ผู้นำททท.สั่ง5ภูมิภาคลุยฟื้นรายได้ท่องเที่ยวปลายปี3เดือน ตั้งเป้า29ต.ค.-1พ.ย.ปลุกเที่ยวไทย1ล้านคนโกย1.4พันล้าน
ผู้นำททท.สั่ง5ภูมิภาคลุยฟื้นรายได้ท่องเที่ยวปลายปี3เดือน
ตั้งเป้า29ต.ค.-1พ.ย.ปลุกเที่ยวไทย1ล้านคนโกย1.4พันล้าน
รร.พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดเต็มบุฟเฟต์บาร์บีคิวมื้อค่ำลด30%
มหานครแบงค็อกสกายบาร์เสิร์ฟมื้อกลางวันราคาพิเศษสุด
ททท.ฉะเชิงเทราจัดWorkation Golfพ.ย.ลุยฟื้นท่องเที่ยว
“TCEB”กระตุ้นไมซ์ในประเทศเลือกใช้บริการ 7 MICE City
มูลนิธิปิดทองหลังพระลุยเฟส2จ้างผู้ว่างงานโควิด9จังหวัด
เที่ยวทะเลหมอกสวยสุดๆหลังฝนบน“ผานกแอ่นภูกระดึง”
ระวัง!!โรคกระดูกพรุนเกิดขึ้นได้ทุกช่วงวัยต้องป้องกันให้ดี
ทย.เปิดโผแอร์ไลน์แห่ขอบินหน้าหนาว“ตรง/ข้ามภาค”อื้อ
ไทยรับสัญญาณดีตลอดก.ย.63เที่ยวบินฟื้นตัวเริ่มโต3.2%
สยามอะเมซิ่งพาร์คจัดโปร“ฮาโลวีน-ลอยกระทง”200บาท
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #ท่องเที่ยวปลอดภัยมั่นใจเส้นทางSHA
ช่วงที่ 1 ถอดรหัสทัพท่องเที่ยวปลายปี’63 กับ “ดร.ยุทธศักกดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพิ่มโจทย์ใหญ่ผู้อำนวยการ 5 ภูมิภาค อัดฉีดหนักๆ 3 เดือนสุดท้าย ตุลาคม-ธันวาคม
นี้“เพิ่มความถี่-เพิ่มวันพัก-เพิ่มรายได้”
สร้างเชื่อมั่นฝ่ากระแสความท้าทายทั้งโควิดและการชุมนุมดาวกระจาย มั่นใจวันหยุดยาว
29 ต.ค.-1 พ.ย.63 กระตุ้นเที่ยวไทยทะลุ 1 ล้านคนครั้ง สร้างเงิน 1,400 ล้านบาท
จากนั้นเน้นทุกสำนักงานลุยพ่วงจุดขายรัฐโครงการข้ามปี “เราเที่ยวด้วยกัน-กำลังใจ”
เร่งคนออกมาใช้สิทธิ์อีก 3.4 ล้านคืนพัก
พร้อมดันสุดตัว “งานเคาน์ดาวน์รับปีใหม่-แถลงแผนตลาดชุดใหญ่ปี’64-ชูโมเดลต่างชาติเที่ยวไทย3กฎเหล็ก”
ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ขณะนี้มีปัจจัยความท้าทายใหม่เกี่ยวกับสถานการณ์ชุมนุมตามพื้นที่ต่าง ๆ นั้น
ททท.จะติดตามเพื่อประมวลผลอีกครั้ง
โดยตอนนี้จะยังไม่สรุปผลกระทบคงจะต้องรออีกสักระยะ เนื่องจากยังไม่มีความรุนแรงใด
ๆ เกิดขึ้น
ส่วนการประชุมร่วมกับฝ่ายบริหารและผู้อำนวยการ ททท.5 ภูมิภาค เน้นย้ำเตรียมพร้อมทำการตลาดในประเทศอย่างเต็มที่แบ่งการทำงานเป็น 2 ช่วง ช่วงที่ 1 ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม 2563 ต้องช่วยกันฟื้นฟูเพิ่มรายได้ท่องเที่ยว เร่งรัดเพิ่มความถี่และวันพักค้าง ผนวกเข้ากับโครงการของรัฐทั้งแพกเกจกำลังใจและเราเที่ยวด้วยกัน ผลักดันการท่องเที่ยวภายในสิ้นปีนี้ ช่วงที่ 2 มกราคม-มีนาคม 2564 ก็จะต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างเต็มกำลัง
ขณะนี้โครงการ
“เราเที่ยวด้วยกัน” รัฐบาลประกาศขยายเวลาไปเป็น 31 มกราคม 2564 ตามนโยบายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เน้นให้เร่งทำตามเป้าหมาย “ห้องพัก” 5
ล้านคืนพัก ตอนนี้มียอดจองแล้ว 1.6
ล้านห้อง เหลือ 3.4 ล้านห้อง คาดจะมียอดใช้จนครบภายในเดือนมกราคม 2564
ส่วนตั๋วเครื่องบิน 2 ล้านที่นั่ง
ตอนนี้ยอดการใช้ยังคงน้อยอยู่ต้องพยายามหาเร่ง เพราะเป็นไปตามคาดการณ์ของ
ททท.นั่นคือคนหันมาขับรถท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น จึงเดินทางด้วยเครื่องบินน้อยลง
ดังนั้นจึงต้องปรับให้คนเดินทางง่ายขึ้น กระจายรายได้ไปช่วยผู้ประกอบการ
ควบคู่กับการกระจายรายได้ไปยังท้องถิ่นมากขึ้นด้วย
สำหรับแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวปลายปี 2563 ได้ให้การบ้านเพิ่มความโดดเด่นโครงการที่มีอยู่ชูธีม More ได้แก่ ททท.ภูมิภาคเหนือ More Authentic : งามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ กับภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ More Gastronomy -อาหารอร่อย ได้ให้ผสมผสานแต่ละส่วนเข้าด้วยกันกับท่องเที่ยววิถีใหม่ เรื่อยไปจนถึงการชู “แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม” จะได้รับความนิยม ดังนั้นจึงให้เพิ่มจุดขายหลัก ๆ ปี 2564 คือ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เน้นท่องเที่ยววัดต่าง ๆ โดยสั่งการให้ทุกภูมิภาคทำเพิ่มเติมช่วงฤดูหนาว เพราะเส้นทางสายบุญเที่ยวหน้าหนาวจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้คนอยากออกไปท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
ดร.ยุทธศักดิ์กล่าวว่าการขับเคลื่อนโครงการท่องเที่ยวหน้าหนาวจะให้
ททท.ทุกภูมิภาคเริ่มได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป รวมทั้งระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน นี้
เทศกาลท่องเที่ยววันลอยกระทงตรงกับเทศกาลของชาวตะวันตกวันฮาโลวีน
สามารถเพิ่มสีสันลองผสมผสานลอยกระทงในชุดแต่งกายแบบฮาโลวีนดูบ้างเพื่อสร้างความแปลกใหม่ก็น่าจะดี
ปีนี้น่าจะคึกคักเพราะตรงกับวันหยุดได้ตั้งแต่ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 แนวโน้มจะมีคนออกเดินทางในประเทศมากถึง 1 ล้านคน-ครั้ง
สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท
การกระจายรายได้ทั่วประเทศ
นั้น พื้นที่แรก ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ททท.ร่วมกับกรมเจ้าท่า
กระทรวงคมนาคม 9 ท่าน้ำ
บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาอำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้ลอยกระทงกันอย่างมีความสุข
ส่วนพื้นที่ไฮไลต์ลอยกระทงต่างจังหวัดก็มี พระนครศรีอยุธยา อุทัยธานี ตาก
เชียงใหม่ ททท.อยากเห็นการกระจายตัวจึงขอรณรงค์ให้เดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ
พร้อมทั้งสามารถใช้สิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน” ได้ด้วย นอกจากหยุดลอยกระทงแล้ว
เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม นี้
จะมีวันหยุดยาวต่อเนื่องต้องรีบใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันให้ได้มากที่สุด
ดร.ยุทธศักดิ์
กล่าวถึงการปรับกลยุทธ์จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยววันหยุดเดินตามนโยบายรัฐบาลมาโดยตลอด
ที่จะจัดเคาน์ดาวน์ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ วันที่ 31 ธันวาคม – 1 มกราคม ของทุกปี
ที่ผ่านมาเน้นส่งเสริมเคาน์ดาวน์ท่องเที่ยวเมืองรอง ตอนนี้สถานการณ์ต่าง ๆ
ต้องรอนโยบาย รมว.พิพัฒน์ รัชกิจประการ
แต่อย่างไรก็ดีก็จะต้องส่งเสริมขอให้ความสุขกับพี่น้องคนไทยในสถานการณ์ตั้งแต่โควิด-19 ต้องพยายามนำกลับไปสู่ปกติให้เร็วที่สุด
จัดตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อสร้างสีสัน ความคึกครื้น
สร้างสีสันให้พี่น้องชาวไทยต้อนรับปีใหม่ 2564
คอนเซ็ปต์การจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเคาน์ดาวน์ยังคงนโยบายเดิม กระจายไปครอบคลุมทั้ง 5 ภูมิภาค ทั้ง ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคอีสาน ที่ผ่านมาในพื้นที่เมืองหลัก 5 จังหวัด เมืองรอง 5 จังหวัด แต่ขอดูระยะใกล้ ๆ วันจริงก่อนว่าจะปรับให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างไร เพื่อจะกระจายเงินได้ตามเป้าหมาย โดยจะต้องประเมินเรื่องกำลังซื้อ เพราะตอนนี้หลายฝ่ายคาดการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว ดังนั้นจำนวนคนท่องเที่ยวจะมีจำนวนไม่มาก จากสถิติปี 2562 คนไทยเที่ยวในประเทศเฉลี่ยคนละ 2.1 ครั้ง/ปี เช่นเดียวกันปีนี้ก็น่าจะใกล้เคียงกัน
เพราะจะมีเฉพาะคนที่มีกำลังซื้อสูงพอเท่านั้นที่จะเดินทางได้
เช่น คนไทยที่เคยเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ (outbound) แต่ตอนนี้ไปไม่ได้จะหันมาเที่ยวในประเทศแทน
ททท.จึงจะกระตุ้นให้เดินทางในประเทศเพิ่มขึ้น บวกกับกลุ่มชาวต่างชาติที่พำนักในไทย
(Expat) ด้วย
จะเริ่มทำตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2563 ซึ่งเริ่มเดือนตุลาคม
2563 นี้เป็นต้นไป
ส่วนตลาดต่างประเทศ
ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2563
เริ่มทดลองนำเข้านักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรกเข้าไทยแล้วด้วยวีซ่าพิเศษ
หรือ Special Tourism Visa :STV โดยรัฐบาลให้โควต้าเดือนละไม่เกิน
1,200 คน
เปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมามีเข้ามาเดือนละ 3 ล้านคน แต่ที่ต้องยึดหลักด้วยจำนวนไม่มาก 1,200
คน
สอดคล้องกับความสามารถการรองรับเหตุการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
ทางกระทรวงสาธารณสุขมั่นใจจะดำเนินการควบคุมโรคได้ ผนวกกับกฎเหล็กอีก 3 ข้อ คือ 1.ประเทศต้นทางที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาไทยได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปต้องมีความเสี่ยงต่ำซึ่งมีเพียง
17 ประเทศเท่านั้น
จะปรับปรุงรายชื่อประเทศทุกวันที่ 15
ของเดือน 2.ต้องอยู่ภายใต้มาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด
ก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทางต้องได้รับการตรวจเชื้อโควิด 72 ชั่วโมง เมื่อมาถึงไทยต้องกักตัว
ต้องซื้อประกันภัยการเดินทาง เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นภาระแก่รัฐบาลไทย
หลังจากตัวเรียบร้อยแล้วก็ต้องมีแอพลิเคชั่นติดตามตัว
เพื่อให้เกิดความมั่นใจอยู่ในสายตาหน่วยป้องกันสุขอนามัยตลอด 3.จะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกันกับที่ใช้กับคนไทยที่เดินทางจากต่างประเทศกลับเข้ามาไทย
ดังนั้นทั้ง
3 กฎเหล็ก
ประกอบกับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของกระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาลไทย
ทำให้คนไทยมั่นใจได้
โดยไม่ต้องกังวลถึงเรื่องเมื่อนำคนต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทยแล้วจะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกต่อไป
ขณะเดียวกัน
ททท.ก็มีทีมเฝ้าติดตามนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มแรกที่เดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทย
และมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบติดตามนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวว่าอยู่ที่ไหนบ้าง
เพื่อทำให้พี่น้องคนไทยเกิดความมั่นใจเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่เกิดการระบาดซ้ำในประเทศไทย
ดร.ยุทธศักดิ์
กล่าวต่อถึงการแถลงแผนการตลาดประจำปี 2564 กำหนดจะดำเนินการวันคริสต์มาส
25 ธันวาคม 2563
หลังจากรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
มาสักระยะหนึ่งแล้ว อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป
โดยได้ปรับตลอดมาตั้งแต่กรกฎาคม 2563 ทั้งเรื่องงบประมาณที่ได้รับเป็นอย่างไร
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน กำลังใจ
ตอนนี้แผนสมัยใหม่ก็คงจะไม่ใช่นิ่ง แต่จะต้องปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
โดยเฉพาะเรื่องการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
ซึ่งใช้แนวการจัดทำตาม Synerio แต่ละช่วง
ดังนั้นวันที่ 25 ธันวาคม นี้
น่าจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนทั้งภาคเอกชนและหน่วยงานเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
ขณะเดียวกันข้อเรียกร้องของภาคเอกชนต้องยอมรับเกิดขึ้นจากได้รับความเดือดร้อนหรือผลกระทบ
แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมาตรการสาธารณสุขจากการหารือร่วมกันกับหลายฝ่าย
สิ่งที่จะนำเสนอแผนการตลาดปี 2564 คือ
ททท.ทำหน้าที่ตัวแทนที่ดีบอกถึงความเดือดร้อนและข้อเรียกร้องต่าง ๆ ได้
แต่การตัดสินใจขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการประกาศใช้วัคซีน
ททท.ต้องสร้างสมดุลระหว่างสาธารณสุขกับเศรษฐกิจ เพราะตั้งแต่ปิดประเทศเดือนเมษายน 2563
จนถึงปัจจุบันต่อเนื่อง 8 เดือนแล้ว ที่ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน
นั่นคือฝั่งอุปทานคือผู้ประกอบการและลูกค้าได้รับผลกระทบค่อนข้างยาวนาน
ต่างฝ่ายต่างก็ได้รับความเดือดร้อนจึงต้องมาดูถึงเรื่องผลกระทบรุนแรงต่อการจ้างงานในอุตสาหกรรมถูกเลิกจ้างและผลกระทบเป็นลูกโซ่อย่างไรบ้าง
ซึ่ง ททท.เองก็พร้อมจะเป็นกระบอกเสียงให้ความช่วยเหลือทุกฝ่ายต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 รร.พูลแมนคิงเพาเวอร์เสิร์ฟบุฟเฟต์บาร์บีคิวมื้อค่ำลด30%
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
ชวนมารับประทานมื้อค่ำกับบุฟเฟต์อาหารทะเลและบาร์บีคิวสุดอลังการได้ทุกวันที่ “ห้องอาหารควิซีน
อันปลั๊ก” โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2563
กินบุฟเฟต์ได้แบบไม่จำกัดเวลา ตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 22.30 น.
ให้รางวัลกับตัวเองและครอบครัวด้วยหลากหลายเมนูอาหารทะเลให้อิ่มอร่อยแบบไม่อั้นทั้ง
ปูอลาสก้า หอยนางรม กุ้งแดง หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ พร้อมบาร์บีคิวสุดพรีเมียม
ไม่ว่าจะเป็น เนื้ออาร์เจนติเนียน กุ้งแม่น้ำ แซลมอน ไก่ออร์แกนิก
และอาหารนานาชาติอีกกว่า 50 เมนู
พิเศษ ผู้เข้าพักโรงแรม และสมาชิก คิง
เพาเวอร์ และผู้ที่ทำการจองออนไลน์ล่วงหน้า รับส่วนลดทันที 30% ระหว่างวันจันทร์ – วันพฤหัสบดี เหลือเพียง 833 บาท สุทธิ/คน
จากราคาเต็ม 1,190 บาท รวมน้ำเปล่า 1 ขวด ส่วนวันศุกร์ – วันอาทิตย์เหลือเพียง 1,050
บาท สุทธิ/คน จากราคาเต็ม 1,499 บาท รวมน้ำเปล่า 1 ขวด เด็กอายุไม่เกิน 5 ปี
รับประทานอาหารฟรี และเด็กอายุ 6-11 ปี รับส่วนลด 50% จากราคาเต็ม
จองออนไลน์ล่วงหน้า คลิก https://bit.ly/36mOuZx
ข่าวที่ 2 มหานครแบงค็อกสกายบาร์จัดเต็มมื้อกลางวันราคาพิเศษสุด
คิง เพาเวอร์
เติมประสบการณ์มื้อกลางวันหรูราคามิตรภาพ ที่ “มหานคร แบงค็อก สกายบาร์”
กับชุดอาหารกลางวัน 3 คอร์ส บนห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ชั้น 76
1.ชุดอาหารกลางวัน 3 คอร์ส
สำหรับวันเสาร์และอาทิตย์ พร้อม Seafood Platter เป็น
Starter ในราคา 1,490++บาท
และสามารถเพิ่มล็อบสเตอร์ครึ่งตัวจากรัฐเมน บน Seafood Platter เป็น
Starter ในราคา 1,990++บาท 2.ชุดอาหารกลางวัน
3 คอร์ส สำหรับวันจันทร์-ศุกร์ ในราคา 990++บาท
เปิด11.30-15.00 น.จองล่วงหน้าhttp://bit.ly/MahanakhonBangkokSkyBar_Reservation_Lunch
ข่าวที่ 3 ททท.ฉะเชิงเทราจัดWorkation Golf3ครั้งพ.ย.นี้ลุยฟื้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว
นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ช่วงพฤศจิกายน
นี้ได้จัดกิจกรรม "Workcation Golf Challenge 2020
@ Chachongsao" เชิญชวนนักกอล์ฟมาร่วมการแข่งขันกอล์ฟรูปแบบใหม่
Triple Six Golf Challenge ครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเฟ้นหาคนเก่งเป็นแชมป์คู่ซี้
รู้ใจกัน 4 คู่ และคู่ซี้ดวงเฮง 4 คู่ ต่อสนาม
โดย ททท.จับมือกับพันธมิตรสนามกอล์ฟในฉะเชิงเทรา
เพื่อส่งเสริมตอบสนองความต้องการของนักกอล์ฟในยุค New Normal และเพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวกับเศรษฐกิจของจังหวัดให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
การแข่งขันแบบพาร์ 3 ทั้ง 18 หลุม โดยจะจัดหลุม 18 หลุม ของสนามเป็น พาร์ 3 จำนวน
6 หลุม ระยะไม่เกิน 160 หลา, พาร์ 4 จำนวน 6 หลุม ระยะไม่เกิน 400
หลา และ พาร์ 5 จำนวน 6 หลุม ระยะไม่เกิน 450-555 หลา
จัดการแข่งขันทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งที่
1 วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน 2563 ช็อตกันสตาร์ทเวลา 12.00 น. ครั้งที่ 2 วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ช็อตกันสตาร์ท
เวลา 12.00 น. และครั้งที่ 3 วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน 2563 ช็อตกันสตาร์ทเวลา
12.00 น. ณ สนามบางปะกงริเวอร์ไซด์คันทรีคลับ
ค่าสมัครทีมละ 2,999
บาท (2 คน) พร้อมรับของรางวัลมากมาย และลุ้นรางวัลในทุก ๆ หลุม รับสมัครนักกอล์ฟ
160 คนต่อสนาม ไม่จำกัดเพศและอายุ ผู้ชนะจะได้รับรางวัลออกรอบ 18 หลุม ณ
สนามไทยคันทรีคลับ สนใจสมัครแข่งขันได้ที่ The Exclusive Golf โทร.
095-569-2445
ข่าวที่ 4 TCEB
กระตุ้นไมซ์ในประเทศเลือกใช้บริการ 7 MICE City
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”
เปิดเผยว่า ทีมปฏิบัติการของทีเส็บพร้อมที่จะกระตุ้นนักจัดงานมืออาชีพและองค์กรต่าง
ๆ ให้หันมาเลือกสถานที่จัดประชุมเพื่อตอบโจทย์กับงานจากเมืองไมซ์ซิตี้ของประเทศ
หรือ 7 MICE City ของเมืองไทย แต่ละแห่งพร้อมต้อนรับนักธุรกิจ
หรือนักเดินทางไมซ์จากทั่วทุกมุมโลก ตอบโจทย์ ครบครัน อย่างแน่นอน ประกอบด้วย
1. Bangkok MICE City ‘กรุงเทพมหานคร’
เมืองหลวงที่ไม่เคยหลับใหลของไทย
ผสมผสานวิถีชีวิตทั้งแบบเก่าและแบบใหม่เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ศูนย์กลางความเจริญและความศิวิไลซ์มากมาย ทั้งระบบขนส่งเศรษฐกิจ เทคโนโลยี
และการค้า ตอบโจทย์ ครบครัน และพร้อมรองรับเหล่านักเดินทางไมซ์ทั้งชาวไทยและต่างชาติได้อย่างเต็มที่
มีสถานที่จัดงาน
หรือจัดการประชุมหลากหลายระดับ
รองรับเทคโนโลยีทันสมัยตอบโจทย์นักธุรกิจและคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
2.Chiang Mai MICE City -‘เชียงใหม่’ จังหวัดในภาคเหนือของไทย
เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจอันดับ 2 ของโลก ด้วยบรรยากาศสบายๆ
และโอบล้อมด้วยธรรมชาติ เมื่อนำไมซ์มาจัดแล้วจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตท้องถิ่นแบบล้านนา
ผสมผสานกับวัฒนธรรมและเทคโนโลยีของคนยุคใหม่อย่างลงตัว
เชียงใหม่มีสถานที่จัดประชุมที่สามารถรองรับนักธุรกิจและนักเดินทางไมซ์ได้จำนวนมาก
ทั้งยังมีความพร้อมในเรื่องของการเดินทาง
มีสายการบินรองรับการเดินทางได้ทั้งในและต่างประเทศ
3.Khon Kaen MICE City ‘ขอนแก่น’
หัวเมืองใหญ่ภาคอีสาน จังหวัดที่เป็นแลนด์มาร์กของคนรุ่นใหม่ เต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมและการเรียนรู้มากมาย
ด้วยศักยภาพความพร้อมกับการพัฒนาเศรษฐกิจที่ก้าวกระโดดจึงยกระดับเมืองขอนแก่นให้ก้าวเข้าสู่ระดับสากลอย่างเต็มรูปแบบ
โดยเฉพาะสถานที่จัดประชุมที่มีหลากหลายระดับ
และสามารถรองรับการจัดประชุมหรือจัดกิจกรรมระดับนานาชาติได้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งการเดินทางมาขอนแก่น
ก็สะดวกรวดเร็ว เพราะมีสนามบินขนาดใหญ่รองรับไมซ์ได้จำนวนมาก
4. Pattaya MICE City -‘พัทยา’ อีกหนึ่งเมืองสุดฮิตที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลกและน่าจับตามอง ด้วยความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว สวยงามของทะเลอ่าวไทย หรือบรรยากาศยามค่ำคืนไนท์ไลฟ์แสงสีเสียงตระการตา
พัทยามีความพร้อมทั้งเทคโนโลยี
ระบบขนส่ง รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งที่พัก โรงแรม
หรือสถานที่จัดประชุมขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับการจัดงานหรือการประชุมระดับนานาชาติได้อย่างเต็มที่
5. Phuket MICE City -‘ภูเก็ต’
เมืองไมซ์แห่งอันดามัน ได้รับความนิยมมากที่สุดจากนักเดินทางไมซ์
ด้วยความสวยงามของท้องทะเลอันดามันและหาดทราย รวมถึงภูมิทัศน์อื่น ๆ โดยรอบสร้างความสุนทรีผ่อนคลายให้กับผู้มาเยือน
จึงเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เหมาะจัดงานใหญ่ได้หลากหลายงาน
ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีระบบขนส่งครบวงจร
มีสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่รอรับไมซ์ทั่วโลก ส่วนสถานที่จัดประชุมรวมถึงที่พัก
ก็มีให้เลือกจำนวนมากและหลากหลายรูปแบบ รับได้ตั้งแต่กรุ๊ปขนาดเล็กไปจนถึงกรุ๊ปขนาดใหญ่
6. Korat MICE City ‘นครราชสีมา’
ประตูสู่เมืองอีสาน หัวเมืองหลักที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ
จึงเป็นจังหวัดที่พัฒนาและเติบโตในหลายด้าน รวมไปถึงด้านคมนาคมและเศรษฐกิจ ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเตรียมเปิดใช้ปี
2566
ส่วนสถานที่จัดงานไมซ์ สถานที่พัก
หรือโรงแรม มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สามารถเลือกสรรให้เหมาะกับการจัดงานได้
7. Songkhla MICE City ‘สงขลา’
เมืองใหญ่ 2 ทะเล จังหวัดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมจากหลายเชื้อชาติ
ด้านเศรษฐกิจในสงขลาได้ชื่อว่าเป็นศูนย์การค้าแดนใต้ เพราะนอกจากจะรวมเศรษฐกิจและเป็นแหล่งจ้างงานของภาคใต้แล้ว
ยังเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของทั้ง 3 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย
หาดใหญ่จึงมีความพร้อมต้อนรับนักเดินทางไมซ์
ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ที่พัก หรือสถานที่จัดประชุมได้อย่างสะดวกสบาย
ข่าวที่ 5 มูลนิธิปิดทองหลังพระลุยจ้างผู้ว่างงานโควิดเฟส2ใน9 จังหวัด
หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำเริ เปิดเผยว่า ได้ขยายผลจ้างผู้ว่างงานจากโควิดเฟส 2 โดยนำประสบการณ์จากการทำงานในพื้นที่อีสาน 3 จังหวัด เป็นโมเดลทำต่อเนื่องในพื้นที่ต้นแบบปิดทองหลังพระจนครบ 9 จังหวัด สามารถจ้างผู้ว่างงาน 990 คน พร้อมจะสร้างประโยชน์ให้ 22,500 ครัวเรือน มีน้ำทำการเกษตร พื้นที่รับประโยชน์จากน้ำเพิ่มขึ้น 126,000 ไร่ รวมทั้งมีน้ำเพื่อการเกษตรเพิ่มขึ้น 99 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยเกษตรกรมีรายได้ไม่น้อยกว่า 3,266 บาทต่อเดือนหรือประมาณ 882 ล้านบาทต่อปี
โดยดำเนินงานภายใต้ “โครงการฝ่าวิกฤติด้วยเศรษฐกิจและสังคมฐานรากให้พัฒนาก้าวไปตามแนวพระราชดำริ” ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ ภายหลัง เกิดความสำเร็จจากอย่างดีจาก ”โครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฐานรากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19” ในพื้นที่ต้นแบบ 3 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ ช่วงเวลาเพียง 5 เดือน ตั้งแต่มีนาคม-กรกฎาคม 2563 ขณะนี้เดินหน้าทำจนครบทั้ง 9 จังหวัด ได้แก่ น่าน อุทัยธานี เพชรบุรี อุดรธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ประมาณ 450 โครงการที่แตกต่างกันตามสภาพท้องถิ่น ปัญหา ความต้องการ ความพร้อมของชุมชนผ่านการทำประชาคมของแต่ละจังหวัด อาจรวมถึงจังหวัดอื่นที่มีความต้องการและพร้อมดำเนินการตามแนวทางการพัฒนาของปิดทองหลังพระฯ
มีการศึกษาวิเคราะห์ผลลัพธ์และผลกระทบ
ที่เกิดขึ้นจากโครงการ ทั้ง 9 จังหวัดคาดว่า
แหล่งน้ำที่จะได้รับการการซ่อมแซมและเสริมศักยภาพ 450
โครงการ คาดว่า 22,500
ครัวเรือนที่ได้รับประโยชน์จะสามารถมีน้ำทำการเกษตรลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ไม่น้อยกว่า
3,266 บาทต่อเดือน เพิ่มพื้นที่รับประโยชน์ 126,000
ไร่ น้ำเพื่อการเกษตรเพิ่มขึ้น 99 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดการณ์รายได้ 882
ล้านบาทต่อปี
หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดากล่าวว่า
จากประสบการณ์จ้างงานพื้นที่ 3 จังหวัดอีสานรวม 352 คน
ลงทุนไป 65 ล้านบาท ชาวบ้านได้ประโยชน์ 217
ล้านบาท หรือลงทุน 1 บาท จะได้เงินคืนที่ชาวบ้าน 3.3
บาท และ ที่สำคัญคนที่เราจ้างงานไว้ประมาณ ร้อยละ 54
ไม่คิดจะกลับไปทำงานนอกพื้นที่ เราทำเล็ก แต่ได้ใหญ่ แหล่งน้ำบางแห่งใช้เวลา 8
วันเสร็จ ชาวบ้านได้ใช้น้ำทันที
ซึ่งการทำงานตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เป้าหมายหลักคือ ครัวเรือน ชุมชน พึ่งพาตนเองได้ โดยการพัฒนาต้องขึ้นอยู่กับความต้องการชาวบ้านเป็นหลัก
ไม่ได้มีใครไปบังคับ เขามองเห็นปัญหาของตนเองแล้วร่วมมือแก้ไข
สุดท้ายก็เกิดประโยชน์กับตัวเอง
ช่วงที่ 2 ได้เวลาออกเที่ยวเมืองไทย หลังหมดฝนต้องไป “ผานกแอ่น
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง” ทะเลหมอกอยอกตะวันยามเช้ากำลังรอนักท่องเที่ยวไปชมกันเยอะ
ๆ ขณะที่ “หมอกรมการแพทย์แนะนำวิธีแก้กระดูกพรุน” ส่วนข่าวท้ายรายการ
“สายการบินแห่เปิดเที่ยวบินฤดูหนาว” หวังโกยรายได้ต้นฤดูท่องเที่ยว
“ไทยรับสัญญาณดี” บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด
แจ้งเที่ยวบินเดือนกันยายน 2563 เริ่มฟื้นตัวแล้ว และ “สยาม อะเมซิ่ง
พาร์ค” อัดโปรโมชั่นตั๋วทำกิจกรรมสนุก “ฮาโลวีน-ลอยกระทง” เหลือแค่คนละ 200 บาท
เที่ยวทะเลหมอกสวยสุดๆหลังหน้าฝนบน“ผานกแอ่นภูกระดึง”
อากาศตามภูและอุทยานต่าง ๆ แถบภาคเหนือ ภาคอีสาน กำลังเย็นสบาย ทริปนี้จะชวนไปสัมผัสความสุขกับการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยที่ “อุทยานแห่งชาติภูกระดึง” จังหวัดเลย เพื่อไปดื่มด่ำภาพทะเลหมอกสวยงาม บริเวณผานกแอ่น ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ทั้งอากาศ วิวทิวทัศน์ สวยกว่าทุกฤดู แถมธรรมชาติก็สดชื่นสดใส
ตอนนี้อุณหภูมิตามอุทยานแห่งชาติในจังหวัดเลย บริเวณภูกระดึงกับศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรที่สูงภูเรือ เหลือแค่ 16องศาเซลเซียส อุทยานแห่งชาติภูเรือ 15 องศาเซลเซียส เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง 13 องศาเซลเซียส
ช่วงปลายฝนต้นหนาวจึงเป็นโอกาสของนักท่องเที่ยวทั้งประเทศ
ที่จะได้ไปเที่ยวภูกระดึงให้หายคิดถึง อย่ารอช้าไปกว่านี้ เพราะพอหมดหน้าฝน
ธรรมชาติจะสดชื่นเขียวขจีของพืชพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ชูช่อครอบคลุมทั่วหุบเขา ส่วนตามผาก็จะได้ตื่นตากับทะเลหมอกไหลเป็นสายอยู่กลางอ้อมกอดหุบเขา
ไฮไลต์ตรงบริเวณ “ผานกแอ่น” เป็นจุดศูนย์รวมที่จะเชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า
ระยะทางเดินทางเท้าประมาณ 2
กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าราว30 นาที และเป็นจุดชมวิวสวยสุด
ๆ ช่วงหลังฤดูฝน จะมีทะเลหมอกสวยขาวเต็มพื้นที่ พอถึงเวลาพระอาทิตย์โผล่ขึ้นจากขอบฟ้าแสงกับสีส้มจะตัดกับสีขาวนวลของสายหมอก
รอจังหวะกดชัตเตอร์ถ่ายรูปสวย ๆ แบบนี้แชร์ไปชวนเพื่อน ๆ
มาเที่ยวได้ตลอดหลังฤดูฝนนี้เลย
นักท่องเที่ยวที่สนใจจะไปเที่ยวภูกระดึง
แนะนำให้ติดต่อที่พักและที่พักเต็นท์ได้ที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงหรือโทร.042
810833-4
เที่ยวเมืองไทย
ไม่ต้องเดี๋ยว ออกเที่ยวได้ทันที เที่ยวเมืองไทยอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม
ระวัง!!โรคกระดูกพรุนเกิดขึ้นได้ทุกช่วงทุกวัยต้องป้องกันให้ดี
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์
อธิบดีกรมการแพทย์ ให้คำแนะนำเรื่อง “โรคกระดูกหักจากกระดูกพรุน” เกิดได้ทุกช่วงวัย
เด็กมักกระดูกหักจากเล่นซน ผู้ใหญ่มักเกิดจากอุบัติเหตุ
ผู้สูงวัยมักเกิดกระดูกหักจากกระดูกพรุน
มวลกระดูกที่เปราะบางแม้เพียงลื่นหกล้มก็หักได้ง่าย
อาการกระดูกหักมักเห็นชัดเจนจะบวมปวด
ไม่สามารถลงน้ำหนักหรือเคลื่อนไหวบริเวณที่หัก
โดยเฉพาะกระดูกสะโพกหักได้ในผู้สูงอายุ สาเหตุหลักของกระดูกหัก นอกจากอุบัติเหตุจากการจราจรแล้ว
ยังมีอุบัติเหตุจากการทำงาน การเล่นกีฬา
อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งพบมากขึ้นเรื่อยๆ คือ
กระดูกหักในผู้สูงอายุซึ่งคุณภาพของกระดูกลดน้อยลงหากมีอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยส่งผลให้เกิดกระดูกหักไปยังส่วนต่างๆ
ของร่างกาย เช่น กระดูกสะโพก กระดูกสันหลังอาการกระดูกหักมักเห็นชัดเจนจะบวมปวด
ไม่สามารถลงน้ำหนักหรือเคลื่อนไหวได้บริเวณที่หัก ดังนั้น
ควรตรวจวัดความหนาแน่นของมวลกระดูกทุกปี เพื่อป้องกันกระดูกทรุดตัว
เสริมความแข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีส่วนประกอบของแคลเซียม ได้แก่ นม
ถั่ว ปลาหรือสัตว์น้ำขนาดเล็ก และผักสีเขียวเข้ม เป็นต้น
นายแพทย์ศักรินทร์ วงศ์เลิศศิริ
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ อธิบายว่า
ผู้ป่วยกระดูกสะโพกหักจะพิจารณาตามความเหมาะสมของผู้ป่วยและตำแหน่งการหักของกระดูกสะโพก
โดยจะมี 2 วิธีคือ วิธีแรกการผ่าตัดใส่ข้อสะโพกข้อเทียม วิธีที่สองการผ่าตัดเพื่อยึดตรึงกระดูกไว้ภายใน
โดยการผ่าตัดใส่โลหะพิเศษยึดกระดูกไว้ให้เข้าที่และเกิดการติดของกระดูกตามธรรมชาติ
สำหรับแนวทางการดูแลผู้ป่วยสูงอายุกระดูกสะโพกหักไม่ได้จบแค่การผ่าตัด ยังต้องมีการประเมินและรักษาภาวะกระดูกพรุนอย่างต่อเนื่อง
เป็นหัวใจสำคัญอีกส่วนหนึ่ง หรือเป็นการป้องกันภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน
และยังรวมถึงการดูแลภาวะการมองเห็น ประสาทตา
และการดูแลหลังการผ่าตัดด้วยการกายภาพบำบัดเฉพาะสำหรับผู้สูงวัยด้วย แนวทางการป้องกัน ออกกำลังกายเป็นประจำ
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกพรุน
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก ทย.เปิดโผแอร์ไลน์แห่ขอบินหน้าหนาว“ตรง/ข้ามภาค”
กรมท่าอากาศยาน (ทย.) กระทรวงคมนาคม
รายงานว่า ขณะนี้สายการบินในประเทศได้จัดทำตารางบินบริการท่องเที่ยวฤดูหนาวตามเส้นทางต่าง
ๆ ทั้งบินตรงจากต้นทางไปยังปลายทาง และบินข้ามภาค ประกอบด้วย
ขอเปิดบินตรงจากกรุงเทพฯ ไป-กลับ
ปลายทางตามจังหวัดต่างๆ มีดังนี้
1.เปิดบินแล้ว ได้แก่
ไทยเวียตเจ็ต บิน ไป-กลับ สุวรรณภูมิ – ขอนแก่น อุบลราชธานี และนครศรีธรรมราช
ไทยสมายล์บินสุวรรณภูมิ-นครศรีธรรมราช
2.เปิดบินตั้งแต่ 25 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป ได้แก่ นกแอร์
บินดอนเมือง – แม่ฮ่องสอน ไทยแอร์เอเชีย บินสุวรรณภูมิ – น่านนคร ไทยสมายล์บิน สุวรรณภูมิ
– นครพนม
3.จะเริ่มเปิดบิน 4 พฤศจิกายน 2563 ได้แก่ ไทยเวียตเจ็ต
บิน สุวรรณภูมิ – สุราษฎร์ธานี
4.จะเริ่มเปิดบิน 12 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป ได้แก่ ไทยสมายล์บิน
สุวรรณภูมิ – น่านนคร
5.จะเริ่มเปิดบิน 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป ได้แก่ ไทยแอร์เอเชีย
บินสุวรรณภูมิ – กระบี่ สุวรรณภูมิ -สุราษฎร์ธานี
6.จะเริ่มเปิดบิน 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส
บิน สุวรรณภูมิ – แม่สอด
7.จะเริ่มเปิดบิน 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป ได้แก่
บางกอกแอร์เวย์ส บิน สุวรรณภูมิ – ขอนแก่น
สายการบินขอเปิดบินข้ามภาค มีดังนี้
1.เปิดบินแล้ว ได้แก่ ไทยแอร์เอเชีย บิน เชียงใหม่
– หัวหิน และหัวหิน – อุดรธานี เริ่ม 25 ตุลาคม 2563 ไทยสมายล์จะบิน เชียงใหม่ – นครศรีธรรมราช และอุดรธานี – นครศรีธรรมราช
2.จะเปิดบิน 1 ธันวาคม
2563 ได้แก่ นกแอร์ บิน เชียงใหม่ –
ขอนแก่น
3.จะเปิดบิน 1 มกราคม
2564 ได้แก่ ไทยไลออนแอร์ บิน อุบลราชธานี –
สุราษฎร์ธานี
ข่าวที่สอง ไทยรับสัญญาณดีตลอดก.ย.63เที่ยวบินฟื้นตัวเริ่มโต3.2%
บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด
รายงานสรุปปริมาณเที่ยวบินที่เดือนกันยายน
2563 เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมเฉลี่ย3.2%
ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาด COVID-19
หลายประเทศต้องเผชิญกับปัญหาการระบาดระลอกใหม่
ขณะที่ประเทศไทยยังคงประกาศห้ามหรือจำกัดการบิน และการเข้าออกประเทศไทย
เพื่อระมัดระวังการแพร่ระบาด COVID-19 อย่างเคร่งครัด
โดยเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก
สถิติปริมาณเที่ยวบิน
ประจำเดือนกันยายน 2563 ให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศ 4 ประเภท
ได้แก่
1.เที่ยวบินระหว่างประเทศ 4,171 เที่ยว 2.เที่ยวบินภายในประเทศ
16,229 เที่ยว 3.เที่ยวบินผ่านน่านฟ้า
2,237 เที่ยว 4.เที่ยวบินสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจทางทหารและราชการ
8,686 เที่ยว
ตลอดเดือนกันยายน 2563 มีเที่ยวบินรวมทั้งสิ้น
31,323 เที่ยว เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม 2563 มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 963
เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้น 3.2% แต่ถ้าเปรียบเทียบกับเดือนกันยายน 2562
ให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศ 81,878 เที่ยว ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
50,555 เที่ยว หรือลดลง 61.7%
สถานการณ์เที่ยวบินหลังเหตุการณ์ไวรัสโควิด-19
คลี่คลายไทยเป็นประเทศสมาชิกอาเซียน
ที่สนามบินและเที่ยวบินมากที่สุด ได้แก่ สนามบินเชียงใหม่ และไทยยังคงมีเที่ยวบินมากอันดับ
2 รองจากอินโดนีเซีย
ข่าวที่สาม สยามอะเมซิ่งพาร์คจัดโปร“ฮาโลวีน-ลอยกระทง”เหลือ200บาท
สยาม อะเมซิ่ง พาร์ค จัดโปรโมชั่นพิเศษเที่ยววันฮาโลวีน
วันเสาร์ที่ 31 ต.ค. 63 ซื้อบัตร Adult Adventure Pass เล่นเครื่องเล่นได้ไม่อั้น
ราคาคนละ 250 บาท จองล่วงหน้าผ่านwww.siamamazingpark.comและ
7-eleven เหลือเพียงคนละ 200 บาท
ใช้บริการตั้งแต่ 17.00 – 22.00 น.
มีความสนุกเตรียมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเมื่อเข้ามาแล้ว
จะได้ผจญภัยสุดมันส์ กับสวนสนุกยามค่ำคืนได้จนเวลา 4
ทุ่ม ในสวนสนุกกลางคืน ฉลองวันลอยกระทงในบรรยากาศฮาโลวีน พร้อมเครื่องเล่นระดับโลก
แนะนำสัมผัสประสบการณ์ใหม่ต้องห้ามพลาด ทดสอบความกล้าท้าความหลอน บ้านผีสิง หรือ
บิ๊ก ดับเบิ้ล ช็อค ในวันปล่อยผีฮาโลวีน
นั่งรถไฟเหาะบูมเมอแรงพุ่งไป-กลับในความมืดด้วยความเร็ว
80 กม./ชม ไซแอมทาวเวอร์
หอคอยหมุนได้ 360 องศา สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชมวิวสวนสนุกกลางคืนและความสวยงามของกรุงเทพฯยามค่ำคืน และเครื่องเล่นอีกกว่า 30
ชนิด พร้อมกิจกรรมพิเศษมากมาย อาทิ การแสดงจากเหล่ามาสคอต กิจกรรม Cosplay ผีป่วน
มาร่วมสนุกด้วยกัน โทร.
02-105-4294 หรือ ไลน์ @siamamazingpark
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น