วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

โชติช่วง ศูรางกูร ทายาทหนุ่มสาวทัวร์ชี้อนาคตท่องเที่ยวไทยปี68-69

 


เปิดมุมมอง!!“โชติช่วง ศูรางกูร”ทายาทธุรกิจหนุ่มสาวทัวร์

แนะทางออกไทยนำท่องเที่ยวฝ่ามรสุมตลาดโลกวูบปี68

รัฐแก้ด่วนCrisis Management-ภาพลักษณ์-ตั๋วบิน-ภาษี

ครึ่งปีหลังหนุ่มสาวทัวร์เจาะเศรษฐี3กลุ่มพรีเมี่ยม-MICE

คิงเพาเวอร์ในเมือง/สนามบิน 8 แห่งลดใหญ่สูงสุด30%

รหัสรับ30SAVE5คิงเพาเวอร์ออนไลน์ลดบิวตี้บูสเตอร์

CARAT”บัตรPOWER PASSคิงเพาเวอร์ใช้แทนเงินสด

ผู้ว่าฯททท.งัด“FOCUS”ลุยTATAP 2026พลิกตลาดปี69

บางจากเปิดปั๊มทั่วไทยแจกหน้าฝนถึง15ต.ค.นี้ถึง3ต่อ

TCEBชูGlobalCoffee&Teaดันเชียงรายเมืองชากาแฟโลก

เที่ยวประจวบดื่มด่ำงานศิลป์ฮีลใจ-วิทยาศาสตร์หว้ากอ

5 อาหารมื้อเช้ากินประจำทุกวันมีประโยชน์ต่อร่างกาย

รอยัลไมเนอร์เปิดรร.แรกในญี่ปุ่นปี’78ลุยขยาย21 แห่ง

แอร์บัสยิ้ม!!MAGสั่งA330neoมาเลเซียแอร์สเพิ่ม20 ลำ

 

วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก  #หนุ่มสาวทัวร์ #โชติช่วงศูรางกูร

 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/16jYTxUsSL/

 

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! “โชติช่วง  ศูรางกูร” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่ม สาว ทัวร์ จำกัด ฉายภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครึ่งปีหลัง 68 ชะลอตัวตลาดขาดความเชื่อมั่นด้านปลอดภัย ภัยจากภาษีทรัมป์ เร่งรัฐบาลปลดล็อกด่วน 3 เรื่อง “บริหารจัดการวิกฤต-ขึ้นค่าแรง400บาท/วัน ต้องทำคู่กับลดภาษีนิติบุคคลท่องเที่ยว-ทบทวนเลิกภาษีซ้ำซ้อนเอาท์บาวนด์ VAT 7%” เอกชนไทยลุยกระตุ้น“ไทยเที่ยวไทย” ฝ่า “ข้อจำกัด-ตั๋วบินในประเทศแพงกว่าเวียดนาม จีน” ทาง หนุ่ม สาว ทัวร์ หันพึ่ง “ตลาดไมซ์” ช่วงเศรษฐกิจขาลงธุรกิจใช้วิธีแจกรางวัลเพิ่มยอดขาย ควบการขายทัวร์ “เจาะพื้นที่/เทศกาล” ฮือฮา !! เส้นทางเที่ยวตามรอยหนัง Jurassic World อันดามัน กำลังซื้อในประเทศยังมีแสงสว่างจาก 3 กลุ่ม “ครอบครัวพรีเมี่ยม-คนรายได้ปานกลาง-คอร์ปอเรต”

 


นายโชติช่วง  ศูรางกูร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่ม สาว ทัวร์ จำกัด เปิดเผยว่า วิเคราะห์สถานการณ์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง 2568 เผชิญความท้าทายมากกว่าทุกปีจากผลกระทบรอบด้านทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ภาพรวม “นักท่องเที่ยวต่างประเทศ” มีจำนวน “ลดลงต่อเนื่อง” เพราะกระแสความไม่เสถียรทางเศรษฐกิจของทั่วโลก และนักเดินทางขาดความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยที่จะมาเมืองไทย ส่วน “การใช้จ่ายเงิน” ไม่ได้ลดลงซึ่งเป็นไปตาม “พฤติกรรมตลาด” คือ “นักท่องเที่ยวเอเชีย :Shorthaul โดยเฉพาะ “จีน” จะนิยมเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ แล้วกระจายรายได้ทั่วถึงทุกพื้นที่ แตกต่างจาก “นักท่องเที่ยวยุโรป :Longhual ชอบพักผ่อนอยู่กับที่ในโรงแรมจึงใช้เงินไม่ได้กระจายรายได้ เนื่องจากมักอยู่เฉพาะภายในโรงแรมและพื้นที่ใกล้เคียงเท่านั้น

           

“สิ่งสำคัญ” คือ “เสถียรภาพ” เกี่ยวกับ “ภาพลักษณ์ความปลอดภัย” กรณีเกิดเหตุการณ์ขู่วางระเบิด การลักพาตัวนักเดินทางจีน หรืออื่น ๆ แต่ละครังไทยยังไม่ค่อยได้เห็นการปฏิบัติแบบสากลคือ “ไม่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล” ออกมา “ชี้แจงอย่างเป็นทางการ” ถึงรายละเอียด 1.เหตุการณ์จริงแต่ละเรื่องที่เกิดขึ้น 2.จะมีมาตรการแก้ไข และป้องกัน อย่างไรต่อไปได้บ้าง แตกต่างจากหลายประเทศเมื่อเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ระดับสูง หรือนายกรัฐมนตรีของประเทศนั้น ๆ จะออกมาเรียกร้อง “ความเชื่อมั่น” ที่ยังมีสูงและเป็นเพียงเหตุการณ์ซึ่งเกิดในวงจำกัด

 

            ปรากฏการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิด “วิกฤตการท่องเที่ยว” โดย “ขาดการบริหารวิกฤต :Crisis Managementจึงขยายไปต่อทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ “ขาดความศรัทธาและขาดความเชื่อมั่น”

           

หากเอกชนจะต้องบอกว่า “รัฐบาลต้องใส่เกียร์ไหน” เพื่อคลี่คลายปัญหานักท่องเที่ยวลดลงอย่างรวดเร็วนั้น ก็จะต้องดูด้วยว่า กำลังบอกกับ “รัฐบาลไหน” เพราะเสถียรภาพรัฐบาลเองไม่ได้แข็งแรง แต่สิ่งที่ต้องแก้ไขปัญหาปัจจุบันอันดับแรกต้อง “บริหารวิกฤตท่องเที่ยวอย่างจริงจัง” ผนวกกับปัญหาใหม่ “ภาษีทรัมป์” มีผลกระทบเป็นวงกว้างกับการส่งออกสินค้าไทยและสะเทือนในระดับโลก

 

ตอนนี้ไทยกำลังเจอ “วิกฤตรุมเร้า” ฉายให้เห็นธุรกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภาพรวมของประเทศ“ไม่ได้สวยงาม” มากนัก สังเกตุได้จากแม้แต่ร้านค้า ร้านอาหาร ริมทาง ทยอยปิดกิจการจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ

 



ทางด้าน “เอกชนท่องเที่ยวไทย” ต้องการให้ “รัฐบาล” ทำหน้าที่เป็น “ผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง” อย่างเข้มแข็งให้มากที่สุด เพราะธุรกิจต้องการวิ่งรัฐจึง “ไม่ควรมายืนขวางทาง” อยู่ด้านหน้า จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นการจัดการอย่างเป็นรูปธรรม เอกชนจึงวิงวอนขอให้รัฐเร่งทำโดยเร็วที่สุด เริ่มจาก 3 เรื่องแรก ดังนี้

 

เรื่องที่ 1 รัฐเร่งใช้ศักยภาพ “บริหารจัดการแก้ไขวิกฤต” ให้จางหายจากประเทศโดยเร็วที่สุด

 

เรื่องที่ 2 นโยบายกฎหมายหมายแรงงานประกาศใหม่ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/คน/วัน สะเทือน “ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก” ทั่วประเทศที่มีอยู่จำนวนมากเกิน 70 % การขึ้นค่าแรงสามารถทำได้แต่จะต้องคู่ขนานกับ “การลดภาษีนิติบุคคล” จาก 20 % ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวด้วย เรื่องนี้สมาคมท่องเที่ยวต่าง ๆ เสนอมาหลายครั้ง แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณา

 

เรื่องที่ 3 การจัดเก็บภาษีนักท่องเที่ยวค่าเหยียบแผ่นดิน การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT 7 % กับทัวร์ต่างประเทศแบบซ้ำซ้อน

 

ส่วน “ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย” ต่างเร่งใช้ความเชี่ยวชาญทำ “การตลาดเชิงรุก” มุ่งสร้างรายได้เข้ามาหล่อเลี้ยงองค์กรและเศรษฐกิจประเทศเติบโตให้ได้มากที่สุด

 



เริ่มจาก “ตลาดในประเทศ” บริษัทนำเที่ยว โรงแรม ซึ่งแต่ละแห่งก็จะมีความสามารถแตกต่างกันไป  ตลอดทุกปีก็จะสร้างสรรค์สินค้า กิจกรรม โปรแกรม กระตุ้น “ไทยเที่ยวไทย”

 

ความท้าทายแรก - การท่องเที่ยวมีสัญญาณค่อนข้างจะซบเซา ตอนนี้เข้าสู่โลว์ซีซั่นแม้รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนงบประมาณจัดทำโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ระหว่าง 4 กรกฎาคม -31 ตุลาคม 2568 แต่ช่วงแรก “ระบบลงทะเบียนจะไม่พร้อม” แต่เอกชนก็พยายามเข้าร่วมอย่างเต็มที่ แต่ก็ “มีข้อจำกัดและความไม่ชัดเจน” เอกชนจึง “ใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่” ผนวกกับ “เกิดความสับสน” ระหว่างผู้บริโภคกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวด้วย

 


• ความท้าทายที่ 2 -ราคาตั๋วเครื่องบินในประเทศแพงกว่าต่างประเทศ ตัวอย่างตั๋วเครื่องบินไป เวียดนาม สาธารณรัฐประชาชนจีน จะถูกกว่า เป็นแรงจูงใจให้คนไทยหันไป “เที่ยวต่างประเทศ” เพราะราคาตั๋วถุกกว่า ได้รับประสบการณ์มากกว่า ผนวกกับ “จุดอ่อนไทยเที่ยวไทย” ตอนนี้เริ่มมีหลายองค์ประกอบเพราะกลุ่มที่เคยเดินทางซ้ำ ๆ อาจจะเบื่อไปชมสิ่งเก่า ๆ ในไทยแล้ว จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกปัญหาเหล่านี้ควบคู่กันไปด้วย

 

วิธีปลดล็อก “ตลาดไทยเที่ยวไทย” รัฐจะต้องทำความเข้าใจเอกชนท่องเที่ยวซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางต่างกัน ต้องหาวิธีดึงความสามารถแต่ละกลุ่มมาช่วยกัน แต่ไม่ใช่ “รัฐพยายามสร้างแพทเทิร์นเดียว” แล้วให้ทุกคนปฏิบัติอาจจะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาอย่างถูกต้องเท่าที่ควร



ต่อด้วย “ตลาดต่างประเทศ” เช่น โรงแรมในเครือ หนุ่ม สาว ทัวร์  จะถนัดเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรป อเมริกา อิสราเอล ส่วนอีกโรงแรมอีกเป็นจำนวนมากก็ชำนาญตลาด จีน เอเชีย และอีกหลากหลายประเทศ หรือแม้แต่บริษัทนำเที่ยว รถเช่า และอื่น ๆ บวกกับ “พฤติกรรมนักท่องเที่ยว” ก็ต้องการสินค้าบริการต่างกัน ดังนั้นการเข้าถึงแต่ละตลาดล้วนแตกต่างกันทั้งนั้น คือ 1.นักท่องเที่ยวเดินทางอิสระลำพัง (F.I.T.) 2.นักท่องเที่ยวเดินทางเป็นหมู่คณะ (Group) 3.นักเดินทาง MICE จัดประชุม/สัมมนา ท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ประชุมนานาชาติ และจัดการแสดงสินค้า


นายโชติช่วง กล่าวว่า การวางกลยุทธ์การตลาดครึ่งปีหลัง ระหว่างกรกฎาคม-ธันวาคม 2568 แบ่งเป็น “ส่วนที่ 1 บริการขายทัวร์หน้าร้าน” ต้องทำธุรกิจอย่างระมัดระวังมากขึ้น จากความไม่แน่นอนหลายด้าน กับระบบเศรษฐกิจ “ส่วนที่ 2 บริการไมซ์” เป็นตลาดที่จะเร่งขยายตลาดกลุ่มองค์กร คอร์ปอเรต ซึ่งเน้นออกแบบการเดินทางแบบเทเลเมด ซึ่งมีบริการอินเฮาท์ อีเวนต์ ออร์กาไนเซอร์ รองรับตลาดซึ่งเป็นนิติบุคคลได้ โดยเฉพาะช่วง “เศรษฐกิจขาลง” บริษัทต่าง ๆ จะหันมากระตุ้นยอดขายให้ได้ตามเป้าหมาย โดยกลยุทธ์ “ให้รางวัลพนักงานท่องเที่ยว :Incentive” เติบโตเพิ่มขึ้น

 

ช่วงครึ่งปีหลัง 2568 หนุ่ม สาว ทัวร์ วางแผนส่งเสริมการขาย “ตลาดในประเทศ” (Domestic) เน้นทำโปรแกรมนำเสนอขาย “พื้นที่เป็นจุด” ขานรับตามกระแสเทศกาลต่าง ๆ เช่น 1.ทัวร์ชมดอกกระเจียวในอุทยานแห่งชาติ จ.ชัยภูมิ 2.ทัวร์ไหว้พระธาตุประจำวันเกิดทั่วไทย 3.ทัวร์ตามรอยภาพยนตร์ฟอร์มระดับโลก เส้นทาง Jurassic World ในจังหวัดแถบอันดามัน กระบี่ ภูเก็ต พังงา เป็นนักท่องเที่ยววัย 30-40 ปี ที่ยังเป็นแฟนคลับหนังดัง แหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในฉากหนังพรีเซนต์ออกมาได้ดี

 

สำหรับโปรแกรมทัวร์ตามรอย “Jurassic World” หนุ่ม สาว ทัวร์ ออกแบบหลากหลายมาก บางทริปเข้าทางกระบี่ไปจบที่ภูเก็ต หรือเข้าภูเก็ตไปจบที่กระบี่ ไปเกาะยาวน้อย เสม็ดนางชี (พังงา) ซึ่งแต่ละสถานที่วิวสวยงามมาก แล้วพอนักท่องเที่ยวจีนน้อยลง ความแออัดน้อยลงคนไทยจึงมีโอกาสเที่ยวมากขึ้น

 

“คนไทยเที่ยวต่างประเทศ” (outbound) ล่าสุดมีโอกาสร่วมพบปะพูดคุยกับรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวมาเลเซีย ทำตลาดอย่างจริงจัง ต่อเนื่องในยุโรป

           

“กำลังซื้อคนไทยเที่ยวไทยและเที่ยวนอก” ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจไม่ค่อยดีในปี 2568 แต่ก็ยังมีตลาดพร้อมใช้จ่ายเงิน 3 กลุ่ม ได้แก่

 

กลุ่มแรก ครอบครัวระดับพรีเมี่ยม ระดับ AA+ จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ จึงพร้อมใช้เงินเพื่อการเดินทางพักผ่อนทั้งในและต่างประเทศ

 

กลุ่มที่ 2 ระดับรายได้ปานกลาง (Middle class) อาจจะลดความถี่และเงินที่ใช้ในการเดินทางลงบ้าง

 

กลุ่มที่ 3 พนักงานบริษัทเครือข่ายขนาดใหญ่ (Corporate) จะหันมาใช้เงินกระจายในอุตสาหกรรม MICE ต่อเนื่อง ครบทั้งให้รางวัลพนักงานเดินทาง (Incentive) จัดสัมมนา (Meeting) และประชุมระดับนานาชาติ (Convention) และจัดการแสดงสินค้า (Exhibition) ซึ่งจะยืดหยุ่นโดยเลื่อนเวลาจัด ลดงบประมาณลงบ้างตามสภาพจริง

 

นายโชติช่วง กล่าวว่า ในฐานะบริษัทเอกชนอยู่ในวงการท่องเที่ยวมาพอสมควร มีข้อเสนอแนะการจัดทำแผนปฏิบัติการท่องเที่ยว 2569 :TATAP :Tourism Autority of Thailand Action Plan 2026” ควรจะพิจารณาให้ครอบคลุมทั้ง 2 ส่วน คือ

 



ส่วนที่ 1 Soft Power ตอนนี้รัฐบาลนำร่องโปรโมทก่อน เนื่องจากจุดกระแสได้ง่าย รวดเร็ว แต่ก็จะต้องระวัง เพราะเป็นสินค้าที่ “มาเร็ว ไปเร็ว” มีตัวอย่างที่เกิดขึ้นในหลายประเทศให้เห็นอยู่ตลอด เช่นผู้นำซอฟท์ พาวเวอร์อย่างเกาหลี จะต้องสร้างกระแสและโปรโมทต่อเนื่อง พอไม่มี แบ็ค พิงค์ และศิลปินใหม่ ๆ การท่องเที่ยวเริ่มจางลง

 

สำหรับประเทศไทย “ซอฟท์ พาวเวอร์” ที่พร้อมจะเสนอขายทั่วโลกได้อย่าง “การเรียนมวยไทย” ปูทางสร้างสัญญาณที่ดีในระยะยาว

 

ส่วนที่ 2 Hard Power การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ตอนนี้เมืองไทยยังขาดส่วนนี้ ด้วยบทบาทของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อาจจะเน้นบทบาทตามพันธกิจหลักคือส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเข้ามาวางแผนแม่บทให้ชัดเจน เช่น Manmade Attraction ปัจจุบันไทยขาย “สินค้าท่องเที่ยวเก่า” มานานติดต่อกัน เช่น กรุงเทพฯ ขณะนี้มีต่างชาติน้อยลง อย่าง เมกะโปรเจกต์ One Bangkok ตั้งเป้ารองรับตลาดโลก แต่เปิดได้ไม่กี่เดือนสถานการณ์ท่องเที่ยวไม่เอื้ออำนวยจึงเงียบพอสมควร แล้วภาพรวมความน่าสนใจเที่ยวเมืองไทยในสายตาทั่วโลกจึงหายไป

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง


ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์ในเมือง/สนามบิน 8 แห่งลดใหญ่สูงสุด30%

คิง เพาเวอร์ ตะโกนดัง ๆ แล้วว่า “มีไฟลต์เมื่อไหร่ ต้องได้อัพความปัง!”  ลดสูงสุดถึง 30% ที่ คิง เพาเวอร์  สาขาในเมือง 4 แห่ง และอีก 3 สนามบิน ส่วนลดสูงสุด 30% วันนี้ -31 กรกฎาคม 2568

คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี สาขาในเมืองท่องเที่ยว แวะได้ที่ รางน้ำ มหานคร และภูเก็ต

ช้อปโดย “ไม่ต้องมียอดซื้อขั้นต่ำ” เมื่อเห็นสินค้าที่เข้าร่วมรายการ ก็สามารถซื้อได้เลยแล้วรับสิทธิ์ส่วนลดแบบสบายกระเป๋า

พิเศษ! เฉพาะ “สมาชิก POWER PASSเท่านั้น  รับส่วนลด On – top 5% เมื่อช้อปสินค้าราคาปกติ สินค้าแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอางที่ดาหน้ากันเข้าร่วมรายการ

เตือน !! นักเดินทางมีไฟลต์บิน “อย่าลืมเผื่อเวลา” ไปช้อปด้วย ตอนนี้ 4 สนามบินนานาชาติ “สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต” คิง เพาเวอร์ ยกขบวนน้ำหอม เครื่องสำอาง สกินแคร์ แว่นกันแดด และแบรนด์แฟชั่นมาให้ช้อปมันส์ได้ทั้งวันที่รันเวย์ ลดสูงสุด 30% เหมือนกัน โดยไม่ไม่มีขั้นต่ำ (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ)

 


ข่าวที่ 2 -รหัสรับ30SAVE5คิงเพาเวอร์ออนไลน์ลดบิวตี้บูสเตอร์

คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ จัดเต็ม “บิวตี้บูสเตอร์” ชวนมาเติมพลังให้ความสวย! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ด้วยการเลือกไอเทมที่ใช่ตัวตนของตนเอง แล้วออกเดินทางด้วยความมั่นใจเกินร้อย กับแบรนด์มากมายรอต้อนรับนักช้อปอยู่ทุกสาขาทั้ง ESTÉE LAUDER, L'OCCITANE, CLÉ DE PEAU BEAUTÉ, SHISEIDO, LANCOME, CLARINS , LA MER, CLINIQUE, ANESSA, KIEHL'S และอื่น ๆ  

ลดแรงเกินต้าน เกิน 30% รีบช้อปก่อนบิน “สินค้าดิวตี้ฟรี” รีบมาเลือกคว้าไอเทมที่อยากได้ก่อนออกเดินทาง ตอนนี้คัดมาให้แล้วกับไอเทมแบรนด์ดังราคาปัง ดีลแรงสุดแห่งปี เที่ยวก็ฟิน ช้อปก็มันส์! แค่มีไฟลต์บิน รีบกดด่วนๆ หมดแล้วหมดเลยไม่รู้นะ พร้อมรอรับของที่สนามบินขาออกประเทศ

ลดสูงสุด 30% ช้อปไม่มีขั้นต่ำ รับรหัสส่วนลด 30SAVE5 ที่แผนกน้ำหอมและเครื่องสำอาง

พิเศษ! Member Online ที่ผูกบัตรสมาชิกลดเพิ่มทันที 5% โดยใส่รหัสส่วนลด 30SAVE10 แล้วช้อปสินค้าที่ร่วมรายการ 

คิง เพาเวอร์ ตะโกนดัง ๆ แล้วว่า “มีไฟลต์เมื่อไหร่ ต้องได้อัพความปัง!”  ลดสูงสุดถึง 30% ที่ คิง เพาเวอร์  สาขาในเมือง 4 แห่ง และอีก 3 สนามบิน ส่วนลดสูงสุด 30% วันนี้ -31 กรกฎาคม 2568

คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี สาขาในเมืองท่องเที่ยว แวะได้ที่ รางน้ำ มหานคร และภูเก็ต

ช้อปโดย “ไม่ต้องมียอดซื้อขั้นต่ำ” เมื่อเห็นสินค้าที่เข้าร่วมรายการ ก็สามารถซื้อได้เลยแล้วรับสิทธิ์ส่วนลดแบบสบายกระเป๋า

พิเศษ! เฉพาะ “สมาชิก POWER PASSเท่านั้น  รับส่วนลด On – top 5% เมื่อช้อปสินค้าราคาปกติ สินค้าแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอางที่ดาหน้ากันเข้าร่วมรายการ

เตือน !! นักเดินทางมีไฟลต์บิน “อย่าลืมเผื่อเวลา” ไปช้อปด้วย ตอนนี้ 4 สนามบินนานาชาติ “สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต” คิง เพาเวอร์ ยกขบวนน้ำหอม เครื่องสำอาง สกินแคร์ แว่นกันแดด และแบรนด์แฟชั่นมาให้ช้อปมันส์ได้ทั้งวันที่รันเวย์ ลดสูงสุด 30% เหมือนกัน โดยไม่ไม่มีขั้นต่ำ (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ)



ข่าวที่ 3-CARAT”บัตรPOWER PASSคิงเพาเวอร์ใช้แทนเงินสด

 

CARAT : กะรัต” รูปแบบใหม่จาก POWER PASS ของ คิง เพาเวอร์ พร้อมให้นักช้อป “สะสมง่าย แลกรับได้ทุกความคุ้ม”

 

1.ทุกการช้อป 25 บาท = 1 CARAT รับสูงสุด X 3 ทุกคะแนนสมาชิกสามารถนำไปใช้ต่อได้ดังนี้

 

ใช้ที่ 1 ช้อปฟินๆ แทนเงินสด 400 CARAT มีค่า 100 บาท ทุกช่องทางที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา และทางเว็บไซต์ powerpass.kingpower.com หรือ แอปพลิเคชัน FIRSTER

 

ใช้ที่ 2แลกสิทธิพิเศษ ชีวิตประจำวัน ทั้งกิน เที่ยว ช้อป พักผ่อน จากหลากหลายพันธมิตรชั้นนำ

 

2.เช็กCARAT ของคุณวันนี้! เพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์ & สิทธิพิเศษ รอสมาชิกอยู่เพียบได้ทางเว็บไซต์ powerpass.kingpower.com หรือเข้าผ่าน LINE Official Account @KINGPOWER

 

ข่าวที่ 4-ผู้ว่าฯททท.งัด“FOCUS”ลุยTATAP 2026พลิกตลาดปี69

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศตั้งแต่วันแรกในการประชุม “แผนปฏิบัติการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยปี 2569 -TATAP 2026 : Tourism Authority of Thailand Action Plan พุ่งเป้าสู่คุณภาพมากกว่าปริมาณ Value Over Velume ผ่านแนวคิดหลัก “Stay Focus” เดินหน้าอย่างมีเป้าหมาย ทำงานด้วยข้อมูล บูรณาการเครือข่ายอย่างมืออาชีพ และปรับตัวให้ทันสถานการณ์ ผ่าน 5 แนวคิดขับเคลื่อน 5 นโยบาย ด้วยคอนเซ็ปต์ “FOCUS” ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีเป้าหมาย ดังนี้

 

นโยบายที่ 1 Fascinating Experience มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่คุ้มค่า น่าจดจำ มีมาตรฐานบริการที่ดี

 

นโยบายที่ 2 Optimistic Thailand สร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความเชื่อมั่นในประเทศไทย

 

นโยบายที่ 3 Circular Economy กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการกระจายนักท่องเที่ยว การใช้จ่าย และสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SME

 

นโยบายที่ 4  Ultimate People พัฒนาศักยภาพบุคลากร ททท. เสริมทักษะการตลาดและ DNA ขององค์กร

 

นโยบาย 5 Satisfying Customer สนับสนุนนโยบายรัฐบาลด้วยการปรับกฎระเบียบเพื่อเอื้อตลาดเป้าหมาย สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า

 

ททท.จะนำท่องเที่ยวของประเทศไทย เดินหน้า “ฟื้น” ตลาดระยะสั้น “ปูทาง” รายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตระยะยาว “ดัน”ตลาดไทยเที่ยวไทย “สื่อสาร” เร็ว ตรง ทันสถานการณ์

 

เคียงข้างยุทธศาสตร์ ททท.ในการดำเนินงานเชิงสร้างสรรค์ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ กัน  3 ภารกิจ คือ

 

ภารกิจที่ 1 พัฒนาสินค้าและบริการท่องเที่ยว มุ่ง “สร้าง”สินค้าท่องเที่ยวสร้างสรรค์  ระบบเดินทางมาตรฐาน กิจกรรมระดับนานาชาติ

 

ภารกิจที่ 2 พัฒนาตลาดและการขายท่องเที่ยว ตลาดต่างประเทศทั่วโลก และในประเทศ

 

“ตลาดต่างประเทศ” เน้นขยายฐาน “ตลาดหลัก-ศักยภาพ-ใหม่” เพิ่มเที่ยวบิน สร้างพันธมิตร

 

“ตลาดในประเทศ” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว/เมืองรอง วันหยุดยาว แคมเปญระดับชาติ การสื่อสารการตลาด เสริมแบรนด์ “Amazing Thailand” สื่อสารเชิงสร้างสรรค์ รับมือวิกฤต

 

ภารกิจที่ 3 พัฒนาด้านข้อมูลและดิจิทัล ทำระบบข้อมูลแม่นยำ ทันเหตุการณ์ ใช้งานได้จริง รวมทั้งการพัฒนาองค์กรสู่ HPO (High Performance Organization) เสริมคุณค่าทางองค์กร คน และระบบภายใน เพราะทีมเวิร์คคือหัวใจสำคัญ และ “ความคิดเชิงบวก” คือกุญแจสำคัญปลดล็อคศักยภาพ เพราะแค่เริ่มต้นคิดบวกจะมองเห็นโอกาสแทนอุปสรรคทันที

 

ข่าวที่ 5-บางจากเปิดปั๊มทั่วไทยแจกหน้าฝนถึง15ต.ค.นี้ถึง3ต่อ

 

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดสมนาคุณ “ลูกค้ารับหน้าฝน” แวะสถานีน้ำมันบางจากทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ -15 ตุลาคม 2568 รับสุดคุ้มทันที ได้ 3 ต่อ  ดังนี้

 

• ต่อที่ 1 เติมน้ำมันบางจากทุกผลิตภัณฑ์ครบทุก 900 บาท รับฟรี! น้ำดื่มขนาด 1.5 ลิตร 1 ขวดใหญ่ มูลค่า 15 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 31 กรกฎาคม 2568  

 

• ต่อที่ 2 สมาชิก “บางจากกรีนไมลส์” เติมน้ำมันบางจากทุกผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ 900 บาทขึ้นไป สามารถนำสลิปใบเสร็จไปแลกซื้อเครื่องดื่มอินทนิลครึ่งราคาเริ่มตั้งแต่วันนี้- 31 สิงหาคม 2568  แลกได้ 1 แก้ว/สลิป/สิทธิ์ กับเครื่องดื่มยอดนิยม 5 เมนู ได้แก่ อเมริกาโน่เย็น, ชาไทยลาเต้เย็น ขนาด 22 ออนซ์, และ ชิซูโอกะเพียวมัทฉะเย็น, อูจิเพียวมัทฉะเย็น, และอิเสะเพียวมัทฉะเย็น ขนาด 16 ออนซ์ จากราคาปกติ 60-90 บาท

 สลิปใบเสร็จมีอายุ 15 วัน นับจากวันที่เติมน้ำมัน สแลกรับสิทธิ์ได้ที่ร้านอินทนิลทุกสาขาที่ร่วมรายการ ไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์ตลอดแคมเปญ

 

• ต่อที่ 3 สมาชิก “บางจากกรีนไมลส์” รับฟรี น้ำแร่ธรรมชาติ 100% บรรจุกระป๋องลิมิเต็ดคอลเลกชัน จำนวน 1 กระป๋อง มูลค่า 25 บาท มีทั้งหมด 4 ลวดลายน่าสะสม เริ่มวันนี้ -15 ตุลาคม 2568 ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

 

เพียงแค่ “เติมน้ำมันกลุ่มไฮพรีเมียม” ได้แก่ บางจากไฮพรีเมียม 97 หรือ บางจากไฮพรีเมียมดีเซล S ครบทุก 1,200 บาท ก็รับน้ำแร่ธรรมชาติฟรี

 

รับเพิ่ม !! ส่วนลดน้ำมันไฮพรีเมี่ยมได้ลิตรละ 3 บาท ทุกวันจันทร์จนถึง 29 กันยายน 2568

 

พิเศษยิ่งกว่า !! เมื่อสมัครสมาชิก “บางจาก กรีนไมลส์” รับฟรี! คะแนนพิเศษ 150 คะแนน คิดเป็นมูลค่า 30 บาท เมื่อสะสมคะแนนครั้งแรก นำมาใช้รับส่วนลดแทนเงินสดมูลค่า 30 บาท ตั้งแต่วันนี้- 31  สิงหาคม 2568  ดูรายละเอียดเพิ่มที่ www.bcpgreenmiles.com  

 

ข่าวที่ 6-TCEBชูGlobalCoffee&Teaดันเชียงรายเมืองชากาแฟโลก

 

นายภูริพันธ์ บุนนาค รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บสนับสนุนเชียงรายเป็นเมืองจุดหมายปลายทางจัดงานประชุมนานาชาติ (Convention) ล่าสุดงานชาและกาแฟแห่งปี Global Coffee and Tea Association Forum 2025  ระหว่างวันที่ 17- 20 กรกฏาคม 2568 ที่โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท โดยทีเส็บร่วมกับพันธมิตรหลายภาคส่วนจัดงานนี้อย่างยิ่งใหญ่ นำโดย สถาบันชาและกาแฟ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง บริษัทสิงห์ปาร์ค เชียงราย จำกัด เดินหน้าพัฒนาจุดขายก้าวสู่เมืองจัดงานและกระจายจัดงานสู่เมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ

 

ทางผู้จัดคาดมีผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 250 คน จากไทย 210 คน และต่างประเทศ 40 คน หลายทวีป รวมถึงเอเชีย ยุโรป และอเมริกา

 

ภายในงานประชุม Global Coffee and Tea Association Forum 2025  มีไฮไลต์ดึงดูดความสนใจผู้เข้าร่วมงานและผู้ประกอบการในวงการชากาแฟ 

 

ส่วนที่ 1 วิทยากรนานาชาติมืออาชีพวงการชากาแฟ ผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย นักการตลาด 9 ประเทศ จาก สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น เมียนมาร์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เดนมาร์ก ออสเตรเลีย เวียดนาม และไทย ขึ้นเวทีร่วมนำเสนอความรู้เชิงลึก โชว์วิสัยทัศน์คมชัดถึงเรื่องชาและกาแฟพร้อมรองรับอนาคต มีทั้ง หัวข้องานทั้งสถานการณ์ปัจจุบันของแต่ละประเทศ ปัญหาท้าทายการผลิตการพัฒนา การวิจัย นวัตกรรมเพื่อการผลิตและสินค้า ความยั่งยืน คาร์บอนฟุตพรินต์ แนวโน้ม blending และรสชาติ ผลิตภัณฑ์ส่งเสริมสุขภาวะ รวมไปถึงเส้นทางและอัตลักษณ์สินค้าชากาแฟ

 

ส่วนที่ 2 จัดแสดงตัวอย่างสินค้ารูปแบบใหม่ ๆ พัฒนาจากนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ตอบโจทย์ชีวิตผู้คนยุคใหม่ อุปกรณ์ห้องแลบตรวจวิเคราะห์สินค้า บริการ โซลูชั่นการการผลิตชากาแฟ

 

ไฮไลต์งานวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เน้นการสร้างเครือข่ายระดับสูง จัด Round table: Shaping future together เปิดให้ผู้แทนสมาคมชาและกาแฟ หน่วยงานภาครัฐ มหาวิทยาลัย เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกวัน พร้อมกับเปิดงานแสดงสินค้า Chiang Rai Brewtopia (Green Season) ที่อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง ให้ผู้ผลิตท้องถิ่นและนานาชาตินำเสนอผลิตภัณฑ์ชาและกาแฟคุณภาพสูง

 

วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 ผู้แทนสมาคมทั้งในและต่างประเทศ เปิดให้เข้าร่วมกิจกรรม Farm visit: A Cup to Village เยี่ยมชมพื้นที่จริงแปลงปลูกและกระบวนการผลิตชากาแฟ จัดทำเส้นทาง “World Award-Winning Tea Route  ดอยแม่สลอง และเส้นทาง Coffee: A cup to village มอบประสบการณ์ตรงจากต้นทางสู่ปลายทางอุตสาหกรรมชาและกาแฟ

 

วันที่ 19-20 กรกฎาคม 258 จัดให้มีงานแสดงสินค้า Chiang Rai Brewtopia (Green Season) เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ที่อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง คาดตลอด 3 วัน จะมีผู้เยี่ยมกว่า 2,500 คน โดยมีร้านค้าจากในและต่างประเทศให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้  40 ร้านค้า พร้อมกับจัดกิจกรรมเวิร์คช้อปให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้สนใจอย่างหลากหลายด้วย

 

สำหรับ “จังหวัดเชียงราย” กำลังอยู่บนเส้นทางจุดหมายประชุมนานาชาติ โดยสร้างมีชื่อวางตำแหน่ง “เป็นเมืองการประชุมนานาชาติ” ครั้งแรก ในรายงานประจำปี 2024 ของสมาคมจัดการประชุมนานาชาติ (International Congress and Convention Association : ICCA) ต่อเนื่องมาถึงปี 2568 ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานระดับนานาชาติอีก 2 งาน ได้แก่

 

งานแรก  Spring Meeting ของสมาคมพืชสวนโลกระหว่างประเทศ (International Association of Horticultural Producers : AIPH) เมื่อ 9-14 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นเวทีการประชุมแลกเปลี่ยนความรู้และหารือแนวทางการส่งเสริมพื้นที่สีเขียวในเมือง โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกเดินทางมาหารือร่วมกันจำนวนมาก

 

งานที่สอง PATA Destination Marketing Forum 2025 ของสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก (Pacific Asia Travel Association) ช่วงธันวาคม 2568 จะมีสมาชิกในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมงาน แสดงถึงศักยภาพและความพร้อมของเชียงรายพร้อมเป็นแหล่งท่องเที่ยวนานาชาติ โดยมีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทอันหลากหลาย พร้อมก้าวสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

 

ปีงบประมาณ 2567 สำนักงานจังหวัดเชียงรายระบุสถิติการพัฒนาอุตสาหกรรมชาและกาแฟในพื้นที่ให้กลายเป็นแหล่งผลิตชาและกาแฟที่มีคุณภาพได้การยอมรับในระดับสากล ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันทุกภาคส่วนร่วมมือกันผลักดันเชียงรายก้าวสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มในตลาดโลกอย่างเต็มที่ โดยมีพื้นที่และผลผลิตการปลูกคิดเป็นสัดส่วนพื้นที่ปลูกชาเปรียบเทียบกับทั่วประเทศดังนี้

 

“ชา” มีพื้นที่เพาะปลูกมากถึง 91,541 ไร่ คิดเป็น 68.94% มีผลผลิตรวม 76,893 ตัน คิดเป็น 72.31% ของผลผลิตชาทั้งประเทศ

 

“กาแฟ” มีพื้นที่ปลูก 54,892 ไร่ คิดเป็น 25.36% มีผลผลิตรวม 4,736 ตัน คิดเป็น 28.49%

 

 

ช่วงที่ 2 ได้เวลาเดินทางไปพักผ่อนที่ “หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์” กรกฎาคมนี้ ไปฮีลใจชม “งานศิลปะแห่งชีวิต” หรือจะพาครอบครัวไป “หว้ากอ” เที่ยวงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ มีกิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย 18-20 สิงหาคม นี้ แล้วฟัง “5อาหารมื้อเช้ากินแล้วดีมีประโยชน์ และข่าวเจาะลึก ข่าวแรก “รอยัลไมเนอร์”ลั่นปี78ลุยเปิดโรงแรมในญี่ปุ่น 21 แห่ง ข่าวที่สอง “แอร์บัสยิ้ม MAG สั่งซื้อฝูงบินA330neo”ให้มาเลเซียแอร์ไลน์สเพิ่มอีก 20 ลำ

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวประจวบดื่มด่ำงานศิลป์ฮีลใจ-วิทยาศาสตร์หว้ากอ

 

กรีน ซีซั่น เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม นี้ เตรียมแพ็คกระเป๋าไปเที่ยว “หัวหิน” และเมือง 3 อ่าว ประจวบคีรีขันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เปิดปฏิทินรอรับนักท่องเที่ยวมาเติมสุขฟินได้ทุกเดือน

 

เดือนแรก “กรกฎาคม” เสพงานศิลป์ “Full of Heart Exhibition 2 – ฮีลใจ...ให้ใจฟู” ชมฟรี นิทรรศการฮีลใจครั้งใหญ่กลับมาแล้วตามคำเรียกร้อง วันนี้ – 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.00-20.00 น. ที่ หัวหิน คอนเว็นชั่น เซ็นเตอร์ ชั้น 1 บลูพอร์ต หัวหิน

 

ชมนิทรรศการเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการเยียวยา ให้ทุกคนได้โอบกอดตัวตน ผ่านศิลปะลึกถึงใจ  เพราะทุกหัวใจ…มีสิทธิ์รักในแบบของตัวเอง

 

เดินออนทัวร์ชื่นชมได้ภายในพื้นที่จัดแสดง 5 ห้อง ได้แก่ 1.ผืนทรายที่เลอะเลือนและก้อนหินของเรา2.ความเงียบที่สะท้อนดังที่สุด 3.ข้อความถึงเธอผู้เข้มแข็ง 4.เปิดรับและโอบกอด 5.ยอมตัวตน และยอมรับใจเรา

           

เดือนที่ 2 “สิงหาคม” เที่ยวงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ วันที่ 18-22 สิงหาคม นี้ เข้าชมฟรี มหกรรมแสง สี เสียงที่ อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ มีกิจกรรมให้ชมอย่างจุใจมากมาย

 

“ช่วงกลางวัน” ร่วมสนุกกับการแข่งขันของเด็ก ๆ กิจกรรมแรก แรลลี่วิชาการ และนิทรรศการจากเครือข่าย การแข่งขันจรวดขวดน้ำ ดวลจุดโทษ หรือจะเปลี่ยนโมเมนท์ไปทำ กิจกรรมที่ 2 ลานละเล่น ลานประลอง บอร์ดเกม และหุ่นยนต์ กิจกรรมที่ 3 ตื่นตากับนวัตกรรมภูมิปัญญา ปิดท้ายด้วยชมประกวดวาดภาพวิทยาศาสตร์

 

“ช่วงกลางคืน” เข้าสู่สีสันชมการแสดง แสง สี เสียง “เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” เตรียมตกแต่งประดับซุ้มไฟสวย  พลุดอกไม้ไฟ พร้อมฟังและสนุกกับคอนเสิร์ตของเหล่าศิลปินชื่อดัง

 

วันที่ 18 สิงหาคม ชม ลิเก คณะนพรัตน์ ไม้หอม

วันที่ 19 สิงหาคม พบ รุ่ง สุริยา และวงดนตรีเยาวชนจากรายการชิงช้าสวรรค์

วันที่ 20 สิงหาคม พบ อ็อด โฟร์เอส

วันที่ 21 สิงหาคม พบ สิทธิพร สุนทรพจน์ และวงดนตรีเยาวชนจากรายการชิงช้าสวรรค์

 

พิเศษ!! จัดให้นักท่องเที่ยวได้ชมการแสดง “โชว์นางเงือก” แสนงดงาม ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ ระหว่างวันที่ 18 - 21 สิงหาคม นี้ เช่นกัน

 

สุขภาพ –5 อาหารมื้อเช้ากินทุกวันมีประโยชน์ต่อร่างกาย

 

“มื้อเช้า” กับชีวิตที่เร่งรีบ ช่วยให้เราควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่หิวง่าย ทำให้สมองมีอาหารไปเลี้ยงเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้และความจำไปตลอดทั้งวัน วงการโภชนาการแนะนำ “อาหารเช้าที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย” 5 ชนิด ได้แก่

1.ไข่ อุดมคุณค่าทางโภชนาการสูง มีวิตามินและแร่ธาตุถึง 13 ชนิด ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเค วิตามินบี (บี 2,5,6,12) โฟเลต ฟอสฟอรัส ซีลีเนียม แคลเซียม สังกะสี ลูทีน ซีแซนทีน กรดไขมันโอเมก้า3 และโคลีน1 ฟองให้พลังงาน 70 แคลอรี่ วิธีปรุงที่ดีที่สุดคือการต้ม

 

2.โยเกิร์ตรสธรรมชาติ มีจุลินทรีย์โพรไบโอติกมากมาย ประมาณ 80% สร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย รักษาสมดุลให้กับระบบทางเดินอาหาร ช่วยเรื่องการย่อย การดูดซึม การขับถ่ายที่สมบูรณ์ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่างๆ บรรเทาอาการภูมิแพ้ ลดอาการอักเสบ และอาจช่วยลดคลอเรสเตอรอล

 

3. อกไก่ ให้พลังงานสูง โปรตีนสูง ไขมันน้อย  ยังช่วยควบคุมน้ำหนัก และเสริมสมรรถภาพระหว่างการออกกำลังกายได้ด้วย ขนาด 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 120 แคลอรี่ และให้โปรตีนสูงถึง 23 กรัม

 

4.น้ำเต้าหู้ อุดมด้วยโปรตีน กรดไขมันที่จำเป็น ใยอาหาร วิตามิน แร่ธาตุต่างๆ ยังมีสารไอโซฟลาโวนที่ช่วยลดการสลายกระดูก เพิ่มความหนาแน่นมวลกระดูก ช่วยบำรุงผิวพรรณ และสารเลซิทิน ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท

 

5. กล้วยหอม ขนาด 100 กรัม ให้พลังงาน 132 กิโลแคลอรี มีคาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์  วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินเอ วิตามินบีต่างๆ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เบต้า-แคโรทีน โดยเฉพาะ “โพแทสเซียมและแมกนีเซียม” ในกล้วย

มีบทบาทสำคัญควบคุมความดันโลหิต จึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือดนั่นเอง

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –รอยัลไมเนอร์เปิดรร.แรกในญี่ปุ่นปี’78ลุยขยาย21แห่ง

 

บริษัท รอยัล ไมเนอร์ โฮเทลส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท รอยัล โฮลดิ้งส์ จำกัด และ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ประกาศลงนามสัญญาบริหารโครงการอนันตราแห่งแรกในญี่ปุ่น จับมือกับ บริษัท ลิสต์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด พัฒนาโครงการ “อนันตรา คารุอิซาวะ รีทรีต (Karuizawa) เตรียมเปิดให้บริการ พ.ศ.2573 ประกอบด้วย ห้องสวีทและเรสซิเดนซ์รวม 51 ยูนิต บนพื้นที่ป่าอันเงียบสงบขนาด 10 เอเคอร์ หันหน้าไปทางทิวทัศน์ภูเขาอาซามะ เมืองคารุอิซาวะ จังหวัดนากาโนะ

 

การลงนามสัญญาบริหารโรงแรม “อนันตรา คารุอิซาวะ รีทรีต” ถือเป็นครั้งแรกภายหลังก่อตั้ง บริษัท รอยัล ไมเนอร์ โฮเทลส์ จำกัด เมื่อเดือนมีนาคม 2568 โดย รอยัล ไมเนอร์ มีแผนจะร่วมมือกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของญี่ปุ่นบริหารโรงแรม 3 แบรนด์ ของไมเนอร์ โฮเทลส์ ได้แก่ อนันตรา ทิโวลี และอวานี  ภายในปี 2578 ตั้งเป้าเปิดโรงแรมในญี่ปุ่นรวมทั้งสิ้น 21 แห่ง

 

สำหรับ “อนันตรา คารุอิซาวะ รีทรีต” เน้นจุดขายเสน่ห์ความงามตามธรรมชาติของภูมิภาคตลอดทั้งปี  เติมประสบการณ์การพักผ่อนด้วยทำเลใกล้สถานีรถไฟชินคันเซ็น “คารุอิซาวะ โฮคุริคุ” เดินทางสะดวกจากกรุงโตเกียวมารีสอร์ทเพียง 1 ชั่วโมง อยู่เมืองใกล้เคียงอย่าง นากาโนะ คานาซาวะ และมาเอะบาชิ เป็นสถานที่ยอดนิยมในการพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ ฤดูร้อนอากาศเย็นสบาย และมีกิจกรรมกลางแจ้งตลอดทั้งปี  เช่น สวนคาซาโคชิแห่งคารุอิซาวะ สนามกอล์ฟ ป่าไม้ เส้นทางเดินป่า น้ำพุร้อน และลานสกี

 

แล้วคารุอิซาวะยังได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวเอเชีย เพราะสามารถเดินทางจากโตเกียวที่สนามบินนานาชาติฮาเนดะและนาริตะใช้รถไฟมายังรีสอร์ตได้ภายใน 2–3 ชั่วโมง

 

“อนันตรา คารุอิซาวะ รีทรีต” เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย ห้องสวีท 23 ยูนิต ขนาด 60-120 ตารางเมตร และ “วิลล่าหรู” แบบ 2-3 ห้องนอนอีก 18 ยูนิต ขนาด 70- 270 ตารางเมตร และอยู่ระหว่างพิจารณาลงทุนเรสซิเดนซ์ในอนาคต ทำให้วิลล่ามีห้องพักโรงแรมเพิ่มอีก 28 ยูนิต รวมทั้งหมด 51 ยูนิต บางส่วนจะเป็นวิลล่า 2 ห้องนอน ซึ่งขนาด 70 และ 130 ตารางเมตร

 

พร้อม “บริการผู้เข้าพัก” จะได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์ด้านอาหารและเครื่องดื่ม จากห้องอาหารและบาร์ 3 แห่ง ได้แก่ 1.ห้องอาหารเปิดให้บริการตลอดทั้งวันแบบ All day dining  2.ห้องอาหารคอนเซ็ปต์พิเศษ และ 3.บาร์ ภายในโรงแรมมี “อนันตรา สปา และ ออนเซ็น” หัวใจสำคัญบริการด้านสุขภาพทำโปรแกรมไว้ให้เลือกหลากหลาย

 

มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทั้ง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องสมุด และเลานจ์ ส่วน “พื้นที่ประชุม” สามารถปรับเปลี่ยนได้ รองรับความต้องการจัดสัมมนาและการประชุมทางธุรกิจ

 

ข่าวที่สอง –แอร์บัสยิ้ม!!MAGสั่งA330neoให้มาเลเซียแอร์ไลน์สเพิ่ม20 ลำ

 

            กลุ่มสายการบินมาเลเซีย (MAG : Malaysia Aviation Group) บริษัทแม่ของสายการบินแห่งชาติ “มาเลเซีย แอร์ไลน์ส์” ยืนยันคำสั่งซื้ออย่างเป็นทางการเครื่องบินแอร์บัส เอ330-900 จากแอร์บัสเพิ่มอีก 20 ลำ ทำให้ฝูงบินในอนาคตของสายการบินนี้จะมี A330neo เพิ่มขึ้นเป็น 40 ลำ

 

เป็นช่วงที่ “นายอันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เดินทางเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ ก็มีประกาศคำสั่งซื้อฝูงบินให้ มาเลเซีย แอร์ไลน์ส ดังกล่าว หลังจากเมื่อปี 2565 ทาง MAG ได้เลือกสั่งซื้อล็อตแรกเครื่องบิน A330neo เป็นครั้งแรก โดยได้ปรับฝูงบินมาใช้ลำตัวกว้าง ด้วยยอดสั่งซื้อ 20 ลำ ขณะนี้ทยอยส่งมอบแล้ว ลำ

 

“เครื่องบินรุ่นใหม่” มาพร้อม “ห้องโดยสารระดับพรีเมียม” ออกแบบใหม่ทั้งหมด เริ่มให้บริการเส้นทางโดยสาร ไป-กลับ จาก “กัวลาลัมเปอร์” มาเลเซีย สู่ปลายทางหลักแล้วคือเมลเบิร์น/ออสเตรเลีย โอ๊คแลนด์/นิวซีแลนด์ และบาหลี/อินโดนีเซีย

 

“ดาโต๊ะ กัปตัน อิซฮาม อิสมาอิล” กรรมการผู้จัดการกลุ่ม MAG กล่าวว่า A330neo A330neo ตอบโจทย์ครอบคลุมทั้งเรื่อง ประสิทธิภาพ ระยะทาง ความสะดวกสบายของห้องโดยสารได้อย่างเหมาะสม สามารถสนับสนุนเครือข่ายและกลยุทธ์การเติบโตให้สายการบินได้ แล้วยัง “ประหยัดเชื้อเพลิง” ที่ดียิ่งขึ้น มีความยืดหยุ่นในการให้บริการทั้งเส้นทางภูมิภาคและระยะไกล เครื่องบินรุ่นนี้จึงตอบโจทย์ตลาดเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างเหมาะสม ช่วยนำเสนอผลิตภัณฑ์สอดคล้องกับภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม ด้านความทันสมัย ประสิทธิภาพ การออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบาย ความคาดหวังของผู้โดยสาร

 

คำสั่งซื้อเพิ่มครั้งนี้อีก 20 ลำ ได้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่จะสร้างฝูงบินพร้อมรับอนาคต สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน ส่งมอบคุณค่าอย่างต่อเนื่องให้ผู้โดยสาร เสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดสำคัญได้ด้วย

           

นายเบอนัวต์ เดอ แซงต์-เอ็กซูเปรี รองประธานบริหารฝ่ายขาย ฝ่ายธุรกิจเครื่องบินพาณิชย์ของแอร์บัส กล่าวว่า ภูมิใจที่ได้สานต่อความสัมพันธ์กับ MAG ช่วงที่บริษัทฯ กำลังขยายฝูงบิน A330neo การสั่งซื้อซ้ำในครั้งนี้สะท้อนถึงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมเครื่องบินรุ่นดังกล่าว ด้านประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง ความยืดหยุ่น ความสะดวกสบายของผู้โดยสาร ช่วยตอกย้ำสายการบินพรีเมี่ยมทั่วโลกนิยมเครื่องบินรุ่นนี้อย่างมาก

 

“แอร์บัส A330-900 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รุ่นล่าสุดของโรลส์-รอยซ์ เทรนท์ 7000  สามารถบินได้ไกลโดยไม่หยุดพักถึง 7,200 ไมล์ทะเล หรือ 13,300 กิโลเมตร แล้ว A330neo ยังมาพร้อมห้องโดยสาร “แอร์สเปซ” ที่ได้รับรางวัล พร้อมมอบประสบการณ์เหนือระดับ สะดวกสบายสูง บรรยากาศดีเยี่ยม ออกแบบทันสมัยระดับพรีเมียมให้ผู้โดยสาร ประกอบด้วย  1.พื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น 2.ช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะขนาดใหญ่ 3.ระบบไฟส่องสว่างใหม่ 4.การเข้าถึงระบบความบันเทิงและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตล่าสุดบนเครื่องบิน

           

สิ้นเดือนพฤษภาคม 2568 เครื่องบินตระกูล A330 มียอดคำสั่งซื้อแบบยืนยันแล้วกว่า 1,800 ลำ จากลูกค้าทั่วโลกกว่า 130 ราย เช่นเดียวกับเครื่องบินรุ่นอื่น ๆ ที่แอร์บัสอยู่ระหว่างการผลิต A330neo สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงการบินแบบยั่งยืน (SAF) ได้สูงสุด 50 % ตั้งเป้าภายในปี 2573 เพิ่มขีดความสามารถใช้ให้ได้ถึง 100 %

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ททท.เร่งครึ่งปีหลัง68นำท่องเที่ยวเอเชียสู่แดนบวกปั๊ม "จีน"โตทำชาเตอร์ไฟลต์จัดหนีห่าวมันธ์

  ททท.งัดทุกกลยุทธ์ปั๊มครึ่งปีหลัง 68 “เอเชีย-แปซิฟิก”สู่แดนบวก “จีน”สัญญาณดีก.ค.-ธ.ค.อัดงบจัด“ชาเตอร์ไฟลต์-หนีห่าวมันธ์” ปี ’69 เพิ่มรา...