ททท.เร่งตลาดในประเทศปี65-66โกย6.6-8.8แสนล้าน
เปิด4ปัจจัยหนุนฝ่า4อุปสรรคชิงคนมีตังค์ปีหน้า8เทรนด์
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM87
#TheJournalistclub
อ่านจาก website The Journalistclub จากลิงค์นี้...
ททท.นำทัพตลาดในประเทศฝ่าอุปสรรค 3เดือนสุดท้าย
“ต.ค.-ธ.ค.65”
เร่งปั๊มรายได้เข้าเป้า 6.56 แสนล้าน เพิ่มแรงส่งปี’66
โตทะลุ 8.8
แสนล้าน เปิด 4
ปัจจัยเสริม ฝ่า 4
ปัญหาท้าทาย งัดสารพัดสินค้าลุยขายต่อเนื่องโกยลูกค้ามาแรง 8 กลุ่มตลาด
ดึงข้าราชการ 2 ล้านคนใช้
woraktionทำงานเที่ยวได้
เปิดประชุม ททท.45
แห่งเดินเครื่องปีหน้า 4 กลยุทธ์
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดเผยว่า เดินหน้าเพิ่มรายได้ท่องเที่ยวตลาดในประเทศตามปีงบประมาณ 2566 โดยชูการทำแบบ
“ก้าวกระดก” หมายถึงต้องรีบทำอย่างรวดเร็ว เริ่มไตรมาสแรกปลายปีนี้ 3 เดือนแรก
ตุลาคม-ธันวาคม 2565 วางแผนเร่งกระตุ้นเที่ยวไทยทำให้เข้าเป้าตลอดทั้งปีเกินกว่า
6.56 แสนล้านบาท
ต่อเนื่องปี 2566
ขอรับความท้าทาย 8.8 แสนล้านบาท
ในการเพิ่มรายได้ตลาดท่องเที่ยวในประเทศปลายปี
2565 นั้น
ททท.มีแรงหนุนจาก 4
ปัจจัยเสริม ได้แก่
1.ไฮซีซันท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว
2.แต่ละเดือนวันหยุดพิเศษจำนวนมาก
3.ภาครัฐออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อเนื่องทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
คนละครึ่ง 4.นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวอย่างคึกคัก
และมีอุปสรรคหลัก “4 ปัญหา” คือ 1.เงินเฟ้อส่งผลทำให้ค่าใช้จ่ายสูง ของแพงทั้งตั๋วเครื่องบิน
สินค้าอุปโภคบริโภค 2.สถานการณ์น้ำท่วมทั่วประเทศ 29 จังหวัด 3.เศรษฐกิจภาคครัวเรือนฝืด 4.สถานการณ์โรคระบาดยังคงมีอยู่ 4.คนตกงาน
ทว่ามีความมั่นใจรายได้ปีนี้จะเกินเป้าหมายอย่างแน่นอน
เนื่องจากสถานการณ์ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้มกราคม-กันยายน 2565 มีนักท่องเที่ยวผู้เยี่ยมเยือนรวม 177 ล้านคน-ครั้ง
สร้างรายได้รวมประมาณ 6.42 แสนล้านบาท มาจาก 1.นักท่องเที่ยว 107 ล้านคน คิดเป็น 58.37 % สร้างรายได้แล้ว 5.48 แสนล้านบาท 2.นักทัศนาจรกว่า 70 ล้านคน-ครั้ง
(จะต้องคำนวณในเชิงสถิติอีกครั้ง) คิดเป็น 41.63 % สร้างรายได้แล้ว
93,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่มีพฤติการใช้เงินเพิ่มในการเข้าพักโรงแรมรีสอร์ต
ร้านอาหาร ซื้อของที่ระลึก กิจกรรมบันเทิง ส่วนวันพักเฉลี่ยปี 2565 ทำได้ 2.2 วัน/คน/ทริป (ต่ำกว่าปี 2562 เฉลี่ย 2.37 วัน/คน/ทริป) แต่ปีนี้ความถี่การเดินทางมีมากขึ้น
ใช้เงินท่องเที่ยวเฉลี่ย 2,800 บาท/คน/ทริป
ยังคงต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้จะทำให้ได้ 4,000 บาท/คน/ทริป
ขณะนี้คนไทยนิยมใช้จ่ายเงินพักโรงแรมรีสอร์ตสูงถึง 80 % ลดการเลือกพักบ้านเพื่อน
บ้านญาติ ลงเหลือแค่ 11 %
จากตัวเลข
“อัตราการจองห้องพักล่วงหน้า” หรือ OR -Occupacy
Rate ประเมินจากโรงแรมที่พักซึ่งเปิดให้บริการแล้ว ล่าสุดช่วง 1-10
ตุลาคม 2565 เช่น กรุงเทพฯ มียอดจองพัก 72 % รวมทั้งจังหวัดยอดนิยม ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา ราชบุรี กาญจนบุรี ชลบุรี
เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พอเกิดน้ำท่วมมีบางส่วนยกเลิกเพราะเข้าพักไม่ได้
ททท.พยายามจะเร่งช่วง
3 เดือนสุดท้ายปีนี้ ตุลาคม-ธันวาคม 2565 นักท่องเที่ยวจะได้ไม่ต่ำกว่า 165 ล้านคน-ครั้ง โดยเฉพาะ
“เป้าหมายเพิ่มอัตราเข้าพัก” เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม นี้ ตามพื้นที่ท่องเที่ยวหลักจะได้ไม่ต่ำกว่า
70 % เพื่อดันค่าเฉลี่ยเข้าพักตลอดปีนี้ให้ถึง 55-60
% ขณะที่ “อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load factor) การจองตั๋วโดยสารเครื่องบินเที่ยว อุดรธานี สุโขทัย เชียงใหม่ ช่วง 1-15 ตุลาคม นี้ ทำได้แล้ว
86 % แต่เมื่อเกิดน้ำท่วมในจังหวัดท่องเที่ยวหลักผู้โดยสารทยอยยกเลิกตั๋วเดินทางประมาณ
8-10 %
หากเปรียบเทียบนักท่องเที่ยวในประเทศช่วงเดียวกัน
1.เดือนตุลาคม 2565 เกิดปัญหาน้ำท่วมหลายจังหวัดจะยังมีนักท่องเที่ยว
14 ล้านคน-ครั้ง เดิมคาดการณ์จะทำได้เท่าปีปกติเดือนตุลาคม 2562 ทำไว้ 17.3 ล้านคน-ครั้ง 2.เดือนพฤศจิกายนนี้ประมาณการณ์ไว้
13 ล้านคน-ครั้ง ลดจากเดือนตุลาคมเพราะมีวันหยุดน้อยกว่า แต่จะได้เทศกาลลอยกระทงช่วยเติมเต็มบ้างจากการท่องเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียงและข้ามจังหวัดด้วยจำนวนไม่มากนัก
2.เดือนธันวาคมนี้ คาดจะทำได้ 16.8 ล้านคน-ครั้ง
น้อยกว่าปีปกติ 2562 ทำไว้ 19 ล้านคน-ครั้ง
นางสาวฐานปีย์
กล่าวว่า ปี 2566 จะมีปัญหาความท้าทายใหม่เข้ามาเพิ่มเข้ามาอีกอย่างคือ
“คนไทยจะเดินทางเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น” จากการเข้าร่วมงาน ITB Asia : Ineternational Travel Berlin Asia 2022 ที่สิงคโปร์
เมื่อเร็ว ๆ พบว่าหลายประเทศทั้ง สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไต้หวัน
ทำแพกเกจท่องเที่ยวรุกเจาะขายตลาดคนไทยมากขึ้น
ดังนั้น
ททท.ในประเทศ จะโหมการขายภายใต้โครงการ “เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม”
โดยใช้แท็กซ์ไลน์ “โมเมนท์ที่ใช่ สร้างได้ไม่ต้องรอ” ควบคู่กับ “365 วันมหัศจรรย์ เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน”
ซึ่งจะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงาน “เที่ยวไทย 5 ภาค” วันที่ 15
ธันวาคม 2565 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ทั้ง
45 สำนักงาน
จะต้องเร่งติดอาวุธการขายเพื่อสู้กับการดึงคนไทยเที่ยวเมืองไทยมากกว่าไปต่างประเทศด้วยหลากหลายวิธี
เช่น 1.เปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่
ๆ 2.ลงทุนจัดเทศกาลท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์
หรือ Festival Experience 3.จัดอินเตอร์เนชั่นแนลอีเวนต์ในประเทศ
โดย ททท. สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” กระทรวงการท่องเทียวและกีฬา ผนึกกำลังกันดึงงานเข้ามาไทยอย่างเต็มที่ 4.เร่งทำโปรโมชั่นโดยกระตุ้นเอกชนร่วมกับ ททท.สนับสนุนการขายเที่ยวเมืองไทยได้ต่อเนื่อง
365 วัน โดยสร้างความสดใหม่ทั้งเนื้อหา/คอนเทนท์ มีสเตทเมนท์ประชาสัมพันธ์ทุกวัน
ขณะนี้เตรียมจัดประชุมตลาดในประเทศเร่งขับเคลื่อนแผนเที่ยวไทยปี
2566 กับ ททท.ทั่วประเทศ 45 สำนักงาน
ในวันที่ 27-29 ตุลาคม 2565
ที่เขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันมีเซกเมนต์การเดินทางเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
8 กลุ่มตลาด ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1
เลิฟเวอร์/คู่รัก/โรแมนซ์ มี 36 % กลุ่มที่ 2 เพื่อน ๆ ทั้งผู้สูงวัย
เพื่อนวัยเดียวกัน 18 % กลุ่มที่ 3 ครอบครัว มี10 % กลุ่มที่
4 กลุ่มผู้ชายเดินทางคนเดียว มี 9.5 % กลุ่มที่
5 มิลเลนเนียล ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นคนรุ่นใหม่เดินทางเป็นครอบครัวขนาดใหญ่
9 % กลุ่มที่ 6.ผู้หญิงเดินทางเที่ยวเองหรือ
Solo Women มี 8 % กลุ่มที่ 7 กลุ่มสาวมั่นหรือ Power Women เกือบ 5 % กลุ่มที่ 8 คินชิพหรือกลุ่มเครือญาติ มี 3.2
%
รวมทั้งเร่งเพิ่มฐานตลาด
“ท่องเที่ยวได้งานหรือ Workation” ช่วง 1-2
ปี ททท.มุ่งเน้นส่งเสริมการขาย Workation Thougthout
Thailand ได้เสนอคณะกรรมการท่องเที่ยวแห่งชาติ นำคนในภาครัฐกว่า 2
ล้านคน ซึ่งสามารถเดินทางไปทำงานโดยใช้นอกสถานที่ได้
ตอนนี้กำลังให้โรงแรมและที่พักทั่วประเทศมอบสิทธิพิเศษสร้างแรงจูงใจคนออกมาใช้บริการเพิ่มขึ้น
ปี 2566 ททท.ในประเทศ เน้น 4 กลยุทธ์หลัก
คือ กลยุทธ์ที่ 1 สร้างความเชื่อมั่น ตามที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ให้ความสำคัญกับการทำงานเชิงบูรณาการร่วมกันทั่วประเทศมากที่สุด
ทั้งสำนักงานท่องเที่ยวจังหวัด และหน่วยงานเกี่ยวข้อง จะทำงานอย่างเข้มแข็ง
กลยุทธ์ที่ 2 คอนเทนท์การเดินทางท่องเทียวในประเทศภายใต้ แท็กซ์ไลน์ปีใหม่ 2565 “โมเมนต์ที่ใช่ สร้างได้ไม่ต้องรอ” เพิ่มการท่องเที่ยวเมืองรองและชุมชน ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ประเทศ
ที่จะเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว 10-15 % โดยมี BCG+Happy Model ของหอการค้าไทย และเตรียมขยายผลแหล่งท่องเที่ยว
5 ภาค โครงการ Unseen New Chapters 25
แห่ง เพิ่มดีกรีเติม BCG การท่องเทียวอย่างรับผิดชอบ และรักษาสิ่งแวดล้อม
กลยุทธ์ที่ 3 การจัดกิจกรรม Festival Experience การท่องเที่ยวตอบโจทย์อัตลักษณ์ชุมชน
พื้นที่ได้รับรายได้โดยตรง
กลยุทธ์ 4 กระตุ้นส่งเสริมการขาย
เริ่มปลายปี 2565 เช่น โครงการ
“รถทัวร์ทั่วไทย โครงการ Stacation โครงการเที่ยวเมืองไทยให้หายคิดถึง
มีวงล้อให้หายคิดถึง 9 บาท โครงการ ลดทั่วฟ้าบินทั่วไทย
เปิดไปแล้ว 19 กันยายน-31 ตุลาคม 2565
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น