ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เปิดใจ“ชำนาญ ศรีสวัสดิ์”ประธานสภาท่องเที่ยวคนใหม่นำธุรกิจฝ่าโควิด เสนอ“รถ-เรือ-สปา”เข้าเราเที่ยวด้วยกัน-ปั้นเฮลท์เวลเนส-ดึงแบงก์SMEอุ้ม

 เปิดใจ“ชำนาญ ศรีสวัสดิ์”ประธานสภาท่องเที่ยวคนใหม่นำธุรกิจฝ่าโควิด

เสนอ“รถ-เรือ-สปา”เข้าเราเที่ยวด้วยกัน-ปั้นเฮลท์เวลเนส-ดึงแบงก์SMEอุ้ม

คิงเพาเวอร์บูมช้อป“MORE COMFY,HAPPY HOME”ลดสูงสุด45%+35%

คิงเพาเวอร์เปิดมหานครสกายวอล์คจัดพิเศษ2กิจกรรม”Cityscape-ชมดาว

ช้อปคอลเลคชั่นแว่นกันแดดแบรนด์SIRIVANNAVARIที่คิงเพาเวอร์รางน้ำ

กรมอนามัย-ททท.ย้ำท่องเที่ยวเข้มมาตรฐานSHA+3C:Clean-Care-Clear

TCEB”ทำสำเร็จประชุมเมืองไทยปลอดภัยกว่า4เดือนไมซ์พุ่งกว่าพันกลุ่ม

เมืองพัทยาเนรมิตนีโอเกาะล้าน:ท่าเรือ-ประปา-เตาเผาขยะ-ถนน-จุดชมวิว

ฝุ่น PM 2.5 กลับมาอีกแล้วภัยใกล้ตัวกับวิธีที่ต้องดูแลตัวเองให้ห่างไกลโรค

จ่อชงครม.17ธ.ค.นี้หนุนโปรเจ็กต์ “เที่ยวไทยวัยเก๋า”ทัวร์วันธรรมดา5พันล้าน

บินไทยจัดWinterFestชวนกันเปิดบูธขายสินคริสต์มาส-ปีใหม่23-26ธ.ค.นี้

มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพชวนช้อปสินค้าของขวัญของฝากส่งท้ายปี19ธ.ค.นี้

 

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #ชำนาญศรีสวัสดิ์ #คิงเพาเวอร์ชวนชมแว่นกันแดดแบรนด์SIRIVANNAVARI #เที่ยวงานเทิดพระเกียรติกรมหลวงชุมพร

ฟัง live สดลิงค์นี้https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1525691177624935&id=100005522016696

            ช่วงที่ 1 เปิดใจ “ชำนาญ ศรีสวัสดิ์-โกจง” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) โชว์ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน “ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Health &Wellness” นำธุรกิจฝ่าวิกฤตโควิด-19 ใช้เครือข่ายสมาพันธ์ธุรกิจภูมิภาคทั่วไทยกอดคอทำตลาดเชิงรุก ใช้ประโยชน์ 2 โครงการรัฐ “เราเที่ยวด้วยกัน-คนละครึ่ง” เป็นสปริงบอร์ดปลุกเที่ยวไทยใช้เงินสะพัดทุกจังหวัด จ่อเสนอกระทรวงการท่องเที่ยว และททท. อนุมัติเพิ่ม 3 ธุรกิจ “รถ-เรือ”ท่องเที่ยว “สปา” เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และกอดคอ ธนาคาร SMEs เปิดอบรมกิจการท่องเที่ยวแต่งตัวบริษัท ปรับระบบบัญชี เรียนรู้โปรดักซ์การเงิน ก่อนเสนอแผนกู้เงินต่อลมหายใจท่องเที่ยวรายย่อยทั่วไทยรอบใหม่

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้รับเลือกจากสมาชิกให้เข้ารับตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2563 ท่ามกลางปัจจัยท้าทายจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 นโยบายหลักมุ่งทำเรื่องแรก โครงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหรือ Health and Wellness Tourism โดยมีทีมหมอผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยอย่างเต็มที่ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นทำให้สมาชิกเข้าใจความปลอดภัยควบคู่กันไปด้วย เรื่องที่ 2 เร่งการทำตลาดไทยเที่ยวไทย โดยใช้เครือข่ายของสมาพันธุ์ธุรกิจท่องเที่ยวภูมิภาคแห่งประเทศไทย ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วประเทศจับมือกับทางส่วนกลาง จะเดินหน้าทำทันที

โดยจะใช้ประโยชน์จาก 2 โครงการของรัฐบาลที่กำลังได้รับความนิยมมีกระแสตอบรับดีมาก โครงการที่ 1  “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งรัฐสนับสนุนส่วนลด 40 % ให้ผู้ประกอบการห้องพัก สายการบิน และเงินใช้จ่ายรายวันในร้านอาหาร ถึงแม้จะมีปัญหาเข้าข่ายฉ้อโกงเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเพียงเพราะคนบางกลุ่มที่ประพฤติไม่ดี แต่ก็ยังเชื่อว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะสามารถแก้ไขให้ลุล่วงไปได้ กับโครงการที่ 2 “คนละครึ่ง” รัฐจ่ายให้ครึ่งหนึ่งเพื่อซื้อสินค้าต่าง ๆ ได้สำหรับทุกคนที่ลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการสำเร็จ

 


ขณะนี้สมาชิกสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ลงความเห็นร่วมกันให้เร่งผลักดันขยายกลุ่มธุรกิจให้ได้รับสิทธิ์นำเสนอสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่การท่องเที่ยวได้แก่ กลุ่มธุรกิจบริการขนส่งหรือโลจิสติกส์อย่าง รถตู้ รถเช่า เรือท่องเที่ยว ให้บริการท่องเที่ยวรายวันทั้งในแม่น้ำเจ้าพระยา ทะเลแต่ละภาค  และกลุ่มธุรกิจสปา เป็นการเพิ่มโปรดักซ์ให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกหลากหลายมากขึ้น เป็นอีกช่องทางที่จะช่วยพยุงการจ้างงานไม่ให้คนตกงานเพิ่มขึ้น

ส่วนช่องทางการนำเสนอเพื่อขอเพิ่มกลุ่มธุรกิจขนส่งและสปาเข้าไปอยู่ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน นั้น ก็จะใช้ช่องทางตามปกติคือผ่านทาง ททท.กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่ายังมีธุรกิจเหล่านี้อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโปรดักต์โดยไม่ได้กระทบกระเทือนส่วนอื่น และขณะนี้รัฐบาลเองก็ยังมีงบประมาณเหลืออยู่พอสมควร

นายชำนาญกล่าวว่า การท่องเที่ยวถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การกระตุ้นคนเที่ยวเมืองไทย ตอนนี้เป็นโอกาสของคนไทยจะได้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศในราคาถูกแสนถูก เพราะโรงแรมลดราคาจำนวนมาก ระดับ 5 ดาว ต้องขายราคาเหลือ 2 ดาว ตัวอย่าง “ภาคใต้” ปกติผู้ประกอบการจะทำการตลาดใน 2 ลักษณะ คือ 1.การจัดงานเทรดตั้งโต๊ะเจรจาจับคู่การขายระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ : Business to Business 2.จัดมหกรรมขายตรงกับผู้บริโภค Business to Consumer : B to C รวบรวมสินค้าท่องเที่ยวทั่วประเทศเข้ามาวางขาย สร้างแพกเกจดึงดูดความสนใจ เช่น แพกเกจ นั่งเครื่องบินลงใต้ไปสุราษฎร์ธานี เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน ไปนอนพักค้างคืนนครศรีธรรมราช ไหว้ไอ้ไข่วัดเจดีย์ เป็นการท่องเที่ยวภายในภูมิภาคด้วยกันก่อน เช่น สุราษฎร์ธานีบินเที่ยวนครศรีธรรมราช แล้วลงไปเที่ยวต่อในกระบี่ ตรัง จะคุ้มค่าเงินสำหรับคนไทย

โดยพฤติกรรมตอนนี้คนไทยหันมาท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะขนาดกลุ่มเล็ก ๆ 4-5 คน ไม่อยากร่วมทริปเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ จึงเป็นโอกาสทั้งการเที่ยวภายในภาคเดียวกัน หรือจะเชิญชวนเที่ยวข้ามภาค เนื่องจากรัฐบาลให้การสนับสนุน นักท่องเที่ยวสามารถใช้ประโยชน์ เพื่อเที่ยว ภูเก็ต กระบี่ สมุย ตรัง และจังหวัดอื่น ๆ ได้

 


นายชำนาญกล่าวถึงการเพิ่มความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมีข่าวดีเมื่อเร็ว ๆ นี้ทางธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SME BANK เชิญชวนเข้าไปพูดคุยด้วย สามารถตอบโจทย์สมาชิกสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ได้ เนื่องจากขณะนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวความต้องการ 2 เรื่องหลัก คือ 1.เงินทุน 2.การตลาด  การเดินหน้าความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกับทางธนาคารเอสเอ็มอี ส่วนที่ 1 พุ่งเป้าทำโครงการ “ฝึกอบรมภาคธุรกิจท่องเที่ยวทั่วประเทศ” เน้นให้ความรู้ Up Skill -Re Skill ถึงการปรับตัวทั้งทางด้านการวางโครงสร้าง แต่งตัวกิจการ การทำบัญชีบริษัท ให้สอดคล้องกับธุรกิจวิถีใหม่ โดยจะสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 เป็นต้นไป

ส่วนที่ 2 ร่วมกับทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดหลักสูตรอบรม สัมมนากลุ่มพนักงานบริษัทบริหารจัดการเดินทาง หรือ Destination Management Company : DMC ระดับท้องถิ่นกระจายทั่วทั้ง 5 ภาค สอดรับกับโครงการ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” สัมมนานอกกรอบ และกิจกรรมต่าง ๆ ตามชุมชน โดยสมาคมต่าง ๆ ทั้ง สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ (สนท.) สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) สมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (TTAA) หรือสมาคมที่เป็นสมาชิกสภาท่องเที่ยว ผลิตแพกเกจขายในประเทศ เนื่องจากยังไม่รู้ว่าจะมีต่างชาติเดินทางเข้ามาได้เมื่อไร เป็นการเปิดช่องทางความร่วมมือให้เกิดการขับเคลื่อนตลาด “ไทยเที่ยวไทย” ด้วยวิธีเอกชนจับมือกับเอกชน และเอกชนจับมือกับรัฐ

สำหรับการนำทัพผู้ประกอบการท่องเที่ยวเอกชน “เข้าถึงแหล่งเงินทุน” ต้องทำความเข้าใจกับสมาชิกถึงการกู้เงินต้องมีกฎกติกาการปฏิบัติตามระเบียบการกู้เงิน บางครั้งอาจจะทำให้เกิดความอึดอัดกันบ้าง แต่ตอนนี้เราก็รู้ปัญหาในฐานะที่เกิดมาจากส่วนภูมิภาคจึงเข้าใจเป็นอย่างดีว่า 1.ต้องจัดทำระบบบัญชี 2.แหล่งเงินทุนมีหลายประเภท ถ้ากู้ก็ต้องรู้ว่าโปรดักท์การเงินมีอะไรบ้าง แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับรู้รายละเอียด พอเกิดเหตุการณ์ไวรัสโควิด-19 จึงเกิดอาการช็อกไปตาม ๆ กัน

ดังนั้นในการเปิดโครงการอบรมสัมมนา โดยมีตัวแทนจากธนาคารเอสเอ็มอีเข้ามาช่วยโดยมีสาขาทั่วประเทศ ร่วมกับสมาคมท่องเที่ยวนั้น ๆ หาวิธีการปล่อยกู้ โดยมีภาคเอกชนชี้เป้าว่า ธุรกิจกลุ่มไหนบ้างยังสามารถช่วยได้ ยังไม่ตาย ยังพอหายใจได้ จากการพูดคุยกันจะไม่ได้เน้น “ให้เงินกู้เพียงอย่างเดียว” แต่จะอบรมให้ความรู้ควบคู่ไปด้วย เช่น เดิมบางบริษัทขายทัวร์ยุโรปอย่างเดียวหันมาเปลี่ยนเป็นขายทัวร์คนไทยบ้างได้ไหม ไม่ใช่พอได้เงินไปจะรอแต่ยุโรปก็ไม่เกิดประโยชน์ จึงต้องอบรมเรื่อง Up Skill-Re Skill โดยตัวผมซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานสมาพันธุ์ธุรกิจท่องเที่ยวภูมิภาคแห่งประเทศไทย จะใช้เวทีนี้เดินสายพบปะสมาชิกทั่วประเทศเพื่อระดมสมองเข้ามาช่วยกันหาทางออก

ขณะนี้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่จะเข้าโครงการอบรมเพื่อปรับรูปแบบการดำเนินงานหรือแต่งตัวก่อนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ยังเป็นห่วงหลังจากนี้ไปเป็นวิถีใหม่ New Normal แล้วผู้ประกอบการยังจะยึดติดอยู่กับรูปแบบการทำธุรกิจแบบเดิม ๆ หรือเปล่า ดังนั้นการจัดอบรมครั้งนี้ จึงต้องเปิดคลินิกช่วยแก้ปัญหาท่องเที่ยวควบคู่ไปด้วย หรือ Tourism Clinic จัดทีมผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำธุรกิจใดควรเปลี่ยนแปลงเรื่องใด หรือเปลี่ยนวิธีคิด อาชีพ โปรดักต์ หรือทัศนคติ เพราะจู่ ๆ จะได้เงินไปใช้เลยทีเดียวคงไม่ใช่แน่นอน

นายชำนาญกล่าวถึงวิกฤตเร่งด่วนในภาคเหนือที่เชียงรายกับเชียงใหม่ ต้องเผชิญกับการยกเลิกท่องเที่ยวหลังมีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ แต่ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ททท.หน่วยงานต่าง ๆ ได้เข้าไปช่วยอย่างเต็มที่ ส่วนสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะแนะนำผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกห้ามการ์ดตก และเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้วทุกบริษัท ทุกคนต้องไม่ประมาท เหตุการณ์ทุกวันนี้ทั่วโลกก็เกิดปรากฎการณ์ติดและแพร่เชื้ออยู่จำนวนมาก แต่ยอมรับหมอไทยเก่งที่สามารถป้องกันได้ดี

สำหรับวันนี้เป็นโอกาสของคนไทยที่จะได้ออกเดินทางโดยเฉพาะคนที่มีกำลังซื้อเพียงพอ ขอให้ท่องเที่ยวในประเทศ เที่ยวช่วยเศรษฐกิจ ช่วยชาติ ช่วงที่ผู้ประกอบการต้องการความช่วยเหลือให้มาต่อลมหายใจ ต่อยอดธุรกิจ เพื่อเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันต่อไป

 ฟังข่าวต้นชั่วโมง


ข่าวที่
1
คิงเพาเวอร์บูมช้อป“MORE COMFY,HAPPY HOME”ลดสูงสุด45%%+35%

คิง เพาเวอร์ ชวนช้อปออนไลน์เทศกาลแห่งความสุขกับแคมเปญ “MORE COMFY, HAPPY HOME” สินค้าพิเศษลดสูงสุด 45% และลดเพิ่มสูงสุดอีก 35% พร้อมร่วมมาตรการรัฐ “ช้อปดีมีคืน” จากสินค้าประเภทส่งบ้าน รับสิทธิ์ลดหย่อนหรือคืนภาษีที่ www.kingpower.com หรือ แอปพลิเคชั่น คิง เพาเวอร์

 

            กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มบอสิ่งดี ๆ ให้ผู้ที่กำลังมองหาของขวัญช่วงเทศกาลปีใหม่ เชิญชวนมาเลือกชีอปค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า แก็ดเจ็ต อโรมาเธอราพี อาทิ SAMSUNG, HUAWEI, JBL, PANASONIC, FOREO, LESASHA, CREATE ION, ERB, PANPURI, HARNN และอีกมากมาย พบความคุ้มค่ากับแคมเปญ “MORE COMFY, HAPPY HOME ในราคาลดพิเศษลดสูงสุด 45% และรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 35% (ไม่มีขั้นต่ำ) เมื่อใส่รหัสส่วนลด : COMFY35 พร้อมบริการ Home Delivery จัดส่งสินค้าถึงบ้านฟรี ทั่วประเทศ เมื่อช้อปครบ 699 บาทขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2563

รวมถึงได้เพิ่มความสุขมากขึ้นโดยให้นักช้อปเข้าร่วมโครงการ “ช้อปดีมีคืน” แบบต้องลงทะเบียน ลูกค้าสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้ามาหักลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุด 30,000 บาท เมื่อช้อปสินค้าประเภทส่งบ้าน (HOME DELIVERY) ใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้- 31 ธันวาคม 2563 ผ่านช่องทางออนไลน์ www.kingpower.com หรือ แอปพลิเคชัน คิง เพาเวอร์ สอบถามเพิ่มเติมที่ Contact Centre 1631 หรือ King Power’s Official Facebook

 


ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์มหานครเปิดสกายวอล์คจัดพิเศษ2กิจกรรม”Cityscape-มหัศจรรย์ดวงดาว

 

คิง เพาเวอร์ มหานคร แลนด์มาร์คด้านการท่องเที่ยวของไทย ปลายเดือนธันวาคม 2563 จัดพื้นที่ดาดฟ้า “มหานคร สกาย วอล์ค” ไว้ต้อนรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบ  2 กิจกรรมพิเศษ คือ กิจกรรมแรก “Mahanakhon Cityscapes” ชวนไปสัมผัสแสงอาทิตย์ขึ้นยามเช้าและลับฟ้ายามเย็น วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคมนี้ กิจกรรมที่สอง “The Great Conjunction 2020” ชมปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ การโคจรของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์เข้ามาใกล้กันมากที่สุด 397 ปี ในวันจันทร์ที่ 21 ธันวาคมนี้

 

กิจกรรมแรก “Mahanakhon Cityscapes” ชวนมาร่วมเก็บภาพสวยๆ ของแสงแรกรับวันใหม่ และดื่มด่ำกับแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้ายามเย็นลับขอบฟ้าได้ในเวลา 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงเช้า ตั้งแต่ 05.00 – 08.00 น. พร้อมของว่าง และช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 10.00 – 00.00 น. พร้อมเครื่องดื่ม 1 แก้ว (เลือกเข้าชมเวลาใดก็ได้) ในราคาคนละเพียง 1,999 บาท พร้อมสิทธิพิเศษนำขาตั้งกล้องติดตัวขึ้นไปได้คนละ 1 ขาตั้ง ตลอดทั้งสองช่วงเวลาของการจัดกิจกรรม (หากนำขาตั้งกล้องติดตัวขึ้นไปมากกว่า 1 ขาตั้ง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) สำรองบัตรได้ที่ https://bit.ly/Mahanakhon-Cityscapes-2711 (รับจำนวนจำกัด)

 


กิจกรรมที่สอง “The Great Conjunction 2020” วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม นี้ ทางคิง เพาเวอร์ มหานคร ร่วมกับ สมาคมดาราศาสตร์ไทย จัดกิจกรรมสังเกตการโคจรมาพบกันของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ที่เข้ามาใกล้กันมากที่สุดในรอบ 397 ปี ห่างเพียง 0.1 องศา ด้วยกล้องโทรทรรศน์ บนมหานคร สกายวอล์ค ชั้น 78 ตั้งแต่ 18.00 – 20.00 น. บัตรขึ้นชม ผู้ใหญ่ คนละ 530 บาท รวมเครื่องดื่มซอฟดริ้ง 1 แก้ว เด็กอายุ 3-15 ปี และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คนละ 250 บาท ซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้าได้ที่ http://bit.ly/Mahanakhon-SkyWalk-Tickets หรือที่เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรเข้าชมตรงชั้น 1 คิง เพาเวอร์ มหานคร

 









ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์ชวนช้อปคอลเลคชั่นแว่นกันแดดแบรนด์ SIRIVANNAVARI ที่รางน้ำ

ดร.พัชรินรุจา จันทโรนานนท์ และ โทบี้-ชัยวัฒน์ ตั้งคารวคุณ ร่วมกับ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมชมคอลเลคชั่นแว่นตากันแดดครั้งแรกจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา หนึ่งในคอลเลคชั่น “FRENCH FLAIR” (เฟรนช์แฟลร์) คอลเลคชั่นทรงออกแบบประจำฤดูกาลออทั่ม/วินเทอร์ 2020/2021 ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’Homme ได้ที่ร้าน SIRIVANNAVARI ชั้น 1 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

ล่าสุด ดีไซน์แรกของแว่นตากันแดดคอลเลคชั่นดังกล่าว พร้อมเผยโฉมให้แฟชั่นนิสต้าจับจองเป็นเจ้าของแล้ว ด้วยกลิ่นอายความมีเสน่ห์ของปารีเซียงสตรีตสไตล์เพื่อลุคอันโมเดิร์นรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

สำหรับดีไซน์แรกแว่นตากันแดดคอลเลคชั่นนี้ ผลิตขึ้นจากอาซิเตตชั้นดี ได้รับการดีไซน์กรอบแว่นเป็นทรงแปดเหลี่ยม ประดับเหรียญ และประทับโลโก้นกยูงที่ขาแว่น โดยมีให้เลือก 3 เฉดสีด้วยกัน ได้แก่ สีกระ สีเขียว และสีน้ำตาล ทั้งหมดมาพร้อมโซ่คล้องแว่น เพื่อความเก๋และความสะดวกในการใช้งานทั้งสำหรับสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ

สามารถชมคอลเลคชั่นแว่นตากันแดดและผลิตภัณฑ์แฟชั่นอื่นๆ ในคอลเลคชั่น “FRENCH FLAIR” (เฟรนช์แฟลร์) คอลเลคชั่นทรงออกแบบประจำฤดูกาลออทั่ม/วินเทอร์ 2020/2021 ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’Homme ได้ที่ร้าน SIRIVANNAVARI ชั้น 1 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 


ข่าวที่ 4 กรมอนามัย-ททท.ย้ำเข้มมาตรฐานSHAเพิ่ม3CClean-Care-Clear

 

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า พร้อมสนับสนุนและร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ขับเคลื่อนการดำเนินงานสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration (SHA)  ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และสร้างวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ในการป้องกันโรคของนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ใช้บริการ รณรงค์คนในประเทศการ์ดไม่ตกในช่วงที่ยังคงมีไวรัสโควิด-19 ระบาดอยู่

ทางกรมอนามัยได้ใช้หลักเกณฑ์ด้านสุขอนามัยและอนามัยสิ่งแวดล้อมกระตุ้นและรณรงค์ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจเกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องหลักคือ การจัดการขยะ ส้วม สุขาภิบาล และให้คำปรึกษา คำแนะนำด้านวิชาการแก่ธุรกิจที่ต้องการเข้าร่วมมาตรฐาน SHA

โดยเน้นย้ำธุรกิจในการจัดทำมาตรฐานสถานภายใต้ 3 C Clean ได้แก่ C แรก ส้วมสาธารณะมาตรฐาน กับ HAS ร้านอาหารมาตรฐานอาหารสะอาด รสชาติอร่อย ซึ่งมีร้านที่ได้การรับรอง Clean Food Good Taste  ส่วนร้านในชุมชนก็มีมาตรฐานอาหารริมบาทวิถีรองรับคือ Street Food Good Health ตลอดเส้นทางการเดินทาง C ที่สอง Care : โรงพยาบาลรักษ์สิ่งแวดล้อม ก็มี Green and Clean Hospital ดูแลมาตรฐานอย่างใกล้ชิด และ C ที่สาม Clear ระบบระบายอากาศในสถานประกอบการทุกแห่งจะต้องมีมาตรฐานที่ดี เหมาะสม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ขณะเดียวกันยังได้ช่วยดูแลเส้นทางการท่องเที่ยว/และกิจการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เครื่องบิน สนามบิน รถ/เรือนำเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร/สตรีทฟู๊ด แหล่งท่องเที่ยว/ชายหาด โรงพยาบาล และประเมินรับรองมาตรฐานให้กับจังหวัดที่เป็นพื้นที่นำร่อง ที่มีศักยภาพ/สนใจเข้าร่วมโครงการ และจะขยายการดำเนินงานในทุกจังหวัดต่อไป ในการยกระดับการท่องเที่ยวปลอดภัย มีสุขอนามัยที่ดี

โดยขอย้ำเน้นผู้ประกอบการทุกแห่ง ต้องปฏิบัติดังนี้ 1.คัดกรองด้วยวิธีลงทะเบียนผู้รับบริการ 2.จัดให้รักษาระยะห่าง ระบายอากาศที่ดี 3.จัดที่ล้างมือ/เจลแอลกอฮอล์ 4.ทำความสะอาดพื้น เน้นทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมและห้องน้ำ เพิ่มรอบทำความสะอาด 5.กำจัดขยะอย่างถูกวิธี 6.สื่อสารแจ้งข้อปฏิบัติแก่ผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือ รักษาระยะห่าง ลดการสัมผัส/งดใช้ของร่วมกัน จัดอาหารเฉพาะบุคคล หากพนักงาน/ผู้ให้บริการป่วยให้หยุดงาน และขอความร่วมมือให้ลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม ไทยชนะ เมื่อใช้บริการในสถานที่ต่าง ๆ

นางรุจิรัศมิ์ ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า ผู้ประกอบการที่ปรับปรุงมาตรฐานผ่านเกณฑ์ด้านสุขอนามัยของกระทรวงสาธารณสุข จะได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ซึ่งมี 3 ด้าน คือ ด้านอาคารสถานที่ อุปกรณ์ทำความสะอาด และการดูแลสุขภาพผู้ปฏิบัติงาน ตั้งแต่พฤษภาคม-ธันวาคม 2563 ททท.มีสถิติผู้ประกอบการ 10 ประเภทกิจการ ลงทะเบียนร่วมโครงการแล้วเกินกว่าหมื่นราย

ทั้งนี้ทุกฝ่ายสามารถเสนอแนะข้อมูลเพื่อให้ ททท.นำไปปรับปรุงและพัฒนาผ่านช่องทางออนไลน์ ททท.https://thailandsha.tourismthailand.org/ ซึ่งมีทีมสุ่มตรวจประเมินสถานประกอบการโดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเป็นระยะ ๆ เพื่อกระตุ้นผู้ประกอบการโรงแรมและการท่องเที่ยวปรับมาตรฐานขานรับการท่องเที่ยววิถีชีวิตใหม่ไปด้วยกัน

 


ข่าวที่ 5 TCEB”โชว์ความสำเร็จประชุมเมืองไทยปลอดภัยกว่า4เดือนไมซ์พุ่งกว่าพันกลุ่ม

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้ประเมินผลสำเร็จโครงการ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” โดยทีเส็บรณรงค์ให้องค์กรเอกชนเร่งจัดประชุมสัมมนาและให้รางวัลพนักงานเดินทางในประเทศ กระตุ้นให้เกิดการสร้างงานและกระจายรายได้ไปยังชุมชนในภูมิภาคต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ตลอด 4 เดือน ตั้งแต่1 กรกฎาคม – 20 ตุลาคม 2563 ได้รับความสนใจจากเอกชนไมซ์ร่วมโครงการ 1,049 กลุ่ม มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมไมซ์ทั้งหมด 62,555 คน กระจายจัดงานทุกภาคทั่วประเทศใน 50 จังหวัด สร้างรายได้หมุนเวียนในธุรกิจ130 ล้านบาท ปี 2564 ตั้งเป้าจะเร่งส่งเสริมตลาดไมซ์ในประเทศเติบโตเพิ่มอีกประมาณ 3.5%จากนักเดินทางรวม 10 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 30,000 ล้านบาท

 

ตามสถิติงานที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจัดไมซ์น องค์กรบริษัทส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับการจัดประชุมสัมมนาตลอดจนกิจกรรมที่ช่วยสร้างทีมเวิร์คองค์กร ซึ่งการส่งเสริมจัดประชุมสัมมนาในประเทศจึงเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างเข้มแข็ง โดยสามารถกระจายรายได้สู่ภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องลงถึงฐานรากระดับชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับโครงการ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” นั้นทีเส็บใช้งบประมาณไปกว่า 20 ล้านบาท เน้นสนับสนุนองค์กรเอกชนขอสนับสนุนเงินตามเงื่อนไขที่กำหนดในรูปแบบบัตรกำนัลมูลค่าสูงสุดไม่เกินกลุ่มละ 30,000 บาท มีผลตอบรับดีมากกระแสเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

ตามกลยุทธ์มุ่งสนับสนุนแบ่งเป็น 6 กิจกรรม โดยมีเอกชนเข้าร่วมตามสัดส่วนดังนี้ 1.การสัมมนาองค์กร 35% คิดเป็น 315 งาน จากทั้งหมด 896 งาน 2.การประชุมองค์กร 27% มี 246 งาน 3.กิจกรรมนอกสถานที่ทำการของบริษัท  14% มี127 งาน 4.กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์ 10% มี 94 งาน 5.กิจกรรมเพื่อสังคม 9% มี 81 งาน และ 6.การเดินทางเพื่อเป็นรางวัลองค์กร 4% มี 33 งาน 

ส่วนการจัดงานตามคอนเซ็ปต์แนวคิด 7 รูปแบบ ผลปรากฎว่า 1.กิจกรรมการสร้างทีมเวิร์ค หรือ Team Building ได้รับความนิยมสูงสุดถึง 63% คิดเป็น 377 งาน จากทั้งหมด 596 งาน 2.กิจกรรม CSR และการประชุมเชิงอนุรักษ์ 15% มี 88 งาน 3.ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม 10% มี 59 งาน 4.กิจกรรมบรรยากาศชายหาด 5% มี 31 งาน 5.การจัดงานและกิจกรรมหรูหรามีระดับ 4% มี 23 งาน 6.กิจกรรมนำเสนออาหารไทยในทุกการจัดงานที่หลากหลาย 2% มี 11 งาน และ 7.การผจญภัย 1% มี 7 งาน 

               


ข่าวที่ 6 เมืองพัทยาเนรมิต“นีโอเกาะล้าน” ท่าเรือ-ประปา-เตาเผาขยะ-ถนน-จุดชมวิว

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่าทางเมืองพัทยาเตรียมเนรมิต “นีโอ เกาะล้าน : เกาะล้าน โฉมใหม่” แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 การพัฒนาสาธารณูปโภค ส่วนที่ 2 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานปรับภูมิทัศน์รอบเกาะทั้งหมด เริ่มต้นจากตอนนี้บนเกาะใช้ประโยชน์จาก 2 ท่าเรือหลัก ถึงเวลาจะต้องปรับปรุงใหม่ คือ

1.ท่าเรือหน้าบ้าน สร้างมากว่า 26 ปี ขณะนี้ออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้วกำลังศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เตรียมใช้เงินปรับปรุง 128 ล้านบาท ทำให้มีพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร

2.ท่าเรือหาดตาแหวน ให้บริการนักท่องเที่ยวมา 20 ปี ตั้งงบประมาณปรับปรุงซ่อมแซม 30 ล้านบาท เริ่มปี 2564 อยู่ระหว่างออกแบบ เพื่อทำเป็นท่าเรือท่องเที่ยวหลักอีกแห่ง ส่วนที่ 2 ท่าเรือขนส่ง เดิมใช้ท่าเรือหน้าบ้านทั้งบริการนักท่องเที่ยวและขนสินค้า จึงขอความร่วมมือแก้ไขเบื้องต้นเมื่อมีเรือโดยสารเข้าขอให้เรือขนวัสดุหยุดบริการชั่วคราว

อีกทั้งยังมีแผนพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ “จุดชมวิว หาดตาแหวน” ตั้งงบประมาณหาผู้รับจ้างดำเนินการ และเพิ่มจุดชมวิวตรงลานกิจกรรม “ร่มร่อน” เคยจัดแข่งขันระดับนานาชาติมาแล้ว

ตอนนี้ศึกษาเพิ่มอีก 2 พื้นที่ คือ พื้นที่แรก ท่าตลิ่งชัน อยู่บริเวณทางทิศเหนือของเกาะเลยศูนย์สาธารณสุขเกาะล้าน พื้นที่ 2 ท่าไร่ อยู่ทางทิศใต้เกาะล้าน ปัจจุบันใช้ขนส่งวัสดุขนาดใหญ่เมื่อมีการก่อสร้างเกาะล้าน ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกจะใช้ท่าเรือใด

ระหว่างรอการก่อสร้างท่าเรือแห่งใหม่บนเกาะล้าน จะนำแพพลาสติกเป็นทุ่นลอยน้ำเหมือนกับท่าเรือบาลีฮาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ใช้งานตามปกติควบคู่กันไป สรุปแล้วจะมีท่าเรือใช้งานได้ 3 จุด คือ ท่าเรือหน้าบ้าน หาดแสม และบริเวณหน้าสถานีอนามัยเกาะล้าน ซึ่งมีสะพานเดิมใช้งานอยู่ได้ ทำให้เกาะล้านมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

 

ลานร่มร่อน หาดตาแหวน บนเกาะล้าน พัทยา

เรื่องที่ 2  “โครงการบำบัดน้ำเสียเกาะล้าน” ตอนนี้มี 2 แห่ง ที่หาดตาแหวน หาดแสม จะเพิ่มพื้นที่อีกแห่งในชุมชนเกาะล้าน รวมแล้วจะใช้กรอบวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นจุดรับน้ำเสียบนเกาะ ขณะนี้สำรวจพื้นที่เรียบร้อยแล้ว อยู่ในขั้นตอนการออกแบบ สามารถรองรับน้ำเสียจากชุมชนเกาะล้านที่มีความหนาแน่นมาก อีกทั้งระบบบำบัดน้ำเสียเดิมค่อนข้างล้าสมัย

 

เรื่องที่ 3 การกำจัดขยะมูลฝอย ปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวปีละ 5 ล้านคน เฉลี่ยวันละ 20,000 คน มีขยะเกิดขึ้น 20-30 ตัน โดยช่วงเทศกาลวันหยุดพิเศษจะมีขยะมากทวีคูณ ใช้วิธีเก็บขนขึ้นเรือไปกำจัดบนฝั่ง แต่ประสบปัญหาการดำเนินงานขนส่งข้ามทะเลต้องเจอน้ำขึ้นน้ำลง เรือขนส่ง จึงมีขยะตกค้างบนเกาะอยู่มากถึง 50,000 ตัน กองอยู่ทางไปเกาะแสม ผมมีนโยบายฝังกลบคลุมด้วยแผ่นเอสจนมองไม่เห็นแล้ว ถือเป็นการจัดการได้ระดับหนึ่งที่ดี พร้อมทั้งติดตั้งท่อระบายแก๊สไว้ด้วย

ปัจจุบันดำเนินการจนแล้วเสร็จทำประชาพิจารณ์กับประชาชนลงความเห็นขอทำเตาเผาขยะบนเกาะ เงินลงทุน 400 ล้านบาท มีขีดความสามารถเผาขยะได้ 50 ตัน/วัน เป็นการเผาขยะใหม่บวกกับทยอยนำขยะเก่ามาเผาด้วย สามารถใช้งานได้ภายในปี 2564

เรื่องที่ 4 “น้ำ” ปัจจุบันชุมชนเกาะล้านใช้น้ำฝนกับน้ำบาดาลเป็นหลัก มีบางส่วนซื้อจากเรือบรรทุกน้ำขนน้ำประปามาจากฝั่ง ราคาเกินกว่า 150 บาท/ลูกบาศก์เมตร และซื้อจากอีสต์ วอเตอร์ ซึ่งมีกำลังการผลิต 300 ลูกบาศก์เมตร/วัน ราคา 71 บาท/ลูกบาศก์เมตร จึงเป็นปัญหาที่ชาวเกาะล้านขอให้เข้ามาช่วยแก้ไข โดยได้ดำเนินการแก้ไข 2 ช่องทาง คือ ช่องทางแรก ประสานกับประปาส่วนภูมิภาคสร้างท่อประปาลอดทะเลขึ้นเกาะล้าน อยู่ระหว่างประมาณการณ์คาดจะสรุปได้เร็ว ๆ นี้

เบื้องต้นทางประปาภูมิภาคจะลงทุนเดินท่อ 600 ล้านบาท ระยะทาง 7 กิโลเมตร เดินสายคู่มากับสายเคเบิ้ลไฟฟ้าต้นทางจากชายหาดจอมเทียน หาดพะยอม มาขึ้นตรงท่าไร่ ช่องที่ 2 ประสานงานให้ทางอีสต์ วอเตอร์ ขยายกำลังการผลิตจากวันละ 300 เป็น 3,000 ลูกบาศก์เมตร ผลสำรวจพบชุมชนและนักท่องเที่ยวใช้น้ำรวมกันวันละเกือบ 3,000 ลูกบาศก์เมตร ตกลงเรื่องราคาขายปลีกเหลือเพียง 50 บาท/ลูกบาศก์เมตร เนื่องจากเมื่อผลิตเพิ่มต้นทุนก็จะถูกลง แต่สุดท้ายก็จะต้องเลือกใช้เพียงช่องทางเดียวเท่านั้นที่จะต้องประกาศในปี 2564

เรื่องที่ 5 การปรับปรุงระบบจราจร ถนน บนเกาะ ได้รับงบประมาณเรียบร้อยแล้ว จัดทำถนนให้ได้มาตรฐาน เพราะหลายจุดแคบและมีความลาดชัน จำเป็นจะต้องปรับปรุงให้ปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงจัดทำเส้นทางจักรยาน และจุดชมวิวบนเขาสัญญาณ (โทรศัพท์) หรือเขาเรดาห์ ตอนนี้ทางขึ้นรถแคบแต่รถวิ่งได้ใช้วิธีสับหลีกกัน ต่อไปจะพัฒนาเป็นเส้นทางกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬา เช่น ปั่นจักรยานเสือภูเขา และวิ่งเทรล

ขณะนี้ได้งบประมาณแล้วเพื่อสร้าง “ศูนย์ปลอดภัย” กระจายครอบคลุมทั้ง 8 หาด ติดตั้งตู้แจ้งเตือนฉุกเฉินรวม 29 เครื่อง พร้อมกล้องวงจรปิด 189 ตัว ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนเกาะล้าน ปัจจุบันมีปริมาณสูงเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ลาดชัน จึงต้องปรับภูมิทัศน์ กล้องเตือนภัย สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติชื่นชอบเดินทางมาเกาะล้าน

เรื่องที่ 6 การศึกษาออกแบบเขื่อนกั้นคลื่นบริเวณท่าเรือหน้าบ้าน กับออกแบบลานกิจกรรมเอนกประสงค์ริมทะเล ตรงบริเวณวัดท่าใหม่สำราญ ตั้งงบประมาณศึกษาออกแบบแล้ว ภายในปี 2564 จะสรุปเพื่อเดินหน้าก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ป้องกันคลื่นช่วงฤดูมรสุม และเพื่อความสะดวกของนักท่องเที่ยวและประชาชนที่เดินทางเข้า-ออก

นายสนธยากล่าวว่า ปัจจุบันเกาะล้านมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวจำนวน 100 ราย มีโรงแรมห้องพักขนาดเล็กรวมกว่า 2,000 ห้อง สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ระดับหนึ่ง ห้องพักสูงสุด 2-3 ดาว จากคนในพื้นที่ลงทุนเองขนาดแห่งละ 5-40 ห้อง/ราย ทางเมืองพัทยามีนโยบายเน้นการปรับมาตรฐานรองรับนักท่องเที่ยวให้ได้หลายระดับ ปัจจุบันคนพื้นที่ลงทุนเองโดยนำบ้านชาวประมงมาบริการห้องพักไม่ได้สร้างโรงแรมหรูหรา ส่วนใหญ่เปิดโฮมสเตย์ หรือที่พักชุมชน แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นนักลงทุนจากส่วนอื่นเข้ามาลงทุน เพราะที่ดินเกาะล้านเมืองพัทยาดูแล 300 ไร่ สัดส่วนนักท่องเที่ยวปี 2562 เฉลี่ยวันละ 15,000 คน เป็นชาวต่างชาติ 70 % หรือกว่า 10,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนเดินทางไปเช้าเย็นกลับ ส่วนที่เดินทางอิสระตามลำพังจึงจะพักค้างคืน และคนไทย 30 %

เมื่อปรับโฉมเกาะล้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตั้งเป้าจะเพิ่มรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าเกาะล้านเติบโตขึ้นเฉลี่ยปีละ 10-15 % จากเดิมปีละ 1,200 ล้านบาท แต่อาจจะต้องใช้เวลาฟื้นฟูเพื่อให้นักท่องเที่ยวกลับสู่ภาวะปกติได้ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี ที่นักท่องเที่ยวจะทำได้เหมือนเดิมปีละ 5 ล้านคน

                ช่วงที่ 2 ออกเที่ยวใต้ไปงาน “เทิดพระเกียรติกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” เดินชมเรื่องราวดี ๆ ชิมอาหารอร่อย ชมนิทรรศการ วัฒนธรรมการแสดง ได้ตั้งแต่วันนี้- 26 ธ.ค.นี้ ที่บริเวณโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร แล้วเตรียมรับมือ “ฝุ่นPM 2.5” กับ 5 วิธีที่ได้ผลจริง ส่วนข่าวควรฟัง “ลุ้นครม.17 ธ.ค.63” เห็นด้วยหรือไม่กับโครงการ “เที่ยวไทยวัยเก๋า” ที่จะใช้เงินกู้ 5,000 ล้านบาท มากระตุ้นท่องเที่ยวสูงวัย เดินทางเติมเงินเที่ยววันธรรมดา ปี 2564 “การบินไทย” แบไต๋เปิดพื้นที่จัด Winter Fest 2020 ชวนเปิดบูธหอบสินค้ามือสอง แฮนด์เมดมาร่วมสร้างสีสัน กับการเปิดตัวเมนูใหม่ของครัวการบินไทย และ “มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ” ชวนไปช้อปของขวัญ ของฝาก ของที่ระลึก วันเดียวเท่านั้น เสาร์ 19 ธ.ค.นี้ที่ OUTLET ศิลปาชีพ จ.พระนครศรีอยุธยา



ได้เวลาออกลงใต้ไปเที่ยวงานเทิดพระเกียรติกรมหลวงชุมพร

ชวนกันไปชีพจรลงเซาท์ เส้นทางไม่ไกลกรุงเทพฯ ไปเที่ยว “งานเทิดพระเกียรติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และงานกาชาดจังหวัดชุมพร ประจำปี 2563วันนี้ จนถึง 26 ธันวาคม 2563 ที่โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ ตำบลบางลึก อำเภอเมืองชุมพร

 

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม 2563 เริ่มพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณ ณ ศาลเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กันตั้งแต่เช้าตรงตำบลหาดทรายรี (ศาลบน) บ่ายวันเดียวกันชมขบวนแห่เทิดพระเกียรติและของดีชุมพร พอแดดร่มลมตกก็เข้าร่วมพิธีเปิดงานได้บริเวณโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ

งานเทิดพระเกียรติกรมหลวงชุมพรฯ ปีนี้ นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมทำบุญ ลุ้นรับโชค สนุกกับกิจกรรมการออกร้านกาชาด ตลอดจนการออกร้านและจัดนิทรรศการของหน่วยงานองค์กรต่าง ๆ อีกมากมาย



การแสดงศิลปวัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้าน  และแข่งขันผลผลิตทางการเกษตร การแสดงแฟชั่นโชว์ การประกวดขับร้องเพลงไทยลูกทุ่ง การประกวดมิสชุมพร 2020 การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าโอท็อป ชิมอาหารพื้นบ้าน อาหารถิ่น อร่อย ๆ

ตลอดสัปดาห์ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ด้วยการเดินชมนิทรรศการพระราชประวัติ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ  ที่น่าสนใจ

รออะไรอยู่เล่า!! ออกไปเที่ยว งานเทิดพระเกียรติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และงานกาชาดจังหวัดชุมพร กันดีกว่า มาได้จนถึงวันที่ 26 ธันวาคม นี้

 

ฝุ่น PM 2.5 กลับมาอีกแล้วภัยใกล้ตัวกับวิธีดูแลตัวเองให้ห่างไกลโรค

วิธีดูแลตัวเองจากฝุ่น PM 2.5 - หลายคนอาจไม่ทราบว่าฝุ่น PM 2.5 ไม่เคยหายไปไหนไกล เพียงแต่มีปริมาณลดลงจนเราเผลอนิ่งนอนใจ และไม่ดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากฝุ่นตัวร้ายอยู่เสมอ ทุกคนควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ออกกำลังกายด้วยการเดินแทนการออกแรงมาก ๆ หากอยู่ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานอาจต้องลดทำกิจกรรมกลางแจ้ง พยายามอยู่ภายในอาคาร ปิดประตูและหน้าต่างให้สนิท

ผู้ที่ต้องออกไปเผชิญฝุ่นและมลพิษแทบทุกวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ยังสามารถดูแลตนเองจากฝุ่น PM 2.5 ด้วยการพกพาอุปกรณ์ป้องกันติดตัวไว้ตลอด ดังนี้

1.เมื่อออกไปอยู่กลางแจ้งต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยมาตรฐาน N95 อตลอดเวลา

2.หน้ากากอนามัยประเภทนี้จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันที่สูงกว่าหน้ากากอนามัยแบบทั่วไปโดยสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กมากถึงขนาด 0.3 ไมโครเมตร ได้มากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังถูกออกแบบมาให้สวมใส่แล้วกระชับพอดีกับใบหน้าเพื่อป้องกันฝุ่นเล็ดลอดผ่านเข้าไป ด้วยเหตุนี้ผู้ใช้งานจึงต้องเลือกซื้อหน้ากากที่มีขนาดเหมาะสมกับรูปหน้ามากที่สุด รวมถึงเป็นหน้ากากแบบที่มีวาล์วระบายอากาศ ซึ่งจะช่วยให้หายใจและระบายความร้อนจากลมหายใจออกมาได้สะดวกมากขึ้นด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การผ่านมาตรฐานรับรอง การเก็บรักษาแบบแยกชิ้นเพื่อคงความสะอาดและนำมาใช้ซ้ำได้ และการพกพาที่สะดวกก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ใช้ควร4.คำนึงถึงก่อนเลือกซื้อเช่นกัน หากมีข้อสงสัยเรื่องมาตรฐานของหน้ากากอนามัยชนิด N95 สามารถสอบถามได้จากแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ หรือเภสัชกรตามร้านขายยาทั่วไป  

ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและลำคอ - บางครั้งหน้ากากอนามัยเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ เพราะในระหว่างวันฝุ่น PM 2.5 อาจก่อให้เกิดปัญหาในช่องปากและลำคออย่างการระคายเคือง การอักเสบ หรืออาการไอได้ ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่เน้นส่วนผสมของสารสกัดจากดอกคาร์โมไมล์และสารสกัดจากธรรมชาติอื่น ๆ อีกหลายชนิด เช่น เปปเปอร์มินต์ ยูคาลิปตัส เบอร์กามอต หรือเทียนสัตตบุษย์ เป็นต้น นับเป็นทางเลือกที่ดีในการบรรเทาปัญหานี้ ทั้งยังมีส่วนช่วยลดกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์และลดการสะสมของแบคทีเรียภายในปากและลำคอด้วย

สุดท้ายนี้ ไม่ว่ามลพิษทางอากาศจะมีปริมาณสูงหรือต่ำก็ล้วนส่งผลกระทบต่อร่างกายด้วยกันทั้งสิ้น การดูแลตนเองและจำกัดการสูดดมฝุ่นหรือมลพิษด้วยการสวมหน้ากากป้องกันที่มีประสิทธิภาพเป็นประจำทุกวันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัว สตรีมีครรภ์ เด็ก และผู้สูงอายุ หากพบความผิดปกติใด ๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาเพิ่มเติมต่อไป

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 


ข่าวแรก จ่อชงครม.17ธ.ค.นี้หนุนโปรเจ็กต์เที่ยวไทยวัยเก๋า5พันล้านทัวร์วันธรรมดา

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2563 พิจารณาโครงการ “เที่ยวไทยวัยเก๋า ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ที่มีเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นประธาน เรียบร้อยแล้ว 

เบื้องต้นในที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองฯ พิจารณาเห็นชอบเดินหน้าโครงการ“เที่ยวไทยวัยเก๋า" ตามมติของศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ศบศ.” เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม63โดยใช้งบประมาณ 5,000 ล้านบาท ดำเนินการ 3 เดือน

ตามข้อกำหนดหลัก ๆ ประกอบด้วย 1.เปิดให้ผู้สูงวัยอายุ 55 ปีขึ้นไป ได้สิทธิ์เข้าร่วมเดินทางท่องเที่ยวในโครงการ 2.บริษัทตัวแทนจัดนำเที่ยวรับผิดชอบจัดและขายแพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน 3.ต้องเดินทางท่องเที่ยวเฉพาะช่วงวันธรรมดา พัก วันอาทิตย์ - พฤหัส เท่านั้น 4.กำหนดราคาขายแพคเกจคนละ 12,500 บาทขึ้นไป จำนวน 1 ล้านแพ็คเกจ 5. แต่ละบริษัทนำเที่ยวรับได้ ไม่เกิน 3,000 รายเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตุโดยขอให้ ททท.ดำเนินโครงการ “เที่ยวไทยวัยเก๋า” อย่างระมัดระวัง รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาฉ้อโกงในลักษณะที่เคยเกิดขึ้นกับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” จนถึงขั้นต้องแจ้งความเอาผิดกับโรงแรมและรัฐสั่งชะลอเฟสสองออกไป และ “คนละครึ่ง” ที่มีร้านค้ารายย่อยกว่า 202 ร้าน ร่วมกันเข้าข่ายกระทำผิดเงื่อนไขรัฐ เนื่องจากเป็นเงินงบประมาณที่รัฐบาลกู้มาช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งโดยรวมแล้วคือหนี้สาธารณะของประเทศนั่นเอง

 

ข่าวที่สอง บินไทยคึกจัดWinterFestขายสินคริสต์มาส-ปีใหม่23-26ธ.ค.นี้

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า เตรียมจัดกิจกรรม “TG Winter Fest #ToGetherWeJoy” ฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ โดยจะเปิดให้ผู้สนใจเปิดบูธจำหน่ายสินค้า ระหว่างวันที่ 23 - 26 ธันวาคม 2563 ตั้งแต่11:00 - 22:00 น. ที่ สำนักงานใหญ่ การบินไทย ถนนวิภาวดีรังสิต

ภายในงานมีสินค้า อาหารและเครื่องดื่ม มาขายกว่า 100 บูธ เช่น สินค้าแบรนด์เนมมือสองราคาพิเศษ สินค้าแฮนเมด ร้านขายเสื้อผ้าของใช้ และเครื่องประดับต่างๆ ร้านอาหารและเครื่องดื่มหลากชนิด

ไฮไลต์จะมีเมนูพิเศษอาหารเทศกาลคริสต์มาสจากครัวการบินไทย บูธอาหารจากครัวอร่อยล้นฟ้า..ไม่ต้องบินก็ฟินได้ พร้อมเปิดตัว THAI Signature Cocktail

 

ไปพร้อม ไ กับช้อปสินค้าราคาพิเศษจาก Thai Shop และ TG Warehouse Sale ชมการแสดงดนตรี Live Music จากนักบินและลูกเรือตลอดงาน

ผู้สนใจร่วมออกบูธขายสินค้า ติดต่อได้ที่ โทร. 094-454-4936 ตั้งแต่วันนี้ – 20 ธันวาคม 2563 ระหว่าง 08.00 – 17.00 น.

ทั้งนี้การบินไทย ขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมงาน จัดจุดตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้างาน รักษาระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัย เพื่อช่วยกันดูแลป้งกันสุขอนามัยและความปลอดภัยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)



ข่าวที่สาม มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพชวนช้อปสินค้าของขวัญของฝากส่งท้ายปี19ธ.ค.นี้

 

มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เปิด อาคาร OUTLET ศิลปาชีพ จ. พระนครศรีอยุธยา ชวนไปช้อปส่งท้ายปี กับผลิตภัณฑ์สินค้าคุณภาพ "ของขวัญ ของฝาก ของที่ระลึก"

 

พบกันในวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม 2563 เตรียมเปิดบ้านต้อนรับนักช้อปทุกคน ที่ อาคาร OUTLET ศิลปาชีพ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. -​17.00 น.

ครั้งนี้ปัญหาที่ผ่านมา ได้รับการแก้ไข ในทุกๆด้าน เรียบร้อยแล้ว พร้อมและสะดวกเพิ่มมากขึ้นในการเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมงานและเลือกซื้อสินค้า

ในช่วงที่ไวรัสโควิด -​19 กำลังกลับมา ขอความร่วมมือทุกคนที่เข้าร่วมชมงาน สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า และผ่านจุดคัดกรอง ของสาธารณสุขจังหวัดอยุธยาซึ่งจะมาให้บริการด้วย ก่อนขึ้นอาคารด้วยทุกครั้ง

ห้ามพลาด !! แวะมาเลือกช้อปของขวัญ ของฝาก ของที่ระลึก ได้

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai