BCPG-NT ลุยพัฒนา Sustainable Data Center
สร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิลทัลเมืองไทยสู่ยั่งยืน
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #BCPG #DataCenter
BCPG จับมือ NT ผู้นำพลังงานทางเลือกกับเทคโนโลยี เปิดแผนอนาคตอนาคตสร้าง “Sustainable
Data Center” ลุยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไทยสู่ยั่งยืน
นายรวี บุญสินสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียนของไทย
ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) “NT” เดินหน้าการลงทุนและพัฒนาศูนย์ข้อมูลอย่างยั่งยืนหรือ Sustainable
Data Center รองรับความต้องการใช้งานคลาวด์ภาครัฐและเอกชน
รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในอนาคต โดยได้ผสานจุดแข็งอย่างลงตัวของทั้ง 2
องค์กร
“NT” มีความพร้อมด้านโครงข่ายโทรคมนาคมระดับประเทศ
ศูนย์ข้อมูลพื้นฐาน และความเชี่ยวชาญในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลภาครัฐ
“บีซีพีจี”
มีความเชี่ยวชาญการผลิตพลังงานสะอาดจากหลากหลายเทคโนโลยี ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์
พลังน้ำ และพลังงานลม ครอบคลุมทั้งในประเทศ และระดับภูมิภาค รวมถึงเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนนวัตกรรมพลังงานสีเขียวเพื่อสร้างโลกให้ยั่งยืน
นายรวี
กล่าวว่า บีซีพีจี มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมพลังงานสะอาดมาตลอด
ทั้งนวัตกรรมการผลิตไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐาน โซลูชั่นพลังงานอัจฉริยะ
ความร่วมมือกับ NT ครั้งนี้ถือเป็น New
S-Curve ของบริษัท พร้อมเข้าสู่ธุรกิจการ Sustainable
Data Center มุ่งเน้นให้บริการคลาวด์แก่ภาครัฐ (Government
Cloud) ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
แล้วบีซีพีจีเองมีความพร้อมต่อยอดพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้ารองรับ ดาต้า เซ็นเตอร์
เติบโตในอนาคตด้วย
พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์
กรรมการผู้จัดการใหญ่ NT กล่าวว่า
ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ของชาติ เชื่อมั่น Sustainable Data Center คือก้าวสำคัญพร้อมต่อยอดการให้บริการด้านโทรคมนาคมและดิจิทัล
ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน มีความพร้อมเรื่องโครงข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศ
ศูนย์ข้อมูล ระบบเกตเวย์ โครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ สามารถต่อยอดสู่บริการด้าน AI และ ESG Solutions ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้เต็มรูปแบบ
โดยเฉพาะการมี “ศูนย์ข้อมูลที่ใช้พลังงานสะอาด” เป็นมากกว่าทางเลือก เพราะคือความจำเป็นด้านการรองรับข้อมูลภาครัฐและองค์กรจะต้องต้องการเดินหน้าสู่การสร้างคาร์บอนเป็นศูนย์หรือ Net
Zero
ความร่วมมือครั้งนี้ยังจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อภาครัฐและประเทศด้าน
“ความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล” จากการจัดเก็บข้อมูลสำคัญของรัฐภายในประเทศบนระบบที่ได้มาตรฐานระดับสากล
สอดรับตามนโยบาย ESG ภาครัฐใช้บริการได้สอดคล้องกับเป้าหมาย Net
Zero ช่วยเพิ่มขีดความสามารถ และดิจิทัล อีโคโนมีของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น