วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ททท.ภาคเหนือปั๊มรายได้พุ่ง1.7แสนล้าน/ปี ไฮซีซั่นปี68-69บูมขายSeason of North เที่ยวเหนือ3ฤดู


ขจรเดช อภิชาติตรากุล” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

ททท.ภาคเหนือปั๊มรายได้ไทยเที่ยวเหนือพุ่ง1.7แสนล้าน/ปี

ไฮซีซั่นปี68-69โหมขายFloraFest-สีสันดอยตุง-เคาน์ดาวน์

เปิดสุข“SEASON OF NORTH”เที่ยวเหนือตลอดทั้งปี3ฤดู

ดึงแพลตฟอร์มดังลดกระหน่ำทุกฤดูที่พัก/อาหาร/กิจกรรม

8 ปีความสำเร็จ!! CSR 3 มิติ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์”

แคมเปญความสุขJOYFINITYคิง เพาเวอร์ซิตี้บูทีกลด40%

คิงเพาเวอร์รางน้ำเปิด PAWTIVAL ZONE วันนี้-28 ธ.ค.68

ททท.-TG911ฉลองตลาดไกลมาไทย10ล้าน/อังกฤษ1ล้านคน

บางจากรวมพลัง2โรงกลั่นสู่ความเป็นเลิศปี’69เพิ่มปลอดภัย

“บางจาก-อินทนิล”นำ2แบรนด์ไทยกวาดรางวัลSuperbrands

หนาวนี้สุขทันทีที่เมืองเลย “ภูหลวง-ภูเรือ-ภูหอ-เชียงคาน”

มูลนิธิโรนัลด์แมคโดนัลด์มีที่พักฟรีครอบครัวเด็กป่วย4รพ.

ททท.-อสมท.”ชูเที่ยวบ้านทุ่งเพลลมหายใจสีเขียวจันทบุรี

ทูตไทยควงวิทยุการบินดึงเกาหลีมาไทยไฮซีซั่น60ไฟลต์/วัน 

วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก  #เที่ยวเมืองเลย 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1BwzY3fqbK/

ช่วงที่ 1 !! สัมภาษณ์ “นายขจรเดช อภิชาติตรากุล” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระตุ้นคนไทยเที่ยวภาคเหนือปี68 รายได้ฉลุย 1.74 แสนล้าน ปี’69 ขยับเป็น 1.78 แสนล้านบาท ลุยขายท่องเที่ยว 3 งานใหญ่ “Flora Festival 2025วันนี้-ก.พ.69 ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่ “เคาน์ดาวน์ 2 จังหวัด” เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์-กว๊านพะเยา จ.พะเยา และ“สีสันดอยตุง เชียงราย” พร้อมเปิดแคมเปญ “สุขทันที ฤดูนี้ ฤดูเหนือ :SEASON OF NORTH” เที่ยวเหนือ 3 ฤดู “หน้าหนาว :Relaxing of North-หน้าร้อน : Season of Celebrating-หน้าฝน Season of Healing” จับมือแพลตฟอร์มออนไลน์ลดพิเศษที่พัก อาหาร และเดินหน้า “STAR เที่ยวยั่งยืน” กับ เที่ยววันธรรมดา กระจายเม็ดเงินสู่เมืองน่าเที่ยว 16 จังหวัด

 

นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวภาคเหนือปี 2568 ท่ามกลางความท้าทายซึ่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศบ้าง สัญญาณภาพรวมยังคงสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 26 ล้านคน-ครั้ง (ขณะนี้ทำได้ใกล้เคียงแล้วประมาณ 23-24 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1.74 แสนล้านบาท เติบโตเพิ่ม 2 % รวมทั้งการใช้จ่ายเฉลี่ยค่อนข้างสูงด้วยเช่นกัน

 

เป้าหมายปี 2569 “ตลาดในประเทศ” ภาพรวมทั้ง 5 ภูมิภาค จะต้องมีจำนวนรวม 214 ล้านคน-ครั้ง เฉพาะ “ภูมิภาคภาคเหนือ” ดูแล 17 จังหวัด ด้าน “จำนวนนักท่องเที่ยว” 25.7 ล้านคน-ครั้ง คิดเป็น 12 % ของนักท่องเที่ยวในประเทศทั้งหมด จะต้องเติบโต 4.3 % “รายได้” เป็นไฮไลต์สำคัญจะต้องทำให้ได้ 1.78 แสนล้านบาท คิดเป็9นประมาณ 15 % ของทั้งหมด เพื่อกระจายเม็ดเงินหมุนเวียนในทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง

“ไฮซีซั่นปลายปี 2568” ททท.ภูมิภาคภาคเหนือ เริ่มเปิดแล้วฤดูกาลท่องเที่ยวตั้งแต่พฤศจิกายนเป็นต้นมาต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2569 จัดเทศกาลเที่ยวรายการใหญ่

 


งานที่ 1 Flora Festival 2025 : เทศกาลชมสวน ระหว่างพฤศจิกายน 2568 - กุมภาพันธ์ 2569 อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ นำเสนอของดีชาติพันธุ์ ดอกไม้เมืองหนาว เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวข้ามปี และงาน Charming Chiangmai Flower Festival 2026 ระหว่างพฤศจิกายน 2568 - มกราคม 2569 ที่สวน อบจ.เชียงใหม่ จัดแสดงดอกไม้นานาพันธุ์ พร้อมการแสดงแสงสีเสียงและน้ำพุดนตรี 

 

งานที่ 2 เทศกาลเคาน์ดาวน์ 2 แห่ง ได้แก่ แห่งที่ 1 “เขาค้อ เพชรบูรณ์” นำเสนอจุดขายทะเลหมอก อากาศเย็นสบาย แห่งที่ 2 Amazing Thailand Phayao Countdown Flora Fest 2026 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2568- มกราคม 2569 บริเวณริมกว๊านพะเยา จัดในธีม “Flora of Faith & Light – แสงแห่งรัก ดอกไม้แห่งศรัทธา ณ กว๊านพะเยา” ชื่อตอนพิเศษ “งานดอกไม้และแสงรักเพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” โดยได้ผนวกรวมมหกรรมการเกษตรและท่องเที่ยว ถนนสายดอกไม้งาม  ตกแต่งดอกไม้ ประดับไฟสวยงามตลอดริมกว๊านพะเยา รวมทั้งการแสดงดนตรีอัดแน่นด้วยศิลปินยอดนิยม ปล่อยโคมถวายความอาลัย อลังการด้วยพลุโดรน



งานที่ 3 เทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 12 จังหวัดเชียงราย เริ่มตั้งแต่วันนี้-25 มกราคม 2569 ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตามรูปแบบสวนแม่ฟ้าหลวง ถนนคนเดิน งานคราฟท์ ผลิตภัณฑ์ชาติพันธุ์ มีดนตรีพื้นเมือง ชมฝนดาวตก และเป็นจุดเคาน์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ได้ด้วย


ผอ.ขจรเดช กล่าวว่า ภูมิภาคภาคเหนือ วางกลยุทธ์เชิงรุกส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวปีงบประมาณ 2569 ด้วยแคมเปญ “สุขทันที ฤดูนี้ ฤดูเหนือ :SEASON OF NORTH  มุ่งเน้นการสื่อสารการท่องเที่ยวภาคเหนือได้ตลอดทั้งปี มีความโดดเด่นแตกต่างกัน ไม่ใช่เฉพาะ “หนาว-ร้อน-ฝน” เท่านั้น แต่เป็นการให้รางวัลชีวิตที่ได้ทำงานหนักมาตลอดจึงควรได้สิ่งที่ดี ททท.ร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ จัดแคมเปญรายฤดู

ฤดูแรก “ฤดูหนาวเที่ยวภาคเหนือ” จับมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ อย่าง Traveloka จัดแคมเปญ Relaxing of North มอบส่วนลดที่พัก/โรงแรม ตั้งแต่ธันวาคม 2568-กุมภาพันธ์ 2569 พร้อมส่วนลด ราคาพิเศษเสริมอยู่ตลอดเวลา เช่น 12.12 (12 เดือน 12 ธันวาคม 2568) หรือ 01.01 (1มกราคม 2569)

ฤดูที่สอง “ฤดูร้อน : Season of Celebrating ให้รางวัลตัวเองด้วยการเฉลิมฉลอง  ซึ่งเป็นช่วงที่มีการจัดงานเทศกาลสนุกสนานมากมาย เช่น ปี๋ใหม่เมือง-สงกรานต์

ฤดูที่สาม “Season of Healing ฤดูแห่งการบำบัดผ่อนคลายฮีลร่างกายจิตใจ เพราะฝนตกจะสร้างความชุ่มฉ่ำสดชื่น สามารถทำกิจกรรม อาบป่าธรรมชาติ ทาง ททท.ร่วมกับ Trip.com รองรับแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่มีบริการรองรับด้านสุขภาพตามโรงแรมหรือสปา จะร่วมกับมอบส่วนลดพิเศษให้นักท่องเที่ยว

“กลยุทธ์เชิงรุก” “การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน-การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ” ที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าสู่ภูมิภาคภาคเหนือตลอดปี 2569 จะเน้น 2-3 เรื่อง ต้องผลักดันกระจายการเดินทางสู่ “เมืองน่าเที่ยวหรือเมืองรอง” เนื่องจากภาคเหนือมีพื้นที่ท่องเที่ยวหลักจังหวัดเดียว คือ “เชียงใหม่” ส่วนที่เหลือเป็นเมืองน่าเที่ยวมากถึง 16 จังหวัด จึงสามารถนำเสนอการแผนกระตุ้นได้อีกมากและหลากหลาย ประกอบด้วย 2 โครงการใหญ่ ได้แก่

 


โครงการที่ 1 STAR :Sustainable Tourism Sustainable Tourism Acceleration Rating ของ ททท. “นักท่องเที่ยว” และ “ผู้ประกอบการ” ขณะนี้ตื่นตัวนำธุรกิจเข้าร่วมมาตรฐานการการรับมอบตราสัญลักษณ์ "ดาวแห่งความยั่งยืน" ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยที่ดำเนินธุรกิจตามแนวทาง เป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals - STGs) โดยได้นำต้นแบบาจากเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวคุณภาพและยั่งยืน โดยแบ่งระดับดาวเป็น 3, 4, และ 5 ดาว ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวได้ด้วย



โครงการที่ 2 การท่องเที่ยววันธรรมดา (จันทร์-พฤหัสบดี) ตลอดทั้งปี ขยายกลุ่มเป้าหมายกระจายตัวการเดินทางมากขึ้น อย่าง กลุ่มผู้สูงวัย กลุ่มเดินทางได้ทำงานด้วย ทั้ง Workation , Nomad นำเสนอจุดหมายในพื้นที่เมืองน่าเที่ยว เช่น พะเยา อุตรดิตถ์ อุทัยธานี นครสวรรค์ ซึ่งสามารถพักผ่อนอย่างสบาย ๆ มีทั้งแหล่งท่องเที่ยว อาหาร กิจกรรม และที่พักราคาไม่แพง ซึ่งสามารถรองรับได้ทั่วทั้งภาคเหนือ 17 จังหวัด

ผอ.ขจรเดช กล่าวว่าปลายปี 2568 ต่อเนื่องต้นปี 2569 สามารถเลือก “ภาคเหนือ” เป็นจุดหมายปลายทางเคาน์ดาวน์ โดยเฉพาะพื้นที่เมืองน่าเที่ยวอย่าง พะเยา เพชรบูรณ์ สุโขทัย และอื่น ๆ สามารถขับรถท่องเที่ยวได้ ทั้ง 17 จังหวัด พร้อมต้อนรับทุกคนไปสัมผัสอากาศดี ๆ อาหารอร่อย และกิจกรรมที่ ททท.ร่วมกับผู้ประกอบการในพื้นที่จัดสรรไว้เป็นอย่างดี

ฟังข่าวต้นชั่วโมง


ข่าวที่ 1-8ปีความสำเร็จ!!CSR3มิติ“คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์” 

          กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ประกาศจุดยืนความสำเร็จการทำภารกิจอย่างเข้มแข็งต่อเนื่อง 8 ปี ด้าน “ความรับผิดชอบต่อสังคม :CSR ผ่านโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ด้วยแนวคิดพลังแห่งความเป็นไปได้ (The Power of Possibilities) ส่งเสริมศักยภาพของคนไทยอย่างไร้ขีดจำกัด ครอบคลุม3 ด้านหลัก ได้แก่ กีฬา ดนตรี และชุมชน สร้างความภาคภูมิใจ ส่งมอบโอกาส และสร้างประโยชน์ต่อคนไทยทั่วประเทศมากมาย  

“คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” มีจุดเริ่มต้นมาจากวิสัยทัศน์อันแน่วแน่ของ “คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา) ผู้ก่อตั้งเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก มุ่งมั่นสร้างประโยชน์และความสุขให้คนไทยทั่วประเทศ ด้วยการมอบ “โอกาส” และ “เครื่องมือ” ที่เหมาะสม ก่อเกิดเป็นความสำเร็จจากโครงการต่าง ๆ ด้านกีฬา ดนตรี และชุมชน โดยเฉพาะเยาวชนได้รับระโยชน์สูงสุด ทั้งการสร้างสนามฟุตบอลได้มาตรฐานไว้ใช้ฝึกทักษะ การค้นพบเส้นทางสายดนตรีของตนเอง และนำเสนอภูมิปัญญาชุมชนผ่านสินค้าท้องถิ่นอวดชาวโลได้ก ทุกมิติสะท้อนถึงการให้ “โอกาส” ที่ยั่งยืน แล้ว “คิง เพาเวอร์” พร้อมจะสานต่อเจตนารมณ์นี้ ดินหน้าสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้คนไทยต่อไป

มิติที่ 1 ด้านกีฬา (Sport Power) มุ่งพัฒนาส่งเสริมศักยภาพเยาวชนไทยโดยเฉพาะ “ฟุตบอล” ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ประกอบด้วย

โครงการแรก “ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย” มอบลูกฟุตบอล 1 ล้านลูก ให้เยาวชนไทยและชุมชนทั่วประเทศ ปัจจุบัน ได้ส่งมอบไปแล้วกว่า 980,000 ลูก กระจายถึงมือผู้รับ 26,584 โรงเรียน 390 ชุมชน และ 87 หน่วยงาน

โครงการที่สอง “100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย” ที่สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมมาตรฐานสากล ทั่วประเทศ100 สนาม ปี 2569 เตรียมส่งมอบให้ครบตามเป้าหมาย ได้แก่ สนามฟุตบอลแห่งที่ 100 ทำให้เด็กจำนวนมากได้ใช้ประโยชน์ฝึกซ้อมพัฒนาตัวเองสานฝันสู่ “นักฟุตบอลอาชีพ” พร้อมทั้งมีโอกาสได้เล่นในอะคาเดมีระดับจังหวัด ลีกระดับมืออาชีพ เติบโตไปสู่นักกีฬาดาวรุ่งระดับประเทศได้ด้วย

มิติที่ 2 ด้านดนตรี (Music Power) มุ่งส่งเสริมจุดประกายศักยภาพคนไทยด้านดนตรี แสดงความสามารถในระดับสากล โดยกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จับมือกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้นำค่ายเพลง 8 ค่าย สนับสนุนเวทีประกวดวงดนตรีสากลคุณภาพระดับประเทศ THE POWER BAND แต่ละปีจะแบ่งการประกวดเป็น รุ่นมัธยมศึกษา และรุ่นบุคคลทั่วไป จัดขึ้นต่อเนื่องมาแล้ว 5 ซีซั่น มุ่งเปิดพื้นที่และมอบโอกาสให้คนดนตรีทั่วประเทศได้โชว์ศักยภาพกับคณะกรรมการผู้คร่ำหวอดในวงการเพลงไทย และเนจุดกำเนิดศิลปินหน้าใหม่

ตลอด 5 ปีมีผู้เข้าร่วมประกวดแล้ว 1,148 วง “ผู้ชนะเลิศ” จะได้ทำซิงเกิลเพลงและมิวสิกวิดีโอ และร่วมแสดงในเทศกาลดนตรีระดับประเทศ ส่วนนักดนตรีที่ฉายแววโดดเด่นจากเวที THE POWER BAND มีโอกาสปั้นเป็นศิลปินอย่างวง Kryptonyte และวง PINGPING PANPAN (ปิ๊งปิ๊ง-ปันปัน) รวมไปถึงยังมีเมล็ดพันธุ์ทางดนตรีที่มีโอกาสขึ้นแสดงบนเวทีคอนเสิร์ตระดับประเทศกับวงบอดี้สแลม โดยมี “เด็กเก่ง” อีกจำนวนมากได้ต่อยอดการทำงานจริงในอุตสาหกรรมดนตรี เช่น นักดนตรีแบ็คอัพ, นักแต่งเพลง


มิติที่ 3 ด้านชุมชน (Community Power) สนับสนุนและพัฒนาสินค้าภูมิปัญญาไทย สร้างงานสร้างอาชีพ ผลักดันเศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตอย่างยั่งยืน แบ่งปันองค์ความรู้ให้ชุมชน เพื่อยกระดับฝีมือ และความชำนาญรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่ายิ่งขึ้น โดยใช้ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” จับมือกับ “สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้” และ “บริษัท มัลติพลาย บาย เอท จํากัด” ผสานฝีมือการทอและย้อมผ้าจากชุมชนท้องถิ่นต่าง ๆ ในไทย ออกแบบและจำหน่ายเป็นของที่ระลึกคอลเลกชันพิเศษในสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ รวมทั้งสิ้น 8 คอลเลกชัน เช่น

1.ชุมชนบ้านนาขาม จ.สกลนคร 2.ชุมชนหมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช 3.ชุมชนไทยทรงดำ บ้านดอนมะนาว จ.สุพรรณบุรี 4.วิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพบ้านเชียงราย จ.น่าน 

นำมาจำหน่ายทั้งในเมืองไทย และ Foxes Fan Store เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย ผสานความงดงามของผ้าไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก สร้างความภาคภูมิใจอีกทั้งยังช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้ชุมชนอีกด้วย

รวมทั้งมี “โครงการ ตลาดพลังคนไทย หรือ Thai Power Market ให้ผู้ประกอบการไทยสมัครเข้าร่วมเพื่ออบรมความรู้ ปัจจุบันรวมกว่า 200 แบรนด์ ตั้งแต่การพัฒนามาตรฐานสินค้า การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดึงดูดสายตา การบริหารจัดการธุรกิจ หาช่องทาง “เพิ่มรายได้” เพิ่มช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ จนได้รับการคัดเลือกให้นำสินค้ามาวางใน คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี, Kingpower.com และ Thaipowermarket.com สินค้าทุกแบรนด์จะได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิด ตลอดจนช่วยประชาสัมพันธ์ผ่านทุกช่องทาง โซเชียล มีเดีย ทำให้นักท่องเที่ยวนานาชาติทั่วโลกรู้จักสินค้าไทยได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง

 


ข่าวที่ 2 -คิง เพาเวอร์ซิตี บูทีกมอบสุขแคมเปญJOYFINITYลด40%

คิง เพาเวอร์ ซิตี บูทีก จัดแคมเปญ JOYFINITY CELEBRATION ตั้งแต่วันที่ 18-28 ธันวาคม 2568 ที่ คิง เพาเวอร์ ซิตี บูทีก ชั้น 1-2 โซน PARADE โครงการ ONE BANGKOK มีไฟลต์ หรือไม่มีไฟลต์ก็ช้อปได้ รับส่วนลดสูงสุด 40% เทศกาลดีลฟิน อินได้ไม่รู้จบ   ชวนนักช้อปสนุกไปกับการช้อปสินค้าบิวตี้ แฟชั่นไลฟ์สไตล์ และสินค้าคอลเลคชันใหม่หมุนเวียนมาให้เลือกสรรจากแบรนด์ชั้นนำมากมาย

“สมาชิก POWER PASS ร่วมกิจกรรม CELEBRATION GIFT ช้อปครบ 6,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์ลุ้นรับคูปองส่วนลด 2,600 บาท และของรางวัลอื่น ๆ จากแบรนด์ดังมากมาย และช้อปครบตามเงื่อนไข รับสิทธิ์ร่วมเล่นเกมตู้คีบ รับฟรี CELEBRATION BAGS ของขวัญพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำ รวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท

“สิทธิพิเศษ” แลก 200 CARAT รับ SPECIAL DRINK ได้ฟรี! ที่โซน CELEBRATION SIP BAR หากยังไม่เป็นสมาชิก POWER PASS สมัครฟรี ได้ที่เว็บไซต์ https://powerpass.kingpower.com พร้อมรับสิทธิ์ร่วมกิจกรรม และสิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกได้ทันที

ติดตามเพิ่มได้ทาง WWW.KINGPOWER.COM, FACEBOOK: KINGPOWERCITYBOUTIQUE, INSTAGRAM @KINGPOWERCITYBOUTIQUE และ TIKTOK @KINGPOWERCITYBOUTIQUE หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง KING POWER CONTACT CENTRE 1631




ข่าวที่ 3-คิงเพาเวอร์รางน้ำเปิด PAWTIVAL ZONE วันนี้-28 ธ.ค.68

 

“คิง เพาเวอร์ รางน้ำ”  ชั้น 3 ชวนให้นำเพื่อนรักขนฟูมาจอยเวอร์ที่ PAWTIVAL ZONE ตั้งแต่วันนี้– 28 ธันวาคม 2568

 

PAWTIVAL DRESS-UP : สมาชิก POWER PASS รับฟรี! ถ่ายรูป Polaroid และแต่งตัวสัตว์เลี้ยงพร้อม โพสต์ลงโซเชียลมีเดียพร้อมติด #พาPETเพลินเวอร์ที่คิงเพาเวอร์

 

DIY PAW GIFT : เวิร์กช็อปทำของที่ระลึกให้เพื่อนรักขนฟู เพียงช้อปที่ คิง เพาเวอร์ ครบ 3,000 บาท ให้สมาชิกละ 1 สิทธิ์/วัน วันละ 20 สิทธิ์

 

PAW SHOP : พบกับบูธสินค้าจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำเอาใจเพื่อนรักขนฟู

 

ข่าวที่ 4-ททท.-TG911ฉลองตลาดไกลมาไทย10ล้าน-อังกฤษ1ล้านคน

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับ 4 พันธมิตร ต้อนรับเที่ยวบิน TG 911 “ลอนดอน” สู่ กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) เมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ 17 ธันวาคม 2568 ฉลองความสำเร็จ 2 โอกาสพิเศษ คือ “โอกาสแรก” เที่ยวบินนี้นำผู้โดยสารสหราชอาณาจักรเดินทางมาไทยครบ 1 ล้านคน คาดสิ้นปี 2568 สหราชอาณาจักรจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (New High) เกือบ 1.1 ล้านคน สร้างรายได้เข้าไทยกว่า 80,000 ล้านบาท  “โอกาสที่สอง” ฉลองต่างชาติตลาดระยะไกล (Longhaul Market) สหภาพยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เดินทางมาไทยที่จะทำได้ถึง 10.5 ล้านคน ตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2568  ประกอบด้วย “ภูมิภาคยุโรป” 7.6 ล้านคน เติบโต 12.6 % “ภูมิภาคอเมริกา” 1.5 ล้านคน เติบโต 7 %

 

ขณะนี้ ททท.ได้นำนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลซึ่งเป็นกลุ่มใช้จ่ายเงินพักผ่อนในไทยต่อคนสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ มีระยะเวลาพำนักในไทยต่อเนื่องยาว (Length of Stay) สอดคล้องกับกลยุทธ์ปีงบประมาณ 2569 ตั้งเป้าขยายตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพมากกว่าปริมาณ หรือ “Value over Volume

 

ต้นปี 2569 ททท.วางกลยุทธ์ส่งเสริมตลาดการขายเพิ่มความคึกคักมากขึ้น ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำในสหราชอาณาจักจัดแคมเปญส่งเสริมการขายกับตัวแทนการท่องเที่ยวชั้นนำกว่า 10 ราย เช่น Trailfinders, Travelbag, Kuoni, Healing Holidays, Destinology, Dial A Flight, Muay Thai Holidays, Southall Travel และ Best At Travel 

 

ททท.ยังได้ทำประชาสัมพันธ์เชิงรุกร่วมกับสื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์ พันธมิตรทั้งในและนอกอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในสหราชอาณาจักร ร่วมแคมเปญ “Healing is the New Luxury” เจาะกลุ่มที่สนใจท่องเที่ยวธรรมชาติ ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน นำเสนอจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ที่เป็น Hidden Gems ของไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สำรวจพื้นที่ท่องเที่ยวอันหลากหลายและได้รับประสบการณ์การเดินทางที่มีความหมายมากยิ่งขึ้น

 

“ตลาดสหราชอาณาจักร” มาไทยติดอันดับ  TOP 10 ประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนไทยมากที่สุด “ใช้จ่ายเฉลี่ย” กว่า 60,000-70,000 บาท/คน/ทริป “พำนักเฉลี่ย” ต่อเนื่องยาว 17.44 คืน ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงจากสหราชอาณาจักรสู่ไทย 35 เที่ยว/สัปดาห์ รวม 5 สายการบิน ได้แก่ การบินไทย อีวีเอแอร์(ไต้หวัน) บริติชแอร์เวย์ส นอร์ส แอตแลนติก แอร์เวย์ส และ TUI UK

 

เฉพาะช่วงฤดูหนาวเดือนตุลาคม 2568–มีนาคม 2569 มีจำนวนที่นั่ง (Seat Capacity) กว่า 11,100 ที่นั่ง/สัปดาห์ ตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้น 12 % มีอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) เดือนธันวาคม 2568 สูงถึง 80-90 %

“ปี 2568 ททท.ได้ใช้กลยุทธ์ Airlines Focus ดึงดูดเที่ยวบินตลาดระยะไกลมาไทยเติบโต +12.8% สูงกว่าค่าเฉลี่ยเที่ยวบินทั่วโลกเติบโตเพิ่มเพียง 1.6% ขณะที่ปีนี้ไทยมีเที่ยวบินเปิดเส้นทางใหม่หรือกลับมาบินอีกครั้งได้แก่  1.ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส (อเมริกา) เปิดเส้นทางบิน ไป-กลับ ลอสแอนเจลิส-กรุงเทพฯ  2.แอร์ฟรานซ์ (ฝรั่งเศส) เส้นทาง ปารีส-ภูเก็ต 3.นอร์ส แอตแลนติก แอร์เวย์ส (นอร์เวย์) เปิดใหม่ถึง 5 เส้นทาง  ลอนดอน(เกตวิค)/แมนเชสเตอร์/สตอกโฮล์ม-กรุงเทพฯ และ เส้นทางสตอกโฮล์ม/ออสโล-ภูเก็ต 4.สายการบินอาร์เกีย(Arkia อิสราเอล) ไป-กลับ เทลาวีฟ-กรุงเทพฯ

 

“แนวโน้มปี 2569” สหราชอาณาจักรจะเติบโดตจากปัจจัยสนับสนุนต่อเนื่องเพิ่มจากอีก 2 สายการบิน ได้แก่

 

“บริติช แอร์เวย์ส”ประกาศปรับเปลี่ยนตารางบินเส้นทางลอนดอน เกตวิก-กรุงเทพฯ เฉพาะฤดูหนาว เป็นเปิดบริการตลอดทั้งปี (Year-Round) เริ่ม 31 มีนาคม 2569 เป็นต้นไป จะทำให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเกือบ 60,000 ที่นั่ง

 

“เวอร์จิน แอตแลนติก แอร์เวย์ส” เปิดให้บริการเที่ยวบินตรงช่วงฤดูหนาว เส้นทาง ไป-กลับลอนดอน ฮีทโธรว์-ภูเก็ต ส่งผลดีกับปี 2569-2570 (เดือนตุลาคม–มีนาคม) มีเที่ยวบินเพิ่มเป็น 3 เที่ยว/สัปดาห์

 

ข่าวที่ 5-บางจากรวมพลัง2โรงกลั่นสู่ความเป็นเลิศปี’69เพิ่มปลอดภัย

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นประธานในพิธีจัดงาน Operational Excellence Day 2025 : Regenerating the Future เมื่อเร็วๆ  นี้ โดยได้รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวกัน 2 โรงกลั่นน้ำมัน คือ บางจาก พระโขนง และบางจาก ศรีราชา และร่วมกับพันธมิตร ยกระดับการดำเนินงานสู่ความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง

 

            กลุ่มบริษัทบางจากได้งาน Operational Excellence Day จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานการดำเนินงาน และสร้างวัฒนธรรมการพัฒนาต่อเนื่องทุกมิติ ปี 2568 เป็นปีแรกที่ได้บูรณาการความร่วมมือของทั้งสองโรงกลั่น เพิ่มจากเดิมซึ่งเน้นหนักเรื่องมาตรฐานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อม และพลังงาน ปีนี้เดินหน้าภายใต้แนวคิดการทำงานเป็นหนึ่งเดียว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ กระบวนการทำงาน คุณภาพการผลิต และการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก นำองค์กรสู่เป้าหมาย Net Zero 2050

 

“นายธิติรัท บุตรแก้ว” Head of Industrial Sector บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมบรรยายพิเศษภายในหัวข้อ “การประยุกต์ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ” และ ศาสตราจารย์ ดร. อาณัติ เรืองรัศมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่องเทคโนโลยีตรวจจับแผ่นดินไหวจากโครงการ CoP ระดับประเทศ ซึ่งได้นำไปติดตั้งใช้งานจริงในโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง และสถานีบริการน้ำมันบางจาก

 

รวมทั้งมีบูธนิทรรศการด้านการบริหารจัดการและพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานต่าง ๆ การจัดการก๊าซเรือนกระจก พร้อมการมอบรางวัลแก่พนักงานและพันธมิตรที่สร้างคุณค่าให้องค์กร มีหนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ การฉลอง “ความสำเร็จ  11 ล้านชั่วโมง การทำงานปลอดภัย” โดยไม่มีอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน แลประกาศเป้าหมาย 2569 ปีต่อไปมุ่งสู่ “12 ล้านชั่วโมง” การทำงานปลอดภัย ภายใต้แนวคิด “Everybody Goes Home Safely Every Day” ยืนหยัดเดินหน้ามุ่งมั่นสู่ Net Zero 2050

 

ข่าวที่ 6-“บางจาก-อินทนิล”นำ2แบรนด์ไทยกวาดรางวัลSuperbrands

 

นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทบางจาก ย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ไทย ในเวทีประกาศรางวัลสุดยอดแบรนด์แห่งปี หรือ “Superbrands 2025” เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568  ไฮไลต์แห่งความภูมิใจ สะท้อนความเชื่อมั่นและผู้บริโภคให้การยอมรับต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับคัดเลือกครองตำแหน่งทั้ง 2 แบรนด์ ได้แก่

 

แบรนด์ “บางจาก” ได้รับคัดเลือกเป็น “Superbrand ต่อเนื่องปีที่ 8

แบรนด์ “อินทนิล” ได้รับคัดเลือกต่อเนื่องปีที่ 5  

 

ผู้แทนขึ้นรับรางวัล” นำโดย นางกลอยตา ณ ถลาง เป็นผู้แทนรับในนามแบรนด์ “บางจาก” และนางสาวณิภาภรณ์ จักรพิทักษ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด เป็นผู้แทนรับในนามแบรนด์ “อินทนิล” บนเวทีประกาศผลรางวัล Superbrands Thailand ประจำปี 2568 ที่ The 71 Venue

 

Superbrandsเป็นรางวัลระดับสากลที่ได้การยอมรับอย่างกว้างขวาง จัดขึ้นเพื่อมอบให้องค์กรที่มีความโดดเด่น ด้านการบริหารแบรนด์ ครอบคลุมทั้งเรื่อง คุณภาพของแบรนด์ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ เอกลักษณ์และความโดดเด่นของแบรนด์ โดยใช้วิธีสำรวจการตลาดจากทั่วประเทศ ควบคู่กับการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงการตลาด การสร้างแบรนด์ และการสื่อสาร สร้างความภูมิใจให้องค์กรที่ได้รับรางวัลดังกล่าวอย่างสง่างาม

 

          ช่วงที่ 2 ความสุขอยู่ทั่วเมืองไทย หนาวนี้ตั้งเข็มไมล์ไปเที่ยว “เมืองเลย” ดินแดนแห่งธรรมชาติสวยอลังการ ทุ่งดอกไม้ป่าแสนงาม 3 อุทยานแห่งชาติ “ภูหลวง-ภูเรือ-ภูหอ” กับอีกหนึ่งวิถีริมโขงที่ “เชียงคาน” แล้วฟัง “มูลนิธิโรนัลด์แมคโดนัลด์เฮาส์” ให้ที่พักพิงครอบครัวที่พาเด็กมารักษา 4 โรงพยาบาลรัฐ เกาะติดข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก “ททท.-อสมท.” ชูเที่ยวชุมชนบ้านทุ่งเพลหัวใจสีเขียวแห่งจันทบุรี ข่าวที่สอง “ทูตไทยจับมือวิทยุการบิน” รวมพลังเกาหลีมาเที่ยวไทยไฮซีซั่น 60 ไฟลต์/วัน

 

ท่องเที่ยว –หนาวนี้สุขทันทีที่เมืองเลย“ภูหลวง-ภูเรือ-ภูหอ-เชียงคาน”

 

หนาวนี้ที่เมืองเลย ออกเดินทางเที่ยวธรรมชาติสวย ๆ ขึ้นชื่อในอีสาน เปิดจุดเช็คอินเพื่อชวนไปชม ลานเมเปิล ทุ่งดอกบัวดอง ภูหอ-ฟูจิเมืองเลย กางเต็นท์รอพระอาทิตย์ขึ้นและตกในอุทยานแห่งชาติภูเรือ และตักบาตรทำบุญเชียงคาน วิถีชุมชนริมโขง ได้ตลอดตั้งแต่ปลายปี 2568 ไปจนถึงต้นปี 2569 ปักหมุดเที่ยวเมืองเลย 5 พิกัด

 

พิกัดที่ 1 “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง(โคกนกกระบา)” อำเภอภูเรือ ไปชมความสวยงาม “ใบเมเปิลแดง” สวยงามร่วงหล่นบนผืนดินใน อ.ภูเรือ  มีให้เห็นทั่วบริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าแห่งนี้ สีแดงสดสวยงามล้อมรอบศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เส้นทางศึกษาธรรมชาติเฉลิมพระเกียรติ

 

“เที่ยวง่ายมาก” เพียงแค่นักท่องเที่ยวจอดรถแล้วเดินเท้าเข้าไประยะทางไม่ไกล ในรัศมีโดยรอบไม่เกิน 200 เมตร ตอนนี้ตรงทางขึ้นหน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา ทางอุทยานกำลังซ่อมแซมถนนบางช่วง แนะนำระมัดระวังการสัญจรด้วย

 

“ค่าธรรมเนียม” เข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท รถยนต์สี่ล้อ 60 บาท รถจักรยานยนต์ 30 บาท

 

พิกัดที่ 2 ชมฟูจิเมืองเลย นั่งรถอีแต็กท้องถิ่นจ่ายค่าบริการคนละ 60-80 บาท ลัดเลาะเนินเขาไปตามเส้นทางฝั่ง “ภูป่าเปาะ” อ.หนองหิน หรือบริเวณหลังอานม้า - ผาชูธง อ.ภูหลวง ดื่มด่ำวิวธรรมชาติและทุ่งดอกไม้แบบพาโนรามา 360° ทอดสายตาไกลออกไปจะได้เห็นภูหอ ภูเขาที่มีลักษณะคล้ายภูเขาไฟฟูจิของญี่ปุ่น ส่วนทะเลหมอกยามเช้า และพระอาทิตย์ขึ้น/ตก ก็สวยงามไม่แพ้ที่ใด

 

โทร : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง 06 4024 0743 หรือ ททท.สำนักงานเลย 0 4281 2812

 

พิกัดที่ 3 ชมดอกบัวตอง เหลืองอร่ามบนถนนทางเข้าสวนหินผางาม สัมผัสความงามตามธรรมชาติในตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน ที่ได้ชื่อว่า “คุนหมิงเมืองเลย” ด้วยแนวผาหินปูนสูงใหญ่ทอดยาวอยู่กลางทุ่งหญ้าสีเขียว บริเวณภายในจะมีเส้นทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับเหมือนได้ผจญภัยอยู่ในเขาวงกต แต่บางช่วงก็ต้องปีน หรือมุดลอดเข้าไปในโพรงถ้ำ

 

พิกัดที่ 4 อุทยานแห่งชาติภูเรือ : สัมผัสการท่องเที่ยวชมธรรมชาติ กางเต็นท์พักค้างคืน ยามเช้าดูพระอาทิตย์ขึ้น หยิบหยอกทะเลหมอกทั้งในอุทยานแห่งชาติภูเรือ และบริเวณ “ผาโหล่นน้อย”  กลางวันชมวิวป่าเต็งรัก และยามเย็นปีนป่ายไปยังจุดชมวิวสูงสุดในอุทยานและเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก

 

ช่วงเวลาท่องเที่ยว : สามารถขึ้นไปสัมผัสธรรมชาติบนยอดภูเรือได้ตลอดทั้งปี ช่วงฤดูหนาวจะมีดอกไม้และพระอาทิตย์ขึ้นกับลับขอบฟ้าที่สวยงาม

 

พิกัดที่ 5 เชียงคาน : สัมผัสวัฒนธรรมริมโขง ตักบาตรเช้า ชมวิวภูเขา เดินชมวิถีชีวิตชุมชน ร่วมทำกิจกรรม D.I.Y.เลือกรับประทานอาหารถิ่น พักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์

 

หนาวนี้มาเช็คอิน “เมืองเลย” สักครั้ง แล้วจะรู้ว่า เที่ยวเมืองไทย ได้ความคุ้มค่ามากกว่าที่คิด ด้วยประสบการณ์หนึ่งเดียวในโลกทั้ง 365 วัน

 

สุขภาพ –มูลนิธิโรนัลด์แมคโดนัลด์มีที่พักฟรีครอบครัวเด็กป่วย4รพ.

 

มูลนิธิ โรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ ประเทศไทย มอบสิ่งที่ดี ๆ ให้ “ครอบครัวต่างจังหวัด” พาเด็กผู้ป่วยมารักษาตามโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ พ่อแม่สามารถใช้บริการฟรีได้ ที่ “บ้านพักพิงโรนัลด์ แม็คโดนัลด์ เฮาส์” เป็นที่พักชั่วคราวให้ครอบครัวผู้ป่วยเด็ก เปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยพ่อแม่แต่ละครอบครัวได้อยู่เคียงข้างลูกช่วงเวลาวิกฤต ดูแลได้ สำหรับครอบครัวที่พาเด็กเจ็บป่วยมายัง 4 โรงพยาบาลนี้ ได้แก่

 

1. สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) จ.กรุงเทพมหานคร

2. รพ.นพรัตนราชธานี จ.กรุงเทพมหานคร

3. รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จ.กรุงเทพมหานคร

4. รพ.ศิริราช จ.กรุงเทพมหานคร

 

มูลนิธิ โรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ ก่อตั้งปี 2517 ดำเนินกิจกรรม 3 โครงการหลัก ได้แก่

 

1. สร้างและปรับปรุงห้องสันทนาการ (Ronald McDonald Playroom) ให้เด็กที่เจ็บป่วยหรือเด็กด้อยโอกาสในสถานดูแลเด็ก ได้ใช้ผ่อนคลายหรือทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว ระหว่างเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ปัจจุบันมีห้องดังกล่าว ในโรงพยาบาลของรัฐ 40 ห้อง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

 

2. หน่วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่โรนัลด์ แมคโดนัลด์ (Ronald McDonald Dental Care Unit) ภายใต้โครงการ “สุขภาพดีใต้ร่มพระบารมี”

 

3. บ้านพักพิงโรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ เพื่อครอบครัวผู้ป่วยเด็กและครอบครัว (Ronald McDonald House)

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –“ททท.-อสมท.”ชูเที่ยวบ้านทุ่งเพลลมหายใจสีเขียวจันทน์

 

นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นำ ททท.จับมือกับ พันธมิตร บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (MCOT) เปิดตัวเส้นทางต้นแบบการท่องเที่ยวยั่งยืน ลมหายใจสีเขียวแห่งจันทบุรี – Green Breath of Chanthaburi” จัดทริปพิเศษด้วยแนวคิด 5 Green ผสานการอนุรักษ์ธรรมชาติวัฒนธรรม ผลักดันชุมชนบ้านทุ่งเพล อ.มะขาม แหล่งท่องเที่ยวสีเขียว (Green Tourism) โดยจะเปิดรับ 30 ที่นั่ง ออกเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวยั่งยืนด้วยกัน ระหว่างวันที่ 5–7 กุมภาพันธ์ 2569 

ททท. เลือกจันทบุรีหนึ่งในภูมิภาคตะวันออกที่มีศักยภาพโดดเด่น มุ่งขับเคลื่อนให้เป็นจุดหมายปลายทางของคนทุกวัยสามารถมาเติมพลังใช้ชีวิตแบบช้า ๆ เพื่อการพักผ่อน Slow Life- Slow Travel การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนได้ทุกมิติ รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม

โดยได้นำร่องเปิดเส้นทาง ลมหายใจสีเขียวแห่งจันทบุรี – Green Breath of Chanthaburi” ผ่านแนวคิด 5 Green  ได้แก่

Green Logistics  ส่งเสริมการเดินทางอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Green Gastronomy  ยกระดับอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาล

Green Activities กิจกรรมไฮไลต์ การตักบาตรใบไม้ เดินป่าชมต้นไม้ยักษ์ กิจกรรมลด ละ พลาสติก

Green Accommodation ส่งเสริมที่พักที่บริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน

Green Heart ความรับผิดชอบต่อธรรมชาติและชุมชน

 

นายสุวิทย์ ทรัพย์มหาอุดม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักวิทยุ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  สถานีวิทยุ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) “MCOT” ส่วนภูมิภาค ได้ดำเนินนโยบาย “MCOT Radio Go Green” มุ่งเรื่องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านบทบาทของสื่อมวลชนด้วยวิธีสื่อสาร สร้างความตระหนักรู้ และส่งเสริมให้สังคมเห็นคุณค่าการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและรับผิดชอบ ปี 2569 จะเป็นปีที่ 4 ของ MCOT Radio Go Green  แล้ว ทาง บมจ.อสมท  ตั้งเป้าหมายสร้างการรับรู้ ทำประชาสัมพันธ์เรื่องราวของ ชุมชนยั่งยืน ด้านต่าง ๆ

โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่ในเขตบริการของสถานีวิทยุ บมจ.อสมท เช่น ชุมชนบ้านทุ่งเพล จ.จันทบุรี เป็นชุมชนที่สร้างความยั่งยืนด้านการท่องเที่ยว และอยู่ในเขตบริการของสถานีวิทยุ อสมท จังหวัด จันทบุรี F.M. 95.25 MHz. การเข้ามาเป็นพันธมิตรในโครงการนี้  จึงสอดคล้องกับพันธกิจของ MCOT ในฐานะสื่อที่พร้อมสนับสนุนเรื่องราวเชิงบวกของเมืองไทย ในแหล่งท่องเที่ยวที่ผสานคุณค่าทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกัน

อสมท.จึงร่วมกับ ททท.จัดกิจกรรมท่องเที่ยวพิเศษ “Green Exclusive Trip: Green Breath of Chanthaburi” ระหว่าง 57 กุมภาพันธ์ 2569 รับจำนวนจำกัดเพียง 30 คน เปิดให้ผู้ร่วมเดินทางได้เรียนรู้และสัมผัสเส้นทางสีเขียวอย่างลึกซึ้ง ทั้งผืนป่า ลำธารธรรมชาติ และวิถีชีวิตของชุมชนทุ่งเพล อำเภอมะขาม ที่มีเรื่องราวประสบการณ์จากกิจกรรม Green Exclusive Trip โดยถ่ายทอดผ่านเครือข่ายสื่อ อสมท. ทั้งวิทยุและแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อขยายการรับรู้เกี่ยวกับเส้นทางท่องเที่ยวสีเขียว และช่วยยกระดับภาพลักษณ์จันทบุรีเป็น Green Destination นักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเข้าถึงได้

 

ข่าวที่สอง ทูตไทยควงวิทยุการบินดึงเกาหลีมาไทยไฮซีซั่น60ไฟลต์/วัน

 

นายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล เปิดเผยว่า สถานทูตไทย กับ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย ให้ความสำคัญเรื่องการเร่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยขอยืนยันถึง “ประเทศไทยยังคงมีความปลอดภัยสูง” กรณีเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวกับพื้นที่แนวเขตแดนอยู่ห่างกันมาก สาเหตุการเคลื่อนไหวเชิงรุกครั้งนี้ เนื่องจากมีข่าวเชิงลบในสื่อเกาหลีใต้และต่างประเทศ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความคลาดเคลื่อนด้านข้อมูลข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทยได้

 

สถานฑูตไทย ณ กรุงโซล แสดงความขอบคุณ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.)  ที่ได้ชี้แจงเรื่องแนวทางการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ เส้นทางบินระหว่าง “ประเทศไทย-เกาหลีใต้ ไม่ได้รับผลกระทบต่อความปลอดภัยทางการบิน โดยสร้างความเชื่อมั่นให้ชาวเกาหลีใต้ในการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยได้เป็นอย่างมาก

 

สำหรับการหารือกับ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญทางความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านการต่างประเทศ การท่องเที่ยว และความปลอดภัยทางการบิน รวมพลังกันส่งสัญญาณเชิงบวกไปยังนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เกิดความมั่นใจ “ประเทศไทยยังคงปลอดภัย พร้อมต้อนรับด้วยรอยยิ้ม และมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ รอให้มาสัมผัส” ตลอด 365 วัน

 

ขณะเดียวกันสถานทูตไทยยังได้ร่วมกับ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) วางแผนส่งเสริมการตลาดเชิงบวก หลังปีใหม่ 2569 โดยเตรียมเชิญ อินฟลูเอนเซอร์ กับ คอนเทนท์ ครีเอเตอร์ ชาวเกาหลีใต้ เดินทางมาเยือนไทย ร่วมมือกันสร้างสรรค์การผลิตเนื้อหาเชิงบวกผ่านสื่อออนไลน์ยอดนิยม  ถ่ายทอดประสบการณ์ท่องเที่ยว กระตุ้นความสนใจเจาะตรงเข้าสู่ “กลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่” สร้างภาพลักษณ์ใหม่เมืองไทยประเทศจุดหมายปลายทาง “Green Destination” มุ่งเน้นนำเสนอสินค้าและบริการ การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ วัฒนธรรม และความยั่งยืน สอดคล้องกับพฤติกรรมและตอบโจทย์ความต้องการปัจจุบันของนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ได้เป็นอย่างดี

 

“นายพิเชฐ  คุณาธรรมรักษ์” ประธานกรรมการ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) กล่าวว่าภายหลังเดินทางเยือนสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ได้นำเสนอภาพรวมเที่ยวบินระหว่าง “ไทย–เกาหลีใต้” มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีเที่ยวบินตรง ไป-กลับ ไทย-เกาหลีใต้ เพิ่มเป็น 60 เที่ยว/วัน จากปัจจุบัน 54 เที่ยว/วัน ทางวิทยุการบินได้เตรียมมาตรการบริหารจัดการจราจรทางอากาศและจัดเส้นทางบินอย่างรัดกุม เพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยใช้ศักยภาพบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ควบคู่เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ และมาตรการความปลอดภัยระดับสากล จึงขอยืนยันอีกครั้งถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย –กัมพูชา ไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยด้านการบินและการท่องเที่ยวในไทยอย่างแน่นอน

 

ทางวิทยุการบินฯ พร้อมสนับสนุนการสื่อสารข้อมูล “ด้านความปลอดภัยทางการบิน” สร้างความเข้าใจที่ดีต่อสาธารณชน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวและสายการบิน ช่วยผลักดันการท่องเที่ยวไทยทั้งตลาดในและต่างประเทศเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งปัจจุบันและอนาคต ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวกระจายรายได้สู่พื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศในทางที่ดี

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ททท.-รัฐเอกชนรับคาราวานทัวร์รถ/บิ๊กไบค์มาเลเซียบูมหาดใหญ่สงขลา สตูล-เร่งโปรโมท HATYAI NEW YEAR 2026

ททท.-รัฐเอกชนหาดใหญ่รับคาราวานทัวร์รถ/บิ๊กไบค์มาเลเซีย บูมสงขลา-สตูลโปรโมทเคาน์ดาวน์ HATYAI NEW YEAR 2026 ททท.นำรัฐเอกชนหาดใหญ่ต้อนรับคณ...