วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ททท.ชวนใช้สิทธิ์เที่ยวไทยคนละครึ่ง 4ก.ค.-31 ต.ค.68 สร้างเศรษฐกิจ3.5หมื่นล้าน

นิธี สีแพร” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

ททท.ชี้ช่องเข้าถึงสิทธิ์ด่วนๆ“เที่ยวไทยคนละครี่ง”5แสนสิทธิ์

ทุ่ม1,700ล้านเร่งเศรษฐกิจทั่วไทยก.ค.-ต.ค.คึกคัก3.5หมื่นล้าน

ดึงอินฟลูปลุกคนใช้เงิน5อย่าง“เดินทาง-พัก-กิน-ช้อป-กิจกรรม”

AOTไฟเขียวคิงเพาเวอร์ผ่อนจ่ายดิวตี้ฟรี 3 สัญญา 6 สนามบิน

ช้อปคิงเพาเวอร์ที่แรก JisuLife x Butterbear-3 แห่งลด 30%

ททท.-4พันธมิตรชวนเที่ยวรส+รางสุขแดนใต้ 9 เส้นทาง 9 รส

BCPGเครือบางจากผนึกNTลุยเปิดSustainable Data Center

เที่ยว2อุทยาน “ป่าหินงาม-ไทรทอง” ทุ่งดอกกระเจียว+5พิกัด

5 วิธีการกินอย่างฉลาดให้ปลอดภัยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

รร.ม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์ลุยขาย “พัก-กิน-ดื่ม-มันส์”

IATAเปิด “SAF Matchmaker”จับคู่ซื้อขายน้ำมันบินทั่วโลก

วันอาทิตย์ที่  29 มิถุนายน 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก  #เที่ยวเทศกาลทุ่งดอกกระเจียว

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1AdWxLD6aG/

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! “นิธี สีแพร” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ททท.จัดใหญ่จัดเต็มมหกรรม “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ 4 ก.ค.-31 ต.ค.นี้ รัฐลงทุน 1,700 ล้านบาท กระตุ้นเที่ยวไทยเงินสะพัด 35,000 ล้านบาท แจกไม่ยั้ง 2 ส่วน “เงินสมทบ 3,000 บาท/คืน-อี-โวเชอร์ 500 บาท/วัน” ได้ 5 สิทธิ์/คน แบ่งเที่ยวเมืองหลัก 3 สิทธิ์ เมืองน่าเที่ยว 2 สิทธิ์ นักท่องเที่ยวนิยมใช้เงินมากสุด 5 รายการ “เดินทาง-อาหาร-ที่พัก-ช้อปปิ้ง-กิจกรรมเที่ยว” ดึง “เซเล็บ-อินฟลู-ศิลปิน” ร่วมโปรโมทเต็มเหนี่ยว ก.ค.นี้ สบช่องปลุกกระแสเที่ยวตามรอยหนัง “จูลาสสิก เวิลด์” ชี้เป้าทัวร์แดนไดโนเสาร์ ผจญภัยในป่า ทะเล

 

นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลอนุมัติเปิดลงทะเบียนการท่องเที่ยวที่ทุกคนรอคอยในโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เริ่มใช้ทั้งหมด 500,000 สิทธิ์ ได้ตั้งแต่ 4 กรกฎาคม -31 ตุลาคม 2568 ที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวคนไทยเดินทางในประเทศ กระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทุกจังหวัดทั่วประเทศ รัฐบาลได้ใช้งบประมาณโครงการนี้ 1,700 ล้านบาท ตามที่นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายืนยันโครงการนี้จะสร้างรายได้หมุนเวียนกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท กระจายถืงมือผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระดับชุมชนท้องถิ่นมากมาย

เปรียบเทียบการใช้จ่ายเงินระหว่างเดินทางท่องเที่ยวโดยรัฐกระตุ้นด้วยวิธีจ่ายสมทบให้อีกครึ่งหนึ่งนั้น จะสามารถเพิ่มรายได้การใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวได้อีก 2-3 เท่า เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะใช้เงินเพิ่มตามลำดับดังนี้ อันดับ 1 ค่าเดินทาง อันดับ 2 อาหาร  อันดับ 3 ที่พัก อันดับ 4 ช้อปปิ้ง สินค้าที่ระลึก อันดับ 5 ทำกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ

 


ขณะนี้ได้เปิดให้ “ผู้ประกอบการท่องเที่ยว” ทั่วประเทศทยอยลงทะเบียนเข้าร่วมผ่านช่องทาง 2 เว็บไซต์หลัก คือ www.thai.tourismthailand.org/home หรือ www.partner.tat.or.th 

ส่วน “คุณสมบัติหลักของนักท่องเที่ยว” จะต้องเป็นคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประชาชน เพื่อลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น ThaiID (ไทยไอดี) ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนเปรียบเทียบใบหน้าผ่านระบบดิจิทัล แล้วจากนั้นต้องลงทะเบียนในระบบใช้สิทธิ์เที่ยวไทยคนละครึ่งผ่านทาง www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com  เริ่มวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป ในแต่ละครั้งจะลงทะเบียนรายครั้งล่วงหน้าก่อนไปใช้บริการ 3 วัน เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ได้จาก 2 ส่วน ประกอบด้วย

 


ส่วนที่ 1 วงเงินท่องเที่ยวครั้งละ 3,000 บาท/คืน ได้คนละ 5 สิทธิ์ โดยจะให้การเดินทางกระจายอย่างทั่วถึงจึงได้แบ่งสิทธิ์ให้นักท่องเที่ยวใช้ได้ 2 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่แรก เที่ยวเมืองหลัก22 จังหวัด 3 สิทธิ์/คน พื้นที่สอง เมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัด อีก 2 สิทธิ์/คน

ทางรัฐบาลจะสนับสนุนเงินสมทบแตกต่างกัน แบ่งเป็น 2 แบบ คือ แบบที่ 1 เดินทางเที่ยววันธรรมดา จันทร์-พฤหัสบดี รัฐจ่ายสมทบให้ 50 % แบบที่ 2 เดินทางท่องเที่ยววันหยุด วันนักขัตฤกษ์ รัฐจ่ายสมทบ 40 %

 



ส่วนที่ 2 แจกคูปอง อี-โวเชอร์ มูลค่า 500 บาท/สิทธิ์ ให้นักท่องเที่ยวนำไปใช้ในแต่ละวันก่อนเวลา 23.00 น. ตามร้านนวดสปา รถเช่าเรือเช่า ร้านอาหาร ร้านของที่ระลึก ทำกิจกรรมตามแหล่งท่องเที่ยว

“บัญชีการเงิน” นักท่องเที่ยวที่ใช้สิทธิ์คนละครึ่งรับเงินสมทบจากรัฐจะต้องใช้ผ่าน “ธนาคารกรุงไทย” เท่านั้น ส่วน “การชำระค่าสินค้าและบริการ” ระหว่างการท่องเที่ยวจะต้องมีระบบ “พร้อมเพย์” ของธนาคารใดก็ได้

สำหรับ “ผู้ประกอบการท่องเที่ยว” ที่ลงทะเบียนในระบบประสงค์เข้าร่วมโครงการอย่างถูกต้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2568 เป็นต้นมา หลังจากมีนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการแล้ว ภายใน 14 วัน ทางระบบธนาคารของรัฐจะโอนจ่ายเงินสมทบ 40-50 % มายังสถานประกอบการดังกล่าว

 


ทั้งผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวที่ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมถึง “วิธีลงทะเบียน” ตามขั้นตอนในช่องทางเว็บไซต์ www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com  สามารถสอบถาม คอล เซนเตอร์ ที่จัดเตรียมไว้บริการด้วยที่โทร. 02-483-0963 ทุกวัน 8.00-20.00 น.หรือ Line ID : Thaitravelcopay มีแอดมินตอบไลน์ทุกวันเช่นกัน 8.00-20.00 น.

นายนิธี กล่าวว่า ททท.พร้อมใช้แรงดึงดูดพิเศษเพื่อกระจายนักท่องเที่ยวสนใจเลือกจุดหมายปลายทางไปยัง 55 เมืองน่าเที่ยว มีอีก 3 กลยุทธ์ คือ 1.ดึงอินฟลูเอนเซอร์สายต่าง ๆ ผลิตคอนเทนท์นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมกระตุ้นความสนใจนักเดินทางแต่ละตลาด  2.โปรโมทกระแสภาพยนตร์ Julasic World Rebirth เตรียมฉายเดือนกรกฎาคม 2568 ปลุกกระแสตามรอยจูลาสสิคในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งการท่องเที่ยวธรรมชาติในป่า ทะเล หรือเส้นทางตามรอยไดโนเสาร์ 3.ใช้สื่อออนไลน์กับออฟไลน์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบเพื่อสร้างความตื่นตัวเที่ยวเมืองไทย

 

ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม2568 ททท.จะเน้นใช้เครื่องมือสื่อสารการตลาด เน้นสร้างบรรยากาศความสุขอยู่ใกล้ตัว สามารถมอบเวลาให้คนที่เรารักทั้งกลุ่ม “เด็ก/ลูก ๆ หลาน ๆ”ควรพาไปเรียนรู้หาประสบการณ์จริงในโลกกว้าง กับ “พ่อแม่/ผู้สูงวัย” ไม่ควรนั่งเหงาอยู่บ้านสามารถพาไปเปิดหูเปิดตาตามได้เมืองท่องเที่ยวทั่วไทย และทุกทริปการเดินทางขอให้นักท่องเที่ยวทุกคนใส่ใจ “ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ” ให้อยู่อย่างยั่งยืนด้วย

 

ใช้วิธีสื่อสารตลาด ดังนี้ ช่องทางที่ 1 โฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านแคมเปญ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” ที่มีศิลปินดัง “ใบเฟิร์น -พิมพ์ชนก ลือวิเศษ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ โปรโมทอย่างเต็มที่ในสื่อต่าง ๆ หลายช่องทาง ช่องทางที่ 2 บิลบอร์ดต่าง ๆ ต่อเนื่อง 3.โซเชียล มีเดีย อินฟลูเอนเซอร์

นายนิธีกล่าวว่า ททท.เดินหน้าใช้กลยุทธ์ Celebrity Marketing ออกมาช่วยกันรณรงค์ให้ทุกคนร่วมลงมือปฏิบัติสนับสนุน “การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” โดยใช้ศิลปินดาราวงดนตรีขวัญใจคนรุ่นใหม่ช่วยโหมกระแสปลุกจิตสำนึกเที่ยวเมืองไทยอย่างรับผิดชอบทุกทริป เวอร์ชั่นต่อไปเตรียมโปรโมทเส้นทางตัวอย่างเที่ยวยั่งยืนเป็นโมเดลของทั้ง 5 ภูมิภาค แล้วยังมีการร่วมแรงร่วมใจกันพันธมิตรหรือ Collaboration ระหว่าง ททท.กับเจ้าของแบรนด์สินค้าต่าง ๆ เช่น กระเป๋าเดินทาง American Touriser ขนม ไอศรีมวอลล์/Wall เชิญชวนเซเลบริตี้ และผู้มีชื่อเสียง มาเป็นพรี เซ็นเตอร์ ร่วมกระตุ้นคนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศต่อเนื่องต่อไป

 

การท่องเที่ยวคือการสร้างความสุขร่วมกับคนที่เรารักแล้ว ยังสามารถใช้เวลาออกมาเดินทางเที่ยวเมืองไทยทั้งเส้นทางใกล้และไกล เพื่อร่วมสุขทันที ที่เที่ยวเมืองไทย ไปพร้อม ๆ กับฟื้นพลังเศรษฐกิจทั่วไทยเข้มแข็งยั่งยืนควบคู่กันไปด้วย

ฟังข่าวต้นชั่วโมง


ข่าวที่ 1-AOTไฟเขียวคิงเพาเวอร์ผ่อนจ่ายดิวตี้ฟรี3สัญญา6สนามบิน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) มีความคืบหน้าเพิ่มเติมล่าสุดจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ครั้งที่ 2 กรณี คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ทำหนังสือช่วงเดือนพฤษภาคม 2568 ขอหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อขอยกเลิกสัญญาอนุมัติประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรในท่าอากาศยานที่ AOT รับผิดชอบ

เมื่อวันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน 2568 AOT ได้ทำหนังสือส่งถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุเพื่อให้ KPD ยังคงสามารถ “ประกอบกิจการตามสัญญาอนุญาต” จำหน่ายสินค้าปลอดอากรต่อไปได้ 3 สัญญา หรือข้อยุติอื่น ๆ รวมถึงแนวทางการพิจารณาหากจะขอยกเลิกสัญญาดังกล่าว ใน “ระหว่างการพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ได้ข้อยุติ KPD” ได้ขอชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทน 3 สัญญา เฉพาะ “อัตรา 20 % ของยอดขายสินค้าปลอดอากรแต่ละเดือน” นั้น

AOT ยืนยันกับ KPD จะ “เรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนตามเงื่อนไข” สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรต่อไป

ตามที่ AOT ยืนยันเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ได้อนุมัติให้ “คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี” เข้าร่วมโครงการ “ขยายระยะเวลาชำระเงินของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน” ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ของ AOT ที่ขาดสภาพคล่องทั้ง 3 สัญญา 6 ท่าอากาศยาน AOT ได้แก่

1.สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)

2.สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.)

3.สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)

โดยให้ KPD แบ่งชำระส่วนต่าง” และ “เลื่อนกำหนดชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ” เพียงบางส่วนออกไปอีกงวดละ 8 เดือน ตามงวด ดังนี้

เดือนมิถุนายน - ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ยกเว้นเฉพาะงวดเดือนมิถุนายน 2568 ให้เลื่อนออกไป 6 เดือน)

เดือนกันยายน - ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง

เดือนกรกฎาคม - ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่

โดย คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ต้องชำระดอกเบี้ย 8.8440 % ต่อปี (คิดตาม MLR+2) เป็นไปตามมาตรการก่อนหน้าของค่าผลประโยชน์ตอบแทนที่ค้างชำระในแต่ละงวดให้แก่ AOT ทุกเดือน

AOT ได้ตรวจสอบหลักประกันสัญญา คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรีแล้ว พบว่ายังครอบคลุมค่าผลประโยชน์ตอบแทนที่ขอเลื่อนชำระรวมกับค่าปรับในอัตรา 18% จากการผิดนัดชำระ

เพื่อให้ความเชื่อมั่นต่อ AOT ในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน จึงได้ขอให้ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี “นำหลักประกันสัญญา” มาวางเพิ่มเติม และ “คิง เพาเวอร์” ยืนยันจะชำระเงินที่เรียกเก็บตามสัญญาบางส่วน พร้อมชำระดอกเบี้ยในส่วนที่ชำระล่าช้าตามโครงการขยายระยะเวลาชำระเงิน ระหว่างที่รอผลการศึกษาและวิเคราะห์ทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรให้เหมาะสมกับการดำเนินงานและบริบททางเศรษฐกิจปัจจุบัน

AOT” ยืนยัน ยังคงมีสถานะทางการเงินมั่นคง มีเสถียรภาพ มีสภาพคล่องเพียงพอ รองรับการดำเนินงานตามแผนพัฒนาท่าอากาศยาน และโครงการต่าง ๆ ที่วางไว้ ภายใต้การดำเนินงานด้วย “หลักธรรมาภิบาลควบคู่กับการบริหารจัดการด้านการเงิน” อย่างรอบคอบ โปร่งใส เป็นระบบ พร้อมทั้งมีการกำกับดูแลภายในที่มีประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ นักลงทุน ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป



 ข่าวที่ 2 -ช้อปคิงเพาเวอร์ที่แรกJisuLife x Butterbear-3แห่งลด30%

 

คิง เพาเวอร์ นำเสนอ สินค้าสุดฮ็อตครั้งแรกในประเทศไทย!คอลเลคชั่น “พัดลมที่มัมหมีน้องเนย”  JisuLife x Butterbear” ไอเทมที่ทุกคนรอคอยพร้อมให้จองได้แล้ว มาเมืองไทยรอบนี้มีเพียง 2,000 ตัวเท่านั้น! แฟนคลับอยากมีน้องต้องรีบคว้าไว้ก่อนสินค้าจะหมด

 

JisuLife x Butterbearเป็นสินค้าป้ายฟ้า (Take-Home Products) ไม่มีไฟลต์บินระหว่างประเทศก็ช้อปได้ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ, คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ฝั่งผู้โดยสารระหว่างประเทศ และทางออนไลน์ www.kingpower.com

 

จากนั้นให้เลือกช้อป “คิง เพาเวอร์” ในเมืองอีก 3 แห่ง ใกล้ที่ไหนแวะได้ที่นั่นคือ รางน้ำ มหานคร และภูเก็ต  วันนี้ -30 มิถุนายน 2568 ตลุย “ช้อปคุ้มให้สุด” กับเสน่ห์ที่เป็นคุณนำ “ไอเทมฮิต” มามอบส่วนลดสูงสุด 30% เมื่อช้อปตามเงื่อนไขเลือกซื้อสินค้าที่ร่วมรายการ

 

พิเศษ! สำหรับสมาชิก คิง เพาเวอร์ เท่านั้น รับส่วนลด On – top 5% สินค้าราคาปกติ ตรงแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอางที่ร่วมรายการ)

 

สมัครฟรี! สมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY รับทันที ส่วนลด 5%* ทุกการช้อป พร้อมรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย

 

ข่าวที่ 3-ททท.-4พันธมิตรชวนเที่ยวรส+รางสุขแดนใต้9เส้นทาง9รส

 

ททท. ควง 4 พันธมิตร ปลุกเที่ยวรางยั่งยืน“Train Journey to the Southern Soul : รส+ราง เส้นทางอาหาร ความสุขแดนใต้ นั่งรถไฟทัวร์ 9 เส้นทาง ตามหาเรื่องเล่า 9 รสชาติ วันนี้ -30 ก.ย.68

 

 

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับ 4 พันธมิตร  การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บางกอกแอร์เวย์ส Thailand Gastronomy (เครือข่ายวัฒนธรรมอาหารประเทศไทย) เปิดโครงการเที่ยวยั่งยืน Train Journey to the Southern Soul : รส + ราง เส้นทางอาหาร ความสุขแดนใต้” วันนี้ -30 กันยายน 2568 ชวนนั่งรถไฟท่องเที่ยวไปสัมผัสเสน่ห์ภาคใต้ พร้อมตามหาเอกลักษณ์อาหารไทย 9 รสชาติ เพิ่มประสบการณ์ลึกซึ้งต้นแบบการท่องเที่ยวเชื่อมโยงผู้คนวิถีชีวิต อาหาร และวัฒนธรรมท้องถิ่น

 

นายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่าวันนี้รถไฟไทยกำลังเดินหน้าสู่ยุคใหม่ระบบขนส่งมุ่งเชื่อมวิถีท้องถิ่น รฟท. โดยพัฒนาเส้นทาง สถานี และประสบการณ์เดินทางให้ได้มาตรฐานเพื่อสนับสนุนใช้ระบบรางเป็นแกนกลางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมเรื่องเล่าตลอดทุกการเดินทางต้องการให้ทุกคนกลับมาใช้บริการรถไฟอีกครั้ง

 

 

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวในคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า ซอฟท์ พาวเวอร์ด้านอาหารมีมากกว่าความอร่อยคือเป็นภาษาที่เชื่อมโยงผู้คนเข้ากับสถานที่ ความทรงจำ และตัวตนของพื้นที่นั้น ๆ การใช้ “รถไฟ” คือเส้นทางที่พาท่องเที่ยวเข้าไปในชุมชน ส่วน “รสชาติ” คือประตูสู่หัวใจของวัฒนธรรม เมื่อจับคู่สองสิ่งนี้เข้าด้วยกันทำให้แคมเปญนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ร่วมและบริบทของพื้นที่ถ่ายทอด 9 รสชาติผ่าน 9 เส้นทาง

 

 

ผศ.ดร.จุฑามาศ วิศาลสิงห์ ประธานกรรมการบริหาร Perfect Link Consulting Group  และประธานเครือข่ายThailand Gastronomy Network กล่าวว่า ไทยมีเรื่องเล่ามากกว่าในหนังสือหรือวิดีโอแต่ยังอยู่ในรสชาติ การเดินทาง ซึ่งรางรถไฟคือชีวิตผู้คนในภูมิภาค “อาหาร” คือภาษาทางวัฒนธรรมสะท้อนความรู้สึก ความเชื่อ ภูมิปัญญา เชื่อมทุกอย่างลึกซึ้งรวมทั้งผู้คนแบบไร้พรมแดน การจับคู่ 9 รสชาติอาหารไทยกับเส้นทางรถไฟภาคใต้ เป็นการบอกเล่าการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยด้วยภาษาที่ทุกคนสัมผัสได้

 

 

นางสาววริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” กล่าวว่า เคทีซีให้ความสำคัญสนับสนุนทุกภาคส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยเฉพาะท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ มอบให้สมาชิกบัตรเดินทางผ่านโครงการ Train Journey to the Southern Soul : รส+ราง เส้นทางอาหาร ความสุขแดนใต้ จะสร้างประสบการณ์เดินทางแปลกใหม่และยังเป็นกลยุทธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงลึกในภาคใต้ใช้จ่ายเงินอย่างมีคุณค่าเข้าถึงบริการของพันธมิตรท้องถิ่นภาคใต้

 

 

นางสาวเพลินพิศ โกศลยุทธสาร ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยวและพันธมิตร บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางกอกแอร์เวย์สมั่นใจการเดินทางที่ดีสู่จุดหมายปลายทางต้องเชื่อมโยงทุกช่วงการเดินทางราบรื่นที่สุด โครงการ Train Journey to the Southern Soul : รส+ราง เส้นทางอาหาร ความสุขแดนใต้ช่วยสะท้อนแนวคิด Seamless Connectivity ชัดเจน โดยได้บูรณาการระหว่าง ระบบราง รถ เรือ และเครื่องบิน ทำงานร่วมกันส่งมอบประสบการณ์การเดินทางแบบครบวงจร ทางสายการบินพร้อมให้บริการครอบคลุมเส้นทางเมืองหลัก เมืองน่าเที่ยวในภาคใต้อย่างสะดวก และเข้าถึงปลายทางหลากหลายมากขึ้น เพิ่มความคุ้มค่าทุกการเดินทาง

 

 

โครงการ “Train Journey to the Southern Soul : รส+ราง เส้นทางอาหาร ความสุขแดนใต้ จัดเตรียมไว้ 9 เส้นทาง ได้แก่

 

เส้นทางที่ 1 สายใต้สุดมันส์ จากรางสู่ทางผจญภัยเผยเสน่ห์ชุมพรแบบรสเค็ม ผ่านกิจกรรมกีฬาทางน้ำ พายซับบอร์ด วิ่งริมหาด ปั่นจักรยาน นั่งเรือกับชาวเล

 

เส้นทางที่ 2 อาบ อิ่ม สุข สงบ นำเสนอระนองธีม Wellness การเดินทางที่เยียวยาร่างกายและจิตใจ ไปกับธรรมชาติและการผ่อนคลาย

 

เส้นทางที่ 3 สองล้อหลาก Route (ชุมพร-ระนอง) ชวน Biker ออกรื่นรมย์กับการปั่นจักรยานผ่านเส้นทางท่องเที่ยวที่สวยงาม จากชุมพร–ระนอง

 

เส้นทางที่ 4 Fam For Fun พัทลุงเบา ๆ เหมาะกับการเที่ยวด้วยกันกับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวเดินเล่นกินลมชมวิวทะเลน้อย ตื่นแต่หัวรุ่งล่องเรือจากคลองปากประสู่พื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยชมนกนานาชนิด

 

เส้นทางที่ 5 หาดใหญ่ครบรส All day All night เสนอความอิ่มอร่อยครบทุกรสชาติด้วยการท่องเที่ยวแบบ City Tour ร่วมกับ Songkhla Gastronomy Network

 

เส้นทางที่ 6 The Three Ages of Songkhla สำรวจเมืองทางประวัติศาสตร์จากหัวเขาแดงสู่ย่านเมืองเก่าสุดเก๋ ชมสถาปัตยกรรมคลาสสิก ความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมจีน บรรยากาศยามเย็นทะเลสาบสงขลาสุดโรแมนติค

 

เส้นทางที่ 7 สงขลา Hidden Gems หาดใหญ่ - อ.บางกล่ำ - อ.นาหม่อม - อ.สะเดา นั่งรถไฟไปชิมน้ำผึ้งชันโรงหลากรส ที่สวนลุงรมย์บางกล่ำ ชิมเมนูปั้วตาตั้มแห่งคลองแงะก่อนแวะปาดังเบซาร์ เมืองสุดปลายรางสงขลา หรือไปขึ้นเขาที่ควนคานหลาวตื่นเช้าจิบกาแฟดูทะเลหมอก

 

 เส้นทางที่ 8 Rail / Boat / Fly นำเสนอธีม Connectivity เส้นทางเชื่อมโยงรถไฟ เรือ และเครื่องบิน จากชุมพรสู่เกาะเต่า เกาะพะงัน เกาะสมุย เหมาะกับคนชอบความอัศจรรย์ใต้ทะเลและวัฒนธรรมอาหารถิ่น

 

เส้นทางที่ 9 รส + รางเส้นทางอาหารความสุขแดนใต้ นำเสนอรสชาติกลมกล่อมในวัฒนธรรมอาหารภาคใต้ ตามสถานีสำคัญบนเส้นทางนำร่อง

ติตาม 9 เส้นทาง จองท่องเที่ยว 5 ทริปพิเศษ กับ Gastro Club by Thailand Gastronomy Network ทาง  www.thailandgastronomynetwork.com ได้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป

 

โดยมี “กิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ” กับภารกิจ 3 Challenges สนุกตลอด 3 เดือน เริ่ม 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2568 ได้แก่

 

กิจกรรมที่ 1 Collector Hunter นักสะสมศิลปะสุด Exclusive เพียงจองตั๋วโดยสารรถไฟสายใต้ สถานีใดก็ได้ แล้วเข้าที่ LINE OA@thailandgastronomy พิมพ์คำว่า “รถไฟใต้” จะได้สิทธิ์ดาวน์โหลดคูปอง Digital Voucher ใช้เป็นส่วนลดและสิทธิพิเศษที่เข้าร่วมโครงการกว่า 60 ราย จากร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก ธุรกิจท่องเที่ยว  เพียงสะสม Digital Voucher ให้ครบ 9 รสชาติ 9 เส้นทาง พร้อมเล่าเรื่องราวการเดินทางเผยแพร่ลงโซเชียลมีเดีย พร้อมติด #GrandMoment #TrainJourneytotheSouthernSoul #ตามหารสกับรถไฟสายใต้ #9รสชาติความสุขแดนใต้ ตามด้วย #เส้นทางที่ไป เช่น #ระนองBitter

 

พร้อมทั้งแชร์ลิงก์เรื่องราวใน Chat Line OA : @thailandgastronomy ใครเดินทางมากที่สุด แชร์โพสต์มากสุด ลุ้นรับรางวัลใหญ่ภาพวาด Illustration ลายเส้นน่ารัก “ตามหารสกับรถไฟสายใต้” จาก Mig Chompoonoot  IG : mig_mig มูลค่ากว่า 100,000 บาท

 

กิจกรรมที่ 2 Rail Journey Photo Diary – บันทึกโมเมนต์แห่งความทรงจำ นักเดินทางผู้รักการถ่ายภาพมีสิทธิ์ลุ้นตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-กระบี่ บางกอกแอร์เวย์ส 1 รางวัล เพียงแชร์ภาพการเดินทางด้วยรถไฟเส้นทางใต้ ภาพถ่ายอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ภาพคู่กับผู้คน แล้วเขียนเล่าเรื่องราวประกอบกับภาพถ่ายสั้น ๆ โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ติด #GrandMoment #TrainJourneytotheSouthernSoul #ตามหารสกับรถไฟสายใต้ #9รสชาติความสุขแดนใต้ #PhotoDiary ตามด้วย Hashtag #เส้นทางที่ไป  

 

กิจกรรมที่ 3 Train Journey to the Southern Soul Challenge – ชาวใต้โชว์ของดี ชวนเจ้าบ้านชาวใต้อวดของดี ของเด็ด โพสต์ชวนคนมาเที่ยว ติด #GrandMoment #TrainJourneytotheSouthernSoul
#
ตามหารสกับรถไฟสายใต้ #อาหารพาไป #9รสชาติความสุขแดนใต้ #BeMyGuest #HiddenGems ลุ้นสิทธิ์รับคอร์สอบรมออนไลน์ “การนักออกแบบวัฒนธรรมอาหาร” และรางวัลอื่น ๆ จากพันธมิตร

 

ข่าวที่ 4-BCPGเครือบางจากผนึกNTลุยเปิดSustainable Data Center

 

นายรวี บุญสินสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ในเครือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียนของไทย ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) “NT เดินหน้าการลงทุนและพัฒนาศูนย์ข้อมูลอย่างยั่งยืนหรือ Sustainable Data Center รองรับความต้องการใช้งานคลาวด์ภาครัฐและเอกชน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในอนาคต โดยได้ผสานจุดแข็งอย่างลงตัวของทั้ง 2 องค์กร

 

NT มีความพร้อมด้านโครงข่ายโทรคมนาคมระดับประเทศ ศูนย์ข้อมูลพื้นฐาน และความเชี่ยวชาญในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลภาครัฐ

 

“บีซีพีจี” มีความเชี่ยวชาญการผลิตพลังงานสะอาดจากหลากหลายเทคโนโลยี ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังน้ำ และพลังงานลม ครอบคลุมทั้งในประเทศ และระดับภูมิภาค รวมถึงเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนนวัตกรรมพลังงานสีเขียวเพื่อสร้างโลกให้ยั่งยืน

 

นายรวี กล่าวว่า บีซีพีจี มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมพลังงานสะอาดมาตลอด ทั้งนวัตกรรมการผลิตไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐาน โซลูชั่นพลังงานอัจฉริยะ ความร่วมมือกับ NT ครั้งนี้ถือเป็น New S-Curve ของบริษัท พร้อมเข้าสู่ธุรกิจการ Sustainable Data Center มุ่งเน้นให้บริการคลาวด์แก่ภาครัฐ (Government Cloud) ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ แล้วบีซีพีจีเองมีความพร้อมต่อยอดพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้ารองรับ ดาต้า เซ็นเตอร์ เติบโตในอนาคตด้วย

 

พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ NT กล่าวว่า ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล  ของชาติ เชื่อมั่น Sustainable Data Center คือก้าวสำคัญพร้อมต่อยอดการให้บริการด้านโทรคมนาคมและดิจิทัล ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน มีความพร้อมเรื่องโครงข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศ ศูนย์ข้อมูล ระบบเกตเวย์ โครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ สามารถต่อยอดสู่บริการด้าน AI และ ESG Solutions ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้เต็มรูปแบบ โดยเฉพาะการมี “ศูนย์ข้อมูลที่ใช้พลังงานสะอาด” เป็นมากกว่าทางเลือก เพราะคือความจำเป็นด้านการรองรับข้อมูลภาครัฐและองค์กรจะต้องต้องการเดินหน้าสู่การสร้างคาร์บอนเป็นศูนย์หรือ Net Zero

 

ความร่วมมือครั้งนี้ยังจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อภาครัฐและประเทศด้าน “ความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล” จากการจัดเก็บข้อมูลสำคัญของรัฐภายในประเทศบนระบบที่ได้มาตรฐานระดับสากล สอดรับตามนโยบาย ESG ภาครัฐใช้บริการได้สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero ช่วยเพิ่มขีดความสามารถ และดิจิทัล อีโคโนมีของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

 

ช่วงที่ 2 ไอดินกลิ่นฝนชวน “เที่ยวเทศกาลทุ่งดอกกระเจียว” จังหวัดชัยภูมิ ใน 2 อุทยานแห่งชาติ “ป่าหินงาม” และสถานที่เที่ยว 3 พิกัด “ผาสุดแผ่นดิน-ลานหินงาม-ลานหินหน่อ” ส่วนที่ “อุทยานแห่งชาติไทรทอง” เที่ยวต่ออีก 2 พิกัด “น้ำตก-จุดชมวิวผาหำหด” แล้วฟัง “5วิธีการกินอย่างฉลาด” ปลอดภัยไร้โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง พร้อมกับข่าวดี ๆ ข่าวแรก “โรงแรมม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์” เสิร์ฟไม่ยั้งแพกเกจ แฮงเอาท์ อาหาร/เครื่องดื่ม กิจกรรม ข่าวที่สอง “IATAเปิดแพลตฟอร์ม SAF Matchmaker” จับคู่ซื้อขายน้ำมันอากาศยานยั่งยืน

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวอุทยานป่าหินงาม-ไทรทองทุ่งดอกกระเจียว+5พิกัด

 

ดื่มด่ำความสุข ไอดิน กลิ่นฝน ธรรมชาติสวย ทริปนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ชวนทุกคนออกเดินทางเที่ยวหน้าฝน เทใจให้กระเจียว....ชวนเพื่อนๆ...กอดหมอก...หยอกดอกกระเจียว แบบยาวได้ต่อเนื่องระหว่าง มิถุนายน -สิงหาคม 2568  ทั้ง 2 อุทยานแห่งชาติ ในจังหวัดชัยภูมิเปิดพื้นที่ต้อนรับแล้ว พร้อมแหล่งท่องเที่ยวรอบพื้นที่อีก 5 พิกัด

“อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” ตำบล บ้านไร่ อำเภอ เทพสถิต ชัยภูมิ ช่วงนี้ดอกกระเจียวบานมากขึ้นจนเต็มทุ่งแล้วราว 60-80% ประมาณ​ กลางเดือน​ กรกฎาคมนี้ดอกไม้จะชูช่อม่วงชมพูเต็มที่สวยงาม ตอนนี้ในได้จัด เทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน  ชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสหมอก หยอกดอกกระเจียว

 

พร้อมกับเปิดสถานที่บริการนักท่องเที่ยวเป็น “ลานกางเต้นท์” สะดวกสะอาด​ปลอดภัย​ ตอนนี้มีรถรางนำนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมบรรยากาศทะเลหมอกและดอกกระเจียวทุกวัน​  ตั้งแต่ 6.00น.-18.00 น.

 

ภายในอุทยานฯ มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสวย ๆ อีกหลายแห่ง ได้แก่

 

พิกัดที่ 1 ผาสุดแผ่นดิน เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของพื้นที่โดยรอบได้อย่างกว้างไกล และในช่วงเช้าอาจมีทะเลหมอกปกคลุม

 

พิกัดที่ 2 ลานหินงาม พื้นที่ที่มีหินรูปร่างแปลกตา เกิดจากการกัดเซาะตามธรรมชาติ.

 

พิกัดที่ 3 ลานหินหน่อ มีลักษณะเป็นเสาหินและกำแพงหินทรายอายุกว่า 100 ล้านปี

 

“อุทยานแห่งชาติไทรทองตำบล” วังตะเฆ่ อำเภอ หนองบัวระเหว ชัยภูมิ เปิด-ปิด: ทุกวัน 08:30 – 16:30 น.โทร.081-877-8485 มีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม หลังไปชมดอกกระเจียวบานสะพั่งแล้วก็เดินทางไปเที่ยวต่อเพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นเพิ่ม 2 พิกัด

 

พิกัดที่ 1  “น้ำตกไทรทอง” เป็นแอ่งน้ำขนาดเล็กตอนช่วงหน้าฝนนักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นกัน แล้วก็มีแหล่งท่องเที่ยวฉ่ำเย็น สามารถขับรถไปราว 1 กม.เดินเท้าอีก 400 เมตร ก็ถึงแล้ว  

 

พิกัดที่ 2 จุดชมวิวผาหำหด เป็นจุดชมวิวผาสูง 864 เมตร พร้อมทะเลหมอกช่วงเช้าและฤดูฝน สามารถเดินเท้าจากที่ทำการอุทยานฯ ไปยังจุดชมวิวแห่งนี้ได้ทุกวัน ในช่วงเวลาเปิดปิด 08:30 – 16:30 น.

 

หน้าฝนนี้ วงปฏิทินชวนกันไปเช็คอิน เทศกาลเที่ยวทุ่งดอกกระเจียว ปีละครั้ง แบบยาว มิถุนายน-สิงหาคม นี้ ที่ชัยภูมิ 2 อุทยานแห่งชาติ “ป่าหินงามและเทพสถิตย์” สุขทันที ที่เที่ยวไทย

 

สุขภาพ –5วิธีการกินอย่างฉลาดปลอดภัยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

 

ขณะนี้เมืองไทยมีผู้ป่วยในกลุ่ม “โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง :NCDs” เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง มีจำนวนคนป่วยโรคดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ “พฤติกรรมการกินอาหาร” ในแต่ละวัน ซึ่งมีสาเหตุสามารถเกิดได้จากหลายกรณี เช่น ความไม่เข้าใจข้อมูลด้านโภชนาการ การทานเยอะแต่เคลื่อนไหวร่างกายน้อย

 

ดังนั้นวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารให้ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ และสามารถทำได้ใน 5 วิธี ได้แก่

 

1.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

 

2.ทานเนื้อปลา และผักผลไม้ให้มากยิ่งขึ้น เพราะมีสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรคได้มากยิ่งขึ้น

 

3.หลีกเลี่ยงอาหารดอง และอาหารแช่แข็ง ให้รับประทานอาหารที่ผ่านการปรุงสด และสะอาด

 

4.ลดการรับประทานอาหารประเภททอด และมัน

 

5.ไม่ทานอาหารรสจัด ซึ่งจะมีผลต่อทุกส่วนร่างกาย

 

หากสามารถปรับเปลี่ยน “พฤติกรรม” การรับประทานอาหารได้ ร่างกายของเราก็จะสามารถ “มีภูมิคุ้มกัน”มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นหนึ่งวิธีช่วยให้แต่ละคนรอดพ้นจาก “โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ได้

 

ด้วยสาเหตุนี้เองจึงสามารถสรุปได้ว่า “การกินของเรา”มีความสำคัญ และ “ตัวเรา” ต้องฝึกความสามารถควบคุมให้ได้ด้วยตัวเอง

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –รร.ม็อกซี่แบงคอกราชประสงค์ลุยขาย“พัก/กิน/ดื่ม/มันส์”

 

โรงแรม ม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์ แบรนด์ม็อกซี่แห่งแรกในไทยใจกลางย่านราชประสงค์ กลับมาเขย่าวงการอีกครั้งต้อนรับทุกเจเนอเรชั่นทั้งการพักผ่อนและสายแฮงเอาต์คนกรุงเทพฯ ปลายมิถุนายน 2568 จัดเต็ม “แพ็กเกจ” ฉลองปาร์ตี้วันเกิดสำหรับวัยทีน “ห้องพัก” พรีเมียมสุดคูล “กิจกรรม” อาหารและเครื่องดื่มทุกสัปดาห์ ดีไซน์มาให้สายมันตัวจริง ครอบครัว แก๊งเพื่อน ชวนกันมาสนุกด้วยกัน

 

แพกเกจ 1  “ปาร์ตี้วันเกิด” - สไตล์ม็อกซี่ สนุกไม่ซ้ำใคร เหมาะฉลอง Teen Birthday Bash และ Family Fun เติมพลังความสนุกให้งานวันเกิดในบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร บริเวณเลาจน์สุดคึกคัก โซน Library & Plug-In ชวนให้คิดสร้างสรรค์ สุดปังตรงลานกลางแจ้ง ชั้น 9 วิวกรุงเทพฯ

 

แพ็กเกจ 2 Teen Bash – ราคา 620++ บาท/คน ปาร์ตี้ 3 ชั่วโมง พร้อมอาหาร 5 รายการ เครื่องดื่มแบบม็อกเทลและซอฟท์ดริงก์ไม่อั้น เค้กวันเกิดขนาดฟรี 1 ปอ

 

แพ็กเกจ 3  Family Fun – ราคา 850++ บาท/คน ได้ทุกอย่างเหมือน Teen Bash เพิ่มความอร่อยจุใจยิ่งขึ้นด้วยอาหาร 7 รายการ

 

สามารถเพิ่มลูกเล่นให้งานปาร์ตี้ได้ด้วยการเลือก 1.โชว์พิเศษ 2.อัปเกรดเครื่องดื่มผู้ใหญ่ได้ตามต้องการ

 

ทุกแพ็กเกจ “สะสมคะแนน” แมริออท บอนวอยได้ด้วย! สำรองขั้นต่ำ 6 คนขึ้นไป ใช้บริการได้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม – 23 ธันวาคม 2568

 

 

แพกเกจ “ห้องพักพรีเมียมสุดชิค สไตล์ม็อกซี่” สายแฮงเอาท์ต้องเลิฟอย่างแน่นอน กับห้องพักถึง 504 ห้อง  พร้อมมอบประสบการณ์พักผ่อนที่สนุกและชาญฉลาด ด้วยดีไซน์ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนซี้ ครอบครัวสุดปัง หรือสายโซโล่อยากเติมพลังใจ ดังนี้

ห้องพักแบบ Moxy Loft เหมาะเข้าพัก 3–4 คน เป็นห้องพักดีไซน์กล้าคิด พร้อมเตียงควีน 1 เตียง + เตียงสองชั้น 2 เตียง ปลั๊ก USB ครบครัน รองรับสายแฮงเอาต์กลุ่มเพื่อน หรือครอบครัว

“ห้องพักควีนหรือ/ทวิน Moxy Cornerห้องมุมสว่าง โปร่งโล่ง มีหน้าต่างสองด้าน พร้อมวิวเมืองสุดปัง โต๊ะ-เก้าอี้ครบ ผนัง peg wall แขวนของง่าย พื้นที่ให้พักผ่อนหรือแต่งตัวได้สบาย

ห้องพัก Moxy Deluxe ฟีลสวีทพร้อมโซนห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำแยกกันอย่างลงตัว ทุกพื้นที่รับแสงธรรมชาติ และวิวเมือง พร้อม peg wall โต๊ะทำงาน

• อาหารและเครื่องดื่มสนุกไฟลุกทุกสุดสัปดาห์กับ ม็อกซี่ แบ็กยาร์ดบาร์บีคิว บรันช์และชั่วโมงแห่งความสุข Happy Hours 

“บุฟเฟต์ “Moxy Backyard BBQ จัดทุกเย็นวันศุกร์และเสาร์ ตั้งแต่ 6 โมงเย็น บนลานด้านนอกเอาท์ดอร์ เทอร์เรซ ชั้น 9 หรือบริเวณเลาจน์ เต็มอิ่มกับบาร์บีคติวบุฟเฟ่ต์สุดพีค พร้อมวงดนตรีสดและดีเจ ราคาอาหาร 1,000 บาท/คน

บรันช์บุฟเฟต์สุดคูล “Moxy: We’ve Got Brunch!” จัดทุกวันเสาร์สุดท้ายของเดือนสไตล์คาเฟ่ ราคาเพียง 999++ บาท/คน เสิร์ฟพร้อมอาหารคอมฟอร์ตสุดฟิน ขนมหวาน เครื่องดื่มสปาร์กลิงฟรี 1 แก้ว พร้อมโชว์ดีเจสด พบกันวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน เสาร์ที่ 26 กรกฎาคม เสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2568

Happy Hours ชั่วโมงแห่งความสุขของสายจิบเครื่องดื่ม วันละ 2 รอบ – บ่าย 2 โมงถึง 4 โมงเย็น และ 3 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม ที่ม็อกซี่ บาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ ชั้น 9 มาพร้อมเครื่องดื่มที่เข้าร่วมรายการโปรซื้อ 1 แถม 1

“สนามเด็กเล่น” ของคนมีสไตล์ - ม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์ เป็นจุดรวมตัวของคนคูลทุกเจเนอเรชัน มีพื้นที่โซเชียลออกแบบให้สร้างแรงบันดาลใจ เชื่อมต่อไอเดีย เต็มไปด้วยความสนุก บริเวณเลาจน์ โซน Library & Plug-In ลานด้านนอกโชว์วิวเมืองสุดปัง ทุกมุมพร้อมสร้างโมเมนต์สุดจี๊ดได้ไม่รู้จบ

ข่าวที่สอง –IATAเปิด “SAF Matchmaker”จับคู่ซื้อขายน้ำมันบินโลก

สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA : International Air Transport Association) ประกาศเปิดตัว  แพลตฟอร์ม Sustainable Aviation Fuel (SAF) Matchmakerเพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดซื้อน้ำมันอากาศยานที่ยั่งยืนหรือ SAF  ระหว่างสายการบินและผู้ผลิต SAF โดยให้ “จับคู่คำขอจัดหากับข้อเสนอ SAF” เมื่อสายการบินและซัพพลายเออร์จับคู่กันตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว จะสามารถเชื่อมต่อและเจรจาแบบออฟไลน์เพื่อตกลงเงื่อนไขเฉพาะ เช่น ราคาและเงื่อนไขการชำระเงิน

 

การจัดทำ SAF Matchmaker จะจัดการกับปัญหาสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่

 

ประสิทธิภาพ : จัดให้มี “แพลตฟอร์มกลาง” จะทำให้การจัดซื้อ SAF ง่ายขึ้น โดยทำให้ทุกฝ่ายสามารถเชื่อมต่อกันได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น แถมไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมด้วย จึงช่วยอำนวยความสะดวกในการพัฒนาตลาดแบบสมัครใจในการจัดซื้อ SAF ต่อไป

การเชื่อมต่อ : ผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ SAF สามารถโพสต์ปริมาณ SAF ที่มีอยู่หรือที่วางแผนไว้ได้ ขณะที่สายการบินสามารถลงทะเบียนแสดงความสนใจเพื่อจัดซื้อ SAF ที่แสดงหรือต้องการได้ การซื้อขายในภายหลังจะเกิดขึ้นนอกแพลตฟอร์มนี้

การมองเห็น :  แพลตฟอร์มนี้จะมีข้อมูลครอบคลุมเกี่ยวกับ SAF ในตลาดทั้งหมด เช่น ปริมาณ วัตถุดิบที่ใช้ ที่ตั้งและเทคโนโลยีในการผลิต การลดการปล่อยมลพิษ รวมถึงการปฏิบัติตาม  โครงการลดการปล่อยคาร์บอนสำหรับการบินระหว่างประเทศ (CORSIA) หรือระเบียบพลังงานหมุนเวียนของสหภาพยุโรป (EU RED)

Marie Owens Thomsen รองประธานอาวุโสด้านความยั่งยืนและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ “IATA” กล่าวว่า เพื่อให้บรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 (ค.ศ.2050)  จึงต้องให้มีตลาด SAF สามารถเข้าถึงได้ โปร่งใส คล่องตัว และมีประสิทธิภาพ ดังนั้น SAF Matchmaker เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งในภารกิจที่ IATA กำลังดำเนินการเพื่อสร้างตลาด SAF ให้ทำงานได้อย่างเต็มรูปแบบ มีแพลตฟอร์ม SAF Matchmaker เร่งการนำ SAF มาใช้ลดต้นทุนและความซับซ้อนให้สายการบิน ซึ่งกำลังจะต้องเผชิญกับเรื่องการค้นหาซัพพลายเออร์ SAF ในตลาดโลก

SAF Matchmaker สามารถรองรับการซื้อแบบทันที รวมถึงข้อตกลงการรับซื้อ การทำงาน “ช่วงแรก” จะให้บริการเฉพาะสายการบินและซัพพลายเออร์ SAF เท่านั้น ใน “อนาคต” ผู้ซื้อ SAF รายอื่น ๆ เช่น บริษัทที่ไม่ใช่กลุ่มอุตสาหกรรมการบินก็สามารถเข้าร่วมได้ด้วยเช่นกัน

ขณะนี้ ได้จัดทำ “SAF Matchmaker” ไว้บน  Aviation Energy Hub ซึ่งเป็นพื้นที่ “ดิจิทัลส่วนกลาง” ที่ออกแบบมาเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมการบินเข้าถึงเครื่องมือการใช้งานได้จริง พร้อมสนับสนุนการจัดการพลังงานการบินอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

TCEBลุยจัด“Visionary Stage”11ก.ค.68 ดึงอินฟลู“ไทย-อินเตอร์”ดันเทศกาลไทยสู่โลก

  TCEB ลุยจัดเสวนาพิเศษ “ Visionary Stage ”ที่ NCC11 ก.ค. 68 ดึงอินฟลู“ไทย-อินเตอร์”รวมพลังดันเทศกาลไทยสู่ตลาดโลก TCEB จัดเสวนาพิเศษ Visio...