ททท.ปลื้มเชฟไทยนำ6ร้านอาหารคว้ารางวัลโลกปี68
ดันไทยGastronomy Hub-ปี69เล็งดึงงานมาจัดในไทย
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #Worlds50BestRestaurants2025
ททท.ฉลอง Grand Moment กับเชฟไทยนำ 6 ร้านอาหาร
คว้ารางวัลโลก “World’s 50 Best Restaurants 2025” โชว์พลังซอฟท์ พาวเวอร์ ปี’ 69 จ่อดึงงานนี้มาจัดในไทย ดันประเทศผงาดเป็นจุดหมายปลายทางอาหารโลก World
Gastronomy Destination และฮับด้านอาหาร Gastronomy Hub
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เดินหน้า “Grand Celebration” กับบรรดาเชฟนำประเทศไทยสร้างปรากฏการณ์ในเวทีโลกครั้งใหม่ ด้วยการนำ 6 ร้านอาหารไทยติดอันดับในงานประกาศรางวัล “World’s 50 Best Restaurants 2025” จัดขึ้นที่เมืองตูริน อิตาลี โดยได้โชว์พลัง ซอฟท์ พาวเวอร์ ด้านอาหาร ตอกย้ำให้ไทยเป็นเมืองศูนย์กลางอาหาร “Gastronomy Hub” และก้าวสู่จุดหมายปลายทางเมืองอาหารระดับโลก (World Gastronomy Destination) สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพเดินทางมาเพิ่มขึ้นได้ต่อไป
สำหรับร้านอาหารทั้งหมดที่ได้รับการจัดอันดับ
ต่างเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวระดับพรีเมียม เป็นแรงดึงดูดช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของไทยในเวทีนานาชาติ
ททท.ตั้งเป้า ปี 2569 เตรียมจะเสนอเป็นเจ้าภาพจัดงาน
World’s 50 Best Restaurants 2025 ในเมืองไทย
ปี 2568 มีร้านอาหารจากทั่วโลก 22 ประเทศ
32 เมือง ได้รับคัดเลือกจากเวที “World’s 50 Best
Restaurants 2025 ขึ้นบัญชีรายชื่อร้านระดับโลก โดยมีร้านหน้าใหม่ถึง
10 ร้าน ที่ได้รับจัดอันดับเป็นครั้งแรก ในจำนวนนี้ มีร้านอาหารของไทยคว้ารางวัลได้มากที่สุดถึง
6 ร้าน แต่ละแห่งล้วนเป็นร้านอาหารระดับ Fine Dining จากกรุงเทพมหานคร ได้แก่
• อันดับ 6 | GAGGAN BANGKOK( The Best Restaurant in Asia)
• อันดับ 13 | POTONG BANGKOK (Highest New
Entry Award 2025)
• อันดับ 17 | SORN BANGKOK
• อันดับ 22 | SUHRING BANGKOK
• อันดับ 30 | LE DU BANGKOK
• อันดับ 35 | NUSARA BANGKOK (New Entry)
ผู้ว่าฯ
ฐาปนีย์ กล่าวว่าความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนวงการอาหารไทยมีความแข็งแกร่ง
รวมถึงเชฟไทยมีเสน่ห์เฉพาะตัว สามารถผสมผสานรากเหง้าทางวัฒนธรรมเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างลงตัว
สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ ททท. ได้เดินหน้าผลักดันประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านอาหารหรือ
Gastronomy Hub ของโลก โดยใช้จุดแข็งเรื่องอาหารเป็นเครื่องมือสำคัญดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงจากทั่วโลกหลั่งไหลนำเงินเข้ามาใช้จ่ายในช่วงที่เข้ามาพักผ่อน
ทำธุรกิจ และทำงานได้เที่ยวด้วยในเมืองไทยตลอดทุกทริปการเดินทางทุกปี
แล้วอาหารไทยนอกเหนือจากความอร่อยโดนใจ
ยังมีอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์เชื่อมโยงผู้คนทั่วโลก แล้วความสำเร็จของเชฟไทยในเวทีระดับโลกครั้งนี้
ได้ภาพสะท้อนถึงพลังซอฟท์ พาวเวอร์ สามารถต่อยอด “สร้างรายได้และคุณค่าเชิงเศรษฐกิจ”
ได้มหาศาล ดังนั้น ททท. จะเร่งส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาหารโลกให้ได้
เพื่อขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ ต้อนรับนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์เฉพาะตัว
หลงใหลในวัฒนธรรมอาหารไทย
เป็นกำลังซื้อที่มีคุณค่ากับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยที่ยั่งยืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น