สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”
“TCEB”ครึ่งปีหลังดึงเฟสติวัล-เมกะอีเวนต์โลกเข้าไทย7งาน
ชิงเพิ่มใหม่5งาน“WorldPride-F1-SPATAN-โปเกมอน-มิวสิค
ผนึก IFEAนำไมซ์ ซิตี้ ไทยคว้ารางวัลโลกปูทางฮับเฟสติวัล
คิง เพาเวอร์-AOT ทางเลือกสู่ทางรอดดิวตี้ฟรี 5
สนามบิน
คิงเพาเวอร์ออนไลน์ชูช้อปของใหม่New Arrival for June
ร่วมสงครามช้อปด่วนคิงเพาเวอร์รางน้ำ-มหานคร-ภูเก็ต
ททท.เปิดจุดขายทัวร์ทางน้ำ“กทม.-นนท์-ปทุม”13เส้นทาง
บางจากปลื้มอันดับ17Fortun 500ทำยอดขายโตสุดTop20
TCEBหนุนเชียงรายเจ้าภาพประชุม PATA
Forum 2025
เที่ยว “84ปี อภัยภูเบศร/ปราจีน-ซอฟท์พาเวอร์สระแก้ว”
หยุด! “กินผลไม้หลังอาหาร" รู้ไว้ป้องกันร่างกายพังเร็ว
ททท.ปลื้มเชฟไทยนำ 6 ร้านอาหาร
คว้ารางวัลโลกปี’68
AOT-IATAดันไทยฮับบิน/ถกซานฟรานบิน“ไทย-อเมริกา”
วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #อภัยภูเบศร
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... ttps://www.facebook.com/share/v/1AnLPJX7sf/
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! “ปาริฉัตร เศวตเศรนี”
ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” โชว์ศักยภาพครึ่งปีหลัง มิ.ย.-ธ.ค.68
ดึงเทศกาลอินเตอร์ เมกะอีเวนต์ นำทั่วโลกแห่เข้าไทย 7 งานโลก เดินหน้าเตรียมความพร้อมเสนอเป็นเจ้าภาพจัดต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 5
งาน World Pride-Formula 1 -World SPATAN-โปเกมอน
ซิตี้ โกลด์-ดนตรีนานาชาติ” พร้อมจับมือ IFEA ยกชั้น “ไมซ์
ซิตี้ ไทย” คว้ารางวัลโลก ปูทางปั้นไทยศูนย์กลางเฟสติวัลแห่งเอเชีย
นางสาวปาริฉัตร เศวตเศรนี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า การวางกลยุทธ์ช่วงครึ่งปีหลัง ระหว่างมิถุนายน - ธันวาคม 2568 iเป็นช่วงที่ไทยเดินหน้าจัดงานเทศกาลต่าง ๆ จัดกิจกรรม โดยมีนักเดินทางทั่วโลกเข้ามาไทย ไฮไลต์ก็มีจัดมหกรรมเทศกาลนานาชาติ กับเมกะอีเวนต์ที่จะนำรายได้เข้าสู่ประเทศไม่ต่ำกว่า 7 งาน คือ
งานที่ 1 มหรสพ เฟสติวัล : Maho Rasop Festival จัดปีละครั้ง เดือนพฤศจิกายน 2568 เป็นเทศกาลเปิดให้นักดนตรีอินดี้อิสระที่ไม่มีสังกัดจากนานาชาติมารวมตัวกัน หลายประเทศมาร่วมสร้างโอกาสแสดง ทีเส็บได้สนับสนุนสร้างเครือข่ายการตลาด จับคู่เจรจาธุรกิจ ปลายปีนี้จะดึงงานขนาดใหญ่มาจัดในไทย
งานที่ 2 Wonder Fruit 2025 ระหว่าง 11-15 ธันวาคม 2568 ที่ เดอะ ฟิลด์ส แอท สยามคันทรี คลับ ชลบุรี นานาชาติรู้จักหลั่งไหลเข้าร่วมเป็นจำนวนมากสร้างรายได้เป็นกอบกำ
งานที่ 3 เทศกาลศิลปะและดีไซน์ Art & Design Festival ทีเส็บจับมือกับ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA
ส่งเสริมการจัดงานศิลปะย่านพื้นที่สร้างสรรค์ทั่วไทย เช่น งาน แบงค็อก ดีไซน์ วีค
กรุงเทพฯ งานอีสาน ครีเอทีฟ เฟสติวัล ขอนแก่น เดือนกรกฎาคม งานปักษ์ใต้ ดีไซน์ วีค
สงขลา เดือนสิงหาคม และเชียงใหม่ ดีไซน์ วีค เดือนธันวาคม นี้
งานที่ 4 เทศกาลเก๋ ๆ ตามพิพิธภัณฑ์ ลานกลางแจ้ง เช่น งาน Art Fair พร้อมทั้งดึงธุรกิจโรงแรมเปิดพื้นที่จัดงานดังกล่าวหมุนเวียนไปตามจังหวัดต่าง
ๆ มากขึ้น
งานที่ 5
เทศกาลแสดงหุ่นนานาชาติ ทีเส็บได้สนับสนุนมาแล้วหลายปี
ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นเทศกาลหุ่นโลก หรือ Harmony World Puppet Innovation Festival จัดช่วงพฤศจิกายนนี้ ได้นำนวัตกรรม กับ AI เข้ามาผสมผสานยกระดับการสื่อสารเทศกาลดึงดูดงานใหม่
ๆ เข้ามาร่วมจัดอย่างยิ่งใหญ่
งานที่ 6 เทศกาลไฟสวยงาม อย่าง Awakening
Bangkok ชวนมาชมสีสันประดับตกแต่งศิลปะแสงไฟสวยงามยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ
ร่วมมือกับชุมชนนำเสนอพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
แล้วยังมีงานศิลปะจังหวัดต่าง ๆ สามารถยกระดับเป็น “เทศกาลระดับนานาชาติ” เช่น ปลาร้าหมอลำ ISAN to The World ทีเส็บทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงวัฒนธรรม ชูผลิตภัณฑ์ “ปลาร้า” ทั่วภาคอีสานทั้งหมดนำมาผสานจุดขายกับการแสดงหมอลำซึ่งเป็นวัฒนธรรมเด่นแล้วมีแฟนคลับไทยและนานาชาติมาร่วมงานจำนวนมาก สามารถพัฒนาควบคู่กันได้หลายอุตสาหกรรม
งานที่ 7 “Tough Mudder Thailand 2025” ได้ลิขสิทธิ์แล้วเป็นเจ้าภาพรายการใหญ่สุดของโลก จัดเทศกาลวิ่งวิบากโคลนครั้งแรกในไทย ระหว่าง 18-19 ตุลาคม 2568 จัดที่ วิสดอม วัลเลย์ พัทยา จ.ชลบุรี
ขณะเดียวกันทีเส็บได้เตรียมเสนอเป็นเจ้าภาพดึงงานสำคัญระดับโลกเลือกมาจัดในไทยเบื้องต้นอีก
5 งาน ได้แก่
งานที่ 1 World
Pride 2030 ขานรับนโยบายรัฐบาลหลังไทยประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมสร้างความเท่าเทียมเสมอภาคกับกลุ่มความหลากหลายทางเพศซึ่งในไทยอยู่อันดับต้น
ๆ ของเอเชีย ขณะนี้การทำงานได้สนับสนุนชุมชน Pride ระดับประเทศซึ่งเป็นสมาชิกของ
Inter Pride จะเป็นแรงสนับสนุนไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานดังกล่าวช่วงงาน
Inter Pride Conference เดือนตุลาคม 2569 ขั้นตอนการขับเคลื่อนจะต้องร่วมมือกับกรุงเทพมหานครเตรียมสถานที่ล่วงหน้า
และทุกภาคส่วน พร้อมทั้งกำหนดจะจัดประมาณงาน 1 เดือน
หากไทยได้สิทธิ์เจ้าภาพจริงจะมีชุมชน Pride ทั่วโลกเข้าร่วมปี
2573 ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน
งานที่ 2 เตรียมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดแข่งรถระดับโลก Formula 1 :F1 เป็นไฮไลต์ที่เพิ่งได้รับมอบหมายจากรัฐบาลไทยให้เตรียมความพร้อมดึงการจัดรถแข่งระดับโลก Formula One มาจัดในไทย โดยทีเส็บร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทย และหน่วยงานต่าง ๆ ตอนนี้ศึกษาความเป็นไปได้กับผลบวกทางเศรษฐกิจตอนนี้ไทยพร้อมจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพแล้วช่วงปี 25671-2575 หากไทยผ่านเกณฑ์ครบก็จะได้เห็นงานนี้เกิดขึ้นปีแรก 2571
งานที่ 3 เทศกาลดนตรีนานาชาติ หลั่งไหลเข้ามาในไทย ขณะนี้ร่วมกับ
ททท.เตรียมความพร้อมทุกส่วน นำคอนเสิร์ตระดับอินเตอร์เนชั่นแนลมาไทย
งานที่ 4 World SPATAN ออกจากอเมริกามาจัดที่จังหวัดเชียงราย ของไทย โดยเพิ่มการจับคู่เจรจาธุรกิจด้านกีฬา หรือการดึงชุมชนผสานกับแบรนด์สปาตันให้ได้ด้วย ขณะนี้มีคู่แข่ง 2-3 ประเทศ สนใจจะดึงงานดังกล่าวเช่นกัน
งานที่ 5 โปเกมอน โกลด์ ซิตี้ แอนด์ ซาฟารี แบงค็อก จะมีแฟนคลับโปเกม่อนเข้ามาใช้ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของกรุงเทพฯ เก็บคะแนน จึงต้องดีไซน์ให้ใช้พื้นที่กระจายไปตามจุดต่าง ๆ คาดจะดึงคนเข้ามาได้ 30,000 คน
ปี 2569 ทีเส็บพร้อมจะขับเคลื่อน “ยกระดับงานเทศกาลในเมืองไมซ์” โดยวางกลยุทธ์โดยใช้มาตรฐานสากลพัฒนากิจกรรมที่เกียวข้องกับไมซ์ เสริมเพิ่มด้วยแพลตฟอร์มต่าง ๆ มากขึ้น นอกเหนือจากจะจัดเป็นเทศกาลคอนซูเมอร์เพียงอย่างเดียว ต้องขยายเวทีจับคู่เจรจาธุรกิจด้วย ตัวอย่าง งานมหรสพ เฟสติวัล นักดนตรีอินดี้นานาชาติเดิมแสดงธรรมดาต่อมาได้เพิ่มกิจกรรมสร้างเครือข่ายจับคู่ธุรกิจ และเชิญศิลปินแลกเปลี่ยนมุมมองและปิดจุดอ่อนต่าง ๆ เรื่องงานที่เกิดขึ้นแต่ละประเทศ สร้างโอกาสให้ศิลปินไทยด้วย
โดยมีตัวอย่างงาน Bangkok Music
City เริ่มตั้งแต่ปี 2562 ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันสร้างเทศกาลเติบโตกลายเป็นอุตสาหกรรมบันเทิงขนาดใหญ่ขยายฐานสู่เอนเตอร์เทนเมนท์รองรับตลาดนานาชาติอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น
แล้วยังได้สร้างสรรค์งานล่าสุดผนวกจัด Bangkok illustration fair 2025 ผสานเข้ากับงาน Bologna Children's Book Fair
งานแสดงหนังสือเด็กเมืองโบโลญญารายการใหญ่สุดของโลก
เปิดเวทีให้ศิลปินทั่วโลกส่งภาพวาดเข้าร่วมประกวด
ทั้งสองเทศกาลได้จับมือกันเลือกนิทรรศการมาแสดงทุกปี
เดินหน้ากลยุทธ์ส่งเสริมการตลาด Co Create เต็มรูปแบบ หรืองาน
ปลาร้า หมอลำ ISAN to The World งานดีไซน์วีค
ทีเส็บพยายามเพิ่มกิจกรรมสากลเข้าไปทุกงาน ทั้งการจับคู่ธุรกิจ (business
matching) แพลตฟอร์มการสื่อสาร พัฒนานิเวศน์แวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำ
กลางน้ำ ปลายน้ำ ครบวงจร
ผอ.ปาริฉัตร กล่าวว่า ล่าสุดทีเส็บเร่งพัฒนางานร่วมกับสมาคมเทศกาลและงานกิจกรรมนานาชาติ (International Festivals & Events Association :IFEA) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเกิดจากการรวมผู้ผลิต ผู้จัดหา ผู้จัดการเทศกาลและงานต่างๆ ทั่วโลก มีสมาชิก 8 ภูมิภาคกว่า 30 ประเทศ ได้จับมือกันส่งงานเมืองไมซ์ และผู้จัดงานตามจังหวัดที่สนใจส่งประกวดในเวทีเอเชียและโลก เช่น ปี 2568 ไปร่วมงานที่เกาหลี “เชียงใหม่” ได้รางวัล "World Heritage City 2025” และสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงาน IFEA Asia Pinnacle Awards & Asia Festival City Conference 2026
การผลักดัน “เทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา” เข้าประกวดจนได้รับรางวัลระดับโลก “IFEA/Haas & Wilkerson Pinnacle Awards” ประเภท Best Emergency Preparedness & Risk Management Plan ระดับโกลด์ ประจำปี 2024
หรือ “ภูเก็ต” ได้รับรางวัล "เมืองเทศกาลโลก 2024 : World Festival and Event City” จาก IFEA รวมถึงงานประเพณีถือศีลกินผักภูเก็ตยังได้รับรางวัลสูงสุด Grande Pinnacle
แล้วทีเส็บยังคงเดินหน้าจับมือกับเจ้าของงานส่งงานเทศกาลต่าง ๆ เข้าประกวดระดับเมืองไมซ์ และอื่น ๆ เพื่อสร้างแบรนด์งานอินเตอร์ เฟสติวัล และเมกะอีเวนต์ ของไทยเข้าสู่เวทีโลกต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-คิง เพาเวอร์-AOTทางเลือกสู่ทางรอดดิวตี้ฟรี5สนามบิน
เมื่อยุครุ่งเรืองของ “ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย” เกิดจุดเปลี่ยนเชิงลบครั้งใหญ่ต่อเนื่องมากว่า 7 ปี หลังปลายปี 2562 เมื่อโรคระบาดใหม่โควิด-19 ช็อกเศรษฐกิจโลก ผนวกกับโครงสร้างเศรษฐกิจโลกยุคใหม่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นำมาสู่ปรากฏการณ์ “ทางเลือกสู่ทางรอด” ระหว่าง “กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์” ธุรกิจของคนไทยผู้บุกเบิกร้านค้าปลอดอากร (duty free) ในเวทีโลกเป็นปีที่ 36 จำเป็นจะต้องยื่นหนังสือขอเจรจาแนวทางแก้ปัญหาการลงทุนพัฒนาดิวตี้ฟรี ณ ท่าอากาศยาน (Airport duty free) กับ “บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” ใน 5 ท่าอากาศยาน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่(สงขลา)
โดยมี บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ประมูลชนะได้สิทธิใช้พื้นที่แต่ละท่าอากาศยานจำหน่ายสินค้าดิวตี้ฟรี พอทำสัญญา 3 แห่ง ที่ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ ช่วงกรกฎาคม 2562 ผ่านไป 3 เดือน ก็เกิดโควิด-19 ระบาดขึ้นทำให้คนทั่วโลกต้องหยุดเดินทางทันทีต่อเนื่องมาจนถึงปี 2566
ท่ามกลาง “พายุเศรษฐกิจกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” ทั่วโลกเดินทางมาไทยเป็นช่วง “ขาลงแรง” นับจากปี 2562 เดิมต่างชาติเคยมาไทยปีละเกือบ 41 ล้านคน แล้วก็หดตัวลงอย่างรวดเร็วจนถึงปัจจุบันตามรายงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระหว่าง 1 มกราคม - 8 มิถุนายน 2568 ต่างชาติมาท่องเที่ยวเมืองไทยเพียง 15 ล้านคน ลดลง 2.87 % ตลาดหลักอย่าง “สาธารณรัฐประชาชนจีน”เคยมากสุดเกือบ 11 ล้านคน/ปี ขณะนี้เหลือเพียง 2.04 ล้านคน หรือแค่ 25% ของยุครุ่งเรือง
แล้ว “กำลังซื้อหลักของดิวตี้ฟรีไทย” คือ “จีน” มากถึง 70 % มีคนไทยเดินทางต่างประเทศอีก 15-20 % ส่วนที่เหลือเป็นต่างชาติอื่น ๆ 5-10 %
“อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้พยายามเจรจากับ AOT และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาตลอดถึงหลายปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ แล้วไปมีผลกระทบกับธุรกิจดิวตี้ฟรีเมืองไทย จนกระทั่งเดือนพฤษภาคม 2568 บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) จำเป็นต้องยื่นหนังสือถึง AOT ขอหารือแนวทางการยกเลิกสัญญาอนุญาตให้ประกอบการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในท่าอากาศยาน 5 แห่ง สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่
อ้างอิงตามเอกสาร AOT เลขที่ 10492/2568 แจ้งถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 เรื่อง บริษัท มีหนังสือขอหารือแนวทางยกเลิกสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ AOT โดยระบุสาเหตุ “ไม่ได้มาจากความผิดของคิง เพาเวอร์” แต่เพราะมีผลกระทบรุนแรงเป็นเหตุสุดวิสัยจาก 7 ปัจจัย ได้แก่
1.สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดส่งผลให้ต่างชาติเดินทางลดลง 2.ภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยลดลงโดยเฉพาะจีน 3.ภาครัฐขาดมาตรการบริหารจัดการความปลอดภัยส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนลดลง 4.การขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการของ AOT 5.รัฐลดภาษีนำเข้าไวน์ส่งผลกระทบกับยอดจำหน่ายในร้านค้าดิวตี้ฟรี 6.สถานการณ์ในประเทศทำให้จำนวนผู้โดยสารลดลง 7.สถานการณ์สงครามและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
“นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์” รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” เปิดเผยว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) AOT ได้จัดประชุมนัดพิเศษ ครั้งที่ 8/2568 เมื่อ 16 มิถุนายน 2568 โดยมี “นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย” ประธานกรรมการ และประธานที่ประชุม ได้เร่งรัดให้แต่งตั้ง “คณะทำงานพิจารณากลั่นกรองทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยาน” ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT และจ้างที่ปรึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เพื่อศึกษาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT โดยเร็วภายใน 60 วัน
หลังจาก บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ส่งเอกสารขอยกเลิกประกอบกิจการด้วยเหตุและปัจจัยตั้งแต่สถานการณ์โควิดระบาด ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจโลก มีผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจีน เดินทางมาไทยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่กระทบกับการจ่ายค่าตอบแทนที่ “คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี” ค้างชำระอยู่ เพราะยังไม่เกินวงเงินค้ำประกัน (Bank Guarantee) ที่วางไว้เป็นหลักประกันตามหลักเกณฑ์ในสัญญา ถือเป็นหลักประกันทางการเงินของคู่สัญญากรณีเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น
ขณะนี้ AOT ยังมีสถานะทางการเงินมั่นคงแข็งแรงและยังมีแผนหารายได้เพิ่มจากแหล่งอื่น ๆ อีกอย่างน้อย 4 กิจกรรม เช่น 1.รายได้จากค่าใช้บริการระบบไฟฟ้า 400 Hz ระบบปรับอากาศ PC AIR 2.โครงการผู้ให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น 3.การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของผู้ประกอบการรายที่สาม 4.การพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์รอบท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Non-Aeronautical Revenue)
ทางด้าน “ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “CEO” คนใหม่ บริษัท คิง เพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า คิง เพาเวอร์ พร้อมปฏิบัติตามกรอบข้อสรุปของ AOT เนื่องจากเอกชนไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะต่อรองใด ๆ ทางออกที่ดีคือรอกรอบเงื่อนไขที่พึงปฏิบัติร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับสัญญาประกอบกิจการของ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี กับ AOT เบื้องต้น ใน 3 ท่าอากาศยาน ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ ล่าสุดจะหมดสัญญา 31 มีนาคม 2576 เช่นเดียวกับ สุวรรณภูมิ และดอนเมือง อยู่ในช่วงปีใกล้เคียงกัน
ข่าวที่ 2 -คิงเพาเวอร์ ออนไลน์ชูช้อปไอเทมใหมNew Arrival for June
คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ เปิด NEW ARRIVAL FOR JUNE คอลเลคชั่นใหม่มาแรง ที่จะทำให้ทุกคนต้องร้องว้าว! กับไอเทมสุดฮอตที่ใคร ๆ ก็ต้องมี รีบมาช้อป อยู่ที่ไหนก็ช้อปได้สะดวกสบาย ช้อปเลยที่ “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์” วันนี้ -30 มิถุนายน 2568
“สินค้าเข้าใหม่”
ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งน้ำหอม เครื่องสำอาง สกินแคร์ แว่นตา
นาฬิกาและอื่นๆอีกมาก อย่ารอช้า ต้องรีบกดก่อนของขาดตลาด สินค้าดิวตี้ฟรี มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย!
รับสินค้าที่สนามบิน
• แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 6 เดือน
• รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 18,500 บาท
• ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง (ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
• รับเลย! ส่วนลด 800.- เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์
• รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก
คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท (สุทธิ)
ข่าวที่ 3-ร่วมสงครามช้อปด่วนคิงเพาเวอร์รางน้ำ/มหานคร/ภูเก็ต
สงครามช้อปด่วน คุ้มได้สุดก่อนใคร! ที่ “คิง เพาเวอร์” รางน้ำ มหานคร ภูเก็ต วันนี้ -30 มิถุนายน 2568
1.ช้อปไอเทมฮิต รับส่วนลดสูงสุด 30% ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อสินค้า (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ)
2.พิเศษ! สำหรับสมาชิก คิง เพาเวอร์ เท่านั้น รับส่วนลด On – top 5% (สำหรับสินค้าราคาปกติ เฉพาะสินค้าแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอางที่ร่วมรายการ)
3.ช้อปคุ้ม ได้เพิ่มยิ่งกว่า รับเงินเพิ่มถึง 30% เพียงซื้อ Cash Card 7,000 บาท ใช้ช้อปได้จริง 10,000 บาท(เฉพาะสินค้าแบรนด์และแผนกที่ร่วมรายการ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
4.สมัครฟรี! สมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY รับทันที ส่วนลด 5%* ทุกการช้อป พร้อมรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นำ ททท.เร่งเดินหน้ากระตุ้น “การท่องเที่ยวทางน้ำ” เจาะตลาดในประเทศและต่างประเทศ ต่อยอดเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยง 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และปทุมธานี โดยได้นำแนวคิด 5 Must Do in Thailand มาใช้ออกแบบเส้นทางและกิจกรรมสร้างแม่เหล็กดึงดูดนักเดินทาง โดยตั้งเป้าหมายกระตุ้นคนไทยและนานาชาติหันมาเลือกท่องเที่ยวเมืองไทยในพื้นที่เมืองกรุงและรอบปริมณฑลทางน้ำต่อเนื่องตลอดให้ได้ปีละไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน-ครั้ง
ขณะนี้เตรียมแผนลงทุนประดับตกแต่งไฟริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณพื้นที่ส่วนต่อขยายการจัดงาน
“วิจิตรเจ้าพระยา” พร้อมจะบูรณาการร่วมมือกับพันธมิตรทุกหน่วยงาภาครัฐและเอกชน ขับเคลื่อนให้เกิดการท่องเที่ยวทางน้ำให้ได้รับความนิยมอย่างเป็นรูปธรรมด้วยกลยุทธ์การสื่อสารประชาสัมพันธ์เส้นทางและสร้างสรรค์เชิญชวนคนมาเที่ยวได้ครบทั้ง
6 กิจกรรม ได้แก่
กิจกรรมที่
1 การล่องเรือชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาต่อเนื่องสู่วิถชีวิตชุมชนแห่งสายน้ำ
ร้อยเรียงเรื่องเล่า เรื่องราว มากมายให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้สิ่งที่ดี
กิจกรรมที่
2 การท่องเที่ยววัดและอารามริมแม่น้ำลำคลอง สามารถเปิดเส้นทางใหม่
ๆ ที่น่าสนใจให้ท่องเที่ยวได้ตลอด 365 วัน
กิจกรรมที่
3 ท่องเที่ยวตลาดริมน้ำเชิญชวนนักท่องเที่ยวเลือกซื้อสินค้าชุมชน
กระจายรายได้ถึงประชากรฐานรากของไทย
กิจกรรมที่
4 สัมผัสวิถีชุมชนโบราณสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ
ความเป็นอยู่อย่างไทย
กิจกรรมที่
5 เปิดโลกอาหารถิ่นให้ผู้เยี่ยมเยือนได้ชิมรสชาติภูมิปัญญาไทย
กิจกรรมที่
6 ฟินกับ “ถนนคนเดิน” ตามชุมชนแต่ละท้องถิ่น
ในบรรยากาศที่แตกต่างกัน แล้วสร้างภาพจำในโมเมนท์ดี ๆ กับการเป็นเจ้าบ้านที่ดี
ผู้ว่าฯ
ฐาปนีย์ กล่าวว่า “การท่องเที่ยวทางน้ำ” เป็นกิจกรรมของไทยที่มีเอกลักษณ์แล้วนักท่องเที่ยวคนไทยกับนานาชาติทั่วโลกนิยมมากด้วย
ททท.จะอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานในพื้นที่ และส่วนกลางเดินหน้าพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีความพร้อมรองรับผู้ที่เข้าไปเยี่ยมเยือนเพื่อกระจายรายได้ตรงเข้าสู่คนในพื้นที่
โดยเน้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าถึงด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ควบคู่กับการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการบริการ
ความปลอดภัย และสุขอนามัย ทุกฝ่ายจับมือกับ ททท.นำเสนอกิจกรรมการท่องเที่ยวทางน้ำ สร้างคุณค่าและมูลค่าให้ชุมชนท่องเที่ยวริมน้ำสู่ความยั่งยืน
มีรายได้มั่นคงแข็งแรงพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
โดยททท.ได้นำเสนอเส้นทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงทางน้ำ
เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย เที่ยวสะดวกในกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และปทุมธานี
สามารถเดินทางได้ตลอดทั้งปี 365 วัน รวม 13 เส้นทาง ดังนี้
“กรุงเทพมหานคร”
ประกอบด้วย 8 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่ 1 ท่องเที่ยวโลว์ คาร์บอน คลองผดุงกรุงเกษม
ต่อเนื่องกับแหล่งท่องเที่ยวชุมชนนางเลิ้ง หลานหลวง เส้นทางที่ 2
เดินชมย่านตลาดน้อย เส้นทางที่ 3 ท่องเที่ยวย่านถนนทรงวาด เส้นทางที่ 4 เดินฟินถนนอิสรภาพ วังหลัง เส้นทางที่ 5 เยี่ยมชมชุมชนกุฎีจีน คลองโอ่งอ่าง พาหุรัด เส้นทางที่ 6
ไปสนามไชย เสาชิงช้า สามยอด เส้นทางที่ 7 เพลิดตาย่านสามเสน เทเวศน์ บางลำพู เส้นทางที่ 8 ดื่มด่ำกลิ่นอายสาทร บางรัก สีลม
“นนทบุรี”
มีให้เลือกตามความชอบของนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มวัย ประกอบด้วย 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่ 1 ใกล้นิดเดียว
เที่ยวเกาะใกล้กรุง ที่ “เกาะเกร็ด” โดยมีบริการล่องเรือ ขึ้นจากบริเวณ
ท่าเรือสาทร ไปยัง เกาะเกร็ด นนทบุรี ชมวิถีความเป็นอยู่ของคนกลางแม่น้ำเจ้าพระยา
เส้นทางที่ 2 เที่ยวคลองอ้อมนนท์ ชม จิตรกรรมฝาผนัง
ที่วัดโพธิ์บางโอ เส้นทางที่ 3 สำเร็จ บุญหนัก
ศักดิ์ใหญ่ แวะไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอำเภอบางกรวยมีทั้ง หลวงพ่อสำเร็จ
วัดโตนด อ.บางกรวย หลวงพ่อบุญหนัก วัดโพธิ์บางโอ
“ปทุมธานี” ททท.นำเสนอ
“ไหว้พระริมน้ำให้ฉ่ำบุญ” ประกอบด้วย 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่
1 “หร่ำ เหลือ รุ่งเรือง” บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน
ไหว้เกจิดัง หลวงปู่หร่ำ วัดบางกร่าง วัดโบสถ์ และวัดสิงห์ อำเภอสามโคก เส้นทางที่
2 “ค้าขายดี บารมีสมปรารถนา” บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาตอนกลาง ชวนไปกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ วัดบางนา
วัดศาลเจ้า วัดมะขาม และหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์
ข่าวที่ 5-บางจากปลื้มอันดับ17Fortun500ยอดขายโตสุดTop20เอเชีย
บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับการจัดอันดับจากประกาศรายชื่อ Fortune
Southeast Asia 500 ประจำปี 2568 ขึ้นมาอยู่อันดับ 17 ของบริษัทที่มีรายได้สูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 500 บริษัท ดีขึ้นกว่าปี 2567 อยู่อันดับ 24 สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงในเวทีนานาชาติ
รวมทั้งยังเป็นกลุ่มบริษัทไทยติดอันดับ 4 จาก 100 บริษัท และติดอันดับ 6 จาก 60 บริษัท
กลุ่มบริษัทพลังงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นิตยสาร Fortune ได้จัดอันดับดังกล่าวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นปีที่ 2 ใช้วิธีรวบรวมรายชื่อ 500 บริษัทที่มีรายได้สูงสุด
จากนั้นก็พิจารณารายได้ปีงบประมาณ 2567 ครอบคลุม 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย
มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา
ปี 2568
บริษัทที่ติดอันดับทั้งหมดมีมูลค่ารายได้รวมกว่า 1.82 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.7 % “กลุ่มธุรกิจพลังงาน” ยังคงเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีรายได้สูงสุด
คิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของรายได้รวมทั้งหมด สะท้อนบทบาทสำคัญของภาคพลังงานกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคอย่างเข้มแข็ง
นายชัยวัฒน์
โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นความยินดีและภูมิใจที่บางจากได้รับการขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 17 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากปี 2567 อยู่อันดับที่ 24 พร้อมทั้งทำยอดขายเติบโตเพิ่มถึง 47% สูงสุดในกลุ่มบริษัท Top
20 ที่ได้รับการจัดอันดับครั้งนี้
“ความสำเร็จ”
ครั้งนี้เป็นผลจากความมุ่งมั่นของทุกคนในองค์กรในการดำเนินงาน ร่วมมือกันสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน
สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือกับขยายโอกาสเชื่อมโยงกับพันธมิตรในระดับนานาชาติได้ดียิ่งขึ้น
แล้วบางจากยังได้แสดงศักยภาพในฐานะบริษัทไทยที่สามารถยืนหยัดบนเวทีนานาชาติได้อย่างเต็มภาคภูมิ
Fortune Southeast Asia 500 ประจำปี 2568 ได้เผยแพร่รายชื่อบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับโดยเข้าเยี่ยมชมได้ทาง Fortune.com/asia ตั้งแต่ 17 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
ข่าวที่ 6- TCEBหนุนเชียงรายเจ้าภาพประชุม PATA Forum 2025
นายภูริพันธ์ บุนนาค รักษาการผู้อำนวยการ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า
ทีเส็บสนับสนุนเชียงรายเดินหน้าสร้างผลงานการเป็นจุดหมายประชุมนานาชาติ
เตรียมจัดงานสัมมนานานาชาติ PATA Destination Marketing Forum 2025 (PDMF
2025) ระหว่างวันที่ 1–3 ธันวาคม 2568 ที่ โรงแรม เดอะ เฮอริเทจ เชียงราย แอนด์ คอนเว็นชั่น ภายใต้แนวคิด“Steeped
in Tradition, Rooted in Wellness: Weaving the Narrative of Travel” สะท้อนศักยภาพของเชียงราย ในฐานะเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรม แหล่งชา–กาแฟ
และเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกพร้อมตอบรับแนวคิดสาระการประชุม
งานนี้นับเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว
หน่วยงานภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ และเครือข่ายท่องเที่ยวทั่วโลก
ร่วมอัปเดตแนวโน้มของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
งาน PDMF 2025 เป็นอีกหนึ่งงานประชุมนานาชาติที่เชียงรายได้รับเป็นเจ้าภาพ
หลังจากสร้างผลงานเป็นครั้งแรกที่มีรายชื่อในตารางจัดอันดับเมืองทั่วโลกที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพงานประชุมนานาชาติประจำปี
2567 ที่สมาคมการจัดประชุมนานาชาติ (International Congress and
Convention Association :ICCA) เป็นผู้จัดทำ
และเป็นการสร้างผลงานต่อเนื่องหลังจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เชียงรายได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Spring Meeting ของสมาคมพืชสวนโลกระหว่างประเทศ
(The International Association of Horticultural Producers – AIPH)
ช่วงที่ 2 ชวนไปเช็คอินเที่ยว “84 ปีอภัยภูเบศร” ปราจีนบุรี 23-24
มิ.ย.นี้ มีกิจกรรมสมุนไพรมากมาย แล้ววงปฏิทินเที่ยวต่องาน “ซอฟท์
พาวเวอร์ สระแก้ว” 26-27 ก.ค.ต่อด้วย
“หยุดกินผลไม้หลังอาหาร” ก่อนร่างพัง เกาะติดข่าวฮ็อต ข่าวแรก “ททท.ปลื้มเชฟนำ6ร้านอาหารไทยคว้ารางวัลโลก” ข่าวที่สอง AOT ร่วมประชุม
IATA ดันไทยฮับการบิน ถกสนามบินซานฟรานเปิดบินไทย-อเมริกา
ท่องเที่ยว –เที่ยว“84ปีอภัยภูเบศรปราจีน-ซอฟท์พาเวอร์สระแก้ว”
เตรียมตัวไปสุขทันทีที่เที่ยว
“ปราจีนบุรี-สระแก้ว” จังหวัดในพื้นที่บูรพาภาคตะวันออก สนุกต่อเนื่องปลายมิถุนายน
-กรกฎาคม นี้ กับ 2 โปรแกรม ดี ๆ
โปรแกรมแรก
ออกเดินทางไปเที่ยวงาน “84 ปี อภัยภูเบศร”
วันที่ 23 - 24 มิถุนายน 2568 ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ปราจีนบุรี
จัดเพียงปีละครั้งเท่านั้น รวบรวมภูมิปัญญาไทยดูแลสุขภาพ เวลเนส สู่มาตรฐานใหม่มาให้นักท่องเที่ยวได้ลองใช้บริการ
มีทั้ง
“ตรวจ-ปรึกษา สุขภาพกับแพทย์แผนไทย” โดยวิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร
“นวดไทย” เพื่อแก้อาการตามสภาพร่างกาย “เล่นเกมเจ้าเรือน” เช็คธาตุเพื่อสร้างสมดุล
พร้อมรับฟรียาดมตามเจ้าเรือนด้วยมาก่อนมีสิทธิ์ก่อน
ชม “นิทรรศการ”
นวัตกรรมสมุนไพร เพื่อรับมือมลภาวะ
สมุนไพรสำหรับสังคมผู้สูงอายุ
จัดภายใต้แนวคิด Innovative Wellness & Longevity ด้วยสมุนไพรไทย
ช้อป
“ผลิตภัณฑ์สมุนไพรอภัยภูเบศร” มีส่วนลดให้สูงสุด 30% วันเดียวเท่านั้น 24
มิถุนายน 2568
ฟัง “ประชุมวิชาการด้านการแพทย์แผนไทย”
เปิดเวทีเผยแพร่องค์ความรู้และประสบการณ์สู่สาธารณะ
หัวข้อที่น่าสนใจ ได้แก่
การใช้นวดไทยร่วมกับการฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน
การรักษาผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อด้วยยาสมุนไพรและหัตถการทางการแพทย์แผนไทย
รวมถึงการดูแลหญิงตั้งครรภ์แบบบูรณาการ
เปิดให้นักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมได้
ระหว่างวันที่ 23-24 มิถุนายน นี้ ตั้งแต่ 08.30-16.30 น.โทร.
037-211289 หรือ 087-5820597
โปรแกรมที่
2 ชวนเที่ยว “สระแก้ว”
ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยมหกรรมงาน ซอฟท์ พาเวอวร์ วันที่ 26-27
กรกฎาคม 2568 คัดสรรกิจกรรมมากมาย ทั้ง
การประกวด การแสดง การแข่งขัน และร้านค้ากว่า 100 ร้านค้า!
ชวนไปเดินชม ชิม ช้อป ได้ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ สระแก้ว ตลอด 2
วัน ตั้งแต่ 09.00 - 24.00 น.
สนุกกับ
ไฮไลท์ การประกวดอนุรักษ์ศิลปะมวยไทย (คีตะมวยไทย) การประกวดไก่พื้นเมืองสวยงาม
การแข่งขันทำเมนูอาหารพื้นถิ่นสระแก้ว
การแข่งขันจัดสวนถาดแก้ว/แบบชื้นการประกวดออกแบบแฟชั่น (ผ้าทอ ผ้าพื้นถิ่น
อัตลักษณ์สระแก้ว) การประกวดเดินแบบผ้าขาวม้าสร้างสรรค์ และการประกวดวงดนตรีสากลสร้างสรรค์
“นักเรียน นักศึกษา”
สุขภาพ
–"หยุด!
กินผลไม้หลังอาหาร" ป้องกันร่างกายจะพังเร็ว
โภชนาการที่ดีไม่ใช่แค่สิ่งที่กินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเวลาและวิธีกินด้วย ในบรรดาอาหารต่างๆ
ผลไม้ถือเป็นสารอาหารพิเศษที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ที่จำเป็น
ดังนั้น ช่วงเวลาในการกินผลไม้มีผลต่อการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหารด้วย
1.เวลาย่อยอาหารแตกต่างกัน ผลไม้ย่อยได้เร็วกว่าอาหารส่วนใหญ่อื่นๆ
เพราะมีปริมาณไฟเบอร์และน้ำสูง และมีโปรตีนและไขมันที่ต่ำกว่า
จึงขอแนะนำให้เป็นอาหารว่างระหว่างมื้ออาหาร เมื่อกินผลไม้ทันทีหลังมื้ออาหาร
ผลไม้อาจค้างอยู่ในกระเพาะอาหารเป็นเวลานาน เพื่อรอให้อาหารอื่นๆย่อยก่อน
สิ่งนีนำไปสู่อาหารไม่ย่อยหรือท้องอืดได้
2.กระทบต่อการดูดซึมสารอาหาร ผลไม้เต็มไปด้วยวิตามิน
แร่ธาตุ และสารประกอบที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อย่างไรก็ตาม
เมื่อกินผลไม้หลังอาหารทันที ประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหารเหล่านี้ต่ำลง นี่เป็นเพราะร่างกายกำลังยุ่งอยู่กับการย่อยและดูดซึมสารอาหารจากมื้ออาหารนั่นเอง
3.จะเกิดอะไรขึ้นถ้ากินผลไม้ทันทีหลังมื้ออาหาร เพราะความแตกต่างของเวลาย่อยระหว่างผลไม้กับอาหารอื่น
ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การตกค้างของผลไม้ขณะรอการย่อย อาจทำให้เกิดแก๊ส ท้องอืด หรืออาหารไม่ย่อย ประการสำคัญ “ขัดขวาง” การดูดซึมสารอาหาร
หมายความว่าจะไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากผลไม้ที่กินเข้าไป
4.ช่วงเวลาในการกินผลไม้ที่เหมาะสม อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ
กับเป้าหมายด้านสุขภาพส่วนบุคคล และสุขภาพทางเดินอาหารของแต่ละคน
-ก่อนมื้ออาหาร สามารถช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและลดความหิวลงได้ ซึ่งจะช่วยให้หลีกเลี่ยงการกินมากเกินไปในระหว่างมื้ออาหาร
ไฟเบอร์ในผลไม้อาจช่วยควบคุมความอยากอาหารได้
และเนื่องจากภายในกระเพาะอาหารยังว่างอยู่ การดูดซึมสารอาหารช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงที่เหมาะสม
-หลังมื้ออาหาร บางคนชอบกินผลไม้เป็นของหวานหลังมื้ออาหาร
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลไม้ย่อยได้เร็วกว่าสารอาหารอื่นๆ เช่น โปรตีนและไขมัน
จึงอาจทำให้อาหารไม่ย่อยหรือท้องอืดได้หากกินหลังอาหารทันที ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลานี้
-เป็นอาหารว่างระหว่างมื้อ นักโภชนาการหลายคนแนะนำให้กินผลไม้เป็นอาหารว่างระหว่างมื้ออาหาร
จะช่วยให้การย่อยและการดูดซึมสารอาหารเป็นไปอย่างเหมาะสม ช่วยให้กระเพาะอาหารย่อยผลไม้เพียงอย่างเดียว ทำให้มีประสิทธิภาพดีที่สุด
นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ดีในการระงับความหิวระหว่างมื้ออาหารอีกด้วย เหมาะสมอย่างยิ่ง
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–ททท.ปลื้มเชฟไทยนำ 6 ร้านอาหาร คว้ารางวัลโลกปี’68
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เดินหน้า “Grand Celebration” กับบรรดาเชฟนำประเทศไทยสร้างปรากฏการณ์ในเวทีโลกครั้งใหม่
ด้วยการนำ 6 ร้านอาหารไทยติดอันดับในงานประกาศรางวัล “World’s
50 Best Restaurants 2025” จัดขึ้นที่เมืองตูริน อิตาลี โดยได้โชว์พลัง
ซอฟท์ พาวเวอร์ ด้านอาหาร ตอกย้ำให้ไทยเป็นเมืองศูนย์กลางอาหาร “Gastronomy
Hub” และก้าวสู่จุดหมายปลายทางเมืองอาหารระดับโลก (World
Gastronomy Destination) สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพเดินทางมาเพิ่มขึ้นได้ต่อไป
สำหรับร้านอาหารทั้งหมดที่ได้รับการจัดอันดับ
ต่างเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวระดับพรีเมียม
เป็นแรงดึงดูดช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของไทยในเวทีนานาชาติ ททท.ตั้งเป้า ปี 2569 เตรียมจะเสนอเป็นเจ้าภาพจัดงาน World’s 50 Best Restaurants 2026 ในเมืองไทย
ปี 2568 มีร้านอาหารจากทั่วโลก 22 ประเทศ
32 เมือง ได้รับคัดเลือกจากเวที “World’s 50 Best
Restaurants 2025 ขึ้นบัญชีรายชื่อร้านระดับโลก
โดยมีร้านหน้าใหม่ถึง 10 ร้าน
ที่ได้รับจัดอันดับเป็นครั้งแรก ในจำนวนนี้มีร้านอาหารของไทยคว้ารางวัลได้มากที่สุดถึง
6 ร้าน แต่ละแห่งล้วนเป็นร้านอาหารระดับ Fine Dining จากกรุงเทพมหานคร ได้แก่
•
อันดับ 6 | GAGGAN BANGKOK( The Best Restaurant in Asia)
• อันดับ 13 | POTONG BANGKOK (Highest New
Entry Award 2025)
•
อันดับ 17 | SORN BANGKOK
•
อันดับ 22 | SUHRING BANGKOK
• อันดับ 30 | LE DU BANGKOK
• อันดับ 35 | NUSARA BANGKOK (New Entry)
ข่าวที่สอง – AOT-IATAดันไทยฮับบินถกซานฟรานบิน“ไทย-อเมริกา”
นายเอนก ธีระวิวัฒน์ชัย
รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานยุทธศาสตร์ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” เปิดเผยว่า ในฐานะคณะกรรมการจัดสรรเวลาของประเทศไทย (Slot
Coordination Committee) ได้เข้าร่วมการประชุมจัดสรรเวลากับสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ
IATA Slot Conference ครั้งที่ 156 ที่เมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา เพื่อร่วมสนับสนุนการจัดสรรเวลาการบินกำหนดการบินประจำฤดูหนาว
2568/2569 (Winter 2025/2026) ส่งเสริมกระบวนการจัดสรรเวลาการบินให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
ควบคู่การขยายเครือข่ายเส้นทางบินในท่าอากาศยานของ AOT ทั้ง 6
แห่ง ภายใต้ยุทธศาสตร์ตามนโยบายรัฐบาล มุ่งขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การ
“เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค” (Aviation Hub)
โดย AOT ใช้งานนี้ร่วมหารือกับ 2 พันธมิตร คือ พันธมิตรแรก ท่าอากาศยานนานาชาติซาน ฟรานซิสโก 1.แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านขีดความสามารถของท่าอากาศยานเตรียมความพร้อมรองรับที่จtกลับมาเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา ภายหลังจากไทยได้รับการเลื่อนระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินกลับสู่
Category 1 จากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (Federal
Aviation Administration: FAA) จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะเชื่อมโยงไทยสู่เครือข่ายการบินระหว่างประเทศเต็มรูปแบบ
พันธมิตรที่
2 สายการบิน Scoot สิงคโปร์
ซึ่งมีแผนจะเปิดเส้นทางบินใหม่ ปลายปี 2568 ไป-กลับ สิงคโปร์-ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง
เชียงราย เพิ่มการเชื่อมโยงเมืองน่าเที่ยว/เมืองรองของไทยในเส้นทางการบินระหว่างประเทศ
ผู้บริหาร
AOT ยังได้ร่วมประชุมหารือกับสายการบินจากทั่วโลก เช่น
บริติช แอร์เวย์ส แอร์แคนาดา อลาสก้าแอร์ไลน์ส นอร์ส แอตแลนติก แอร์ไลน์ส
แอร์นิวซีแลนด์ เวอร์จิน ออสเตรเลีย แอร์ไลน์ส ซึ่งจะช่วยส่งเสริมศักยภาพท่าอากาศยาน
AOT ในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคเหนืออย่างยั่งยืน
แล้ว AOT ยังเตรียมเป็นเจ้าภาพร่วมกับสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ
(International Air Transport Association: IATA) จัดงาน
IATA Slot Conference ครั้งที่ 158 ระหว่าง
9-11 มิถุนายน 2569 ที่ศูนย์ประชุมเซ็นทาราแกรนด์บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์
กรุงเทพฯ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 39 ปี ที่ AOT ได้รับโอกาสสำคัญในการเป็นเจ้าภาพงานประชุมเจรจาจัดสรรเวลาการบินระดับโลก
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น