“TCEB”ควง3ธุรกิจเปิดแผนรุกผู้นำเอ็กซิบิชั่นเอเชียปี’64 “อินฟอร์มา-เอ็น.ซี.ซี.-กวินฯ”หนุนตลาดโกย2.3หมื่นล้าน
“TCEB”ควง3ธุรกิจเปิดแผนรุกผู้นำเอ็กซิบิชั่นเอเชียปี’64
“อินฟอร์มา-เอ็น.ซี.ซี.-กวินฯ”หนุนตลาดโกย2.3หมื่นล้าน
เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง
ใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97
#TCEBนำไทยเจ้าตลาดเอ็กซิบิชั่นแห่งเอเชีย
“TCEB” ระดมพันธมิตรเปิดแผนเชิงรุก
“เจ้าตลาดเอ็กซิบิชั่น”แห่งเอเชียปี’64 เสริมทัพด้วย 5
กลยุทธ์
“เพิ่มผู้เข้าร่วมงานผ่านออนออฟไลน์-ดึงงานใหม่-ขยายพื้นที่จัด-ผนึกรัฐ-พึ่งเทคโนโลยี
ไฮบริด มาแรงด้านเอกชน 3 ธุรกิจใหญ่
“อินฟอร์มา-เอ็น.ซี.ซี.-กวิน อินเตอร์เทรด”
ขานรับพร้อมกอดคอนำไมซ์ไทยผงาดในสนามแข่งอินเตอร์โกยรายได้ 23,000 ล้าน
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บจัดทำแผนการส่งเสริมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ
(E : Exhibtion) ระยะ 5 ปี ระหว่าง
2562-25666 ในปี 2564 เตรียมสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ
58 งาน ประกอบด้วย งานเดิม 44 งาน และงานใหม่ 14 งาน ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับงานใน 5 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ 1.อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 2.ป้องกันประเทศ 3.ดิจิทัล 4.การแพทย์ครบวงจร
และ 5.อุตเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ แนวโน้มจะสร้างรายได้หมุนเวียนรวม
23,000 ล้านบาท โดยจะขับเคลื่อนการจัดงานเอ็กซิบิชั่นวิถีใหม่ด้วย
5 กลยุทธ์ ดังนี้คือ
1. เอเชีย เซนทริค (Asia Centric) มุ่งเน้นเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมงานแถบเอเชียมากขึ้นผ่านการจัดงานแบบออนไลน์และออฟไลน์
จัดแพ็กเกจสนับสนุนผู้จัดแสดงงาน (Exhibitor) ผู้จัดงาน (Organizer) ผู้เข้าร่วมงาน (Visitor) มอบสิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ
จากผู้จัดงานแสดงสินค้า ผู้ออกร้าน และผู้เข้าร่วมงานจากกลุ่มประเทศในเอเชีย เพื่อรักษาไทยเป็นศูนย์กลางเอ็กซิบิชั่นแห่งเอเชีย
2. ดึงงานแสดงสินค้าใหม่
และส่งเสริมการจัดงานแสดงสินค้า งานประชุมนานาชาติ หรือ งานเฟสติวัลต่างๆ ที่มีลักษณะงานใกล้เคียงกัน เข้ามาจัดในช่วงเวลาเดียวกัน (Attract new shows + Clustering Events) เน้นเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมงานให้มากยิ่งขึ้น
3. ส่งเสริมการขยายงานลงสู่พื้นที่ในภูมิภาคต่างๆ ที่มีศักยภาพ (Driving
Opportunities to Regions) อาทิ โครงการไทยแลนด์ ล็อก-อิน อีเวนต์ ดึงงานเข้าสู่พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
(EEC)
4. ร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ ผลักดันให้เกิดการจัดงานใหญ่ในหน่วยงานต่างๆ (Collaborating
with Government) ทำให้เกิดการจัดงานหนึ่งกระทรวงหนึ่งงานเอ็กซ์โป (One Ministry One Expo) และกระตุ้นภาครัฐให้เห็นความสำคัญงานแสดงสินค้านานาชาติ
สนับสนุนการจัดงานหรือส่งเสริมการประชุมหรือการแข่งขันชิงงานเอ็กซิบิชั่นระดับนานาชาติภายใต้อุตสาหกรรมเดียวกัน
เพื่อเพิ่มองค์ความรู้และยกระดับความสำคัญของงานดังกล่าว
5. ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ
เพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้กับผู้เข้าร่วมชมงานผ่านช่องทางออนไลน์ (Innovation
& Technology to Drive Trade Shows) มุ่งเน้นเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
และกระจายเครือข่ายให้มากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนให้ผู้จัดงาน
ผู้ออกร้าน รวมทั้งการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยียังช่วยลดการสัมผัสงานที่จัดขึ้นตามปกติด้วย
นายจิรุตถ์กล่าวว่า ปี 2563 สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ตามปกติ
แต่ผู้จัดงานในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ
ต่างนำเทคโนโลยีมาช่วยจัดงานรูปแบบปกติร่วมกับออนไลน์หรือไฮบริด เอ็กซิบิชั่น จึงยังคงเกิดการเจรจาธุรกิจและการซื้อขายระหว่างนักธุรกิจไทยและกลุ่มลูกค้าในอาเซียน
เกิดการจับคู่ทางธุรกิจขึ้นกว่า 15,000 คู่ โดยทีเส็บได้สนับสนุนทั้งสิ้น
24 งาน ซึ่งมีผู้ร่วมงานจากทั้งในและต่างประเทศรวม 133,259 คน สร้างรายได้ 6,521 ล้านบาท
ในปี 2563 ทีเส็บมุ่งเน้นการดึงงานและสนับสนุนการจัดงาน
12 อุตสาหกรรมหลัก เพื่อตอบรับนโยบายจากรัฐบาล โดยปรับแผนงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์โควิด-19
พร้อมรับการจัดงานวิถีใหม่ New Normal ที่รวมถึงทีเส็บได้จัดทำโครงการเอ็กซิบิชั่นนิวนอร์มช่วยฟื้นฟูและผลักดันผู้จัดเอ็กซิบิชั่นในไทย
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเสริมศักยภาพในประเทศได้ตามมาตรการอย่างปลอดภัย
ครอบคลุมทุกรูปแบบการจัดงาน ทั้งการจัดงานในรูปแบบปกติ (Face to Face) และไฮบริดออนไลน์
นายสรรชาย
นุ่มบุญนำ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ทางอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์
นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาส่งเสริมการจัดงานแสดงสินค้าในยุควิถีใหม่ โดยงานแสดง ทุกงานได้จัดกิจกรรมและประชาสัมพันธ์งานผ่านช่องทางดิจิทัลต่าง
ๆ อาทิ การจัดสัมมนาออนไลน์ (Webinar) เพื่อให้ความรู้กับอุตสาหกรรมและประชาสัมพันธ์งานอย่างต่อเนื่อง
เน้นย้ำสุขอนามัยในการเข้าร่วมงานตามมาตรฐาน
Standard Operating Procedure (SOP) เพิ่มช่องทางในการประชาสัมพันธ์งานให้หลากหลาย
เช่น ทางเว็บไซต์ E-newsletter Facebook และ Line OA โดยจัดงานแสดงสินค้าแบบไฮบริด เอ็กซิบิชั่น
มีผู้สนใจเข้าชมงานจากหลากหลายประเทศผ่านดิจิทัลกว่า 2,500
คน และการจัดเจรจาธุรกิจออนไลน์ กว่า 500 นัด ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม
นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด กล่าวว่า การจัดงานเอ็กซิบิชั่นยังคงเป็นกลไกสำคัญเชื่อมต่ออุตสาหกรรม พร้อมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศแม้ในช่วงวิกฤต ทางนีโอเองในฐานะผู้จัดงานเเสดงสินค้าระดับนานาชาติได้นำเทคโนโลยีเข้ามาผสานร่วมกับครีเอทีฟไอเดียในการสร้างสรรค์งานเเสดงสินค้าในรูปเเบบใหม่ อาทิ Webinar, Live streaming, Virtual Exhibition และ Online Business Matching เพื่อเสริมศักยภาพและการเข้าถึงอย่างไร้ขีดจำกัด
นายกวิน กิตติบุญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท กวิน อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด 19
และการห้ามเดินทางระหว่างประเทศ จึงได้เริ่มนำดิจิทัล เทคโนโลยีมาใช้ในการจัดงานแสดงของบริษัทฯ
เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แสดงไทยได้มีโอกาสพบปะกับกลุ่มเป้าหมายผู้ซื้อจากต่างประเทศที่สนใจแต่ไม่สามารถเดินทางมาได้เพราะปิดประเทศ
ผลปรากฎได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้แสดงสินค้านานาชาติปี 2564 เตรียมจัดงานในรูปแบบไฮบริดมีทั้ง
Face to Face และดิจิทัล พร้อมทั้งคาดสถานการณ์โควิด-19
คงยังไม่จบและวัคซีนที่ผลิตออกมายังมีไม่เพียงพอ การใช้ดิจิทัลจะครอบคลุมทั้งงานในส่วนเอ็กบิชั่นนานาชาติที่สนใจต้องการขยายตลาดมาไทยแต่มาร่วมงานไม่ได้
และ การจัด Thai Exhibitors ที่ต้องการขายสินค้าไปต่างประเทศ
ถือเป็นสัญญาณที่ดีเมื่อไมซ์ของไทยพร้อมใจกันปรับกลยุทธ์รองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ธุรกิจวิถีใหม่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น