ททท.หวังเที่ยวไทยวันพ่อ5-7ธ.ค.นี้เงินสะพัดกว่าหมื่นล้าน
ภาคกลางโกยคน6แสน-ตะวันออกครองรายได้2.7พันล้าน
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #ท่องเที่ยววันพ่อ
ททท.คาดวันหยุดยาว วันพ่อแห่งชาติ 5-7 ธ.ค.68 “คนไทยเที่ยวในประเทศ”
2.52 ล้านคน 5 ภูมิภาค เงินสะพัด 10,320 ล้านบาท “ภาคกลาง” คนเที่ยวมากสุด 6.1 แสนคน “ภาคตะวันออก”
โกยรายได้มากสุด 2,720 ล้านบาท
แชมป์ “5 เมืองหลัก” กทม.-ชลบุรี-กาญจน์-เชียงใหม่-โคราช
แชมป์ “5เมืองน่าเที่ยว” สุพรรณบุรี-อุดร-เชียงราย-เลย-นครศรีฯ
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การททท.จัดทำคาดการณ์การเดินทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และวันพ่อแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 5-7 ธันวาคม 2568 คาดจะมีผู้เยี่ยมเยือนคนไทย 2.52 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียน10,320 ล้านบาท มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย
68 % เป็นแนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวที่ดี เพราะเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่องและสภาพอากาศเย็นลง
ผนวกมีแรงหนุนจากภาครัฐทำโครงการ ทั้ง “เที่ยวดี มีคืน” และ “คนละครึ่ง
พลัส”ช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเงินและเดินทางภายในประเทศเพิ่มขึ้น แบ่งเป็นอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่เกิดจากนักท่องเที่ยวไทย42
% กระจายตัวดังนี้
● ภูมิภาคที่จะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพักมากที่สุด
3 อันดับแรก คือ 1.ภาคกลาง 612,700 คน-ครั้ง 2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 526,800 คน-ครั้ง 3.ภาคตะวันออก
516,500 คน-ครั้ง
● ภูมิภาคที่จะมีรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ 1.ภาคตะวันออก 2,720 ล้านบาท
2.ภาคเหนือ 1,960 ล้านบาท 3.ภาคกลาง 1,600 ล้านบาท
● จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมช่วงวันหยุด
5-7 ธันวาคม 2568
ประกอบด้วย
“5 อันดับเมืองหลัก” ที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่มากที่สุด
ได้แก่ กรุงเทพมหานคร
ชลบุรี กาญจนบุรี เชียงใหม่ และนครราชสีมา
“5 อันดับเมืองน่าเที่ยว” ที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่มากที่สุด
ได้แก่ สุพรรณบุรี
อุดรธานี
เชียงราย เลย และนครศรีธรรมราช
● พฤติกรรมการเดินทางช่วงวันหยุด จะเดินทางระยะใกล้ เพื่อพาครอบครัวไปท่องเที่ยว
พักผ่อน รับประทานอาหาร ไหว้พระทำบุญเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ
ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9
สอดคล้องกับข้อมูลผลสำรวจของ
“สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” คนไทยวางแผนการเดินทางไตรมาส 4/2568 มีแผนเดินทางช่วงวันหยุดเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ
ปีนี้ 56 % ส่วนใหญ่เลือกท่องเที่ยวในจังหวัดตัวเองและใกล้เคียงมากกว่าข้ามภูมิภาคคือ
“เที่ยวในจังหวัดตัวเอง”
23 % ไปจังหวัดใกล้เคียงแต่ไม่พักค้าง 25 % และพักค้างคืน
5 %
ส่วนการเดินทางข้ามภาคมีเพียง 3 % ทำให้ธุรกิจร้านอาหารและที่พัก มีแนวโน้มได้รับผลดีที่สุด
“ปัจจัย” ที่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวในประเทศในวันพ่อแห่งชาติ
ปี 2568
● ปัจจัยสนับสนุน ประกอบด้วย
1.มาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ
เช่น มาตรการภาษี
“เที่ยวดี มีคืน” ที่ให้สิทธิ์นำค่าที่พัก ค่าอาหารมาใช้หักภาษีบุคคลธรรมดา
และค่าใช้จ่ายการอบรมสัมมนามาใช้หักภาษีนิติบุคคล ได้ตามจริง จึงช่วยกระตุ้นบรรยากาศ
กลับมาคึกคักทั้งในเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว และมี โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ช่วยลดภาระค่าครองชีพ
คาดจะเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในแหล่งท่องเที่ยว
2. การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวค่อนข้างหลากหลาย
ปลายปี 2568 โดย ททท.
และพันธมิตรในพื้นที่ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ช่วยให้นักท่องเที่ยวเกิดการเข้าร่วมกิจกรรมตามความสนใจ
เช่น
-“Vijit
Chao Phraya 2025” ช่วง 9 พฤศจิกายน-23 ธันวาคม
-“Night
At The Museum Festival 2025” 4-28 ธันวาคม 68
-งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้าแคว
และงานกาชาด ประจาปี 2568 27 พฤศจิกายน- 7 ธันวาคม
-งานโครงการหลวง 2568
"ทศมมหาราชา พระมหากรุณานาการพัฒนาสู่ความยั่งยืน” จ.เชียงใหม่ 1-10 ธันวาคม 2568
-งานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติฯ
และพิธีขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและสายน้า ประจาปี 2568 จ. อุตรดิตถ์ 3-6 ธันวาคม
-งาน Huai Mahat Cowboy and Friends Fest จ.ระยอง 5-7
ธันวาคม
-การแข่งขันเรือใบPhuket King’s Cup Regatta จ.ภูเก็ต 30 พฤศจิกายน-6 ธันวาคม
-BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 15 มัน มงคล มาก
จ.นครราชสีมา 6-7 ธันวาคม
3.
สภาพอากาศเย็นลง โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวภาคเหนือกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คาด
นักท่องเที่ยวเดินทางสัมผัสลมหนาวชื่นชมธรรมชาติและทะเลหมอกตามยอดดอย/ยอดภูมากขึ้น
ตามข้อมูลของ Google Trends เมื่อ 15-27 พฤศจิกายน 2568 ที่pvfค้นหาที่เที่ยวหน้าหนาวเพิ่มขึ้นมาก เช่น แม่กาปอง ภูเรือ ดอยช้าง
ดอยอินทนนท์ เขายายเที่ยง เขาค้อ แม่ฮ่องสอน เชียงคาน
4.การท่องเที่ยวทางรถไฟในช่วงวันหยุด
เช่น ขบวนรถนาเที่ยว Royal Blossom มีโปรแกรมให้เลือกอย่าง “เที่ยวทุ่งทานตะวัน นั่งรถไฟลอยน้ำ
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” เช้าไป-เย็นกลับ 6-7 ธันวาคม ขบวนรถ KIHA 183 จัด “ยลวิถีของดีริมราง เที่ยวงาน “สะพานข้ามแม่น้าแคว” 2 วัน 1 คืน 6-7
ธันวาคม และขบวนหัวรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์เนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติ เส้นทาง:
กรุงเทพ–ชุมทางฉะเชิงเทรา–กรุงเทพ 5 ธันวาคม นี้
“ปัจจัยอุปสรรค” ก็มีผลทำให้การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้รับผลกระทบบ้าง
คือ
1.ค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง
กับความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจและความไม่มั่นคงทางรายได้
ทำให้คนไทยระมัดระวังเลือกใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ส่งผลต่อการท่องเที่ยว จากข้อมูลผลการสำรวจ
“ภาวการณ์ใช้จ่ายของผู้บริโภค” ประจำเดือนตุลาคม 2568 ของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า ดัชนีความเหมาะสมใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวยังอยู่ในระดับต่ำ
ช่วงเดือน ตุลาคม 2568 มีค่าอยู่ที่ 73.0 แสดงว่าผู้บริโภคมีความเห็นยังเป็นช่วงเวลาไม่เหมาะสมใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว
2.คนไทยเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ
เดือนธันวาคมนิยมไปเดินทางไปต่างประเทศมาก
เพราะมีวันหยุดหลายช่วง และกลุ่มคนวัยทำงานใช้วันลาพักร้อนใกล้สิ้นปี สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
(สตม.) มีสถิติคนไทยเดินทางต่างประเทศรายวัน ปี 2567 ช่วงวันหยุดเฉลี่ยวันละ
48,400 คน “สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” ทำข้อมูลแผนคนไทยเดินทาท่องเที่ยวต่างประเทศ
มาส 4 ปี 2568 จะมีคนไทยเดินทางออกเพิ่มขึ้น ด้วยค่าเงินบาทแข็ง ส่วนใหญ่นิยมเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
เช่น เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไต้หวัน มาเลเซีย
3.
ผลกระทบจากอุทกภัยในภาคใต้ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 ทำให้พื้นที่ท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหลายจังหวัดทางภาคใต้ตอนล่าง
โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา
และต้องใช้เวลฟื้นฟูโรงแรมที่พักและแหล่งท่องเที่ยว บวกกับสภาพอากาศยังแปรปรวน
มีฝนตกเป็นช่วง ๆ ส่งผลให้การท่องเที่ยวภาคใต้ช่วงวันหยุดนี้ชะลอตัวลง





ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น