TCEBปี’66ชูMICE to Meet You ทีเส็บ4ภาคเปิดขายพ่วงDuel City-คิงเพาเวอร์33ปีช้อปแฮปปี้แจกไม่หยุด18-24ต.ค.65

“TCEB”ติดอาวุธไมซ์4ภาคปี’66โหมบิ๊กธีมMICE to Meet You

ชูกลยุทธ์ขายพ่วง Duel Cityปั้นโปรดักซ์เมืองหลัก+เมืองรอง

เพิ่มนวัตกรรมธุรกิจไฮเทคเข้าขบวนลดคาร์บอนทำไมซ์ยั่งยืน

คิงเพาเวอร์33ปีช้อปแฮปปี้มีแต่แจก18-24ต.ค.นี้ลดออนท็อป

ช้อปคิงเพาเวอร์สุดปัง3สเตชั่นมิวสิค/เซเลเบรท/กล่องสุ่มโชค

สมาชิกใหม่คิงเพาเวอร์ทุกสถานะด่วนรับเซอร์ไพรส์เพิ่ม2ต่อ

ททท.ยิ้มรับ5ทวีปบินเพิ่มต.ค.พุ่ง74%จีน2.1หมื่นที่นั่ง/สัปดาห์

TCEBหนุนตำแหน่งโลกไทยคว้าอันดับ3-กทม.อันดับ4ปี65

ปลื้ม!!วินโนหนี้บางจากคว้ารองชนะเลิศที่2ผู้นำนวัตกรรมชาติ

เที่ยวสตูลชมถ้ำเลสเตโกดอน”อุทยานธรณีโลกอันซีนถ้ำภูเพชร

5 อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันสุขภาพยิ่งกินยิ่งดีกับสุขภาพคนทุกวัย

airasia foodโกยออนไลน์3โปรเพื่อนใหม่จ่ายบาทเดียว ต.ค.นี้

รร.มีเลียเชียงใหม่ชูสปาร์คกลิ้งจอยขายห้องพักไฮซีซันธ.ค.65

เสาร์ที่ 15 ตุลาคม  2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #MICEtoMeetYou

 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/g9X72h_EvQ/

 

ศุภวรรณ ตีระรัตน์ 

รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”

          ช่วงที่ 1 ขยับไมซ์ไทยครั้งใหญ่ 4 ภาค กับ “ศุภวรรณ ตีระรัตน์” รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ปี’66 ชู MICE to Meet You เดินเครื่อง 4 ยุทธศาสตร์ไมซ์ชาติ “ดึงงานโลกมาจัดในไทย-เพิ่มขีดความสามารถทีเส็บ4ภูมิภาค-ชูนวัตกรรมสร้างสรรค์ธุรกิจ-ปักธงทำไมซ์สู่ความยั่งยืนลดโลกร้อน ลดคาร์บอน ลดก๊าซเรือนกระจก” เร่งทีเส็บภาคลุย 2 พันธมิตร สร้างโปรดักซ์ใหม่ในพื้นที่+สร้างจุดขาย Duel City ดันซอฟท์เพาเวอร์ชูเทศกาลท้องถิ่นขึ้นชั้นงานโลก” ควบคู่ต้องใช้นวัตกรรมกับไฮเทคโนโลยีสร้างมูลค่าเพิ่มบูม WINNOVATION ปั้น MICE STATR UP เพิ่มอีก 10-15 %

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้วางกลยุทธ์ปี 2566 ชูจุดขายธีม MICE to Meet You คู่ขนานกับแผนยุทธศาสตร์ไมซ์ 5 ปีหน้า 2566-2570 เน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วย 4 ยุทธศาสตร์หลัก คือ 1.ดึงงานระดับนานาชาติและโลก มาจัดมาในไทย 2.สร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันระดับพื้นที่ภายในโครงการ TCEB 4 ภูมิภาค โดยมีสำนักงานกระจายอยู่แต่ละภาค ภาคกลาง+ตะวันออก ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน 3.การใช้นวัตกรรมสร้างสรรค์ธุรกิจ 4.ยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์สู่ความยั่งยืน Sustainbility มุ่งทำโครงการลดโลกร้อน วัดปริมาณการจัดงานที่ต้องลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ภายนอก คาร์บอนฟุตปริ๊นท์ ก๊าซเรือนกระจก

 

ขับเคลื่อน TCEB 4 ภูมิภาค มีไฮไลต์การทำโครงการ “ไมซ์ชุมชน” เปิดเส้นทางสายไมซ์ นำปราชญ์ท้องถิ่นมาร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลก สอดรับกับ “เจ้าของกิจการรุ่นใหม่” ในไทยและทั่วโลกจะเป็นคนสมัยใหม่ยุคมิลเลนเนียลเข้ามาบริหารธุรกิจตั้งแต่ระดับผู้จัดการไปจนถึงเจ้าของ มีพฤติกรรมแนวคิดแตกต่างจากคนรุ่นพ่อแม่ยุคเบบี้บูม ยุคนี้นิยมให้รางวัลพนักงานหรือ Incentive ทางทีเส็บจึงต้องรณรงค์ทางผู้ผลิตสินค้าหรือซัพพลายไซซ์เร่งสร้างโดยเร็ว 2 เรื่องหลัก

 

เรื่องที่โปรดักซ์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะ “การเปิดใหม่เส้นทางไมซ์” ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในห้องประชุมสี่เหลี่ยมอีกต่อไป อาจจะใช้พื้นที่โล่งกว้าง ในชุมชน และอื่น ๆ เรื่อยไปจนถึงการคัดโปรดักซ์เทรนด์ใหม่จังหวัดเมืองรอง เพื่อเพิ่มรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจเข้าพื้นที่ได้มากขึ้น

 

โดยมีเส้นทาง 7 Themes Plus ได้เพิ่มใหม่ 2 เส้นทาง ได้แก่ 1.เส้นทางไมซ์เพื่อสุขภาพ เช่น จันทบุรี มีสปาทราย 2.เส้นทางไมซ์บนเรือสำราญซึ่งตลาดกลุ่มองค์กรมีเทรนด์ความต้องการสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนใหญ่จะพักค้างคืนบนเรือแล้วแวะลงตามท่าเรือเมืองท่องเที่ยวหลักของไทย ทางทีเส็บได้จัดเตรียมชุมชนซึ่งมีสินค้าพร้อมขายไว้ต้อนรับด้วย

 

เรื่องที่ 2 ปักหมุดการขายไมซ์แบบจับคู่เมืองหรือ Duel City ไปจัดงานในเมืองหลักเดินทางเที่ยวเมืองรอง ซึ่งเป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างสนามบินแล้วเชื่อมการเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่น ๆ เช่น สงขลา ไปต่อ นครศรีธรรมราช เชียงใหม่ไปต่อลำพูนหรือเชียงราย  สุโขทัยไปต่อน่าน และเมืองอื่น ๆ ตามนโยบายรัฐบาลประกาศเมืองรองปี 2566 ทีเส็บจะคัดเลือกเมืองรองมาขายในตลาดไมซ์ ตอนนี้คัด “โปรดักซ์ พรีเมี่ยม” ซึ่งขณะนี้ทีเส็บจับมือกับสมาพันธุ์ SME ซึ่งมีเครือข่ายสมาชิกทั่วประเทศกว่า 1 แสนราย เพื่อมาประชาสัมพันธ์ขายให้ผู้จัดงานองค์กรทั้งรัฐและเอกชน ซึ่งสามารถดีไซน์สินค้ามาใช้แจกในโอกาสพิเศษ เป็นรางวัลแจกพนักงาน ของขวัญปีใหม่ และของขวัญเทศกาลต่าง ๆ

 

นางศุภวรรณ กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2566 ทีเส็บ 4 ภาค จะต้องเพิ่มความเข้มข้นการทำงานเชิงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ภาครัฐ เอกชน ด้วย 2 เรื่องใหญ่  ได้แก่ เรื่องที่ 1 สำนักงานทีเส็บภาคจะต้องจับมือกับทุกองค์กรในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีทั้ง หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สมาคมท่องเที่ยวจังหวัด/ภาค สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สถาบันการศึกษาหลัก ๆ จะเป็นมหาวิทยาลัยใน 10 ไมซ์ ซิตี้  ควบคู่กับเมืองใกล้เคียงในแต่ละคลัสเตอร์ พุ่งเป้าหมายการ “จัดไมซ์อย่างยั่งยืน” โดยมีข้อกำหนดการจัดงานให้อยู่ในเกณฑ์ 25 ข้อ ซึ่งจะต้องลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงให้ได้มากที่สุด เตรียมนำร่องแห่งแรกเรื่องการจัดงานไมซ์ยั่งยืนทั้งกิจกรรมและสถานที่จัดงาน สัปดาห์ที่ 15 ตุลาคม 2565 ที่หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์

 

เรื่องที่ 2 วางแผนยกระดับเทศกาลในแต่ละเมืองให้โดดเด่นให้เป็นเทศกาลระดับประเทศและนานาชาติ National & International Festiation จากเดิมเป็นเพียงเทศกาลระดับท้องถิ่น Local Festival เท่านั้น สามารถสร้าง “แบรนด์+ภาพลักษณ์พื้นที่” เช่น เชียงใหม่ เพิ่งได้รับการประกาศจากสหรัฐอเมริกาให้เป็น “แชมป์เมืองเทศกาลโลก” ซึ่งเป็นต้นแบบการทำงานร่วมกันของทีเส็บกับองค์กรภายในพื้นที่ และชุมชน รวมทั้งยังได้เสนองานเทศกาลแห่เทียน ประเภทพาเหรดเข้าไปด้วย ได้รับรางวัลอันดับที่ 3 ของโลกเช่นกัน รางวัลจะเป็นแรงจูงใจให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีพลัง

 

นางศุภวรรณ กล่าวเพิ่มว่า ทีเส็บมีส่วนผลักดัน “สร้างจุดขายไมซ์ ซอฟท์ เพาเวอร์” เพื่อดึงดูดตลาดทั่วโลกเลือกมาจัดงานในไทย ส่วนใหญ่จะอยู่ใน 7 Themes MICE เช่น เส้นทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ล่าสุดได้ริเริ่มที่ หมู่บ้านนกกระเรียนพันธุ์ไทย จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีสนามบินและเส้นทางเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และการยกระดับชุมชนผ้าย้อมคร้าม ผ้าย้อมดินภูเขาไฟ

 

ประการสำคัญทีเส็บเน้น “นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้าไปสร้างมูลค่าเพิ่ม” โดยทำงานร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และสตาร์ตอัพต่าง  ๆ ชูโครงการ WINNOVATION ที่จะสร้าง MICE START UP ปี 2566 เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 10-15  % ทางทีเส็บจะลงเงินทำ Piching จับคู่สตาร์ตอัพกับสถานที่จัดงาน ดึงดูด 4 ตลาดหลัก ได้แก่ กลุ่มจัดประชุม (meeting) กลุ่มเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (incentive) กลุ่มจัดนิทรรศการแสดง (Exhibition) และกลุ่มจัดงานเทศกาล (Festival) เพื่อเฟ้นหาสตาร์ตอัพที่สามารถจัดงานรองรับตลาดกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดได้

 

ปี 2566 ทีเส็บมีเครื่องมือใหม่เป็นแพลตฟอร์ม BIZ CONNECT รองรับการจัดไมซ์ได้ทุกประเภท ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ต่อเนื่องถึงการวัดปริมาณลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์แต่ละงาน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ด้านนำเสนอขายกับคู่ค้าทั้งในตลาดเมืองไทยและนานาชาติ

 

สำหรับปีหน้าทีเส็บพร้อมทำให้อุตสาหกรรมไมซ์ทั้งประเทศเกิดความตื่นตัวไม่เฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องขับเคลื่อนไมซ์ขานรับเทรนด์โลกลงมือทำเรื่องสร้างความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม เริ่มจากนำเครื่องมือกับการบริหารจัดการเข้ามาควบคุมดูแล ศึกษาเรียนรู้ การลดและวิธีชดเชยการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้มากที่สุดไปพร้อม ๆ กัน

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์33ปีช้อปแฮปปี้มีแต่แจก18-24ต.ค.นี้ลดออนท็อป

 

 

          คิง เพาเวอร์ ชวนร่วมกิจกรรม KING POWER 33^rd ANNIVERSARY DELIGHTS & SURPRISES 2022  ฉลองครบรอบ 33 ปี ในคอนเซ็ปต์ ‘HAVE AN ANNIVERSURPR!SE TRIP ทริปปาร์ตี้ แอนนิเวอร์ซารี!! ช้อปแฮปปี้มีแต่แจก’ พบโปรโมชั่นสุดคุ้มสำหรับนักเดินทางที่มีไฟลต์บินหรือไม่มีไลฟต์บินก็ช้อปได้คุ้ม วันที่ 18 -24 ตุลาคม นี้ สมาชิก คิง เพาเวอร์ รับทันทีส่วนลดสูงสุด 30% และเฉพาะวันที่ 18 ตุลาคม รับส่วนลด On-Top เพิ่มอีก 3% เมื่อช้อปครบ 33,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ)

 

และเซอร์ไพรส์ไม่หยุดทุกการเดินทาง ครั้งแรกของปีที่ให้สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY ฟรี พร้อมรับสิทธิ์ได้ช้อปเพิ่มเมื่อสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ SCARLET และ ONYX  ตลอดจนเอกสิทธิ์เฉพาะสมาชิกมากมาย อาทิ ส่วนลดพิเศษจากพันธมิตรการท่องเที่ยวที่ร่วมรายการ 

 

ส่วนผู้ที่มีไฟลต์บิน  ช้อปสุดแฮปปี้ที่สนามบิน (สุวรรณภูมิ,ดอนเมือง,ภูเก็ต,เชียงใหม่,หาดใหญ่) รับสิทธิ์สมัครสมาชิก NAVY ฟรี และ เมื่อสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ ทุกสถานะ รับคูปองส่วนลดสำหรับซื้อสินค้าดิวตี้ ฟรี ที่ร่วมรายการ  พร้อมร่วมทริปปาร์ตี้ แอนนิเวอร์ซารี โดยวันที่ 18 ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ช้อปปิ้งพร้อมชมโชว์ในโปรเจคเพลงพิเศษ My Duty โดย คิง เพาเวอร์ จาก JAYLERR และ 4EVE เพื่อส่งมอบความสุขให้คนไทยอีกครั้งในโอกาสครบรอบ 33 ปี สำหรับการเริ่มต้นเดินทางครั้งใหม่ของทุกคน

 

รวมถึงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ได้แก่ พีพี กฤษฎ์ , บิวกิ้น พุฒิพงศ์ , เต ตะวัน , ไบร์ท นรภัทร , โอม ภวัต และ เจนนี่ ปาหนัน มาร่วมส่งต่อความแฮปปี้กับมินิคอนเสิร์ต พร้อมร่วมแชร์ไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยว ร่วมสนุกกับผู้มาร่วมงานทุกคน

 

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม  ตั้งแต่ 18.00 น. พบมินิคอนเสิร์ตจาก 4EVE  จากนั้นวันอาทิตย์ที่ 23  ตุลาคม พบกับ อัพ ภูมิพัฒน์ , วันเสาร์ที่ 29  ตุลาคม พบกับปาล์มี่ วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พบกับ หยิ่น อานันท์ - วอร์ วนรัตน์ 

 

สามารถร่วมกิจกรรมหรือชมไลฟ์สดผ่านเฟชบุ๊ก Kingpowerofficial หรือตรวจสอบโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับสมาชิกก่อนช้อป เพียงแอด LINE Official Account : @kingpower  และสามารถรับชมมิวสิควีดีโอเพลง My Duty ได้ทาง YouTube : JAYLERR หรือฟังเพลงผ่านมิวสิคสตรีมมิ่งทุกแพลตฟอร์ม และสามารถร่วมสนุกกับเพลงผ่าน TIKTOK พร้อมติด #MyDutyให้เธอแฮปปี้ #Kingpower #JAYLERRx4EVE  

 

 

ข่าวที่ 2 ช้อปคิงเพาเวอร์สุดปัง3สเตชั่นมิวสิค/เซเลเบรท/กล่องสุ่มโชค

 

คิง เพาเวอร์ ชวนช้อปฟิน ชมฟรี  มีแต่แจก ฉลองครบรอบ 33 ปี สนุกทุกการเดินทางใน 3 สเตชั่น “มิวสิคปาร์ตี้สุดมันส์-แฮปปี้เซเลเบรชั่น-ลัคกี้กล่องสุ่ม” ลุ้นรางวัลมากมาย

สเตชั่นแรก เปิดพื้นที่ “MUSIC STATION!” LIVE PARTY! ปลุกกระแสแฟนคลับชม “คอนเสิร์ตสุดมันส์” ทุกวันเสาร์ เวลา 18:30 น. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องเเอดไลน์ @Kingpower เพื่อความสะดวกสบายในการเข้าพื้นที่ร่วมกิจกรรมสนุกได้ตลอดงานบริเวณ คราวน์ เอเทรียม และคราวน์ เมซซานิน

 

            สเตชั่นที่ 2  CELEBRATION STATION! LIVE CELEBRATION!แฮปปี้ ปาร์ตี้สุดมันส์ วันเกิด คิง เพาเวอร์ วันอังคารที่ 18 ต.ค.2565 เวลา 17:30 น. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องเเอดไลน์ @Kingpower เพื่อเข้าพื้นที่กิจกรรมบริเวณ CROWN MEZZANINE (วันที่ 18 ต.ค. 65 ไม่สามารถเข้าพื้นที่บริเวณ CROWN ATRIUM ได้เนื่องจากเป็นพื้นที่ของสื่อมวลชน)

           

สเตชั่นที่ 3 LUCKY STATION! แค่มาช้อปก็แฮปปี้ ลักกี้ สนุกกับการลุ้นรับของรางวัลมากมายเมื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ช่วงเดือนตุลาคมนี้

 

พิเศษ! ทุกวันตลอดตุลาคม 2565  คิง เพาเวอร์ ได้จัดมหกรรมสร้างความสุขกับนักช้อปทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ดี ๆ ร่วมฟรีตามกติกากับ 3 กิจกรรม เพียงเเอดไลน์ @Kingpower  ประกอบด้วย

 

กิจกรรมที่ 1 : สแนป เดอะ โมเมนต์ สเตชั่น กับตู้ Photoautomat สุดฮิต โดมียอดช้อปสินค้าครบ 10,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ เฉพาะ! ทุกเสาร์-อาทิตย์ และวันที่ 18-24 ตุลาคม 2565

 

กิจกรรมที่ 2 : สแน็ก สเตชั่น รับฟรี! อาหารทานเล่น เมื่อแสดงสถานะการเป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์ ผ่านไลน์เฟรนด์ คิง เพาเวอร์ ถ้าหากยังไม่เป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์ ก็สมัครง่าย! ผ่านไลน์ @Kingpower เพื่อรับสิทธิ์ ระหว่างวันที่ 18-24 ตุลาคม 2565

กิจกรรมที่ 3 : สุ่มตัก สเตชั่น ลุ้นตักสินค้าสุดเซอร์ไพรส์มากมาย เมื่อช้อปสินค้าครบ 10,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ ก็รับสิทธิ์ตักสินค้าฟรี 1 ตัก เล่นได้สูงสุด 3 ตัก/คน/วัน

 

ข่าวที่ 3 สมาชิกใหม่คิงเพาเวอร์ทุกสถานะรับเซอร์ไพรส์เพิ่ม2ต่อ

 

รับสิทธิประโยชน์มากกว่าเมื่อสมัครสมาชิกใหม่ “คิง เพาเวอร์” ทุกสถานี รับเพิ่มจากปกติทันทีอีก 2 ตั้งแต่วันนี้ -31 ตุลาคม 2565

 

ต่อที่ 1  รับส่วนลดพิเศษสูงสุด 33% ด้านการท่องเที่ยวจาก 8 พันธมิตร คือ

 

1.AVIS รับส่วนลดสำหรับสัญญาเช่ารถ 300 บาท และ 500บาท 2.ETHIHAD AIRWAYS รับส่วนลดตั๋วชั้นธุรกิจ 15% 3.EXCELLENT VACATION & RESORT WORLD CRUISE รับคูปองส่วนลดและสิทธิ์จองห้องพักราคาพิเศษ  4.EXCELLENT VACATION & UNIWORLD รับคูปองส่วนลดห้องพักพิเศษ มูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ 

 

5.MUANG THAI INSURANCE รับแพ็กเกจประกันภัยการเดินทางฟรี “Muang Thai Happy Passenger”  6.PULLMAN BANGKOK KING POWER HOTEL รับส่วนลดห้องพัก และ ส่วนลดร้านอาหาร Cuisine Unplugged สูงสุด 33%  7.ROBINHOOD รับโค้ดส่วนลดพิเศษ* สำหรับค่าจัดส่ง , ค่าอาหาร และ การจองโรงแรม   8.TRIA MEDICAL WELLNESS CENTER รับส่วนลดพิเศษสำหรับบริการ Hifu Ultracel Q+ 333lines

 

ต่อที่ 2 รับสิทธิประโยชน์หลากหลาย สำหรับสมาชิก คิง เพาเวอร์ เท่านั้น ตั้งแต่ – 17 ต.ค. 2565 และ 25 – 31 ต.ค. 2565 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และ ภูเก็ต

 

ข่าวที่ 4 ททท.ยิ้มรับ5ทวีปบินเพิ่มต.ค.พุ่ง74%จีน2.1หมื่นที่นั่ง/สัปดาห์

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ล่าสุดสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย “CAAT” ประเมินสถานการณ์แนวโน้ม “การเพิ่มจำนวนที่นั่งเที่ยวบิน” จากทวีประยะไกลข้ามทวีปช่วงตารางบินฤดูหนาว หรือ Winter Program เริ่ม 29 ตุลาคม 2565-ปลายเดือนมีนาคม 2566  มีสัญญาการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ในภาพรวมจะมีเที่ยวบินเพิ่มจากประเทศในทวีปต้นทางเข้าเมืองไทยจาก 5 โซน รวมกว่า 573,538 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 74.18 % โดยเปรียบเทียบช่วงเดียวกันกับตารางบินฤดูหนาวปีที่ผ่านมา มีเพียง 329,288 ที่นั่ง/สัปดาห์ 

 

โดยมี “แนวโน้มเที่ยวบินที่จะเพิ่มขึ้น” ช่วงฤดูท่องเที่ยวในตารางบินฤดูหนาว ระหว่างตุลาคม 2565-มีนาคม 2566 ที่จะเข้าออกประเทศไทยจากทวีประยะใกล้และไกล 5 โซน ประกอบด้วย

 

โซนที่  1 เอเชียและแปซิฟิก เพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 1 เฉลี่ย 468,948 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 82.55 % จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนมีเพียง 256,288 ที่นั่ง/สัปดาห์

 

โซนที่  2 ยุโรป เพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 2 เฉลี่ย 56,354 เที่ยว/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 57.77 % จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนมีเพียง 35,718 ที่นั่ง/สัปดาห์

 

โซนที่  3  ตะวันออกกลาง เพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 3  เฉลี่ย 44,900 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 30.14 % จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนมีเพียง 34,501 ที่นั่ง/สัปดาห์

 

โซนที่  4  แอฟริกา เพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 4  เฉลี่ย 2,414 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 14.95 % จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนมีเพียง 2,100 ที่นั่ง/สัปดาห์

 

โซนที่  5 อเมริกาเหนือ เพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 5  เฉลี่ย 922 ที่นั่ง/สัปดาห์  เป็นการกลับมาเริ่มบินใหม่หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมาไม่มีสายการบินจากประเทศในทวีปดังกล่าวบินเข้าเมืองไทย

 

ขณะเดียวกัน CAAT ยังได้รายงาน “แนวโน้ม 10 ประเทศ” ช่วงตารางบินฤดูหนาวปี 2566 จะมีเที่ยวบินบริการเดินทางเข้าประเทศไทยมากที่สุด เรียงตามลำดับ ดังนี้

 

อันดับ 1 สิงคโปร์ 53,389 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 37.1 % อันดับ 2 อินเดีย 51,380 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 39.9 % อันดับ 3 ฮ่องกง 47,049 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 317.2 อันดับ 4  มาเลเซีย 42,013 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 83.1 % อันดับ 5 ญี่ปุ่น 40,467 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 94.2  %

 

อันดับ 6 เวียดนาม 39,66 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 51.9 % อันดับ 7 เกาหลี 29,594 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 67.9 % อันดับ 8  ไต้หวัน 28,715 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 119.5 % อันดับ 9 สาธารณรัฐประชาชนจีน 21,434 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 237.1 %  อันดับ 10 กัมพูชา 21,353 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 47.8 %

 

                ทั้งนี้สถานการณ์ “ราคาตั๋วโดยสารเครื่องบิน” ระยะไกลข้ามทวีป จากยุโรป ไป-กลับ ประเทศไทย หลังโควิด-19 ยังคงสูงกว่าปี 2562 ประมาณ 20-30 % แต่นักท่องเที่ยวก็พร้อมจ่ายเพื่อเลือกที่จะมาท่องเที่ยวและพักผ่อนในเมืองไทยนานวันขึ้น สร้างรายได้และทำให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศกลับมาเติบโตอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

 

ข่าวที่ 5 TCEBหนุนตำแหน่งโลกไทยคว้าอันดับ3-กทม.อันดับ4ปี65

 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ตอกย้ำศักยภาพไทยประเทศที่สามารถคว้ารางวัลระดับโลกทางด้านไมซ์สำเร็จปี 2565 จากเวทีการตัดสินของ Condé Nast Traveler Readers' Choice Awards 2022 ปีที่ 35 ได้ที่รับการเทคะแนนทั้งระดับประเทศและเมืองหลวง ดังนี้

 

“ประเทศไทย” คว้าอันดับ 3 ประเทศชั้นนำของโลก : Top Countries in the World เบียดกับคู่แข่งทั้งหมดถึง 48 ประเทศ ทำคะแนนรวมได้มากถึง 90.46 คะแนน ขณะที่ อันดับที่ 1 โปรตุเกส 91.22 คะแนน อันดับ 2 ญี่ปุ่น ได้ 91.17 คะแนน https://www.cntraveler.com/story/top-countries-in-the-world

 

 

ส่วน “กรุงเทพฯ” คว้าอันดับ 4 “เมืองที่ดีที่สุดในโลก : Best Cities in the World” ทำคะแนนรวม 89.36 คะแนน ประการสำคัญเมืองมหานครของไทยเป็นเพียง 1 ใน 2 เมืองแห่งอาเซียนติดอันดับ 10 เมืองที่ดีที่สุดในโลกเทียบชั้นได้กับสิงคโปร์  

 

อันดับที่ 1 เป็นของเมือง ซานมิเกล เดอ เอเยนเด ประเทศเม็กซิโก ทำได้ 92.94 คะแนน อันดับที่ 2 สิงคโปร์ ทำได้   89.49 คะแนน และอันดับ 3 เป็นของเมืองวิกตอเรีย ประเทศแคนาดา ทำได้ 89.46 คะแนน

 

ข่าวที่ 6 ปลื้ม!!วินโนหนี้บางจากคว้ารองชนะเลิศที่2ผู้นำนวัตกรรมชาติ

 

นางพรฤดี อุทารวุฒิพงศ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท วินโนหนี้ จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 “นวัตกรรมแห่งชาติ ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม” รับจาก รศ.นพ. สรนิต ศิลธรรม ประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ ในวันนวัตกรรมแห่งชาติ และการประกวดรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2565 (National Innovation Awards 2022) ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน ซึ่งจัดโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

 

รางวัลนี้ทางผู้จัดได้มอบให้ บริษัท วินโนหนี้ (Winnonie)  จำกัด เพื่อประกาศเกียรติคุณและเชิดชูเกียรติในฐานะที่เป็น ด้วยผลงานริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นนวัตกรรมที่มีความโดดเด่นและเกิดคุณค่าที่ชัดเจนต่อประเทศชาติในหลายด้าน และเสริมภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยสู่การเป็นประเทศแห่งนวัตกรรม

 

“วินโนหนี้ : Winnonie” เป็นผู้นำแพลตฟอร์มให้บริการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ ลดภาระหนี้สิน ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการประกอบอาชีพ และบุกเบิกบริการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมเครือข่ายสถานีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่

 

เป็นการเริ่มต้นจากการเป็นสตาร์ทอัพที่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนผ่านสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) ทำให้ปัจจุบันการใช้งานมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าวินโนหนี้ ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าหลัก ทั้งในกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ ไรเดอร์ แล้วยังเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปที่สนใจใช้บริการได้เช่นกัน

 

                ช่วงที่ 2 ลงใต้ไป “สตูล” เที่ยว 2 ถ้ำ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ “ถ้ำเล สเตโกดอน” อุทยานธรณีโลก ย้อนยุคโลกดึกดำบรรพ์อันงดงาม กับ “ถ้ำภูเพชร” สุดอันซีนแห่งทะเลอันดามัน แล้วก็เลือกกิน “5อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค” ยิ่งกินยิ่งดี ต่อด้วยข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “airasia food” ชิงรายได้ออนไลน์3 โปร โปรปังเพื่อนใหม่จ่ายบาทเดียว ข่าวที่สอง “โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่” เสือปืนไวออกโปรห้องพักโกยนักท่องเที่ยวลอยกระทงปีใหม่

 

ท่องเที่ยว-เที่ยวสตูลชมถ้ำเลสเตโกดอน”อุทยานธรณีโลกอันซีนถ้ำภูเพชร

 

นับเป็นโอกาสที่ดี ของการเดินทางไปเที่ยว “สตูล” หนึ่งในเมืองสวยงามแบบครบทุกมิติ ตอนนี้เตรียมพลิกโฉมต้อนรับคณะการประชุมเอเปคที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ รวมทั้งท่องเที่ยวขานรับเทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนด้วยการพัฒนาให้สอดคล้องกับ BCG Ecosytem ขอแนะนำเที่ยวถ้ำอันงดงามในสตูลที่กำลังได้รับความนิยมเป็นถ้ำสวยเทียบชั้นทั่วโลกได้ 2 แห่ง

           

ถ้ำแรก - ถ้ำเล สเตโกดอน จ.สตูล ตั้งอยู่ในเขตอุทยานธรณีสตูล เป็นถ้ำน้ำเค็มที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 4 กิโลเมตร เพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานธรณีโลกจาก UNESCO เมื่อเดือนเมษายน 2561 เป็นอุโมงขนาดใหญ่ในเทือกเขาหินปูน มีลำธารไหลผ่านในถ้ำ การเที่ยวชมต้องใช้เรือคายักพายเข้าไปเสมือนย้อนเวลากลับไปสู่โลกแห่งยุคดึกดำบรรพ์ โดยการเยี่ยมชมถ้ำเล สเตโกดอนขึ้นอยู่กับระดับน้ำทะเล

 

จึงแนะนำให้นักท่องเที่ยวจองล่วงหน้าก่อนไปเที่ยวในถ้ำอย่างน้อย 1-2 วัน  เที่ยวได้วันละ 1  รอบเท่านั้น ใช้เวลาตลอดทริป 3-4 ชั่วโมง ภายในมีน้ำทะเลไหลลอดผ่านตามการขึ้นลงของน้ำทะเล ความหมายของ “สเตโกดอน” เป็นชื่อช้างดึกดำบรรพ์ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่เมื่อ 1.8 ล้านปีก่อน เก่าแก่กว่าช้างแมมมอธ ตามที่ได้ค้นพบฟอสซิลของช้างสายพันธุ์นี้ในถ้ำแห่งนี้แล้วนำมาตั้งชื่อถ้ำเล-สเตโกดอน แทนของเดิมคือถ้ำวังกล้วย  เช็คตารางท่องเที่ยวหรือสอบถามเพิ่ม โทร. 080-110-7060

 

ถ้ำที่ 2 “ภูผาเพชร” จ.สตูล เป็นอันซีนอีกแห่งในสตูล ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่มีลักษณะสวยงาม ใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดสตูล ที่แห่งนี้ไม่ควรพลาด เปิดบริการทุกวัน 08.30-15.30 น. ของทุกวัน

 

ค่าเข้าชม : คนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท  ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท ส่วนค่าบริการสถานที่จอดรถ  มอเตอร์ไซต์ 20 บาท  รถยนต์ 30 บาท  รถทัวร์ 100 บาท

 

สอบถามเพิ่มเติม  เจ้าหน้าที่ถ้ำภูผาเพชร โทร.086-2908050 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด โทร.074-829573

 

สุขภาพ- 5 อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันสุขภาพยิ่งกินยิ่งดีกับสุขภาพคนทุกวัย

            อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันเป็นอาหารที่ประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ว่าอาจช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น วิตามินซี สังกะสีหรือซิงค์ สารต้านอนุมูลอิสระ และสารอาหารอื่น ๆ อีกหลายประเภท ดังนั้นการเลือกกินอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันเป็นอีกหนึ่งวิธีที่อาจช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี ยิ่งกินยิ่งดีต่อสุขภาพกับอาหาร 5 ชนิด ดังนี้

 

ชนิดที่ 1 ผลไม้ตระกูลส้ม  สายพันธุ์ต่าง ๆ มะนาว ส้มโอ ส้มเช้ง ไปจนถึงผลไม้ต่างประเทศ เช่น เลมอนและเกรปฟรุต ล้วนเป็นผลไม้ที่มีสารอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันซึ่งหลายคนรู้จักกันดี นั่นก็คือสารอาหารกลุ่มวิตามินซีหรือกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) มีส่วนช่วยเสริมการทำงานระบบภูมิคุ้มกัน ข้อมูลส่วนหนึ่งชี้ว่าเมื่อวิตามินซีเข้าสู่ร่างกาย วิตามินซีจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่ในการจัดการกับเชื้อโรคชนิดต่าง ๆ รสชาติอร่อย กินง่าย และปลอดภัย ก็อาจช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ห่างไกลจากการเจ็บป่วย

 

ชนิดที่ 2 ขิง เป็นพืชสมุนไพรที่ให้รสเผ็ดร้อนและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนอกจากกลิ่นและรสชาติแล้ว ขิงยังมีคุณสมบัติเสริมภูมิคุ้มกันที่โดดเด่นด้วยเช่นกัน

จากข้อมูลในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์พบว่าขิงอาจช่วยต้านเชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) ที่ก่อโรคในระบบทางเดินหายใจ ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียเชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella)  ที่เป็นสาเหตุของอาการติดเชื้อในทางเดินอาหาร และส่งผลดีกับคที่เป็นโรคอักเสบเรื้อรัง อย่าง โรคข้ออักเสบชนิดต่าง ๆ ด้วย ขิงยังอาจช่วยขับลมได้ด้วย  

 

ชนิดที่ 3 อาหารทะเล - มีหลากหลายชนิด แต่บทความนี้จะนำเสนออาหารทะเล 2 ชนิดที่เป็นอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันที่โดดเด่น ได้แก่

 

1.ปลาทะเลที่อุดมไปด้วยไขมัน เช่น ปลาทู ปลาทูน่า และปลาแซลมอน เพราะปลาในกลุ่มนี้มีกรดไขมันโอเมก้า 3   และ 2.หอยนางรม มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเพิ่มภูมิคุ้มกันด้วยปริมาณมีสังกะสีที่ค่อนข้างสูง คุณสมบัติช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวและต้านเชื้อไวรัสได้ด้วย

 

ชนิดที่ 4 อาหารโพรไบโอติกส์ (Probiotics) เป็นจุลินทรีย์มีประโยชน์ ซึ่งร่างกายมนุษย์มีโพรไบโอติกส์อาศัยอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะในลำไส้ โดยปริมาณโพรไบโอติกส์ในร่างกายที่เหมาะสมจะช่วยรักษาการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน พบได้ในอาหารหมักดองหลายชนิด เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว มอสซาเรลลาชีส คอทเทจชีส และเชดด้าชีส กิมจิ มิโซะ คอมบูชา เทมเป้

แต่ควรเลือกอาหารโพรไบโอติกส์ที่ผ่านการพาสเจอไรซ์และกระบวนการทำที่สะอาด นอกจากนี้ ในช่วงแรกของการเริ่มกินอาหารโพรไบโอติกส์อาจพบกับอาการท้องเสียและท้องอืดที่ไม่รุนแรง โดยอาการจะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

 

ชนิดที่ 5 ผักผลไม้หลากสี กินเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุอย่างเพียงพอ ทั้งผักสีม่วง สีแดง สีเหลือง สีส้ม และสีเขียวที่หาได้ง่ายที่สุด ล้วนมีสารอาหารเฉพาะตัวคือ “สารไฟโตนิวเทรียนท์ -Phytonutrients” สารแต่ละสีมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น สารสีแดงในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) สารสีม่วงอย่างแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ส่วนใหญ่จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังและปัญหาสุขภาพหลายอย่างได้เป็นอย่างดี

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก - airasia foodโกยออนไลน์3โปรเพื่อนใหม่จ่ายบาทเดียวต.ค.65

 

นางสาวณัฏฐิณี ตะวันชุลี ผู้อำนวยการใหญ่ airasia Super App ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ในฐานะแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ที่มีบริการหลากหลายและครบถ้วนที่สุด ได้จัด 3 โปรโมชั่น ต้อนรับหลังโควิดคลี่คลายแล้วลูกค้ามีพฤติกรรมคุ้นชินกับการสั่งอาหารออนไลน์เลือกรับด้วยตนเองหรือเดลิเวอรี่ส่งถึงบ้านตั้งแต่วันนี้-31 ตุลาคม 2565 ด้วย 3 โปรโมชั่น

 

โปรโมชั่นแรก “airasia food เปย์เพื่อนใหม่” เสิร์ฟเมนูโดนใจจ่ายแค่ 1 บาท ทำขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าใหม่ใช้บริการ airasia food ครั้งแรกบนแพลตฟอร์ม จากร้านค้าร่วมรายการ มีทั้ง “แบบรับด้วยตนเองร้าน หรือ  เช่น  ร้าน Auntie Anne’s, Arigato, กาแฟพันธ์ไทย, Mister Donut และ Olino Crepe เพียงใส่โค้ดส่วนลด “NEWPICK1” และ “แบบเดลิเวอรี่” รับดีลเมนูพิเศษจากร้านดังกล่าวในราคาพิเศษเพียง 20 บาท เพียงใส่โค้ดส่วนลด  “NEWDELI20” จัดส่งฟรีถึงบ้านทันทีในรัศมี 6 กม.แรกเท่านั้น

 

โปรโมชั่น 2  “บินตรงส่งความอร่อย” เปิดให้ลูกค้าสั่งอาหารมื้อพิเศษบินตรงส่งจากร้านดังในภูเก็ตมายังกรุงเทพฯ และนนทบุรี ได้ลิ้มชิมรสชาติความอร่อยสดใหม่เหมือนเพิ่งออกจากครัว  มาพร้อมส่วนลดเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตแอร์เอเชีย ธนาคารกรุงเทพ สูงสุดถึง 200 บาท โดยมียอดสั่งซื้อ 1 ยอดขั้นต่ำ 1,000 บาท เพียงใส่รหัส “BBLAAINTC” อีกทั้งยังแจกคะแนน airasia points 3 เท่า  จำกัด 1 โค้ด/ ผู้ใช้งาน/ เดือน แจกเดือนละ 150 สิทธิ์ จำนวน 450 สิทธิ์ ตามกติกาที่กำหนด  ลูกค้าสามารถสั่งอาหารผ่านแอปได้ทุกวันก่อนวันศุกร์เวลา 18.00 น. แล้วได้รับอาหารช่วงเย็นวันเสาร์ภายใน 18.00  น. 

 

โปรโมชั่น 3 สุดปัง ‘คุ้มเกินครึ่ง’ มอบส่วนลดทันที 50 บาท เมื่อจ่ายผ่านบัตรเครดิตแอร์เอเชีย ธนาคารกรุงเทพ ด้วยสิทธิพิเศษส่วนลดเพิ่มเติมให้ได้อิ่มและฟินจากพันธมิตรบัตรเครดิตต่าง ๆ ตลอดเดือนตุลาคมนี้ ทาง airasia food พร้อมสนับสนุนช่วยลดค่าครองชีพ ด้วยการมอบส่วนลดค่าอาหารถึง 50 %  เพียงใส่โค้ด “HALF50” โดยต้องสั่งซื้อขั้นต่ำครบ 100 บาท ไม่จำกัดจำนวนครั้ง พร้อมโปรส่งฟรี 6 กิโลเมตรแรก เมื่ออาหารจากร้านค้าในพื้นที่ให้บริการขั้นต่ำ 50 บาท

 

ข่าวที่สอง -รร.มีเลียเชียงใหม่ชูสปาร์คกลิ้งจอยขายห้องพักไฮซีซันธ.ค.65

 

โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ รายงานว่า ได้จัดทำแพ็คเกจ “สปาร์คกลิ้ง จอย” ต้อนรับความสุขที่เชียงใหม่ต้อนรับฤดูเดินทางท่องเที่ยวปลายปี 2565 จึงได้จัดเตรียม “ห้องพักราคาพิเศษ” ไว้ให้เลือกใช้บริการ เพียงจองพักติดต่อกันตั้งแต่ 2 คืน ระหว่าง 15 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2565 แล้วเข้าพักได้ยาวระหว่าง 15 ธันวาคม 2565 ถึง 15 มกราคม 2566 ยกเว้นช่วงการท่องเที่ยวหนาแน่นวันที่ 16 - 17 และ 23 - 25 ธันวาคม 2565 โดยนักท่องเที่ยวหรือผู้เข้าพักจะต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน และปฏิบัติตามกติกาที่กำหนด แพกเกจนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ส่งเสริมการขายเพิ่มรายได้จากตลาดคนไทยและนานาชาติก่อนสิ้นปีนี้ 

 

แพกเกจ “สปาร์คกลิ้ง จอย” โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ เปิดให้เลือกจอง “ห้องพักแบบมีเลีย” แยกเป็น 2 ราคา คือ 1. เลือกเข้าพักวันธรรมดา ในราคาสุทธิ 6,399 บาท/ห้อง/คืน ช่วงวันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี ของแต่ละสัปดาห์ 2.พักวันศุกร์ และวันเสาร์ ห้องหรือราคาสุทธิคืนละ 7,149 บาท/ห้อง/คืน

 

สิทธิประโยชน์จากแพกเกจดังกล่าว จะราคารวมห้องพักตามสิทธิ์ที่เลือกจอง พร้อม อาหารเช้า 2  คน/คืน ชุดน้ำชายามบ่าย “เฟสทีพ สปาร์คกลิ้ง อาฟเตอร์นูน ที” 1 ชุด/ 2คน/การเข้าพัก เป็นชุดน้ำชายามบ่ายชุดพิเศษที่เชฟได้รังสรรค์ขึ้นเพื่อให้บริการเฉพาะช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้เท่านั้น และฟรี wi-fi

           

ราคาแพกเกจ ปสาร์คกลิ้ง จอย ดังกล่าวทางโรงแรมได้รวมค่าบริการ และภาษีอื่น ๆ เรียบร้อยแล้ว โดยเปิดให้จ่ายเงินเต็มจำนวนล่วงหน้า เมื่อจองห้องพักโดยไม่สามารถขอเงินคืนได้

 

ส่วนค่าห้องพักเพิ่มที่ต้องการให้คนที่ 3 พักรวมในห้องเดียวกัน จะต้องจ่าเพิ่ม 1,500 บาท/คืน/คน เป็นค่ารวมโฟซาเบด อาหารเช้า และเด็กอายุ 5-11 ปี เข้าพักกับผู้ปกครอง จ่ายเพิ่มเพิ่ม 750 บาทสุทธิ/คืน/คน จะรวมอาหารเช้า

 

ทั้งนี้โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ มีสิ่งอำนวยความสะดวก ประกอบด้วย ห้องพัก 260 ห้อง ในอาคารสูง 22 ชั้น และเชื่อมต่อกับอาคารสูง 7 ชั้น พร้อม ห้องอาหารไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ ชั้น 21 เป็นซิกเนเจอร์ของโรงแรม บริการอาหารไทยล้านนาร่วมสมัย ที่มีกลิ่นอายของอาหารเมดิเตอร์เรเนียน และเดอะ เลเวล เลาจน์ มองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ได้แบบ 360 องศา โดยเฉพาะ “ไหม เดอะ สกาย บาร์” เป็นบาร์ที่ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าด้วย

รวมทั้งมี มี ยี่ สปา  เป็นเอกลักษณ์ของเครือมีเลีย มีห้องทรีตเมนต์ 7 ห้อง ศูนย์ออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ครบครัน สระว่ายน้ำ ห้องบอลรูม พื้นที่จัดประชุม3 ห้อง เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวก รองรับตลาดนักธุรกิจ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.