วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ททท.ลุยขายเที่ยวตะวันออกQ3-4ปี68 ชู5กิจกรรม9จังหวัด10เส้นทาง


นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

ททท.ลุยขายเที่ยวไทยไปภาคตะวันออกไตรมาส3-4ปี68

ชูทัวร์ธรรมชาติ5กิจกรรมปั๊มเศรษฐกิจ9จังหวัด10เส้นทาง

บูม“เมืองน่าเที่ยว-แข่งโต้คลื่น-มาราธอน-กอล์ฟเฟสต์”

ซื้อแคชการ์ดคิงเพาเวอร์รับCOMBI SET อื้อ 6 รายการ

คิงเพาเวอร์จัดโปรดีไม่มีแผ่ว 4 สนามบินลดแรง 30 %

ททท.พลิกโฉมปี’68ปั๊มทัวร์ญี่ปุ่นเข้าไทย 1.2 ล้านคน

บางจากดึง40โรงเรียนร่วมทอดไม่ทิ้งผลิตน้ำมันSAF

เที่ยวหน้าฝนอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าฟิน8พิกัด

5 วิธีรับมือกับ“ความเครียด”หลังคนเสพข่าวมากไป

ปี’72ท่องเที่ยวเอเชียแชมป์รายได้2.5 ล้านล้านดอลล์

ห้องไฟร์เพลสกริลล์&บาร์เสิร์ฟไม่ยั้งทรัฟเฟิลฤดูร้อน

 

วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก  #ทททชุมพร

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...https://www.facebook.com/share/v/1A8eagh5q6/

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! กนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระตุ้นเที่ยวตะวันออกไตรมาส 3-4 มิ.ย.-ก.ย.68 นำ 6 สำนักงาน จัดเต็ม 5 กิจกรรม บูมทัวร์ธรรมชาติผจญภัย “นครนายก-ปราจีนบุรี-สระแก้ว” ตั้งแคมป์ ชมผีเสื้อ 500 สายพันธุ์ เล่นเซิร์ฟ พายซับ เร่งโปรโมท 4 รายการ “เมืองน่าเที่ยว 5 จังหวัด-แข่งโต้คลื่น-วิ่งมาราธอนตราด-จัดกอล์ฟพัทยาเฟสติวัล” เดินหน้าลุยเพิ่มยอดนักท่องเที่ยว 9 จังหวัด 10 เส้นทางสุดฮ็อต เที่ยวได้ตลอด 365 วัน

 

นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นำทีม ททท.ภูมิภาคตะวันออก 6 สำนักงาน ดูแลพื้นที่ 9 จังหวัด เดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ต่อเนื่องไตรมาส 3-4 ระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน 2568 ด้วยกิจกรรมการตลาด งานเทศกาล หลังผ่านพ้นฤดูขายเที่ยวสวนผลไม้เข้าสู่“กรีน ซีซั่น” เร่งปลุกกระแสนักท่องเที่ยวเดินทางสัมผัสควางามทางธรรมชาติฤดูฝน  โดดยเน้นส่งเสริมกระจายการเดินทางเข้าสู่พื้นที่ธรรมชาติสร้างความสุขทันทีที่เที่ยวภาคตะวันออก มีทางเลือกเดินทางได้ตามความชอบในหลากหลายประสบการณ์ในคลัสเตอร์ 2 พื้นที่หลัก

 

พื้นที่ท่องเที่ยว “ภาคตะวันออกตอนบน” สามารถร่วมสนุกกับการท่องเที่ยว 3 กิจกรรม ได้แก่ 

กิจกรรมที่ 1 ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ภายใต้แนวคิด สีสัน สวรรค์นักผจญภัย ใน 3 จังหวัด ได้แก่ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว นำเสนอท่องเที่ยวเชิงผจญภัย การล่องแก่ง การขี่จักรยาน ร่วมมหกรรมวิ่งทั้งเส้นทางปกติและวิ่งเทรล

กิจกรรมที่ 2 ตั้งแคมป์กลางแจ้งหรือ Out Door Camping ดื่มด่ำบรรยากาศยามเช้าและค่ำคืน มีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติหลายแห่งไว้รองรับตลอดฤดู

 


กิจกรรมที่ 3 ชมผีเสื้อและสัมผัสธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติปางสีดา ที่มีความหลากหลายผีเสื้อสวยงามมีให้ชมและศึกษามากกว่า 500 สายพันธุ์

พื้นที่ท่องเที่ยว “ภาคตะวันออกติดทะเล” มีความพร้อมนำเสนอการท่องเที่ยวทางน้ำตอบโจทย์ความสุขแต่ละตลาดในรูปแบบต่าง ๆ  อีก 2 กิจกรรม ได้แก่

กิจกรรมที่ 4 เล่นเซิร์ฟและซับ รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบโต้คลื่นและพายซับในทะเล 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี  

กิจกรรมที่ 5 เสริมสร้างการรับรู้ กิจกรรมการส่งเสริมการเดินทางอย่างสนุกสนานอีก 4 รายการ ดังนี้

รายการที่ 1 โปรโมทเมืองน่าเที่ยว/เมืองรอง ร่วมกับ เดอะ คลาวนด์ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มรักธรรมชาติ ชวนกันไปเดินป่าปางสีดา ค้นหาผีเสื้อ ขยายตลาดการเติบโตในนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว

รายการที่ 2 จัดแข่งขันกีฬากระดานโต้คลื่น “Rayong log jam 2025”  ระหว่าง 12-15 กันยายน 2568  ที่ก้นอ่าว หาดแม่รำพึง ตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ระยองและจังหวัดใกล้เคียง โดยได้จัดกิจกรรมสอนเล่นกระดานโต้คลื่น สาธิตการแข่งขันกระดานโต้คลื่น ประเภทชายและหญิงทั่วไปผู้เข้าแข่งขัน รณรงค์ร่วมโครงการทำความสะอาดชายหาด พร้อมกับจัดเทศกาลดนตรี ออกร้านอาหาร กาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ

รายการที่ 3 วิ่ง Bangkok airway Trat Half Marathon 2025 ร่วมกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จัดวันที่ 17-18 สิงหาคม 2568 ที่จังหวัดตราด คาดว่าจะผู้เข้าร่วมวิ่งกว่า 1,000 คน สามารถขยายวันพักค้างและกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคตะวันออกด้วยสินค้าบริการมูลค่าสูง และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้สินค้า บริการท่องเที่ยวมูลค่าสูง เพิ่มตลาดกลุ่มเป้าหมาย และสร้างความสนใจให้เกิดการกระจายตัวเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากพื้นที่ตราดสู่จังหวัดใกล้เคียง

 


รายการที่ 4 สนับสนุนจัดการแข่งขัน “Singha-Amazing Thailand-Pattaya Golf Festival 2025  ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก ร่วมกับสมาคมผู้บริหารสนามกอล์ฟภาคตะวันออก จัดกิจกรรมระหว่างมิถุนายน - กันยายน 2568 ขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มนไทยทุกเพศวัยที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ ตั้งเป้าจะผู้เข้าร่วมกว่า 3,000 คน ทำให้เกิดการกระจายรายได้เข้าสู่ภูมิภาคมากกว่า 10 ล้านบาท

ผอ.กนกกิตติกา กล่าวว่า ตลอดกรีนซีซั่นปี 2568  ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก ได้จัดทำโปรโมชั่นเด็ด ๆ โดนใจนักท่องเที่ยวอีกอย่างน้อย  3 โครงการ ได้แก่

โครงการที่ 1 Eastern Secrets ตามหา (ความลับ) ภาคตะวันออก จับมือกับ บริษัท วิริยะธุรกิจ จำกัด (Sarakadee Lite) ชวนนักท่องเที่ยวตามเก็บไอเท็มตามเส้นทางเมืองน่าเที่ยวในภาคตะวันออก 5 จังหวัด ได้แก่ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ตราด เพื่อแลกรับโวเชอร์ที่พัก ส่วนลดร้านอาหาร และอาร์ตทอยส์สุดพิเศษที่ออกแบบสะท้อนเอกลักษณ์เมืองน่าเที่ยวภาคตะวันออกอย่างสวยงาม

 


โครงการที่ 2  Trat Discovery: Island and Beyond” ผนึกความร่วมมือกับ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และพันธมิตร มอบสิทธิประโยชน์เป็นส่วนลดให้นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการ ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ กว่า 50 ร้านค้า ในจังหวัดตราด เกาะช้าง เกาะหมาก เกาะกูด และจังหวัดจันทบุรี ใช้บัตรขึ้นเครื่องบิน (broading pass) ของบางกอกแอร์เวย์สเส้นทางตราด สมาชิกฟลายเออร์โบนัส และกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมได้  โดยใช้บริการแล้วมีค่าใช้จ่ายครบ 200 บาทขึ้นไป รับคูปองกรอก ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล แล้วนำคูปองไปหย่อนในกล่องชิงโชคของร้านที่เข้าร่วมโครงการกับ ททท. ได้ตั้งแต่วันนี้– 20 สิงหาคม 2568 รอฟังข่าวดีผู้โชคดีวันที่  1 กันยายน 2568 ผ่านทางเพจ Facebook: @TratDiscovery และ Instagram: @TratDiscovery

โครงการที่ 3 เมืองน่าเที่ยวภาคตะวันออก 2025 ร่วมกับ บริษัท เล็ทส์ ทอล์ค จำกัด และ เมืองไทย สไมล์คลับ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด มหาชน จัดแคมเปญทำโปรโมชั่นมอบ “ส่วนลดห้องพัก” ใน 50 โรงแรม  เมืองน่าเที่ยวภาคตะวันออก 5 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี และนครนายก พร้อมทั้งทำประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แหล่งท่องเที่ยว สินค้าและบริการภาคตะวันออกที่น่าสนใจผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ

 


รวมทั้งจัดทริปซีเอสอาร์ 3 วัน 2 คืน อีก 2 ทริป ในเส้นทางที่ 1 เกาะช้าง จังหวัดตราด จัดแล้วเมื่อกุมภาพันธ์ 2568 เส้นทางที่ 2 นครนายก-ปราจีนบุรี เดือนมิถุนายน 2568 เพิ่มแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่เป้าหมาย ต่อเนื่องมาตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน 2567-31 สิงหาคม 2568

ผอ.กนกกิตติกา กล่าวว่า ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก ยังได้โปรโมทเส้นทางท่องเที่ยวเชิงรุกอย่างเต็มที่ตลอด มิถุนายน-กันยายน นี้ ประกอบด้วย เส้นทางท่องเที่ยว “Grand Moment ภาคตะวันออก 9 จังหวัด” ตามนโยบาย Amazing Thailand Grand Tourism Sport Year 2025 สร้างความทรงจำที่มีคุณค่าและช่วงเวลาพิเศษให้นักท่องเที่ยวได้เลือกเดินทางต่อเนื่องได้ตลอดทั้งปี ใน 9 จังหวัด 10 เส้นทาง ประกอบด้วย


“ชลบุรี” นำเสนอเส้นทาง “เกาะแห่งรัก(ษ์)...ที่สีชัง” : ท่องเที่ยวย้อนรอยพระราชวังบนเกาะแห่งเดียวในเมืองไทย

ระยอง” นำเสนอเส้นทาง “ระยองพักกาย ผ่อนคลาย เติมพลังชีวิต” : สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ทำกิจกรรมกลางแจ้งชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติหรือ Miracle of natural

“จันทบุรี” นำเสนอ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางที่ 1 “จันทบูรในวันวาน สุขทุกวันจันทบุรี 3 วัน 2 คืน” : เส้นทางท่องเที่ยวที่พาคุณย้อยกลับไปสู่อดีตความรุ่งเรืองของเมืองเก่าจันทบุรีที่ปัจจุบันได้กลับฟื้นคืนเสน่ห์ตะวันออกแสนงดงา เส้นทางที่ 2 “เที่ยวทะเลเมืองจัน เติมความหวานให้ชีวิต 3 วัน 2 คืน” : สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติจากภูผาสู่มหานที

 


“ตราด” นำเสนอเส้นทาง “มหัศจรรย์ลานตะบูน ตราด 3 วัน 2 คืน” ดินแดนแห่งรากไม้พันปีที่ใครก็ต้องหลงรัก

นครนายก” นำเสนอเส้นทาง “เขาช่องลมกิจกรรมล่องเรือเที่ยวเขื่อนขุนด่าน” เที่ยวสบาย สัมผัสธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์

ปราจีนบุรี” นำเสนอเส้นทาง “เปิดประสบการณ์ผู้พิชิตล่องแก่งหินเพิง Top 5” ล่องแก่งที่สนุกตื่นเต้นเร้าใจที่สุดในเมืองไทย

“สระแก้ว” นำเสนอเส้นทาง ตามรอยอารยธรรมขอมโบราณ ปราสาทสด๊กก๊อกธม ชมความงาม ช้อปปิ้งชายแดนเมืองบูรพา

ฉะเชิงเทรา” นำเสนอเส้นทาง อิ่มเอม ยามค่ำคืน ณ บางปะกง ล่องเรือชมธรรมชาติริมฝั่งน้ำยางปะกง ขอพรพระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์

สมุทรปราการ” นำเสนอเส้นทาง : “เปิดความลับ สำรับเสวยเผย ณ บางกระจ้า ชิมอาหารชุมชนคุ้งบางกระเจ้าเมนูขึ้นโต๊ะเสวย เส้นทางช่องชุมชนแบบสโลว์ไลฟ์สุขทุกครั้งเมื่อได้เที่ยวใกล้กรุง

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1-ซื้อแคชการ์ดคิงเพาเวอร์รับ COMBINATION SETอื้อ6รายกา

คิง เพาเวอร์ ชวน อิ่มจุใจ ได้มากกว่า! เพียงซื้อ CASH CARD 1,000 บาท รับเพิ่มฟรี 100 บาท และ Cash Card 1,400 บาท รับเพิ่มฟรี! 150 บาท (ใช้ได้ 30 วัน)

รับสิทธิพิเศษสั่ง COMBINATION SET และยังรับสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568

1.ส่วนลด 50% ราคาอาหาร The Celestial Beef Wellington (เฉพาะผู้ที่ถือบัตร Cash Card 1,400 บาท และ Cash Card 1,000 บาท) หรือสเต็กไก่บาร์บีคิว (เฉพาะผู้ที่ถือบัตร Cash Card 1,400 บาท) ที่ห้องอาหาร ECLIPSE

2.ซื้อเครื่องดื่ม REFRESHMENT ราคาพิเศษ 30 บาท/แก้ว (ราคาปกติ 60 บาท) ที่ห้องอาหาร ECLIPSeจำกัด 1 สิทธิ์/การซื้อบัตร 1 ใบ)

3.ซื้อเครื่องดื่ม MOCKTAIL 1 แก้ว แถมฟรี 1 แก้ว ที่ห้องอาหาร ECLIPSE (จำกัด 1 สิทธิ์/การซื้อบัตร 1 ใบ)

4.รับฟรีเค้กวันเกิด (ครึ่งปอนด์) ที่ห้องอาหาร ECLIPSE (จำกัด 1 สิทธิ์ / 1 รายชื่อ / การซื้อบัตร 1 ใบ เฉพาะในเดือนเกิด)

5.สิทธิ์แลกรับฟรี Soft Serve หรือ Pop Corn จำนวน 1 รายการ ที่ห้องลามูน ภัตตาคารรามายณะ ศรีวารี (จำกัด 1 สิทธิ์/การซื้อบัตร 1 ใบ)

6.ใช้จ่ายได้ทุกเมนูในศูนย์อาหาร ไทย เทสต์ ฮับ รางน้ำ, ห้อง ECLIPSE สาขารางน้ำ, ห้องลามูนฯ สาขาศรีวารี



ข่าวที่ 2 -คิงเพาเวอร์จัดโปรดีไม่มีแผ่ว 4 สนามบินลดแรง30%

 

คิง เพาเวอร์ จัด วิ่งไปช้อป โปรฯแรงดี ไม่มีแผ่ว ได้ที่คิง เพาเวอร์ ทุกสนามบิน! โปรโมชั่นแรงดี 4 รายการเด็ด 4 สนามบิน สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ ดังนี้

 

1.ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง วันนี้- 13 กรกฎาคม 2568 ลดสูงสุด 30% เมื่อช้อปสินค้าที่เข้าร่วมรายการ 1,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ

 

2.โปรฯแรงดี ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และภูเก็ต ลดสูงสุด 30% เมื่อช้อปสินค้า 500 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ

 

3.พิเศษ! สำหรับสมาชิก คิง เพาเวอร์ เท่านั้น รับส่วนลด On – top 5% (สำหรับสินค้าราคาปกติ เฉพาะสินค้าแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอางที่ร่วมรายการ)

 

4.คุ้มแรงดี ไม่มีแผ่ว!พิเศษใช้ Cash Card ช้อปที่สุวรรณภูมิ รับเงินเพิ่มถึง 30% เพียงซื้อ Cash Card 7,000 บาท ใช้ช้อปได้จริง 10,000 บาท (เฉพาะแบรนด์และแผนกที่ร่วมรายการ)

 

ข่าวที่ 3-ททท.พลิกโฉมปี’68ปั๊มทัวร์ญี่ปุ่นเข้าไทย 1.2 ล้านคน

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปี 2568 ททท.ได้พลิกโฉมกลยุทธ์ดึงนักท่องเที่ยวตลาดญี่ปุ่นให้กลับมาเยือนไทยให้ถึง 1.2 ล้านคน โดยมุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมกับการรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ไทยได้มุ่งเจาะญี่ปุ่นกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งเคยเป็นฐานหลักซึ่งลดลงชัดเจน ขณะที่ตลาด “คนรุ่นใหม่ในญี่ปุ่น” ที่คุ้นชินกับการท่องเที่ยวในประเทศกลับเพิ่มมากขึ้น เพราะการเดินทางสะดวก ปลอดภัย ค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก ดังนั้นจึงเร่งวางกลยุทธ์และศึกษาพฤติกรรมลูกค้าอย่างละเอียด 3 ส่วนหลัก 3 กลุ่มใหม่ ได้แก่

 

ส่วนที่ 1 กลุ่มเด็กเล็กและนักเรียน : สร้างประสบการณ์แรกผ่านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

ญี่ปุ่นมีระบบการศึกษาที่ส่งเสริมการจัดทัวร์นักเรียนไปต่างประเทศเพื่อเรียนรู้และเปิดโลกกว้าง ซึ่งไทยมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นจุดหมายปลายทาง เพราะมีจุดขายด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันล้ำค่าพร้อมให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์จริง

 

ส่วนที่ 2 กลุ่มนักเรียน นักศึกษา (Gen Y, Gen Z): ดึงดูดด้วยกระแสป๊อปคัลเจอร์ไทย ซึ่งมีแนวโน้มต้องการเรียนรู้โลกภายนอก ททท. จะใช้จุดแข็งจากความนิยมกระแสซีรีส์ Boy Love (BL) ละครไทย และ T-Pop กำลังมาแรงในหมู่คนรุ่นใหม่ตลาดญี่ปุ่น มาเป็นเครื่องมือหลักดึงดูดนักศึกษาให้มาเยือนไทย

 

ส่วนที่ 3 กลุ่มคนทำงานใหม่ First Jobber : ตอบโจทย์การแสวงหาความแปลกใหม่ กลุ่มคนทำงานใหม่ที่เพิ่งจบการศึกษาช่วงวัย 22-23 ปี ซึ่งเริ่มมีกำลังซื้อและกำลังแสวงหาประสบการณ์แปลกใหม่ ททท. จะนำเสนอการท่องเที่ยวตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตลาดกลุ่มนี้ ที่มองหาความแตกต่างและความตื่นเต้น

จะกระตุ้นนักท่องเที่ยวใหม่ทั้ง 3 กลุ่ม มาเที่ยวเมืองไทย

 

รวมทั้ง ททท. ได้เดินหน้าสร้างสรรค์ริเริ่มโครงการต่าง ๆ เช่น “First Passport in Thailand” ตั้งเป้าดึงดูดคนที่ไม่เคยเดินทางมาไทยมาก่อน ด้วยวิธีอาจมอบสิทธิพิเศษฟรี เช่น บัตร BTS ฟรี หรือซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ สร้างแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางและส่งเสริมผู้เข้าร่วมได้แบ่งปันประสบการณ์ของตนเองสร้างการรับรู้ในวงกว้างต่อไป

 

ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ กล่าวว่า กลยุทธ์ข้างต้น ททท. มุ่งตอกย้ำความสำคัญกระแส “Boys Love :BL ควบคู่กันไปด้วย ปี 2568 เป็นพลังขับเคลื่อนการท่องเที่ยวด้วยปรากฏการณ์ BL กลายเป็นวัฒนธรรมย่อย หรือSubculture ที่หยั่งรากลึกเติบโตแบบก้าวกระโดดในญี่ปุ่น “กลุ่มผู้บริโภค BL” ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่ม LGBTQ+ เท่านั้น แต่ยังขยายวงกว้างไปถึงกลุ่ม “ผู้หญิงและผู้ชาย” ที่หลงใหลเรื่องราวความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างเพศเดียวกัน ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีของการท่องเที่ยวไทยในการเพิ่มตลาดดังกล่าวเข้ามาเพิ่มต่อเนื่องในระยะยาว

 

ข่าวที่ 4-บางจากดึง 40 โรงเรียนร่วมทอดไม่ทิ้งผลิตน้ำมัน SAF

 

นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และกรรมการมูลนิธิใบไม้ปันสุข เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทบางจาก และมูลนิธิใบไม้ปันสุข เปิดรับสมัครโรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเข้าร่วมโครงการ “สถานีทอดไม่ทิ้ง” โดยได้ตั้งจุดรับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วในโรงเรียน เพื่อรวบรวมเข้ากระบวนการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) ขยายจากโรงเรียนรักษ์โลกต้นแบบผ่านกิจกรรมการเรียนรู้จากการลงมือทำ สร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน ปี 2568 ตั้งเป้าหมายขยายไปยัง 40 โรงเรียน

 

โครงการนี้เป็นหนึ่งในภารกิจของมูลนิธิฯ เพื่อ “สร้างสรรค์สังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยการเรียนรู้และลงมือทำ” ที่นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชนมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนของเสียให้เป็นพลังงานสะอาดที่สามารถสร้างรายได้ ลดภาระของระบบสาธารณูปโภค และลดผลกระทบต่อสุขภาพจากการใช้น้ำมันทอดซ้ำ”

 

สำหรับ สถานีทอดไม่ทิ้ง” เริ่มต้นปี 2567 จากโรงเรียนวัดลาดกระบัง (ศีลาภิรัตอุปถัมภ์) โรงเรียนพูนสิน (เพชรสุขอุปถัมภ์) โรงเรียนผ่องพลอยอนุสรณ์ โรงเรียนวัดบางนาใน (รื่น ศยามานนท์) ผลความสำเร็จของโรงเรียนต้นแบบทั้ง 4 แห่ง ปี 2568 ทางมูลนิธิฯ จึงมีเป้าหมายขยายสู่โรงเรียนอื่น ๆ ในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลรวม 40 แห่ง  เปิดให้โรงเรียนที่จะเข้าร่วมรับฝึกอบรมการบริหารจัดการสถานีทอดไม่ทิ้ง พร้อมสื่อประชาสัมพันธ์จาก “มูลนิธิใบไม้ปันสุข

               

มูลนิธิใบไม้ปันสุข ใช้โอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 เชิญชวนร่วมสนับสนุนการภารกิจ ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และความยั่งยืน สามารถบริจาคผ่านลิงก์หรือ QR Code เพื่อนำไปใช้พัฒนาโครงการของมูลนิธิฯ เช่น โครงการอ่านเขียนเรียนสนุก โครงการโซลาร์ปันสุข โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน สถานีเรียนรู้ปลูกฝังจิตสำนึกเยาวชนด้านต่าง ๆ

 

ส่วนการบริจาคสามารถลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า ผู้ที่บริจาค 800 บาทขึ้นไป จะได้รับกระเป๋าผ้าที่ระลึก 1 ใบ สามารถกรอกรายละเอียดที่อยู่ เพื่อจัดส่งกระเป๋าได้ในลิ้งค์ดังกล่าว กระเป๋ามีจำนวนจำกัด ทางมูลนิธิฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกสีกระเป๋าเพื่อให้กระจายได้อย่างทั่วถึงนั่นเอง

 

ช่วงที่ 2 ขึ้นภูสัมผัสไอดินกลิ่นฝนกรีน ซีซั่น ที่ “อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า” พิษณุโลก ตื่นตากับดอก “บีโกเนีย/ดาดหินทราย” ปีละครั้ง แล้วตลุยเช็คอินเที่ยวเชิงผจญภัย 8 พิกัด แล้วมาฟัง “5วิธีรับมือ” กับการเสพข่าวมากเกินไป พร้อมข่าวฮ็อต ข่าวแรก “ATM ดูไบชี้ปี72” ท่องเที่ยวเอเชียครองรายได้มากสุด 2.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ข่าวที่สอง “ห้องไฟร์เพลสกริลล์&บาร์” โรงแรมอินเตอร์คอนกรุงเทพ เสิร์ฟไม่ยั้งเมนู “เห็ดทรัฟเฟิลฤดูร้อน” 1 ก.ค.-31 ส.ค.68

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวหน้าฝนอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าฟิน 8 พิกัด

 

เที่ยวหน้าฝนสัมผัสความพิเศษทางธรรมชาติฤดูฝนใน “อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า” แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเชิงผจญภัย ขวัญใจกลุ่มนักเดินทาง ตอนนี้แนะนำให้ไปชม "ดาดหินทราย"  หรือ ส้มกุ้ง (บีโกเนีย) ไม้ล้มลุกขนาดเล็กขึ้นตามโขดหิน พบหลายแห่งตามแหล่งท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ ช่วงเช้าจะพบ “บีโกเนีย” ได้ตรงพิกัดที่ “หลบภัยทางอากาศสำนักอำนาจรัฐ” เริ่มปักหมุดจาก “ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว” ขับรถไปประมาณ 1 กม. เจอสามแยกจะมีป้ายชี้ทางไป “ผาชูธง-ลานหินปุ่ม” เลี้ยวขวามือไปราว 1 กม. ก็จะเห็นลานจอดรถไว้แล้วเดินเท้าเข้าไปยัง “หลบภัยทางอากาศ” 600 เมตร ก็ถึงจุดชมใบบีโกเนีย จะขึ้นตามผนังหินกับพืชหายากสวยงาม

 

“อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า” เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเป็นรอยต่อเชื่อม 3จังหวัด คือ พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-เลย

 

มี “ยอดภู” ดัง ๆ ให้นักท่องเที่ยวไปพิชิตคือ ภูหมันขาว ภูแผงม้า ภูขี้เถ้า ภูลมโล ภูหินร่องกล้า แล้วก็มียอดสูงสุดคือ “ภูหมันขาว” สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,820 เมตร รองลงมาเป็น “ภูลมโล” สูงประมาณ 1,664 เมตร

 

ในผืนป่าแห่งนี้นักท่องเที่ยวจะได้พบ “กล้วยไม้” กับ “ดอกไม้ป่า” หลายชนิดขึ้นอยู่ตามลานหิน ซึ่งมีทางเข้า “สำนักอำนาจรัฐ” เป็นทางเดินแคบ ๆ ตามซอกหิน ผ่านลำธารเล็ก ๆ  และ “ที่หลบภัยทางอากาศ” 2 แห่ง ด้วยสภาพธรรมชาติยุคก่อนใช้ลดความเสียเปรียบการสู้รบ จึงใช้เพิงหินหลบภัยเรียกว่า “หลบภัยทางอากาศ” แล้วบริเวณใกล้โรงเรียนการเมืองการทหาร มีถ้ำขนาดใหญ่คนเข้าไปอยู่รวมกันได้ 500 คน เมื่อครั้งอดีตมักจะมีเครื่องบินมาลาดตระเวนและทิ้งระเบิดก่อกวนฐานที่มั่น ผู้บังคับบัญชาประจำวันจะเป่านกหวีดเรียกรวมพลแล้วทยอยกันมารวมกันในหลบภัยทางอากาศบริเวณสำนักอำนาจรัฐแห่งนี้

 

ในอุทยานภูหินร่องกล้า มีแหล่งท่องเที่ยวแนะนำ ให้เลือกท่องเที่ยวใกล้ชิดธรรมชาติได้อีก 8 พิกัด

 

พิกัดที่ 1  “ลานหินปุ่ม” บริเวณหน้าผาเป็นลานหินผุดขึ้นเป็นปุ่มไล่เลี่ยกัน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราว 30 เซนติเมตร สูง 20-30 เซนติเมตร อยู่เป็นบริเวณกว้างดูแปลกตา อากาศดีลมพัดเย็นสบายเหมาะแก่การนั่งพักผ่อน ระหว่างทางไปลานหินปุ่มนักท่องเที่ยวอาจจะได้เห็นนกนานาชนิด เช่น นกตั้งล้อ นกกะลิงเขียดสีเทา นกหัวขวาน จิ๋วท้องลาย และนกศิวะปีกสีฟ้า

 

พิกัดที่ 2 “ผาชูธง” อยู่ห่างจากลานหินปุ่ม 500 เมตร เป็นยอดเขาผาสูงชันอันดับสาม 1,614 เมตร รองจากภูหมันขาวและภูลมโล มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกลโดยเฉพาะตอนพระอาทิตย์ตก อดีตบริเวณนี้เคยเป็นสถานที่พรรคคอมมิวนิสต์ขึ้นไปชูธงแดงรูปฆ้อนเคียวทุกครั้งเมื่อรบชนะทหารของรัฐบาลและเป็นการส่งข่าวสาร

 

พิกัดที่ 3 โรงเรียนการเมืองการทหาร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 6 กิโลเมตร เคยใช้เป็นสถานที่ให้การศึกษาตามแนวทางของลัทธิคอมมิวนิสต์ มีบ้านพักฝ่ายพลเรือน ฝ่ายพลาธิการ ฝ่ายสื่อสาร สถานพยาบาล กระจายอยู่ในผืนป่า 31 หลัง มาเที่ยวช่วงฤดูหนาวจะได้เห็น “ใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสี” และร่วงหล่นลงบ้านไม้เก่าแก่งดงามคล้ายกับต่างประเทศ

 

พิกัดที่ 4 กังหันน้ำ ทำด้วยไม้ขนาดใหญ่อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนการเมืองการทหาร ต่อแกนถ่ายพลังงานยังครกกระเดื่องตำข้าว ใช้ผันน้ำจากน้ำตกเล็ก ๆ ผ่านรางน้ำทำจากไม้มายังตัวกังหัน จึงเกิดเป็นพลังน้ำที่ขับเคลื่อนกังหันให้หมุน สภาพโดยรอบจะเป็นป่า มีน้ำตกที่สามารถลงเล่นน้ำได้

 

พิกัดที่ 5  น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนถนนภูหินร่องกล้า 5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกฝาแฝดติดกันไม่สูงใหญ่นัก 2 แห่ง แต่สภาพแวดล้อมเป็นป่าบริสุทธิ์งดงามมาก จากน้ำตกร่มเกล้าเดินไปอีก 200 เมตร จะเป็นน้ำตกภราดร

 

พิกัดที่ 6 น้ำตกหมันแดง ขนาดใหญ่ มี 32 ชั้น ผู้เชี่ยวชาญจากฝรั่งเศสและนักธรณีวิทยาจากไทยเคยสำรวจ พบบริเวณแผ่นหินลานน้ำตกหมันแดง มีรอยเท้าไดโนเสาร์กินเนื้อกว่า 20 รอย ปัจจุบันยังไม่มีทางรถเข้าถึง ต้องใช้วิธีเดินเท้าเข้าไปท่องเที่ยวยังน้ำตก

 

พิกัดที่ 7 ภูแผงม้า เป็นจุดชมวิวสูงสุดอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าสูง 1,775 เมตร เป็นจุดชมวิวทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตกมองเห็นไปถึงไร่กะหล่ำปลีจากภูทับเบิก วิวทะเลหมอกจากบริเวณอำเภอหล่มเก่า-หล่มสัก และวิวทะเลภูเขาสลับซับซ้อนจาก อำเภอเขาค้อได้

 

พิกัดที่ 8 โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า ตั้งอยู่ก่อนถึงโรงเรียนการเมืองการทหาร และบ้านร่องกล้า ภูมิทัศน์ของโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า อยู่ท่ามกลางภูเขาที่เขียวขจี และมีอาการที่เย็นสบายตลอดทั้งปี โครงการจัดตั้งขึ้นเพื่อปลูกฟื้นฟูสภาพป่า เพาะชำกล้าไม้ ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต ปลูกปรับปรุงระบบนิเวศต้นน้ำ ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาด้านท่องเที่ยวและสภาพแวดล้อม จุดเด่นคือ ยืนชมวิวตามผาต่าง ๆ ทั้ง 5 ผา ได้แก่ ผาบอกรัก ผาสลัดรัก ผารักยืนยง ผาคู่รัก และผาไททานิค ซึ่งตั้งอยู่เรียงรายกันรวมถึงชมทุ่งดอกกระดาษที่จะบานอยู่ริมผาอย่างงดงามในช่วงฤดูหนาว เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น.

 

โดยมีค่าบริการเข้าอุทยานภูหินร่องกล้า พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก บริการบ้านพัก และสถานที่กางเต็นท์เป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยวด้วย

 

สอบถามเพิ่มได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โทร.096-020 0992 , 081-596 5977 www.dnp.go.th

 

สุขภาพ –5 วิธีรับมือกับ“ความเครียด”หลังคนเสพข่าวมากไป

 

นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต  แนะ! วิธีการรับมือสุขภาพพังหลังการเสพข่าวเครียดมากไป อาจเสี่ยงป่วย “Political Stress Syndrome (PSS)” ซึ่งแม้จะไม่ใช่โรคทางจิตเวชโดยตรง แต่เป็นปฏิกิริยาทางอารมณ์และจิตใจที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ติดตามข่าวสารทางการเมืองอย่างใกล้ชิด หรือมีแนวโน้มเอนเอียงไปทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน จนทำให้เกิดอาการทั้งทางร่างกาย จิตใจ และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับผู้อื่น แนะนำ 5 วิธีดูแลใจ ได้แก่

 

1.รู้เท่าทันอารมณ์ขณะเสพข่าว

2.จำกัดเวลาในการติดตามข่าวสาร

3.ทำกิจวัตรประจำวันให้สมดุล ไม่ละเลยหน้าที่

4.เคารพความคิดเห็นที่หลากหลายโดยเปิดใจรับฟัง

5.ให้เวลากับการพักผ่อนและผ่อนคลายความเครียด เช่น นอนให้พอออกกำลังกาย ทำสมาธิ หรือฝึกหายใจคลายเครียด

 

การเสพข่าวมากเกินไป จะมีลักษณะอาการสำคัญ 3 ด้าน คือ

 

1.อาการทางร่างกาย ได้แก่ อาการปวดตึงบริเวณขมับหรือต้นคอ หายใจไม่อิ่ม ใจสั่น นอนไม่หลับ หรือมีอาการแน่นท้อง

 

2.อาการทางจิตใจ เช่น ความหงุดหงิดง่าย โกรธ ฉุนเฉียว เบื่อหน่าย ฟุ้งซ่าน หรือหมกมุ่นกับข้อมูลทางการเมืองจนเกิดความเครียด

 

3.ปัญหาทางพฤติกรรม เช่น การโต้แย้งหรือโต้เถียงโดยใช้อารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัว หรืออาจถึงขั้นใช้ความรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์

 

แล้วยังอาจก่อให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างกับบุคคล 3 กลุ่ม ได้แก่

 

ผู้พูดหรือผู้ส่งสาร หากใช้อารมณ์มากกว่าสติ อาจใช้ถ้อยคำหมิ่นประมาทหรือยั่วยุโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ความขัดแย้งลุกลาม

 

ผู้ฟังหรือผู้รับสาร หากได้รับข้อมูลที่รุนแรงอาจรู้สึกไม่พอใจ เครียด หรือวิตกกังวลจนกระทบสุขภาพจิต

 

ผู้คนในสังคม หากการสื่อสารในวงกว้างขาดความระมัดระวังและเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ก็อาจทำให้เกิดบรรยากาศของความตึงเครียดและรู้สึกว่าสังคมไม่น่าอยู่

 

หากพบว่าอาการเครียดมีความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตหรือความสัมพันธ์กับผู้อื่น ขอให้รีบขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ได้ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก – ATMดูไบชี้ปี’72ทัวร์เอเชียแชมป์รายได้2.5ล้านล้านดอลล์

 

Euromonitor International รายงานข้อมูลล่าสุด การท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญโดยคาดการณ์จะเกิดการใช้จ่ายเพื่อการเดินทางระหว่างประเทศสูงถึง 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะปี 2572 การเดินทางภายในประเทศจะสูงถึง 4.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

“ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” คาดจะเกิดการเดินทางขาออกประเทศ ปี 2568 จะเติบโต (CAGR) 7% แบ่งเป็นการเดินทางภายในภูมิภาค 61% ของทั้งหมด พร้อมพยากรณ์ปี 2572 การเดินทางนอกภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจำนวน 1 ใน 3 จะเลือกใช้วิธีจองการท่องเที่ยวผ่านระบบออนไลน์ 75 %

 

อ้างอิงถึงการเสวนาในงาน Arabian Travel Market : ATM 2025 ได้เชิญบุคคลสำคัญจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมารวมตัวกัน ทำการสำรวจ “อนาคตการเดินทางในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” ที่ Mingie Wang ผู้สื่อข่าวไชน่า เดลี่ เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย โดยได้นำเสนอประเด็นหารือเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักเดินทาง การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และการกลับมาของการเดินทางออกนอกประเทศ โดยเฉพาะ “ตลาดจีน” โดยให้ข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดสำคัญระดับโลกดังกล่าวด้วย

 

ร่วมกับผู้ร่วมเวทีเสวนา นำโดย Alhasan Aldabbagh ประธานตลาด APAC สำนักงานการท่องเที่ยวซาอุดิอาระเบีย เกรี่ บาวเวอร์แมน ผู้ก่อตั้ง Check-in Asia, Boon Sian Chai กรรมการผู้จัดการและรองประธานตลาดต่างประเทศ Trip.com Group และ Shahab Shayan ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กรมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

           

ระหว่างการประชุมแต่ละคนได้เน้นย้ำถึง “การเปลี่ยนแปลงในการตัดสินใจซื้อทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” ต่างขับเคลื่อนการเดินทางเชิงประสบการณ์ ดิจิทัลไลเซชั่น มีความต้องการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นที่จะดื่มด่ำการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

 

“แดนเนียล เคอร์ติส” ผู้อำนวยการฝ่ายจัดนิทรรศการ ME, Arabian Travel Market เปิดเผยว่า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวกว่า 60% จองทริปเดินทางไปชมคอนเสิร์ตและงานกีฬา ส่วนอีกกว่า 40% ได้รับอิทธิพลจากแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น TikTok ที่น่าสนใจ คือภาพยนตร์และโทรทัศน์ก็เข้ามามีบทบาทสำคัญเช่นกัน เห็นได้จาก “การจองที่พักในไทย” เพิ่มขึ้นจากกระแสภาพยนตร์ The White Lotus เผยแพร่สร้างกระแสความนิยมทั่วโลก

 

Tourism Economicsจัดทำรายงานในนามของ ATM ระบุ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และแอฟริกา พบ“จำนวนคืนท่องเที่ยว” มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นระหว่างปี 2568-2573 มากกว่า 2 เท่า โดยเฉพาะจาก “สาธารณรัฐประชาชนจีน” และ “ตะวันออกกลาง” คาดภายในปี 2573 จะเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 189 % “อินเดีย” จะเป็นตลาดการท่องเที่ยวได้รับความสำคัญเพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก

           

ขณะที่ “ยอดใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยว” สูงสุดทั่วโลก จะเฉลี่ยประมาณ 300 ดอลลาร์สหรัฐ/คน/วัน จากการเดินทางท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมถึงที่พัก อาหารและเครื่องดื่ม ร้านค้าปลีก การใช้จ่ายเงินระดับสูงนี้ส่วนใหญ่มาจากนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งมีอำนาจการซื้อสูงต่อเนื่องและมีอิทธิพลต่อเทรนด์การเดินทางทั่วโลก

 

สำหรับ เศรษฐกิจดูไบ (D33) ถือเป็นกุญแจสำคัญทำให้ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประสบความสำเร็จเชิงกลยุทธ์ในตลาดเอเชียแปซิฟิก โดยเน้นเพิ่ม “แบ่งส่วนตลาด” ควบคู่กลยุทธ์การบอกเล่าเรื่องราว ด้วยวิธีใช้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น เว็บไซต์แบ่งปันวิดีโอ Bilibili แพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ก และอีคอมเมิร์ซ Red Note รวมถึงการเชื่อมโยงทางอากาศอย่างแข็งแกร่งผ่านสายการบินนำโดย เอมิเรตส์ กับฟลายดูไบ  หน่วยงานการท่องเที่ยวดูไบยังคงวางตำแหน่งเมืองให้เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว เข้าถึงได้ สร้างแรงบันดาลใจดึงดูดนักเดินทางทั่วเอเชียเข้าสู่ประเทศเติบโตดีต่อเนื่อง

 

ทางด้าน “ซาอุดิอาระเบีย” ในฐานะผู้เล่นใหม่ในตลาดการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้ใช้แนวทางเน้นเฉพาะพื้นที่เป็นหลัก โดยตระหนักถึงความหลากหลายของภูมิภาค ที่แตกต่างกันประกอบด้วย 49 ประเทศ โดยมีหน่วยงานการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียเดินหน้าศึกษาตลาดแต่ละแห่งอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ 1.ความชอบด้านอาหาร 2.ความแตกต่างทางวัฒนธรรม 3.การเพิ่มประสบการณ์การเดินทางให้เหมาะสม

 

กลยุทธ์ดังกล่าวนี้ได้รับการสนับสนุนจากความร่วมมือจากสื่อ องค์กรการค้า หน่วยงานวิจัย ช่วยกันทำให้แน่ใจว่าข้อเสนอของซาอุดีอาระเบียจะตรงใจนักเดินทางทั่วทั้งภูมิภาคอย่างแท้จริง

 

เคอร์ติส กล่าวว่า เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในการตัดสินใจเดินทางสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยผู้บริโภคต่างพึ่งพาดิจิทัล โซเชียลมีเดีย และ AI เป็นอย่างมาก การวางแผนเน้นใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลัก นักเดินทางได้เปลี่ยนแปลงวิธีค้นหาและจองทริป แม้ดิจิทัลของแต่ละประเทศจะแตกต่างกันอย่างมากแต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงในเอเชีย แปซิฟิก คือความสำคัญด้านความไว้วางใจ โดยเฉพาะเนื้อหาที่สร้างโดยเพื่อนร่วมงาน ซึ่งยังคงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในทุกขั้นตอนของการเดินทาง

           

ส่วนข้อสรุปจากเวทีผู้ร่วมอภิปรายใน ATM 2025 ได้นำเสนอการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนมุ่งประเด็นสำคัญรองรับ “ตลาดคนรุ่นใหม่” ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตามผลการวิจัยของ Trip.com ระบุกลุ่ม Gen Y และกลุ่มคนรุ่นใหม่มิลเลนเนียล 30-40 % ยินดีจะจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นเพื่อการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้เน้นความยั่งยืนไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องชดเชยคาร์บอนและการปกป้องสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการสนับสนุนวัฒนธรรมและมรดกในท้องถิ่นอีกด้วย

 

ข่าวที่สอง –ห้องไฟร์เพลสกริลล์&บาร์เสิร์ฟไม่ยั้งทรัฟเฟิลฤดูร้อน

 

“ไฟร์เพลส กริลล์ แอนด์ บาร์” โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ รังสรรค์เมนูอาหารขึ้นอย่างประณีตจากวัตถุดิบชั้นเลิศและหายากจากธรรมชาติอย่างเห็ดทรัฟเฟิลดำ "เพชรเม็ดงามแห่งผืนป่า" พร้อมให้บริการ 1 กรกฎาคม -31 สิงหาคม 2568  เป็นห้องอาหารระดับตำนานของกรุงเทพฯ เปิดตั้งแต่ปี 1966 นักชิมให้ความนิยมากมีชื่อเสียงด้าน สเต๊ก และอาหารทะเลย่าง ของหวานที่ประณีตพิถีพิถัน ไวน์คุณภาพหลากหลายชนิดคัดสรรมาอย่างดี ให้จับคู่ไวน์กับอาหารพิเศษจากเมนู “ทรัฟเฟิลฤดูร้อน” ได้อย่างลงตัว

 

“อาหารเรียกน้ำย่อย” ได้แก่ กะหล่ำโคราบีเสิร์ฟคู่เฮเซลนัทและทรัฟเฟิลดำ หอยเชลล์ฮอกไกโดย่าง เสิร์ฟพร้อมต้นกระเทียมเคี่ยว แอปเปิ้ลและสลอว์แตงกวา ราดด้วยน้ำสลัดเห็ดทรัฟเฟิลดำ ส่วนซุปถั่วลันเตาเขียวและไข่ออนเซ็น เสิร์ฟพร้อมเบคอนกรอบ โรยน้ำมันเฮเซลนัทเพิ่มมิติความหอมเป็นเอกลักษณ์ทุกคำด้วยเห็ดทรัฟเฟิล

 

“อาหารจานหลัก” โดดเด่นด้วย “ทรัฟเฟิลฤดูร้อน” ได้แก่ เนื้อสันในสต็อกยาร์ดย่างเสิร์ฟพร้อมแยมเห็ดชิตาเกะและทรัฟเฟิลดำ ปลาตาเดียวเนื้อนุ่ม เสิร์ฟพร้อมกับหัวผักชีฝรั่งและแบล็คทรัฟเฟิลในซอสมิโซะเนยทรัฟเฟิล

 

“เมนูแนะนำ” ต้อง พาสต้าไข่ทาลิโอลินี่กับเห็ดทรัฟเฟิลดำ เห็ดพอร์ชินี่และชีสพาร์เมซาน รสชาติเข้มข้น ปิดท้ายด้วย “ขนมหวาน” อย่าง “Cacao Truffle” มีส่วนประกอบเป็นทรัฟเฟิลช็อกโกแลต กาแฟ ครีมทรัฟเฟิลช็อกโกแลต ครัมเบิลคุกกี้ เฮเซลนัทกรอบเคลือบน้ำตาล และวิปครีมกาแฟแชนทิลลี่

 

โทร +66 (0) 2 656 0444 อีเมล dining.bkkhb@ihg.com เว็บไซต์InterContinental.com/Bangkok  

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดใจ "นิตินัย ศิริสมรรถการ" CEO คิงเพาเวอร์ลุย5ภารกิจแก้ดิวตี้ฟรีDisruptionพลิกสู่Next Move

  ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ซีอีโอ คิง เพาเวอร์ เปิด 5 ภารกิจ นำดิวตี้ฟรีไทยพลิกโฉมสู่ Next Move เจาะลึก !! “นิตินัย ศิริสมรรถการ” ซีอีโอใหม่ ...