TCEBจัดทัพไมซ์ใหม่ปี’66โหมขายธีมMICE to Meet You
ทีเส็บ4ภาคลุยกลยุทธ์ขายพ่วงDuel Cityเมืองหลัก+รอง
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen
รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”
TCEB เปิดแผนปี’66 บูมธีมขาย MICE to Meet You เดินเครื่อง 4 ยุทธศาสตร์ไมซ์ชาติ “ดึงงานโลกมาจัดในไทย-เพิ่มขีดความสามารถทีเส็บ4ภูมิภาค-ชูนวัตกรรมสร้างสรรค์ธุรกิจ-ปักธงทำไมซ์สู่ความยั่งยืนลดโลกร้อน ลดคาร์บอน ลดก๊าซเรือนกระจก” เร่งทีเส็บภาคลุย 2 พันธมิตร สร้างโปรดักซ์ใหม่ในพื้นที่+สร้างจุดขาย Duel City ดันซอฟท์เพาเวอร์ชูเทศกาลท้องถิ่นขึ้นชั้นงานโลก” ควบคู่ต้องใช้นวัตกรรมกับไฮเทคโนโลยีสร้างมูลค่าเพิ่มบูม WINNOVATION ปั้น MICE STATR UP เพิ่มอีก 10-15 %
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์
รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า
ได้วางกลยุทธ์ปี 2566 ชูจุดขายธีม MICE to Meet You คู่ขนานกับแผนยุทธศาสตร์ไมซ์ 5 ปีหน้า 2566-2570 เน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วย 4 ยุทธศาสตร์หลัก
คือ 1.ดึงงานระดับนานาชาติและโลก มาจัดมาในไทย 2.สร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันระดับพื้นที่ภายในโครงการ TCEB 4 ภูมิภาค โดยมีสำนักงานกระจายอยู่แต่ละภาค ภาคกลาง+ตะวันออก
ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน 3.การใช้นวัตกรรมสร้างสรรค์ธุรกิจ
4.ยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์สู่ความยั่งยืน Sustainbility มุ่งทำโครงการลดโลกร้อน
วัดปริมาณการจัดงานที่ต้องลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ภายนอก
คาร์บอนฟุตปริ๊นท์ ก๊าซเรือนกระจก
ขับเคลื่อน TCEB 4 ภูมิภาค มีไฮไลต์การทำโครงการ “ไมซ์ชุมชน” เปิดเส้นทางสายไมซ์ นำปราชญ์ท้องถิ่นมาร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลก สอดรับกับ “เจ้าของกิจการรุ่นใหม่” ในไทยและทั่วโลกจะเป็นคนสมัยใหม่ยุคมิลเลนเนียลเข้ามาบริหารธุรกิจตั้งแต่ระดับผู้จัดการไปจนถึงเจ้าของ มีพฤติกรรมแนวคิดแตกต่างจากคนรุ่นพ่อแม่ยุคเบบี้บูม ยุคนี้นิยมให้รางวัลพนักงานหรือ Incentive ทางทีเส็บจึงต้องรณรงค์ทางผู้ผลิตสินค้าหรือซัพพลายไซซ์เร่งสร้างโดยเร็ว 2 เรื่องหลัก
เรื่องที่โปรดักซ์ใหม่ ๆ
โดยเฉพาะ “การเปิดใหม่เส้นทางไมซ์”
ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในห้องประชุมสี่เหลี่ยมอีกต่อไป อาจจะใช้พื้นที่โล่งกว้าง
ในชุมชน และอื่น ๆ เรื่อยไปจนถึงการคัดโปรดักซ์เทรนด์ใหม่จังหวัดเมืองรอง
เพื่อเพิ่มรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจเข้าพื้นที่ได้มากขึ้น
โดยมีเส้นทาง 7 Themes Plus ได้เพิ่มใหม่ 2 เส้นทาง ได้แก่ 1.เส้นทางไมซ์เพื่อสุขภาพ เช่น จันทบุรี มีสปาทราย 2.เส้นทางไมซ์บนเรือสำราญซึ่งตลาดกลุ่มองค์กรมีเทรนด์ความต้องการสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนใหญ่จะพักค้างคืนบนเรือแล้วแวะลงตามท่าเรือเมืองท่องเที่ยวหลักของไทย ทางทีเส็บได้จัดเตรียมชุมชนซึ่งมีสินค้าพร้อมขายไว้ต้อนรับด้วย
เรื่องที่ 2 ปักหมุดการขายไมซ์แบบจับคู่เมืองหรือ Duel City ไปจัดงานในเมืองหลักเดินทางเที่ยวเมืองรอง ซึ่งเป็น
เมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างสนามบินแล้วเชื่อมการเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่น ๆ เช่น สงขลา ไปต่อ นครศรีธรรมราช เชียงใหม่ไปต่อลำพูนหรือเชียงราย สุโขทัยไปต่อน่าน และเมืองอื่น ๆ ตามนโยบายรัฐบาลประกาศเมืองรองปี 2566 ทีเส็บจะคัดเลือกเมืองรองมาขายในตลาดไมซ์ ตอนนี้คัด “โปรดักซ์ พรีเมี่ยม” ซึ่งขณะนี้ทีเส็บจับมือกับสมาพันธุ์ SME ซึ่งมีเครือข่ายสมาชิกทั่วประเทศกว่า 1 แสนราย เพื่อมาประชาสัมพันธ์ขายให้ผู้จัดงานองค์กรทั้งรัฐและเอกชน ซึ่งสามารถดีไซน์สินค้ามาใช้แจกในโอกาสพิเศษ เป็นรางวัลแจกพนักงาน ของขวัญปีใหม่ และของขวัญเทศกาลต่าง ๆ
นางศุภวรรณ
กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2566 ทีเส็บ 4 ภาค จะต้องเพิ่มความเข้มข้นการทำงานเชิงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น
ภาครัฐ เอกชน ด้วย 2 เรื่องใหญ่ ได้แก่ เรื่องที่ 1 สำนักงานทีเส็บภาคจะต้องจับมือกับทุกองค์กรในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีทั้ง หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สมาคมท่องเที่ยวจังหวัด/ภาค
สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สถาบันการศึกษาหลัก ๆ จะเป็นมหาวิทยาลัยใน 10
ไมซ์ ซิตี้
ควบคู่กับเมืองใกล้เคียงในแต่ละคลัสเตอร์ พุ่งเป้าหมายการ
“จัดไมซ์อย่างยั่งยืน” โดยมีข้อกำหนดการจัดงานให้อยู่ในเกณฑ์ 25 ข้อ ซึ่งจะต้องลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงให้ได้มากที่สุด เตรียมนำร่องแห่งแรกเรื่องการจัดงานไมซ์ยั่งยืนทั้งกิจกรรมและสถานที่จัดงาน
สัปดาห์ที่ 15 ตุลาคม 2565 ที่หัวหิน
ประจวบคีรีขันธ์
เรื่องที่ 2 วางแผนยกระดับเทศกาลในแต่ละเมืองให้โดดเด่นให้เป็นเทศกาลระดับประเทศและนานาชาติ National & International Festiation จากเดิมเป็นเพียงเทศกาลระดับท้องถิ่น Local Festival เท่านั้น สามารถสร้าง “แบรนด์+ภาพลักษณ์พื้นที่” เช่น เชียงใหม่ เพิ่งได้รับการประกาศจากสหรัฐอเมริกาให้เป็น “แชมป์เมืองเทศกาลโลก” ซึ่งเป็นต้นแบบการทำงานร่วมกันของทีเส็บกับองค์กรภายในพื้นที่ และชุมชน รวมทั้งยังได้เสนองานเทศกาลแห่เทียน ประเภทพาเหรดเข้าไปด้วย ได้รับรางวัลอันดับที่ 3 ของโลกเช่นกัน รางวัลจะเป็นแรงจูงใจให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีพลัง
นางศุภวรรณ กล่าวเพิ่มว่า ทีเส็บมีส่วนผลักดัน “สร้างจุดขายไมซ์ ซอฟท์ เพาเวอร์” เพื่อดึงดูดตลาดทั่วโลกเลือกมาจัดงานในไทย ส่วนใหญ่จะอยู่ใน 7 Themes MICE เช่น เส้นทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ล่าสุดได้ริเริ่มที่ หมู่บ้านนกกระเรียนพันธุ์ไทย จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีสนามบินและเส้นทางเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และการยกระดับชุมชนผ้าย้อมคร้าม ผ้าย้อมดินภูเขาไฟ
ประการสำคัญทีเส็บเน้น
“นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้าไปสร้างมูลค่าเพิ่ม”
โดยทำงานร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และสตาร์ตอัพต่าง ๆ ชูโครงการ WINNOVATION
ที่จะสร้าง MICE START UP ปี 2566 เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 10-15
% ทางทีเส็บจะลงเงินทำ Piching จับคู่สตาร์ตอัพกับสถานที่จัดงาน
ดึงดูด 4 ตลาดหลัก ได้แก่
กลุ่มจัดประชุม (meeting) กลุ่มเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (incentive) กลุ่มจัดนิทรรศการแสดง (Exhibition)
และกลุ่มจัดงานเทศกาล (Festival)
เพื่อเฟ้นหาสตาร์ตอัพที่สามารถจัดงานรองรับตลาดกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดได้
ปี 2566 ทีเส็บมีเครื่องมือใหม่เป็นแพลตฟอร์ม BIZ CONNECT รองรับการจัดไมซ์ได้ทุกประเภท ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ต่อเนื่องถึงการวัดปริมาณลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์แต่ละงาน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ด้านนำเสนอขายกับคู่ค้าทั้งในตลาดเมืองไทยและนานาชาติ
สำหรับปีหน้าทีเส็บพร้อมทำให้อุตสาหกรรมไมซ์ทั้งประเทศเกิดความตื่นตัวไม่เฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว
แต่จะต้องขับเคลื่อนไมซ์ขานรับเทรนด์โลกลงมือทำเรื่องสร้างความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม
เริ่มจากนำเครื่องมือกับการบริหารจัดการเข้ามาควบคุมดูแล ศึกษาเรียนรู้
การลดและวิธีชดเชยการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้มากที่สุดไปพร้อม ๆ กัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น