3จังหวัดชายแดนใต้เปิด “สูตรสำเร็จรับมือภัยพิบัติน้ำท่วม”
โมเดล“ปัตตานี-ยะลา-นรา”ชุดความรู้เชื่อมพื้นที่-รัฐ-เอกชน
เครือข่าย 3 มหาวิทยาลัยชายแดนใต้ "ปัตตานี ยะลา นราธิวาส"เปิดสูตรสำเร็จรับมือภัยพิบัติน้ำท่วม
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #สูตรสำเร็จรับมือภัยพิบัติน้ำท่วม #โมเดล3จังหวัดชายแดนใต้
เครือข่าย
3 มหาลัยชายแดนใต้ ได้งบ บพท.หนุนทำโมเดล “ปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส”
โชว์สูตรสำเร็จด้วยแพลตฟอร์มชุดความรู้สู้ภัยพิบัติน้ำท่วม ชูระบบเชื่อมโยงครบวงจร
ทีมอาสาสู้ภัย 8 ชุด เชื่อมกลไกรัฐ เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุสั่งการเรียลไทม์
ประสานเครือข่ายนักจัดการพัฒนาเชิงพื้นที่
“ผศ.ดร.อรุณีวรรณ
บัวเนี่ยว” รองอธิการบดี
ฝ่ายวิจัยและพันธกิจสังคม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (มอ.ปัตตานี)
เปิดเผยว่า การจัดเตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุอุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ “ปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส” ทาง มอ.ปัตตานี
มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (มรภ.ยะลา) มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ (มนร.)
ได้หลอมรวมข้อมูลความรู้จากงานวิจัยเข้าด้วยกัน พัฒนาเป็น “แพลตฟอร์มบูรณาการเพื่อการพัฒนาพื้นที่”
ด้วยเงินสนับสนุนจาก “หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่” (บพท.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) รวมทั้งได้เชื่อมโยงความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่
ครบ 3 ภาคส่วน คือหน่วยราชการ เอกชน และภาคประชาสังคม ผนึกสร้างการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่รับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม
และสถานการณ์ภัยพิบัติทุกรูปแบบ
"แพลตฟอร์มบูรณาการเพื่อการพัฒนาพื้นที่” นำมาใช้เป็นกลไกหลักรับมือสถานการณ์น้ำท่วมอย่างเป็นระบบ
โดยมีกำลังคนกลุ่มคณาจารย์ นักศึกษา และบุคลาการ 3 มหาวิทยาลัย ทำงานร่วมกันถึง 30,000 คน เกือบทุกคนเป็นผู้มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ รู้จักพื้นที่
ตลอดจนวิถีชีวิตคนพื้นที่อย่างดี เป็นปัจจัย “ความสำเร็จ” ในการรับมือภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งนี้
ผศ.ดร.อรุณีวรรณ
ยืนยันว่า ปัจจัยความสำเร็จอีกส่วนคือการทุ่มเททำงานกันแบบจิตอาสา
สืบสานพระราชปณิธาน “จิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ" ของในหลวงรัชกาลปัจจุบัน พร้อมกับจัดระบบระเบียบการทำงาน
แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบแต่ละด้าน แบ่งเป็น 8 ทีม ประกอบด้วย 1.ทีมข้อมูลสถานการณ์น้ำ
2.ทีมข้อมูลสถานการณ์พื้นที่ 3.ทีมรับบริจาค 4.ทีมปฏิบัติการพื้นที่ 5.ทีมครัวเฉพาะกิจ
6.ทีมสื่อสารและประสานงาน 7.ทีมเทคโนโลยีภัยพิบัติ และ 8.ทีมวิเคราะห์ประเมินผลกระทบจากสถานการณ์
ทำงานเชื่อมโยงกับกลไกราชการ และชุมชนในพื้นที่ ถือเป็นกุญแจสำคัญยิ่งของการรับมือภัยพิบัติ
ยิ่งไปกว่านั้นยังให้ความสำคัญกับการให้ความรู้กับชุมชนเรื่องการเผชิญเหตุรับมือกับภัยพิบัติได้ด้วยตัวเอง ผ่านเครือข่ายนักจัดการงานพัฒนาเชิงพื้นที่ ตามคำแนะนำผู้ทรงคุณวุฒิของ
บพท. โดยมี ผศ.ดร.สมพร ช่วยอารีย์
ผู้อำนวยการสำนักวิทยบริการ มอ.ปัตตานี เป็นวิทยากรหลักแนะนำเรื่องการรับมือภัยพิบัติ
ปี 2568 เหตุการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปัตตานี
ได้ประสานความร่วมมือระหว่าง มอ.ปัตตานี กับนางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี
เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการแก้ปัญหาน้ำท่วมแบบเรียลไทม์ พร้อมบอกกล่าวเครือข่ายนักจัดการงานพัฒนาเชิงพื้นที่ในปัตตานีทั้ง
12 อำเภอ ให้ยกระดับการรับมือภัยพิบัติอุทกภัย
“ผศ.ดร.เกสรี
ลัดเลีย” รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวิชาการ
มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา อธิบายเพิ่มว่าการปฏิบัติงานจริงภายใต้ “แพลตฟอร์ตบูรณาการเพื่อการพัฒนาพื้นที่”
ในการรับมือภัยพิบัติน้ำท่วม มีข้อค้นพบเพิ่มเติมถึงประเด็นการบริบาลผู้ป่วย
รวมถึงการผดุงครรภ์ เป็นโจทย์ที่ถูกนำเข้ามาใช้แก้ไขให้ลุล่วงได้ด้วย
“รศ.ดร.วสันต์
พลาศัย” รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
กล่าวว่า การขับเคลื่อนงานรับมือภัยพิบัติน้ำท่วมด้วย “ชุดความรู้จากการวิจัย” ได้ออกแบบไว้ดี
สร้างการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในพื้นที่ โดยมี “ผู้ว่าราชการจังหวัดกับนายกเทศมนตรี”
เป็นกลไกหลัก ทำให้การรับมือกับภัยพิบัติน้ำท่วมทั้งใน ปัตตานี-ยะลา และนราธิวาส
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมความเสียหายให้อยู่ในวงจำกัด
ผมหวังให้โมเดลทั้ง
3 จังหวัด ปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส” ได้พิสูจน์ผลสัมฤทธิ์การรับมือภัยพิบัติน้ำท่วม
โดยน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้หน่วยงานระดับนโยบาย ผลักดันงานป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติ
ให้เป็นพันธกิจสำคัญของมหาวิทยาลัย เพราะเป็นหน่วยงานที่มีความพร้อมทั้งความรู้
วัสดุอุปกรณ์ กำลังบุคลากร สามารถปฏิบัติได้ทันท่วงทีต่อไป






ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น