ททท.ลุยขายเที่ยว“กระบี่”ตีปีกรับแอร์ไลน์ข้ามทวีปแห่บินเริ่ม 1 ธ.ค.64ถึงปี65
“ฟินแอร์-ทุยนอร์ดิก”นำทัพสแกนเที่ยวกระบี่-ในประเทศบินแล้วกว่า175ไฟลต์
คิงเพาเวอร์”เปิดแล้ว!!สมัครรับสนามบินฟุตบอลหญ้าเทียมปีที่5วันนี้-15ม.ค.65
“คิงเพาเวอร์”คัดTHE POWER BAND2564เฟ้นหาแชมป์เยาชนวงเก่ง27พ.ย.นี้
ททท.พังงาจัดกระหึ่ม Phangnga Festival 2021กิจกรรมเพียบ9-11ธ.ค.64
บางจาก”ประกาศตั้งเป้าชัดปี’93ก้าวสู่ผู้นำสร้างรายได้พลังงานสะอาด
70%
TCEBชวนประกวดภาพ&วิดีโอแชะแชร์10ไมซ์ซิตี้สร้างสรรค์ชิงรางวัล2แสน
เที่ยวหอโหวต101ร้อยเอ็ดUnseen New Seriesรับ4ของขวัญข้ามปี64-65
วิธีรับมือ“Food Coma”กับคนที่หนังท้องตึงหนังตาหย่อนทุกครั้งหลังกินอิ่ม
บขส.ผนึกสมาคมโรงแรมไทยจัดโปรแรงใช้หางตั๋วลดสูงสุด50%ถึง30ก.ย.65
“มีเลียสมุย”จัดแพกเกจสุดอลังการรับลูกค้าคริสมาสต์24-25/ปีใหม่31ธ.ค.64
วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน 2564 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์”
เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT
#ทททกระบี่ #KrabiEvenMoreAmazing
#ThePowerBand2021 #PhangngaFestival2021
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://m.facebook.com/story.
อุทิศ ลิ่มสกุล
ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกระบี่
ช่วงที่
1 เปิดเกมลุยท่องเที่ยวกับ
“อุทิศ ลิ่มสกุล” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่
หลังได้อานิสง ครม.สัญจรโปรโมตทั้งท่องเที่ยว การลงทุน Unseen New Series พฤศจิกายนี้แอร์ไลน์สทั่วไทยแห่บินกระบี่
175
เที่ยว ข่าวดี!! “ต่างชาติ”
ขานรับ “Krabi
Even More” 1 ธ.ค.
“สายการบินฟินแอร์” นำนักท่องเที่ยวสแกนดิเนเวียปักหลักพักผ่อนยาว
ตามด้วยเที่ยวบินพิเศษตลอดหน้าหนาว TUI NORDIC และ ซิลแอร์
สิงคโปร์ กลุ่มโรงแรมตีปีกรับเปิดบริการแล้วกว่า 60% ธุรกิจสมัครรับตราสัญลักษณ์
SHA, SHA Plus
นับพันแห่ง สนามบินลุยลงทุนรับชั่วโมงเร่งด่วนเพิ่มเท่าตัว เป็น3,000
คน/ชม. และตั้งเป้าดึงคนเข้าพักทะลุเกิน “คนไทย” เตรียมเฮ “อ่าวมาหยา” เปิด 1 ม.ค.65 และเราเที่ยวด้วยกันเฟส
3
แรงไม่หยุด
นายอุทิศ
ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ เปิดเผยว่า
การวางแผนขับเคลื่อนตลาดท่องเที่ยวที่ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ประชุมสัญจรเพื่อตออกให้เห็นถึง “กระบี่”
มีความพร้อมจะเปิดการท่องเที่ยวต้อนรับคนไทยและทั่วโลก
สถานการณ์เริ่มตั้งแต่เปิดประเทศและช่วง ครม.สัญจรทให้การจองห้องพักหนาแน่นกับการท่องเที่ยวกระบี่คึกคัก
โดยเฉพาะเดือนพฤศจิกายน 2564
เป็นต้นไป
มี “เที่ยวบิน” ภายในประเทศ จากกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ตรงสู่กระบี่
รวมตลอดทั้งเดือนมีทั้งหมด 175 เที่ยวบิน
ในไตรมาส 4 ปี 2564 รัฐบาลมีโครงการ
“เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3”
ในส่วนของซัพพลายคือกลุ่มผู้ประกอบการกลับมาเปิดบริการ ประกอบด้วย 1.โรงแรม/ห้องพัก
จังหวัดกระบี่มีรวมกันประมาณ 22,600 ห้อง ทยอยเปิดบริการใหม่อีกครั้งแล้วเกือบ 60% 2.การบริหารจัดการด้านมาตรการความปลอดภัยภายในจังหวัด
รณรงค์ให้เข้ามาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยตราสัญลักษณ์ SHA ผ่าน 1,027 แห่ง, SHA PLUS ได้รับวัคซ๊นเกิน
70 % มีกว่า
500 แห่งซึ่งทำควบคู่กับการนำเสนอขายแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์
เกาะท่องเที่ยว วิถีชุมชน ธรรมชาติ ซึ่งทุกส่วนกลับมาสวยงาม มากกว่าเดิม
ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม
2564 กระบี่
มีข่าวดีจาก “ฟินแอร์” สายการบินข้ามทวีปนำนักท่องเที่ยวจากตลาดสแกนดิเนเวียเดินทางมากระบี่
เบื้องต้นจะบินสู่กระบี่รวม 20 เที่ยวบิน ทุกวันพุธ พฤหัสบดี เที่ยวบินปฐมฤกษ์
จะมาถึง 18.55
น.นำนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักกลับมาอีกครั้ง หลังจากหยุดชะงักไประยะหนึ่ง
รวมทั้งจะมีสายการบินอื่น ๆ ทยอยบินสู่ภูเก็ต ได้แก่ “TUI NORDIC” กำลังเจรจาบินสู่กระบี่ช่วงกลางเดือนธันวาคม 2564 เป็นต้นไป และมีสายการบินซิลแอร์ (SK ) บินตรงสู่กระบี่อีกรายช่วงตารางบินฤดูหนาวปลายปีนี้เป็นต้นไป
ขณะที่
“สายการบินในประเทศ” ปัจจุบันเดือนพฤศจิกายน 2564 ยังคงมีอยู่ 4 แอร์ไลน์ส
ได้แก่ ไทยสมายล์ ไทยแอร์เอเชีย ไทยเวียดเจ็ท ไทยไลออนแอร์ รวม 175
เที่ยว/เดือน
ส่วนการเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวกลับเข้าสู่กระบี่ ได้จัดทำ
โครงการ ที่ 1 จัดทำธีมโฆษณาประชาสัมพันธ์โครงการเสนอขายท่องเที่ยวใน “ตลาดต่างประเทศ” ได้โปรโมตการท่องเที่ยวใหม่ภายใต้ธีม “Krabi Even More Amazing :กระบี่ อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” ส่วน “ตลาดในประเทศ” นำเสนอในธีม “กระบี่ดีกว่าเดิม” เน้นความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Series คือ “คลองน้ำใส-คลองหรูด” เป็น 1 ใน 25 ของเมืองไทย
โครงการที่
2
แหล่งท่องเที่ยวชายหาดต่างๆ ได้ปรับปรุง ตามที่นายวราวุธ
ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกรทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม สื่อสารออกไปแล้วถึงว่า
วันที่ 1 มกราคม
2565 จะเปิดการท่องเที่ยว
“อ่าวมาหยา” อีกครั้ง หลังจากปิดบริการชั่วคราวไปตั้งแต่โควิดระบาด
ระหว่างนั้นได้อนุรักษ์ฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมาสวยงามยิ่งกว่าเดิม
เมื่อเปิดการท่องเที่ยว
“อ่าวมาหยา วิถีใหม่” ตั้งแต่ต้นปี 2565 จะมีรายละเอียดพิเศษเพิ่มเติมที่นักท่องเที่ยวจะต้องเรียนรู้ด้วย
หลัก ๆ คือ 1.ทางอุทยานจะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ได้ครั้งละไม่เกิน
300 คนต่อ 2 ชั่วโมง
เพื่อทำกิจกรรมในอ่าวมาหยา 2.การเข้าถึงผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวจะต้องนำเรือไปจอดบริเวณหน้าอ่าวเพียงจุดเดียว
เพื่อป้องกันผลกระทบต่อธรรมชาติสิ่งแวดล้อมที่กลับมาสมบูรณ์สวยงาม
ผอ.อุทิศ กล่าวว่า ช่วง ครม.สัญจรได้ประกาศพัฒนาการลงทุนโลจิสติกส์เพื่อเสริมศักยภาพการเดินทางเข้าถึงกระบี่ได้อย่างสะดวกมากขึ้น ประกอบด้วย “สนามบินนานาชาติกระบี่” รัฐบาลจะเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารเมื่อแล้วเสร็จจะรองรับผู้โดยสารปีละ 8 ล้านคน หรือรับพร้อมกันได้ครั้งละ 3,000 คน/ชั่วโมงเร่งด่วน มากกว่าปัจจุบันรับได้ 1,500 คน/ชั่วโมง และรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่โบอิ้ง 747 จากตลาดระยะไกลข้ามทวีปได้
“ท่าเรือท่องเที่ยว”
เดินทางจากบนฝั่งกระบี่ไปยังเกาะต่าง ๆ
ในอันดามัน ทางจังหวัดและหน่วยงานเกี่ยวข้องเน้นเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ได้แก่
ท่าเทียบเรือ 1.ท่าเทียบเรือคลองจิราด
ในอำเภอเมือง อยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)กระบี่ 2.ท่าเทียบเรืออุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา
บริการเดินทางไปยังเกาะพีพี และอีก 4 เกาะยอดนิยม คือ เกาะปอดะ เกาะห้อง
เกาะพีพีเล็ก/ใหญ่ 3.ท่าเทียบเรือศาลาด่าน
กำลังปรับปรุงอยู่ที่เกาะลันตา ทางจังหวัดพยายามเร่งให้แล้วเสร็จ
เพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปยัง เกาะไหง
เกาะพีพี ได้
แนวโน้มปลายปี 2564 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปกระจายรายได้สู่จังหวัดกระบี่ โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากต่างประเทศ และคนไทย เพราะมาตรการต่างๆ เอื้อการเดินทาง โดยเฉพาะ “ตลาดต่างประเทศ” มีสัญญาณที่ดีจากสายการบินต่างประเทศข้ามทวีปเจรจาขอบินตรง ทั้งฟินแอร์ และ TUI รวมทั้งซิลแอร์ (SK) สิงคโปร์
ส่วน
“ตลาดในประเทศ” ยังได้อานิสงต่อเนื่องจากโครงการรัฐบาล “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3”
กระบี่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คนไทยและต่างชาติพำนักในไทย (Expat)
กำลังซื้อตอบรับดีติดอันดับ 4 ของประเทศ
รวมทั้งยัง ททท.กระบี่ ยังมีโครงการกระตุ้นภายใต้ธีม “Krabi Even More Amazing” สร้างการรับรู้ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในไทยได้เข้าใจถึงเส้นทางและแหล่งท่องเที่ยว และสร้างการรับรู้สถานที่พัก ประเภทกิจกรรมที่ผ่านมาตรฐาน SHA, SHA PLUS แล้วยังนำเสนอเรื่อง อีเวนต์ทางการตลาด เทศกาลสำคัญ ได้แก่ คริสต์มาส และเคาน์ดาวน์ กำลังพิจารณาจัดกิจกรรมสร้างบรรยากาศท่องเที่ยวกลับมาให้คนได้สัมผัสความสวยงามและผ่อนคลายตลอดการพักผ่อนช่วงปีใหม่
เป้าหมายรายได้
ให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ภาพรวมของจังหวัดกระบี่ ต้องมีอัตรารเข้าพักเฉลี่ย (OR :Occupacy Rate)
ไม่ต่ำกว่า 70 % รวมทั้ง
ททท.ขอให้กำลังใจภาคธุรกิจต้อง “รุกให้เร็ว ก้าวให้ไว”
เพื่อพร้อมรับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและนานาชาติ ทางด้าน “นักท่องเที่ยว”
ที่กำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยว และสถานที่เคาน์ดาวน์
ขอให้พิจารณาเลือกจุดหมายปลายมาเที่ยวกระบี่เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์”เปิดแล้ว!!สมัครรับสนามบินฟุตบอลหญ้าเทียมปีที่5วันนี้-15ม.ค.65
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ เปิดรับสมัครแล้วใน โครงการ 100 สนามฟุตบอล
สร้างพลังเยาวชนไทย กลับมาอีกครั้ง!
คิง
เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย
ขอเชิญชวนโรงเรียนและชุมชนจากทั่วประเทศที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาเยาวชนและชุมชนด้านกีฬาฟุตบอล
ยื่นขอรับการสนับสนุนก่อสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมมาตรฐานระดับสากล ในโครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย ปีที่ 5 ได้ตั้งแต่วันนี้
- 15 มกราคม 2565
โดยมีคุณสมบัติดังนี้ :
1.โรงเรียนหรือชุมชนที่ขอรับสนับสนุนจะต้องมีพื้นที่เพียงพอในการสร้างสนามฟุตบอลขนาด 7 คนเล่น (พื้นที่อย่างน้อย 35 x 55 เมตร)
2.สามารถจัดหาทีมงานในการบริหารจัดการและดูแลสนามฟุตบอลในระยะยาว
3.กรณีขอสนับสนุนในนามชุมชนจะต้องมีประชากรในชุมชนไม่น้อยกว่า 500 คน
4.กรณีขอสนับสนุนในนามชุมชนโรงเรียนจะต้องมีนักเรียนไม่น้อยกว่า 500 คน
5.สมัครเข้าร่วมโครงการได้ทั้งในนามสถานศึกษาของรัฐบาล หรือชุมชน
สมัครได้ที่ www.kingpowerthaipower.com/100football เพียงคลิกที่
“ลงทะเบียนร่วมโครงการ” อ่าน “กติกาและเงื่อนไข” ให้ละเอียดตามที่ระบุไว้
. จากนั้นกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน พร้อมแนบเอกสารนำเสนอวิสัยทัศน์พร้อมเหตุผลความต้องการสนามฟุตบอล โดยส่งรูปภาพโรงเรียนหรือชุมชน พร้อมรูปภาพพื้นที่ในการก่อสร้างสนามฟุตบอล
ห้ามลืม
!!
แนบไฟล์เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาก่อนยืนยันข้อมูลทางเว็บไซต์ ทำเป็นไฟล์ word
/ pdf หรือ เพาเวอร์พอยต์ ขนาด 10 MB ไม่เกิน 3 ไฟล์ และไฟล์รูปภาพ JPG ภาพละ 2 MB ไม่เกิน 10 ภาพ เท่านั้น
ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์”คัดTHE POWER BAND2564หาแชมป์เยาชนวงเก่ง27พ.ย.นี้
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ จัดเต็ม “เต๋า-“ ตลุยรายการ “MUSIC SCHOOL” ภายใต้ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์” การประกวด The POWER BAND
2564 -วงดนตรีสากลสมัยนิยมผสมเครื่องเป่า”
หลังจากต้องห่างหายไปนานถึง 8 เดือน ตอนนี้เฟ้นหาเยาวชนคนเก่งจากโรงเรียนต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพน และทั่วประเทศกว่า จ โรงเรียน
d;jk10 วงเด่น นัดพบกันยังสถานที่จัดประกวด ณ วิทยาลับดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 จัดใหญ่ “รอบชิงชนะเลิศ”หาแชมป์ The POWER BAND 2564 -วงดนตรีสากลสมัยนิยมผสมเครื่องเป่า” ให้กำลังใจน้อง ๆ กันได้ตลอดงาน นอกจากการประกวดแล้ว ยังมีโชว์พิเศษจาก INK WARNTORN SEASON FIVE สามารถติดตามได้ทาง Facebook , youtube
ตลอดการจัดแข่งขันปีนี้ ทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้นำรูปแบบใหม่เข้ามาใช้ 1.นำแต่ละวงเข้ามาแสดงบันทึกภาพ บันทึกเสียงไว้ แล้วจัดส่งให้คณะกรรมการตัดสิน ตัวอย่าง แต่ละวงดังนี้
1.The Bugle Band โรงเรียนดุริยางค์ทหารบก กรุงเทพฯ เยาวชนมีความฝันที่อยากออกมาหาประสบการณ์ใหม่
2.RO.Mens โรงเรียนวัดราชโอรส เคยขึ้นแข่งขันหลายครั้ง แต่คิดว่าเวทีนี้ดีที่สุดแล้ว
มีความพร้อมนำเสนอความสามารถเต็มร้อย
3.DSR Band โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า กรุงเทพฯ
ตั้งตารอการแข่งขันมานานหลังจากต้องเลื่อนมาเรื่อย ๆ ตอนได้ประกวดจริงก็ตื่นเต้น
4.KLW Band โรงเรียนกันทรลักษ์วิทยา ศรีสะเกษ เด็ก ๆ
บอกว่าอุปสรรคตอนซ้อมท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดจึงซ้อมไม่ค่อยได้
เมื่อมาถึงวันนี้ก็ต้องขอบคุณ คิง เพาเวอร์ และมหาวิทยาลัยมหิดล
ที่ให้โอกาสเด็กบ้านนอกอย่างพวกผมได้มาสานฝัน ได้แสดงฝีมือ
5.I Love
Wednesday Gen.1 โรงเรียนโยธินบูรณะ มาพร้อมกับความฝันทุกจินตนาการ
เป็นวงแรฟที่ฝึกมาได้สองสัปดาห์ นำเสนอเพลง “รางวัลแด่คนช่างฝัน”
เมื่อขึ้นเวทีประกวดเสร็จก็รู้สึกตื่นเต้น สนุก ขอแค่ติด 1 ใน
3 ก็ดีใจแล้ว
6.Horwang Music
Academy โรงเรียนหอวัง กรุงเทพฯ พบอุปสรรคส่วนใหญ่เรื่องเวลา
และบางคนมาจากต่างจังหวัด และดีใจที่ไม่ได้ยกเลิกการประกวด
เพราะทุกคนในวงฝึกซ้อมมานาน
7.Last Day
Morning โรงเรียนหอวัง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นวงที่มีจุดเด่น “ระนาดลอยได้”
8.Sixth Floor โรงเรียนเทพศิรินทร์ กรุงเทพฯ นำชื่อห้องซ้อมชั้น 6 มาเป็นชื่อวงดนตรีที่เข้าร่วมประกวด
มีการฝึกซ้อมพร้อมจิกหน้ากล้อง วงเราอาจจะไม่เก่งที่สุด
แต่เราสามารถส่งพลังใจได้มากที่สุด
9.ASAP โรงเรียนเตรียมอุดมดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
จังหวัดนครปฐม ขอฝากเสียงเชียร์กันเยอะ ๆ
10.Pham โรงเรียนบดินเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 2 กรุงเทพฯ
ใช้เวลาซ้อมวงกันปกติจะ 2 เดือน แต่ปีนี้ซ้อมเพียง 5 วัน
11. วง 518 Team Project โรงเรียนราชประชาสมาสัย
ฝ่ายมัธยม รัชดาภิเษก ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีความพร้อมมาก
ทีเด็ดคือการร้องประสานเสียงของวง แต่ละคนตื่นเต้นเมื่อได้ขึ้นเวที และรู้สึกดีที่ได้มีประสบการณ์ใหม่
ๆ
12.นัด 9 มา 10 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร
(ฝ่ายมัธยม) กรุงเทพฯ มาพร้อมสโลแกนซาวย์เช็คเสร็จก่อนกินข้าวก่อน
ทุกคนในวงทำเต็มที่ อ้อนคณะกรรมการตัดสินเอ็นดูพวกเราด้วย
13.โนบิร็อง โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา ชลบุรี ฝึกซ้อมมาแค่ 5 วัน
14.กุลสตรี โรงเรียนอุกูลนารี จังหวัดกาฬสินธุ์ เด็ก ๆ
พูดด้วยสำเนียงถึงตอนแรกที่เห็นเวทีป๊าดตกใจมันใหญ่กว่า “เสียงอีสาน” เยอะบ่อนี่
ต้องเฮ็ดให้ดีที่สุด เพราะเรานั้นสายสนุก เรามันสายสนุก มันม่วนอยู่แล้ว
15.ลลิต โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย จังหวัดราชบุรี พอรู้ว่าจะมีประกวด Power
Band ตื่นเต้น เพราะเป็นเวทีใหญ่ เครื่องมือหลายตัว
กล้องเยอะหลายตัว
16.อบจ.Studio โรงเรียน
องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร จุดเด่นของเด็ก ๆ มีพื้นฐานการร้องเพลงลูกทุ่งอยู่แล้ว
ถ้าอยากฟังก็อย่าลืมส่งแรงเชียร์แรงใจให้ด้วย
17.ลีลาวดีวงเด็ดวัด โรงเรียนอุทัยธรรมานุวัตรวิทยา จังหวัดอุทัยธานี
ก็มีความตื่นเต้นมากเหมือนอีกหลาย ๆ วง
อาจารย์นพดล
ถิรธราดล หรืออาจารย์หลง รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาชีพ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์
มหาวิทยาลัยมหิดล ความสำคัญของการจัดประกวดดนตรีเพิ่มศักยภาพของเยาวชน
ซึ่งดนตรีจะเปิดกว้างให้เด็ก กล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าทำ กล้าสร้างสรรค์
โดยได้เห็นถึงความแตกต่างของเด็ก ๆ
ที่มาเข้าร่วมการประกวดซึ่งการจัดครั้งนี้ต้องประชุมออนไลน์เยอะมาก ไป ๆ มา ๆ
เป็นเหมือนหุ้นส่วนกันเลย ที่จะบอกกับเด็ก ๆ ให้พยายามทำวง
ซ้อมออนไลน์หรือทำอะไรก็ได้ให้เต็มที่
ขณะที่เด็กเองก็บอกผมว่าอาจารย์ต้องจัดการประกวดครั้งนี้ให้ได้
จึงเหมือนพวกเราให้กำลังใจซึ่งกันและกัน แล้วก็มีเป้าหมายต้อง “ทำให้สำเร็จ” จริง
ๆ เป็นนิมิตหมายที่ดีมาก ๆ ของ คิง เพาเวอร์ กับมหาวิทยาลัยมหดิล
ได้ทำโครงการนี้ร่วมกัน
สำหรับการจัดประกวดครั้งนี้
ทางผู้จัดคือ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กับโดยมีมาตรการป้องกันโรคระบาดโควิด-19
ตรวจหาเชื้อทุกคนที่เข้าร่วมประกวดเมื่อผ่านแล้วจึงอนุญาตให้เข้าไปในงาน เป็นการจัดที่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยทุกขั้นตอน
ข่าวที่ 3 ททท.พังงาจัดกระหึ่ม Phangnga Festival 2021กิจกรรมเพียบ 9-11ธ.ค.64
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานพังงา เชิญชวนให้ทุกคนเตรียมตัวสนุกกันให้สุดกับงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวจังหวัดพังงา
Phangnga Festival 2021 ระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม 2564 ณ อนุสรณ์สถานสึนามิ เรือตรวจการณ์ 813 สามารถเดินทางสนุกให้เต็มที่กับกิจกรรมมากมาย
1.เพลิดเพลินกับคอนเสิร์ตตลอดทั้ง 3 วัน จากศิลปิน Getsunova,
Serious Bacon และ Mirrr
2.ห้ามพลาด!! ชมแฟชั่นโชว์แห่งเมือง Surf Town จาก Celebrity สุด Hot และหนุ่มสาวชาวเซิร์ฟ
ตื่นตากับการแสดงศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดพังงาที่ยิ่งใหญ่อลังการ
3.ร่วมเชียร์สาวงามแห่งอันดามันกับการประกวด
Miss Andaman Tourism 2021
4.รับฟังความรู้ดีๆ
กับงานเสวนา “พังงาเมืองสมุนไพร” จากหอการค้า จังหวัดพังงา
5.เกาะติดการสอนบริวกาแฟขั้นเทพ “ชงกาแฟบ้าน
ๆ ให้รสชาติอร่อยแบบเทพ” และชิมกาแฟจากฝีมือการชงของรองแชมป์โลก AeroPress
2019 พร้อมการเปิดตัวกาแฟแห่งเมืองพังงา “Signature Coffee
of Phangnga” รวมทั้งเพลิดเพลินกับเสวนาหัวข้อ “คาเฟ่แนวใหม่
สไตล์พังงา” โดยร้านกาแฟชื่อดัง
6.ช้อปและชิมสินค้าอัตลักษณ์
ของดีของจังหวัดพังงาที่ขนมาครบทั้ง 8 อำเภอ
จากสมาคมแม่บ้าน อบจ. พังงา เตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อม
แล้วมาซื้อสินค้าธงฟ้าราคาพิเศษจากพาณิชย์จังหวัดพังงา
7.เดินชิมจนพุงกางเติมความอิ่มอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มจากร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรมที่เข้าร่วมงานกว่า 100 บูธ
ข่าวที่ 4 “บางจาก”ประกาศตั้งเป้าชัดปี’93ก้าวสู่ผู้นำรายได้พลังงานสะอาด
70%
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ระหว่างจัดงานสัมมนาประจำปีครั้งที่ 11 หัวข้อ “Exponential Path to Net Zero” : ภายใต้แนวคิด “บางจาก 100x: 100 ไอเดียเพื่อโลกยั่งยืน” (Bangchak 100x – 100 Ideas for Sustainable World”) บางจากกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 38 จึงตั้งเป้าหมายการเป็นองค์กรยั่งยืน 100 ปี Bangchak 100x มุ่งให้ความสำคัญด้านการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับสังคมและสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าภายในปี 2593 หรือปี คศ.2050 จะขอเป็นผู้นำพลังงานสะอาดทำให้ได้ตามเป้าถึง 70 % จากปัจจุบันทำได้แล้วประมาณ 40 %
บางจากฯ ตั้งเป้าหมายเดินหน้าพัฒนาการผลิตเพื่อให้ก้าวสู่พลังงานสะอาด
ด้วยการกำหนดสัดส่วนรายได้ ปัจจุบันเข้าสู่ยุคสีเขียว 40% และยังเป็นฟอสซิล 60% ก้าวต่อไปได้มุ่งมั่นปรับปรุงคุณภาพ เช่น ปรุงปรุงโรงกลั่น ปลูกป่า
สถานีชาร์จ EV คาร์บอนเครดิต นับจากนี้ไปอีก 5 ปีหน้า บางจากพร้อมก้าวสู่การเป็นกลางทางคาร์บอนตามสัดส่วนรายได้ คือ “พลังงานสะอาดและฟอสซิล
50 : 50” ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งศึกษา
และหวังว่าเป้าที่มุ่งสู่ Net Zero ปี2050 จะมีสัดส่วนรายได้ที่เป็นพลังงานสะอาดที่ 70% เพื่อทำเป็นตัวอย่างสังคมสีเขียวให้ได้ตามเป้าหมายอนาคต
นายชัยวัฒน์ยืนยันว่าความสำคัญพลังงานจากฟอสซิลยังคงต้องมีอยู่ที่ว่าจะบริหารจัดการควบคู่กับการทำพลังงานไร้คาร์บอน ที่จะต้องทำการรับรองซื้อขายข้ามพรมแดนได้ หรืออาจจะกำหนดเรื่องอัตราจ่ายภาษี 2-5% เพื่อเป็นเงินทุนพัฒนาการเปลี่ยนผ่านพลังงาน รวมทั้งจะต้องมีสะพานเชื่อมที่สำคัญคือ คาร์บอน มาร์เก็ต คลับ ที่จะต้องจัดเตรียมไว้
ส่วนงานสัมมนาเมื่อเร็ว ๆ นี้ บางจากมุ่งนำเสนอข้อมูล ประโยชน์ต่อเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ สะท้อนมุมมองการเตรียมการในระดับประเทศ องค์กร และบุคคล ภายหลังการประชุม 2021 United Nations Climate Change Conference (COP26) ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในการลดคาร์บอน อย่างการทำกรีนคาร์บอน ไม่ใช่ทำเฉพาะการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างเดียวเท่านั้น หากจะเร่งให้ก๊าซเรือนกระจกลดลงไปสิ่งแรกที่อยากให้ทุกคนได้นึกถึงคือ การปลูกต้นไม้ สำคัญคือบ่อน้ำ ตาน้ำ การป่าชายเลน และการปลูกป่าริมทะเล เป็นการสร้างการสร้างอีโคซิสเต็มได้ดี
ข่าวที่
5 TCEBชวนประกวดภาพถ่าย&วิดีโอแชะ10ไมซ์ซิตี้สร้างสรรค์ชิง2แสน
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" เชิญชวนร่วมประกวดภาพถ่ายและวิดีโอ สถานที่จัดงานและการจัดงานในเมืองไมซ์ซิตี้ “แชะทั่วไทย 10 ไมซ์ซิตี้สร้างสรรค์” ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 200,000 บาท ผ่านแพลตฟอร์มการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ส่งเสริมการจัดงานใน 10 เมืองไมซ์
ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น เชียงใหม่ นครราชสีมา พัทยา พิษณุโลก ภูเก็ต สงขลา สุราษฎร์ธานี และอุดรธานี กระตุ้นการจัดงานและการเดินทางร่วมงานไมซ์ทั่วประเทศ หลังผ่อนคลายมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ขานรับกระแสการเดินทางปลายปีนี้
ทีเส็บพร้อมเปิดโอกาสให้ นักถ่ายภาพมืออาชีพและสมัครเล่น นักเรียน
นักศึกษา ประชาชนทั่วไป ผู้จัดงานและร่วมงานไมซ์ ผู้รักการเดินทาง
และผู้สนใจในการถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอ ประกวดได้ทุกกลุ่ม
การประกวดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ภาพถ่าย และวิดีโอ ที่เน้นนำเสนอสถานที่จัดงานไมซ์และการจัดงานไมซ์ ประกอบด้วยการประชุมสัมมนา การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล งานแสดงสินค้า และการจัดงานเชิงธุรกิจขนาดใหญ่ (เมกะอีเวนต์) โดยเป็นภาพถ่ายหรือวิดีโอที่สร้างสรรค์ในเมืองไมซ์ทั้ง 10 เมือง
สามารถส่งผลงานเข้าประกวดสามารถส่งภาพถ่ายและวิดีโอ ได้ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 – 3 มกราคม 2565 แบ่งรางวัลตามรายละเอียดดังนี้
1.ประเภทภาพถ่าย ลุ้นรับ 3 รางวัล คือ
-รางวัลที่ 1 รับเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตรจากทีเส็บ ตั๋วเครื่องบินไปกลับเส้นทางในประเทศจำนวน 2 ที่นั่ง
-รางวัลที่ 2 เงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตรจากทีเส็บ ตั๋วเครื่องบินไปกลับเส้นทางในประเทศจำนวน 1 ที่นั่ง
-รางวัลยอดนิยม (Popular vote) เงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตรจากทีเส็บ ตั๋วเครื่องบินไปกลับเส้นทางในประเทศจำนวน 1 ที่นั่ง
2.ประเภทวิดีโอ ลุ้นรับ ÷ รางวัลใหญ่
-รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตรจากทีเส็บ ตั๋วเครื่องบินไปกลับเส้นทางในประเทศจำนวน 2 ที่นั่ง
-รางวัลที่ 2 เงินรางวัล 25,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตรจากทีเส็บ ตั๋วเครื่องบินไปกลับเส้นทางในประเทศจำนวน 1 ที่นั่ง
-รางวัลยอดนิยม เงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตรจากทีเส็บ ตั๋วเครื่องบินไปกลับเส้นทางในประเทศจำนวน 1 ที่นั่ง
3.พิเศษรางวัล "ผู้เข้าร่วม" โหวตรางวัลยอดนิยม หรือ Popular vote แจก 1.ตั๋วเครื่องบินไปกลับในประเทศ 2 รางวัล และ 2.รางวัลบัตรสตาร์บัคมูลค่า 300 บาท 10 รางวัล
สามารถโหวตรางวัลยอดนิยมผ่านทาง Facebook: MICE in Thailand ได้ตั้งแต่ 4 มกราคม – 17 มกราคม 2565 แล้วรอทีเส็บจะประกาศผลการตัดสินอย่างเป็นทางการ 19 มกราคม 2565 ทาง Facebook: MICE in Thailand
ร่วมส่งผลงานเข้าประกวด และติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook: MICE in Thailand หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ info@tceb.or.th
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม ไปสัมผัส “หอโหวต
101 ร้อยเอ็ด” Unseen
New Series ปีใหม่นี้รับ 4 กล่องของขวัญ ยาวไปจนถึง 30 ก.ย.2565 แล้วมาดูว่า
“Food Coma” อาการหนังท้องตึงหนังตาหย่อน
จะรับมือด้วยวิธีไหนกัน ส่วนข่าวฮ็อตประจำสัปดาห์ ข่าวแรก “บขส.ผนึกโรงแรมไทย” แจกส่วนลดห้องพักปลายทางสูงสุด
50 % และ “โรงแรมมีเลีย
สมุย” ชิงจัดแพกเกจขายคริสต์มาส 24-25 และส่งเท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
31 ธ.ค.64 สุดอลังการ ราคาเริ่มต้นหลักพันบาทเท่านั้น
พาเที่ยว -เที่ยวหอโหวต101ร้อยเอ็ดUnseen New Seriesรับ4ของขวัญข้ามปี64-65
ใกล้ฤดูเดินทางส่งท้ายปี ทริปนี้จะมาชวนอีกครั้ง วางแผนทริปเที่ยวตั้งเข็มไมล์ไปยลโฉมใหม่การเปิดหอโหวต 101 จังหวัดร้อย ที่เพิ่งจะเปิดเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่สองของเดือนพฤศจิกายน 2564 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ประกาศให้เป็น 1 ใน 25 Unseen New Series ของเมืองไทย
ปี 2564 ททท.ได้คัดเลือก “หอโหวต” จุดขายใหม่ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กหอชมเมืองและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเกิดจากดีไซน์เป็นทรงโหวตซึ่งเป็นเครื่องดนตรีเป่าของวงดนตรีพื้นบ้านอีสานที่มีความโดดเด่นเป็นอัตลักษณ์งดงาม
“หอโหวต” จ.ร้อยเอ็ด เปิดให้บริการด้วยความมีสูง 101 เมตร เรียกว่า “ร้อยเอ็ด : ROIET TOWER” หรือหอโหวด 101 ตั้งอยู่ใจกลางเมือง หน้าบึงพลาญชัย
ททท.เตรียมจัดกิจกรรมกระตุ้นนักท่องเที่ยวปลายปี 2564 ด้วย 4 ของขวัญ ดังต่อไปนี้
1.เที่ยวเทศกาลต้อนรับปีใหม่ ททท.เตรียมแจกของที่ระลึกพรีเมี่ยม เป็นของขวัญปีใหม่ 2565 จำนวน 101 รางวัลให้แก่นักท่องเที่ยวที่จองห้องพัก 101 ห้องแรก ในโรงแรมที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยภายใต้ตราสัญลักษณ์ SHA เพื่อจองพักค้างคืนช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่หรือเคาน์ดาวน์
2.ททท. พร้อมแจกแจกของที่ระลึกพิเศษอีกเดือนละ 5 ชิ้น ให้แก่นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเยี่ยมชมหอโหวต 101 โดยจะใช้การสุ่มกลุ่มนักท่องเที่ยวจากผู้สแกนคิวอาร์โค้ด ขึ้นไปชมหอโหวต ระหว่างเดือนธันวาคม 2564 - กันยายน 2565 ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถติดตามรายชื่อผู้โชคดีและข้อมูลดังกล่าวได้จาก Page ททท.สำนักงานขอนแก่น
3. ททท.สำนักงานขอนแก่น ร่วมกับไทยแอร์ เอเชีย โลว์คอสต์แอร์ไลน์ส เปิดให้ผู้โดยสารร่วมสนุกใช้ตั๋วขึ้นเครื่องบินที่เดินทางมายังสนามบินร้อยเอ็ด แลกเป็นบัตรฟรีขึ้นชมหอโหวต 101 ระหว่างเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2565 นำไปแลกบัตรฟรีได้ ที่ ททท.และเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด
4.ททท.สนับสนุนจังหวัด และเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จัดกิจกรรมไฮไลต์ส่งท้ายปี
“ร้อยเอ็ดเคาท์ดาวน์ 2022” ตามแบบวิถีใหม่ New Normal
ดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่หลังโควิด-19
เมื่อวันที่
17 พฤศจิกายน 2564 ททท.ทำพิธีเปิดหอโหวต 101 อย่างเป็นทางการ
ร่วมกับพันธมิตร โดยมีผู้เข้าร่วมคือ นายสมชาย ชมภูน้อย
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ททท. นายภูสิต สมจิตต์
ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด
สุขภาพ
- วิธีรับมือ“Food Coma”คนที่หนังท้องตึงหนังตาหย่อนทุกครั้งหลังกินอิ่ม
“Food Coma” หรือ Carb Coma คืออาการง่วงหลังจากกินอิ่ม ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องผิดปกติทางกาย เพราะคนส่วนใหญ่พอกินข้าว หรือแป้งที่มีคาร์โบไอเดรตจำนวนมากเข้าไปจนอิ่ม ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบเรื่องทำงานได้ เพราะไม่ใช่เรื่องอิ่มอย่างเดียว แต่ยังง่วง ไม่มีสมาธิ ท้องอืด อึดอัด แน่นท้องจนทำงานไม่มีประสิทธิภาพ หรือถึงขั้นร้ายแรงอาจทำให้หลับในจนเกิดอุบัติเหตุได้
เพราะยิ่งกินอาหารมาก น้ำตาลยิ่งเข้าสู่กระแสเลือดได้มาก “ฮอร์โมนอินซูลิน” จึงผลิตออกมามากขึ้นด้วยเพื่อลดระดับน้ำตาลในร่างกายลง กระบวนการดังกล่าวจะไปขับให้ฮอร์โมนเซโรโทนินและเมลาโทนินออกมาด้วย ฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดนี้ จึงส่งผลให้เกิดความง่วง ผลก็คือร่างกายของเราต้องพักผ่อน ระบบต่าง ๆ ในร่างกายจึงทำงานช้าลง
ถ้าไม่อยากให้เกิดอาการ “Food Coma” แนะนำให้รับมือด้วยการลองทำวิธีดังต่อไปนี้
1. หากิจกรรมทำหลังกินข้าวเสร็จ เช่น เดินเล่น ไปคุยกับเพื่อนร่วมงาน สัก 10-15 นาที ก็จะช่วยลดหรือลิมความง่วงได้
2. เลือกกินอาหารที่มีความสมดุลระหว่างคาร์โบไฮเดรต ไขมันและโปรตีน เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดและการหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ
3. กินน้อยหรือกินคำเล็กๆ แล้วเคี้ยวช้าๆ กระเพาะจะได้ไม่ทำงานหนัก
4. นอนหลับให้เพียงพอในตอนกลางคืน ถ้าเพื่อนๆ พักผ่อนอย่างเพียงพอก็จะช่วยลดความง่วงหลังกินอิ่มไปได้
Food
Coma ส่งผลต่อการทำงานมากขนาดนั้น
ควรรู้ว่าอาหารชนิดใดเป็นต้นเหตุของ Food Coma ได้แก่ 1.ขนมปัง 2.อาหารน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม ของหวาน
3.อาหารที่มีแป้งเยอะ เช่น ข้าวขาว มันฝรั่ง อาหารประเภทเส้นชนิดต่าง
ๆ 5.ธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ตหรือกราโนล่า
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก บขส.ผนึกสมาคมโรงแรมไทยจัดโปรหางตั๋วลดสูงสุด50%ถึง30ก.ย.65
นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า จับมือกับสมาคมโรงแรมไทยและผู้ประกอบการโรงแรม
23 แห่ง ทำโปรโมชั่นผ่านโครงการ “แพ็กเกจส่วนลดโรงแรมที่พัก ปีที่ 3” เพื่อมอบสิทธิ์ส่วนลดค่าที่พักให้ลูกค้าที่ซื้อตั๋วรถ
บขส. รับส่วนลดเริ่มต้น 10% จนถึงสูงสุด 50% ระหว่างวันนี้ – 30 ก.ย. 2565 เพียงผู้โดยสารโชว์ตั๋วเดินทางของ
บขส.กับทางโรงแรมที่ร่วมรายการ โดยมีโรงแรมตามแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลหลายแห่งด้วย
เช่นกัน โรงแรมเฉลงน้อยพูลวิลล่า จ.สุราษฎร์ธานี โรงแรมอมารีหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
และโรงแรมสยามเบย์ชอร์ รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี เป็นต้น
วิธีใช้สิทธิ์ในโครงการ
“แพ็กเกจส่วนลดโรงแรงที่พัก ปีที่ 3” หลัก
ๆ ได้แก่ 1.จะต้องมีชื่อในตั๋วโดยสารตรงกับบัตรประชาชน
หรือหนังสือเดินทางที่ใช้จองห้องพัก โดยตั๋วโดยสาร 1 ใบ สามารถใช้กับที่พัก 1
ห้องเท่านั้น 2.สิทธิ์ส่วนลดไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเงินสดได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
งานการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์ 0-2537-8737 หรือ Call center 1490
เรียก บขส. ตลอด 24 ชั่วโมง
ทาง บขส.
พร้อมให้บริการด้วยรถโดยสาร ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA และจัดการเดินรถตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
จึงขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากอนามัย สแกนแอปพลิเคชันไทยชนะ
ก่อนและหลังใช้บริการ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
ข่าวที่สอง “มีเลียสมุย”จัดแพกเกจสุดอลังการรับคริสมาสต์24-25/ปีใหม่31ธ.ค.64
มีเลีย เกาะสมุยรีสอร์ทริมหาดเชิงมน จัดแพกเกจต้อนรับต้นเทศกาลแห่งความสุขด้วยพิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาสและการแสดงของคณะนักร้องประสานเสียงที่บริเวณโถงต้อนรับของ
มีเลีย เกาะสมุย วันที่ 17 ธันวาคม 2564
เพื่อเตรียมพร้อมส่งมอบความสุขและการบริการอาหารมื้อพิเศษแสนอร่อยฉลองวันคริสต์มาสอีฟและคริสต์มาส
ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ของตกแต่งในเทศกาลคริสต์มาส รับชมการแสดงดนตรีสด และการมาเยือนของซานต้าคลอสผู้ใจดีที่จะมาแจกของขวัญเด็กๆ
ทุกคน
คืนวันคริสต์มาสอีฟ 24 ธันวาคม 2564 เชฟ อาซิซส์ กานดาร์ อะวัง (Azizskandar
Awang) หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ เจ้าของรางวัลอันทรงเกียรติ Chef
Hotelier of the Year จาก The Hotelier Awards Asia และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมายได้ตระเตรียมอาหารมื้อพิเศษ 4 รายการในสไตล์อาหารตะวันตก เพื่อให้บริการกับทุกท่านที่พาวเวอร์ เลาจน์ (Power
Lounge) โดยอาหารค่ำมื้อพิเศษในคืนวันคริสต์มาสอีฟให้บริการตั้งแต่เวลา
19.00 น. ถึง 22.00 น. ราคาท่านละ 1,600++ บาท หรือท่านละ 3,000++ บาท
สำหรับการบริการอาหารพร้อมไวน์
วันคริสต์มาส (25 ธันวาคม 2564 เชฟ
อาซิซส์ กานดาร์
จะจัดบุฟเฟ่ต์มื้อสายเป็นพิเศษเพื่อให้บริการอาหารแสนอร่อยหลากหลายรายการเคล้าเสียงเพลงบรรเลงขับกล่อม
โดยมีอาหารแนะนำที่ทุก ๆ คนติดใจจากมุมอาหารทะเลประกอบไปด้วย ล๊อปสเตอร์
หอยนางรมนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ปูม้าสีน้ำเงินและกุ้งลายเสือสดใหม่
ส่วนมุมอาหารยุโรปให้บริการเนื้ออบประเภทต่าง ๆ อาทิ ขาแฮมอบน้ำผึ้ง
ไก่งวงอบพร้อมเครื่องเคียง สเต็กเนื้อริบอายจากประเทศออสเตรเลีย
เนื้อวัวคุณภาพสูงที่เลี้ยงด้วยหญ้าที่คัดสรรมาอย่างดี พอร์เชตต้าหรือหมูย่างอิตาเลียน
และขาแกะออสเตรเลียอบกระเทียมและโรสแมรี
นอกจากนี้ยังมีมุมอาหารญี่ปุ่นและมุมอาหารสเปน
รวมถึงหมูแฮมนำเข้าและชีสนานาชนิด ขนมหวานประจำเทศกาลที่ขาดไม่ได้
ได้แก่เค้กขอนไม้คริสต์มาส ขนมปังปาเน็ตโตเน พุดดิ้งคริสต์มาสและครีมบรั่นดี ครอก็องบุช
และอีกมากมาย พบกับคุณลุงซานต้าคลอสจะมามอบของขวัญให้กับเด็กๆ
บุฟเฟ่ต์มื้อสายวันคริสต์มาสให้บริการที่ห้องอาหาร เดอะ บรีซ่า บีช เรสเตอรอง แอนด์ บาร์ (The Breeza Beach Restaurant & Bar) ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 16.00 น. ราคาท่านละ 2,400++
บาท สำหรับเด็กอายุระหว่าง 5 - 12 ปี ราคาท่านละ 1,200++ บาท
คืนวันส่งท้ายปีเก่า 31 ธันวาคม 2564 มีเลีย เกาะสมุย
จัดกาล่าดินเนอร์ใต้แสงดาว ให้บริการอาหารนานาชาติหลากหลายรายการ
ทั้งอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน อาหารไทยท้องถิ่นที่คัดสรรมาอย่างดี
รวมไปถึงอาหารสเปนที่มี “ปาเอญ่า” ข้าวผัดสเปนสูตรพิเศษจากเชฟ อาซิซส์ กานดาร์
และทาปาส นอกจากนั้นยังมีอาหารทะเลสด ๆ จากท้องทะเลเกาะสมุยย่างแบบบาร์บีคิว อาทิ
กุ้งลายเสือ เนื้อปลากระพงห่อใบตอง กั้ง และปลาหมึก พาสต้าเส้นสด และอาหารแนะนำอีกมากมาย
อาทิ หมูอบ, ฮามอน อิเบอริโค ที่มาจากหมูดำ ปาตา เนกร้า (Pata
Negra), เนื้อแกะออสเตรเลียอบ และปลาแซลมอนอบ
เพลิดเพลินกับการแสดงดนตรีสด การแสดงบนเวที และ การแสดงระบำไฟอันตระการตา
บุฟเฟ่ต์คืนวันส่งท้ายปีเก่าให้บริการเวลา 19.30 น. ถึง 22.30 น.
ราคาท่านละ 2,990++ บาท สำหรับเด็กอายุระหว่าง 5 - 12 ปี ราคาคนละ 1,495++
บาท แล้วมาร่วมกันบอกลาปีเก่าและต้อนรับปีใหม่อย่างสนุกสนานที่ริมชายหาดกับดนตรีสด
เพลงมันส์ ๆ จากดีเจ
และการแสดงดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองเต็มรูปแบบ
ราคาทั้งหมดยังไม่รวมค่าบริการ
10% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% สอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่
077 938 899 หรืออีเมล breeza.kohsamui@melia.com
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น