TCEBได้ไฟเขียว ครม.ชิงประมูล3งานโลกจัดในไทยปี69
เอ็กซ์โปภูเก็ต-พืชสวนโลกโคราช-พืชสวนโลกอุดรธานี
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TCEB #เอ็กซโปภูเก็ต2028 #พืชสวนโลกนครราชสีมา2572 #พืชสวนโลกอุดรธานี2569
ครม.ไฟเขียว TCEB แข่งชิงสิทธิ์เจ้าภาพดึงงานมาจัดในไทย 3 งานโลก “เอ็กซ์โปภูเก็ต-พืชสวนโลกโคราช-อุดรธานี” โดยร่วมกับ 2 กระทรวงหลัก 3 เมืองไมซ์ เดินหน้าเต็มเหนี่ยว หวังโกยเงินแสนล้านเข้าประเทศเริ่มปี’69
ดันเศรษฐกิจโต พร้อมสร้างอาชีพ จ้างงาน และประโยชน์เพียบ
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร จังหวัดกระบี่ อนุมัติหลักการให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานสำคัญใหญ่ระดับโลก 3 งาน คือ 1.งานเอ็กซ์โป 2028-ภูเก็ต 2.งานมหกรรมพืชสวนโลกประเภท B ปี 2569-อุดรธานี และพืชสวนโลกประเภท A1 ปี 2572-นครราชสีมา โดยทีเส็บจะร่วมกับ 2 กระทรวง คือกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอีก 3 เมืองไมซ์ ได้แก่ ภูเก็ต อุดรธานี และนครราชสีมา รวมทั้งมีหน่วยงานสนับสนุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงหอการค้าและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
หากไทยได้รับสิทธิดึงงานมากระจายจัดในแต่ละจังหวัด จะส่งผลทางเศรษฐกิจรวมกว่า
100,173 ล้านบาท สร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศมูลค่า
(GDP) 68,520 ล้านบาท สร้างรายได้จากการจัดเก็บภาษีภาครัฐ 20,641
ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน 230,442 ตำแหน่ง
งานแรก “เอ็กซ์โป 2028
จังหวัดภูเก็ต” ทางกระทรวงสาธารณสุขและจังหวัดภูเก็ต จะเป็นหน่วยงานหลักในการเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมระดับโลกภายใต้ลิขสิทธิ์ของ
Bureau International des Expositions (BIE) ซึ่งประเทศเจ้าภาพจะได้รับประโยชน์ทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ
สังคม นวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว
โดยประเทศไทยเสนอให้จัดงานขึ้นภายใต้ชื่อ “เอ็กซ์โป 2028 - ภูเก็ต ประเทศไทย : EXPO 2028
- Phuket, Thailand” ภายใต้แนวคิดหลัก Future of Life-Living in harmony,
sharing prosperity บนพื้นที่ 141 ไร่
บริเวณตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
ตามโครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ต
สู่เมืองท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก โดยโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
จะใช้เวลาจัดงาน 3 เดือน ระหว่าง 20 มีนาคม – 17 มิถุนายน 2571 คาดจะมีผู้เข้าชมงาน 4.9 ล้านคน แบ่งเป็นคนไทย 54% ชาวต่างชาติ 46% จากทั่วโลก 106 ประเทศ ก่อให้เกิดเงินสะพัดระหว่างการจัดงาน 49,231 ล้านบาท สร้างการจ้างงาน 113,439 อัตรา เพิ่มมูลค่าการสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมกว่า (GDP) 39,357 ล้านบาท เกิดรายได้จากการจัดเก็บภาษี 9,512 ล้านบาท
งานที่ 2 “มหกรรมพืชสวนโลกประเภท
B ปี 2569 จะจัดที่อุดรธานี
และงานที่ 3 พืชสวนโลก ประเภท A1 ปี 2572 จะจัดที่ นครราชสีมา ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับทั้งสองจังหวัด จัดงานแสดงด้านพืชสวนรายการยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
อยู่ภายใต้สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (The International Association of
Horticultural Producers – AIHP)
งานพืชสวนโลก เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2503 ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์ จากนั้นก็หมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดงานอย่างต่อเนื่องภายในภาคีสมาชิก 65 ประเทศ
สำหรับ “มหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี ปี 2569 : Udon Thani International Horticultural Expo 2026” จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก Diversity of Life: People, Water and Plants วิถีชีวิต สายน้ำ และพืชพรรณ บริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเมือง จังหวัดอุดรธานี บนเนื้อที่ 1,030 ไร่ แบ่งเป็นพื้นน้ำ 400 ไร่ และพื้นดิน 630 ไร่ กำหนดจัดงานระหว่าง 1 พฤศจิกายน 2569 – 14 มีนาคม 2570
คาดจะมีผู้เข้าชมงาน 3.6 ล้านคน แบ่งเป็นชาวไทย 70% ชาวต่างชาติ 30% มีองค์กร สมาคมต่าง ๆ เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 20 ประเทศ เพิ่มเงินสะพัดระหว่างการจัดงาน 32,000 ล้านบาท สร้างการจ้างงาน 81,000 อัตรา เพิ่มมูลค่าการสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมกว่า (GDP) 20,000 ล้านบาท และเกิดรายได้จากการจัดเก็บภาษี 7,700 ล้านบาท
ส่วน “มหกรรมพืชสวนโลกนครราชสีมา ปี 2572 : Nakhon Ratchasima International Horticultural Expo 2029” จะจัดตามแนวคิดหลัก Nature & Greenery: Envisioning
the Green Future ธรรมชาติและพรรณพืชเขียวขจีอนาคตแห่งโลกสีเขียว
บนพื้นที่สาธารณประโยชน์โคกหนองรังกา ตำบลเทพาลัย อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา
เนื้อที่ 678 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่จัดแสดง 523 ไร่ และพื้นที่จอดรถ 155 ไร่ กำหนดจัดงานระหว่าง 10
พฤศจิกายน 2572 - 28 กุมภาพันธ์ 2573
คาดจะมีผู้เข้าชมงาน 2.6-4 ล้านคน
แบ่งเป็นชาวไทย 85% ชาวต่างชาติ 15% มีประเทศที่เข้าร่วมงานกว่า
30 ประเทศ จะเพิ่มเงินสะพัดระหว่างการจัดงาน 18,942.64
ล้านบาท สร้างการจ้างงาน 36,003 อัตรา
เพิ่มมูลค่าการสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมกว่า (GDP) 9,163 ล้านบาท และเกิดรายได้จากการจัดเก็บภาษี 3,429 ล้านบาท
นายจิรุตถ์กล่าวว่า ทั้ง 3 เมืองไมซ์ ที่จะได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญระดับโลกทั้ง 3 งาน ต่างมีศักยภาพความพร้อมของเมืองที่จะเสนอตัวเข้าร่วมแข่งขันชิงชัยในการเป็นเจ้าภาพจัดงานครบทุกด้าน
ทั้งสถานที่ การเดินทาง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางเชิงสุขภาพระดับโลก
รวมถึงการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจใหม่หลังการจัดงานให้เป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการลงทุนในอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง
(GMS)
และการสร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อพัฒนาสู่การเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น