วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568

นิตินัย ศิริสมรรถการ CEO คิง เพาเวอร์ใช้กุญแจ5ดอกพลิกดิวตี้ฟรีไทยสู่Next Move

 “นิตินัย” CEO “คิง เพาเวอร์”พลิกดิวตี้ฟรีไทยNext Move

ใช้กุญแจ5ดอกแก้Disruptionนำธุรกิจเชิดหัวสู่อนาคตใหม่

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ CEO คิง เพาเวอร์ งัดกุญแจ 5 ดอก นำธุรกิจดิวตี้ฟรีไทยสู่อนาคตใหม่ Next Move

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #นิตินัยศิริสมรรถการ #KingPower

อ่านใน มติชนออนไลน์... https://www.matichon.co.th/publicize/news_5247743

เปิดใจ “นิตินัย ศิริสมรรถการ” ซีอีโอใหม่ “คิง เพาเวอร์” ลั่นพร้อมใช้กุญแจ 5 ดอก ปลดล็อกปัญหา Disruption พลิกโฉมธุรกิจดิวตี้ฟรีก้าวสู่อนาคตใหม่ Next Move ในจังหวะรอคำตอบชัด ๆ จาก AOT ภายใน 60 วันนี้ ลุยจัดทัพองค์กร ถอดบทเรียนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวขาลง ไขรหัสลับตัวเลขผลตอบแทน เร่งสร้างสมดุลรายได้ตามสภาพจริง

            ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท คิง เพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด คนใหม่ให้สัมภาษณ์พิเศษถึงแนวทางการนำ “ธุรกิจดิวตี้ฟรีคนไทย” ที่ยืนหยัดสร้างชื่อในเวทีโลกมา 3 ทศวรรษ ( 36ปี ) ปี 2568 ตั้งเป้าก้าวข้าม Disruption : การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” โดยใช้สถานการณ์ “ขาลง” ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกับร้านค้าปลอดอากรของไทย จัดทัพธุรกิจพลิกโฉมสู่ “อนาคตใหม่ : Next Moveให้ได้ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า 

            โดยจะใช้ช่วง 60 วัน” ระหว่างรอกรอบแนวทางใหม่จาก “บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ที่ได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณากลั่นกรองทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยาน และที่ปรึกษาสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ  เคาะแนวทางอันเหมาะสม กรณีคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี (KPD) ขอหารือ “ยกเลิกสัญญาอนุญาต” ธุรกิจดิวตี้ฟรี 5 สนามบิน AOT

“ดร.นิตินัย” ยืนยันพร้อมใช้ความจริงเดินหน้า “สร้างสมดุลรายได้” แก้ไข “จุดอ่อน”  คัดเลือก “จุดแข็ง” ที่ คิง เพาเวอร์ มีอยู่ทั้งหมด เป็น “กุญแจ” สำคัญไขทางออกจาก Disruption รอบด้าน นำพาทุกฝ่ายก้าวสู่สถานการณ์ Win Win ร่วมกัน ด้วยกุญแจ 5 ดอก ดังนี้


            กุญแจดอกที่ 1 แยกโครงสร้างปัญหาที่เกิดขึ้น ออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ประเมิน “ยอดขายสินค้าดิวตี้ฟรีที่ลดลง” เพราะเหตุสุดวิสัยหลังออกจากอุโมงค์โควิด-19 ซึ่งเกิดต่อเนื่องยาวนานกว่า 5 ปี ต้องแก้ด้วยวิธีรีบนำธุรกิจออกจากจุดนี้ให้ได้ก่อน ส่วนที่ 2 เช็คสภาพธุรกิจหากเป็น “วัฏจักรปกติ” ต้องเร่งวาง “ตำแหน่งธุรกิจใหม่” ให้ถูกต้องแม่นยำเพื่อก้าวต่อไป โดยใช้วิธี “ใส่ทรัพยากรที่ทรงพลัง” เข้าไปในจังหวะเกิด Disruption เพื่อทำให้ทุกอย่างดีขึ้น

            กุญแจดอกที่ 2 ปลดล็อก Disruption ที่กำลังรุมเร้า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งมีอยู่หลายปัจจัย เช่น 1.นักท่องเที่ยวจีนกับปริมาณต่างชาติแต่ละสนามบินหายไปจากไทยอย่างรวดเร็ว 2.พฤติกรรมของนักเดินทางในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเปลี่ยนรูปแบบไปจาก 360 องศา 3.อี-คอมเมอร์ซ เข้ามาแทนที่คน 4.ช่องว่างระหว่างวัยด้านการสื่อสารภายในองค์กรของคนรุ่นใหม่กับคนกลุ่มเดิม 5.ปัจจัยอื่น ๆ


            “วิธีแก้ไข” ระหว่างนี้จะต้อง “ปรับโครงสร้างหลังบ้านใหม่” ให้เข้มแข็ง จัดทัพทีมงานให้ดี ขั้นตอนต่อไปเมื่อ AOT ให้คำตอบชัดเจนแล้วเตรียมตัดสินใจก้าวสู่ “ธุรกิจถัดไป” โดยอาจจะขยับ 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ปรับโฉมสู่ธุรกิจใหม่ไม่เหมือนใคร หรือ ส่วนที่ 2 พัฒนาธุรกิจเดิมแล้วเลือกใช้วิธีดำเนินงานแบบใหม่แตกต่างจากตลาดทั่วไป

            กุญแจดอกที่ 3 จัดระเบียบกองทัพใหม่ในองค์กรตั้งเป้ามุ่งสู่ความสำเร็จ โดยปรับกรอบความคิด (Mindset) พนักงานทุกระดับ สร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ทั้ง 3 ส่วน คือ 1.Hardware เลือกซื้อความทันสมัยเข้ามาใช้ให้มากที่สุด 2.Software เพิ่มการระบบบริหารจัดการต่อยอดจากเทคโนโลยีทั่วไป 3.Peopleware ปิดช่องว่างระหว่างวัยคนในองค์กรจะต้องสื่อสารโดยใช้องค์ความรู้ที่แตกต่างกันของ “คนรุ่นใหม่” มีความเก่งด้านดิจิทัล กับ “คนรุ่นเดิม” ซึ่งเชี่ยวชาญการใช้ม้าเหล็ก ช่วยกันถ่ายทอดเทคนิคให้ทุกเจนเนอเรชั่นใช้ความสามารถร่วมกันได้ทั้งสองอย่าง พร้อมรับมือกับธุรกิจที่แข่งขันขันกันดุเดือดขนาดนี้ ไม่เฉพาะในประเทศแต่เป็นระดับโลกด้วย จึงต้องใช้คนที่มีพลังมากกว่าปัจจุบัน ผสานเข้ากับการพัฒนาเทคโนโลยีเป็น “สะพานสร้างธุรกิจใหม่” ที่มั่นคงในระยะยาว

            กุญแจดอกที่ 4 ถอดบทเรียนธุรกิจดิวตี้ฟรี เพื่อฟื้นฟูหรือ Recovery โดยมองไปข้างหน้าให้เห็นความท้าทายที่รออยู่ แล้วใช้โอกาสวันนี้เตรียมพร้อมพัฒนาการเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกครั้ง เลือกเรียนรู้จากหลาย ๆ อุตสาหกรรม โดยมี ตัวอย่างแรก บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ผู้นำพลังงาน ได้ขยายสู่ธุรกิจค้าปลีก ทำแบรนด์อะเมซอน และอื่น ๆ มากมาย เพราะเห็นถึงปัจจัย disruption ที่จะเกิดขึ้น ตัวอย่างที่ 2 อุตสาหกรรมบันเทิง Block Master บริการให้เช่าวิดีโอ พัฒนาสู่ VCD DVD จากนั้นก็ทำเป็นเครื่องเล่น Blueray  ซึ่งสูญพันธุ์จากตลาดเร็วมาก ตอนนี้หันมาแข่งกันด้วยสตรีมมิ่งด้วยจุดแข็ง resolution ที่มีความแม่นยำละเอียดชัดเจนของแต่ละแบรนด์ใครเหนือกว่ากัน

            “ธุรกิจดิวตี้ฟรี” ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ก็เช่นกัน ต้องถอดบทเรียนอุตสาหกรรมเหล่านี้เพื่อนำมาประยุกต์ใช้สร้างอนาคตใหม่หรือ Next Move นำพาธุรกิจเปลี่ยนแปลงก้าวพ้นจากการโดน disruption ให้ครบรอบด้าน แล้วหาทางออกและวิธีรับมือเตรียมพร้อมไว้ทุกสถานการณ์นับจากนี้เป็นต้นไป


            กุญแจดอกที่ 5 ประมวลผล “รหัสตัวเลขการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน” ของธุรกิจดิวตี้ฟรีสนามบินระหว่าง คิง เพาเวอร์ กับ AOT ต้องเปรียบเทียบผลจากเวลา 2 ช่วง คือ

ช่วงที่ 1 เริ่มเปิดประมูล ปี 2562 เกิดในยุคสถานการณ์เศรษฐกิจการท่องเที่ยวขาขึ้น จึงได้เลือกใช้ “ตัวเลขผลตอบสูงกว่า” จาก 2 ส่วน คือ 1.เงินค้ำประกันการจ่ายขึ้นต่ำ (Minimum guarantee) อัตรา 20% กับ 2.จ่ายส่วนแบ่งรายได้ตามยอดขายรายปี (Revenue Sharing) ซึ่งอาจสูงถึง 40 %

ช่วงที่ 2 ปัจจุบัน สถานการณ์ท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภาพรวมขาลง ตลาดหลักจากจีนหายไปจำนวนมาก สภาพตามจริงจึงไม่มีธุรกิจใดทำส่วนต่างกำไรขั้นต้น (margin) ได้สูงถึง 40 %

            เพราะหากประมวลผลเปรียบเทียบ “โครงสร้างการจ่ายผลตอบแทนเดิม” กับ “สถานการณ์ปัจจุบัน” ที่แตกต่างจากสมมุติฐานตอนแรกช่วงเริ่มต้นเปิดประมูล เหตุการณ์ต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปมากหลังออกจากโควิด-19 ซึ่งตามข้อตกลงได้ “แบ่งหน้าที่” กันคือ “ประเทศและท่าอากาศยาน” จะนำนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาไทยเพิ่มขึ้นทุกปี ส่วน “ผู้ประกอบธุรกิจ” จะคิดกลยุทธ์กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวใช้เงินซื้อสินค้าต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ดึงเงินเข้าประเทศให้ได้มากที่สุด ด้วยแรงดึงดูดจาก “สินค้าดิวตี้ฟรีหรูหรา” โดยมีแบรนด์ระดับโลกมากมายขายได้มูลค่าราคาสูง



แต่หลังโควิด-19 มีเหตุการณ์ไม่สอดคล้องตามสมมุติฐานเดียวกันกับตอนเริ่มประมูล จึงเกิดการเปลี่ยน “สูตรคำนวณใหม่” ใช้วิธีนำ “ปริมาณนักท่องเที่ยวต่อหัว (Quantity) x ราคา (Price)” เพื่อสร้าง “สร้างสมดุลรายได้” ตามจริงของทั้งสองฝ่ายตามหน้าที่รับผิดชอบที่แบ่งไว้แล้วตั้งแต่ต้นตอนเอกชนยื่นซองประมูล เพราะด้วยธรรมชาติของธุรกิจ “มีได้มีเสียกับขาขึ้นและขาลง” ในช่วงเวลาต่างกันทุกอย่างก็ควรยึดหลัก “ความเป็นธรรม” เนื่องจากตอนยุครุ่งเรือง คิง เพาเวอร์ ใส่ตัวเลขผลตอบแทนปีละ 15,000 ล้านบาท ภายใต้ดีลตามสถานการณ์รอบข้าง ณ ขณะนั้น สอดคล้องกับองค์ประกอบตามข้อเสนอที่ทำไว้ (proposal) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในสัญญา ขณะที่ปัจจุบันเกิดเหตุสุดวิสัยปัจจัยต่าง ๆ เพี้ยนไปจากความจริงทั้งหมด นำมาซึ่งการหารือแนวทางใหม่ขอยกเลิกสัญญาอนุมัติที่ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี กำลังรอคำตอบชัด ๆ จาก AOT ภายใน 60 วันนี้

“คิง เพาเวอร์” พร้อมจะใช้กุญแจทั้ง 5 ดอก คลี่คลาย disruption นำธุรกิจคนไทยสร้างชื่อเสียงเชิงบวกในเวทีโลก พลิกโฉมสู่ Next Move อนาคตใหม่ ฟื้นความสำเร็จกลับมาเป็นเสาเศรษฐกิจของประเทศอีกครั้ง

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดใจ "นิตินัย ศิริสมรรถการ" CEO คิงเพาเวอร์ลุย5ภารกิจแก้ดิวตี้ฟรีDisruptionพลิกสู่Next Move

  ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ซีอีโอ คิง เพาเวอร์ เปิด 5 ภารกิจ นำดิวตี้ฟรีไทยพลิกโฉมสู่ Next Move เจาะลึก !! “นิตินัย ศิริสมรรถการ” ซีอีโอใหม่ ...