ททท.บุกตลาดเอเชีย/แปซิฟิกใต้ปี’65 ”ไขรหัสลับ“NOW-SOON-LATTER” เกาหลีกอล์ฟ-ญี่ปุ่นเรียลิตี้-ออสซี่บิน8ธ.ค.-อินเดียปลดล็อกแอร์บับเบิ้ล
“ททท.”ไขรหัสลับ“NOW-SOON-LATTER”บุกตลาดเอเชีย/แปซิฟิกใต้ปี’65
เกาหลีกอล์ฟ-ญี่ปุ่นเรียลิตี้-ออสซี่บิน8ธ.ค.-อินเดียปลดล็อกแอร์บับเบิ้ล
คิงเพาเวอร์2ดีลดี“น้ำหอมเครื่องสำอาง”-Gadgetอิเล็กทรอนิกส์ลด25%
คิงเพาเวอร์ชูรายการเชฟเจไดเปิดประเทศรับเหล่าโอป้าด้วยบางกอกคุกกี้
ททท.ภูเก็ตควงมอสโกผนึกไซบีเรียแอร์นำตลาดรัสเซียเฮเที่ยวไทยไฮซีซัน
“บางจาก”รับโล่องค์กรทำเพื่อสังคมหนุนเดินวิ่งโอลิมปิกเดย์1-20ธ.ค.64
สุดปัง!ททท.-เจจูแอร์นำเข้านักกอล์ฟเกาหลีใช้เงินในเชียงใหม่2หมื่นคน
“TCEB”โชว์ครึ่งปี’64หลังประชุมเมืองไทยโกย637งาน-ปี65ไมซ์ลุยไม่ยั้ง
หนาวนี้ขึ้น“ดอยอินทนนท์”เที่ยวไทยสัมผัสไอเย็นเมืองเหนือกันเถอะเรา
ทำด่วน3วิธีทิ้งชุดตรวจATKอย่างปลอดภัยโดย”ฆ่าเชื้อ-แยกทิ้ง-ล้างมือ”
เช็คที่นี่!!ลอยกระทงจัดได้ทั่วไทยไฮไลต์“กทม-ภาคเหนือ-อีสาน”19พ.ย.64
กต.เปิดคอลเซนเตอร์เข้าถึงด่วนTHAILAND PASSช่วยต่างชาติเที่ยวไทย
ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT
#PhuketSandbox #
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้
ช่วงที่
1 ไขรหัสลับกับ
“ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ความท้าทายในการปลุกนักท่องเที่ยวขาใหญ่ในเอเชีย
จัดทัพรุก 3 กลุ่ม “NOW-SOON-LATTER”
ทัพนักกอล์ฟ “เกาหลี” ปักหมุดแล้วที่เชียงใหม่ กระจายสู่ลำพูน คาดได้ถึง 20,000
คน ทำเงินกว่า 600 ล้านบท “ญี่ปุ่น” ฮือฮาคณะถ่ายทำรายการฮ็อต
THE BACHELORETTE JAPAN SEASON 2 ยกทีมโปรโมทไทยเต็มที่
“ออสเตรเลีย” 8ธ.ค.นี้รับกรุ๊ปปฐมฤกษ์ทางด้าน “อินเดีย”
จับมือกระทรวงต่างประเทศ ปลดล็อก “Air Travel Bubble”
ปลายปีนี้เจาะเศรษฐีคู่แต่งงาน 6 คู่
ชวนเพื่อนมาด้วยนับพันคน ลุยคัดสินค้า 3 หมวดเด่น
“เที่ยวเชิงกีฬา-ทัวร์แต่งงาน-เที่ยวเชิงสุขภาพ ไลฟ์สไตล์” ดึงเอเชียเข้าไทยปี’65
นายธเนศวร์
เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า
ภูมิภาคนี้ก่อนเกิดโควิดเคยสร้างรายได้ท่องเที่ยวตลาะระยะใกล้เข้าประเทศมีส่วนแบ่งสูงถึง
70 % โดยเฉพาะจีนประเทศเดียวปีละ 10 ล้านคน
แต่พอมีโควิดต้องยอมรับความจริงนักท่องเที่ยวจากแต่ละประเทศต้องมีเงื่อนไขการเดินทางออกแล้วกลับเข้าประเทศอาจต้องกักตัว
หรือมีข้อปฏิบัติต่าง ๆ ทำให้การขับเคลื่อนตลาดค่อนข้างท้าทายมาก
เมื่อรัฐบาลไทยประกาศเปิดประเทศตั้งแต่
1 พฤศจิกายน 2564 ต่อเนื่องจากแซนด์บ็อกซ์
ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย สุราษฎร์ธานี จึงเห็นได้ชัดมีนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักจากทวีประยะไกลเกินกว่า
95 % พอผมเข้ารับตำแหน่งดูแลตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้
ตั้งแต่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา
เป็นจังหวะที่ดีจากรัฐบาลผ่อนคลายล็อกดาวน์และมาตรการนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ
ลดจาก 14 เหลือ 7 วัน
กระทั่งล่าสุดตอนนี้เหลือ 1 วัน หรือ Test & Go หรือไม่ต้องกักตัวนั่นเอง ทำให้การทำงานสะดวกมากขึ้น แล้ว
ททท.ได้เข้าไปผลักดันตลาดได้ดีขึ้น
ขณะนี้จึงได้แบ่งการตลาดนำเข้านักท่องเที่ยวจากเอเชีย
และแปซิฟิกใต้ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มแรก
NOW-สามารถทำตลาดได้ทันที
ประกอบด้วย เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ กัมพูชา มาเลเซีย
กลุ่มที่สอง
SOON-เห็นทิศทางการพัฒนามายังไทยได้ง่ายขึ้น
ประกอบด้วย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์
อินโดนีเซีย เวียดนาม สปป.ลาว ภายในประมาณปลายปี 2564 น่าจะขยับให้ขึ้นไปอยู่ในกลุ่ม Now ได้ด้วย
กลุ่มที่สาม
LATTER -รอความหวังที่จะดีขึ้น
ประกอบด้วย จีน ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่
ทางรัฐบาลจีนยังมีนโยบายไม่ได้ปล่อยให้คนในประเทศเดินทางออกต่างประเทศมากนัก
ส่วนการขับเคลื่อนนักท่องเที่ยวในตลาดเอเชีย
ซึ่งทำได้อย่างรวดเร็ว เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน 2564 ได้แก่
ตลาดแรก
“เกาหลี” สามารถเปิดปิดดีลเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter
flight) ทั้งเจจูแอร์ อาเซียน่าแอร์ไลน์ส โคเรียนแอร์
เคลื่อนตัวเข้ามายังสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ แล้วบินมายังสนามบินสุวรรณภูมิ
ตั้งแต่พฤศจิกายน 2564-มกราคม 2565 เฉพาะเกาหลีตลาดนี้นักกอล์ฟกลุ่มเดียวจากเที่ยวบินเช่าเหมาลำจะก่อให้เกิดรายได้ราว
600 ล้านบาท จากจำนวนที่นั่งรวม 20,000 ที่นั่ง รวมทั้งโอกาสและอากาศเอื้อให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น
เป็นช่วงฤดูหนาวพอดี
ตลาดที่
2 “ญี่ปุ่น”
เดินทางมาวันเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน กว่า1,000 คน
เมื่อเข้าไปดูรายละเอียดจะพบว่ามีทั้งนักธุรกิจ กลุ่มครอบครัว กลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่เข้ามาแบบ
Test and Go คือจองห้องพักค้างโรงแรมที่ได้ตราสัญลักษณ์ SHA
PLUS 1 คืน เพื่อรอผลตรวจ RT-PCR หาเชื้อโควิด
จากนั้นก็เดินทางท่องเที่ยวได้เลย เป็นกลุ่มที่เริ่มไหลเข้ามาแล้ว
รวมทั้งมีข่าวดี
ทางสำนักงาน ททท.โตเกียว ประสบความสำเร็จในการดึงคณะถ่ายทำชุดใหญ่
รายการเรียลิตี้โชว์ชื่อ : THE BACHELORETTE JAPAN SEASON 2 จำนวนกว่า 65 คนเดินทางมาสำรวจและถ่ายทำรายการต่อเนื่องระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2564 ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการถ่ายทำทั้งหมด 8 ตอน
แบ่งเป็น ถ่ายทำแล้วนำเสนอสถานที่ต่าง ๆ ในเชียงใหม่ 6 ตอน
และถ่ายทำในญี่ปุ่นอีก 2 ตอน
จากนั้นจะเผยแพร่ออกอากาศทางช่อง “Amazon Prime Video” ตอนละ
60 นาที ต่อเนื่องระหว่างเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม 2565
ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผมเป็นทั้งรองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย
และแปซิฟิก และโปรเจ็กต์ เมเนเจอร์ “Charming Chaingmai”
เท่ากับสวมหมวกการทำงาน 2 ใบ
พร้อมจะผลักดันให้รายการเรียลิตี้โชว์ชุดนี้
ซึ่งเป็นรายการคู่หนุ่มสาวที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมในญี่ปุ่นสูงมาก เมื่อรายการเผยแพร่ออกไปจะช่วยประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้กระตุ้นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางมาเชียงใหม่
และประเทศไทยได้มากทีเดียว
ตลาดที่
3 ออสเตรเลีย
ตอนนี้เปิดให้คนเดินทางต่างประเทศได้แล้ว วันที่ 8
ธันวาคม 2564 ททท.จะไปต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวบินแรกโดยการบินไทยปฐมฤกษ์
จากซิดนีย์มายังภูเก็ต จะมีนักท่องเที่ยวออสเตรเลียทั้งหมดกว่า 100 ชีวิต มีทั้งผู้กลับมาเยี่ยมญาติและนักท่องเที่ยว
ตลาดที่
4 อินเดีย
กำลังคุยกันกับภาคธุรกิจและองค์กรเกี่ยวข้องเพื่อปลดล็อกอุปสรรคเรื่อง Air
Travel Bubble ในฐานะที่อินเดียเป็นตลาดใหญ่มาก
ก่อนโควิดเคยมาเที่ยวเมืองไทยปีละหลายล้านคน ตลาดเป้าหมายหลักคือ “คู่แต่งงาน”
มีจองเข้ามาภูเก็ตเพื่อมาแต่งงานประมาณ 6-7 คู่
พร้อมกับแขกที่จะมาร่วมงานมากนับ 1,000 คน
โดยจองผ่านบริษัทตัวแทนนำเที่ยวรายใหญ่ เช่น Make My Trip เริ่มทำจองเข้ามาแล้วเป็นตัวเลขที่น่าดีใจ
แต่ตอนนี้ไทยกับอินเดียยังไม่ได้มีข้อตกลงเชิงพาณิชย์ที่จะเชื่อมต่อ
“เที่ยวบิน” เข้ามาหากัน ขณะนี้อินเดียมีข้อตกลงกับประเทศต่าง ๆ เพียง 28 ประเทศเท่านั้น แล้วเป็นที่น่าเสียดายในจำนวนนี้ยังไม่มี “ประเทศไทย”
รวมอยู่ด้วย เพราะฉนั้น ผมและ ททท.จึงมีแนวคิดที่จะทำเรื่อง Air Travel
Bubble หากปลดล็อกได้จะทลายกำแพงทำให้คนเดินทางไหลเข้ามาได้มาก
อีกทั้งอินเดียจัดอยู่ในกลุ่ม Test & Go ไม่ต้องกักตัว
มาแล้วเมื่อรู้ผลตรวจหาเชื้อโควิดก็สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ทันที
เพียงแต่ยังไม่มีเที่ยวบินตรงเข้าไทยหรือภูเก็ต
นักท่องเที่ยวอินเดียต้องไปบินผ่านมาทางศรีลังกา หรือประเทศอื่น
ทำให้เกิดความไม่สะดวกสบาย ดังนั้น Air Travel Bubble เป็นจุดเล็ก
ๆ เมื่อปลดล็อกได้จะดี
ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศของไทยรับปากที่จะไปช่วยดำเนินการโดยเร็วที่สุด
คาดปลายปี 2564 จะสามารถเปิดรับอินเดียได้
จะช่วยผสมผสานเติมเต็มรายได้ให้ประเทศ
โดยเฉพาะ
“ตลาดจัดแต่งงานของอินเดีย” ที่จะมาในไทย ก็จะช่วย “เพิ่มยอดใช้จ่ายเงิน”
กระจายไปยังกลุ่มบริษัทอีเวนต์ โรงแรม สถานที่จัดงานต่าง ๆ
ได้มากกว่านักท่องเที่ยวปกติ ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็ว
นายธเนศวร์
กล่าวว่า การจับคู่สินค้าท่องเที่ยวกับตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้
ตลาดที่เข้ามาแล้วตรงความต้องการของนักท่องเที่ยว ตัวอย่าง “เกาหลี”
ที่มากับเที่ยวบินเช่าเหมาลำเข้าเชียงใหม่เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน จำนวน 100
% เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเล่นกอล์ฟ ททท.นำลูกกอล์ฟไปแจกเป็นของที่ระลึก
เพราะตอนนี้ในเกาหลี ญี่ปุ่น อากาศเริ่มเย็นลงมากสนามกอล์ฟต่าง ๆ เริ่มปิดบริการ
ดังนั้น
สินค้าท่องเที่ยวที่จะใช้เปิดรับตลาดเอเชีย หมวดแรกคือ “การท่องเที่ยวเชิงกีฬา :Sport
Tourism”
เป็นโครงการเรือธงของไทยบุกตลาดเกาหลี ญี่ปุ่น
หมวดที่สอง “การท่องเที่ยวจัดแต่งงาน” เจาะกลุ่มอินเดีย
ซึ่งจัดต่อเนื่องครั้งละเป็นสัปดาห์ 4-7 วัน
ส่วนใหญ่จะเลือกมาจัดในพื้นที่เป้าหมายจังหวัดภูเก็ต บรรยากาศทะเล
เหมาะจัดสังสรรค์ หมวดที่ 3 “ศิลปะวัฒนธรรม
ไลฟ์สไตล์ สปาเวลเนส และธรรมชาติ”
เจาะกลุ่มตลาดออสเตรเลีย
นายธเนศวร์
กล่าวว่า สถานการณ์ความคืบหน้าการเปิดประเทศ ในโครงการ “Charming
Chaingmai” ที่จังหวัดเชียงใหม่ ถึงแม้จะเกิดคลัสเตอร์โควิดใหม่ ๆ
ระบาดช่วงเปิดประเทศ แต่อยู่ในพื้นที่ปิด เช่น ตลาด ชุมชน ทางจังหวัดใช้วิธี Community
Isolation ปิดตลาดปิดชุมชนไปบ้าง ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ที่สามารถควบคุมได้
จึงไม่ได้หมายความว่าจะกระจายไปทั่วเชียงใหม่
ดังนั้นอีกหลายพื้นที่ซึ่งเป็นบลูโซน
เช่น ถนนนิมมานเหมินทร์ และแหล่งท่องเที่ยวต้อนรับหน้าหนาวอื่น ๆ ในเชียงใหม่ก็สามารถเปิดบริการได้
รวมทั้งยอดจองห้องพักในตัวเมืองเชียงใหม่ และตามดอย กระจายสู่ชุมชน
ขณะนี้จองเต็มยาวไปจนถึงเดือนมกราคม 2565 แล้ว
เมื่อ
1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เมื่อเปิดประเทศ
มีนักท่องเที่ยวเกาหลีเข้ามายังเชียงใหม่ กระจายส่งต่อไปยังลำพูน ลำปาง
ทำให้พื้นที่รอบข้างมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ผนวกกับสินค้าท่องเที่ยวของเชียงใหม่มีความหลากหลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้ตามวิถีใหม่
ช่วงรอยต่อไตรมาส
4
นักกอล์ฟจากตลาดเกาหลีเพียงกลุ่มเดียวก็จะสร้างรายได้เข้าโครงการ Charming
Chaingmai ได้ถึง 600 ล้านบาท
นายธเนศวร์
กล่าวทิ้งท้ายคือ ขอฝากเรื่องมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เนื่องจากTest
& Go ของรัฐบาลไทยเป็นมาตรการใหม่
เข้ามาท่องเที่ยวโดยไม่กักตัวแล้วเดินทางได้อย่างเสรีไปยังอำเภอต่าง ๆ
จึงต้องขอให้ทางจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยดูแลความมั่นคงอย่างกระทรวงมหาดไทย
และททท.สำนักงานพื้นที่ทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานต่าง ๆ
จะร่วมกันดูแลทั้งความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวด้วย
ส่วนคนแต่ละพื้นที่เปิดรับนักท่องเที่ยวก็ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์เกิน 70 % จึงขอให้ทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศและคนไทยด้วยกันอย่างเป็นมิตรตลอดไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์2ดีลดี“น้ำหอมเครื่องสำอาง”-Gadgetอิเล็กทรอนิกส์ลด25%
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดทัพสินค้า แคมเปญแรก “BEAUTY WONDER PRICES” วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2564 เท่านั้น ช้อปก่อน สวยก่อน
กับน้ำหอมและเครื่องสำอาง ที่ยกขบวนมาให้คุณช้อปจากหลายแบรนด์ดัง ในราคาพิเศษ ที่สุดแห่งความคุ้มค่า ช้อปง่าย
ไร้สัมผัส! พร้อมรับลุ้นรางวัลแบรนด์ดัง ทุกวัน 09.00 - 21.00 น. เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการและสินค้ามีจำนวนจำกัด
แคมเปญที่ 2 GADGET OF THE MONTH ลดสูงสุด 25% เพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้น
กับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์แบรนด์ดัง ที่มาพร้อมฟังก์ชันสุดล้ำยิ่งกว่าใคร
ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ยิ่งกว่าเดิม! ราคาพิเศษตลอดพฤศจิกายนนี้ ลดทันที
ไม่มีขั้นต่ำ รีบช้อปเลยไม่ต้องรอ! ช้อปเลยที่ - https://bit.ly/3Efdy2e
สินค้าส่งฟรี! ทั่วประเทศ เมื่อช้อปครบ 699.- (สุทธิ) เข้ามาช้อปได้ทุกวัน
ทุกเวลา ผ่าน 2 ช่องทาง
1.King
Power Chat to Shop (คิง เพาเวอร์ แชททูช้อป) เพียง Add
LINE@ : @KP_ChatToShop แล้วกด Add Friend หรือคลิก
https://lin.ee/JwNzqUu
2.King
Power Call to Shop (คิง เพาเวอร์ คอลทูช้อป) เพียงโทร. 02-338-7870 หรือ inbox (อินบอกซ์) มาที่ Facebook King
Power ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 21.00 น.
เช็กรายละเอียดเพิ่มเติม
คลิก https://bit.ly/3gea1aK ยังไม่เป็นสมาชิก สามารถสมัครตอนนี้ แล้วรับสิทธิ์ส่วนลดได้ทันที
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์ชูรายการเชฟเจไดเปิดประเทศรับเหล่าโอป้าด้วยบางกอกคุกกี้
คิง
เพาเวอร์ ต้อนรับการเปิดประเทศชวนชาวเกาหลีช้อปสนุกกับรายการ “เชฟผจญไทย :
Chef from Home Ep.2” ของ “เชฟเจได” เชฟหนุ่มคนรุ่นใหม่สายเลือดเกาหลี
กับคุณแม่ นำวัตถุดิบไทยและเกาหลีผสมผสานเข้าด้วยกันทำเมนูอาหารที่เป็นฟิวชั่นด้วย
“บางกอกคุ้กกี้” แปลงโฉมข้าวพองไรซ์เบอรี่ไทย 100 % รสต้มยำ และรสชาติต่าง ๆ ที่วางขายอยู่ใน “คิง
พาเวอร์” ทั้งหน้าร้าน ออนไลน์ แอพลิเคชั่น
ให้ชาวเกาหลีได้ลองทำเมนูฟิวชั่นไว้รับประทานคือ
“นูรุงจิทัง :
ข้าวต้มปลาแห้ง”
ปลุกประสบการณ์ “เหล่าโอป้าเกาหลีหวลคิดถึงเมืองไทย”
มาก ๆ เมื่อได้ชมรายการผจญไทย
Chef from Home Ep.2 ที่ตั้งโจทย์ให้หนุ่มเจได (จอง ฮยอง ยุน)
พิธีกรพลังเหลือล้นเปลี่ยนขนมที่ทำจากข้าวไทยออแกนิก
ของว่างทานเล่นสุดอร่อยฝีมือคนไทย ในชื่อ “บางกอก คุ้กกี้”
ให้เป็นเมนูสุดคลาสสิกสไตล์เกาหลี ได้ลองทำให้หายความคิดถึงคิงเพาเวอร์และเมืองไทย
การเข้าครัวของโอปป้าครั้งนี้...มีแขกรับเชิญสุดพิเศษด้วย
มาดูกันว่าการสร้างสรรค์เมนู “นูรุงจิทัง” หรือข้าวต้มเกาหลี จากบางกอก คุ้กกี้
รสต้มยำจะออกมาแซ่บถึงใจแค่ไหน ที่สำคัญมีศัพท์เกาหลีอะไรใหม่ ๆ
ให้เรียนกันอีกเพียบ
ที่แน่ๆ รับรองความสนุก อิ่มอร่อย
ดูจบมีรอยยิ้มแน่นอน คอนเฟิร์ม! คลิกชมรายการเต็ม ๆ ที่ https://bit.ly/3wCY1GE
ข่าวที่ 3 ททท.ภูเก็ตควงมอสโกผนึกไซบีเรียแอร์นำรัสเซียเฮเที่ยวไทยไฮซีซัน
นางสาวนันทาศิริ
รณศิริ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต เปิดเผยว่า
ททท. ร่วมกับไซบีเรียแอร์ไลน์ส์ Siberia Airlines : S7
เปิดบินตรงจากเมืองเอียร์คุส สหพันธรัฐรัสเซีย ช่วงไฮซีซั่นปี 2564 ตามที่ ททท.มอสโคว์ ประสานเข้ามาเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว 136 คน ที่มากับเที่ยวบินแรก S76329 เครื่องแอร์บัส A320 จากเมืองเอียร์คุส รัสเซีย เข้ามายังภูเก็ต
ตามแผนตลอดช่วงไฮซีซันในตารางบินฤดูหนาวพร้อมบินไป-กลับ สัปดาห์ละ 1
เที่ยว ทุกวันพฤหัสบดี เริ่มตั้งแต่
11 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป
และมีสายการบินระหว่างประเทศทยอยบินเข้ามาเพิ่มตลอดพฤศจิกายนนี้ไม่ต่ำกว่า 6 แอร์ไลน์ส
ส่วนการเปิดตลาดนำนักท่องเที่ยวรัสเซียเข้ามายังภูเก็ตครั้งนี้
เป็นโอกาสสำคัญเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจท่องเที่ยวของภูเก็ตให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น โดยนักท่องเที่ยวรัสเซียมักจะหนีอากาศหนาวเย็นในประเทศเดินทามาพักผ่อนในประเทศไทย
สำหรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์
มาถึงสนามบินภูเก็ต เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2564 เวลา 19.40 น. ทาง ททท.ภูเก็ต พร้อมด้วย นายปิยพงศ์ ชูวงศ์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายมนต์ชัย ตะโหนด
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต และเจ้าหน้าที่สายการบิน
ร่วมให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก ณ ประตูทางออกขึ้นเครื่องหมายเลข 15 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สนามบินภูเก็ต ภายใต้มาตรการเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว
(Test&go และ Sandbox)
ข่าวที่ 4 สุดปัง!ททท.-เจจูแอร์นำเข้านักกอล์ฟเกาหลีใช้เงินในเชียงใหม่2หมื่นคน
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ
รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ต้อนรับการเปิดประเทศด้วยโครงการ Charming Chaingmai จ.เชียงใหม่
ซึ่งเป็นพื้นที่สีฟ้าเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ได้ต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์สายการบิน Jeju Air เที่ยวบิน
7C4205 เส้นทางอินชอน - เชียงใหม่
นำคณะนักท่องเที่ยวกอล์ฟชาวเกาหลีใต้กลุ่มแรก 83 คนมายังเชียงใหม่ภายใต้รูปแบบ Exemption
Quarantine (Test & Go)
ตามแผนสายการบินเจจูแอร์ จะบินเช่าเหมาลำ
(Charter Flight) ตรงจาก สนามบินอินชอนสู่สนามบินเชียงใหม่
เพื่อนำนักกอล์ฟเกาหลีเข้ามาต่อเนื่อง 6 เที่ยว/สัปดาห์ ระหว่าง 5 พฤศจิกายน – 12
ธันวาคม 2564 กว่า 1,000 คน
จากนั้นจะทยอยบินเพิ่มรวมกว่า 55 เที่ยว ทำให้ช่วงระหว่างพฤศจิกายน 2564 - มกราคม
2565 โดยมีผู้โดยสารกว่า 12,510 ที่นั่ง หรือรวมแล้วจะได้ถึง 20,000 คน
ส่วนการเดินทางเข้าประเทศไทยตามนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล
(Thailand Reopening) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 แบ่งเป็น 3
รูปแบบ ได้แก่
1. Test & Go นักท่องเที่ยวต่างชาติหรือคนไทยกลับประเทศมาจากประเทศหรือพื้นที่เสี่ยงต่ำ
63 ประเทศ ได้รับวัคซีนครบตามกำหนดไม่น้อยกว่า 14 วัน จองพักโรงแรมมาตรฐาน SHA
Plus / AQ 1 คืน
เพื่อรอผลการตรวจโควิด-19 เมื่อผลเป็นลบ
สามารถออกเดินทางท่องเที่ยวไม่จำกัดพื้นที่
2. Living in the Blue Zone นักท่องเที่ยวต่างชาติหรือคนไทยเดินทางจากประเทศอื่น
ๆ ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ที่กำหนด ต้องเข้ากักตัวในโรงแรมมาตรฐาน SHA Plus ในพื้นที่สีฟ้า Blue Zone นำร่อง
ระยะที่ 1 จำนวน 17 จังหวัด อย่างน้อย 7 วัน
3. Alternative Quarantine (AQ)
Happy Quarantine ทั่วไทย
นักท่องเที่ยวต่างชาติหรือคนไทยเดินทางมาจากทุกประเทศ
กรณีรับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์และเดินทางทางอากาศ ทางเรือ ต้องกักตัวใน AQ 10
วัน และกรณีผู้ที่เดินทางมาจากทุกประเทศ รับวัคซีนครบตามเกณฑ์
แต่ต้องการเดินทางเข้าในพื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นที่สีฟ้าจะต้องกักตัวใน AQ จำนวน
7 วัน
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tatnews
ข่าวที่ 5 “บางจาก”รับโล่องค์กรทำเพื่อสังคมหนุนเดินวิ่งโอลิมปิกเดย์1-20ธ.ค.64
นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้รับโล่แสดงความขอบคุณจาก นายพิชัย
ชุณหวชิร รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายกีฬาเพื่อมวลชนและสิ่งแวดล้อม
และประธานคณะกรรมการจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง 2020 Olympic Day ในฐานะที่บางจากฯ เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนกิจกรรม เดิน-วิ่ง 2020
OLYMPIC DAY รณรงค์ให้ประชาชนทุกเพศทุกวัย ออกมาทำกิจกรรมเดิน
วิ่งเพื่อสุขภาพที่ดี ณ อาคารมีเดีย สตูดิโอ สถานีวิทยุโทรทัศน์ กองทัพบก ช่อง 7
ซึ่งทางคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย
กำหนดจัดงานเดิน-วิ่ง 2020 Olympic Day ในรูปแบบ Virtual Run ระหว่างวันที่
1-20 ธันวาคม 2564 แบ่งเป็น ระยะ 10 กิโลเมตร และ 5 กิโลเมตร พร้อมกิจกรรมสนุก ๆ
และของรางวัลมากมายให้ผู้ร่วมแข่งขัน
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่
15-30 พฤศจิกายน 2564 ผ่านทางเว็บไซต์ www.thaiticketmajor.com
ข่าวที่ 6 “TCEB”โชว์ครึ่งหลังปี64ประชุมเมืองไทยโกย637งาน-ปี65ไมซ์ลุยไม่ยั้ง
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้จัดทำ
“รายงานสำคัญขององค์กรเพื่อนำเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแล หรือ DPM
Report” ช่วงครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ ระหว่างเมษายน-กันยายน 2564 นำเสนอนายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้กำกับดูแลทีเส็บ
โดยมีเนื้อหาสรุปที่น่าสนใจที่ทางทีเส็บดำเนินการอย่างเข้มแข็งตลอดปี 2564 และวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนไมซ์ของประเทศไทยต่อเนื่องปี 2565
ตลอดปี 2564 ทีเส็บได้ส่งเสริมนวัตกรรมขับเคลื่อนไมซ์ในประเทศ โดยชู 2H Hygiene
& Hybrid นำนวัตกรรมมาแนะนำให้ภาคธุรกิจใช้ในโครงการ
MICE Winnovation สนับสนุน 4 รูปแบบ ทำแพลตฟอร์มบริการนวัตกรรม
จัดเวทีเจรจาธุรกิจ สนับสนุนเงินทุน จัดกิจกรรมเวิร์คช็อปให้ความรู้
คู่ขนานไปกับแคมเปญ“ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า”
สนับสนุนงบประมาณจัดไมซ์ในประเทศได้ถึง 637 โครงการ
มีผู้เข้าร่วม 43,530 คน สร้างรายได้รวมทางเศรษฐกิจ 119 ล้านบาท
“ตลาดภูมิภาคต่างประเทศ”
ได้สนับสนุนการจัดแสดงสินค้า ของสมาคมอุตสาหกรรมจัดการแสดงสินค้าโลก (UFI) สร้างความเชื่อมั่นมีผลตอบรับจากคู่ค้า 77 % ยืนยันหากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการต่าง
ๆ กลุ่มไมซ์ต่างประเทศจะกลับมาจัดงานในไทย รวมทั้งทีเส็บได้ประเมินสถานการณ์ปี 2565 อารมณ์ความรู้สึกของธุรกิจยังซบเซา แล้วไมซ์จะกลับสู่ปกติได้ปี 2566-2567
จังหวะนั้นทีเส็บจะโหมโปรโมทตลาดไมซ์กระจายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ
ผลักดันการแจ้งเกิดเมืองที่มีศักยภาพเป็นไมซ์ ซิตี้ เพื่อลดการกระจุกตัวจัดงานอยู่เฉพาะในกรุงเทพฯ
เพียงเมืองเดียว
ส่วนทิศทางการดำเนินงานปี 2565 หลังโควิด-19 กับรัฐบาลมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 ที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง “สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน”
ทีเส็บเตรียมขานรับด้วย 3 กลยุทธ์ ได้แก่
1.เสริมความแกร่งระดับชาติ ยกระดับความพร้อมของจังหวัดที่มีศักยภาพ
รองรับกิจกรรมไมซ์ และสร้างงานใหม่ ๆ ผ่านโครงการ Empower Thai Exhibition
2.ช่วงชิงโอกาสระดับสากล
โดยร่วมมือกับสมาชิกในอาเซียน ดึงงานระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทย
3.ยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรม
ทางด้าน บุคลากร มาตรฐานสถานที่จัดงาน หลักสูตรอบรมต่าง ๆ
เพื่อให้ไมซ์ไทยก้าวทันโลกยุคหลังโควิด
โดยจะยกระดับมาตรฐานและส่งเสริมการจัดงานไมซ์อย่างยิ่งยืน นำแนวคิด BCG
Model ของรัฐบาลเข้ามาใช้พัฒนาธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อม
ๆ กับต่อยอดหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ :Sustainable
Development Goals
ช่วงที่ 2 หนาวแล้วจะชวนออกเดินทางไปสูดโอโซนบนจุดสูงสุดในสยามที่ “อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์”
ตอนนี้ กิ่วแม่ปาน น้ำตกแม่ยะ น้ำตกวชิรธาร หมู่บ้านแม่กลางหลวง เปิดบ้านรอต้อนรับคนรักธรรมชาติและการผจญภัยไปเยี่ยมอีกครั้ง
เรื่องสุขภาพย้ำกันอีก “3วิธีทิ้งชุดตรวจ ATK อย่างปลอดภัย” ส่วนใครที่กำลังตัดสินใจไปลอยกระทงที่ไหนดี เช็คได้ที่นี่ “ลอยกระทง”
ในกรุงเทพฯ ใต้สะพานพระราม 8 สวนสาธารณะ 30 แห่ง “ภาคเหนือ” ไฮไลต์ใน 4 จังหวัด สุโขทัย ตาก
เชียงใหม่ ลำพูน และอีสาน 2 จังหวัด นครราชสีมา กับ
บุรีรัมย์ ส่วนการลงทะเบียน “THAILAND PASS” เข้าประเทศ
ตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศปรับวิธีให้สอบถามผ่าน คอลเซนเตอร์ กับอีเมล ได้ด้วย
พาเที่ยว -หนาวนี้ขึ้น“ดอยอินทนนท์”เที่ยวไทยสัมผัสไอเย็นเมืองเหนือกันเถอะเรา
นักผจญภัยเที่ยวได้แล้วจร้า
!! “อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์” จังหวัดเชียงใหม่ ชวนนักท่องเที่ยวไปย้อนสร้างประสบการณ์สัมผัสทะเลหมอก
หยอกธรรมชาติ รับลมหนาวบนยอดดอยสูงที่คนไทยต่างก็หลงรัก
ตอนนี้เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติยอดฮิต
“กิ่วแม่ปาน” ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง เริ่มลงทะเบียนจองคิวในแต่ละวันตั้งแต่ 05.30
น. เป็นต้นไป แล้วเริ่มเดินรอบแรก 06.10 น.
รอบสุดท้ายไม่เกิน 15.50 น. แต่ละรอบจะให้นักท่องเที่ยวเดินได้วันละ
50 กลุ่มเท่านั้น ลงทะเบียนก่อนมีสิทธิก่อน
“กิ่วแม่ปาน”
มีไฮไลต์ต้องห้ามพลาดชม “ต้นกุหลาบพันปี” จะขึ้นเฉพาะบนยอดเขาสูงที่มีอากาศหนาวเท่านั้น
ยามเช้าจะเหลือแค่ 3 – 8 องศา หรือบางวันติดลบได้ ระยะทางเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติราว
3.2 ก.ม ใช้เวลาเดินเท้าเพลิดเพลินกับธรรมชาติสองข้างทางได้ภายในแค่ 2 ชั่วโมง ถ้าจะจ้างไกด์ชาวบ้านนำทางบ้างก็ดี
ไม่แพง 200 บาทเท่านั้น
ตามมาตรการการจัดงาน
ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค จ.เชียงใหม่ จึงขอปิดเส้นทางเดินรถ ตั้งแต่ถนนจาก
“กิ่วแม่ปาน” เป็นต้นไป นักท่องเที่ยว แต่นักท่องเที่ยวยังคงสามารถเข้าชมพระอาทิตย์ขึ้น
ได้บริเวณจุดชมวิวกิ่วแม่ปานช่วง 05.00 น.เป็นต้นไป และเข้าท่องเที่ยวบริเวณหน่วยพิทักษ์ยอดดอย
ได้ตั้งแต่ 12.00 น.เป็นต้นไป
แถมทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
เพิ่งส่งมอบ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา”
บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ที่อน.5 (ยอดดอย) สด ๆ ร้อน ๆ
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป
เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าไปชมได้ตามปกติแล้ว สามารถเข้าออกได้ทุกวันช่วงเวลา 05.00
- 12.00 น.
นักท่องเที่ยวสามารถ
“แวะเที่ยว” ตามจุดท่องเที่ยวยอดนิยมระหว่างทางเมื่อขึ้นดอยอินทนนท์ด้วย
จุดที่
1 “น้ำตกแม่ยะ”
น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ได้รับการรับรอง
มาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประเภทน้ำตก ในระดับดีมาก จากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
จุดที่
2 “หมู่บ้านแม่กลางหลวง” ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา
ชุมชนแถบนี้ส่วนใหญ่มากเป็นชาวไทยภูเขาชนเผ่าปกาเกอะญอ มีอาชีพทำนาขั้นบันไดเป็นไฮไลท์วิวเขียวขจีลดหลั่นกันลงมาเป็นหุบเขากลางหมูบ้าน
ช่วงฤดูหนาวจะเห็นทะเลหมอกลอยไปมาทักทาย ทุกปีช่วงปลายเดือนตุลาคม –
ต้นเดือนพฤศจิกายน ทุ่งนาเปลี่ยนเป็นสีทองสวยงามไปอีกแบบ และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว
น้ำตกรักจัง ให้แวะเข้าไปชมด้วย
จุดที่ 3 พระธาตุพระมหาธาตุนภเมทนีดล
– นภพลภูมิ พระมหาธาตุคู่บารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นด้วยสถูปพระมหาธาตุเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ
8 เหลี่ยม ด้านบนสุดเหนือชั้นระฆังเป็นดอกบัวหงายพร้อมฉัตร
9 ชั้น รอบพระมหาธาตุจะตกแต่งสวยงามด้วยสวนดอกไม้เมืองหนาวตระการตา
จุดที่
4 น้ำตกวชิรธาร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย
ตัวน้ำตกเกิดจากลำห้วยแม่กลางบนยอดดอยอินทนนท์ มี 1 ชั้น น้ำไหลลงมาตามแนวหน้าผาหินลาดชันสูงกว่า 70 เมตร
จึงทำให้น้ำที่ไหลลงมาเกิดเป็นละอองน้ำฟุ้งไปทั่วบริเวณและกระทบกับแสงแดดจนเกิดเป็นรุ้งกินน้ำงดงามอย่าบอกใคร
เปิด 10.00 – 18.00 น.
จุดที่
5 จุดสูงสุดแดนสยาม ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง สถานที่สุดยออดแห่งความหนาวแห่งขุนเขาอินทนนท์
ระดับความสูงคือ 2,565 เมตร มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เต็มไปด้วยพืชพันธ์ไม้หาชมยาก
มีสะพานไม้ให้เดินทางผ่านป่าสีเขียว จุดแรกที่เจอคือสถูปเจ้าอินวิชยานนท์
เจ้าเมืองคนสุดท้ายของเมืองเชียงใหม่ อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ยังเป็นจุดสิ้นสุดของทางหลวงหมายเลข
1009 อีกด้วย
เที่ยวกันเถอะเรา
ชาวปะกากะญอ ดอยอินทนนท์ พร้อมแล้ว ที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน
ร่วมด้วยช่วยกันปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
เพื่อให้ได้เที่ยวกันยาว ๆ ตลอดทุกปี
สุขภาพ -3 วิธีทิ้งชุดตรวจATKอย่างปลอดภัยโดย”ฆ่าเชื้อ-แยกทิ้ง-ล้างมือ”
อ.ดร.ทนพ.เมธี ศรีประพันธ์ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล แนะนำวิธีการ
ใช้“ชุดตรวจโควิดใช้แล้วอย่าลืมทิ้งแบบมีจิตสำนึก” ซึ่งปัจจุบันการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน
ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit หรือ ATK ซึ่งหลังจากใช้เรียบร้อยแล้ว จะกลายเป็นขยะติดเชื้อ เราจะต้องทิ้งให้ถูกต้องเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจาย
และยังเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งทำได้ง่าย ๆ 3 วิธี ดังต่อไปนี้คือ
1.ฆ่าเชื้อ - ไม่ว่าผลการตรวจจะออกมาเป็นบวกหรือลบ
หลังจากใช้ชุดตรวจ ATK แล้ว ก่อนจะทิ้งใส่ถุงขยะ
จะต้องทำการฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ก่อน เพื่อความปลอดภัยของพนักงานเก็บขยะ
2.แยกทิ้ง -การทิ้งชุดตรวจ ATK ที่ฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์แล้วไม่ควรทิ้งในถังขยะทั่วไป
เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ติดเชื้อ ให้แยกทิ้งในถุงต่างหาก พร้อมเขียนเขียนหน้าถุงว่า
‘ขยะติดเชื้อ’ และทิ้งในถังขยะสีแดงสำหรับใส่ขยะติดเชื้อ
หรือวางแยกจากจุดทิ้งขยะทั่วไป
3.ล้างมือ - หลังจากตรวจเชื้อโควิดและทิ้งชุดตรวจลงถังขยะเรียบร้อยแล้ว
ให้รีบทำความสะอาดด้วยการล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทันที
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
เช็คที่นี่!!ลอยกระทงทั่วไทยใน “กทม-ภาคเหนือ-อีสาน”19พ.ย.64
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19
ยังคงระบาดอยู่นั้น รัฐบาลได้ประกาศพื้นที่ต่าง ๆ ในแต่ละจังหวัด สามารถจัดงาน “ประเพณีลอยกระทงปี
2564” ได้คืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน ภายใต้มาตรการที่กำหนด เพื่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัยอนามัย
ต้องทำ 2 แบบ
แบบที่
1 ลอยกระทงขนาดเล็ก จัดตามประเพณีของบุคคล ครอบครัว เพื่อนฝูง ตามมาตรฐานการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดหรือ
Universal Prevention และมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของกระทรวงสาธารณสุข
DMHTT
แบบที่
2 จัดเทศกาลขนาดใหญ่หรืออีเวนต์ จัดตามจังหวัดท่องเที่ยวหลัก ๆ จะต้องขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด
หรือ กรุงเทพมหานคร กทม. ผู้กำกับดูแลการจัดงานเพื่อความปลอดภัยด้านโรคติดต่อแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ
สำหรับพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถร่วมลอยกระทงในแต่ละภาคของประเทศ ได้แก่
พื้นที่แรก
“กรุงเทพมหานคร-ภาคกลาง” เตรียมจัดลอยกระทง 2 พื้นที่หลัก
ได้แก่
1.ใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด คลองโอ่งอ่าง
เขตสัมพันธวงศ์และเขตพระนคร และเปิดพื้นที่สวนสาธารณะให้ลอยกระทงได้
30 แห่ง ในวันที่ 19 พฤศจิกายน นี้
2.งาน Bangkok River Festival 2021
สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย จัดต่อเนื่อง 3 วัน ระหว่าง
17-19 พ.ย.นี้ บริเวณท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา
8 แห่ง ได้แก่ 1.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
2.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
3.วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
4.วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
5.วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
6.ท่ามหาราช เอเชียทีค 7.เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ 8.โซนสุขสยาม
ณ ไอคอนสยาม
พื้นที่
2 “ภาคเหนือ” กระจายจัดเมืองท่องเที่ยวหลัก
สุโขทัย ตาก เชียงใหม่ ลำพูน ได้แก่
“สุโขทัย” จัดระหว่าง
18-20 พฤศจิกายน นี้ ชวนไปร่วมงาน “ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ วิถีใหม่
จังหวัดสุโขทัย 2564 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” แต่นักท่องเที่ยวจะต้องลงทะเบียนก่อนเข้างาน ซึ่งจำกัดคนเข้าได้วันละ
15,000 คน โดยลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ - 16 พฤศจิกายน นี้ ทาง เว็บไซต์ http://www.sukhothai.online
หากไม่สะดวกก็สามารถลงทะเบียนทาง line ได้
“ตาก” ระหว่าง 18 - 19 พฤศจิกายน ร่วมงาน “ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป
1,000 ดวงประจำปี 2564” ณ ริมสายธารลานกระทงสายเชิงสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์
200 ปี อำเภอเมือง มีกิจกรรมให้ชม อาทิ ร่วมลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง วันละ
1 สาย ตรงเวทีกลางน้ำปิง ลานภูมิปัญญากระทงสาย
การจำหน่ายกระทงกะลา ณ ด้านเหนืออาคารกิตติคุณ พิธีขมาพระแม่คงคา ณ เวทีกลางน้ำ การแสดงสื่อผสม (มัลติมีเดีย) ณ
เวทีกลางน้ำ
“เชียงใหม่” จัดระหว่าง 19-20 พฤศจิกายน ร่วมสัมผัส "ประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ ปี
2564" ชมอลังการ โคมล้านนาสุดอลังการ บริเวณ 5 ประตูเมือง 4 แจ่ง
(เขตเมืองเก่า) ข่วงประตูท่าแพ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ สะพานเหล็ก (ขัวเหล็ก)สะพานนวรัฐ, สะพานนครพิงค์
นอกจากนั้นแล้วจะมีการทำโคมผัดล้านนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูงถึง 7.25 เมตร ,กิจกรรมต๋ามผางปะตี๊ด
ส่องฟ้าฮักษาเมือง และพิธีถวายผางประทีป ณ วัดพันเตา จัดแสดงรถกระทงใหญ่
7 จุดรอบเมือง
เปิดให้นักท่องเที่ยวจองผ่านทางแอปพลิเคชัน
หรือสแกน QR Code “ยี่เป็งเชียงใหม่ 2564 :
Yeepeng Chiang Mai Festival” เพื่อจองคิวล่วงหน้า โดยระบุวันที่และช่วงเวลาที่จะเข้าร่วมงานลอยกระทง
“ลำพูน” ระหว่าง 18-19 พฤศจิกายน จัดงาน “Lamphun River Festival” ณ
ลานหน้าวัดมหาวัน ริมคูเมือง ถนนรอบเมืองใน และข่วงพันปี มีไฮไลท์ 18 พฤศจิกายน การจุดเทียนถางประทีปตลาดแนวกำแพงเมือง
18.30 น.
พื้นที่
3 “ภาคอีสาน” มีการจัดงานประเพณีลอยกระทงไฮไลต์ใน
2 จังหวัด
ได้แก่
“นครราชสีมา” ระหว่าง
19-20 พฤศจิกายน
จัด “ประเพณีลอยกระทง พระประทีป พระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี งานลอยกระทง โคมไฟ ปี 2564 @ บึงหัวทะเล”
วันที่ 19 พฤศจิกายน จะมีพิธีเชิญพระประทีปพระราชทาน
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ลอยเป็นปฐมฤกษ์ และมีการแสดงนาฏศิลป์ เทิดพระเกียรติ การประกวดนางนพมาศ
การประกวดกระทงจิ๋ว กระทงอนุรักษ์ธรรมชาติและการแสดงเวทีกลางน้ำ
ในชุดการแสดงม่านน้ำพุ ประกอบแสง สี เสียง
วันที่ 20 พฤศจิกายน ชมการแข่งขันพายเรืออีโปง การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน
การประกวดเทพบุตรเรืออีโปง การแสดงมหรสพจากศิลปินดัง
และมีการการแสดงม่านน้ำพุประกอบแสง สี เสียง ตลอดจนการจำหน่ายอาหาร สินค้า
พื้นเมือง และผลิตภัณฑ์โอท็อปมากมาย
สอบถามข้อมูลได้ที่ กองการศึกษา
ทศ.ตำบลหัวทะเล โทร. 044-925111
ต่อ 204 หรือ เพจ fb : ททท.สนง.นครราชสีมา โทร. 044-213666 หรือ
1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย
“บุรีรัมย์” ระวหว่าง
18-19 พฤศจิกายน จัดยิ่งใหญ่งาน “
บารายศรัทธา สมมาสายน้ำ ปราสาทเมืองต่ำ น้อมนำบูชา” ณ ปราสาทเมืองต่ำ
อำเภอประโคนชัย ชมจัดกิจกรรมแสดง แสง สี เสียง ด้านหน้าปราสาทเมืองต่ำ
ขบวนแห่ทางวัฒนธรรม บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พิธีสมมาน้ำ ทักษิณาวัตรเพื่อขอขมาสายน้ำทั้ง
4 ทิศ อันเป็นประเพณีที่ทำสืบต่อกันมาอย่างยาวนานของชาวขุมชน
ข่าวที่สอง กต.เปิดคอลเซนเตอร์THAILAND PASSช่วยต่างชาติเที่ยวไทย
กระทรวงการต่างประเทศ (กต.)เปิดช่องทางการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าลงทะเบียนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากต่างประเทศไทยเข้าไทยหลังเปิดประเทศ
ในระบบ THAILAND PASS สามารถติดต่อผ่านทาง Call Center ได้ตลอด 24
ชั่วโมง
ที่เบอร์หลัดดังนี้ 02-572-8442 , 065-205-4247 , 065-205-4248 , 065-205-4249
หรือผ่านทาง
E-mail ซึ่งจะเปิดให้เฉพาะการแจ้งปัญหาขัดข้องในการลงทะเบียน ได้ที่ support@tp.consular.go.th
กรณีพำนักในต่างประเทศ
สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในประเทศที่นักเดินทางพำนักอยู่
ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น