ผู้นำ“สมาคมโรงแรมไทย”เร่งธุรกิจทั่วไทยติดอาวุธการขายรับเปิดประเทศ
แนะแบรนด์คนไทยปรับใหญ่3เรื่อง-ปี65อ้อนรัฐต่อ7มาตรการเงินกู้+ภาษี
ช้อปคิงเพาเวอร์SuperDealBeautyBuffet3กลุ่มแบรนด์ดัง5ชิ้นแค่1.2หมื่น
คิงเพาเวอร์จัดหนัก SUPER BONUS PRICEโฮมเดลิเวอรี่+นาฬิกาหรูลด30%
ททท.ดึงแรฟเปอร์จุดพลุซิงเกิล”เที่ยวกันเถอะเรา”ปลุกเที่ยวไทยคึกปลายปี’64
บางจากคว้า2รางวัลSetAwards2021-ลุยจัดสัมมนามนุษย์ไร้คาร์บอน18พ.ย.นี้
อีสานกระตุ้นไมซ์สร้างสรรค์เปิด3จุด4จว.“ขอนแก่น-โคราช-อุดร/หนองคาย”
เที่ยว“ถ้ำธารน้ำลอด” ชุมพรUnseen New Series เทียนเหมินซานเมืองไทย
“กต.”โชว์ทั่วโลกแห่ลงทะเบียนTHAILAND PASSจ่อเข้าไทยเฉียดแสนคนแล้ว
“กรมทางหลวง”ฟุ้งทุ่มลงทุนขยายถนนท่องเที่ยวใหม่เปิด4เลน
“พังงา-ระนอง”
“โชว์โลมาภูเก็ต”เพิ่มรอบแสดง“ทุกศุกร์”ลุยรับเปิดประเทศมีโปรเอาใจคนไทย
“โรงแรมอลอฟท์สุขุมวิท11อัดโปรแรงห้องพักเริ่ม1,121บาท/คืน/ห้องเท่านั้น
นายกสมาคมโรงแรมไทย
วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน 2564 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์”
เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT
#เปิดประเทศ #สมาคมโรงแรมไทย #VisitThailandYear2022 #AmazingNewChapter
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1756757991184918&id=100005522016696
ช่วงที่
1 เอกชนยิ้มรับการเปิดประเทศ
“มาริสา สุโกศล หนุนภักดี
นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA : THAI HOTELS ASSOCIATON )” ยันธุรกิจโรงแรมทั่วไทยเห็นแสงสว่างผ่านมุมมองมุมบวกหวังนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้าเป้าเดือนละ
3 แสนคน
ปีหน้าหวังลูกค้าต่างชาติ 6-10 ล้านคน ได้แรงส่ง
THAILAND PASS ทั่วกทม.ดันเพิ่มยอดวันพัก
แนะโรงแรมแบรนด์ไทยเร่งปรับกลยุทธ์ด่วน 3 เรื่อง
“จับคู่ขายร่วม OTA
ทั่วโลก-ผนึกเอเย่นต์อินเตอร์-เพิ่มช่องทางขายผ่านดิจิทัล”
พร้อมวอนขอรัฐขยายมาตรการปี’65 ช่วยเอกชนต่อ 7
เรื่อง “เงินกู้-เงินสมทบจ้างงาน-เทคโนโลยี-ภาษีสิ่งปลูกสร้าง-ค่าไฟฟ้า-ค่าลดหย่อน”
นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA : THAI HOTELS ASSOCIATON ) เปิดเผยว่า สถานการณ์เปิดประเทศส่งผลทำให้ธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศมีแสงสว่างทุกอย่างเคลื่อนไหวเร็วมากหลังจากรัฐบาลประกาศตั้งแต่แรก ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยได้เริ่มจาก 10 เป็น 46 และ ล่าสุด 63 ประเทศแล้ว เป็นกำลังใจและความหวังให้แก่ผู้ประกอบการโรงแรมสามารถเดินเครื่องได้ หลายธุรกิจน่าจะมองไปถึงปี 2565
วันแรก
1 พฤศจิกายน 2564
มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามารวมแล้วกว่า
2,400 คน
จองที่พักในโรงแรมในกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันในกรุงเทพฯ ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA
276 แห่ง
สัดส่วนการได้ส่วนแบ่งนักท่องเที่ยวอาจจะยังน้อยอยู่ แต่ตัวเลขน่าจะมากขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป
โดยนักท่องเที่ยวจะกระจายตัวไปยังพื้นที่หลัก คือ “กรุงเทพฯ”
เป็นจุดแวะพักของทุกประเทศ แต่ “วันพัก” ค่อนข้างสั้น 1-2 คืน/คน/ทริป จึงมุ่งหวังจะให้พักนานวันมากขึ้น
ส่วน “ภาคใต้” เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม “ภาคตะวันออก” พัทยาจะมีอินเดีย รัสเซีย
เป็นจำนวนมาก ส่วน นักท่องเที่ยวจีนอาจจะยังต้องรอ
นักท่องเที่ยวระยะเริ่มต้นเดินทางมาตามนโยบายเปิดประเทศ
ในกรุงเทพฯ กลุ่มหลัก ๆ น่าจะเป็น “นักธุรกิจ/นักลงทุน”
เช่นเที่ยวบินแรกที่มายังสุวรรณภูมิส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจญี่ปุ่นจำนวนมาก ส่วน
“ภาคเหนือ” เริ่มมีสายการบินตรงจาก “สาธารณรัฐเกาหลี” เตรียมบินเข้าไปค่อนข้างมาก
จึงต้องการจะให้กระจายจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ไปพื้นที่อื่นบ้าง
หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวที่แวะพัก “กรุงเทพฯ” เพียงคืนเดียวอาจจะไปต่อภาคเหนือได้
ส่วนการกระตุ้นตลาดต่างประเทศเข้ามายังกรุงเทพฯ หลังเปิดประเทศ ทางสมาคมโรงแรมไทย ประเมินจาก “ปริมาณนักท่องเที่ยวต่างประเทศ” ที่เคยเดินทางมายังกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเดินทางเข้ามาซ้ำ (return) ประมาณ 70-80 % จึงรู้จัก “โรงแรม” แต่ละแห่งเป็นอย่างดี หลายโรงแรมค่อนข้างตื่นตัวทำการตลาดเชิงรุก แต่ก่อนจะเดินทางเข้ามา นักท่องเที่ยวทั่วโลกจะต้องทำเอกสารผ่าน THAILAND PASS ตามที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยอำนวยความสะดวกให้ เพียงแต่จะต้องพัฒนาระบบบริการให้ได้คล่องแคล่วรวดเร็วมากขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวผ่านสนามบินไปยังจุดหมายปลายทางได้ดี รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากรองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หมุนเวียนกันมาให้ข้อมูลอัพเดทสถานการณ์แก่ผู้ประกอบการผ่านสมาคมโรงแรมไทยอย่างต่อเนื่อง
สมาคมโรงแรมไทยได้ประเมินสถานการณ์อัตราเข้าพักเฉลี่ยหลังเปิดประเทศไปในทิศทางเดียวกันกับ
ททท.ซึ่งตั้งเป้าหมายจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเฉลี่ยเดือนละ 300,000
คน
แต่ตอนนี้อัตราบรรทุกผู้โดยสารวันแรกก็มีมากกว่า 2,000 คน/วัน แต่ละเดือนก็น่าจะทำตัวเลขได้ถึงเป้าหมาย
ในกรุงเทพฯ น่าจะทำยอดได้มากกว่าภูเก็ตหลายเท่า เป็นเพราะ “ไม่ได้กักตัวแล้ว” เพียงแต่ให้รออยู่ในโรงแรมเพียง
1 คืน
เพื่อรอผลตรวจหาเชื้อโควิด-19
เท่านั้น
มอง “ตลาดเอเชีย” ไม่รวมจีนจะสามารถทยอยกลับมาใกล้เคียงกับตลาดยุโรป แต่ความถี่กับจำนวนนักท่องเที่ยวน่าจะทำยอดได้มากกว่า เพราะหลายประเทศมาแล้วกลับไปไม่โดนกักตัว ไม่ว่าจะเป็น เกาหลี อินเดีย ตามการประเมินของ ททท.ปี 2565 จะมีต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทยเกินกว่า 10 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของสถานการณ์ปกติปี 2562 หรือสถาบันวิจัยบางแห่งประเมินจะมีเพียงกว่า 6 ล้านคน ดังนั้นทางสมาคมโรงแรมไทยยังไม่กล้าประเมินจะขอดูสถานการณ์อีกสักระยะ แนวโน้มไตรมาส 1 ปี 2565 จะเพิ่มเชิงบวกที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
“โอกาสและจังหวะการได้ธุรกิจ”
ระหว่าง “โรงแรมเชนสากล” ที่มีเครือข่ายขนาดใหญ่ กับ
“โรงแรมแบรนด์คนไทยระดับประเทศ” ก็มีความได้เปรียบแตกต่างกัน คือ
“โรงแรมเชนอินเตอร์” จะมีจุดแข็งที่ได้เปรียบชัดเจน 3 เรื่อง คือ
1.
“ช่องทางการขาย” และวิสัยทัศน์แข็งแกร่งมาก เชื่อมโยงกับเครือข่ายเชนต่างประเทศ
รวมทั้งมีแบรนด์ คอมมิชชั่น 2.ได้อานิสงจากลูกค้าที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์
(Loyalty member) ตัวอย่าง เชน
แมริออต
3.ช่องทางการประชาสัมพันธ์หลากหลายกว่า
ส่วนโรงแรมแบรนด์คนไทยต้องอาศัยความพยายามทำงานอย่างหนัก 3 เรื่อง 1.จับมือกับพันธมิตรกลุ่ม “ผู้ประกอบการท่องเที่ยวออนไลน์ หรือ OTA :Online Travel Agents” ช่วยอีกทางในการกระจายเครือข่ายหาลูกค้าในต่างประเทศแต่ละตลาด 2.จับคู่ทำการตลาดร่วมกับบริษัทตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยว Travel Agents ซึ่งอยู่ในตลาดมานานมีคู่ค้าจำนวนมากหันมาช่วยกันขาย 3.แต่ละโรงแรมจะต้องพัฒนาช่องทางการขายทางตรงของตนเองด้วยการขายออนไลน์หรือดิจิทัล เพราะเป็นโรงแรมขนาดเล็กกว่าเชนใหญ่ ๆ
รวมถึง “โรงแรมคนไทย” ส่วนใหญ่ก็พึ่งพารายได้จาก “ตลาดในประเทศ” อยู่แล้ว ก็จะต้องรักษาลูกค้ากลุ่มนี้ไว้ให้มากที่สุด โดยเฉพาะปลายปี 2564 รัฐบาลสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศผ่านโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งตอนนี้ถือว่าดีที่สุด ผลตอบรับในการกระจายนักท่องเที่ยวเข้าพักโรงแรมสมาชิกของสมาคมโรงแรมไทย ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาช่วงวันหยุดยาว ยอดพักค่อนข้างหนาแน่น คนไทยกระจายไปยังภาคกลาง ภาคเหนือ
การสนับสนุนค่าใช้จ่ายห้องพักในโครงการเราเที่ยวด้วยกันจากภาครัฐจ่ายสมทบให้ 40 % ถือเป็นอินเซ็นทีพที่ได้ผลดีทั้งกับธุรกิจโรงแรมและนักท่องเที่ยว กระตุ้นคนเดินทางในประเทศได้อย่างดีเยี่ยม
โดยเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ
ส่งผลดีต่อยอดจองพักโรงแรม จาก 3 ปัจจัยหลัก
ได้แก่ 1.หลังจากเปิดโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส
3 ทำให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางไปยังพื้นที่
เขาใหญ่ อัตราการจองเกินกว่า 40 % ปริมาณจราจรเริ่มติดแล้ว
และอีกหลายแห่งก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ 2.มีวันหยุดยาวและเทศกาลหยุดปลายปีพฤศจิกายน-ธันวาคม
นี้ 3.นโยบายปลดล็อกตลาดประชุม
สัมมนา จะเป็นแรงส่งทำให้การจองห้องพักโรงแรมดีขึ้นตามไปด้วย
และขอบคุณสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB ที่มีแพกเกจสนับสนุนงบประมาณจัดประชุมเมืองไทย
ปลอดภัยกว่า
ตอนนี้ทุกฝ่ายต่างก็ช่วยกันขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม เดินหน้าต่อไปได้
นางมาริสา กล่าวว่า
ตามแผนส่งเสริมตลาดการขายห้องพักโรงแรม ทำควบคู่กัน โครงการที่ 1 รุกตลาดประชุม สัมมนา ร่วมกับโครงการ
“ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า”
ทางสมาคมโรงแรมไทยได้ร่วมกับหอการค้าไทยเชิญชวนสมาชิกทั่วประเทศ
มาใช้โรงแรมผ่านช่องทางการจองผ่านเครือข่ายหอการค้าและสมาคมโรงแรมไทยโดยตรง และ Thai
Mice Connect โครงการที่ 2 “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3”
สมาคมโรงแรมไทยพยายามผลักดันรัฐบาลให้ขยายการสนับสนุนต่อจากเฟส 3 ต่อไป
โดยศักยภาพสมาชิกเร่งพัฒนาความรู้และทักษะให้เป็นมืออาชีพมากขึ้นต่อไป โครงการที่ 3
ทัวร์เที่ยวไทย
ตอนนี้เข้าใจว่าทุกธุรกิจต่างก็ประสบปัญหาแต่ก็อยากให้ทุกคนยิ้มสู้
เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยอัธยาศรัยไมตรีความเป็นไทยในแบบฮอสพิทาลิตี้
สร้างความประทับใจนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาใช้จ่ายเงินในประเทศไทย
ตอนนี้ภาคธุรกิจเริ่มเห็นแสงสว่างแล้ว จึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันรักษามาตรฐาน
“บริการ” ของโรงแรมด้วยฝึกอบรมพนักงานให้เป็นมืออาชีพมากที่สุด
สำหรับช่วง 1-2 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะปี 2565 อาจจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาแต่ยังไม่มากนัก
ดังนั้นธุรกิจโรงแรมยังต้องเผชิญความท้าทายอยู่ในภาวะถูกกดดันต่อไป กับการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ดังนั้นจึงขอส่งเสียงไปถึงภาครัฐเพิ่มมาตรการสนับสนุนเพื่อให้โรงแรมยืนหยัดอยู่ได้
เพราะตอนนี้ยังมีความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงแรมขนาดเล็กถึงขนาดกลาง SMEs จึงจะขอเสนออีกครั้ง คือ
1.เงินกู้เพื่อให้โรงแรมนำเข้ามาพัฒนาเทคโนโลยี เพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน ตอนนี้มีโรงแรมขนาดใหญ่ เพิ่งสร้าง เพิ่งขาย เพิ่งเปลี่ยน จะมีความได้เปรียบมากกว่า
2.การนำเงินเข้ามาพัฒนาเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นทุนสำคัญของโรงแรม
3.การสนับสนุนค่าจ้างพนักงาน ยังคงต้องมีอยู่ต่อไป ตอนนี้รัฐบาลทางกระทรวงแรงงานมีนโยบายช่วยเหลือธุรกิจ SMEs โดยสนับสนุนเงินสมทบการจ่ายค่าจ้าง 3 เดือน ทางสมาคมโรงแรมไทยจะขอให้ทำต่อไปอีกสักระยะ อนาคตหากธุรกิจดีขึ้นจะได้จ้างงานเพิ่ม
4.ค่าไฟฟ้าของโรงแรมเคยเสนอรัฐบาลไปหลายครั้ง ภาคธุรกิจขอความเห็นใจให้รับพิจารณาสักครั้ง
5.ภาษีสิ่งปลูกสร้าง ก็อยากจะให้ขยายหรือยืดระยะเวลาลดหย่อน 90 % ต่อไปด้วยอีกสักประมาณ 1-2 ปี ระหว่างที่ผู้ประกอบการโรงแรมยังต้องฟื้นฟูตัวเอง
6.การจัดนำบัญชีขาดทุนสะสมมาหักกลบกับการจ่ายภาษีได้สิทธิ์กันอยู่ 5 ปี จะขอขยายเป็น 8-10 ปี จะได้หรือไม่
7.เงินสมทบประกันสังคมกำลังจะหมดแล้ว ก็อยากจะขอให้รัฐยืดเวลาต่อให้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้เพราะตลอดระยะเวลาที่โควิด-19 ระบาดต่อเนื่องยาวนานเกือบ 20 เดือน นั้น
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างรุนแรง จึงอยากให้รัฐช่วยในช่วงกำลังฟื้นฟูกิจการ
หากผ่านช่วงนี้ไปได้
แล้วลุกขึ้นยืนได้ภาคธุรกิจก็จะกลับมาช่วยภาครัฐผลักดันเศรษฐกิจประเทศเติบโตอย่างเข้มแข็งได้
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 ช้อปคิงเพาเวอร์SuperDealBeautyBuffet3กลุ่มแบรนด์ดัง5ชิ้นแค่1.2หมื่น
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนปักหมุด ฮาวทู “ช้อปบิวตี้ไอเทมอย่างไร” ให้คุ้มสุด! กับขบวนน้ำหอมและเครื่องสำอาง สวยได้ทุกสไตล์กับแคมเปญ “SUPER DEAL BEAUTY BUFFET” ระหว่างวันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2564 เลือกช้อปสินค้าบิวตี้ไอเทม 5 ชิ้นสุดคุ้มจากหลากหลายแบรนด์ดัง จาก 3 กลุ่มสินค้าสุดฮอต สุดคุ้ม จ่ายเพียง 12,000 บาท ช้อปสบาย ไร้สัมผัส พร้อมชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ เช็กรายละเอียดก่อนช้อป คลิก https://bit.ly/3mihklz
ช้อปสะดวกผ่าน 2 ช่องทางช้อป! ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 21.00 น.
1.King Power Chat to Shop (คิง เพาเวอร์ แชททูช้อป) เพียง Add LINE@ : @KP_ChatToShop แล้วกด Add Friend หรือคลิก https://lin.ee/JwNzqUu
2.King Power Call to Shop (คิง เพาเวอร์ คอลทูช้อป) เพียงโทร. 02-338-7870 หรือ inbox (อินบอกซ์)
มาที่ Facebook King Power
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์จัดหนัก SUPER BONUS PRICEโฮมเดลิเวอรี่+นาฬิกาหรูลด30%
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ ชวนช้อป “SUPER BONUS PRICE” วันนี้– 30 พ.ย. 64 สินค้าส่งถึงบ้านราคาดิวตี้ฟรี ลดสูงสุด 30% ดีลเด็ด
ลดยาวตลอดเดือนพฤศจิกายน! ช้อปสนุก สินค้าถูกใจ
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ได้ราคาดิวตี้ฟรี รหัสส่วนลด NOVSPBN
ช้อปเลยที่ - https://bit.ly/3CryRwQ1 – 30 พ.ย. 64
ส่งฟรี! ทั่วประเทศ เมื่อช้อปครบ 699.- (สุทธิ)
รวมทั้งนักช้อปกลุ่มแฟนคลับที่หลงรักเวลา
ต้องมีไว้ซักเรือน ! กับนาฬิกา 3
โทนสีสุดฮิตตลอดกาล ลดสูงสุด 30% เสริมลุคให้โดดเด่น
สะกดทุกสายตากับนาฬิกาเรือนใหม่ ดีไซน์ล้ำสมัยเหนือกาลเวลา
ส่งความพิเศษถึงหน้าบ้าน รหัสส่วนลด NOVSPBN ช้อปเลยที่ - https://bit.ly/3BlRuAX
ข่าวที่ 3 ททท.ดึงแรฟเปอร์จุดพลุซิงเกิล”เที่ยวกันเถอะเรา”ปลุกเที่ยวไทยคึกคักปลายปี’64
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ต้องการใช้บทเพลงเป็นสื่อกลางในการ สร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวไทยให้คึกคัก เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อชวนคนไทยออกไปเที่ยวกันเถอะเรา นำเสนอผ่านสื่อโซเชียลมีเดียทุกช่องทางของ ททท. พร้อมทั้งยังสร้างการมีส่วนร่วม ด้วยการจัดทำ Content และ Online Activity กับกลุ่มนักท่องเที่ยว ทางสื่อสังคมออนไลน์ของ amazing ไทยแลนด์ ทั้ง Facebook Youtube, Instagram และ Tiktok รวมถึง Music Streaming ทุกช่องทาง ทั้ง Apple Music, Spotify, Joox, YouTube Music
ททท.จึงร่วมกับ High Cloud Entertainment ปล่อยซิงเกิ้ลพิเศษ “เที่ยวกันเถอะเรา” ปลุกกระแสการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยนำบทเพลง “สุขกันเถอะเรา” เพลงระดับตำนานของวงสุนทราภรณ์ นำมา Re-arrange ใหม่
นำโดยศิลปินแรฟชื่อดัง " กอล์ฟ-ณัฐวุฒิ ศรีหมอก หรือ กอล์ฟ F.Hero แร็ปเปอร์"ฝีมือฉกาจของไทย ซึ่งได้ลงมือโปรดิวซ์ ร่วมกับวง BOOM BOOM Cash วงดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ระดับแนวหน้าของไทย ประกอบด้วย
เอ้ BotCash - สัณหภาส บุนนาค, แขก-ชาชาลีคาน, โอเล่-จิโรจน์ เอี่ยวจินดา และ ฝ้าย-สัจจา พันพุก โดยเพลง “เที่ยวกันเถอะเรา” ได้มีการปรับซาวน์ดนตรีใหม่ ปรับแต่งเนื้อร้องและเพิ่มท่อนแร็ป เพื่อถ่ายทอดความสนุกสนานและสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวไทย ชวนเก็บกระเป๋าเดินทางอีกครั้ง เปลี่ยนวันซึมเซาให้เป็นวันแห่งความสุข เที่ยวสนุกแบบนิวนอร์มอล ใส่แมส รักษาระยะห่าง การ์ดไม่ตก
ติดตามชม MV เพลง “เที่ยวกันเถอะเรา -
ได้ทาง Facebook: Amazing Thailand และ amazing ไทยแลนด์ และ Youtube: Amazing Thailand รวมทั้ง Music
Streaming ทุกช่องทาง https://bfan.link/Amazing-Thailand รวมทั้งช่องทางต่างๆ ของ High
cloud entertainment #amazingthailand #เที่ยวกันเถอะเรา
ข่าวที่ 4 บางจากคว้า2รางวัลSetAwards2021-จัดสัมมนามนุษย์ไร้คาร์บอน18พ.ย.
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากฯรับ 2 รางวัล ในงาน SET Awards 2021 ได้แก่ 1.รางวัลในกลุ่ม Sustainability Excellence ประเภทรางวัลเกียรติยศบริษัทจดทะเบียนด้านความยั่งยืน Sustainability Awards of Honor ปีที่ 3 และ 2.รางวัล Best Innovative Company จากการดำเนินโครงการ Winnonie (วินโนหนี้) นวัตกรรมพลังงานสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แพลตฟอร์มเช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าพร้อมเครือข่ายสถานีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ซึ่งมีที่มาจากโครงการส่งเสริมนวัตกรรมภายในองค์กรของบางจากฯ ให้บริการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแก่ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการลดหนี้สินดอกเบี้ยเช่าซื้อและลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และกำลังขยายการบริการให้ครอบคลุมความต้องการของบุคคลทั่วไปผู้สนใจหันมาใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกใหม่ของการเดินทางในชีวิตประจำวัน สอดคล้องกับแนวทาง BCG Economy Model มุ่งแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน
สำหรับเวทีนี้ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวารสารการเงินธนาคาร จัดขึ้นเพื่อมอบให้กับบริษัทจดทะเบียน บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ที่มีความโดดเด่นในด้านต่างๆ ทั้งผลการดำเนินงานและการปฏิบัติเชิงคุณภาพ
ในวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน 2564 บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เชิญชวนร่วมการสัมมนาประจำปี
ครั้งที่ 11 ในหัวข้อ “Exponential Path to Net Zero” : Bangchak 100x -
100 Ideas for Sustainable World” เวลา 09.00-12.00 น. ด้วยรูปแบบ Hybrid Conference เชิญผู้สนใจร่วมหาคำตอบและทางออกว่าเราจะไปถึงเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์
(Net Zero) อย่างก้าวกระโดดได้อย่างไร โดยมีอธิบดีกรมสรรพสามิตเป็นผู้กล่าว Keynote
Address พร้อมอัพเดตเทรนด์โลก และเทคโนโลยีล้ำ
จากผู้เชี่ยวชาญชาวต่างประเทศ และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา 100 คนเป็น ‘มนุษย์ไร้คาร์บอน’
ข่าวที่ 5 อีสานกระตุ้นไมซ์สร้างสรรค์เปิด3จุด4จว.“ขอนแก่น-โคราช-อุดร/หนองคาย”
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” รายงานว่า ได้รวมเส้นทางไมซ์สร้างสรรค์ ให้องค์กรต่าง ๆ เลือกเป็นสถานที่ดูงาน ประชุม สัมมนา สุดม่วน ในพื้นที่ “ภาคอีสาน” 4 จังหวัด 3 เส้นทาง ดังนี้
จังหวัดแรก “ขอนแก่น" ใช้ธีม “Field
Trip ต้องมนต์เสน่ห์เส้นทางไหม”
ดูงานเมืองหัตถกรรมโลกแห่งผ้ามัดหมี่ และร่วม Workshop สุดสร้างสรรค์
ตื่นตาตื่นใจกับ “หัตถกรรม” โลกใหม่แห่งผ้ามัดหมี่ ซึมซับความงาม “ผ้าโบราณ”
ที่ศาลาไหมไทย เลือกช้อปผ้าถูกใจที่ “ถนนสายไหม” ชมกระบวนการผลิตผ้าไหมที่
“บ้านหนองบัวน้อย” ปลูกต้นหม่อนเลี้ยงไหม “ซีเอสอาร์อิ่มใจ” และ ไม่ทำไม่ได้กับ
“ผ้ามัดย้อมลายไดโดเสาร์”
จังหวัดที่ 2-3 “อุดรธานี-หนองคาย ใช้ธีม “Meeting ซิ่ง แซ่บ ม่วน”
ประชุมสนุกคูณ 2 พร้อม Team Building ที่สร้างความสามัคคีแล้วยังได้ส่งต่อสิ่งดีๆ
ให้สังคม กสักการะพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่ “วัดโพธิสมภรณ์”
ย้อนประวัติดูการเขียนสีบนภาชนะดินเผา แข่งขันสร้างลายผ้ามัดย้อมบัวแดง
เอ็กซ์คลูซีฟ เชฟส์ เทเบิล ที่ร้น “ซาหมวยแอนด์ซันส์” ขอพร “พระธาตุหล้าหนอง”
ผ่อนคลายกับ “ต้มยำเท้า”
จังหวัดที่ 4 "เขาใหญ่” นครราชสีมา ใช้ธีม “ประชุมกลางป่า สัมมนาสัมผัสโอโซน"
เปลี่ยนบรรยากาศไปสัมมนาท่ามกลางธรรมชาติ ควบคู่กิจกรรมสุดประทับใจ
เรียนรู้ภูมิปัญญาชุมชน “บ้านท่ามะปรางค์” ร่วมแรงใจทำ “ก้อนเห็ด” ให้โรงเรียน
“ส่องสัตว์” แบบ เขาใหญ่ไนท์ซาฟารี สัมผัสโอโซน “กลางทุ่งทานตะวัน” ชม
“โรงผลิตไวน์” ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทดลองทำ “ไอศรีม”
ที่ฟาร์มโชคชัย
เลือกประชุมเมืองไทย
ปลอดภัยกว่า ในเมือง ไมซ์ ซิตี้ แถวหน้าของเมืองไทย เลือกเส้นทาง “ไมซ์ สร้างสรรค์”
ได้ทั้ง 4 ภาค
ช่วงที่ 2 ตะลอนเที่ยว Unseen New Series ทริปนี้แนะนำ “ถ้ำธารน้ำลอด” เทียนเหมินซานเมืองไทย
ประตูสู่สวรรค์ อ.สวี จ.ชุมพร ตะลึงกับถ้ำหินงอก หินย้อย ระยะทางกว่า 2 กม.พร้อมสักการะ “พระพุทธนาคราชปางมารวิชัย” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเมืองโบราณ
แล้วผู้ที่ “วัยใกล้30
ตรวจสุขภาพด่วน” ป้องกันอันตราย 5 โรคที่เป็นภัยต่อสุขภาพ
และฟังทุกข่าวเจาะลึก ข่าวแรก “กระทรวงต่างประเทศโขว์ THAILAND PASS” เปิด 5 วันทั่วโลกลงทะเบียนแล้วเฉียด 1 แสนคน ข่าวที่สอง “กรมทางหลวง” ฟุ้งทุ่มทุนขยายถนนท่องเที่ยวใหม่
พังงา-ระนอง เปิดเม.ย.65 ข่าวที่สาม
“โชว์โลมาภูเก็ต” เพิ่มรอบแสดงทุกวันศุกร์รับเปิดประเทศพร้อมโปรคนไทย ข่าวที่สี่ “โรงแรมอลอฟท์
สุขุมวิท 11” เสิร์ฟโปรเด็ดห้องพัก
1,121 บาท/ห้อง/คืน
พาเที่ยว -“ถ้ำธารน้ำลอด” ชุมพรUnseen New Series เทียนเหมินซานเมืองไทย
เที่ยวกันเถอะเรา ก่อนปีใหม่
มองหาแหล่งท่องเที่ยวเด่น ๆ ที่น่าไป เก็บข้อมูลไว้เช็คอิน หนึ่งในนั้นคือ “ถ้ำธารน้ำลอด”
ประตูสวรรค์ ชุมพร มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ
500 เมตร เทียบชั้นได้กับ
เทียนเหมินซานเมืองไทย ตั้งอยู่ที่บริเวณสำนักสงฆ์
หมู่ 9 ตำบลทุ่งระยะ อ.สวี จ.ชุมพร ได้รับการพัฒนาภายในเวลา 5 ปี วันนี้ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” ยกให้เป็น
Unseen New Series เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดชุมพร
ภายในถ้ำห้องโถงขนาดใหญ่ความยาวที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้อย่างปลอดภัยราว 2
กิโลเมตร
ภายใน
“ถ้ำธารน้ำรอด” เป็นที่ตั้ง “พระพุทธมงคลคีรีศรีนาคราช”
พระพุทธรูปปางมารศรีวิชัย นักท่องเที่ยวนิยมไปกราบไหว้เสริมดวงเสริมบารมี ช่วยสะเดาะเคราะห์แคล้วคลาดปลอดภัย
แก้ปีชง เจริญรุ่งเรือง ด้วยลาภยศ สุข สรรเสริญปราศจากทุกข์โศกโรคภัยอันตราย
และมีเรื่องเล่าว่าในอดีตอาจเป็น “เมืองโบราณ” มาก่อน จากหลักฐานการเคยขุดแล้วพบโบราณวัตถุหลายอย่าง เช่น ลูกปัด เศษภาชนะดินเผาโบราณต่างๆ
ส่วนสำนักสงฆ์มีถ้ำซึ่งมีลักษณะเป็นห้องโถงยาวกว่า 2 กิโลเมตร ให้เดินชมหินงอกหินย้อยอันสวยงาม มีลำธารน้ำไหลอยู่ในถ้ำตลอดทั้งปี
กล่าวกันว่าเมื่อครั้งอดีตถ้ำธารน้ำลอด
เคยถูกใช้เป็นเส้นทางสัญจรข้ามระหว่างเทือกเขาของชาวบ้าน โดยจะต้องเดินขึ้นบันไดไปยังปากถ้ำ
700 ขั้น บ่งบอกถึงความศรัทธาของคนในชุมชน ได้ร่วมแรงร่วมใจและร่วมลงขันสร้างบันไดแห่งนี้เป็นกิจกรรมที่ทำกันทุกวันพระ
กระทั่งปัจจุบันการก่อสร้างบันไดเป็นเสมือนประตูสวรรค์นั่นเอง
สามารถไปชม “ถ้ำธารน้ำลอด” ประตูสวรรค์ ในช่วงฤดูท่องเที่ยวได้ปีละ 3 เดือน ระหว่างกุมภาพันธ์-พฤษภาคมของทุกปี ไฮไลต์ช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปีทางองค์การบริหารส่วนตำบลนาสักกับประชาชนในพื้นที่ หน่วยงาน ห้างร้น ต่าง จะจัดกิจกรรม “เปิดถ้ำกินฟรี” เป็นแม่เหล็กดึงดูดคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเข้าไปร่วมงานประเพณีอันดีงามด้วย
ปักหมุดเที่ยว “Unseen New Series” ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
สุขภาพ - ตรวจด่วน!!วัยครบ30วางแผนตรวจสุขภาพป้องกันสุขภาพพังก่อนวัยอันควร
“การตรวจสุขภาพ” เป็นอีกปัจจัยที่เราทุกคนควรจะต้องหันมาให้ความใส่ใจ โดยเฉพาะเมื่อเข้าใกล้ “อายุ 30 ปี” คำแนะนำเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพเริ่มตรวจจาก 5 เรื่องง่าย ๆ ดังนี้
1.ตรวจร่างกายทั่วไป ควรตรวจอย่างน้อยปีะ 1 คร้้ง เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง ความดันโลหิต และค่า BMI
หรือดัชนีมวลกาย เพื่อจะได้รู้ว่าตอนนี้เรามีน้ำหนักมากหรือน้อยกว่าเกณฑ์เกินไปหรือเปล่า
รวมทั้งจะได้คัดกรองหาความเสี่ยงของโรคบางชนิดด้วย
2 ตรวจสุขภาพช่องปาก เมื่ออายุมากขึ้น ทั้งหินปูนและความแข็งแรงของฟันก็เปลี่ยนไป เพื่อนๆ จึงควรตรวจช่องปากบ้าง อย่างน้อยปีละครั้ง
3. ตรวจหามะเร็งบางชนิด ถ้าเป็นผู้หญิงก็ควรตรวจหามะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งเต้านม โดยเฉพาะผู้หญิงที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์แล้วอายุครบ 21 ปี ก็ตรวจได้เลย ส่วนมะเร็งลำไส้นั้นตรวจได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
4. ตรวจหาโรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โดยเฉพาะคนอายุมากกว่า 35 ปี ควรจะตรวจหาเบาหวานทุกๆ 3 ปี หรือถ้าอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ให้เริ่มตรวจไขมันในเลือดบ้าง ตรวจได้ทุก 5 ปี เพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดและโรคหัวใจ
5.ตรวจสุขภาพจิต -เมื่อสังคมเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การดูแลสุขภาพจิตจึงเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรต่างก็อาจจะมีปัญหาเป็นของตัวเองทั้งนั้น ถ้ารู้สึกว่ามีเรื่องไม่สบายใจ มีความรู้สึกที่เล่าให้ใครฟังไม่ได้ หรือมีอาการนอนไม่หลับ เบื่ออาหารหรืออารมณ์ไม่คงที่ลองตรวจสุขภาพจิตดูบ้าง เพราะบางครั้งเราอาจจะมีความเครียดสะสมโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้ ยิ่งได้รับการวินิจฉัยเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี หากสุขภาพจิตดี สุขภาพกายก็จะดีตามไปด้วย
ไปตรวจสุขภาพกันตั้งแต่วันนี้
เพื่อชีวิตที่ดีและมีความสุขตลอดไป
ข่าวแรก “กต.”โชว์ทั่วโลกแห่ลงทะเบียนTHAILAND PASS เข้าไทยเฉียดแสนคนแล้ว
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังเปิดประเทศผ่านไปเพียง 5 วัน มีนักท่องเที่ยววจากทั่วโลกดำเนินการยื่นขอเอกสารผ่านช่องทางใหม่ THAILAND PASS ผ่านเว็บไซต์ tp.consular.go.th ทดแทนระบบ Certificate of Entry (COE) โดยเปิดให้ผู้ใช้บริการสแกน QR CODE เข้าทางสนามบินสุวรรณภูมิ มียอดการลงทะเบียนแล้วจนถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน รวม 65,338 คน ได้อนุมัติไปแล้ว 12,607คน เป็นการทำผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามผลสรุปเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2564 ทะลุไปถึงกว่า 90,000 คนแล้ว
ส่วนการใช้ระบบ COE สัปดาห์แรกเดือนพฤศจิกายน 2564 ก็ยังคงมีอยู่13,000 คน สัญญาณดีเปิดประเทศไทย และมีข้อมูลที่ทางกระทรวงการต่างประเทศได้เปิดช่องทางออนไลน์ตอบคำถามบ่อยทางโซเชียลกับผู้ที่ประสงค์เข้าไทยอย่างเต็มที่
โดยเฉพาะคำถามอันดับแรกที่ต้องชี้แจงมากสุด คือกรณวิพากษ์วิจารณ์ระบบ
Thailand Pass ว่าไม่มีความชัดเจนและอาจส่งผลกระทบต่อผู้เดินทางเข้าไทย
ทางกระทรวงการต่างประเทศยืนยันถึงความพร้อมของระบบที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทางเข้าประเทศไทยทุกคน
เพื่อสนับสนุนการนำรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยให้ได้มากที่สุดตามนโยบายรัฐบาล
ข่าวที่สอง “คมนาคม”ฟุ้งทุ่มลงทุนขยายถนนท่องเที่ยวใหม่4เลน “พังงา-ระนอง”
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เร่งให้ขยายเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างพังงา กับ ระนอง ที่ยังเหลืออีก 33.76 กิโลเมตร เพื่อเติมเต็มโครงข่ายเส้นทางคมนาคมสู่ภาคใต้ให้สมบูรณ์ รองรับการเติบโตใหม่เศรษฐกิจ เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยว ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้เดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็วปลอดภัย
จากสภาพเดิมเส้นทางระนองและพังงาเป็น 2 ช่องจราจร ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักไปยังแหล่งท่องเที่ยวแถบชายฝั่งทะเลอันดามัน รวมทั้งเป็นเส้นทางเชื่อมกับภูเก็ตจังหวัดศูนย์กลางสนามบินนานาชาติมีเที่ยวบินจากทั่วโลกนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังภาคใต้
ดังนั้นกรมทางหลวงจึงเร่งขยายถนนสาย อ.ตะกั่วป่า -อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ตลอดสายตามนโยบายรัฐบาล เป็น 4 ช่องจราจร ช่วงที่ 1 ตะกั่วป่า-ท้ายเหมืองคืบหน้ากว่า 75 % แล้วเสร็จประมาณเดือนเมษายนปี 2565 รวมทั้งมีรายละเอียดดำเนินการก่อสร้างต่อเนื่องดังนี้
1.ตอน บ.เขาหลัก- บ.ลำแก่น ระยะทาง 6 กิโมเมตร ระหว่าง กม.797+000-803+000 ได้ออกแบบรายละเอียดแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างเตรียมการจัดส่งรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณาตามขั้นตอน หาก EIA ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว คาดว่าจะเสนอของบประมาณก่อสร้างปี 2567
2.ตอน บ.บางสัก-บ.เขาหลัก ระยะทาง 20.36 กิโลเมตร และ ตอน อ.ตะกั่วป่า-บ.บางสัก ระยะทาง 7.40 กิโลเมตร พื้นที่ อ.ตะกั่วป่า อ.ท้ายเหมือง จังหวัดพังงา อยู่ระหว่างการก่อสร้าง รวมระยะทาง 27.76 กิโลเมตร
ตามแผนกรมทางหลวงได้พัฒนาโครงข่ายทางหลวงสาย อ.ตะกั่วป่า-อ.ตะกั่วทุ่ง (บ.โคกกลอย) เป็นทางหลวงมาตรฐานขนาด 4 ช่องจราจรตลอดเส้นทางรวมระยะทางทั้งสิ้น 77.67 กิโลเมตร รองรับปริมาณจราจรที่เพิ่มขึ้นและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ ที่ผ่านมาได้ขยายเส้นทางแล้วเสร็จรวม 43.90 กิโลเมตร และเปิดบริการประชาชนแล้ว
ข่าวที่สาม “โชว์โลมาภูเก็ต”เพิ่มรอบแสดง“ทุกศุกร์”ลุยรับเปิดประเทศมีโปรเอาใจคนไทย
โชว์โลมาภูเก็ต รายงานว่า ขณะนี้ได้เปิดเพิ่มวันเปิดแสดงโชว์อีกใน “วันศุกร์” จากปกติจะเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11:00 และ 14:00 น.เริ่มวันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2564 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ตเพิ่มขึ้นภายหลังการเปิดประเทศ
“คนไทย”
มี โปรโมชั่นจองจ่ายในวันอังคาร ค่าชมโชว์เพียง 200 บาทเท่านั้น และว่ายน้ำกับโลมาจาก 3,500 บาท เหลือ
2,450 บาท
หากไม่อยากลงน้ำ สามารถเลือกแพคเกจ Magic Touch สัมผัสใกล้ชิดกับน้องโลมาแสนรู้ได้ในราคาเพียง 900 บาท
สอบถามเพิ่มเติม Line Official: @dolphinsbayphuket โทร.099-3137666 Inbox FB Page:Dolphins Bay Phuket
ข่าวที่สี่ “โรงแรมอลอฟท์สุขุมวิท11อัดโปรแรงห้องพักเริ่ม1,121บาท/คืน/ห้องเท่านั้น
โรงแรม อลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 หนึ่งในแบรนด์โรงแรมภายใต้แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล นำเสนอโปรโมชั่นห้องพักพิเศษให้นักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนเดินทางมากรุงเทพกับโปรโมชั่น Bringing Vibrance Back ราคาเริ่มต้นเฉพาะห้องพัก 1,121++ บาท โดยจะยืดหยุ่นเงื่อนไขให้อย่างเต็มที่ตลอดเลือกเข้าพัก 24 ชั่วโมง เช่น วันเข้าพักเช็คอิน 18.00 น. วันเช็คเอาท์ได้ตอน 18.00 น. จองได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 พฤศจิกายน 2564 การเข้าพักตั้งแต่วันนี้ -31 มีนาคม 2565
สำหรับโปรโมชั่น Bringing Vibrance Back เข้าร่วมกับแคมเปญ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส3” สามารถจองโปรโมชั่นนี้ โดยใช้รหัสโปรโมชั่น YQ1 ผ่านทาง https://tinyurl.com/3hm7wudf หรือสอบถามรเพิ่มที่โทร 02 2077000 หรืออีเมล reservations.aloftbkk@alofthotels.com
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น