“ไทย”ยึดWTM2021ชิงประกาศVisit Thailand Yearปี65
ททท.ทวงแชมป์รายได้ปีหน้า1.58ล้านล้าน-BA+TUIบูมขายทัวร์ไทย
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza
#รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97
#WTM2021 #TAT #VisitThailandYear2022
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมผู้บริหาร นำผู้ประกอบการเข้าร่วมงาน World Travel Market 2021 (WTM 2021) ครั้งที่ 40 ระหว่าง 1 - 3 พฤศจิกายน 2564 ที่ Exel กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร พร้อมประกาศปี 2565 เป็น “Visit Thailand Year 2022” ภายใต้แนวคิด Amazing New Chapters” ตอกย้ำคุณค่าการท่องเที่ยวที่โดดเด่นให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมหรือ Preferred Destination
การเข้าร่วมงานวันแรกเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2564 ททท. ได้หารือร่วมกับพันธมิตร สายการบินบริติช แอร์เวย์ส (BA) และ TUI เพื่อร่วมกันกำหนดเจตนารมย์และวิสัยทัศน์การเดินหน้าแผนธุรกิจ การลงทุน และประชาสัมพันธ์ เพื่อสนับสนุนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้าเมืองไทย
พร้อมทั้งวางกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเน้นการสร้างคุณค่าและประสบการณ์ท่องเที่ยวมิติใหม่ เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ กำลังซื้อสูง นำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ โดยการชูขาย 1.การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy) 2.การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ 3.การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม (Responsible Tourism) ขานรับตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ BCG model ให้การเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 เป็นการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย ประทับใจและแตกต่าง ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยสู่สมดุลใหม่ให้แข็งแรงและยั่งยืน
ภายในงานมีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมเปิดบูธพร้อมเจรจาซื้อขายกับคู่ค้านานาชาติ ประกอบด้วย
1.ธุรกิจโรงแรม โรงแรมเชนไทย อาทิ เซนทารา โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ต ดุสิต โฮเต็ลส์ แอนด์ รีสอร์ตส วัฒนาโฮเต็ล มาร์เก็ตติ้ง คอนซัลแตนท์ และเชนโรงแรมอินเตอร์ อาทิ ไมเนอร์ โฮเต็ล เดอะ สแตนดาร์ด โฮเต็ลส์
2.กลุ่มบริษัทนำเที่ยว ได้แก่ เอเชีย เอ็กโซติก้า เดสติเนชั่นเอเชียไทยแลนด์ แทรเวล ไทยแลนด์ ดีทแฮล์ม ดิสคัพวา และ เอเชีย แทรเวล
3.กลุ่มธุรกิจตัวแทนการท่องเที่ยว ได้แก่ เอเลเฟ่น เรฟส์ ซอลท์ เรพรีเซนเตชั่น เดอะ เอ็มซี คอลเลคชั่น
ในโอกาสนี้ ททท. ได้รับพระกรุณาธิคุณจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเข้าร่วมงาน Amazing Thailand : The Royal Dinner ช่วงค่ำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 โดยพระราชทานพระดำรัส สร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ประกอบการ รวมถึงหน่วยงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้มองเห็นโอกาสในวิกฤต สร้างมุมมองใหม่ และร่วมกันฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย เป็นเจ้าบ้านที่ดีในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยั่งยืน(Preferred Destination)
สร้างความเชื่อมั่นรวมทั้งเชิญชวนชาวต่างชาติให้เดินทางมาสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยภายหลังจากการเปิดประเทศในรอบ
19 เดือน ต่อไปจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มของคนไทย
พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น
ททท.คาดการณ์ ปี 2565 กรณีสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดี
(Base Scenario) ตั้งเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมดไว้
1.58 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น 1.รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 818,000 ล้านบาท 2.รายได้จากนักท่องเที่ยวไทย 7.71 แสนล้านบาท แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การบริหารจัดการสถานการณ์
และภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในประเทศและทั่วโลกด้วย
ททท. คาดการณ์หลังเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาล
ระหว่างพฤศจิกายน - ธันวาคม 2564
จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยเฉลี่ยเดือนละ 300,000 คน ผนวกกับที่เดินทางเข้ามาก่อนหน้านี้
ส่งผลให้ตลอดปี 2564 จะมีนักท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 700,000 คน
สำหรับ “ตลาดยุโรป” เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพของไทย
โดยเฉพาะช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19
ตลาดสหราชอาณาจักรมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากรัสเซีย ขณะนี้มีรายงานจากหลายสายการบินพร้อมจัดเที่ยวบินตรงที่สะท้อนถึงสัญญาณที่ดีของไทย
ซึ่งจะมีความจุที่นั่งผู้โดยสารจำนวนมากเดินทางจากยุโรปและสหราชอาณาจักรมายังไทย
ตลอด 9 เดือน ระหว่างมกราคม - กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีตลาด “ต่างชาติ” รวม 85,845 คน จากโครงการส่งเสริมท่องเที่ยว เช่น วีซ่าพิเศษเพื่อท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวสมาชิกสิทธิพิเศษไทยแลนด์ พริวิเลจ การ์ด กลุ่มสุขภาพที่เข้ามารับบริการทางการแพทย์ และโครงการเปิดพื้นที่นำร่องเพื่อการท่องเที่ยว (Sandbox) ในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม - ตุลาคม 2564 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าภูเก็ตทั้งสิ้น 60,649 คน
โดยมีสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ สะสมสูงสุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อิสราเอล สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศส อีกทั้งรัฐบาลไทยยังได้ประกาศเดินหน้านโยบาย Thailand Reopening เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 ตามมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักร 3 รูปแบบ ได้แก่
1.Exemption from Quarantine (Test & Go) ไม่กักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบตามเกณฑ์และเดินทางจากประเทศหรือพื้นที่ที่กำหนด 63 ประเทศ
2.Living in the Blue Zone พื้นที่สีฟ้า 17 จังหวัด (Sandbox)
3.Alternative Quarantine : AQ (Happy
Quarantine ทั่วไทย)
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tatnews.org
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น