ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ปลุกทั่วไทยทำตัวเองเป็นวัคซีนรุกSME/ชุมชน/รายย่อยร่วมSHAปี64 งัดสินค้าใหม่Happy Quarantine“D.I.Y.ท้องถิ่น+วัฒนธรรรม”ขายต่างชาติ

 ททท.ปลุกทั่วไทยทำตัวเองเป็นวัคซีนรุกSME/ชุมชน/รายย่อยร่วมSHAปี64

งัดสินค้าใหม่Happy QuarantineD.I.Y.ท้องถิ่น+วัฒนธรรรม”ขายต่างชาติ

คิงเพาเวอร์ชวนช้อปคริสต์มาสลดแหลกแจกไม่ยั้งถึง27ธ.ค.ที่รางน้ำ/มหานคร

คิงเพาเวอร์โหมลดใหญ่SUPER SURPRISESดีลพิเศษแบรนด์เนมลด20-30%

โรงแรมพูลแมนคิงเพาเวอร์จัดโปรดินเนอร์อาหารญี่ปุ่น14คอร์สแค่2,800บาท

ททท.ลุยนำร่องแจกตราสัญลักษณ์SHA12ชุมชนท่องเที่ยวโมเดลต้นแบบปี64

ททท.เปิดแพลตฟอร์ม“เพลินไทย”แผนที่ค้นแหล่งเที่ยวนำร่องกทม. 13 พื้นที่

TCEB”ควง3ธุรกิจเปิดแผนรุกผู้นำเอ็กซิบิชั่นเอเชียปี’64หวังโกย2.3หมื่นล้าน

“เชียงใหม่” เที่ยวได้ ชมศิลปะบ้านถวาย-ร่วมบุญทอดผ้าป่าปอยหลวงแม่วาง

วิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยตัวเองใช้เกลือ“น้ำมะนาว-น้ำขิง”อุ่น

อุทยานแห่งชาติทั่วไทยพร้อมคืนหรือเลื่อนห้องพักช่วงโควิดรอบใหม่ระบาด

กต.เปิดต่างชาติใช้COEเข้าไทยยอดกว่า 5 หมื่นคน-ปลดล็อกวีซ่า56ประเทศ

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ 

รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวัน 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #เที่ยวปลอดภัยมั่นใจไปกับSHA  #คิงเพาเวอร์ชวนช้อปคริสต์มาสถึง27ธค63 #SuperSurpriseช้อปคิงเพาเวอร์  #อุทยานแห่งชาติทั่วไทยเปิดคืนเงินเลื่อนจองห้องพัก

ฟัง Liveสดจากลิงค์นี้ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1530550083805711&id=100005522016696 

ช่วงที่ 1 ส่งท้ายปีกับ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ลุยรณรงค์แนะนำ “คนไทยทำตัวเป็นวัคซีน” ป้องกันโควิดครั้งใหม่ ปี’64 กิจการท่องเที่ยวท้องถิ่นทั่วไทยส่งสัญญาณดีทั้ง SME ชุมชน ร้านของฝาก ร้านของที่ระลึก แห่รับมาตรฐาน SHA สถิติปี’63 ยอดลงทะเบียนทะลุ 1.58 หมื่นราย สมัครเข้าร่วมเฉียดหมื่นราย พร้อมเปิดโปรเจ็กต์ใหม่ส่งท้ายปี “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แฮปปี้ ควอรันทีน” มอบความสุขผู้นักเดินทางโดนกักตัว 14 วัน เข้าถึงข้อมูลท่องเที่ยวครบวงจร “สินค้า/กิจกรรม/โชว์วัฒนธรรมไทย/แพกเกจสุขภาพ”

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลและทุกหน่วยงาน รวมทั้ง ททท.เร่งช่วยกันเพิ่มความเข้มข้นการรณรงค์คนทั่วประเทศหันมาดูแลมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หลังพบสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งใหม่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ผู้ประกอบการต้องเผชิญความท้าทายรวมทั้งทำใจยอมรับแล้วเดินหน้าต่อไป ขณะนี้การท่องเที่ยวในพื้นที่หลายจังหวัดยังสามารถท่องเที่ยวได้ เนื่องจากผู้ประกอบการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 มาตั้งแต่เกิดการล็อกดาวน์ประเทศรอบแรกช่วงเมษายน-พฤษภาคม 2563  

อีกทั้งยังมีโครงการ Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA ของ ททท.กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สมาคมโรงแรมไทย และ 3 กรมหลักของกระทรวงสาธารณสุข คือ กรมอนามัย กรมควบคุมโรคติดต่อ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งพร้อมนำมาใช้รณรงค์ธุรกิจท่องเที่ยว 10 กิจการ  ปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐานของสาธารณสุขกำหนดไว้ ทั้งก่อนเปิด-ระหว่างเปิด-หลังเปิดบริการ 

จากนี้เป็นต้นไป ททท.จึงขอแนะนำให้ทุกคนในประเทศทำตัวเป็น “วัคซีน” ป้องกันตนเองให้ห่างไกลปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 โดยปฏิบัติตามแนวทางเช่นเดียวกับที่เคยใช้ได้ผลมาตั้งแต่เกิดการระบาดครั้งแรกช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2563 ด้วยการต้องสวมหน้ากากอนามัย ใช้สบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือบ่อย ๆ  รักษาระยะห่าง ลดการสัมผัส ตรวจสุขภาพตัวเองและคนรอบข้าง เพื่อรวมพลังกันพลิกวิกฤตเป็นโอกาสช่วยกันหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสไม่ให้เกิดมากไปกว่านี้ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ถูกจับตาจากทั่วโลกถึงมาตรการรับมือกับไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีติดอันดับต้น ๆ ของโลก

น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า ททท.กำลังเร่งเดินหน้าทัพ SHA เพื่อกระตุ้นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเครือข่ายขนาดใหญ่เข้ารับตราสัญลักษณ์ SHA ซึ่งมีหลายกลุ่มได้ไปเรียบร้อยแล้ว เช่น กลุ่มไมเนอร์ผู้ประกอบกิจการโรงแรมทั่วประเทศไทยเกือบร้อยแห่ง Grab Taxi นำสมาชิกผู้ให้บริการรถแท็กซี่กว่า 650 ราย ทุกกลุ่มยินดีรักษาปฏิบัติตามมาตรฐานต่อเนื่องตลอดเวลา ในปี 2564 จะมีกิจการกลุ่มอุตสาหกรรมการบินซึ่งมีมาตรฐานสูงอยู่แล้วเข้ามาเพิ่ม อย่างการบินไทยได้ตราสัญลักษณ์ SHA แล้ว ส่วนที่กำลังทยอยทำตามเกณฑ์เพื่อรอประกาศก็มี ไทยแอร์เอเชีย ไทยสมายล์ บางกอกแอร์เวย์ส และอีกหลายสายการบินในประเทศ เป็นการส่งสัญญาณพลังความร่วมมือทั้งประเทศตอกย้ำความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวในประเทศและทั่วโลก

ขณะที่ “กลุ่มธุรกิจบริษัทนำเที่ยว” ร่วมมือดีมาก ตอนนี้ลงทะเบียนรับมาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA มากติดอันดับ 3 ของประเทศแล้ว พร้อมทั้งเลือกกิจกรรม เส้นทางตามแหล่งท่องเที่ยว ที่ได้รับ SHA ด้วยเช่นกัน

สถิติ ณ วันที่ 23 ธันวาคม 2563 มีผู้สนใจลงทะเบียน SHA กับ ททท.รวม 15,806 ราย โดยมีสถานประกอบการสมัคร 9,696 ราย ผ่านมาตรฐานรับตราสัญลักษณ์ 7,716 ราย อยู่ระหว่างรอรับอีก 5,000-6,000 ราย จาก 10 ประเภทกิจการ ที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุดเรียงตามลำดับดังนี้ อันดับ 1 โรงแรมและที่พัก/สถานที่จัดการประชุม อันดับ 2 ภัตตาคาร/ร้านอาหาร อันดับ 3 บริษัทนำเที่ยว อันดับ 4 ยานพาหนะ อันดับ 5 สุขภาพและความงาม อันดับ 6 นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว อันดับ 7 ร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่น ๆ อันดับ 8 ห้างสรรพสินค้า อันดับ 9 การจัดกิจกรรม/จัดประชุม โรงละคร/โรงมหรสพ และอันดับ 10 กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว

นางสาวฐาปนีย์ย้ำว่าปี 2564 จะเพิ่มความเข้มข้นกระตุ้นประเภทกิจการท่องเที่ยวต้องผ่านมาตรฐาน SHA เกือบทั้งหมด ขณะนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้จัดทีมลงพื้นที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ข้อมูลความรู้สาธารณสุขแต่ละด้าน ให้แก่ธุรกิจเกี่ยวข้องในท้องถิ่น ปีหน้าจะได้เห็นกิจการขนาดกลาง ขนาดเล็ก ขนาดย่อย และ SMEs ทั่วไทย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ร้านค้า ร้านจำหน่ายของฝาก ของที่ระลึก สถานที่จัดกิจกรรม จัดการประชุม โรงมหรสพ ยานพาหะ จะตัดสินใจกันสมัครเข้ารับมาตรฐาน SHA อย่างพร้อมเพรียงกัน

ภารกิจทางด้าน “กิจกรรม” ปี 2564 ททท.ยังคงเดินหน้าเชิงรุกหนักขึ้นเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์เกิดจากได้การรับรองมาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA ช่วยสร้างผลดีแก่กิจการทุกประเภท เรื่อยไปจนถึงในต่างประเทศ ททท.ทั่วโลกทั้ง 29 สำนักงาน ก็ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับพนักงานขายของบริษัทนำเที่ยวแต่ละประเทศ รวมทั้งสื่อมวลชนนำโดยสื่อดังอย่างบีบีซี และซีเอ็นเอ็น ช่วยกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เต็มที่ เช่นเดียวกับพันธมิตรกลุ่มบริษัทค้าส่งท่องเที่ยว บริษัทขายท่องเที่ยวออนไลน์ (Online Travel Agent :OTA) ล้วนให้ความสำคัญกับตราสัญลักษณ์ SHA ของ ททท.เป็นอย่างมาก  เป็นทางเลือกอันดับแรก ๆ ที่จะเลือกใช้บริการประเภทกิจการที่ได้ตราสัญลักษณ์ SHA

ขณะเดียวกันแผนเดินหน้า SHA ในประเทศ ททท.จะโหมประชาสัมพันธ์โครงการ Best of SHA ต้อนรับศักราชใหม่เริ่มตั้งแต่มกราคม-กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อให้ผู้ประกอบการตื่นตัวรักษามาตรฐาน SHA โดยได้รับเสียงชื่นชมและเพิ่มความนิยมจากรีวิวของผู้ที่เข้าไปใช้บริการ

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า ล่าสุดนำทีม ททท.เสนอที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ การบริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศปก.ศบค.) เห็นชอบให้ทำโครงการ Amazing Thailand Happy Quarantine ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องกักตัวได้รับความสุขตลอด 14 วัน โดย ททท.ได้ลงนามกับคลับทางเลือกเพื่อการกักตัวแห่งประเทศไทย  (Alternative State Quarantine : ASQ Club) และ โลเคเนชั่น (Locanation) กลุ่มสตาร์ตอัพไทยรุ่นใหม่ที่ได้รับรางวัลดีเด่นประจำปี 2563 ร่วมมือกันทำโครงการนี้ ด้วยวิธีเปิดบริการศูนย์จัดหาช่วงเวลากับสถานที่กักตัวทั่วประเทศ ควบคู่การทำแพกเกจระหว่างกักตัว ทั้งช้อปปิ้งออนไลน์ และแฮปปี้ D.I.Y.เซ็ต นำผลิตภัณฑ์สินค้าพรีเมี่ยมชุมชนมอบให้ทุกคนที่กักตัว นำร่องทำแล้วเมื่อ 23 ธันวาคม 2563 นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นยืนยันประทับใจกิจกรรมนี้ของ ททท.มาก โดยผู้ที่กักตัวจะได้รับเซ็ตสินค้าชุมชน เช่น เซตตกแต่งกระเป๋ากระจูดของชุมชนทะเลน้อย จ.พัทลุง เซ็ตทำหน้ากากผ้าปาเต๊ะพร้อมสายคล้องมุก จ.ภูเก็ต ผ้าย้อมครามพร้อมสายคล้อง จ.สกลนคร ชุดรองเท้าแตะผักตบชะวา จากหมู่บ้านโนนจำปา จ.บุรีรัมย์ ชุดเพนต์แก้วเบญจรงค์ บ้านดอนไก่ดี จ.สมุทรสาคร และอื่น ๆ

 

นอกจากนี้ ททท.ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวที่ต้องกักตัว 14 วัน สนุกกับการร่วมแข่งขันทำ D.I.Y.เซ็ต ผ่านช่องทางเว็บไวต์ www.tourismthailand.org/happyquarantine   รวมทั้งยังมีแพกเกจ “ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับพรีเมี่ยม” รวมอยู่ด้วย

กิจกรรมไฮไลต์อีกรายการคือ “จัดการแสดงวัฒนธรรมเอกลักษณ์ไทย” ในโรงแรม ASQ เลือกใช้สถานที่โล่งกว้าง ให้นักท่องเที่ยวมายืนชมจากระเบียงห้องพักได้ เริ่มวันแรก 24 ธันวาคม 2563 จัดการแสดงหนังใหญ่ ที่โรงแรมโมเพนวิก ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมชมกว่า 200 คน วางแผนจัดการแสดงวัฒนธรรมไทยไว้รวม 5 ครั้ง คือ ครั้งที่ 2 จัดที่โรงแรมอนันตรา ครั้งที่ 3 โรงแรมคิวโฮเต็ล สุขุมวิท ครั้งที่ 4 โรงแรมรอยัล รัตนโกสินทร์ ครั้งที่ 5 โรงแรม ฌ.เฌอ สมุทรปราการ โดยต้องเตรียมความพร้อมและประเมินสถานการณ์ให้สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยทุกครั้ง

โดย ททท.จะทำโครงการ Amazing Thailand Happy Quarantine ไปจนกว่ารัฐบาลจะประกาศเลิกใช้มาตรการกักตัว เพื่อสร้างความสุขควบคู่กับการให้ความรู้เรื่องการท่องเที่ยว การมีส่วนร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวอัตลักษณ์ท้องถิ่น สินค้าท่องเที่ยวชุมชน และเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเกรดพรีเมี่ยมทั่วไทย

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ชวนช้อปคริสต์มาสลดแหลกแจกไม่ยั้งถึง27ธ.ค.ที่รางน้ำ/มหานคร

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดให้ช้อปกันแบบแบบจุใจตลอด 4 วันเต็ม กับแคมเปญ “ALL I WANT FOR CHRISTMAS IS THE BEST DEAL” เพื่อให้ทุกคนได้เลือกซื้อของขวัญมอบแด่คนพิเศษ เฉพาะเทศกาลสำคัญช่วงเทศกาลคริสต์มาส ระหว่างวันที่ 24 – 27 ธันวาคม 2563 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และ คิง เพาเวอร์มหานคร ลงทะเบียนก่อนช้อปเพื่อรับคูปองส่วนลดทันที 2 ใบ ลดสูงสุด 15,000 บาท ส่วนที่รางน้ำแจกใหญ่ถึง 2 ต่อ บัตรรับประทานอาหารฟรีไทย เทสต์ ฮับ พร้อมคูปองลุ้นรับโชค

 

 

ใบที่ 1 ส่วนลดทันที 5,000 บาท เมื่อช้อปครบ 20,000 บาท ใบที่ 2 ส่วนลดทันที 15,000 บาท เมื่อช้อปครบ 50,000 บาท

พิเศษ!! เฉพาะสาขา รางน้ำ รับเพิ่มอีก 2 ต่อ ต่อที่ 1 : ช้อปครบ 10,000 บาท รับฟรี! คูปอง 500 บาท ใช้ทานอาหารได้ที่ Thai Taste Hub ชั้น 3 ต่อที่ 2 : ช้อปครบ 30,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์ Lucky Draw ลุ้นรับ Iphone12 หรือ Gift Voucher สูงสุด 2,000 บาท

รวมทั้งมีบริการ Home Delivery ส่งฟรีถึงบ้าน ส่วนผู้ที่ยังไม่เป็นสมาชิก ก็สามารถมาลงทะเบียนช้อปได้ แถมยังได้สิทธิ์เป็นสมาชิกทันที เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไขแบบง่าย ๆ ทำได้ทันทีทางเว็บไซต์ www.kingpower.com หรือสอบถามพนักงานเคาน์เตอร์ทุกสาขา

 

ตลอดการมาช้อปปิ้งที่คิง เพาเวอร์ ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย ทางร้านมีมาตรการป้องกันตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งกำหนดเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อให้ได้ช้อปสบายใจ หายห่วง ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และมหานคร ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

               

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์โหมลดใหญ่SUPER SURPRISES #ดีลพิเศษแบรนด์เนมแฟชั่นลด20-30%

               

คิง เพาเวอร์ ยังคงจัดต่อเนื่องแคมเปญ SUPER SURPRISES #ดีลพิเศษในราคาดิวตี้ฟรี วันนี้- 31 ธันวาคม 2563  โดยรับรหัสส่วนลดนำไปใช้ได้ที่ www.kingpower.com หรือ แอปพลิเคชัน KING POWER มีสินค้าปกติลดสูงสุด 20% และสินค้าพิเศษลดสูงสุดถึง 30% เมื่อช้อปครบ 2,000 บาทขึ้นไป

 

เป็นแคมเญที่เน้นการสั่งซื้อเฉพาะสินค้าแบรนด์เนม แฟชั่น เครื่องสำอาง(ยกเว้น HOURGLASS) เสื้อผ้า เครื่องหนัง และแบรนด์ชั้นนำที่เข้าร่วมรายการในแคมเปญนี้เท่านั้น

 

ส่วนสินค้าจัดรายการ Super Special Deals จะใช้เวลาจัดเตรียมสินค้านานกว่าปกติ ลูกค้าจะได้รับสินค้าภายใน 5 - 10 วันทำการ

 

แบ่งชำระ 0% ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 แบ่งจ่ายนานสูงสุด 10 เดือน เมื่อช้อปครบ 15,000.- (สุทธิ) / 1 รายการนานสูงสุด 6 เดือน เมื่อช้อปครบ 10,000.- (สุทธิ) / 1 รายการ

 

ข่าวที่ 3 โรงแรมพูลแมนคิงเพาเวอร์จัดโปรดินเนอร์อาหารญี่ปุ่น14คอร์สแค่2,800บาท

โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ ชวนให้ครอบครัวมาสัมผัสประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ ”ห้องอาหารเท็นชิโนะ” พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศสุดเก๋ไก๋สไตล์โบฮีเมียน ช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี กับโปรโมชั่นสุดพิเศษ คอร์สเมนูอาหารญี่ปุ่น 14 คอร์ส “Festive Degustation” เต็มอิ่มกับอาหารญี่ปุ่นแนวร่วมสมัย ผสมผสานศิลปะอาหารสไตล์ยุโรป รังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบสดใหม่ คุณภาพระดับพรีเมียมนำเข้าจากญี่ปุ่น โดยเฮดเชฟแพน–ขวัญชนก ศรีธาวัชร และทีม โดยคัดสรรเมนูที่ได้รับความนิยมรวบรวมไว้ถึง 14 จานเด่น ประกอบด้วย เมนูเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก เมนูเครื่องเคียง และของหวาน คลิกดูเมนู

 

โปรโมชั่นสุดพิเศษนี้จะมีบริการวันส่งท้ายปี พฤหัสบดีที่ วันพฤหัสบดี 31 ธันวาคม 2563 ตั้งแต่ 18.00 น. – 23.00 น. ราคา 2,800 บาทสุทธิ/เซต พิเศษ สมาชิก บัตรคิง เพาเวอร์ บัตรแอคคอร์ พลัส จองล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ รับส่วนลดทันที 15%* คลิกเลยที่ Pullman Bangkok King Power สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2680 9999

 

ข่าวที่ 4 ททท.ลุยนำร่องแจกตราสัญลักษณ์SHA12ชุมชนท่องเที่ยวต้นแบบปี’64

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้เดินหน้ากระตุ้นชุมชนท่องเที่ยวโดยได้ใข้เวทีงานระดับประเทศ "โอท็อป ซิตี้ 2020" ที่อิมแพ็คเมืองทางธานี เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2563  มอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA นำร่อง 12 ชุมชน ซึ่งผ่านการจัดทำโครงการ ”ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนไทย วิถีใหม่ด้วยมาตรฐานการบริการ” ตามเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ชุมชนท่องเที่ยวปรับตัวพัฒนามาตรฐานด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย พร้อมเป็นต้นแบบให้ชุมชนท่องเที่ยวอื่น ๆ เตรียมความพร้อมและสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวในอนาคตต่อไป

 

            โดยมีชุมชนท่องเที่ยวที่ได้รับมาตรฐาน SHA ได้แก่ 1. ชุมชนบ้านสันทางหลวง จ.เชียงราย 2. วิสาหกิจชุมชนออนซอนเดย์โฮมสเตย์ ท่าขันทอง จ.เชียงราย 3. วิสาหกิจชุมชนทอผ้าบ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย 4. หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านภู จ.มุกดาหาร

 

            5. วิสาหกิจชุมชนกลุ่มโฮมสเตย์เชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมบ้านเชียง จ.อุดรธานี 6. วิสาหกิจชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ จ.สมุทรสงคราม 7. วิสาหกิจชุมชนทุ่งเพลโฮมสเตย์ จ.จันทบุรี8. วิสาหกิจชุมชนเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านบางสน จ.ชุมพร

 

            9. โฮมสเตย์ท้องตมใหญ่ จ.ชุมพร 10. ชุมชนท่องเที่ยวบ้านถ้ำเสือ จ.กระบี่ 11. วิสาหกิจชุมชนบ้านนาตีน จ.กระบี่12. วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวแหลมสัก จ.กระบี่

 

           นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า”ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนไทย วิถีใหม่ด้วยมาตรฐานการบริการ” นำร่องมอบตราสัญลักษณ์ให้ 12 ชุมชนท่องเที่ยว ครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง ททท. กับมูลนิธิสัมมาชีพและ 8 หน่วยงานพันธมิตร  ประกอบด้วย ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กรมการพัฒนาชุมชน สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน),Airbnb lreland UC องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) และชมรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง เพื่อสานพลังขับเคลื่อน พัฒนาวิสาหกิจท่องเที่ยวโดยชุม

 

ข่าวที่ 5 ททท.เปิดแพลตฟอร์ม“เพลินไทย”แผนที่ค้นแหล่งเที่ยวนำร่องกทม. 13 พื้นที่

 

            ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ร่วมกัน บริษัท บียอนด์ ซิตี้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดโครงการ Thailand Smart Tourism เป็นการออกแบบแพลตฟอร์ม “เพลินไทย” นำมาใช้ในระบบปฏิบัติการแผนที่ Smart map เพื่อรายงานข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยววิถีใหม่หลังสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ปัจจุบันพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงโดยหันมาคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขอนามัยมากขึ้น ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ได้นำร่องใน 13 พื้นที่ยุทธศาสตร์ของกรุงเทพฯ บริเวณสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมแล้วกว่า 1,000 สถานที่

 

สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของ ททท.แนวการทำงานขององค์กรปี 2564 ตั้งเป้าเป็นผู้นําขับเคลื่อนและส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด 3D ให้ความสําคัญใน 3 เรื่อง ได้แก่  Domestic ส่งเสริมและผลักดันการท่องเที่ยวในประเทศ Digital ปรับตัวสู่ระบบดิจิทัล สร้างการท่องเที่ยวให้เชื่อมโยงกันทางดิจิทัลก้าวทันอนาคต Dynamic มีความสามารถปรับสมดุลใหม่สามารถเผชิญความผันผวนของสถานการณ์และมีความยืดหยุ่นในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีใหม่ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด  

           

สำหรับพื้นที่ในกรุงเทพฯ ที่นำร่องรวบรวมแพลตฟอร์มเพลินไทยเข้ามาให้บริการ 13 เขต 11 ย่าน ได้แก่ พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ ธนบุรี คลองสาน บางพลัด บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ดุสิต ปทุมวัน บางรัก สาธร และบางคอแหลม ซึ่งจะมีข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ร้านค้า ร้านอาหารและสถานที่ที่เกี่ยวข้อง รวมกว่า 1,000 สถานที่ รวมถึงเส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ฟรีอย่างสะดวกและรวดเร็วผ่านโทรศัพท์มือถือ นำเสนอข้อมูปัจจุบันของการท่องเที่ยวบริการนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้ใช้งานสามารถแสดงความคิดเห็นเพื่อให้ผู้ประกอบการปรับปรุงพัฒนาให้บริการของตนเองได้ ส่วนผู้ประกอบการสามารถเพิ่มรายละเอียด มาตรการและมาตรฐานที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่สะท้อนถึงมาตรการความปลอดภัยและสุขอนามัยที่จะช่วยสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้ในการตัดสินใจเข้ารับบริการการท่องเที่ยวด้วย

           

วิธีใช้งานแพลตฟอร์ม “เพลินไทย” นักท่องเที่ยวเข้าไปในเว็บไซต์ www.เพลินไทย.com เลือกพื้นที่ที่ต้องการเข้าถึงจาก 11 ย่านสำคัญในกรุงเทพฯ  จะแสดงผลแพลตฟอร์มแผนที่ Smart map พร้อมด้วยสัญลักษณ์ (Icon) ต่างๆ ได้แก่ สัญลักษณ์บอกตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้งาน ประเภทสถานที่ สัญลักษณ์การใช้งานหน้าจอแสดงผล  เมื่อกดไปที่สัญลักษณ์แต่ละสถานที่จะปรากฏหน้าต่าง Micro Page แสดงข้อมูลเบื้องต้นของสถานที่นั้น ๆ อาทิ วันและเวลาให้บริการ ตำแหน่งที่ตั้ง รายละเอียดข้อมูลสถานที่ ข้อมูลติดต่อ เบอร์ศัพท์ เว็บไซต์ มาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย รางวัลรับรองมาตรฐาน วีดิทัศน์ประชาสัมพันธ์สถานประกอบการ ในอนาคตจะเพิ่มภาษาอังกฤษและจีนเข้าไปด้วย

            ผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการได้ทาง https://เพลินไทย.com/join_us และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ เพลินไทย.com

 

ข่าวที่ 6 TCEB”ควง3ธุรกิจเปิดแผนรุกผู้นำเอ็กซิบิชั่นเอเชียปี’64หวังโกย2.3หมื่นล้าน

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB เปิดเผยว่า ทีเส็บจัดทำแผนการส่งเสริมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ (E : Exhibtion) ระยะ 5 ปี ระหว่าง 2562-25666 ในปี 2564 เตรียมสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ 58 งาน ประกอบด้วย งานเดิม 44 งาน และงานใหม่ 14 งาน ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับงานใน 5 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ 1.อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 2.ป้องกันประเทศ 3.ดิจิทัล 4.การแพทย์ครบวงจร และ 5.อุตเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ แนวโน้มจะสร้างรายได้หมุนเวียนรวม 23,000 ล้านบาท โดยจะขับเคลื่อนการจัดงานเอ็กซิบิชั่นวิถีใหม่ด้วย 5 กลยุทธ์ ดังนี้คือ

 

1. เอเชีย เซนทริค (Asia Centric) มุ่งเน้นเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมงานแถบเอเชียมากขึ้นผ่านการจัดงานแบบออนไลน์และออฟไลน์ จัดแพ็กเกจสนับสนุนผู้จัดแสดงงาน (Exhibitor) ผู้จัดงาน (Organizer) ผู้เข้าร่วมงาน (Visitor) มอบสิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ จากผู้จัดงานแสดงสินค้า ผู้ออกร้าน และผู้เข้าร่วมงานจากกลุ่มประเทศในเอเชีย เพื่อรักษาไทยเป็นศูนย์กลางเอ็กซิบิชั่นแห่งเอเชีย

 

2. ดึงงานแสดงสินค้าใหม่ และส่งเสริมการจัดงานแสดงสินค้า งานประชุมนานาชาติ หรือ งานเฟสติวัลต่างๆ ที่มีลักษณะงานใกล้เคียงกัน เข้ามาจัดในช่วงเวลาเดียวกัน (Attract new shows + Clustering Events) เน้นเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมงานให้มากยิ่งขึ้น

 

3. ส่งเสริมการขยายงานลงสู่พื้นที่ในภูมิภาคต่างๆ ที่มีศักยภาพ (Driving Opportunities to Regions) อาทิ โครงการไทยแลนด์ ล็อก-อิน อีเวนต์ ดึงงานเข้าสู่พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

 

4. ร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ ผลักดันให้เกิดการจัดงานใหญ่ในหน่วยงานต่างๆ (Collaborating with Government) ทำให้เกิดการจัดงานหนึ่งกระทรวงหนึ่งงานเอ็กซ์โป (One Ministry One Expo) และกระตุ้นภาครัฐให้เห็นความสำคัญงานแสดงสินค้านานาชาติ สนับสนุนการจัดงานหรือส่งเสริมการประชุมหรือการแข่งขันชิงงานเอ็กซิบิชั่นระดับนานาชาติภายใต้อุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อเพิ่มองค์ความรู้และยกระดับความสำคัญของงานดังกล่าว

 

5. ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้กับผู้เข้าร่วมชมงานผ่านช่องทางออนไลน์ (Innovation & Technology to Drive Trade Shows) มุ่งเน้นเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และกระจายเครือข่ายให้มากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนให้ผู้จัดงาน ผู้ออกร้าน รวมทั้งการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยียังช่วยลดการสัมผัสงานที่จัดขึ้นตามปกติด้วย

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ปี 2563 สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ตามปกติ แต่ผู้จัดงานในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ ต่างนำเทคโนโลยีมาช่วยจัดงานรูปแบบปกติร่วมกับออนไลน์หรือไฮบริด เอ็กซิบิชั่น จึงยังคงเกิดการเจรจาธุรกิจและการซื้อขายระหว่างนักธุรกิจไทยและกลุ่มลูกค้าในอาเซียน เกิดการจับคู่ทางธุรกิจขึ้นกว่า 15,000 คู่ โดยทีเส็บได้สนับสนุนทั้งสิ้น 24 งาน ซึ่งมีผู้ร่วมงานจากทั้งในและต่างประเทศรวม 133,259 คน สร้างรายได้ 6,521 ล้านบาท

 

ในปี 2563 ทีเส็บมุ่งเน้นการดึงงานและสนับสนุนการจัดงาน 12 อุตสาหกรรมหลัก เพื่อตอบรับนโยบายจากรัฐบาล โดยปรับแผนงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์โควิด-19 พร้อมรับการจัดงานวิถีใหม่ New Normal ที่รวมถึงทีเส็บได้จัดทำโครงการเอ็กซิบิชั่นนิวนอร์มช่วยฟื้นฟูและผลักดันผู้จัดเอ็กซิบิชั่นในไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเสริมศักยภาพในประเทศได้ตามมาตรการอย่างปลอดภัย ครอบคลุมทุกรูปแบบการจัดงาน ทั้งการจัดงานในรูปแบบปกติ (Face to Face) และไฮบริดออนไลน์

 

            ช่วงที่ 2 เมืองไทยยังเที่ยวได้ ชวนกันไปแอ่วเหนือ “เชียงใหม่” ในงาน “ศิลปะหัตถกรรมบ้านถวาย” 30 ธ.ค.63- 2 ม.ค.64 และเที่ยวทางบุญร่วมทอดผ้าป่าในงาน “ปอยหลวง” วัดจำลอง วันนี้-29 ม.ค.64 ร่วมซึ่งเป็นเครือข่ายแหล่งท่องเที่ยวภูมิปัญญาพื้นบ้านในชุมชน และ ใครที่กังวล “อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ” ประกาศ “คืนเงินหรือเลื่อนจองห้องพักอุทยาน” ได้ แต่ต้องดูเงื่อนไขให้ละเอียดด้วย และ “กระทรวงการต่างประเทศ” เปิดสถิติออกหนังสือรับรอง COE ให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศไทยตามนโยบายรัฐ ก.ค.-ธ.ค.นี้ รวมกว่า 5 หมื่นคนแล้ว พร้อมปลดล็อกวีซ่า 56 ประเทศแล้วเช่นกัน

 

“เชียงใหม่” เที่ยวได้ ชมศิลปะบ้านถวาย-ร่วมบุญทอดผ้าป่าปอยหลวงแม่วาง

 

เมืองไทยยังท่องเที่ยวได้ เดินทางอย่างปลอดภัยด้วยการปฏิบัติตามข้อแนะนำของรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข แนะนำขึ้นเหนือไปแอ่ว “เชียงใหม่” เที่ยววิถีใหม่ใน งานศิลปหัตถกรรมไม้แกะสลักบ้านถวาย ครั้งที่ 31” แบบยาว ๆ ช่วงวันหยุดส่งท้ายปี 30 ธันวาคม 2563 - 2 มกราคม 2564  ไปดูเรื่องราวของ ลานวิถีชุมชนบ้านถวาย  ตลาดหาบขาย  ชิมอาหารพื้นบ้าน ชมการแกะสลัก แต่งสีเดินเส้น ลงรักปิดทอง  ชมร้านค้าและสินค้างานไม้แกะสลักฝีมือดี ของตกแต่งบ้าน และของที่ระลึกมากมาย ชมกิจกรรมการแสดง เวทีหมู่บ้านสองฝั่งคลอง และเวทีศูนย์หัตถกรรมฯ

          

หรือจะร่วมกับชาวอำเภอแม่วาง ทอดผ้าป่าสามัคคี ร่วมทำบุญได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 29 มกราคม 2563 ในงาน “ปอยหลวง” สมโภชน์เสนาสนะ “วัดจำลอง” ระดมทุนไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลแม่วางและช่วยเหลือสนับสนุนการดับไฟป่าและหมอกควัน รวมทั้งสนับสนุนแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาและพัฒนาระบบการท่องเที่ยวในเครือข่ายแหล่งเรียนรู้ในอำเภอแม่วาง ภายในงานปอยหลวงยังได้ชมการเรียนการสอน และสาธิตงานทางด้านภูมิปัญญา แก่นักเรียนและผู้สนใจทั่วไป ก็ร่วมสร้างประสบการณ์ดี ๆ ด้วยได้

สามารถร่วมทำบุญโดยโอนเงินเข้าบัญชีบัญชี  “แหล่งเรียนรู้อารยธรรมบ้านน้ำต้นสล่าแดง” ธนาคารออมสิน สาขาแม่วาง  เลขที่ 020299520005 ติดต่อประสานงานพระครูสุนทรธรรมโชติ  081-7963719 สล่าแดง ศรีสุวรรณ์   089-7007273 กำนันอุ่นเรือน  คำภิโล   086-4304432

 

การเดินทางเที่ยวเชียงใหม่ช่วงนี้ “ไทย แอร์เอเชีย” แจกคูปองส่วนลดช่วงบินวันธรรมดา จันทร์ – พฤหัสบดี เข้าไปลงทะเบียนได้ที่ www.airasia.com  เพื่อรับคูปองแล้วเก็บใช้ช่วงการเดินทางระหว่าง 1 มกราคม - 28 กุมภาพันธ์ 2564  มีทั้ง คูปองส่วนลดมูลค่า 200 บาท นำไปจิบชา/กาแฟรสชาติดีตามร้านบรรยากาศเก๋ๆ และคูปองส่วนลดมูลค่า 300 บาท gเพื่อร่วมทำกิจกรรมท่องเที่ยวิถีชาที่ดอยปู่หมื่น จิบชาท่ามกลางธรรมชาติ ตามรอยชาพระราชทานต้นแรกของเมืองไทย

 

                “เชียงใหม่” ยังเที่ยวได้อย่างปลอดภัย เพียงแค่นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ สแกนคิวอาร์โค้ดไทยชนะ รักษาระยะห่าง ดูแลสุขภาพตัวเองและคนรอบข้าง ทำอย่างสม่ำเสมอแบบนี้ก็เที่ยวได้ทุกที่ ทุกเวลา

 

วิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยตัวเองใช้เกลือ “น้ำมะนาว-น้ำขิง”อุ่น

 

แพทย์ศิริราช แนะนำวิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ดีและทำได้ทันทีด้วยตัวเอง คือ

1.ทุกเช้าหลังตื่นนอน ให้แต่ละคนนำเกลือรสชาติค่อนข้างเค็มมาละลายน้ำอุ่น แล้วใช้กลั้วคอประมาณ 2-3 นาที และบ้วนปาก

2.ดื่มสมุนไพรที่เตรียมไว้ จะเป็นน้ำมะนาว น้ำขิง อุ่น ๆ นำดื่มเข้าไปในปริมาณ 300 ซีซี เพื่อล้างลำคอ เพราะหากมีไวรัสอยู่สมุนไพรดังกล่าว จะนำไวรัสลงสู่กระเพาะอาหารแล้วฆ่าไวรัสให้ตายได้

3.แนะนำให้ดื่มน้ำมะนาว หรือน้ำขิง อุ่น วันละ 3 ครั้ง เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสในร่างกาย

4.หากวันไหนเจ็บคอก็ให้ดื่มน้ำมะนาว หรือ น้ำขิง เข้าไป เพื่อทำลายเชื้อไวรัสโควิดให้ตายได้ด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำมะนาว นั่นเอง

 

ข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก อุทยานแห่งชาติทั่วไทยพร้อมคืนหรือเลื่อนห้องพักช่วงโควิดรอบใหม่ระบาด

 

สำนักงานอุทยานแห่งชาติ ออกประกาศว่า อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ และพร้อมที่จะ “คืนเงินค่าจองห้องพัก” หรือ “เปิดให้เลื่อนวันเข้าพัก” แก่นักท่องเที่ยวได้ หลังเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ตั้งแต่ 20 ธันวาคม 2563 เป็นต้นมา เพราะเข้าใจความรู้สึกนักท่องเที่ยวบางคนมีความกังวลไม่กล้าเดินทาง สามารถยื่นเรื่อง #ขอคืนเงินค่าที่พักเป็นกรณีพิเศษ หรือ #ขอเลื่อนวันเข้าพัก ได้ ดังนี้

 

“การขอคืนเงินค่าที่พัก” ปกติหากเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น อุทกภัย ธรณีพิบัติภัย คลื่นยักษ์สึนามิ ดินถล่ม ไฟไหม้ป่า หรือเหตุสุดวิสัย เป็นเหตุให้ไม่สามารถเข้าใช้บริการได้ นักท่องเที่ยวสามารถแจ้งขอคืนเงินได้ ภายใน 30 วัน นับจากวันเข้าพัก มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์การขอคืนเงิน

 

กรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นักท่องเที่ยวสามารถแจ้งขอคืนเงินได้ดังนี้

1.ก่อนวันเข้าพักไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ 2. การยื่นคำร้องขอคืนเงิน (หากแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 5 วัน) 3.ยื่นคำร้องผ่านระบบ โดยใช้ล็อกอินและรหัสผ่านที่ได้จากการลงทะเบียนในระบบ แนบหลักฐานการชำระเงินและสำเนาสมุดฝากเงินธนาคารเฉพาะหน้าที่แสดงชื่อบัญชี เลขบัญชี และสาขา เพื่อจะได้โอนเงินคืนเมื่อได้รับอนุมัติ (กรณีเป็นบริษัท ห้าง ร้าน ต้องมีหนังสือมอบอำนาจให้ทำการแทน) 4.การยื่นคำร้องขอคืนเงิน (หากกำหนดเข้าพักน้อยกว่า 5 วันหรือเลยวันเข้าพัก ) 5.ติดต่อเจ้าหน้าที่ โทร 0 2579 6666 ต่อ 1743, 1744 หรือส่งอีเมล banpak025795269@gmail.com / dnp.banpak@gmail.com

 

โดยจะต้องแนบเอกสารประกอบคำร้องขอคืนเงิน ประกอบด้วย

1) เอกสารการจองที่พักและบริการ 2) หลักฐานการชำระเงิน 3) สำเนาสมุดฝากเงินธนาคารเฉพาะหน้าที่แสดงชื่อบัญชี เลขบัญชี และสาขา เพื่อจะได้โอนเงินคืนเมื่อได้รับอนุมัติ 4) กรณีเป็นบริษัท ห้าง ร้าน ต้องมีหนังสือมอบอำนาจให้ทำการแทน

ทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบยืนยันกับอุทยานแห่งชาตินั้น ๆ ต่อไป

กรณีที่ไม่ได้รับอนุมัติให้คืนเงิน อันเนื่องมาจากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์นี้ ผู้ใช้บริการต้องเข้าพักตามที่ได้จองไว้เดิม มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์

ติดต่อขอทราบผลการโอนเงินคืน ติดต่อเจ้าหน้าที่การเงิน ฝ่ายเงินรายได้บำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติ สำนักอุทยานแห่งชาติ โทร 0 2579 6666 ต่อ 1784

 

 เกณฑ์การเลื่อนวันเข้าพัก

1.ทางอุทยานแห่งชาติอนุญาตให้เลื่อนได้ 1 ครั้ง โดยต้องแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 10 วัน นับจากวันเข้าใช้บริการเดิม หากแจ้งล่วงหน้าน้อยกว่าที่กำหนดขอให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ โทร 0 2579 6666 ต่อ 1743, 1744

2.ขอเลื่อนได้ไม่เกิน 60 วัน นับจากวันเข้าใช้บริการเดิม โดยทำการจองรายการใหม่ผ่านเว็บไซต์ของกรมก่อน จากนั้นยื่นเรื่องขอเลื่อนการใช้บริการ ทั้งนี้ การจองใหม่สามารถจองที่อุทยานแห่งชาติเดิม หรือเปลี่ยนอุทยานแห่งชาติใหม่ก็ได้

 

3.แจ้งความประสงค์ขอเลื่อนวันเข้าใช้บริการ โดยยื่นคำร้องผ่านระบบ โดยใช้ล็อกอินและรหัสผ่านที่ได้จากการลงทะเบียนในระบบ

 

4.หากการขอเลื่อนวันเข้าใช้บริการ ทำให้ค่าที่พักและบริการต่างไปจากเดิม มีอัตราสูงกว่าอัตราที่ชำระไว้แล้ว ผู้ใช้บริการต้องชำระเพิ่ม

 

5.ตรวจสอบผลการขอเลื่อนวันเข้าใช้บริการ ได้ที่หมายเลข 0 2579 6666 ต่อ 1743, 1744 หรือล็อกอินเข้าระบบเพื่อตรวจสอบผ่านทางเว็บไซต์ของกรม

 

กรณีที่ได้รับการอนุมัติให้เลื่อนวันเข้าใช้บริการ ให้ผู้ใช้บริการนำหนังสือแจ้งผลการขอเลื่อนวันเข้าใช้บริการ พร้อมหลักฐานการชำระเงินไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติในวันที่เข้าใช้บริการ

 

กรณีที่ไม่ได้รับการอนุมัติให้เลื่อนวันเข้าใช้บริการ ผู้ใช้บริการต้องเข้าใช้บริการตามที่ได้จองไว้เดิม มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์การใช้บริการ

                ติดต่อขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ฝ่ายบริการที่พัก สำนักอุทยานแห่งชาติ  โทร 0 2579 6666 ต่อ 1743, 1744

 

ข่าวที่สอง เปิดต่างชาติใช้COEเข้าไทยกว่า5หมื่นคน-ปลดล็อกวีซ่า56ประเทศ

 

นายจาตุรนต์ ไชยะคำ รองอธิบดีกรมการกงศุล กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลมีนโยบายให้กลับมาเปิดรับต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยได้เริ่มตั้งแต่ 9 กรกฎาคม-13 ธันวาคม 2563 ก็ได้ออกหนังสือรับรองเพื่อเดินทางเข้าประเทศไทย หรือ COE : certificate of entry ทุกประเภทการเดินทางให้ต่างชาติแล้ว 50,625 คน เฉลี่ยเดือนละ14,000-15,000 คน ส่วนธันวาคมนี้จะสูงขึ้นเป็นเดือนละ 20,000 คน

 

ต่างชาติที่ได้หนังสือรับรองเพื่อเดินทางเข้าประเทศไทย COE จำนวน 50,625 คน ประกอบด้วย 5 กลุ่ม คือ 1.ต้องการเข้ามาเรื่องธุรกิจมากที่สุด 23,000 คน 2.กลุ่มนักท่องเที่ยวกว่า 7,000 คน 3.กลุ่มนักเรียน-นักศึกษาราว4,500 คน 4.กลุ่มเข้ามารักษาพยาบาล 4,000 คน และ 5.กลุ่มอื่น ๆ ตามที่ทางกระทรวงการต่างประเทศพิจารณาตามเหตุผลสมควร

 

ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศพยายามได้เดินหน้าเปิดรับต่างชาติตามนโยบายรัฐบาลต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ปลดล็อกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วไปกลุ่ม ผ.30 จำนวน 56 ประเทศ สามารถเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องตรวจลงตราวีซ่า หรือไม่ต้องขอวีซ่า ใช้แค่หนังสือรับรองหรือใบ COE และกักตัว 14 วัน ก็เดินทางท่องเที่ยวต่อได้

 

ทั้งนี้ได้เปิดให้ชาวต่างชาติยื่นขอ COE ผ่านทางออนไลน์ผ่าน www.coethailand.com พร้อม พร้อมอัพโหลดเอกสารประกอบสำคัญ ได้แก่ 1.หลักฐานการจองห้องพัก โรงแรม 2.ตั๋วโดยสารเครื่องบิน 3.หลักฐานซื้อประกันการเดินทาง แล้วรอการอนุมัติใบ CEO จากทางสถานทูตต่อไปโดยใช้เวลาไม่นาน

 

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai