วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ททท.ดึง“เซเล็บ-อินฟลู”ร่วมBE MY GUESTบูมซอฟท์พาวเวอร์เมืองน่าเที่ยว-Hidden Paradise

 ททท.ดึง “เซเล็บ-อินฟลู”ทั่วโลกร่วม BE MY GUEST

ชูเสน่ห์Soft Powerบูมเมืองน่าเที่ยว-Hidden Paradise


ททท.ดึงกลุ่มใหญ่ “เซเล็บดัง-อินฟลูเอนเซอร์”ไทยและต่างชาติร่วมBE MY GUESTบูมเสน่ห์ไทย

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #BeMyGuest  

ททท.ร่วมกับอัครราชทูตนานาชาติ เชิญ 2 กลุ่มใหญ่ “เซเล็บดัง-อินฟลูเอนเซอร์” ไทยและต่างชาติ ผนึกทีมร่วมโครงการ “BE MY GUEST” ตลุยทัวร์เสน่ห์ไทย ผลิตคอนเทนท์ซอฟท์ พาวเวอร์ ผ่านสื่อทุกช่องทาง เร่งโปรโมท “พื้นที่เมืองน่าเที่ยวศักยภาพสูง-Hidden Paridise ทั่วไทยในตลาดโลก

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ทำโครงการ Be My Guest ด้วยกลยุทธ์ Celebrity Marketing กระตุ้นปีท่องเที่ยว ท่องเที่ยวไทยในปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 โดยนำอินฟลูเอนเซอร์ต่างประเทศกับไทยจับคู่ทำกิจกรรม ออกเดินทางสร้าง Grand Moment ผลิตคอนเทนต์ถ่ายทอด “เสน่ห์ไทย” มุมใหม่ สร้างความเชื่อมั่นและจุดประกายแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว (Tourism Hub) และจุดหมายปลายทางระดับโลก

ททท. ได้ขยายผลแนวคิด Grand Celebration ร่วมกับคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว ในคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ขับเคลื่อนโครงการ Be My Guest หนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวปีท่องเที่ยวไทย

เชิญครีเอเตอร์ระดับโลกร่วมเป็นแขกคนสำคัญ นำเสนอประสบการณ์ความเป็นไทย (Experience Thainess) ด้วยวิธี “ผลิตเนื้อหา” ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทย “ผ่านช่องทาง” สื่อออนไลน์ สร้างการรับรู้ ความเชื่อมั่น ปลุกกระแสนักท่องเที่ยวเดินทางต่อเนื่อง ส่งเสริมภาพลักษณ์ไทยให้แข็งแกร่งมากกว่าเดิมภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand

นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า โครงการ Be My Guest ได้นำ  ททท.ได้เชิญบุคคลที่มีอิทธิพล 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ 1 อินฟลูเอนเซอร์นานาประเทศ กลุ่มที่ 2 บุคคลที่คร่ำหวอดในวงการ ซอฟท์ พาวเวอร์ จากหลากหลายสาขาเข้ามาช่วยปลุกกระแสการเดินทางท่องเที่ยวไทย โดยการแชร์เนื้อหาที่ผลิตขึ้นทาง “แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย” ของตนเอง พร้อมกับปรับเนื้อหาโดยใช้ภาษา วัฒนธรรมตามกลุ่มเป้าหมาย และใช้แพลตฟอร์มเฉพาะภูมิภาค เช่น Weibo Douyin สำนักข่าวท้องถิ่น ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี และสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย

กลุ่มที่ 1 อินเตอร์ฟลูเอนเซอร์ต่างชาติและไทย จับมือกันทำภารกิจท่องเที่ยวและผลิตคอนเทนต์ท่องเที่ยวไทย ประกอบด้วย



“อินฟลูเอนเซอร์ต่างชาติ” 10 กลุ่ม ได้แก่ 1.Katty Whatthechic 2.Wael Abualteen สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 3.Michael Drake ออสเตรเลีย 4.Fran & Ailyn สเปน 5.Brian Brighantti สหรัฐอเมริกา 6. Zhang Zhangnang Hanabing 7.Mo Rou 8.Yumme สาธารณรัฐประชาชนจีน 9.Mark ฮ่องกง และ 10.Xiaozimo ไต้หวัน

“อินฟลูเอนเซอร์ไทย” 10 กลุ่ม ได้แก่ 1.Kong Green Green 2.หลากฉี 3.เฉียง ไปอยู่ไหนมา 4.Nisamanee.Nut 5.Juny Jomkan 6.Long lee 7.TheFadd 8. OLE’CH 9.GZR Gozziila 10.ปักหมุดชาแนล

กลุ่มที่ 2 “บุคคลที่มีชื่อเสียง” จากต่างประเทศ เช่น ผู้นำทางความคิด นักธุรกิจ ผู้มีบทบาทในเวทีนานาชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ได้แก่

1.บี้-ธรรศภาคย์ ชี นักร้องและนักแสดงที่มีชื่อเสียงทั้งไทยและจีน ผู้ติดตามกว่า 4.5 ล้านคน

2.โยชิ-รินรดา ธุระพันธ์ นักแสดง นางแบบและเน็ตไอดอลชื่อดังสาย LGBTQ ที่มีกระแสไวรัลในกลุ่มจีน ญี่ปุ่น เวียดนามและฟิลิปปินส์ มีผู้ติดตามกว่า 10 ล้านคน

3.Christophe Nicolas Guillarme ดีไซเนอร์แฟชั่นชื่อดังชาวฝรั่งเศส, Scott Thomas นักจัดรายการของสหราชอาณาจักรที่สร้างแรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพ (Wellness)

4.Khalil Rountree Jr. และ Mia Kang 2 นักกีฬา MMA และแฟชั่นไอคอนที่มีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกา

5.Irene Pila อินฟลูเอนเซอร์ด้านการท่องเที่ยวและถ่ายภาพจากอิตาลี

6.Ebraheem Al Samadi  นักธุรกิจชื่อดังจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

7.Deborah Dickson-Smith นักเขียนและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากออสเตรเลีย

ททท.มอบหมายให้ทั้ง 2 กลุ่ม เข้าร่วมกิจกรรม Be My Guest Fam Trip วันที่ 26 มิถุนายน-1 กรกฎาคม 2568 และเข้าร่วมงาน Amazing Thailand Saneh Thai Gala Night เฉลิมฉลองปีการท่องเที่ยวไทย 2568 หนึ่งในกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ง Grand Invitation วันที่ 30 มิถุนายน 2568

การกิจกรรม Be My Guest Soft Power Fam Trip ให้อินฟลูเอนเซอร์ไทยและต่างชาติ โดย ททท. และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว ในคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้ออกแบบคัดเลือกท่องเที่ยว 10 เส้นทาง เดินทาง 3 วัน 2 คืน กระจายสู่พื้นที่เป้าหมายหลัก



พื้นที่แรก “เมืองน่าเที่ยวศักยภาพสูง” มีความโดดเด่นของจุดขาย ซอฟท์ พาวเวอร์ ด้านอาหาร (Food) ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness) ศิลปะและวัฒนธรรม (Art & Culture) มวยไทย แฟชั่นหรือสินค้า (Fashion Design) สะท้อนถึงภูมิปัญญาไทย พื้นที่หลัก ได้แก่ เขาใหญ่–นครนายก

พื้นที่สอง “Hidden Paradise ดินแดนแห่งสุขภาพและซอฟท์ แอดเวนเจอร์ เช่น

“บุรีรัมย์” โชว์เสน่ห์แห่งเมืองนักสู้ เมืองแห่งท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) เชื่อมโยงวิถีชุมชน  

“เลย-เชียงคาน” ชีวิตติดริมโขงกับรูปแบบการท่องเที่ยวยั่งยืนและม่วนจอยงานประเพณีท้องถิ่น (ผีตาโขน)

“สุราษฎร์ธานี” ฮีลใจกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และแนวคิดความยั่งยืน



“กระบี่–ตรัง” ชาร์ตพลังกายใจกับธรรมชาติบำบัด Wellness x Nature Retreat

“เพชรบุรี” เมืองท่องเที่ยวเชิงอาหาร Gastronomy Tourism ตามล่าอาหารเมืองสามรส

“ระยอง-จันทบุรี” ดื่มด่ำวิถีชาวสวน Fruit Ranger 1 วัน ในดินแดนผลไม้

“น่าน” พบกับเสน่ห์แห่งเมืองเก่า Nan Living Old City: Coco x Coffee x Culture (Cultural Tourism)

“สุโขทัย” Taste of Time สัมผัสห้วงเวลาแห่งวัฒนธรรมในเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO (Cultural Tourism)

“เชียงราย” เสิร์ฟมนต์เสน่ห์แห่งเมืองล้านนาบอกเล่าความงดงามของศิลปะแฟชั่นและวัฒนธรรม (Cultural Tourism)



ผสมผสานเข้ากับแนวคิด 5 Must Do in Thailand ถ่ายทอดเป็นเรื่องราวใหม่ ๆ (New Stories, New Perspectives) สอดคล้องกับแคมเปญ Amazing Thailand : Your Stories Never End อย่างสร้างสรรค์

ททท.ได้จัด “เส้นทางพิเศษ” ให้ “กลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงและอิทธิพลทางความคิด” จากแวดวงต่าง ๆ ไปตามเส้นทาง Thailand in the Box นำเสนอเรื่องราว คุณค่า เสนอความเป็นไทย ผ่านสินค้าและบริการท่องเที่ยวที่โดดเด่นด้วยอัตลักษณ์ วัฒนธรรม อาหาร ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ ไลฟ์สไตล์  3 เส้นทาง ได้แก่

“สุโขทัย”  The Soul of Siam สัมผัสจิตวิญญาณของสยามประเทศ ความงดงามของวัฒนธรรมผ่านโบราณสถานและวิถีไทย

“สมุทรสงคราม”  River of Serenity ดื่มด่ำบรรยากาศความคลาสสิกของวิถีชีวิตริมน้ำ ตลาดน้ำและการท่องเที่ยวแบบ ECO 

“จันทบุรี”  Flavor of Gems ตามล่าขุมทรัพย์แห่งอัญมณีและเพลิดเพลินกับอาหารถิ่นและผลไม้ภาคตะวันออก

ททท.ได้ใช้ศักยภาพ “อินฟลูเอนเซอร์และบุคคลที่มีชื่อเสียง” ที่เดินทางเข้าร่วมโครงการ Be my Guest ครั้งนี้ รวมพลังกันร่วมยกระดับการสื่อสารและทำคอนเทนต์ตามแนวคิด “Collaboration-led Experience” สร้างเรื่องราวผ่าน “วัฒนธรรมสองมุมมอง” ค้นพบและเล่าเรื่องราวของไทย ที่เต็มไปด้วยสีสัน รสชาติ เอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน

โดยเฉพาะ “กลุ่มอินฟลูเอนเซอร์” จะได้รับภารกิจสะท้อนภาพซอฟท์ พาวเวอร์ เช่น อาหาร ศิลปะ แฟชั่น วัฒนธรรม มวยไทย การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สอดแทรกเรื่องของความยั่งยืน ส่งต่อภาพลักษณ์ด้านความสะดวก ปลอดภัย มุมมองใหม่ที่หลากหลายไทย ผ่านคอนเทนต์ที่ร่วมสมัย สร้างแรงบันดาลใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วโลกอย่างแท้จริง

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดใจ "นิตินัย ศิริสมรรถการ" CEO คิงเพาเวอร์ลุย5ภารกิจแก้ดิวตี้ฟรีDisruptionพลิกสู่Next Move

  ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ซีอีโอ คิง เพาเวอร์ เปิด 5 ภารกิจ นำดิวตี้ฟรีไทยพลิกโฉมสู่ Next Move เจาะลึก !! “นิตินัย ศิริสมรรถการ” ซีอีโอใหม่ ...