่าวจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า ตั้งแต่ ทันทีที่ผู้บริหารและคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทยเห็นไทยสมายล์สายการบินลูกที่ถือหุ้นอยู่ 100 % ประสบความสำเร็จกับเที่ยวบินในประเทศ จึงมีนโยบายให้การบินไทยเปิดเส้นทางบินในประเทศบ้างทั้งที่ก่อนเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการในแผนได้กำหนดให้ไทยสมายล์บินเพียงรายเดียวเพื่อแข่งกับโลว์คอสต์รายอื่น ๆ แต่ตอนนี้เมื่อมีนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร เข้ามารักษาการแทน กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) กำลังเปลี่ยนแผนธุรกิจใหม่อีกครั้ง

 

โดยให้การบินไทยกลับมาเริ่มบินในประเทศใหม่อีกครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป ทดลองบินช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก่อน ใน 2 เส้นทาง ไป-กลับ สุวรรณภูมิ ปลายทาง เชียงใหม่ ภูเก็ต

ทั้งนี้มีพนักงานการบินไทยบางส่วนตั้งข้อสังเกตุว่า การหันมาเปิดบินในประเทศครั้งนี้ จะได้ตารางบินที่ไม่ตอบสนองความต้องการของผู้โดยสาร เนื่องจากตารางเวลา (time slot) ช่วงดี ๆ นั้น ไทย แอร์ เอเชีย ไทยไลออนแอร์ บางกอกแอร์เวย์ นกแอร์ ซึ่งตัดสินใจบินก่อนได้เลือกใช้ไปเกือบหมดแล้ว

รวมถึงมีรายงานระบุว่าการบินไทยจะไม่ใช้หน่วยธุรกิจครัวการบินในประเทศทำอาหารเสิร์ฟขึ้นเครื่อง (catering) ของตนเอง แต่จะใช้วิธีสั่งจากแหล่งอื่นขึ้นมาให้บริการเที่ยวบินในประเทศ ที่จะกลับมาเปิดใหม่ เพราะการตัดสินใจกลับมาเปิดบินใหม่ครั้งนี้ ทำแบบกระชั้นชิด ทางครัวการบินไทยไม่สามารถเตรียมวัตถุดิบได้ทันหรืออาจจะสิ้นเปลืองงบประมาณเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

 


“ชาญศิลป์DDบินไทย” ติดใจขายเที่ยวบินพิเศษรับพรปีใหม่ 1 ม.ค.64

 

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทน กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จะเดินหน้าประชาสัมพันธ์เที่ยวบินพิเศษ “บินรับพรปีใหม่ สุขใจตลอดปี” ในวันที่ 1 มกราคม 2564 เดินทางพร้อมสวดมนต์รับพลังบวกต้อนรับปีใหม่ 2564 พร้อมทั้งชมการแสดงพิเศษ โดยเปิดให้ผู้สนใจสำรองที่นั่ง และออกบัตรโดยสาร ได้ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน - 28 ธันวาคม 2563 ที่โทร. 0-2356-1515 ในวันทำการ จันทร์-ศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ thaiairways.com และ Facebook : RoyalOrchidHolidays

หลังจากประสบความสำเร็จในการขายเที่ยวบิน เที่ยวบินพิเศษ “บินรับมงคลบนฟากฟ้า ผ่าน 99 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทย” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวรับพลังบวกและกระตุ้นการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล โดยทำการบินนำผู้โดยสารเดินทางพร้อมสวดมนต์บนเที่ยวบินที่ ทีจี 8999 ทำการบินวนไม่ลงจอด ใช้เวลาทำการบิน 3 ชั่วโมง

โดยมี อาจารย์ คฑา ชินบัญชร ผู้นำสวดมนต์ในเที่ยวบินนี้ พร้อมด้วยนายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ นายนนท์ กลินทะ รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาอย่างยั่งยืน นายเชิดพันธ์ โชติคุณ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายช่าง นาวาอากาศตรี อนิรุต แสงฤทธิ์ รักษาการ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ นายกฤษณะ แก้วธำรงค์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้เกียรติร่วมเดินทางในและศิลปินดารา ได้แก่ จอย รินลณี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และหมิง อรินทร์มาศ ร่วมเดินทาง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง