“บพท.-25 มหา’ลัย” นำไทยคว้า2รางวัล Gov Award 2025
3องค์กรโลกปลื้ม 2 โครงการวิจัย “แก้จน-เมืองอัจฉริยะ”
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #GovAward2025 #บพท
บพท.ควง
25 มหาวิทยาลัย นำไทยคว้ายอดเยี่ยมแห่งเอเชียแปซิฟิก :Gov
Award 2025” 2 รางวัล 2 โครงการวิจัย
“แก้ปัญหาความยากจนลดเหลื่อมล้ำ 20 จังหวัด -วิจัยบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการ
เพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ” ปลื้มบอร์ด 3 องค์กรโลก “KPMG-EY-PWC” ยอมรับผลงานวิจัยไทย
ดร.กิตติ
สัจจาวัฒนา
ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) เปิดเผยว่า บพท.เป็นหน่วยงานสังกัด สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เน้นทำงานโครงการวิจัยแก้ปัญหาความยากจน ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ ร่วมกับมหาวิทยาลัยในพื้นที่นำร่องทั่วทุกภาคของไทย
20 จังหวัด ทำงานร่วมกับ 25 มหาวิทยาลัย เทศบาลนคร
เทศบาลเมือง 18 เมือง ล่าสุดสามารถคว้า “รางวัลนวัตกรรมภาครัฐยอดเยี่ยมแห่งเอเชียแปซิฟิก
ประจำปี 2568 : Gov Award 2025” จากนิตยสาร กอฟ มีเดีย (Gov Media Magazine) องค์กรสื่อนานาชาติ
ในเครือ ชาร์ลส์ มีเดีย กรุ๊ป มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ พร้อมทั้งผ่านการพิจารณาตรวจสอบอย่างเข้มข้นจาก
3 องค์กร คือ 1.KPMG 2.เอิร์นแอนด์ยัง/EY 3.ไพร์ซ วอเตอร์เฮาส์ (PWC)
กระทั่งตัดสินมอบให้ไทยได้รับ 2 รางวัล 2 โครงการวิจัย ได้แก่
• โครงการที่
1 วิจัยแก้ปัญหาความยากจน ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำมุ่งมั่นยุติความยากจนทุกรูปแบบ
ยุติความหิวโหย และสร้างหลักประกันการมีสุขภาวะที่ดี
สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (United
Nation Sustainable Development Goals -UN-SDGs)
โครงการนี้
บพท. ร่วมกับ 18 มหาวิทยาลัยและวิทยาลัย แก้ปัญหาความยากจน
ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ ใน 20 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ สกลนคร
ศรีสะเกษ สุรินทร์ ยโสธร มุกดาหาร ชัยนาท แม่ฮ่องสอน ปัตตานี อุบลราชธานี
บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด นครราชสีมา เลย พัทลุง ยะลา นราธิวาส พิษณุโลก ลำปาง
สร้าง
“ผลลัพธ์และผลกระทบเชิงบวก” เกิดเป็นรูปธรรม 8 เรื่อง คือ 1.ทำให้ครัวเรือนคนจนกลุ่มเป้าหมายมีทักษะอาชีพ
แสวงหารายได้พึ่งพาตัวเองได้ 2.ครัวเรือนคนจนกลุ่มเป้าหมายมีรายได้ดีขึ้นเฉลี่ย
20% 3.เกิดวิสาหกิจชุมชน 4.เกิดกองทุนสวัสดิการชุมชน 5.เกิดกลไกความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในพื้นที่
เพื่อขจัดความยากจน 6.เกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะซึ่งถูกทิ้งร้าง
ในการทำเกษตรแปลงรวม 7.ชุมชนเข้มแข็ง 8.สมาชิกในชุมชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
บพท.ได้ทำโครงการร่วมกับมหาวิทยาลัยตามรายชื่อดังนี้
กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี สงขลานครินทร์(วิทยาเขตปัตตานี) ทักษิณนเรศวร นราธิวาสราชนครินทร์ ราชภัฏสกลนคร ราชภัฏศรีสะเกษ ราชภัฏสุรินทร์ ราชภัฏร้อยเอ็ด ราชภัฏบุรีรัมย์
ราชภัฏยะลา ราชภัฏนครราชสีมา ราชภัฏลำปาง วิทยาลัยชุมชนยโสธร
วิทยาลัยชุมชนมุกดาหาร สถาบันวิทยาลัยชุมชน วิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอน
• โครงการที่ 2 วิจัยบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการ เพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ ผ่านกระบวนการบ่มเพาะองค์ความรู้ด้วยชุดความรู้ออกแบบให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่และสังคม
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การเชื่อมโยงเครือข่ายการพัฒนาเมือง
โดยยึดหลักการพัฒนาเมืองอย่างสมดุลและยั่งยืน เน้นขับเคลื่อนและผลักดันโครงการวิจัย
“ระดับเทศบาลเมืองและเทศบาลนคร” ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ สังคม
คุณภาพชีวิต ผ่าน 4 กลยุทธ์ 1.การใช้เทคโนโลยี
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมือง 2.การพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กันการพัฒนาสังคม
3.การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและภาคเอกชน 4.การสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
“บพท.
ร่วมกับสมาคมเทศบาลนครและเมือง และ 12 มหาวิทยาลัย ตามรายชื่อดังนี้ เชียงใหม่ สงขลานครินทร์
บูรพา ราชภัฏศรีสะเกษ เกษตรศาสตร์ กาฬสินธุ์ ราชภัฏร้อยเอ็ด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
แม่ฟ้าหลวง นเรศวร ราชภัฏอุตรดิตถ์ เทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ
ทำโครงการใน
18 พื้นที่ 18 เมืองนำร่อง ได้แก่
เทศบาลเมืองลำพูน-พนัสนิคม-ทุ่งสง-ศรีสะเกษ-กาฬสินธ์ุ-ร้อยเอ็ด-สระบุรี-แพร่-ชุมพร–นครสวรรค์-แม่เหียะ
และเทศบาลนครนนทบุรี-ปากเกร็ด-สกลนคร-เชียงราย-พิษณุโลก-ลำปาง-นครศรีธรรมราช
ดร.กิตติ
กล่าวว่า บพท.คือตัวแทน อว. ประเทศไทย ภูมิใจอย่างยิ่งที่ 2 โครงการวิจัย
ได้รับรางวัลนวัตกรรมภาครัฐยอดเยี่ยมแห่งเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2568
ที่ผ่านการกระบวนการพิจารณาอย่างเข้มข้น
จากคณะกรรมการรางวัลผู้ทรงคุณวุฒิทั่วโลกยอมรับจาก 3 องค์กร คือ 1.เคพีเอ็มจี 2.เอิร์นแอนด์ยัง หรืออีวาย 3.ไพร์ซ วอเตอร์เฮาส์ (PWC) จึงขอขอบคุณกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ที่สนับสนุนงบประมาณขับเคลื่อนงานนี้
“คณะกรรมการตัดสิน”
ได้ใช้เกณฑ์การพิจารณาและตรวจสอบครอบคลุม 5 ประเด็น คือ
1.หลักการเหตุผลความเป็นมาของโครงการวิจัย
2.ความเป็นนวัตกรรมต้นแบบ ที่เกิดขึ้นจากความคิดริเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ
และกระบวนการขับเคลื่อนนวัตกรรมที่เป็นรูปธรรม 3.ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเป้าหมาย
4.ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อองค์กร ชุมชน และภาคีเครือข่าย และ 5.เป็นนวัตกรรมที่มีความเป็นพลวัตร
ยืดหยุ่นไปได้กับความเปลี่ยนแปลง ซึ่งโครงการวิจัยแก้ปัญหาความยากจน
ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ และโครงการวิจัยบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ
สอบผ่านการตรวจสอบได้ครบถ้วน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น