ผู้นำททท.เปิดโรงงานความรู้28หลักสูตรฟื้นอุตฯท่องเที่ยวไทย จัดทัพหน้ามาตรฐานSHAต้อนรับอินบาวนด์โมเดลปลายต.ค.นี้
ผู้นำททท.เปิดโรงงานความรู้28หลักสูตรฟื้นอุตฯท่องเที่ยวไทย
จัดทัพหน้ามาตรฐานSHAต้อนรับอินบาวนด์โมเดลปลายต.ค.นี้
คิงเพาเวอร์อัดโปรบิ๊กล็อต15-18ต.ค.63ดึงจีนแห่ช้อปออนไลน์
คิงเพาเวอร์แจกใหญ่ช้อปDelights & Surprises 4 สิทธิพิเศษ
ททท.ผนึกLineเปิดฟรีMyShopชวนขายทัวร์Workation-SHA
ททท.เปิดถนนคนเดินกระตุ้นท่องเที่ยวนครนายก23-25ต.ค.นี้
TCEBจัดไทยไมซ์คอนเน็คปลุกตะวันออกร่วมe-Marketplace
More Food&Fun เที่ยวระยองแสนปลอดภัยมั่นใจไปกับSHA
เคล็ดลับ7ทางเลือกกินแบบถูกวิธีให้ได้สุขภาพดีมีชีวิตที่ยืนยาว
DDบินไทยเท2โครงการสมัครใจลาออกเร่งลงชื่อภายในสิ้นปี’63
การบินไทยรุกขายอีโคพลัสเที่ยวบินพิเศษลอนดอน-กรุงเทพฯ
สิงคโปร์-ฮ่องกงMOUแล้วTravel Bubbleเที่ยวระหว่างประเทศ
ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #TATSkillFactory28หลักสูตรฟื้นเที่ยวไทย #DDบินไทยเท2โครงการให้สต๊าฟสมัครใจลาออกสิ้นปี63
ช่วงที่
1 เกาะติดทัพท่องเที่ยวกับ
“ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดมหกรรมเดือนตุลาคมนี้ด้วย “TAT Skill Factory”
โรงงานองค์ความรู้ท่องเที่ยวซ่อมสร้างฟื้นฟู 3 กลุ่มหลัก
“ผู้ประกอบการ-ชุมชน-ธุรกิจขนาดใหญ่” ทั่วไทยร่วมอบรมใหญ่ออฟไลน์ ออนไลน์ Hard& Soft Skill 28
หลักสูตร เปลี่ยนกลยุทธ์ 360 องศา รับมือตลาดวิถีใหม่ กระตุ้น ททท.5ภูมิภาคชูธีม
More Healthy เที่ยวเชิงสุขภาพ
ผนวก SHA
พร้อมเปิดโมเดล “ตลาดต่างชาติเข้าไทย” ปลายตุลาคมนี้ ชิมลางนำเข้าแบบจำกัดเดือนละ 1,200 คน
ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้
ททท.เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการใหม่ TAT Skill Factory ทำขึ้นเพื่อต้องการให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนให้ทันต่อสถานการณ์ไวรัสโควิด-19
ซึ่งจะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไปอย่างสิ้นเชิง หลัก ๆ
จะเป็นด้านองค์ความรู้และแนวทางการพัฒนาตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยด้วยตราสัญลักษณ์
Amazing Thailand Safety
& Health Administration : SHA ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมอบรม
พร้อมการสัมมนาวิถีใหม่ New
Normal ผ่านออฟไลน์และออนไลน์
เน้นไปยังเป้าหมาย
3
กลุ่มหลัก ตั้งแต่ 1.ประชาชนในชุมชน
2.ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก
SMEs หรือผู้มีประสบการณ์ท่องเที่ยว
3.บริษัทหรือองค์กรขนาดใหญ่และหน่วยงาน
โดยทั้งหมดนี้จะทำเป็นหลักสูตร Hard Skill 13 หลักสูตร และ Soft Skill 15
หลักสูตร
ททท.หวังว่าโครงการ
TAT Skill Factory จะเป็นการซ่อมสร้างให้ผู้ประกอบการมีความเข้มแข็ง
แล้วกลับมาร่วมกันฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้มีความเข้มแข็งในปี 2564
นี้ให้ได้
ความเข้มข้นของหลักสูตร
Hard Skill กับ Soft Skill เนื้อหาจะมีความหลากหลายพัฒนาทักษะเชิงลึก
จัดการการลงทุนและดิจิทัลด้วย การตลาด นวัตกรรมการท่องเที่ยว
หลักสูตรเหล่านั้นได้วิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันชั้นนำ จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย
โดยเฉพาะในต่างจังหวัดด้วย ซึ่งจะใช้เวลาอบรมสัมมนากระจายไปยัง 5
พื้นที่ กลางเดือนตุลาคมจะไปยังภาคเหนือ เชียงใหม่ ปลายเดือนตุลาคม ไปชลบุรี
ขอนแก่น ต้นเดือนพฤศจิกายนไปภูเก็ต แล้วจะมาจบลงวันที่ 11-12 พฤศจิกายน
นี้ ในกรุงเทพฯ ที่โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์
นอกจากนี้ยังมีอบรมออนไลน์ผ่าน
webinar
สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.thailandtourism.org /tatskillfactory มีรวม 10 ครั้ง
โดยไม่จำกัดจำนวนคนเพราะ
webinar รองรับได้ครั้งละจำนวนมาก
จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการเข้ามาร่วมโครงการมาก ๆ เพราะครั้งนี้ ททท.ตั้งใจทำให้เป็นเสมือนโรงงานองค์ความรู้สำหรับผู้ประกอบการ
ซึ่งคาดจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย
ดร.ยุทธศักดิ์กล่าวว่าสัญญาณภาพรวมทางการตลาดท่องเที่ยวค่อนข้างดี
เพราะปัจจัยหลัก 1.เข้าสู่ฤดูหนาวเร็วเป็นแรงจูงใจให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยว
2.รัฐบาลประกาศขยายโครงการเราเที่ยวด้วยกันจากธันวาคมนี้ไปเป็น
31 มีนาคม
2564 ความตั้งใจจะให้คนไทยท่องเที่ยวปลายปี
3.การเปิดประเทศนำเข้าต่างประเทศได้
ส่วนการแต่งตั้งผู้อำนวยการภูมิภาคตลาดในประเทศอีก
3 ภูมิภาค
ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคกลางใต้ จะเข้ามาช่วยตลาดการท่องเที่ยวเป็นภารกิจสำคัญ
แบ่งเป็น 2 ระยะ
ได้แก่ ระยะที่ 1 ฟื้นฟูการท่องเที่ยว
ตุลาคม -ธันวาคม
2563 จะต้องวิธีเพิ่มความถี่ให้คนออกเดินทาง
หลังจากนั้นจะต้องเสริมทัพด้วยมาตรการ “กระตุ้นการเดินทาง”
เน้นเพิ่มค่าใช้จ่ายมากขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ MORE อาทิ ภาคกลางชู More Legacy , ภาคอีสานเน้น
More Gastronomy แล้วจะให้ทุกภูมิภาคเพิ่มความเข้มข้นใหม่เรื่อง
More Healthy ทำให้คนไทยหันมาท่องเที่ยวอย่างใส่ใจสุขภาพภายใต้สถานการณ์ไวรัสโควิด-19
สำหรับการกระตุ้น
“การท่องเที่ยว วันธรรมดา” วันจันทร์-พฤหัสบดี” ทุกสัปดาห์
ตามนโยบายของรัฐบาลและนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ก็เน้นให้เดินหน้ากระตุ้นคนออกมาท่องเที่ยววันธรรมดาเพิ่มขึ้น
ดูจากสถิติคนไทยยังคงทำเหมือนเดิมคือเที่ยววันหยุดเสาร์-อาทิตย์
ผนวกกับเกิดสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ก็ยิ่งหนักมากขึ้น
ดังนั้น
ททท.ต้องหาวิธีจับปลาให้ถูกบ่อหรือเจาะกลุ่มเป้าหมายที่สามารถท่องเที่ยววันธรรมดาได้
โดย ททท.จะประชุมร่วมกับสมาคมธุรกิจนำเที่ยวในประเทศ เพื่อ 1.นำกลุ่มผู้สูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรงมีกำลังการใช้จ่ายสูงไปเติมวันธรรมดามากขึ้น
2.มีโครงการกระตุ้นการเที่ยววันธรรมดาที่ได้มูลค่าไม่ใช่เรื่องราคาเพียงอย่างเดียว
ซึ่งจะต้องทำอย่างจริงจังในช่วงสถานการณ์ตอนนี้
กลยุทธ์ที่จะสร้างแรงจูงใจให้คนออกมาเดินทางท่องเที่ยววันธรรมดาคือ
“ค่านิยม” เรื่องประสบการณ์บริการที่ดีกว่า ไม่ต้องไปแออัด
หรือคนส่วนใหญ่อาจจะมีเหตุผลต้องไปพร้อมกันเป็นครอบครัวช่วงวันหยุด แต่เหตุและปัจจัยเหล่านี้ก็สามารถบริหารจัดการได้
รวมทั้งยังมีกลุ่มองค์กรและบริษัทอีกหลายแห่งสามารถนำคอนเซ็ปต์การ work from home มาใช้
อาจจะเปลี่ยนเป็น Work
from Every Where เปลี่ยนทุกสถานที่ให้เป็นที่ทำงานได้
เป็นความพยายามที่ ททท.จะต้องทำต่อไป
รวมทั้งโครงการ
Workation Thailand
สามารถจะนำมาเชื่อมโยงกับการกระตุ้นวันธรรมดาได้ เพราะมีหลายรูปแบบอยู่ในแท่งใหญ่
หนึ่งในจำนวนนี้ก็มี Work
from Every Where
ภาพรวมโครงการใหญ่คือดึงบริษัทและองค์กรขนาดใหญ่มาเหมาซื้อห้องพักเป็นล็อตใหญ่เพื่อไปแจกพนักงานชวนกันออกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่
Outing โดยเฉพาะใน
working from every where
จะมีการสร้างช่องทางไฮบริดเพิ่มเข้ามาด้วย ให้พนักงานสามารถทำงานได้ทุกที่
ซึ่งสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยววันธรรมดาควบคู่กันไปด้วย
ขณะนี้มี
ปตท.เข้าร่วมนำร่องโครงการ Workation Thailand ล่าสุดทางคุณสุพันธุ์
มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ยืนยันจะเข้ามาช่วยด้วยอีกองค์กร
ซึ่งเป็นภาพที่ดีและภาพอันงดงามที่ทุกฝ่ายจะร่วมด้วยช่วยกัน
ดร.ยุทธศักดิ์
กล่าวว่า
เรื่องการเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ย้ำชัดจะเปิดประเทศอย่างจำกัด เป็นขั้นตอน
เพราะสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญมากที่สุดคือการสร้างความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนคนไทย
ระมัดระวังไม่ให้เกิดการระบาดซ้ำไม่ว่าจะจากคนในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม
เพราะเป็นเรื่องที่ผู้คนส่วนใหญ่กังวล
เนื่องจากว่าทุกฝ่ายร่วมมือกันทำให้สถานการณ์ผ่านการติดเชื้อมาได้จึงทำให้คนตระหนักมาก
หัวใจสำคัญของการ
“นำเข้านักท่องเที่ยวอย่างจำกัด” นั้นจะต้องเริ่มตั้งแต่ต้นทาง ขั้นที่ 1
คัดเลือกจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ
หมายถึงปลอดเชื้อโรคไม่มีผู้ติดเชื้อต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 28 วัน
หรือมากกว่านั้น ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก เช่นบางเมืองไม่มีผู้ป่วยมาเป็น 100 วัน
ขั้นที่ 2 นำมาตรฐานสาธารณสุขมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
ก่อนขึ้นเครื่องจากประเทศต้นทางต้องตรวจคัดกรองโควิด-19
มาก่อน แล้วพอมาถึงต้องตรวจซ้ำ ขั้นที่ 3 พอมาถึงเมืองไทยต้องตรวจโควิด-19
ซ้ำอีกครั้ง พร้อมกับกักตัวใน ASQ, :ALSQ :Alternative Location State Qualantine ขั้นที่
4
ติดตั้งแอพลิเคชั่น ติดตามตัวนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางเข้ามาประเทศ เพื่อให้รู้ความเคลื่อนไหวการเดินทางไปตามสถานที่ต่าง
ๆ ได้ตลอดเวลา ลดความเสี่ยง
รวมทั้งเป็นแนวทางที่นำมาใช้ปฏิบัติเช่นเดียวกันกับคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
เรื่องสำคัญที่สุดคือต้องได้รับการยินยอมจากพื้นที่นั้น
ๆ ด้วย ปัจจุบันจังหวัดที่มี ALSQ ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี
ภูเก็ต ดังนั้นคนที่จะเข้ามาต้องโดนกักตัวอย่างแน่นอน
ซึ่งจะเห็นได้ว่าคนที่เดินทางเข้ามามีศักยภาพการใช้จ่ายสูง
อันเป็นสาเหตุที่รัฐบาลได้ประกาศให้ออก Special Tourism Visa :STV ตามโควต้าการให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนน้อยมากเดือนละ
1,200 คน
เพราะหากย้อนไปดูปี 2563 มีนักท่องเที่ยวเดือนละ
3
ล้านคน
แต่จำนวนคนที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาจะเป็นการส่งสัญญาณถึงประสิทธิภาพการควบคุมแพร่ระบาดของโรคของคนไทย
ทำให้ประเทศอื่น ๆ เห็นว่าแม้ในเรื่องการท่องเที่ยวไทยก็สามารถดำเนินการได้
ดร.ยุทธศักดิ์ยืนยันว่าภายในเดือนตุลาคมนี้จะได้เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาอย่างแน่นอน
ด้วยการทำงานร่วมกับทางกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข
ต่างก็เตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี
ขณะเดียวกันการประสานกับพื้นที่ซึ่งมีหลายแห่งแสดงความจำนงจะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้
เมื่อย้อนไปดูสถิติปี 2562
มีต่างชาติ
39.8 ล้านคน
สร้างรายได้รวมทั้งหมด 3 ล้านล้านบาท
มาจากตลาดต่างประเทศ 2 ล้านล้านบาท
สิ่งที่เกิดขึ้นถ้าไม่สามารถดำเนินการเปิดประเทศ ผลกระทบคือ การจ้างงาน
รวมทั้งธุรกิจต่าง ๆ ปิดมาพอสมควรตั้งแต่ต้นปีก็อาจจะไปไม่รอด
สิ่งที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันทำก็เพื่อความอยู่รอดและปากท้องของประชาชน
ในปี 2564 เริ่มมีสัญญาณคนจะเริ่มตกงานค่อนข้างมาก
ททท.จะเข้าไปช่วยโดยหาตลาดเข้ามาทดแทนต่างชาติที่หายไป
โดยกางแผนที่เพื่อดูว่าจังหวัดใดต้องจัดลำดับเติมเต็มก่อนหลัง ควบคู่กับการนำตลาดต่างประเทศเข้ามาโดยเริ่มจากจำนวนจำกัด
ที่ผ่านมาโรงแรมเคยรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเฉลี่ย 80 % เมื่อได้รับผลกระทบก็สะเทือนไปถึงภาคผลิตในอาชีพการเกษตรกระทบในระบบซัพพลายเชนตามไปด้วย
ดังนั้น
ททท.จะต้องเร่งทำ เรื่องที่ 1 เติมตลาดคนไทยเดินทางเข้าไปท่องเที่ยว เรื่องที่
2 กระตุ้นตลาดต่างชาติพำนักในไทย
Expat ประมาณ
2 ล้านคน ออกเดินทางท่องเที่ยวไทย เรื่องที่ 3 กระตุ้นผู้ประกอบการปรับตัว
ในขณะที่อาจจะไม่สามารถเปิดห้องพักได้เต็มสเกล แต่เปิดได้สัก 20-30 % เพื่อประคองการจ้างงานให้อยู่ต่อไปได้
ขณะเดียวกันก็จะปลุกคนไทยที่เคยเดินทางต่างประเทศ
(outbound)
หันมาท่องเที่ยวในประเทศ โดยมีปัจจัยสำคัญที่สุดคือ เรื่องแรก ท่องเที่ยวปลอดภัย
มั่นใจไปกับ SHA เพราะคนส่วนใหญ่เดินทางเป็นครอบครัว
เรื่องที่สอง กระจายนักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางด้วยการขับรถท่องเที่ยว แต่
ททท.เองก็พยายามหลีกเลี่ยงเรื่องราคาขายด้วย
พยายามให้ผู้ประกอบการทำราคาให้อยู่ได้และดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วย เรื่องที่สาม
งบประมาณปี 2564 สามารถทำโครงการเดินทางได้อย่างเป็นรูปธรรมเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ตุลาคม
2563 เป็นต้นไป
ข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์อัดโปรบิ๊กล็อต15-18ต.ค.ดึงจีนช้อปออนไลน์
“นายอภิเชษฐ์
ศรีวัฒนประภา” ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่าไฮไลต์การจัดแคมเปญ Delights & Surprises จะเพิ่มสีสันความคึกคักจัดอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 15-18 ตุลาคม 2563 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และการเปิดเวทีรุกขายในตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีนไปพร้อม
ๆ กัน ผ่านช่องทางออนไลน์ Cross-border E-Commerce ผ่านแพลตฟอร์ม
“ไท่ไห่เถา” ของ คิง เพาเวอร์ ในจีน
วันที่ 15 ตุลาคม 2563
จะเป็นวันไฮไลต์การจัดมหกรรมขาย Delights & Surprises ทาง คิง เพาเวอร์
ลุยจัดกิจกรรมพิเศษนำ “มาริโอ้ เมาเร่อ” นักแสดงหนุ่มขวัญใจชาวจีนและคนไทย
มาเป็นแม่เหล็กดึงดูดแฟนคลับด้วยการเปิด Live Steaming ผ่านทาง
คิง เพาเวอร์ ออฟฟิเชี่ยล เฟชบุ๊ค :
King Power Official Facebook ควบคู่กับการส่งความคิดถึงจากเมืองไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน
ผ่านช่องทาง ‘เวยโป๋’ (Weibo) และ ‘วี แชท’ (WeChat)
เริ่มตั้งแต่เวลา17.00 น.เป็นต้นไป
เป็นการทำกิจกรรม ขอบคุณลูกค้า รวมทั้งมอบประสบการณ์ช้อปปิ้ง แนะนำโปรโมชั่นสุดคุ้มค่าในการซื้อบัตรกำนัลเงินสดหรือ
Cash Card พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ลูกค้าในไทยและจีนเข้าร่วมโปรแกรมช้อปปิ้งในโอกาสพิเศษกับคิง
เพาเวอร์ ไปพร้อม ๆ กัน
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ รายงานว่า เดินหน้าอัดฉีดโปรโมชั่นต้องห้ามพลาดเข้ามาเลือกช้อปสินค้าแบรนด์หรูคุณภาพดี
ผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มพิเศษ 4 วัน พร้อมจะมอบประสบการณ์ช้อปออนไลน์ภายในแคมเปญ
“Delights and Surprises ครบรอบ 31 ปี
ฉลอง 31 วัน ช้อปมันส์ วันไม่มีไฟลต์” ตลอด 4
วันเต็ม ระหว่าง 15-18 ตุลาคม 2563 ชวนกันเข้ามาเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทาง
www.kingpower.com และ คิง
เพาเวอร์ แอปพลิเคชั่น
โดยกลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ พร้อมมอบประสบการณ์คืนกำไรให้ลูกค้าอย่างคุ้มค่าทุกช่องทาง ตลอด 4 วัน และสามารถรับส่วนลดสูงสุด 30% เมื่อช้อปครบ 3,000 บาท รับส่วนลด On Top เพิ่ม 5 % เมื่อช้อปครบ 4,500
บาท รวมทั้งรับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย
ตลอด
4 วัน
ระหว่างวันที่ 15-18 ตุลาคม 2563 จะเปิดให้ลูกค้าได้เลือกซื้อสินค้ากลุ่มเอ็กคลูซีฟที่มีขายแห่งเดียวเฉพาะใน
“คิง เพาเวอร์” เท่านั้น มีทั้งสินค้าแบรนด์ กลุ่มเครื่องสำอาง นาฬิกา ความงาม
และอื่น ๆ ซึ่งเลือกซื้อได้ในราคาพิเศษสุด
ๆ ภายใน 1 ปี มีโอกาสเพียงครั้งเดียว โดยไม่ต้องมีเที่ยวบินระหว่างประเทศหรือไม่มีไฟลต์บินก็เข้าช้อปได้ง่าย
ๆ สบาย ๆ
ตลอดทั้งเดือน
ระหว่างวันนี้ – 31 ตุลาคม 2563 กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
ยังพร้อมขอบคุณลูกค้าที่ชื่นชอบการช้อปออนไลน์และแอพลิเคชั่น เพิ่มด้วยโปรโมชั่น
SUPER SURPRISES จัดดีลพิเศษสินค้าหมวดยอดนิยมทั้ง เครื่องสำอาง
น้ำหอม เสื้อผ้านาฬิกา จากแบรนด์ชั้นนำซื้อได้ในราคาดิวตี้ฟรี เช่น แบรนด์ SWAROVSKI,
SALVATORE FERAGAMO, MARC JACOB, KIPLING, DANIEL WELLINGTON, MICHAEL KORS, CASIO
และอีกมากมาย
ข่าวที่ 2
คิงเพาเวอร์แจกช้อปDelights &
Surprises4สิทธิพิเศษ
คิง เพาเวอร์ พร้อมมอบ 4 สิทธิพิเศษตลอดการช้อปอย่างคุ้มค่ามากกว่าทุกครั้ง เพราะตลอดแคมเปญ ครบรอบ 31 ปี ฉลอง 31 วัน ช้อปมันส์
วันไม่มีไฟลต์” ตั้งแต่วันนี้ -31 ตุลาคมนี้ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร พัทยา และภูเก็ต ที่ได้นำสินค้าลักชัวรี่แบรนด์มาเพิ่มมูลค่าการช้อปให้ลูกค้าทุกคนร่วมรับสิทธิพิเศษ
ดังนี้
สิทธิพิเศษที่
1 ซื้อบัตรกำนัลเงินสด Cash Card ทั้ง 4
สาขาหลัก ได้แก่ 1.คิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำ 2.คิง เพาเวอร์ มหานคร เมื่อซื้อ Cash Card มูลค่า 50,000
บาท รับเพิ่ม 12,500 บาท ส่วน 3.คิง เพาเวอร์ สาขาพัทยา และ 4.คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต
สามารถซื้อ Cash Card มูลค่า 3,000 บาท
รับเพิ่ม 500 บาท,
ซื้อ 6,000 บาท รับเพิ่ม 1,200
บาท ซื้อ 9,000 บาท รับเพิ่ม 2,000 บาท
และ ซื้อ 50,000 บาท รับเพิ่ม 12,500 บาท
สิทธิพิเศษที่ 2
ร่วมกิจกรรมพิเศษทั้ง 4 สาขา ลุ้นรับ Gift Voucher มูลค่า 3,100
บาท ตลอด 31 วัน และรับเพิ่มเมื่อช้อปปิ้ง 5,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ ลุ้นรับของรางวัล ลักชัวรี่ แบรนด์ มากถึง 310 รางวัล
สิทธิพิเศษที่ 3 ร่วม
“ช้อปครบ ลุ้นมันส์” โดยเริ่มจากรับเพิ่มอีก 2 ต่อ เมื่อ
“ช้อปครบ 5,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จรับเงิน รับต่อที่ 1
ของรางวัลจากแบรนด์หรู Luxury Brand 310
รางวัล จะประกาศผลการจับรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 ต่อที่ 2 รับคูปองฟรีรับประทานอาหาร มูลค่า 300 บาท ที่ Thai Taste Hub ชั้น 3 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ หรือ 100 บาท ที่ Thai
Taste Hub Mahanakhon CUBE ชั้น 1 มหานคร
คิวบ์ คิง เพาเวอร์ มหานคร
สิทธิพิเศษที่ 4 ลูกค้าสามารถใช้
“บัตเครดิตร่วมของคิง เพาเวอร์” รับสิทธิประโยชน์ตรงกับ 8 ธนาคารหลัก ได้แก่ 1.ธนาคารไทยพาณิชย์ : SCB รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 27,000 บาท 2.ธนาคารกสิกรไทย : KBANK รับส่วนลดพร้อมเครดิตเงินคืนสูงสุด
18 % 3.ธนาคากรุงเทพ Be Smart ลดสูงสุด
14 % 4.ธนาคาซิติแบงก์ : CITI รับเงินคืนสูงสุด
5,000 บาท 5.ธนาคารกรุงไทย :บัตร KTC รับเครดิตเงินคืน 2 %
หรือแลกรับเครดิตเงินคืน 13 % 6.ธนาคากรุงศรี :
KRUNGSI แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 10 % 7.ธนาคารทหารไทย
:TMB-ธนชาติ รับเงินคืนสูงสุด 15 % และ
8.ธนาคารยูโอบี :UOB แลกคะแนนรับส่วนลด
12 %
โปรโมชั่นสำหรับ “ผู้สมัครบัตรสมาชิกใหม่
คิง เพาเวอร์”
รับฟรีคะแนนสะสมบัตรแต่ละประเภทสูงสุด 2,000 กะรัต
ได้แก่ 1.บัตรสมาชิก SCARLET ช้อปภายในวันเดียวกันครบ
10,000 บาท รับเพิ่ม 200 กะรัต ส่วนลด 10
% คูปอง on top 10 % จำนวน 1 ใบ 2.สมาชิก ONYX ช้อปภายในวันเดียวครบ
100,000 บาท รับเพิ่ม 2,000 กะรัต
ส่วนลด 15 % คูปอง on top 10 % จำนวน 2
ใบ
สำหรับการจัดแคมเปญ Delights & Surprises คิง เพาเวอร์ จัดต่อเนื่องมาตลอดทุกปี ส่วนปี 2563 ได้ปรับให้ตอบโจทย์สอดคล้องกับสถานการณ์นำสินค้าที่มีมากกว่า 10,000
รายการ มาสร้างความพึงพอใจ ตอบสนองความต้องการสินค้าของลูกค้าให้ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าและมีความสุข
ด้วยบริการ “ส่งตรงถึงประตูบ้านหรือ Home Delivery” ในกลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง
น้ำหอม นาฬิกา สินค้าอิเลคทรอนิกส์ รวมถึงลักชัวรี่แบรนด์ เข้าร่วมแคมเปญขายในราคาดิวตี้ฟรี
สินค้าทุกแบรนด์ทาง คิง เพาเวอร์ ได้ชำระภาษีถูกต้องตามกฎหมาย
เลือกซื้ออย่างสะดวกตลอด
24
ชั่วโมง ทาง Line official , King Power
Official Facebook และ www.kingpower.com
เช่น สินค้าหมวด Aromatherapy แบรนด์ Panpuri
มอบรหัสลดสูงถึง 40 % เพื่อให้เข้าไปเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดอย่างคุ้มค่าเงินไปจนถึงวันที่
31 ตุลาคม นี้ และทุกวันศุกร์เปิดมหกรรม “Power
Deal : FRIDAY NIGHT SALE”ลดกระหน่ำมากกว่า 50 % ขึ้นไป ช่วงเวลาตั้งแต่ 2
ทุ่มจนถึงเที่ยงคืน
ข่าวที่ 3 ททท.ผนึกLineเปิดฟรีMyShopขายสินค้าท่องเที่ยวWorkation-SHA
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ททท.วางกลยุทธ์ขยายช่องทางการขายสินค้าท่องเที่ยวร่วมกับ Line SHOPPING ครั้งที่ 2 โดยผนวกผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวตามมาตรฐานตราสัญลักษณ์
SHA :Amazing Thailand Safty & Health Administration ผนวกเข้ากับโครงการท่องเที่ยวไปทำงานไปได้ทุกที่ทุกเวลา
เปิดออนไลน์เชิญชวนผู้ประกอบการท่องเที่ยวสาขาต่าง ๆ
ออกแบบสินค้ามาวางขายผ่านทางไลน์ โดยใช้ชื่องาน “Workation Thailand : ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ” สมัครเข้ามาได้ระหว่างวันนี้-18 ตุลาคม 2563 สมัครก่อนรับสิทธิ์โปรโมทได้ก่อนทันที ทั้ง
แพกเกจท่องเที่ยว อาหาร ดีลห้องพัก ช้อปปิ้ง ความงาม สุขภาพ และอื่น ๆ
โดย
ททท.สนับสนุนให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้าไปสมัครเพื่อนำสินค้าเข้ามาวางขายบนหน้าร้านออนไลน์ผ่านช่องทาง
Line MyShop ฟรี ตามขั้นตอน
เริ่มจาก 1.เข้าไปยัง linemyshop.com
เพื่อเปิดใช้งาน Myshop 2.กรอกใบสมัครเข้าร่วมโครงการ 3.ลงทะเบียนเข้าคอร์สอบรมสัมมนาออนไลน์
เพื่อเรียนรู้วิธีการใช้งาน MyShop
ฟรีของโครงการ “Workation Thailand
: ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ” กำหนดเปิดอบรมวันที่
19 ตุลาคม 2563
เมื่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวสมัครเสร็จเรียบร้อยทางทีมแอดมินของ
Line
จะแจ้งลิงค์ผ่านทาง @linemyshop
ซึ่งเป็นบัญชีอย่างเป็นทางการ 4.ผู้ประกอบการจะต้องเข้ากรุ๊ป
Line Openchat
เพื่อสื่อสารโดยตรงกับทีมงานในกรุ๊ปดังกล่าว
ประการสำคัญในขั้นตอนการ
กรอกรายละเอียดการสมัครเข้าร่วมโครงการ “Workation Thailand : ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ” นั้น
ผู้ประกอบการจะต้องใส่ข้อมูลให้ครบถ้วนมากที่สุด โดยเฉพาะการจัดทำโปรโมชั่น
การแจกรหัสส่วนลด และการนำเสนอรูปสินค้า เพื่อจะเป็นประโยชน์อย่างมากที่จะผู้บริโภคหรือนักท่องเที่ยวที่สนใจเลือกซื้อสินค้าได้รายละเอียดโดน
ๆ เพื่อประกอบการเลือกตัดสินใจซื้อทันที
นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่าเพิ่มว่า
ขณะนี้ ททท.เร่งขับเคลื่อนโครงการ “Workation Thailand : ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ”
โดยประสานลูกค้ากลุ่มองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่อย่าง กลุ่มบริษัท
ปตท.ที่มีเครือข่ายบริษัทลูกอีกถึง 8 บริษัท
นำเงินเข้ามาเหมาซื้อห้องพักจากโรงแรมรีสอร์ตทั่วประเทศจำนวนครั้งละหลัก 100
ห้องขึ้นไป
เพื่อนำไปกระจายให้พนักงานนำไปใช้เดินทางประชุม สัมมนา ทำกิจกรรมนอกสถานที่
รวมทั้งยังจะสามารถช่วยต่อยอดนโยบายกระตุ้นและกระจายการเดินทาง
“ท่องเที่ยววันธรรมดา” ระหว่างวันจันทร์-พฤหัสบดี ทุกสัปดาห์ ได้ตลอดทั้งปี
เนื่องจากปัจจุบันนักเดินทางตลาดในประเทศไม่ต่ำกว่า
70 % ยังคงเลือกท่องเที่ยว
พักผ่อน หรือจัดกิจกรรมช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ ตามนโยบายรัฐบาล
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มุ่งเน้นให้โจทย์ใหม่
ททท.เพิ่มแรงกระตุ้นการกระจายนักเดินทางในประเทศออกเดินทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ
ทั่วประเทศช่วงวันธรรมดาเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 20 % อาจจะต้องขยับขึ้นไปให้ถึง 25 % โดยจะต้องขอความร่วมมือจากองค์กรขนาดใหญ่ภาคเอกชนสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมผ่านโครงการ
“Workation Thailand
: ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ”
ซึ่งเป็นอีกช่องทางใหม่ที่นำเข้ามาเสริมทัพการกระตุ้นตลาดควบคู่การนำเสนอสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยวตลอดปี
2564
ข่าวที่ 4 ททท.เปิดถนนคนเดินปลุกเที่ยวนครนายก23-25ต.ค.นี้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ร่วมกับจังหวัดนครนายก ชวนคนไทยออกไปขับรถเที่ยว กิน ลม ชม ทุ่ง มุ่งหน้าไป@นครนายก
ในงาน “Amazing Nakhon Nayok ถนนคนเพลิน เดิน เล่น เต้น ช้อป”
ในวันที่ 23 – 25 ตุลาคม 2563
เวลา 16:00 – 21:00 น. ณ บริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก
พบกับกิจกรรมสนุกๆ มากมายภายในงาน ท่ามกลางแสงสีแห่ง Amazing Light Park ตื่นใจ
ไปกับ การช้อป ชิม ชิลล์ ร้านดังในราคาพิเศษ พร้อมช่วงนาทีทอง ลด 50% !! เพลิดเพลิดไปกับ
mini concert สุดฟิน จากศิลปินที่คุณคิดถึง Wanyai x Monilk,
อะตอม ชนกันต์, กัน นภัทร และศิลปินอื่นๆอีกมากมาย
ในสไตล์ New Normal ตามมาตรฐาน Amazing Thailand Safety
& Health Administration (SHA)
ภายในงานแยกโซนหลักให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินได้ดังนี้
โซนที่ 1 Amazing
Light Park : พบกับการเล่าเรื่องราวผ่านประสบการณ์ชมแสงไฟ
Telling Stories Through Lighting Installations กับการตกแต่งไฟประดับ
พร้อมระบบ Interactive
โซนที่ 2 Amazing
Market เนรมิตตลาด ของดี ราคาถูก ร้านเด็ด ดีลพิเศษ
โซนที่ 3 Amazing
Deal พบกับช่วงนาทีทองทุกวันกับร้านค้า
ร้านอาหารที่พร้อมใจจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ เฉพาะในงานนี้เท่านั้น พิเศษ ลุ้นรับฟรี
!! ที่พัก และรางวัลท่องเที่ยวอีกมากมาย
โซนที่ 3 Amazing
Moment พบกับโมเมนต์ดีๆ กับการแสดงดนตรีสนุกๆ ภายในงาน
ทั้งการแสดงดนตรีจากศิลปินท้องถิ่น และการแสดง mini concert จากศิลปินที่มีชื่อเสียง
ตลอดทั้ง3 วัน ได้แก่ วันศุกร์ 23
ต.ค. 2563- ศิลปิน Wanyai x Monilk วันเสาร์ที่
24 ต.ค. 2563 - ศิลปิน
อะตอม ชนกันต์ และ วันอาทิตย์ 25 ต.ค. 2563 - ศิลปิน
กัน นภัทร
โซนที่ 4 Amazing Move จะมูฟไปทางไหนตลอด 3 วัน
ก็ปลอดภัย ไร้กังวลกับมาตรฐาน Amazing Thailand Safety & Health
Administrations: SHA พร้อมแนะนำแหล่งท่องเที่ยว
และสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA
สามารถจองคิวเข้าร่วมงานล่วงหน้าผ่าน Application
Que Q เพื่อเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคม
ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
ให้เราคนไทยได้กลับมาใช้ชีวิตและออกเดินเที่ยวไทยด้วยความคิดถึง ไปสัมผัสความสุข
ความสนุกจากการท่องเที่ยว และยังได้ช่วยสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ประกอบการได้อีกครั้ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่TAT
Call Center 1672 เบอร์เดียว เที่ยวทั่วไทย
ข่าวที่ 5 TCEBลุยจัดไทยไมซ์คอนเน็คปลุกตะวันออกร่วม e-Marketplace
นายสราญโรจน์ สุทัศน์ชูโต ผู้อำนวยการ
สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.หรือ TCEB) ภาคกลางและภาคตะวันออก เปิดเผยว่า
ได้จัดกิจกรรมไมซ์สัญจรโครงการ "ไทย ไมซ์ คอนเน็ค สัญจร : ครบแค่คลิก
ต่อติดชาวไมซ์ (ภาคตะวันออก)" เดินทางปูพรมสร้างการรับรู้ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการไมซ์ในพื้นที่รับผิดชอบ
เพื่อชี้ให้เห็นถึงระบบไทยไมซ์คอนเน็ค (Thai MICE Connect) ที่ได้รับการพัฒนาเป็น
e-Marketplace ธุรกิจไมซ์อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดครั้งแรกของไทย
ตอบทุกโจทก์และทุกความต้องการของกลุ่มธุรกิจไมซ์จากทั่วโลกได้
เมื่อวันที่ 15
ตุลาคม 2563 ทำพิธีเปิดกิจกรรม
"ไทย ไมซ์ คอนเน็ค สัญจร : ครบแค่คลิก ต่อติดชาวไมซ์ (ปราจีนบุรี)" ณ ณ
โรงแรม ทวาราวดี โดยมีนายสมใจ พุทธเสนา ปลัดอาวุโส อำเภอศรีมหาโพธิ
จังหวัดปราจีนบุรี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานดังงาน
ภายในงานมีกิจกรรมการอบรม เพื่อจะช่วยปรับกลยุทธ์ธุรกิจไมซ์ให้ผู้ประกอบการยกระดับครบเครื่องแต่ละด้าน
เช่น การมองธุรกิจใหม่ก้าวไปกับวิถีใหม่ New Normal พร้อมกับชี้ช่องทางการขาย
พิชิตใจลูกค้าด้วยไทย ไมซ์ คอนเน็ค
พร้อมทั้งพบปะเจรจาคู่ค้าทางธุรกิจในอุตสาหกรรมไมซ์ กิจกรรมร่วมสนุก
และของรางวัลอีกมากมาย
วันจันทร์ที่ 19
ตุลาคม 2563 ทีเส็บจะเดินสายไปจัด "ไทย ไมซ์ คอนเน็ค
สัญจร : ครบแค่คลิก ต่อติดชาวไมซ์ (ภาคตะวันออก)" ณ โรงแรม ซันทารา เวลเนส รีสอร์ท จังหวัดสุดท้ายที่ฉะเชิงเทรา
ผู้ประกอบการไมซ์ที่สนใจ
เข้ามาลงทะเบียนร่วมกิจกรรมได้ที่ : https://forms.gle/HhMvET77k1i5e6h76
หรือสอบถามเพิ่มเติ่ม
และสำรองที่นั่งได้ที่ 088 – 4050432
ช่วงที่
2 เที่ยววิถีใหม่
สัปดาห์หน้ามีกิจกรรมดีมาชวนไป “More Fun เที่ยวระยอง แสนปลอดภัยมั่นใจไปกับ SHA” ชมงานศิลปะของชาวชุมชนปากน้ำประแสร์ แล้วห้ามพลาด “ระยอง แมริออต
รีสอร์ต แอนด์ สปา” ดินเนอร์หรู 6 เมนูพรีเมี่ยมของเชฟไทยแลนด์ซีซั่น 1 และฟังเรื่องควรรู้ “เคล็ดลับ7ทางเลือกกินให้ได้สุขภาพดี”
ส่วนข่าวฮ็อตฮิตติดดาวก็ต้องยกให้ “DDการบินไทยเปิด2โครงการสมัครใจลาออก” ต่อด้วย “การบินไทยขายเที่ยวบินพิเศษ TG 917” ลอนดอน-กรุงเทพฯ ชิมลางขายที่นั่งอีโคพลัสหาเงินเข้าเป๋า 3 เดือน ต.ค.-ธ.ค.2563 ส่วน “สิงคโปร์กับฮ่องกง”
บรรลุข้อตกลงเรียบร้อยแล้วเปิดขาย Travel Bubble ไม่ต้องกักตัว 14 วัน แค่มีใบตรวจโควิด-19 เป็นลบก็บินมาเที่ยวเกาะของสองประเทศได้เลย
More Fun เที่ยวระยองแสนปลอดภัยมั่นใจไปกับ
SHA
ชวนกันออกเที่ยวเมืองไทย
ท่องเที่ยวปลอดภัย มั่นใจไปกับ SHA
มุ่งหน้าสู่ตะวันออก ไป More Fun ชวนไปสนุกแนววิถีใหม่ใน
“ระยอง” เคลียร์งานให้พร้อมช่วงวันที่ 22-31 ต.ค. 2563 ออกเดินทางไปชมงานแสดงศิลปะ
"ตามรอยเล่าก๋ง : Old man and the sea" ที่ “บ้านพิพิธภัณฑ์ปากน้ำประแส” อำเภอแกลง จ.ระยอง
หนึ่งปีมีให้ชมเพียงครั้งเดียวเท่านั้นกับ
งานศิลป์ย่อส่วน (Miniature Art) ชุดนี้เป็นผลงานของศิลปิน
“ชาญวุฒิ โห้ไทย” เป็นลูกหลานชาวปากน้ำประแสแต่ดั้งเดิม ได้ถอดอารมณ์ความรู้สึกความผูกพันธ์ที่มีต่อชุมชนมาอย่างยาวนาน
แปลงโฉมเรื่องเล่าจากปากต่อปาก ให้กลายมาเป็นงานจุลศิลป์ในแนว impressionism
เล่าเรื่องราวของชุมชน
เพื่อสร้างประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศได้รับรู้อย่างเต็มอิ่ม
จากนั้นก็สามารถตะลอนท่องเที่ยวสถานที่ต่าง
ๆ ในเมืองระยอง มีทั้งทะเล ธรรมชาติ ชิมอาหารถิ่นร้านเก๋ ๆ
ก่อนจะเช็คอินลองใช้โปรโมชั่นห้องพักของรีสอร์ตดัง
“ระยอง รีสอร์ตแมริออต รีสอร์ต แอนด์ สปา” วันเสาร์ที่ 24
ตุลาคมนี้ ห้องอาหาร Fish Bar
ทาง "พลอย ณัฐณิชา บุญเลิศ" มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ ซีซั่น 1 ชวนไปอิ่มอร่อยไปอาหารพรีเมียมจานเด็ด
6
เมนูแบบ fine dining โดยได้รังสรรค์ความพิเศษของอาหารแต่ละจานไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว
อีกทั้งยังรับรองความอร่อยด้วยราคาสุดคุ้มเพียงคนละ 1,499++ บาท
สำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มเติม: 038-998-000
สามารถชำระด้วยคูปองอาหาร
จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน) ซื้อบัตรกำนัลเงินสด
(Megatix Voucher) หรือแพ็กเกจ
"Free Dreams, 7
Wishes" เพื่อรับสิทธิ์เครดิตแทนเงินสด นำมาใช้ชำระได้
มาร่วม More Food & Fun แบบจัดเต็มวันเสาร์ที่ 24
ตุลาคม 2563 เวลา:18:00 น.
- 20:00 น.
ราคา: 1,499++ บาท/คน
สถานที่: ห้องอาหาร Fish
Bar ระยอง แมริออต รีสอร์ต แอนด์ สปา กันได้เลย
เคล็ดลับ7ทางเลือกกินแบบถูกวิธีให้ได้สุขภาพดีมีชีวิตยืนยาว
การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
จะทำให้ร่างกายแข็งแรงและส่งผลดีในอนาคต ในทางตรงกันข้ามถ้าเลือกกินตามใจ
ก็อาจเสี่ยงกับโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง และโรคอื่นอีกมากมาย
1. เลือกประเภทของผักให้หลากหลาย
เลือกผักที่ปลอดภัยและล้างให้สะอาดก่อนรับประทาน
2. การปรุงอาหาร
ควรเลือกวิธีการนึ่ง ยำ อบ ลวก ต้ม ตุ๋น
พยายามลดหรือหลีกเลี่ยงการปรุงประกอบอาหารที่ใช้กะทิหรือน้ำมัน นั่นคือ ไม่ผัด
ไม่ทอด ไม่มัน
3. ควรลดการปรุงอาหารรสชาติจัด
เพื่อเลี่ยงความหวาน มัน และเค็ม
4. ปริมาณที่ควรรับประทาน
คือหนึ่งมื้อ หนึ่งจาน หรือชาม
5. ควรรับประทานผลไม้เป็นอาหารว่าง
1-2 มื้อต่อวัน โดยเลือกผลไม้หวานน้อย
6. ควรดื่มนม
โดยเป็นนมพร่องมันเนย หรือนมขาดมันเนย โยเกิร์ตพร่องมันเนย และขาดมันเนยรสธรรมชาติ
หรือนมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียม ชนิดไม่ใส่น้ำตาล
7. ควรเลือกรับประทานอาหารให้หลากหลาย
ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก DDบินไทยเปิด2โครงการสมัครใจลาออกลงชื่อก่อนสิ้นปี’63
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร
รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
หลังการบินไทยประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่องประกอบกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
จนต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถทำการบินได้ตามปกติ
จึงมีความจำเป็นต้องจัดโครงการร่วมใจเสียสละเพื่อองค์กร
เพื่อช่วยยืดกระแสเงินสดออกไป โดยแบ่งเป็น
2 แผน คือ A และ B ตามรายละเอียดดังนี้
1.โครงการ แผน A เป็นโครงการที่ให้พนักงานที่เสียสละสมัครใจเข้าร่วมโครงการและลาออกจากบริษัทฯ
จะเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 19 – 28 ตุลาคม 2563 และมีผลในวันที่ 1 ธันวาคม 2563
พนักงานที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการร่วมใจจากองค์กร
แผน A จะได้รับเงินช่วยเหลือตามโครงการในอัตราเทียบเท่ากับค่าชดเชยตามกฏหมายแรงงานซึ่งคำนวณจากค่าจ้างอัตราสุดท้ายของพนักงานตามกฏหมาย
และเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่มเติมเท่ากับเงินเดือนหนึ่งเดือน ทั้งนี้ บริษัทฯ
จะผ่อนจ่ายเงินช่วยเหลือดังกล่าวเป็นระยะเวลา 12 งวด
โดยเริ่มจ่ายงวดแรกเดือนมิถุนายน 2564
2. โครงการลาระยะยาว (Leave With 20%
Pay) และโครงการร่วมใจจากองค์กรแผน B พนักงานที่เสียสละสมัครใจเข้าร่วมโครงการลาระยะยาว
ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2563 – 30 เมษายน 2564 รวมเป็นเวลา 6 เดือน
จะเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 19 – 28 ตุลาคม
2563 พนักงานที่รับอนุมัติให้เข้าโครงการจะได้รับเงิน 20 %
ของเงินเดือนสุดท้ายเป็นระยะเวลา 6 เดือน จากนั้น บริษัทฯ
จะพิจารณาให้สิทธิเข้าร่วมโครงการร่วมใจจากองค์กร
แผน B ซึ่งจะเปิดรับสมัครในเดือนมีนาคม 2564
หลังจากศาลเห็นชอบด้วยแผน และบริษัทฯ
ได้ทำการปรับโครงสร้างองค์กรและสภาพการจ้างแล้ว
พนักงานที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการการลาออกจะมีผลวันที่
1 พฤษภาคม 2564
โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือตามโครงการตามอัตราเทียบเท่ากับค่าชดเชยตามกฏหมายแรงงานซึ่งคำนวณจากค่าจ้างอัตราสุดท้ายของพนักงานตามกฏหมาย
และเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่มเติมเท่ากับเงินเดือนสี่เดือน
โดยการบินไทยจะผ่อนจ่ายเงินช่วยเหลือดังกล่าวเป็นระยะเวลา
12 งวด โดยเริ่มจ่ายงวดแรกในเดือนมิถุนายน 2564
ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลเพิ่มเติม หากพนักงานที่ไม่ตัดสินใจเข้าโครงการ
"เสียสละร่วมใจจาก" กับทั้ง 2 แผนข้างต้น
ทางการบินไทยระบุจะให้พนักงานกลุ่มดังกล่าวมาเขียนใบสมัครใหม่ในวันที่ 1 มกราคม
2564 เพื่อกำหนดอัตราเงินเดือนใหม่ รวมทั้งต้องจ่ายภาษีเงินได้ด้วยตนเอง
และหากไม่เซนต์รับสภาพการจ้างใหม่ ทางบริษัทจะพิจารณาเลิกจ้างพร้อมจ่ายค่าตอบแทนเองตามความเหมาะสม
ข่าวที่ 2 การบินไทยรุกขายที่นั่งอีโคพลัสเที่ยวบินพิเศษลอนดอน-กรุงเทพฯ
นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์
รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า วางแผนจัดเที่ยวบินพิเศษ
“กลับเมืองไทยให้หายคิดถึง” ให้บริการเที่ยวบินพิเศษตอบสนองความต้องการของตลาด้วย
TG 917
เส้นทาง ลอนดอน-กรุงเทพฯ ทำการบินทุกวันอาทิตย์ ในเดือนตุลาคม พฤศจิกายน
และธันวาคม 2563 ออกเดินทางจากลอนดอน เวลา 21.35 น.
(เวลาท้องถิ่น) ถึงกรุงเทพฯ เวลา 16.00 น.
เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารชาวไทยในสหราชอาณาจักรและประเทศใกล้เคียง
ที่คิดถึงและต้องการเดินทางกลับประเทศ รวมทั้งนักธุรกิจ และชาวต่างชาติที่มีใบอนุญาตทำงานในไทย
การบินไทยได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน
จัดเที่ยวบินพิเศษดังกล่าว
พร้อมทั้งได้ให้บริการชั้นโดยสารรูปแบบใหม่
THAI ECONOMY PLUS เพิ่มทางเลือกให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
จัดที่นั่งชั้นประหยัด 4 แถวแรก แบบที่เว้นที่
พร้อมบริการพิเศษตลอดการเดินทาง อาทิ บริการเช็คอินช่องทางพิเศษ
ได้รับน้ำหนักสัมภาระเพิ่มจากเดิม 5 กิโลกรัม
รวมทั้งให้บริการอาหารโดยมีเมนูให้เลือกแบบเดียวกับชั้นธุรกิจอีกด้วย
การขายตั๋วโดยสารเที่ยวบินพิเศษเส้นทางดังกล่าวจะเป็นแบบเที่ยวเดียว
มีที่นั่งจำนวนจำกัด ผู้โดยสารสามารถใช้ตั๋วเดิม ตั๋วรางวัล ROP และ
Travel Voucher ตามข้อกำหนดของการบินไทยได้
ผู้โดยสารสามารถสำรองที่นั่งทางเว็บไซต์
thaiairways.com หรือสอบถามที่สำนักงานขายการบินไทย ณ
กรุงลอนดอน ทางอีเมล์ thaiticketing@thaiairways.co.uk หรือ
THAI Contact Center โทร. 0-2356-1111 ระหว่างเวลา
08.00 น. - 20.00 น. พร้อมสามารถติดต่อเพื่อลงทะเบียนก่อนการเดินทาง
หรือตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ได้ที่ http://www.thaiembassy.org/london/
ข่าวที่สาม รัฐบาลสิงคโปร์-ฮ่องกงทำแล้วTravel Bubbleเที่ยวข้ามประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ตัวแทนรัฐบาลของ 2 เกาะ คือฮ่องกงกับสิงคโปร์ ได้ลงนามข้อตกลงเบื้องต้นจัดทำโครงการ “Travel
Bubble” บรรลุข้อตกลงในหลักการว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีระเบียงท่องเที่ยวทางอากาศ
(Air Travel Bubble) ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างศูนย์กลางการบิน
2 แห่งอย่างปลอดภัยและเป็นไปอย่างก้าวหน้า โดยจะไม่จำกัดการเดินทาง
ไม่ต้องกักตัว ขอหลักฐานเพียงแค่ให้นักเดินทางแต่ละคนมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ ที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับ แต่ผู้เดินทางจะต้องโดยสารเที่ยวบินเฉพาะที่ไม่มีผู้โดยสารที่ต่อเครื่อง
พร้อมประกาศเตรียมเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้
การลงนามครั้งนี้ มี ชิวเถิงหัว (Edward
Yau) เลขาธิการสำนักพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจประจำเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
กับ ออง ยี คัง (Ong Ye Kung) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์
เป็นตัวแทนประเทศลงนามข้อตกลงดังกล่าว
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM
97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น