TCEBเปิดแผนใช้งบปี’66ลุยโกยรายได้บุกตลาดไมซ์4เรื่องบิ๊ก 3 เดือนหน้าต.ค.-ธ.ค.65โชว์ดึงทั่วโลกจัดกระหึ่มทั่วไทย7งาน อัดฉีดประชุมเมืองไทยสร้างเศรษฐกิจไทย-พ.ย.รุกเอ็กซ์โปเฟส2
TCEBเปิดแผนใช้งบปี’66ลุยโกยรายได้บุกตลาดไมซ์4เรื่องบิ๊ก
3 เดือนหน้าต.ค.-ธ.ค.65โชว์ดึงทั่วโลกจัดกระหึ่มทั่วไทย7งาน
อัดฉีดประชุมเมืองไทยสร้างเศรษฐกิจไทย-พ.ย.รุกเอ็กซ์โปเฟส2
“คิง
เพาเวอร์”ปลุกช้อปแฮปปี้ฉลอง33ปี4โปร4สาขา5สนามบิน
KingPowerDelights&Surprisesครบ33ปีมีแต่แจกตลอดต.ค.นี้
ช้อปด่วน!!คิงเพาเวอร์สุดปัง3สเตชั่น “มิวสิค/เซเลเบรชั่น/ลัคกี้”
เปิดโผใหม่ททท.โยกผู้บริหารคุมนอก-ในประเทศ14เก้าอี้ต.ค.นี้
TCEB เปิดหลังโควิด-19ไมซ์ไทยเตรียมรับ5เทรนด์ตลาดโลก
บางจากมอบทุนเด็กประถม-ป.ตรีรอบโรงกลั่นปี’65กว่า4ล้าน
ทัวร์บุญออกพรรษาใกล้กรุง“สมุทรปราการ-สระบุรี-อุทัยธานี”
5
วิธีดูแลจิตใจผู้ประสบภัยช่วงน้ำท่วมบรรเทาความเครียดได้
บินไทยทำคาร์โก้อะคาเด2แพกเกจดึงนักศึกษาเริ่ม790บาท
ทอท.ร่วมACIชี้เป้าธุรกิจสนามบินปรับแผนรับเทรนด์ใหม่ปี’66
วันเสาร์ที่
8 ตุลาคม
2565
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง
ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM
97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋
#KingPower #TAT
#TCEB #บางจาก #ทัวร์บุญออกพรรษา
#รับบัว #ตักบาตรเทโว
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/g0IPqU49Pi/
ช่วงที่ 1 ทีเส็บทุ่มใช้งบปี’66 เร่งเครื่องลุยโกยรายได้ 4 เรื่อง “IT &CMA”เพิ่มสัญญาณดี4เทรนด์ใหม่ “จัดไมซ์ระดับประเทศและระดับโลก” 3เดือนหน้า
ต.ค.-ธ.ค.65 กระหึ่ม 7 งาน “ลุยเฟส 2
ชิงเจ้าภาพจัดExpo 2028 Phuket Thailand 2028” ที่ภูเก็ต 28 พ.ย.นี้ยกทีมบุกฝรั่งเศสนำเสนอ Country Presentation รอบ 2 มิ.ย.66 เสนอรอบ 3
พร้อมลุ้นฟังผลประเทศเจ้าภาพ “จัดโครงการประชุมเมืองไทย
สร้างเศรษฐกิจไทย” ขยายฐานเพิ่มอุดหนุนเงินธุรกิจไมซ์กลุ่มคอนเวนชั่นขนาด 300-500
คน เตรียมออกแพกเกจใหญ่ 15 ต.ค.นี้
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
“TCEB” เปิดเผยว่า
วางแผนขับเคลื่อนตลาดอุตสาหกรรมไมซ์ต้อนรับปีงบประมาณใหม่ 2566 เริ่มตุลาคม 2565 เป็นต้นไป เดินหน้าพันธกิจระดับประเทศและนานาชาติที่จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อการฟื้นและสร้างเศรษฐกิจไทยในมิติใหม่ให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่
โดยได้เริ่มทำแล้ว 4 เรื่องหลัก คือ
เรื่องที่ 1 ความสำเร็จการจัดแบบจริงและไฮบริดจ์ออนไลน์งาน IT&CMA and CTW
2022 ปีที่ 20
ทีเส็บได้นำเอกชนไทยจับคู่ธุรกิจนำงานต่าง ๆ พร้อมรายได้เข้าประเทศปี 2566 ซึ่งทาง TTG Asia ได้เลือกไทยเป็นฐานหลักการจัดงานเต็มรูปแบบอีกครั้ง
และจากการหารือกับทางเจ้าของงานช่วงกันยายน 2566 ปีหน้าไทยจะยังคงเป็นสถานที่จัดงานนี้ต่อไป
เนื่องจากไทยเป็นฐานใหญ่หรือเมืองหลวงไมซ์เอเชีย
ผนวกกับไทยเป็นจุดศูนย์กลางเครือข่ายการบินสู่อาเซียนและเอเชีย รวมถึงมีบริษัทอินเตอร์ขนาดใหญ่รับจัดงานระดับสากลย้ายฐานจาก
ฮ่องกงและประเทศอื่น ๆ มายังไทยเป็นจำนวนมากเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชีย
ส่วนผลลัพธ์จากงานไทยได้เห็นสัญญาณเชิงบวก
4 เทรนด์ใหม่ เทรนด์แรก-ไทยสามารถดึงงานไมซ์เข้าสู่ประเทศได้มากถึง
สร้างรายได้กว่า 683 ล้านบาท เทรนด์ที่สอง-สร้างเทรนด์ตลาดใหม่ต้องการขยายพื้นที่จัดงานจากเมืองหลักไปยังเมืองรองของไทยจากอีสานที่เข้าร่วมภายใต้โครงการ
ISAN MICE 3 ไมซ์ซิตี้ ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี
เจาะลูกค้าให้หันมาจัดไมซ์ได้ประมาณ 60 กลุ่ม
สร้างรายได้เบื้องต้น 118 ล้านบาท ส่วนภูเก็ต กระบี่
ยังครองใจไมซ์ต่างชาติมากขึ้นกว่าเดิม
เทรนด์ที่สาม-ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางไมซ์
โดยเฉพาะจีนกลุ่ม ฮ่องกง ไต้หวัน กับตลาดเอเชียเรียงตามอันดับคือ อินเดีย
สิงคโปร์ กับทวีปไกล สหรัฐอเมริกา ยุโรป
ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมยังคงเป็นกลุ่มธุรกิจยาและเวชภัณฑ์ ไอทีสารสนเทศ ยานยนต์
ประกันภัย
เทรนด์ที่สี่-ไมซ์ทั่วโลกแสดงความสนใจสถานที่จัดประชุมของไทยได้พัฒนาสู่โลกยุคใหม่หลังโควิด-19 อย่างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และอื่น ๆ
รองรับคนจำนวนมากครั้งละหลักพันถึงหมื่นคนขึ้นไป และการจัดประชุมนอกสถานที่ทางธรรมชาติ
เรื่องที่ 2 ไทยเตรียมต้อนรับการจัดไมซ์ขนาดใหญ่ระดับประเทศและนานาชาติเฉพาะช่วง
3 เดือนหน้า ตุลาคม-ธันวาคม 2565 แต่ละงานมีผู้เข้าร่วมงานหลักพันคนถึง
1 ล้านคน ไม่ต่ำกว่า 7 งาน ได้แก่
งานแรก International
Master Course on Aging Science (IMCAS Asia 2022)
จัดเรียบร้อยแล้วเมื่อ 29 กันยายน – 1 ตุลาคม 2565 ที่กรุงเทพมหานคร
มีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน
งานที่ 2 Food Ingredients Asia 2022 จัดแล้วเช่นกันมีความสำคัญกับอุตสาหกรรมอาหาร สินค้าพลังงาน จัดไปเมื่อ
5 – 7 ตุลาคม 2565 ที่กรุงเทพมหานคร
คาดการณ์จานวนผู้เข้าร่วมงาน 12,865 คน
งานที่ 3 The International Conference on
Family Planning 2022 (ICFP 2022)
การประชุมวิชาการวางแผนครอบครัวนานาชาติ เพื่อหารือด้านสุขภาพอนามัย
และการเจริญพันธุ์เพื่อคุณภาพชีวิตของประชากรโลก ระหว่างวันที่ 14 – 17 พฤศจิกายน
2565 ที่พัทยา จ.ชลบุรี คาดมีผู้เข้าร่วม 5,000 คน แนวโน้มจะสร้างรายได้ 315
ล้านบาท
งานที่ 4 Travel
Blog Exchange Asia 2022 (TBEX Asia 2022) ระหว่าง
15 – 18 พฤศจิกายน 2565 ที่จังหวัดภูเก็ต คาดจะผู้เข้าร่วมงาน
400 คน ทางทีเส็บร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
รวมบล็อกเกอร์ด้านท่องเที่ยวรายการใหญ่สุดแห่งเอเชีย
งานที่ 5 L’Etape Phitsanulok by Tour de France 2022
ระหว่างวันที่ 2 – 4 ธันวาคม 2565 ที่จังหวัดพิษณุโลก
คาดการณ์จานวนผู้เข้าร่วมแข่งขัน 1,500 และจานวนผู้ติดตาม 5,000 คน
เป็นเมกะอีเวนต์ระดับโลก ทีเส็บดึงงานมาจัดในไทยตั้งแต่ 5 ปีก่อน
สนามแรก จังหวัดกระบี่ ปีนี้จัดสนามสามที่ภาคเหนือ
งานที่ 6 Chiangmai
Design Week ระหว่างวันที่ 3-11 ธันวาคม 2565 ที่จังหวัดเชียงใหม่
คาดจะมีผู้เข้าร่วมงาน 80,000 คน ซึ่งทาง
สำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับทีเส็บยกระดับงานให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น
งานที่ 7 BAB 2022 :
The Bangkok Art Biennale 2022 :
เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนาเล่” ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม – 23
กุมภาพันธ์ 2566 ที่กรุงเทพมหานคร คาดการณ์จะผู้เข้าร่วมชมมากที่สุดตลอดงานกว่า 1
ล้านคน โดยมี มูลนิธิ บางกอก อาร์ต เบียนาเล่
ในเครือบริษัท ไทยเบพเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ตลอดงานนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความมหัศจรรย์นิทรรศการแสดงของ
73 ศิลปิน
พร้อมศิลปะชั้นนำทั่วโลกจาก 35 ชาติ ศิลปะไทยและศิลปะร่วมสมัยมากกว่า 200 ผลงาน
เรื่องที่
3 ทีเส็บเดินหน้าเตรียมประมูลเฟสที่
2 เจ้าภาพจัดงาน
Expo
2028 Phuket Thailand
(Specialised Expo 2027/2028) ตามนโยบายนายอนุทิน
ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานคณะกรรมการ ล่าสุดมีมติเห็นชอบเรื่อง
“แนวทางของประเทศไทยในการหาเสียง” กับ 171 ประเทศ
ซึ่งเป็นสมาชิกองค์การนิทรรศการนานาชาติ BIE :Bureau International des Expositions ซึ่งมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศเป็นแกนหลักทำงานร่วมกับ
กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดภูเก็ต และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ
พร้อมทั้งมีไฮไลต์สำคัญขับเคลื่อนร่วมพันธมิตรตามข้อกำหนดของ
BIE อีก 3 ระยะ
คือ
ระยะที่ 1 วันที่
28
พฤศจิกายน 2565 เตรียมนำเสนอความพร้อมของประเทศไทย
หรือ Country
Presentation ครั้งที่ 2
ระยะที่ 2 ระหว่างมกราคม-มิถุนายน 2566 เตรียมจัดทำ Symphosia
หรือการนำเสนอทัศนะการทำงานไปในแนวทางเดียวกันของไทย ที่ฝรั่งเศส
ควบคู่การประชาสัมพันธ์แนวคิดการจัดงาน วางแผนจัด Small Seminar (Future of Life Statement)
ความพร้อมที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานด้วยการสร้างนวัตกรรมความร่วมมือด้วยมิติใหม่เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
เพื่อสร้างประโยชน์ระดับประเทศ ภูมิภาค และประชาคมโลก
ระยะที่ 3 เดือนมิถุนายน
2565 นำเสนอ
Country Presentation
ครั้งที่ 3 การการเตรียมความพร้อมของประเทศไทย
พร้อมรับฟังประกาศผลประเทศที่จะได้รับเลือกให้เป็น “เจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2027/2028
ขณะนี้ทางทีเส็บกับทางจังหวัดเปิดโอกาสให้เด็กเข้ามามีส่วนร่วมงานนี้ด้วย
โดยได้คัดเลือกเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี เป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมนำเสนอในวันที่
28
พฤศจิกายน 2565
เรื่องที่
4 การวางกลยุทธ์กระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศปีงบประมาณใหม่
2566 ชูโครงการ
“ประชุมเมืองไทย สร้างเศรษฐกิจไทย” ต่อยอดจากจุดเริ่มเมื่อปี 2563 จัดโครงการ
“ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” ปี 2564 จัดโครงการ “ประชุมเมืองไทย
ปลอดภัยกว่า”
เนื่องจากเป็นช่วงรณรงค์เรื่องความปลอดภัยด้านสุขอนามัยด้านสาธารณสุขช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
ส่วนรายละเอียดการสนับสนุนภาคธุรกิจไมซ์ปี
2566 ในโครงการ
“ประชุมเมืองไทย สร้างเศรษฐกิจไทย” จะสามารถประกาศได้วันที่ 15 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
เรื่องแพกเกจสนับสนุนเงินอย่างชัดเจน ระหว่าง 15,000-30,000 บาท/งาน
หรือสนับสนุนได้มากกว่านี้ ซึ่งอยู่ระหว่างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและความเหมาะสม
ทีเส็บเตรียมขยายเป้าหมายทำแพกเกจพิเศษ
สนับสนุนเงินกับกลุ่มจัดงานไมซ์ขนาดใหญ่เพื่อตอบโจทย์การสร้างเศรษฐกิจ เพิ่มกลุ่ม
“การประชุมระดับนานาชาติหรือ Convention” จำนวนผู้เข้าร่วมหลักพันคน
เดิมสนับสนุนเงินเฉพาะประชุม สัมมนาในประเทศงานละ 30-50 คน/ครั้ง
เนื่องจากต้องการกระตุ้นและดึงงานด้านพลังงาน อุตสาหกรรมขนาดใหญ่สำคัญ ๆ
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์”ปลุกช้อปแฮปปี้ฉลอง33ปี4โปร4สาขา5สนามบิน
นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา
ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ตลอดเดือนตุลาคม 2565 จัดแคมเปญ “KING
POWER 33rd ANNIVERSARY DELIGHTS & SURPRISES
2022” ฉลองคิง เพาเวอร์ครบ 33 ปี ด้วยคอนเซ็ปต์
HAVE AN ANNIVERSURPRISE TRIP :ทริปปาร์ตี้ แอนนิเวอร์ซารี!!
ช้อปแฮปปี้มีแต่แจก พร้อมดึงดูดนักเดินทางเข้ามาเลือกสินค้ามากมายได้ที่สาขาในเมืองหรือดาวน์ทาวน์
รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต และศรีวารี เปิดเฉพาะเสาร์-อาทิตย์
และสาขาหลัก 5 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่
เป็นแคมเปญคุ้มค่าที่สุดแห่งปีที่
คิง เพาเวอร์ นำมามอบให้นักเดินทางที่มีไฟลต์บิน หรือหากไม่มี ไฟลต์บินก็ช้อปปิ้งสินค้าได้เช่นเดียวกันด้วยบริการ
“ส่งถึงบ้าน : Home Delivery” ตลอดเดือนตุลาคม 2565
นายอภิเชษฐ์ ย้ำว่า แคมเปญ KING POWER 33rd ANNIVERSARY DELIGHTS & SURPRISES 2022 เป็นซิกเนเจอร์แห่งปี มีกระแสตอบรับที่ดีทุกปี
เพราะได้ดีไซน์เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่าง คิง เพาเวอร์ กับลูกค้าได้ทั้ง เซล
โปรโมชั่น กิจกรรมบันเทิง สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าชาวจีนช่วงที่ยังไม่สามารถเดินทางได้จนถึงปัจจุบัน
ด้วยกลยุทธ์บริหารการสื่อสารในรูปแบบการถ่ายทอดสดไปยังแพลตฟอร์ม WEIBO กับ TAIHAITAO ซึ่งเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้า
คิง เพาเวอร์ ในสาธารณรัฐประชาชนจีน
คาดการณ์การจัดกิจกรรมช้อป แฮปปี้ มีแต่แจก ฉลองคิง เพาเวอร์ ครบ 33
ปี ครั้งนี้จะมีการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งการเข้าร่วมงาน ความสัมพันธ์ระหว่าง คิง เพาเวอร์ กับลูกค้าสนใจแคมเปญที่ดีไซน์ให้เข้าถึงทั้งลูกค้าครอบคลุมมากขึ้นนั่นเอง
ปี
2565 คิง เพาเวอร์เตรียมกิจกรรมปลุกบรรยากาศช้อปปิ้งให้คึกคักขึ้นอีกครั้ง
กระตุ้นความรู้สึกลูกค้าสนุกกับการช้อปปิ้ง ตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกแบบ โดยเฉพาะ กลุ่มที่ 1มิลเลนเนียล/คนรุ่นใหม่ มีกำลังซื้อสูงมีแนวโน้มออกเดินทางท่องเที่ยวช่วงปลายปีนี้
แล้วบางส่วนในกลุ่มนี้เป็นฐานแฟนคลับศิลปินนักแสดง ดังนั้นจึงชวนมาร่วมฉลองโอกาสพิเศษได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ โดยได้พาเหรดศิลปินดารา
นักร้องมามอบความสุขผ่านการถ่ายทอดสดและพบปะแฟนคลับตลอดทั้งเดือนตุลาคมนี้
ไฮไลต์กิจกรรมฉลองใหญ่วันที่
18 ตุลาคม 2565 เตรียมพาเหรดศิลปินชื่อดัง
พร้อมมอบเซอร์ไพรส์เปิดตัวศิลปินแอมบาสเดอร์ที่จะร่วมสร้างความสุขให้ลูกค้า คิง เพาเวอร์ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
ขณะเดียวกันได้จัด “โปรโมชั่น”
เต็มรูปแบบมอบความคุ้มค่าให้นักช้อป นักเดินทางแฮปปี้ มากถึง 4 ต่อ ที่คิง เพาเวอร์ ในเมือง/ดาวน์ทาวน์ทั้ง 4 สาขา
เริ่มตั้งแต่วันนี้ - 31 ตุลาคม 2565 เปิดให้ช้อปแฮปปี้มีแต่แจกดังนี้
โปรโมชั่นแรก
“แฮปปี้กับคูปองส่วนลดที่แจกฟรีทุกวัน” ตั้งแต่วันนี้ – 17 ตุลาคม 2565 เมื่อลงทะเบียนช้อปปิ้งรับทันที คูปองส่วนลด 2,000 บาท
สำหรับการช้อป 10,000 บาทขึ้นไป และคูปองส่วนลด 5,000 บาท
สำหรับการช้อป 20,000 บาทขึ้นไป
โปรโมชั่นที่
2 “แฮปปี้กับการร่วมลุ้นรางรางวัล” ตั้งแต่วันนี้- 31
ตุลาคม 2565 เมื่อช้อปครบทุก 10,000 บาทสุทธิ รับคูปองลุ้นรางวัลรวมกว่า 3.3 ล้านบาท เช่น
รับกะรัตรีวอร์ดมูลค่ารวม 2 ล้านบาท หรือทริปท่องเที่ยวต่างประเทศ
และสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำมากมาย
โปรโมชั่นที่
3 “แฮปปี้มากขึ้น
เมื่อช้อปครบทุก 20,000 บาทสุทธิ” ตั้งแต่วันนี้ – 17 ตุลาคม 2565รับสิทธิ์ลุ้นคูปองสะสมภาพ เมื่อสะสมครบตามเงื่อนไขแลกรับ Gift
Voucher สูงสุด 3,300 บาท
โปรโมชั่นที่
4 “แฮปปี้รับตั๋วบินฟรี”
เมื่อช้อปครบ 50,000 บาทสุทธิขึ้นไป ตั้งแต่ 29 กันยายน
- 31 ตุลาคม 2565
รับฟรีตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ หรือ ภูเก็ต-สิงคโปร์ 1 ที่นั่ง หรือเมื่อช้อปครบ 150,000 บาทสุทธิขึ้นไป
รับฟรีตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เกาหลีใต้ 1 ที่นั่ง
ข่าวที่ 2 KingPowerDelights&Surprisesครบ33ปีมีแต่แจกตลอดต.ค.นี้
คิง
เพาเวอร์ แจกตั๋วเครื่องบินฟรีทุกวัน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ หรือ
กรุงเทพฯ-เกาหลี ยังไม่พอ ลุ้นรางวัลรวมกว่า 3.3 ล้านบาท
แถมเอาใจนักช้อปกับโปรโมชั่นแห่งปี
แจกฟรี! คูปองส่วนลด 2 ใบ รวมมูลค่า 7,000 บาท พร้อมรับ Gift Voucher สูงสุด 3,300 บาท เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไข
ส่วนใครที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก
คิง เพาเวอร์ สามารถสมัครสมาชิก Navy ฟรี! พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย
พบมหกรรมจัดเต็มกับกิจกรรมสุดเซอร์ไพรส์ฉลองเดือนเกิด
ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2565
ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ที่
คิง เพาเวอร์ ศรีวารี
ข่าวที่ 3 ช้อปด่วน!!คิงเพาเวอร์สุดปัง3สเตชั่นมิวสิค/เซเลเบรชั่น/ลัคกี้
คิง เพาเวอร์ ชวนช้อปฟิน ชมฟรี
มีแต่แจก พร้อมสร้างความสนุกทุกการเดินทาง เลือกได้ถึง 3 สเตชั่น
สเตชั่นแรก บริเวณ “MUSIC STATION!” LIVE PARTY! กับคอนเสิร์ตสุดมันส์
ทุกวันเสาร์ เวลา 18:30 น. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องเเอดไลน์ @Kingpower เพื่อเข้าพื้นที่กิจกรรมบริเวณ
CROWN ATRIUM เเละ CROWN MEZZANINE
สเตชั่นที่ 2 CELEBRATION STATION!
LIVE CELEBRATION!แฮปปี้ ปาร์ตี้สุดมันส์ วันเกิด คิง เพาเวอร์
วันอังคารที่ 18 ต.ค.นี้ เวลา 17:30 น. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องเเอดไลน์ @Kingpower เพื่อเข้าพื้นที่กิจกรรมบริเวณ
CROWN MEZZANINE (วันที่ 18 ต.ค. 65
ไม่สามารถเข้าพื้นที่บริเวณ CROWN ATRIUM ได้เนื่องจากเป็นพื้นที่ของสื่อมวลชน)
สเตชั่นที่ 3
LUCKY STATION! แค่มาช้อปก็แฮปปี้ ลักกี้กับกิจกรรมมากมาย
พิเศษ!
ทุกวันตลอดตุลาคม 2565
กิจกรรมที่ 1 : สแนป เดอะ โมเมนต์ สเตชั่น กับตู้ Photoautomat สุดฮิต
ร่วมกิจกรรมฟรี! เพียงเเอดไลน์ @Kingpower เเละมียอดช้อปสินค้าครบ
10,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ เฉพาะ! ทุกเสาร์-อาทิตย์ และ 18-24
ต.ค. 65
กิจกรรมที่ 2 : สแน็ก สเตชั่น รับฟรี! อาหารทานเล่น เมื่อแสดงสถานะการเป็นสมาชิก คิง
เพาเวอร์ ผ่านไลน์เฟรนด์ คิง เพาเวอร์ (กรณียังไม่เป็นสมาชิก
คิง เพาเวอร์ สมัครง่าย! ผ่านไลน์ @Kingpower เพื่อรับสิทธิ์)
เฉพาะ! 18-24 ต.ค. 65
กิจกรรมที่ 3 : สุ่มตัก สเตชั่น ลุ้นตักสินค้าสุดเซอร์ไพรส์มากมาย ร่วมกิจกรรมฟรี!
เพียงเเอดไลน์ @Kingpower เเละเมื่อช้อปสินค้าครบ 10,000
บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ เพื่อรับสิทธิ์ตักสินค้าฟรี 1 ตัก เล่นได้สูงสุด 3 ตัก/ท่าน/วัน
ข่าวที่ 4 เปิดโผใหม่ททท.โยกผู้บริหารคุมนอก-ในประเทศ14เก้าอี้ต.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ลงนามคำสั่งโยกย้ายผู้บริหารดูแลทั้งต่างประเทศและในประเทศ
ต้อนรับปีงบประมาณใหม่ 2566
เริ่มและมีผลตั้งแต่
1 ตุลาคม
2565 เป็นต้นไป
ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ รวมทั้งหมด
14 ตำแหน่ง
ประกอบด้วย
โยกย้ายผู้บริหารดูแลตลาดต่างประเทศ
รวม 4 ตำแหน่ง
ดังนี้
1.นายฉัททันต์
กุญชร ณ อยุธยา เป็นรองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด
(อดีตเคยเป็นรองฝ่ายนี้มาก่อน) จากเดิมเป็นรองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป
แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา
2.นายศิริปกรณ์
เชี่ยวสมุทร เป็นรองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา
ตะวันออกกลาง และอเมริกา จากเดิมเป็นรองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด
3.นางฐิติพร
มณีเนตร เป็นผู้อำนวยการภูมิภาคอเมริกา ด้านยุโรป
แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา จากเดิมเป็นผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป แอฟริกา
ตะวันออกกลาง และอเมริกา ด้านยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา
4.นายธีระศิลป์
เทเพนทร์ เป็นผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป แอฟริกา
ตะวันออกกลาง และอเมริกา ด้านยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา จากเดิมเป็น
เป็นผู้อำนวยการภูมิภาคอเมริกา ด้านยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา
โยกย้ายตำแหน่งผู้บริหารภายในประเทศ
โดยได้สลับผู้อำนวยการด้านตลาดในประเทศทั้ง 5 ภูมิภาค
และตำแหน่งอื่น ๆ รวม 10 ตำแหน่ง ดังนี้
5.นายสมชาย
ชมภูน้อย เป็นผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ ด้านตลาดในประเทศ
จากเดิมเป็นผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
6.นางสาวสรัสวดี
อาสาสรรพกิจ เป็นผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ด้านตลาดในประเทศ จากเดิมเป็นผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ
7.นางสาวภัทรอนงค์
ณ เชียงใหม่ เป็นผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ
ด้านตลาดในประเทศ จากเดิมเป็นผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้
8.นายอัครวิชย์
เทพาสิต เป็นผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก
ด้านตลาดในประเทศ จากเดิมเป็นผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ ททท.
9.นายกิตติพงษ์
ประพัฒน์ทอง เป็นผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง ด้านตลาดในประเทศ
จากเดิมเป็นผู้อำนวยการกลุ่มงานอำนวยการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา ด้านดิจิทัล
วิจัย และพัฒนา
10.นางจิระวดี
คุณทรัพย์ เป็นผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ
หน่วยงานผู้ว่าการ จากเดิมเป็น ผู้อำนวยการกองเลขานุการและวิเทศสัมพันธ์ สำนักผู้ว่าการ หน่วยงานผู้ว่าการ
11.นางสาวจุฑาทิพย์
เจริญลาภ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ด้านบริหาร
จากเดิมเป็น ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง ด้านตลาดในประเทศ
12.นายนรินทร์
ทิจะยัง เป็นผู้อำนวยการฝ่ายดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ
ด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา จากเดิมเป็น ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทั่วไป
13.นายบัญญา
กาฬสุวรรณ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทั่วไป ด้านบริหาร
จากเดิมเป็นผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ด้านบริหาร
14.นายณัฐ รุฑสูตร
เป็นผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม ด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
จากเดิมเป็นผู้อำนวยการกองส่งเสริมกิจกรรม ฝ่ายกิจกรรม
ด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
ข่าวที่ 5 TCEB เปิดหลังโควิด-19ไมซ์ไทยเตรียมรับ5เทรนด์ตลาดโลก
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดหลังสถานการณ์โควิด-19 ไมซ์จะได้มีโอกาสต้อนรับ
5 เทรนด์
เทรนด์ที่ 1 Health – การให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพอนามัย
และสุขลักษณะของการเดินทางในทุกกิจกรรม ซึ่งความใส่ใจในเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ
โดยเฉพาะโรคระบาดในยุคนี้ที่ไม่ได้มีแต่เฉพาะโควิด-19 เท่านั้น
แต่ยังมีอีกหลายโรคที่น่ากังวลเช่นกัน
เทรนด์ที่ 2 Experience – คุณค่าที่ได้รับนอกเหนือจากการเข้าร่วมกิจกรรมหรือการท่องเที่ยว
ที่ผู้บริโภคคาดหวังประสบการณ์ใหม่ๆ ที่สร้างความประทับใจมากขึ้น
และคุ้มค่ากับการลงทุนมากขึ้นกว่าในอดีต
เทรนด์ที่ 3 Green – การรักษาและใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยเฉพาะองค์กรและบริษัทในยุโรปซึ่งมีสัดส่วนถึง
70% ให้ความสำคัญกับการจัดงานที่ไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม
อย่างการจัดงานที่มีการคำนวน Carbon Footprint การจัดอาหารที่ไม่เป็น
Food Waste หรือเหลือทิ้ง หรือเน้นการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น
เทรนด์ที่ 4 Technology – เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคการแพร่ระบาดของโควิด-19
ที่จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์
และปัจจุบัน Technology ก็ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์แล้ว
ซึ่งคุณจิรุตถ์ยืนยันว่า Technology ไม่ได้เข้ามา Disrupt
อุตสาหกรรมแน่นอน เนื่องจากคนก็ต้องเดินทางมาพบหน้ากันเช่นเดิม แต่ Technology
จะเข้ามาช่วยสร้างความสะดวกให้เกิดขึ้นมากกว่า
เทรนด์ที่ 5 For All – เป็นเทรนด์ของสถานที่ประชุม
ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก และบริการต่างๆ ที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน ทุกกลุ่ม เช่น
การสร้างทางลาดสำหรับรถวีลแชร์ การสร้างห้องละหมาดสำหรับชาวมุสลิม
การมีห้องน้ำที่ใส่ใจถึงกลุ่มคน LGBTQ+ หรือแม้แต่การมีห้องบรรเทาความเครียดสำหรับคนสมาธิสั้น
และอื่น ๆ
ข่าวที่
6 บางจากมอบทุนเด็กประถม-ป.ตรีรอบโรงกลั่นปี’65กว่า4ล้าน
นางกลอยตา
ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานมอบทุนการศึกษาในโครงการทุนการศึกษาเยาวชนบางจาก
ประจำปี 2565 ซึ่งบางจากฯ จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 เพื่อมอบทุนแก่เยาวชในชุมชนรอบโรงกลั่นบางจากและโรงเรียนในโครงการอาหารกลางวันตั้งแต่ระดับประถมศึกษา-ปริญญาตรี
เป็นโครงการส่งเสริมด้านการศึกษาของเยาวชนที่มีความประพฤติดี
รักการเรียน แต่ยังขาดแคลนทุนทรัพย์ และช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง เมื่อเร็ว
ๆ นี้บางจาก สนับสนุนทุนการศึกษาให้เยาวชนจากโรงเรียนและชุมชน 33 แห่ง จำนวน 850
ทุน รวมทั้งสิ้นกว่า 4 ล้านบาท ที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก สุขุมวิท 64
ทั้งนี้บริษัท
บางจากฯ ได้มอบทุนการศึกษาให้เยาวชนรอบโรงกลั่นบางจากและโรงเรียน
ในโครงการอาหารกลางวัน มาตั้งแต่ปี 2548-2565 มูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 40 ล้านบาท
นับเป็นการให้ทุนทางปัญญาที่มีส่วนร่วมช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไป
ช่วงที่ 2 สัปดาห์ทัวร์บุญต้อนรับเทศกาล “ออกพรรษา”
ตามพื้นที่ใกล้กรุงเทพฯ ใน 3 วัด 3 จังหวัดสัมผัสประเพณีที่มีความต่างกันทั้งงานรับโยนบัว
ตักบาตรเทโว สมุทรปราการ สระบุรี และอุทัยธานี แล้วรักษาสุขภาพ “5วิธีดูแลจิตใจช่วงน้ำท่วม” และข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “บินไทยดันฝ่ายคาร์โก้เปิดคอร์สสอน
2 แพกเกจ” ราคาเริ่มต้น 790 บาท/คน/วัน
ข่าวที่สอง “ทอท.ร่วมเวที ACI”ชี้เป้าธุรกิจสนามบันทั่วโลกรับมือเทรนด์ใหม่ปี’66
ท่องเที่ยว-ทัวร์บุญออกพรรษาใกล้กรุง“สมุทรปราการ-สระบุรี-อุทัยธานี”
นักท่องเที่ยวสายศรัทธา ออกเดินทางได้ร่วมเทศกาล
“ออกพรรษา 2565” ปีนี้จังหวัดต่าง ๆ รอบกรุงเทพฯ ชวนทัวร์บุญ 10 ตุลาคม 2565 “งานประเพณีรับบัว” วัดบางพลีใหญ่ใน จ.สมุทรปราการ
“งานตักบาตรเทโว 2565” วัดสังกัสรัตนคีรี จ.อุทัยธานี “ตักบาตรข้าวต้มลูกโยน 2565”
วัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี
ทัวร์บุญแรก “เที่ยวงานประเพณีรับบัว 2565” สมุทรปราการ วัดบางพลีใหญ่ใน เริ่มมาตั้งแต่ 4-11 ตุลาคม 2565 งานประเพณีรับบัวจัดขึ้นทุกวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน
11 ของทุกปี วันโยนบัว คือ วันที่ 9 ตุลาคม 2565 เวลา 07.00 น.
ภายในงานจะมีขบวนแห่หลวงพ่อโตทางรถ
และ ขบวนแห่หลวงพ่อโตทางน้ำ เป็นการอัญเชิญหลวงพ่อโตองค์จำลอง จากวัดบางพลีใหญ่
มาลงเรือตกแต่งอย่างสวยงามด้วยดอกไม้ และล่องไปตามคลองบางพลี
เพื่อให้ชาวบ้านได้สักการะ โดยมีความเชื่อว่า
หากอธิษฐานแล้วโยนบัวลงเรือที่ประดิษฐานหลวงพ่อโตจะทำให้คำอธิษฐานประสบความสำเร็จ
ทัวร์บุญจุดที่ 2 ตักบาตรเทโว 2565 วัดสังกัสรัตนคีรี อุทัยธานี ระหว่างวันที่ 10-11 ตุลาคม 2565
เป็นประเพณีสำคัญของจังหวัด ภายในงานจัดให้มีพระสงฆ์กว่า
500 รูป เดินลงมาตามบันได 449 ขั้น จากมณฑปบนยอดเขาสะแกกรัง
มาสู่ลานวัดสังกัสรัตนคีรี เพื่อมารับบิณฑบาตจากสายบุญทุกคน
ไฮไลต์วันที่
11 ตุลาคม 2565 พระสงฆ์จะเริ่มบิณฑบาต 9 โมงเช้า มีกิจกรรมภายในงานอื่น ๆ คือ
ชมการแสดง แสง เสียง สุดอลังการควบคู่กันไปด้วย
ทัวร์บุญจุดที่ 3 ประเพณีตักบาตรข้าวต้มลูกโยน 2565 วัดพระพุทธฉาย สระบุรี วันที่ 11 ตุลาคม 2565 จะจัดขึ้นใน วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์ความสุขกับประเพณีตักบาตรข้าวต้มลูกโยนที่สืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน
ภายในงานวันที่
11 ตุลาคม นี้ จะมี ขบวนแห่เฉลิมพระเกียรติ ชมขบวนแห่ข้าวต้มลูกโยน
ขบวนการแสดงขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมพื้นบ้าน และอื่น ๆ ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนอนุโมทนาบุญร่วมกันอย่างยิ่งใหญ่
ห้ามพลาด
ทัวร์บุญงานออกพรรษา ประจำปี 2565 ได้ทั้ง 3 วัด 3 จังหวัด ใกล้กรุงเทพฯ
เที่ยวเพิ่มประสบการณ์ความสุขไปด้วยกัน
สุขภาพ
-5 วิธีดูแลจิตใจผู้ประสบภัยช่วงน้ำท่วมบรรเทาความเครียดได้
สถานการณ์น้ำท่วมจะเรียกว่าเป็นปัญหาระดับชาติก็ไม่ผิดนัก
เพราะนอกจากจะสร้างความเสียหายในวงกว้างแล้ว
ภาวะน้ำท่วมยังพาเอาจิตใจของผู้ประสบภัยเหี่ยวเฉาตามไปด้วย
1.
ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีอะไรดีไปกว่าการยอมรับความเป็นจริง
พยายามทำความเข้าใจว่าทุกสิ่งได้เกิดขึ้นแล้ว และไม่ใช่แค่เกิดกับเราเท่านั้น
แต่เรายังมีผู้ร่วมชะตากรรมอีกนับไม่ถ้วน ซึ่ง ณ
จุดนี้เราเข้าใจค่ะว่าอาจต้องใช้เวลานานสักหน่อยที่จะยอมรับสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นได้
ทว่าให้เวลาตัวเองรู้สึกท้อแค่เพียงช่วงสั้น ๆ เท่านั้นก็พอ อย่าลืมว่าชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ
และเราต้องเดินหน้าต่อไปอย่างเข้มแข็งที่สุด
2.
ตั้งสติ จัดลำดับความสำคัญของชีวิต -พยายามนั่งพักให้จิตใจสงบนิ่ง
แล้วรวบรวมสติมองปัญหาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง จากนั้นจึงจัดลำดับความสำคัญของปัญหา
เช่น แก้ปัญหาเฉพาะหน้า การอยู่ การกิน การนอน เรื่องการขับถ่าย
รวมทั้งการป้องกันโรคและสัตว์มีพิษ เป็นต้น
3.
หมั่นพูดคุยกับคนรอบข้าง
-การได้พูดคุยกับคนรอบข้างก็เป็นการระบายความรู้สึกที่อัดแน่นในใจเราออกไปได้ค่อนข้างมาก
อีกทั้งยังช่วยให้เราไม่รู้สึกโดดเดี่ยวจนเกินไปด้วย
หนำซ้ำยังอาจเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน
โดยเฉพาะยิ่งเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนบ้านที่สนิทชิดเชื้อ
ก็อย่าลืมถามไถ่ทักทายกันบ่อย ๆ
4.
พยายามเข้าใจคนรอบข้างด้วย ในสถานการณ์วิกฤตอย่างที่เป็นอยู่
บางคนอาจเครียดจนมีพฤติกรรมที่แปลกไปจากเดิม หรือเด็ก ๆ
อาจสติแตกด้วยความหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งหากคนรอบข้างของเราเป็น
ก็อย่ามีอารมณ์ร่วมตามไปด้วยเลยดีกว่า
แต่ขอให้พยายามทำความเข้าใจและให้อภัยซึ่งกันและกัน ไม่ทับถม
ไม่ทำร้ายกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปอีก
5.ดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างดี เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะหากร่างกายเราป่วย
ความอ่อนแอก็อาจจะเล่นงานเราได้ง่าย
ดังนั้นอย่าลืมพักผ่อนและกินอาหารที่เป็นประโยชน์
เพื่อให้เรามีแรงลุกขึ้นสู้ในวันต่อไป
ในกรณีที่มีความทุกข์หนักหนาสาหัสมาก
แนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากจิตแพทย์โดยทันที
หรือหากสังเกตเห็นว่าคนรอบข้างมีอาการหนัก
ก็ต้องรีบขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร่งด่วน
ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก –บินไทยทำคาร์โก้อะคาเด2แพกเกจดึงนักศึกษาเริ่ม790บาท
ฝ่ายบริการคลังสินค้าและไปรษณียภัณฑ์
(คาร์โก้) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ขณะนี้ได้เปิดโครงการ THAI
Cargo Academy หารายได้จาก 2 แพกเกจ โดยเชิญชวนศึกษาดูงาน
ฝึกอบรมและเรียนรู้ด้านการขนส่งสินค้าและไปรษณีย์ภัณฑ์ทางอากาศ ที่ อาคารคลังสินค้าภายในประเทศ
สนามบินสุวรรณภูมิ
จัดทำเป็นแพกเกจ บรรยายโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ
การฝึกทักษะการปฏิบัติงานเสมือนจริง และเข้าเยี่ยมชมการปฏิบัติงานจริง
เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และนำไปประยุกต์ใช้ หรือก่อนการก้าวเข้าไปทำงานในอนาคต
ทั้งนี้ การเข้าอบรมดังกล่าวจะใช้เวลา 1 วัน โดยมีค่าบริการ ดังนี้
แพ็กเกจที่ 1 ราคา 790 บาท/คน
แพ็กเกจที่ 2 ราคา 990
บาทต่อท่าน (ผู้เข้าอบรมจะได้เข้าเยี่ยมชมโรงเก็บเครื่องบิน (Hangar) ของฝ่ายช่าง การบินไทย เพิ่มเติมด้วย)
ทั้ง
2 แพ็กเกจ รวมค่าอาหารว่าง อาหารกลางวัน
และเครื่องดื่ม ตลอดจนเอกสารประกอบการบรรยาย ค่าธรรมเนียมเข้าเขตปลอดอากร
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และใบรับรองการปฏิบัติงานแล้ว ผู้สนใจติดต่อได้ที่อีเมล bkkdxa4allstaff@thaiairways.com
เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันการขนส่งสินค้าทางอากาศมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
และสร้างรายได้ให้ประเทศเป็นอย่างมาก อีกทั้งสถาบันการศึกษาต่าง ๆ
ได้บรรจุการขนส่งสินค้าทางอากาศเป็นหลักสูตรของสถาบันมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นฝ่ายคาร์โก้ การบินไทย จึงเปิดโอกาสให้ผู้สนใจ
ทั้งนิสิต นักศึกษา เจ้าหน้าที่หรือตัวแทนการขายและขนส่งสินค้าทางอากาศ
และประชาชนทั่วไป เข้ามาเรียนรู้ถึงกระบวนการทำงานของการขนส่งสินค้าทางอากาศในสถานที่จริง
ทั้งการนำเข้าและส่งออก ทั้งเสมือนจริงและเยี่ยมชมสถานที่จริง
ข่าวที่สอง
-ทอท.ร่วมACIชี้เป้าธุรกิจสนามบินปรับแผนรับเทรนด์ใหม่ปี’66
นางสาวทิพย์ธิดา กสิวัตร ผู้อำนวยการส่วนมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย
ฝ่ายมาตรฐานและควบคุมคุณภาพการรักษาความปลอดภัยกิจการการบิน บริษัท ท่าอากาศยานไทย
จำกัด (มหาชน) “AOT” เปิดเผยว่า ในฐานะกรรมการการรักษาความปลอดภัยการบินระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้เข้าร่วมเมื่อเร็ว
ๆ นี้ ในการประชุมระดับนานาชาติงาน ACI Asia-Pacific Regional
Aviation Security Committee ครั้งที่ 29 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลดูไบ เฟสติวัล ซิตี้ เมืองดูไบ
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ระหว่างการประชุมได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน
รวมถึงพิจารณาประเด็นเร่งด่วนเกี่ยวกับการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ
ของธุรกิจการบินของท่าอากาศยานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อหาข้อสรุปและแนวทางปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัยเดียวกันทั่วทั้งภูมิภาค
โดยเฉพาะการหารือถึงแนวทางดำเนินงานรองรับเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นของสนามบินต่าง
ๆ ทั่วโลก เช่น 1.สถานการณ์การบินพลเรือนที่มีอากาศยานไร้คนขับหรือ
Drone เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ (Drone-related
Disruptions to Civil Aviation) 2.การขาดแคลนกำลังคน (Manpower
Shortage) จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 3.นวัตกรรมการคัดกรองผู้โดยสารในรูปแบบดิจิทัลเพื่อความปลอดภัยทางด้านการบิน
(Innovation in Screening Technology)
เนื้อหาจากการประชุมครั้งนี้ทาง
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
จะได้นำรายละเอียดมาเผยแพร่ถ่ายทอดให้ฝ่ายต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องในองค์กรเตรียมความพร้อมที่จะรองรับเทรนด์ใหม่
เพื่อยกระดับการพัฒนาสนามบินนานาชาติที่อยู่ในความดูแลทั่วประเทศทั้ง 6 แห่ง
ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ แม่ฟ้าหลวงเชียงราย
เพิ่มบริการให้สอดคล้องตามมาตรฐานสากลต่อไป
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00
น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น