วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ททท.ครึ่งปีหลัง68ดันเอเชียตะวันออกสดใส5ตลาด-ปั๊มจีน5กิจกรรม-ปี69รุกใหม่3แนว

ชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผอ.ภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
 

ททท.ปลุกครึ่งปีหลัง68“เอเชียตะวันออก”สดใส 5 ประเทศ

ปั๊มทัวร์จีน5กิจกรรม-โร้ดโชว์ญี่ปุ่น/ไต้หวัน/เกาหลี/ฮ่องกง

TATAP2026 รุก 3 แนว“ภาพลักษณ์-ตลาดเฉพาะ-เที่ยวซ้ำ

ช้อป “THE POWER SALE”ที่คิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิ

คิงเพาเวอร์“ศรีวารี-พัทยา”ลดสุด50%+ออนท็อปสุด 20%

สมาชิกคิงเพาเวอร์พบกับโฉมใหม่ KINGPOWER PASS

ททท.-ตลาดหลักทรัพย์ดัน 5 ธุรกิจทำ ESG เที่ยวชุมชน

บางจากปลื้มสมาชิกกรีนไมล์บริจาค3.6ล้านบาท19องค์กร

TCEBจัด“Visionary Stage”ดันเทศกาลไทยสู่โลก11ก.ค.68

เช็คอินกินเที่ยว “ตลาดชุมชนชากแง้ว” พัทยาทุกวันเสาร์

9 วิธีกินของผู้สูงวัย “กินเพลิน-เจริญตา-พาจำดี-มีพลัง”

AOTตีปีกครม.อนุมัติประมูลGSHสุวรรณภูมิ 9 พันล้าน

“เอมิเรตส์”เปิดโฉมชั้นพรีเมี่ยมอีโคA380“กรุงเทพ-ดูไบ”

วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก  #ตลาดชุมชนชากแง้ว

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/19bv1ZK1EA/

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการ ภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ครึ่งปีหลัง68 มีสัญญาณสดใสนักท่องเที่ยว 5 ตลาด “จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลี-ไต้หวัน-ฮ่องกง” ต้น ก.ค.นี้ “จีน” เพิ่มเกือบ 100 % เร่งกระตุ้นครั้งใหญ่ด้วย 5 กิจกรรม “สวัสดีหนีห่าว-โร้ดโชว์ใหม่ 3 เมือง-หนีห่าวมันธ์-หนีห่าวอะเลิท-Saft Travel Stamp” ส่วนตลาด “เกาหลี” จับมือนำพระเอกซีรีย์ดังถ่ายทำในไทยโปรโมทท่องเที่ยว ตลาด “ญี่ปุ่น” ผนึกทีวีอาซาฮีขยายผลโครงการ โดราเอมอน ทู ไทยแลนด์ Ep.2-3  ตลาด “ไต้หวัน” บุกโร้ดโชว์เมืองรอง ไถจง เกาสง ปูทางเชื่อมต่อใน TATAP 2026 ปี’69 ปลดล็อกจุดอ่อนเที่ยวไทย 3 แนวทาง “ปรับภาพลักษณ์ความปลอดภัย-รุกกลุ่มเที่ยวเฉพาะ 7 ตลาด-ขยายฐานเที่ยวซ้ำ 2 กลุ่มใหญ่” นำไทยขวัญใจทัวร์เอเชีย

 

นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการ ภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์ท่องเที่ยวครึ่งหลังปี 2568 จะเร่งกระตุ้น “ตลาดเอเชียตะวันออก” หลังจากผ่านพ้นความท้าทายครึ่งปีแรกหลายสถานการณ์ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ สงครามระหว่างประเทศ ค่าครองชีพ ล้วนมีผลทำต่อนักท่องเที่ยวในการตัดสินใจชะลอการเดินทาง ขณะนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกเที่ยวไทยระหว่าง  1 มกราคม-4 กรกฎาคม 2568 แล้วกว่า 17 ล้านคน

 

โดยเฉพาะ “ตลาดเอเชียตะวันออก” ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568  ทั้ง 5 ประเทศ ได้แก่ “สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี มีสัญญาณสดใสมากขึ้นตามลำดับ “จีน” ช่วงมกราคม-เมษายน ค่อนข้างดี แต่พอเจอ “ซิงซิง เอฟเฟค” เหตุการณ์ดาราจีนโดนลักพาตัวไปเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ ไทยก็ได้รับผลกระทบหดตัวลง “เดือนเมษายน” ช่วงสงกรานต์เจอเรื่องแผ่นดินไหวทำให้จีนยกเลิกการจองล่วงหน้าจำนวนมาก “เดือนพฤษภาคม” เป็นช่วงวันแรงงานจีนตัวเลขจีนเที่ยวไทยกลับมาดีมากอีกครั้ง “เดือนมิถุนายน” ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา และเหตุการณ์ทางการเมือง ผนวกกับข่าวมีวัตถุระเบิดต้องสงสัยในภูเก็ตก็มีผลตามมาเช่นกัน

 


“เดือนกรกฎาคม 2568 เริ่มเข้าสู่ภาวะฤดูท่องเที่ยว high Season ปี 2568 จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เข้าสู่ “ปิดเทอมภาคฤดูร้อน” เด็กสอบเสร็จสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองในจีนจะเริ่มพาลูก ๆ และครอบครัวออกเดินทางท่องเที่ยว เลือกไทยเป็นจุดหมายปลาย ตรวจสอบยอดเดินทางรายวันเฉพาะวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 จีนเที่ยวไทยวันละ 13,000 คน สูงกว่าช่วงมิถุนายนมาเพียงวันละ 7,000 คน ตอนนี้เห็นสัญญาณเติบโตเพิ่มเกือบ 100 % เป็นผลจาก ททท.ทำงานอย่างหนักต่อเนื่องมาตลอด

ททท.ทำการตลาดอย่างหนักในเชิงรุกหลากหลายรูปแบบ ใช้เครื่องมือทุกช่องทาง สร้างแรงจูงใจ ฟื้นฟูให้นักท่องเที่ยวจีนเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางมาเที่ยวตลอดทั้งปี ประกอบด้วย

 


กิจกรรมที่ 1 สวัสดี หนีห่าว : Sawasdee Nihao ที่โรงแรม แกรนด์ เซ็นทารา กรุงเทพฯ จัดใหญ่สุดในโลกสร้างประวัติศาสตร์การตั้ง ททท.มา 67 ปี ทั้งการจัด Mega Fam Trip และ Table Top Sale ได้เชิญทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในจีน 34 มณฑล นำโดย KOL , อินฟลูเอนเซอร์ สื่อกระแสหลักของจีน (traditional media) กว่า 250 ราย เอเย่นต์กลุ่มตัวแทนผู้ซื้อของจีน 350 ราย มาจับคู่กับผู้ประกอบการตัวแทนขายของไทยกว่า 500 ราย

“ผลสำเร็จ” จากโครงการ “สวัสดี หนีห่าว” ผู้ประกอบการท่องเที่ยวกับสื่อต่าง ๆ ของจีนรับรู้ข้อมูลเชิงบวก ทำให้ “ยอดจองท่องเที่ยวเมืองไทย” ขยับเพิ่มขึ้นมากทีเดียว ททท.คาดหวังไทยจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่ไปมีผลกระทบกับตลาดจีนอีก ช่วงกรกฎาคมนี้ทางสายการบินจีนเริ่มเปิดเที่ยวบินเพิ่มเข้าไทย เช่น ฉงชิ่ง-ภูเก็ต กับ เหอเฟย-กรุงเทพฯ

กิจกรรมที่ 2 ทำโร้ดโชว์ร่วมกับสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ระหว่าง 28 กรกฎาคม -1 สิงหาคม 2568 ไปจีน 3 เมือง ได้แก่ ฉงชิ่ง หลานโจว หางโจว

กิจกรรมที่ 3 ลงทุนพัฒนาแอปพลิเคชั่น “ หนีห่าว อะเลิท : Nihao Alert เตรียมเปิดตัว ตุลาคม 2568 ทำภาษาจีนเป็นช่องทางให้นักท่องเที่ยวจีนใช้บริการ ติ ชม ร้องทุกข์ กรณีเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ เป็นแอปเชื่อมต่อเข้ากับสำนักงานตำรวจท่องเที่ยวของไทย โซเชียล และศูนย์ร้องเรียนของ ททท.

กิจกรรมที่ 4 จัดมหกรรม “หนีห่าว มันธ์ : Nihao Month” จะจัดวันที่ 7 ตุลาคม 2568 ตรงกับวันไหว้พระจันทร์ ททท.กำลังติดต่ออินฟลูเอนเซอร์ดัง ๆ มาร่วมงาน และผนึกกับแพลตฟอร์มใหญ่ในจีนชื่อ “บิลลี่ บิลลี่” เป็นออนไลน์ยอดนิยมตลาดคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา มหาวิทยาลัย ซึ่งตอนนี้นักท่องเที่ยวจีนมาไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนอายุน้อย วัยเริ่มทำงาน

 


ภายในงาน “หนีห่าว มันธ์” ปี 2568 ททท.จะเน้นต่อยอดส่งเสริมตลาดจีนร่วมกับแพลตฟอร์มรายใหญ่หลายค่ายด้วยกันปี 2567 ร่วมกับแพลตฟอร์มชำระเงินชั้นนำ เช่น  ยูเนียน เปย์ (Union Pay) อลีเพย์  (Alipay) รวมถึงแพลตฟอร์ม 1.ซีทริป (Ctrip) บริษัทจัดการท่องเที่ยวออนไลน์ 2.เหม่ยถวน (Meituan) บริการแบบครบวงจรหลายด้านทั้ง สั่งอาหารออนไลน์ จองโรงแรม จองตั๋วหนัง และอื่น ๆ 3. ถงเฉิน (Tongcheng) แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์รายใหญ่สุดแห่งหนึ่งของจีน

ททท.ได้จัดทำข้อมูลวิเคราะห์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทย นิยม “ใช้จ่ายเงิน”  1.อาหารการกิน จึงเตรียมทำงานร่วมกับร้านอาหารต่าง ๆ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ 2.ซิ้อสินค้าตามร้านสะดวกซื้อ จะจับมือกันทำโปรโมชั่น มอบของแถมต่าง ๆ

กิจกรรมที่ 5 Saft Travel Stamp ผู้ว่าการ ททท.ได้ริเริ่มแนวคิดนี้จะเริ่มทำกับผู้ประกอบการโรงแรมทั่วเมืองไทย ใช้ “ตราสัญลักษณ์พิเศษ Travel Stamp” ภายใต้ 4 หลักเกณฑ์ ได้แก่ 1.ทุกโรงแรมจะต้องใช้แพลตฟอร์ม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนนิยมใช้โซเชียล มีเดีย จ่ายเงินผ่านระบบดิจิทัล จะต้องสะดวกปลอดภัย 2.มีระบบ CCTV 24 ชั่วโมง 3.จัดเตรียมพนักงานโรงแรมสื่อสารภาษาจีนได้ดี 4.การเดินทางเข้าถึงโรงแรมที่พักสะดวก สามารถเสิร์ซผ่าน ไป่ตู้ หรือ google map ได้

 


ตลาด “เกาหลี” ตอนนี้การเลือกตั้งภายในประเทศจบแล้ว นักท่องเที่ยวเริ่มมาไทยเพิ่มขึ้นวันละ 4,000-5,000 คน สถิติล่าสุด ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เที่ยวไทยแล้ว 7.82 แสนคน ททท.ทำงานร่วมกับเซเลบริตี้ต่าง ๆ โดยให้การสนับสนุนซีรีย์ดังมีพระเอกดัง “อีจุงโฮ” เตรียมเข้ามาถ่ายทำซีรีย์ใหม่ Ep.2-3 แถวย่านฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ ซึ่งจะช่วยโปรโมทท่องเที่ยวไทยในตลาดเกาหลีกลับมาโด่งดังอีกครั้งล่าสุด ททท.เพิ่งทำโร้ดโชว์นำเอกชนท่องเที่ยวเดินทางไปทำการขายในเกาหลี 2 เมือง กรุงโซล กับปูซาน เป็นสัญญาณที่ดีจะกลับมาเติบโตใหม่อีกครั้ง

 

ตลาด “ญี่ปุ่น”  เป็นตลาดเดียวที่สดใสตั้งแต่ต้นปี 2568 มาจนถึงปัจจุบัน ททท.ทำโร้ดโชว์เพิ่งเสร็จไป 3 เมือง ในโตเกียว โอซาก้า และฟูกูโอกะ ขณะนี้ร่วมมือกับ “มังงะ” นำตัวการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง “โดราเอมอน ทู ไทยแลนด์” นำเสนอโปรแกรมท่องเที่ยวขายดีมากโดยชวนคนญี่ปุ่นเดินทางมาค้นหาแมวตัวนั้นที่เมืองไทย ททท.จะร่วมกับทางทีวีอาซาฮีและเจ้าของลิขสิทธิ์โดราเอมอน ต่อยอดทำ Ep.2-3 ขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มเที่ยวบินมาไทยมากขึ้น

ตลาด “ไต้หวัน” เดินสายจัดโร้ดโชว์รุกเจาะพื้นที่ตลาดเมืองรอง 2 แห่ง คือ ไถจง (Taichung) กับ เกาสง ซึ่งไทยได้อานิสงเที่ยวบินเปิดบริการเพิ่มขึ้น และวีซ่าฟรี

นักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออกจะอ่อนไหวกับเรื่อง “ภาพลักษณ์” ของประเทศไทย จะต้องหาวิธีบริหารจัดการสื่อสารให้ชัดเจนในแต่ละประเทศ

ผอ.ชูวิทย์ กล่าวว่า เตรียมเชื่อมต่อกลยุทธ์ตลาดเอเชียตะวันออกบรรจุไว้ใน “แผนการตลาดประจำปี 2569 :TATAP 2026” ที่จะสรุปกลางเดือนกรกฎาคม 2568 เร่งแก้ “จุดอ่อน” ของประเทศไทยภาพรวมทั้งหมด ซึ่งมีผลกระทบรุนแรงที่สุด เตรียมแผนแก้ไขและรับมือไว้ 3 แนวทาง ได้แก่

 


แนวทางที่ 1   ปรับภาพลักษณ์ความไม่ปลอดภัย จะต้องบริหารจัดการภาพลักษณ์เชิงลบให้หมดไปโดยเร็ว ททท.จะเดินหน้าจับมือกับทุกแพลตฟอร์มในจีน ฮ่องกง ไต้หวัน ประการสำคัญสุดจะต้องเร่ง “กระชับความสัมพันธ์” ยกระดับมากกว่าระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล แต่จะต้องขยายไปสู่ “ประชาชนไทยกับจีน” หรือ P to P : People to People เนื่องจากสื่อโซเชียล มีเดีย ของจีน กระจายข่าวสารต่าง ๆ ของไทยออกไปเร็วมาก ดังนั้นก่อนจะโพสต์หรือแชร์ต้องคำนึงผลที่จะตามมาด้วย เนื่องจากโซเชียลเป็นดาบสองคมที่สร้างผลกระทบได้ทั้ง “เชิงบวก” ที่ดี และ “เชิงลบ” ทำให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นแบบไม่คาดคิดด้วยเช่นกัน

แนวทางที่ 2 กระตุ้นการใช้จ่ายเจาะลึกกลุ่มตลาดคุณภาพสูง พุ่งเป้าไปยังกลุ่มสนใจเดินทางท่องเที่ยวเฉพาะ หรือ Niche Market ประกอบด้วย 

กลุ่มที่ 1 นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Health & Wellness

กลุ่มที่ 2 คู่รักฮันนีมูน พร้อมใช้เงินแบบไม่อั้น

กลุ่มที่ 3 การท่องเที่ยวหรูหรา /Luxury ใช้จ่ายเงินสูงมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปหลายเท่า

กลุ่มที่ 4 นักท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางเพศ LGBTQ + ทั่วเอเชียมีจำนวนมาก

กลุ่มที่ 5 ผู้สูงวัยตามโครงสร้างสังคมโลกกำลังเข้าสู่ Aging Society กลุ่มต่างชาติในเอเชียตะวันออก เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง คนสูงวัยมักจะรวมตัวกันตั้งเป็นสมาคม แล้วออกไปรวมกลุ่มกันตามสวนสาธารณะทำกิจกรรมต่าง ๆ  เดินทางมาประกวดในเมืองไทย

กลุ่มที่ 6 นักเรียน นักศึกษา ตอนนี้เริ่มหันมาเรียนในไทย จึงทำให้มีตลาดใหม่เป็นครอบครัว เดินทางมาเยี่ยมลูกหลานที่มาเรียนด้วย

กลุ่มที่ 7 กีฬา มีนักท่องเที่ยวไฮเอนด์อย่าง ดำน้ำ มาราธอน เล่นกอล์ฟ ฝึกคอร์สมวยไทย ตอบโจทย์เอเชียทั้ง 5 ประเทศ

แนวทางที่ 3 เร่งหานักท่องเที่ยวทดแทนกลุ่มที่หายไป 2 กลุ่มหลัก  ได้แก่ กลุ่มที่ 1 นักท่องเที่ยวกลุ่มซ้ำ หรือ Re-Visit ททท.เร่งมุ่งเจาะกลุ่มขนาดใหญ่พร้อมกลับมาเที่ยวเมืองไทยต่อเนื่อง ถือเป็นกลุ่มที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ประเทศไทย Thailand Loyalty ซึ่งไม่ว่าภาพลักษณ์ไทยเรื่องความปลอดภัยจะเป็นอย่างไร เพราะมีทั้งข่าวจริง ข่าวปลอม นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ก็ยังคงเดินทางเข้ามาซ้ำ ๆเป็นประจำ กลุ่มที่ 2 นักเดินทางที่ชอบจองตั๋วการเดินทางช่วงนาทีสุดท้าย หรือ last minit travel สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวตลาดเอเชียตะวันออก จะจองล่วงหน้าสั้นมากเพียง 1-3 วันเท่านั้น สามารถข้ามาเติมจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยได้เช่นกัน

ผอ.ชูวิทย์ กล่าวว่า ททท.ขอฝากถึงคนไทยทุกคนให้ร่วมมือกัน “ดูแลภาพลักษณ์ประเทศไทย” โดยเฉพาะจีนเป็นตลาดที่สื่อสารข่าวแบบช่องทางเดียวหรือ Single Gateway ด้วยสื่อหลักของจีนเช่น WeChat เว่ยโป๋ และอื่น ๆ ของจีน แล้วคนจีนก็ไม่ได้ใช้ช่องทางจากตะวันตกหรืออื่น ๆ  เช่น youtube อินสตาแกรม Facebook Line แทบไม่ได้เลย ดังนั้นการโพสต์และแชร์ข้อมูลต่าง ๆ ให้คำนึงถึงภาพลักษณ์เมืองไทยด้วย แล้วก็สร้างความสมานฉันท์ระหว่างคนไทยกับคนจีน อย่างนักธุรกิจจีนที่เข้ามาลงทุนในไทย ต้องใช้เหตุผลสื่อสารกันในทางที่ดี สร้างสัมพันธ์ที่ดีให้การท่องเที่ยวไทยไปต่อในตลาดจีนอย่างรุ่งเรืองเหมือนอดีตที่ผ่านมา

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1-ช้อปTHE POWER SALE”ที่คิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิ

คิง เพาเวอร์ จัดต่อเนื่องมหกรรม “THE POWER SALE” ช้อปคุ้มก่อนบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ คุ้มแรงดี ไม่มีแผ่ว! ตั้งแต่วันนี้ – 15 สิงหาคม 2568 สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เท่านั้น

นักเดินทางห้ามพลาด! พบกับมหกรรมการช้อปครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี “Amazing Thailand Grand Sale 2025”

1.ช้อปไอเทมฮิต รับส่วนลดสูงสุด 30%เมื่อช้อปตามเงื่อนไขที่กำหนด กับสินค้าที่ร่วมรายการ)

2.รับฟรี! กระเป๋าลายสกรีนสุดพิเศษจาก Amazing Thailand Grand Sale 2025 เพียงช้อปครบ 2,000 บาท (สุทธิ) / ใบเสร็จ ช้อปก่อนรับกระเป๋าเก๋ ๆ ได้ก่อนใคร


ข่าวที่ 2 -คิงเพาเวอร์“ศรีวารี-พัทยา”ลดสุด50%+ออนท็อป20%

คิง เพาเวอร์ “เผยความลับนางฟ้า” เมื่อมีไฟลต์บินต่างประเทศช้อปคุ้มกว่า นักเดินทางที่มีทริปต้องบินเร็ว ๆ นี้ ห้ามพลาด ช้อปที่ คิง เพาเวอร์ 2 สาขานี้ เท่านั้น คือ “ศรีวารี และพัทยา”  จัดเต็มสินค้าลดสูงสุด 50% ระหว่างวันนี้ -13 กรกฎาคม 2568 ซื้อแล้วก่อนขึ้นเครื่องแวะรับสินค้าทุกรายการได้ที่สนามบินขาออกประเทศได้ทุกทริป

ทางคิง เพาเวอร์ ชวนพันธมิตรพาเหรดสินค้าแบรนด์อินเตอร์มากมาย ครอบคลุมหลายหมวด สมนาคุณด้วยส่วนลด 50 % แล้วยังสามารถใช้สิทธิ์สมาชิก “Power Pass” ใช้ส่วนลดออนท็อปเพิ่มได้สูงสุดอีก 20 % ดูข้อมูลเพิ่มเติม : https://kp.group/HVgYAN



ข่าวที่ 3-สมาชิกคิงเพาเวอร์รับโฉมใหม่ KINGPOWER PASS

 

“คิง เพาเวอร์” ปรับโฉมใหม่ “POWER PASS” เดินหน้าคืนกำไรให้สมาชิกบัตรแต่ละประเภท เร็ว ๆ นี้ เตรียมพบสิทธิประโยชน์รูปแบบบริการและสิทธิประโยชน์ปัง ๆ มากมาย เรียกน้ำย่อยด้วย 4 สิทธิ์ ที่จับต้องได้ คือ

 

1.อัปเกรดง่าย ได้มากกว่าเดิม ทุกสถานะ…พบสิทธิพิเศษจัดเต็ม คุ้มทุกครั้งที่ใช้

 

2.ยิ่งช้อป ยิ่งอัปเกรด ยิ่งใช้ ยิ่งได้สิทธิพิเศษมากกว่าเดิม!

 

3.สมาชิกสามารถเช็กสถานะและคะแนนสะสม “กะรัต : CARAT  ได้ตลอด ผ่านทางเว็บไซต์ powerpass.kingpower.com

 

4.ยังไม่เป็นสมาชิก สามารถสมัครสมาชิกได้ง่าย ๆ โดยรับสถานฟรี “สมาชิก NAVY” เพื่อรับสิทธิประโยชน์สมาชิก ทันทีที่สมัคร

 

ข่าวที่ 4-ททท.-ตลาดหลักทรัพย์ดัน5ธุรกิจทำESGเที่ยวชุมชน

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดตัวอย่างเป็นทางการโครงการ “Village to the World #SustainableAgenda” โดยมีพันธมิตรเข้าร่วมหลายภาคส่วนผนึกการขับเคลื่อน “ตลาดทุน ชุมชน บริษัทจดทะเบียน” เดินหน้ายกระดับชุมชนท่องเที่ยวของไทยตอบโจทย์กลยุทธ์ด้าน “สิ่งแวดล้อม-สังคม-ธรรมาภิบาลหรือ :  ESG -Environmental, Social, and Governance ภาคธุรกิจไทยที่วัดผลได้จริง ทำครั้งแรกตามแนวคิด “ESG Partnership for Impact”

 

เร่งสร้างกลไกการลงทุนที่มีผลตอบแทนทั้งเชิงธุรกิจและเชิงสังคม โดยเชื่อมั่นการท่องเที่ยวชุมชนจะใช้การพักผ่อนด้วยกิจกรรมทรงคุณค่าด้วยการคืนประโยชน์สู่สังคมหรือ CSR กลายเป็นพลังขับเคลื่อนความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่า ช่วยกระจายรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิต เชื่อมโยงภาคธุรกิจกับสังคมไทยอย่างมีคุณภาพ    ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังร่วมกันยกระดับ ชุมชนให้นักท่องเที่ยวเลือกเป็นจุดหมายปลายทาง สู่ก้าวสำคัญ “ESG ที่มีชีวิต” พื้นที่จริงของภาคธุรกิจสามารถลงมือทำ สร้างผลลัพธ์ และเติบโตไปพร้อมกับคนในพื้นที่

 

ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ ย้ำว่า ททท. ประเมินชุมชนทั่วประเทศของไทยสมมารถป็นมากกว่าแหล่งท่องเที่ยวนั่นคือเป็น “จุดเริ่มต้นของโอกาสใหม่” ทั้งด้านธุรกิจ วัฒนธรรม ความยั่งยืนเดินไปด้วยกันได้จริง

 

ดร. ศรพล ตุลยะเสถียร ตัวแทนผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการนี้ถือเป็น ก้าวแรก”ด้านการเชื่อมโยงตลาดทุนเข้ากับการพัฒนาชุมชนอย่างแท้จริงจากความร่วมมือรูปธรรมระหว่างภาคท่องเที่ยว ตลาดทุน และชุมชน ด้วยเป้าหมายสำคัญเปลี่ยนบทบาทของชุมชนจาก “ผู้ให้บริการ” สู่ “พันธมิตรเชิงกลยุทธ์” ของภาคธุรกิจในกรอบ ESG ใช้โครงการเป็นศูนย์กลางประสานความร่วมมือ ภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น ด้วยวิธีจับคู่ บริษัทจดทะเบียน ชุมชนในพื้นที่นำร่อง 5 จังหวัด ดังนี้

 

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ร่วมพัฒนา 2 ชุมชน ท่ามะโอ และ ปงสนุก.ลำปาง ออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวโดยชุมชน พร้อมส่งเสริมให้เปิดเผยข้อมูลวัฒนธรรมตามแนวทาง UNESCO Culture | 2030 Indicators

 

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)AWC และ โรงแรมมีเลี โฮเทลส์ แอนดื รีสอร์ท พัทยา ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนเปลี่ยนขยะให้เป็นประโยชน์ รักษ์ทะเลเสน่ห์บ้านอำเภอ จ.ชลบุรี เน้นการพัฒนาการจัดการขยะและสิ่งแวดล้อมเชิงสร้างสรรค์ ยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

 

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) “ AISร่วมพัฒนาชุมชน แม่สูนน้อย และ ดอยเวียง จ.เชียงใหม่ เสริมสร้างทักษะดิจิทัลทำประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว และความปลอดภัยบนโลกออนไลน์

 

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCG) โดย Yournique พัฒนาชุมชน ป่าแลวหลวง จ.น่าน ด้วยแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ต้นน้ำ

 

บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) จับมือกับชุมชนท่องเที่ยว บ้านมุงเหนือ จ.พิษณุโลก มุ่งพัฒนาแนวทางการยกระดับผลิตภัณฑ์เกษตร บริการท่องเที่ยว และมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว

 

โครงการดังกล่าวนี้เปิดโอกาสทาง “ธุรกิจใหม่” ให้เอกชน โดยชี้ให้เห็นเมืองไทยมีศักยภาพด้านตลาดการท่องเที่ยวยั่งยืนโดยชุมชนที่รอการลงทุนทางสังคมจากบริษัทต่าง ๆ สร้างความยั่งยืนร่วมกันตลอดห่วงโซ่คุณค่า และตอบสนองความต้องการของนักลงทุนระดับสากล ที่เน้นลงทุนอย่างรับผิดชอบ มีบริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ ทำงานร่วมกับชุมชนแล้วนำผลการดำเนินงานที่วัดผลได้จริงจากการสร้างผลเชิงบวเปิดเผยการดำเนินงานด้านความยั่งยืน

ระหว่างกรกฎาคม สิงหาคม 2568 มีพันธมิตรอื่นร่วมโครงการ ESG ด้วย 4 กลุ่ม ได้แก่

 

แพลตฟอร์ม Gother จัดโปรโมชั่นพิเศษ เที่ยวสนุก ลดจริงทุกการเดินทางใน 5 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง, พิษณุโลก, น่าน, เชียงใหม่ และชลบุรี

 

1.มอบรับส่วนลดเที่ยวบินและรถเช่า สูงสุด 10%

 

2.ส่วนลดโรงแรม ที่พัก และกิจกรรมท่องเที่ยว สูงสุด 15%

 

แอร์เอเชีย เตรียมออกตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษเส้นทางบินสู่ พิษณุโลก น่าน เชียงใหม่ ลำปาง เพื่อชวนทุกคนบินลัดฟ้าไปสัมผัสเสน่ห์ของชุมชนได้อย่าง สบายใจ ราคาจับต้องได้

 

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มอบสิทธิพิเศษให้ผู้ถือบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ดังนี้

 

1.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 20% บัตรเครดิตประเภท ท่องเที่ยว, พินนาเคิล, อินฟินิท และผู้นำแพลทินัม

 

2.รับเครดิตเงินคืน 13% บัตรเครดิตประเภทอื่น ๆ ทุกการใช้จ่ายใน 5 จังหวัดนำร่องของโครงการ

 

ช่องทางการจองแพ็กเกจท่องเที่ยวชุมชน มีพันธมิตรอย่าง Local Alike, Yournique, SiamRise, Friday Trip และ Guide Guru ทุกการจองผ่านแพลตฟอร์ม/ช่องทางเหล่านี้ รับส่วนลดทันทีสูงสุด 20%

 

ข่าวที่ 5-บางจากปลื้มนำกรีนไมล์บริจาค3.6ล้านบาท19องค์กร

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนมอบเงินบริจาคจากคะแนนสะสมของสมาชิก จำนวนรวมมากถึง 3,600,000 บาท  ให้องค์กรสาธารณประโยชน์ทั่วประเทศ 19 แห่ง ซึ่งทางบางจากฯ ขอขอบคุณสมาชิกบางจากกรีนไมล์ ทุกคนที่ร่วมใจกัน “บริจาคคะแนนสะสม” จากการเติมน้ำมันและการใช้จ่ายผ่านธุรกิจในเครือบางจากต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 ผ่านแอปบางจาก และ www.bcpgreenmiles.com

 

สมาชิกสามารถบริจาคพอยท์ได้ง่าย ๆ โดยกดปุ่ม “ตะกร้าบุญ” ผ่านทางแอปบางจากและเว็บไซต์ (1 คะแนน มีค่าเท่ากับ 20 สตางค์ ขณะนี้ยังคงสามารถบริจาคอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสร้างประโยชน์ให้สังคมในโอกาสต่อไป

 

“คะแนนของสมาชิก” จะใช้วิธี “หักจากพอยท์สะสม” ทันทีเมื่อกดปุ่มยืนยันการบริจาค

 

รับฟรี!! เมื่อ “สมัครสมาชิกบางจากกรีนไมลส์”  ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปรับคะแนนพิเศษ 150 คะแนน คิดเป็นมูลค่า 30 บาท

 

สำหรับ “คะแนนสะสมครั้งแรก” จะเข้าสู่ระบบสมาชิกทันที สถานีบริการน้ำมันบางจาก ร้านอินทนิล หรือศูนย์บริการดูแลรักษารถยนต์ของบางจากตั้งแต่วันนี้ - 31 กรกฎาคม 2568 ดูรายละเอียดเพิ่มทาง : https://www.bcpgreenmiles.com/.../168/NewMember_May2025

 

ข่าวที่ 6-TCEBจัดVisionary Stage”ดันเทศกาลไทยสู่โลก11ก.ค.

 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB เดินหน้าสนับสนุนมหกรรม ซอฟท์ พาวเวอร์ จัดเทศกาลไทย : Festival National ในงานแห่งปี SPLASH – Soft Power Forum 2025 ที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟท์ พาวเวอร์ แห่งชาติ (THACCA) เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น โดยห้ามพลาด!! เข้าร่วมเวทีเสวนาพิเศษ “Visionary Stage ของทีเส็บ ได้ขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด Road to Thailand World Influencer Summit - Spark Thai Festivals : Local to Global จุดประกายอินฟลูเอนเซอร์นำเฟสติวัลไทยสู่สายตาโลก ในวันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 - 13.00 น.ที่บริเวณ ฮอลล์ 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

 

ทีเส็บได้ระดม “ผู้นำความคิด” ตัวจริงในแวดวงที่เกี่ยวข้องแต่ละสาขามารวมตัวกันแสดงพลังขับเคลื่อนเทศกาลนานาชาติ ภายใต้กลยุทธ์ Influencer Marketing เปิดโอกาสให้ผู้สนใจร่วมเกาะติดขอบเวทีพบปะและกระทบไหล่ “อินฟลูเอนเซอร์” ชั้นนำระดับโลก ตั้งแต่เช้าถึงบ่ายวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อมาร่วมเปิดประสบการณ์และแชร์มุมมองนำพา “เทศกาลไทย” ก้าวสู่สายตาทั่วโลก สร้างสรรค์ความสำเร็จ ซอฟท์ พาวเวอร์ ไทย เป็นเสน่ห์ดึงดูดนานาชาติ

 

จองที่นั่งด่วน !! ภายในงานเสวนาครั้งนี้ มีจำนวนที่นั่งจำกัด ทีเส็บเปิดให้ผู้สนใจลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ https://www.ticketmelon.com/spark-thai-festivals.../tceb

 

“กิจกรรมการแสดงพิเศษ” ผู้เข้าร่วมงานจะได้ตื่นตากับ The Paradise Bangkok การรวมตัวของวงดนตรีหมอลำร่วมสมัยจะขึ้นเวทีสร้างสรรค์เสน่ห์ไทยนำพา “ศิลปะไทยไปไกลถึงเวทีโลก”

 

“ไฮไลต์กิจกรรมบนเวที” วันที่ 11 กรกฎาคม 2568  แต่ละช่วงเวลาล้วนมีความหมายกับทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงนาทีสุดท้ายในงานเสวนาพิเศษครั้งนี้ ต่อเนื่องตลอด 10.20-13.00 น.

 

เวลา 10.00 น. - 10.20 น. ชมการเปิดอย่างยิ่งใหญ่งาน "SPARK Thai Festivals: Local to Global" ตื่นตากับการแสดงพิเศษ The Paradise Bangkok จากวงดนตรีหมอลำร่วมสมัยจะนำพาศิลปะไทยไปไกลถึงเวทีระดับโลก

 

เวลา 10.20 น.- 11.00 น. “ผู้นำทางความคิด” จากแต่ละวงการ จะขึ้นเวทีให้สนใจเข้าร่วมได้พบปะพูดคุยติดตามอย่างใกล้ชิด ประกอบด้วย

 

Session ที่ 1 : Influencer Marketing Power for Event Creators พลังอินฟลูเอนเซอร์ อาวุธลับสู่เมืองแห่งเทศกาล โดย คุณภวัต เรืองเดชวรชัย” President & CEO of MI GROUP คุณกฤต กฤตยายาล” Head of Media & Performance adapter digital ดำเนินการเสวนาโดย “คุณนครินทร์ วนกิจไพบูลย์”

 

เวลา 11.00 น. - 11.45 น.เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการรอคอย กับข้อมูลที่ทีเส็บและผู้นำทางความคิดจัดเตรียมไว้ให้ฟังดังนี้

 

Session ที่ 2 : Influencer Marketing Playbook :How Influencers Elevate Thai Festivals Worldwide สูตรลับพาเทศกาลไทยไประดับโลกด้วยพลังอินฟลูเอนเซอร์ 5 ผู้นำ ดังนี้

 

คุณเธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด (GSV), ประธานรายการ RWS – Rajadamnern World Series และกรรมการบริหารเวทีมวยราชดำเนิน

 

คุณพงศ์สิริ เหตระกูล” ผู้จัดงาน Awakening Festivals, Festival Director

 

คุณกอบเกียรติ แสงวณิชย์” ผู้อำนวยการงานวิ่ง Amazing Thailand Marathon Bangkok และ IRONMAN 70.3 Bangsaen

 

คุณนครินทร์ วนกิจไพบูลย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและบรรณาธิการบริหาร THE STANDARD

 

เวลา 11.45 น. - 12.30 น.กระทบไหล่คนดังแถวหน้าของเมืองไทย และนักเดินทางที่สำรวจมาแล้วทั่วโลก จะมาถอดรหัสเสน่ห์ ซอฟท์ พาวเวอร์ ไทย ดังนี้

 

Session ที่ 3 : Global Lens on Local Treasures เปิดมุมมองระดับโลกดึง เสน่ห์ ซอฟต์พาวเวอร์ ไทย ออกมาจากหัวใจของผู้รู้นักเดินทาง ศิลปิน ผู้ทรงพลังทั้ง 4 คน ดังนี้

 

“คุณ Mike Yu จากฮ่องกง เจ้าของไวรัลระดับโลก Street Interview ที่เปลี่ยนทุกสนามให้กลายเป็นกระแส

 

“คุณ Tom Grondนักเดินทางสายลุยจากเนเธอร์แลนด์ ด้วยประสบการณ์ออนทัวร์มาแล้วทั่วโลกกว่า 150 ประเทศ

 

“คุณเก่ง -ธชย ประทุมวรรณ” ศิลปินที่ผสมผสานวัฒนธรรมไทยกับความเป็นป๊อบได้อย่างทรงพลัง

 

“คุณฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ” นักแสดงไทยผู้ข้ามพรมแดนไทยครองใจแฟนคลับในสาธารณรัฐประชาชนจีน

 

ช่วงที่ 2 ได้เวลาออกเที่ยววันหยุด ชวนไปเช็คอินกินของอร่อยที่ “ตลาดชุมชนชากแง้ว” อำเภอบางละมุง ดื่มด่ำสถาปัตยกรรมคลาสสิกเรือนไม้วัฒนธรรมจีนโบราณในตลาดอายุกว่า 100 ปี ต้อนรับนักท่องเที่ยว “ทุกวันเสาร์” 13.00-21.00 น.แล้วฟัง “9วิธีกินของผู้สูงวัย” ทำให้สุขภาพแข็งแรง เกาะติดข่าวเด่น ข่าวแรก “AOT ตีปีก ครม.อนุมัติเปิดประมูลลานจอดอุปกรณ์ภาคพื้น 9,000 ล้านบาท ข่าวที่สอง “เอมิเรตส์”โชว์โฉมใหม่ชั้นพรีเมี่ยมอีโค A380 บิน กรุงเทพฯ-ดูไบ

 

ท่องเที่ยว –เช็คอินกินเที่ยว“ตลาดชุมชนชากแง้ว”พัทยาทุกวันเสาร์

 

เที่ยวใกล้ไปได้ทุกวัน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา เปิดพื้นที่ชวนเช็คอิน “สุขทันที ที่เที่ยว “ตลาดชุมชนชากแง้ว” #ตลาดกว่า100ปี ชาวชุมชนใช้บ้านเรือนไม้เก่าแก่ที่อยู่กันมายาวนานเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยมีร้านดั้งเดิมกับเมนูของกินสูตรโบราณร้านต่าง ๆ

 

“พัทยา” มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะเมืองท่องเที่ยวสุดตระการตาด้วยแสงสี บรรยากาศทะเลตะวันออกใกล้กรุง ในอีกมุมหนึ่งก็มีบรรยากาศชวนไปเที่ยว “ชุมชนตลาดชากแง้ว” อายุเก่าแก่นับร้อยปี รายล้อมด้วยบ้านเรือนไม้เก่าแนวคลาสสิก ของ “ชาวจีน” ได้อพยพถิ่นฐานเข้ามาอยู่อาศัยยาวนานนับร้อยปี โดยมีความผูกพันและหล่อหลอมรวมเข้ากับวัฒนธรรมไทยอย่างลงตัว สร้างเสน่ห์เฉพาะตัวอันงดงามกลายเป็นวัฒนธรรมไทย-จีน ดึงดูดนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติได้เป็นอย่างดี

 

ขณะนี้ “ตลาดชุมชนชากแง้ว” บางละมุง ร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ เปิดบริการแบบจัดเต็ม “ทุกวันเสาร์” ของแต่ละสัปดาห์วันเดียวเท่านั้น นำเสนอ “ของกินอร่อย ๆ” นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ตามชอบมีหลากหลายมากมาย ให้ลิ้มชิมรสทั้งของกินทั่วไป อาหารทะเล เมนูคาวหวาน ทั้งอาหารไทย อาหารจีนโบราณขนานแท้ สายกินหาเมนูที่ไหนไม่ได้ต้องแวะมาตลาดชากแง้ว “ราคา” มาตรฐานทั่วไปไม่แพง นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติสามารถเดินชิลเพลิดเพลินกับได้ชุมชนอาหารถิ่น แถมยังสามารถเลือกซื้อของฝากต่าง ๆ กลับไปให้คนที่บ้านชิมได้ด้วย

 

“ตลาดจีนโบราณบ้านชากแง้ว” เป็นถิ่นอาศัยของ “ชุมชนไทย-จีน” นับร้อยปี ตอนนี้ชาวบ้าน ชุมชน และหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมแรงร่วมใจกันเปิด “ตลาดจีนโบราณบ้านชากแง้ว” ขึ้นมา ตอนนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมต้อนรับนักท่องเที่ยวเดินทางมาเติมเต็มประสบการณ์เสน่ห์ไทย หรือซอฟท์ พาเวอร์ “วัฒนธรรมไทย-จีน” ซึ่งมีความผูกพันกันมานานค่อย ๆ พัฒนาความเจริญเป็นย่านการค้าคุณภาพอยู่มาเกือบร้อยปี

 

ชุมชนขนาดใหญ่ “ชากแง้ว” มีวิถีชีวิตความรุ่งเรือง ประกอบด้วย บ้านเรือน ร้านรวง โรงหนัง ตลาดโบราณเปิดการค้าตั้งอยู่หนาแน่น  ตั้งอยู่ในเขตอำเภอบางละมุงได้ชื่อว่าเป็น “ชุมชนมั่งคั่งเจริญที่สุด” อยู่และสร้างชื่อมาก่อนที่ “ชายหาดพัทยา” จะเริ่มมีชื่อเสียงในฐานะเมืองตากอากาศของชาวต่างชาติ

 

“สายวินเทจ” สามารถใส่ชุดกี่เพ้ามาเดินเล่นตลาดแห่งนี้ได้อย่างกลมกลืนกับคนท้องถิ่น แวะชมชิมช้อปของกินตามตามร้านค้าต่าง ๆ มากมาย ย้อนสู่ยุควินเทจกับบ้านเรือนไม้เก่าแก่ พร้อมมีบริการรถลากไม้เติมเต็มภาพจำให้นักท่องเที่ยวทุกคน

 

ตลาดจีนโบราณบ้านชากแง้ว เปิดบริการช่วงบ่ายทุกวันเสาร์ เริ่มตั้งแต่ 15.00-21.00 น. มีลานจอดรถฟรีช่วงเวลาแห่ง “ความอร่อย” แนะนำช่วงเย็น ๆ ควรมาก่อนตลาดวาย ตามปกติบางร้านจะเริ่มทยอยปิดตอนประมาณ  19.00 น. เช็คพิกัด : https://maps.app.goo.gl/ierXcpPpJ2enAn75A?g_st=ic

 

สุขภาพ –9วิธีกินของผู้สูงวัย“กินเพลิน-เจริญตา-พาจำดี-มีพลัง”

 

          ปัจจุบันโครงสร้างประชากรไทย กำลังก้าวเข้าสู่สังคม “ผู้สูงวัย” เรื่องที่จำเป็นจะต้องรู้เป็นแนวทางการใช้ชีวิตให้อยู่ดีมีสุข เป็นของฝากจากมหาวิทยาลัยมหิดล คือ 9 โภชนาการของผู้สูงวัย กินเพลิน เจริญตา พาจำดี มีพลัง ดังนี้

 

1.      กินอาหารให้หลากหลายในสัดส่วนที่เหมาะสม และหมั่นดูแลน้ำหนักตัว

2.      กินข้าวเป็นหลัก เน้นข้าวกล้อง ข้าวขัดสีน้อย

3.      กินพืชผักและผลไม้ตามฤดูกาลให้มากเป็นประจำ

4.      กินปลา ไข่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่วและผลิตภัณฑ์จากถั่วเป็นประจำ

5.      ดื่มนมและผลิตภัณฑ์จากนมเป็นประจำ

6.      หลีกเลี่ยงอาหาร ไขมันสูง หวานจัด เค็มจัด

7.      ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวาน

8.      กินอาหารสะอาด ปลอดภัย

9.      งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –AOTตีปีกครม.อนุมัติเปิดประมูลGSHสุวรรณภูมิ 9 พันล้าน

 

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) “AOT รายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 มีมติอนุมัติให้ AOT เดินหน้าคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมโครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น (Ground Service handling :GSH) และการให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ใน “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ของผู้ประกอบการรายที่ 2 มูลค่ารวมกว่า 9,000 ล้านบาท ระยะเวลา 20 ปี ใช้รูปแบบ PPP Net Cost เป็นการคัดเลือกเข้ามาทดแทนผู้ประกอบการรายเดิม ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาเดือนกันยายน 2569

 

AOT จะดำเนินการตามขั้นตอนการคัดเลือกเอกชนโครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น ตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ต่อไป คาดจะประกาศเชิญชวนผู้สนใจยื่นข้อเสนอได้ช่วงปลายปี 2568 เป็นต้นไป

         

เกณฑ์การคัดเลือกผู้ประกอบการรายที่ 2 จะได้ก่อนหมดสัญญารายเดิมทําให้การให้บริการภาคพื้น ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีศักยภาพและมีขีดความสามารถรองรับสายการบินซึ่งมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องได้ต่อไป และยังเพิ่มทางเลือกให้สายการบิน ลดความเสี่ยงของท่าอากาศยานด้านการดําเนินงาน ส่งผลให้คุณภาพการให้บริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศ เป็นแนวทางสนับสนุน การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์อุตสาหกรรมการบินของไทยกำลังเติบโตในระยะยาว

 

ข่าวที่สอง “เอมิเรตส์”เปิดพรีเมี่ยมอีโคA380โฉมใหม่กรุงเทพ-ดูไบ

 

            “เอมิเรตส์” สายการบินระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศเปิดเที่ยวบินแรกแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไป-กลับ กรุงเทพ-ดูไบ รหัสบิน EK372/373 ด้วยฝูงบินโฉมใหม่แอร์บัส A380 ซึ่งมีห้องโดยสารชั้น “พรีเมี่ยม อีโคโนมี : Premium Economy” ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก เมื่อผู้โดยสารเลือกใช้บริการเที่ยวบินเหล่านี้จะได้สัมผัสประสบการณ์ความหรูหราเหนือระดับด้วยห้องโดยสารที่นั่งชั้นดังกล่าว ล่าสุดเอมิเรตส์ปรับโฉมตกแต่งภายในใหม่คว้ารางวัลมาแล้ว

 

            “ห้องโดยสารชั้นพรีเมี่ยม อีโคโนมี” เอมิเรตส์ ฝูงบินแอร์บัส A380 มี 5 จุดเด่น ได้แก่ 1.พื้นที่วางขากว้างถึง 40 นิ้ว 2.ปรับเอนที่นั่งได้ถึง 8 นิ้ว 3.จัดวางที่นั่งแบบ 2-4-2 ด้วยเบาะหนังสีครีมพร้อมเบาะพักขานุ่มสบาย 4.เบาะพักศีรษะสามารถปรับระดับได้ตามความต้องการ 5.มีโต๊ะไม้แบบพับเก็บได้ใช้นั่งทำงานหรือรับประทานอาหารได้ อย่างเพลินเพลินกับเมนูอาหารประจำภูมิภาคจะเสิร์ฟมาบนชุดภาชนะกระเบื้องจาก Royal Doulton พร้อมเมนูเครื่องดื่มหลากหลาย เช่น สปาร์กลิงไวน์จาก Chandon ไวน์จากห้องโดยสารชั้นธุรกิจ เหล้าลิเคียวร์ชนิดต่าง ๆ ช็อกโกแลต

 

“การจัดสัดส่วน” ห้องโดยสารชั้น พรีเมี่ยม อีโคโนมี ดีไซน์ให้อยู่บริเวณด้านหน้าของเครื่องบินแอร์บัส A380 ยกระดับการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการชั้นนี้ ได้รับสิทธิพิเศษในการลงจากเครื่องบินก่อน รวมทั้งมีอุปกรณ์ความบันเทิงบนเครื่องครบ เช่น หน้าจอแบบมีความละเอียดสูงขนาด 13.3 นิ้ว และระบบเชื่อมต่อผ่านหูฟังบลูทูธ แล้วผู้โดยสารยังสามารถใช้ Wifi ความเร็วสูงในเครื่องเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดการเดินทาง

 

“เส้นทางบินระยะไกล” ผู้โดยสารจะได้รับชุดของใช้ส่วนตัวแบบรักษ์โลกบรรจุอยู่ในกระเป๋า ทำจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ผู้โดยสารสามารถนำกลับไปใช้ซ้ำได้ด้วย 

 

“นายโมฮัมเหม็ด อัล วาเฮดิ” ผู้จัดการสายการบินเอมิเรตส์ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า เอมิเรตส์ภูมิใจในการเปิดตัวชั้นโดยสารระดับพรีเมี่ยม อีโคโนมี ให้บริการในเส้นทางกรุงเทพฯ - ดูไบ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รองรับนักเดินทางเข้าออกไทยเป็นตลาดสำคัญ และการเปิดตัวยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์ในการเดินทางต่อเนื่องของลูกค้าเข้าออกเมืองไทยได้เป็นอย่างดี ด้วยการออกแบบภายในหรูหรามาพร้อมความสะดวกสบายอันปราณีต ชั้นโดยสารใหม่ของเอมิเรตส์ จึงเป็นตัวเลือกเติมเต็มความต้องการการบริการระหว่างห้องโดยสารชั้นประหยัดและชั้นธุรกิจได้อย่างลงตัว เหมาะกับการเดินทางระยะกลางและระยะไกล เป็นการเปลี่ยนแปลงวงการบิน ที่ช่วยให้ผู้โดยสารที่เดินทางจากไทยมีตัวเลือกสะดวกสบายมากกว่า
ที่เคยมีมาก่อนนั่นเอง

 

“การเปิดตัวในไทย” ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการเร่งขยายบริการเครื่องบินรุ่นแอร์บัส A380 และโบอิ้ง B777s โดยเอมิเรตส์ได้ปรับโฉมภายในใหม่ทั้งหมด คาดมีเกือบ 50% ที่ให้บริการเครือข่ายเส้นทางการบินทั่วโลกที่จะให้บริการด้วยเครื่องบินที่ระดับการตกแต่งภายในใหม่ภายในสิ้นปี 2568 พร้อมมอบประสบการณ์บริการ “พรีเมี่ยม อีโคโนมี” อันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยบรรยากาศภายในห้องโดยสารรูปแบบใหม่

 

“เอมิเรตส์” วางแผนจะเปิดตัวเครื่องบิน A380 โฉมใหม่ เส้นทางบินสู่ ฮ่องกง เมืองนีซ และเมืองเพิร์ท (ออสเตรเลีย) พร้อมเปิดตัวเครื่องบินโบอิ้ง B777s โฉมใหม่ เส้นทางบินสู่ กรุงมาดริด กัวลาลัมเปอร์ จังหวัดภูเก็ต และเมืองแฟรงก์เฟิร์ต แล้วสิ้นปี 2568 ฝูงบินโฉมใหม่นี้ยังอยู่ในแผนเส้นทางบินสู่กรุงดับลินด้วย

 

ผู้โดยสารจองเที่ยวบินที่บริการโฉมใหม่ด้วยเครื่อง A380 เลือกชั้นโดยสารพรีเมี่ยม อีโคโนมี
ได้ทางเว็บไซต์
emirates.com หรือผ่านบริษัทตัวแทนการขายตั๋วโดยสารของเอมิเรตส์ทุกแห่ง

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

TCEBเร่งครึ่งหลังปี68ดันตลาดเอ็กซิบิชั่นโต10%-จีน/อินเดียฉลุย-เปิดExpoinfo

  ดร.ดวงเด็ด ย้วยความดี   ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ  สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “ TCEB ”  ...