ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.งัดกลยุทธ์ใหญ่ปลุกธุรกิจทั่วไทยพึ่งSHAเพิ่มรายได้ปี’64 ระดมเอกชนท่องเที่ยวขายSHA-Workationปั๊มเงินเสริมสภาพคล่อง

 

ททท.งัดกลยุทธ์ใหญ่ปลุกธุรกิจทั่วไทยพึ่งSHAเพิ่มรายได้ปี’64

ระดมเอกชนท่องเที่ยวขายSHAWorkationดึงเงินตรงเข้าธุรกิจ

คิงเพาเวอร์ชูแคมเปญเสริมทัพDelightsช้อป3วัน3พันลด30%

คิงเพาเวอร์ชูซื้อ“แคชการ์ดช้อป”สุดฟิน Delights&Surprises

ททท.ปลุกเทรนด์ธุรกิจใช้SHAเพิ่มรายได้ตลาดท่องเที่ยวปี’64

ททท.ผนึกจัดหัวหินเมืองความสุขต.ค.-ธ.ค.ไฮไลต์4งานยักษ์

TCEBดัน4แผนเด็ดตลุยกระตุ้นตลาดไมซ์ไทย-ต่างชาติปี’64

ฟังไว้!!กินอาหารรสจัดหวานมันเค็มมีผลเสียต่อหลอดเลือด

เที่ยวเมืองไทยมั่นใจSHAทัวร์บุญใหญ่ร่วมถือศีลกินเจทั่วไทย

มหากาพย์ฟื้น“การบินไทย”ฉุดรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ดิ่งเหว

บางกอกแอร์ดึงวนาเบลล์ฯรีสอร์ตหรูนำไมล์แลกพักฟรีสมุย

 




ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #ท่องเที่ยวไทยมั่นใจไปกับSHA  #เทศกาลกินเจปี63 

 

ช่วงที่ 1 อัพเดทท่องเที่ยวปลอดภัยกับ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ติดอาวุธ Amazing Thailand Safety & Health Administration :SHA รุกเร็ว ต้อนรับไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2564 ต.ค.นี้ ระดมสินค้าท่องเที่ยวหรูทั่วไทยกระหน่ำลดราคาสูงถึง 50 % สายการบินแห่นำที่ว่างนับ 10 ล้านที่นั่งที่เคยขายต่างชาติราคาแพง ๆ มาชวนคนในประเทศหันมา “ท่องเที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA” เจาะตรงคนมีตังค์ในประเทศ 2 กลุ่มใหญ่ “คอร์ปอเรต-ต่างชาติในไทย” ปลื้มภายใน 5 เดือน ธุรกิจตื่นตัวขอรับตราสัญลักษณ์ SHA กว่า 10,000 ราย พร้อมผูกแพกเกจ “SHA กับ Workation Thailand” นำร่อง 3 เดือนนี้ ตั้งเป้าโกยแน่ ๆ 100,000 คน-ครั้ง งัดจุดขายใหม่ท่องเที่ยวไทย “สดใหม่-ยั่งยืน-คืนธรรมชาติ”

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าการขับเคลื่อน “ตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย : Amazing Thailand Safty & Health Administration : SHA” ด้วยกลยุทธ์การเปิดตลาดให้ผู้ประกอบการธุรกิจแต่ละประเภทที่ผ่านการรับรองพร้อมได้ตราสัญลักษณ์ SHA เรียบร้อยแล้ว นำสินค้ามาเปิดบูธวางขายในงาน “ท่องเที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA :Dream Vacation @CentralWorld” ครั้งที่ 2 ภายใต้แคมเปญ  Expat Travel Bonus และ The Healthy Jouney ระหว่างวันที่ 7-11 ตุลาคม 2563 ณ ฮอลล์ ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ต่อเนื่องจากครั้งที่ 1 จัดไปเมื่อวันที่ 11-13 กันยายน 2563 บริเวณฮอลล์ ชั้น 5 สามย่าน มิตรทาวน์ เน้นการขายระหว่างธุรกิจกับนักท่องเที่ยวทั่วไปซึ่งประสบความสำเร็จมียอดขายหน้าร้านออฟไลน์เกินกว่า 13 ล้านบาท และขายออนไลน์ได้ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

เพราะได้ใช้กลยุทธ์นำสินค้าท่องเที่ยวมาเสนอขายในราคาพิเศษลด 30-50 % 2.ผู้ประกอบการแต่ละรายได้รับเงินตรงเข้าบริษัทเพื่อนำไปใช้หมุนเวียนจ้างพนักงานและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 3.ห้องพัก แพกเกจท่องเที่ยว ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มมูลค่ามากขึ้น 4.สร้างการรับรู้ตราสัญลักษณ์ SHA ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเพิ่มมากขึ้น

สำหรับการจัดงาน “ท่องเที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA :Dream Vacation @CentralWorld” ครั้งที่ 2 เป็นกลยุทธ์จุดประกายความสำคัญให้คนในประเทศหันมาเลือกการเดินทางสู่จุดหมายปลายทางที่ฝันไว้ โดยผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้นำเสนอความพิเศษครอบคลุมทั้ง 1.สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งมีความหรูหรา 2.ราคาสัมผัสจับจ้องได้ 3.มั่นใจในการเดินทางด้วยความปลอดภัยด้านสุขอนามัยในช่วงป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ภายในงานได้เชิญชวนโรงแรมไฮเอนด์ที่มีบริการห้องพักหรูเปิดให้จองได้ในราคาลดพิเศษรวมกว่า 40 แห่ง และมีสายการบินในประเทศ ไทยแอร์ เอเชียนำตั๋วโดยสารราคาลดแรง ๆ ในช่วงฤดูเดินทางท่องเที่ยวมาร่วมขายจากเดิมปีก่อน ๆ ราคาค่อนข้างแพงจนคนไทยแทบจะซื้อไม่ได้เลย เพราะช่วงตุลาคมปีก่อนหน้านี้ตั๋วโดยสารของสายการบินในประเทศส่วนใหญ่จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อไปเกือบทั้งหมดจากจำนวนที่เข้ามาเที่ยวเมืองไทยเกือบ 10 ล้านคน

แต่ปี 2563 นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปเกือบทั้งหมด เพราะไม่สามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยได้ ทางโรงแรม สายการบินในประเทศ พากันลดราคาขายลงมากกว่า 50-60 % เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยววันหยุดยาวและการท่องเที่ยวช่วงปลายปีนี้

ดังนั้น ททท.จึงเร่งจัดแคมเปญโดยให้ผู้ประกอบการนำมาขายในงาน  “ท่องเที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA :Dream Vacation @CentralWorld” ครั้งที่ 2 เน้นเจาะกำลังซื้อคุณภาพ 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ 1 บริษัท ห้างร้าน องค์กรขนาดใหญ่ (corporate) ภาคเอกชนและหน่วยงานรัฐ กลุ่มที่ 2 ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในเมืองไทย (Expat) ผนวกกับสถานการณ์โควิด-19 ได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสเรื่องชื่อเสียงของประเทศไทยที่สร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยติดอันดับต้น ๆ ของโลก ภายในงานจึงได้สร้างสรรค์แพกเกจ Expat Travel Bonus ขายคู่กับ The Healthy Jouney ด้วยไฮไลต์การตรวจสุขภาพ ทำสปา โดยมีโรงพยาบาลที่ได้การรับรอง JCI โรงแรมระดับ 5 ดาว ให้บริการสปาและสุขภาพ โปรแกรมฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ความสวยความงาม รวมอยู่ในแพกเกจซึ่งนำเสนอโดย ททท.ระหว่างวันที่ 10-11 ตุลาคม 2563

นางสาวฐาปนีย์ยืนยันว่า การจัดมหกรรมขาย “ท่องเที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA” นั้นเป้าหมายหลักต้องการสร้างความภูมิใจให้ผู้ประกอบการทุกธุรกิจที่ได้รับตรามาตรฐาน SHA แล้วก็ขอให้รักษาคุณภาพบริการให้คงอยู่ตลอดไป มีคุณูปการต่อนักท่องเที่ยว สามารถขายจริงได้ด้วย โดย ททท.จะทุ่มเทช่วยสนับสนุนทุกช่องทาง ได้แก่ “ตลาดในประเทศ” เปิดทุกช่องทางทั้งการทำออนไลน์ ออฟไลน์ ออนกราวนด์  “ตลาดต่างประเทศ” สร้างการรับรู้ให้ทั่วโลกรู้จักอย่างแพร่หลาย โดย ททท.สำนักงานต่างประเทศ 29 แห่ง เผยแพร่ไปยังภาคีพันธมิตร บริษัทตัวแทนการท่องเที่ยว พนักงานหน้าร้านผู้ขายการท่องเที่ยวมาเมืองไทย นำจุดขาย SHA บวกกับเข้าสินค้าและกิจกรรมท่องเที่ยวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม 2563 ภายในเวลาเพียงแค่ 5 เดือน มีธุรกิจประเภทต่าง ๆ สมัครเข้าร่วมขอการรับรองตราสัญลักษณ์ SHA มากกว่า 10,000 ราย ผ่านการพิจารณารอบแรกแล้วกว่า 8,500 ราย ได้รับรองตราสัญลักษณ์ไปเรียบร้อยแล้วเกือบ 6,000 ราย

ในปี 2564 ททท.ต้องการกระจายให้ทุกกลุ่มธุรกิจได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ตอนนี้ อันดับ 1 กลุ่มธุรกิจโรงแรมรับตราสัญลักษณ์ SHA ไปมากที่สุด รองลงมาตามลำดับได้แก่ บริษัทตัวแทนนำเที่ยว รถบริการท่องเที่ยวหรือโลจิสติกส์ และเริ่มมีสายการบินขอเข้ารับด้วยเช่นกัน คือ การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เกิดความแข็งแกร่งภายใต้มาตรฐาน SHA ของไทย

ส่วนแหล่งท่องเที่ยวต้องขอชื่นชม ขณะนี้มีแหล่งท่องเที่ยวชุมชนและโฮมสเตย์ทยอยเข้าร่วมแล้ว อีกทั้งยังแหล่งท่องเที่ยวประเภทกีฬา SPORT TOURISM เช่น สนามกอล์ฟ การจัดอีเวนต์ท่องเที่ยว เช่นวิ่ง ต้องนำมาตรฐาน SHA เข้ามาใช้ทุกขั้นตอน เพื่อป้องกันให้ทุกธุรกิจมีส่วนร่วมรณรงค์ไม่ให้เกิดอาการการ์ดตกเรื่องป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ขณะเดียวกัน ททท.ได้จัดทำรีวิวจากผู้บริโภคแจ้งเข้ามายัง คอล เซนเตอร์ ถึงสถานที่แห่งใดบ้างที่ได้ตราสัญลักษณ์ SHA ไปแล้วกำลังการ์ดตก ทางทีมของ ททท.ที่รับผิดชอบดูแลก็จะส่งคำเตือน พร้อมทั้งแนะนำให้กลุ่มธุรกิจเหล่านั้นเร่งข้อบกพร่องกลับเข้ามาสู่มาตรฐานโดยเร็ว ส่วนใหญ่จะเริ่มไม่สวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร จะต้องคลุมภาชนะการนำมาใช้งานหรือเสิร์ฟผู้บริโภค

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า ได้วางแผนผสมผสานจุดขายของตราสัญลักษณ์ SHA เข้ากับโครงการ Workation Thailand ซึ่งเป็นความตั้งใจของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายเร่งกระตุ้นให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกิดสภาพคล่อง ตรึงการจ้างงาน โดยขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเติมเงินตรงให้แก่ผู้ประกอบการทั่วประเทศ

ตอนนี้ ททท.กำลังเป็นแม่งานจับคู่ประสานงานกับทางบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ องค์กรขนาดใหญ่ ที่ต้องการซื้อแพกเกจท่องเที่ยวในราคาเหมารวมแต่ละครั้งยกล็อตใหญ่ขนาด 100-200-300 ห้อง (roomnight) สามารถซื้อได้ในราคาพิเศษมาก ๆ แต่ละบริษัทสามารถจ่ายเงินทันทีเพื่อซื้อก่อนการเดินทางไปใช้บริการ แล้วนำไปให้พนักงานเดินทางไปจัดกิจกรรมกลางแจ้ง outing ประชุมสัมมนา หรือทำงานนอกสถานที่ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย

ไฮไลต์อีกเรื่องคือ ททท.ต้องการจะบอกให้ทุกคนเปลี่ยนทุกสถานที่ทั่วเมืองไทยให้กลายเป็นที่ทำงานตามคอนเซ็ปต์ Workation Thailand เพื่อช่วยกันฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่กำลังประสบปัญหาวิกฤตรุนแรง อีกส่วนคือเรื่อง กระทรวง ทบวง กรม ต่าง ๆ สามารถรับประโยชน์จากการจ่ายเงินซื้อแบบยกล็อตเปลี่ยนกลับมาเป็นการสะสมคะแนน “แต้มสะสมความอยู่รอดของผู้ประกอบการ :Survival Point” ตอนนี้ได้วางระบบจัดทำเป็น Tier ระหว่างนี้-ธันวาคม 2563 จะสรุปยอดว่ามีผู้ใช้บริการรายใดมียอดคะแนนอยู่ระดับเทียร์ใด เพื่อเข้ารับรางวัล Trophy จากนายกรัฐมนตรี

ขณะนี้มีบริษัทนำร่องเรียบร้อยแล้วในเครือ ปตท.ทั้งหมด รวม 8 บริษัท (OR, IRPC, ไทยออยล์ และอื่น ๆ ) ปิดดีลการซื้อห้องพักยกล็อตกว่า 3,000 ห้อง มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท

ส่วนภาพรวมของโครงการ Workation Thailand ตอนนี้มีกระแสตอบรับจากองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ตอบรับดีมาก มีกลุ่มต่าง ๆ เริ่มทยอยเข้ามาใช้บริการตามแบบ ปตท.โมเดลแล้ว เช่น ธุรกิจน้ำมันกลุ่ม PT กลุ่มโตชิบาผู้จำหน่ายเครื่องไฟฟ้ารายใหญ่ของประเทศ และกลุ่มอื่น ๆ ภาครัฐเองก็มี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (กลต.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายในสิ้นปีนี้พนักงาน กฟผ.12,000 คน จะกระจายเดินทางท่องเที่ยวนอกพื้นที่ของตนเอง เพื่อตอกย้ำความร่วมมือช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ

สำหรับการเชื่อมโยงตราสัญลักษณ์ SHA กับโครงการ Workation Thailand นั้น ททท.จะทำให้เกิดเป็นรูปธรรมชัดเจน โดยการนำเสนอเส้นทางแหล่งท่องเที่ยว ห้องพักโรงแรม รถขนส่ง ที่ได้ตราสัญลักษณ์ SHA ให้เป็นจุดหมายปลายทางแนะนำให้นักท่องเที่ยวและองค์กรต่าง ๆ เลือกใช้บริการ โดย ททท.จะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในการบรรจุไว้ในแพกเกจท่องเที่ยวเพื่อให้คนเดินทางได้ใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.workationthailand.com ส่วนผู้ประกอบการ เข้าไปที่ ไลน์แอด @workationagency

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่าวางเป้าหมายกระตุ้นรายได้จากการผสมผสานการนำตราสัญลักษณ์กับ Workation Thailand หลอมรวมจุดขายเข้าด้วยกัน ได้วิเคราะห์ไว้ภายใน 3 เดือน ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม 2563 จะสามารถกระตุ้นให้คนออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศร่วมกับ SHA และ Workation Thailand ไม่ต่ำกว่า 100,000 คน-ครั้ง  

โดยเตรียมใส่ลูกเล่นให้กลุ่มคอร์ปอเรตที่มองหาสินค้าใหม่ ๆ เพื่อจะไป Outing , Working, Meeting ททท.จะแนะนำสินค้ายอดนิยม กลุ่มแรก สินค้าเกี่ยวเนื่องการทำซีเอสอาร์ กลุ่มที่ 2 สินค้าหรือแหล่งท่องเที่ยวชุมชน กลุ่มที่ 3 สินค้าท่องเที่ยวหรูหราเชิงอาหาร Gastronomy กลุ่มที่ 4 ความสนใจพิเศษ Special Deal

ตลอดปลายฝนต้นหนาว ททท.ด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ได้สอดแซก “หมวดสินค้าแปลกใหม่” เน้นสินค้าท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่น เรื่องที่ 1 “ความยั่งยืน-คืนสู่ธรรมชาติ” ซึ่งสินค้าท่องเที่ยวดังกล่าวข้างต้นสามารถตอบโจทย์ได้อย่างชัดเจน ต่อด้วย การท่องเที่ยวรับพลัง (Power Spot) ท่องเที่ยวชุมชนตามรอยศาสตร์พระราชา ททท.ทำมาอย่างต่อเนื่อง หรือเส้นทางแนะนำใหม่ล่าสุด “ชุมชนทุ่งมัจฉา” จังหวัดตรัง

เรื่องที่ 2 “ความสดและความแปลกใหม่” มีความคิดสร้างสรรค์ ตอนนี้เริ่มนำร่องทำแพกเกจดูดาวตามดาราศาสตร์พื้นที่แรกเขาใหญ่ เรื่องที่ 3 “ติดตรึงอยู่ในใจของนักท่องเที่ยว” ต้องสร้างให้เกิดประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยวหรือ experience ให้ได้

ททท.จะทำเป็นขุมทรัพย์ท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นได้ในปี 2564 ต่อไป ตอบโจทย์ครอบคลุมทั้งทางด้าน “ความยั่งยืน-คืนความสุขสู่ธรรมชาติ-ประกาศศักดาความยิ่งใหญ่แหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์จัดแคมเปญเสริมทัพDelightsช้อป3วัน3พันลด30%

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดแคมเปญเสริมทัพ DELIGHTS & SURPRISES 10.10 ช้อปออนไลน์ลดสูงสุด 30%เพียงแค่เลือกซื้อสินค้าให้ครบ 3,000 บาทขึ้นไปเท่านั้นเอง รับสิทธิ์นี้เพียง 3 วันเท่านั้น ตั้งแต่ 9-11 ตุลาคม 2563

ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

1.      รหัสส่วนลดสามารถใช้ได้ที่ www.kingpower.com และ แอปพลิเคชัน KING POWER เท่านั้น วันที่ 9-11 ตุลาคม 2563 นี้เท่านั้น

2.      รับส่วนลดสินค้าปกติสูงสุด 30% เมื่อช้อปตั้งแต่ครบ 3,000.- ขึ้นไป

3.      รายการส่งเสริมการขายนี้เฉพาะสั่งซื้อสินค้าที่ร่วมรายการในแคมเปญนี้เท่านั้น

4.      สินค้าร่วมจัดรายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

5.      แบ่งชำระ 0%
- นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อช้อปครบ 15,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ
- นานสูงสุด 6 เดือน เมื่อช้อปครบ 10,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ
ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์ชูซื้อ“แคชการ์ดช้อป”สุดฟินDelights&Surprises

นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  กล่าวว่า “แคมเปญ Delights and Surprises เป็นแคมเปญสำคัญ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เนื่องในโอกาสการฉลองครบรอบของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  สำหรับในปีนี้ คิง เพาเวอร์ ยังคงมุ่งมั่น ตอกย้ำความมั่นใจกับแคมเปญสำคัญประจำปี โดยเฉพาะการขอบคุณลูกค้าคนไทย ที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจยังสามารถเดินหน้าภายใต้สถานการณ์โควิด-19 โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-31 ตุลาคม 2563 ในชื่อแคมเปญ ‘Delights and Surprises ครบรอบ 31 ปี ฉลอง 31 วัน ช้อปมันส์ วันไม่มีไฟลต์’”

      โดยแคมเปญดังกล่าว ถือเป็นช่วงเวลาของโปรโมชั่นสุดแรงแห่งปี เป็นการมอบประสบการณ์การช้อปครั้งสำคัญในวันไม่มีไฟลต์ที่คุ้มค่ามากกว่าครั้งใดกับการช้อปสินค้า โดยเฉพาะสินค้าระดับ Luxury Brand ที่เพิ่มมูลค่าการช้อปให้ลูกค้า ผ่านการซื้อ Cash Card สุดคุ้ม

สำหรับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และ มหานคร

·         ซื้อ Cash Card มูลค่า 50,000 บาท รับเพิ่ม 12,500 บาท

สำหรับ คิง เพาเวอร์ พัทยา และ ภูเก็ต

 

·         ซื้อ Cash Card มูลค่า 3,000 บาท รับเพิ่ม 500 บาท

·         ซื้อ Cash Card มูลค่า 6,000 บาท รับเพิ่ม 1,200 บาท

·         ซื้อ Cash Card มูลค่า 9,000 บาท รับเพิ่ม 2,000 บาท

·         ซื้อ Cash Card มูลค่า 50,000 บาท รับเพิ่ม 12,500 บาท

พร้อมพบกับกิจกรรมพิเศษทั้ง 4 สาขา ลุ้นรับ Gift Voucher มูลค่า 3,100 บาท ตลอด 31 วัน และรับเพิ่มเมื่อช้อป 5,000 บาท (สุทธิ) ขึ้นไป / ใบเสร็จ ลุ้นรับของรางวัล Luxury Brand 310 รางวัลตลอดแคมเปญ

พิเศษ พบกับ Highlight Surprises ในวันที่ 15-18 ตุลาคม 2563

·         ลุ้นรับ Gift Voucher 31,000 บาท วันละ 10 รางวัล เฉพาะการซื้อ Cash Card ในวันที่ 15-18 ตุลาคม 2563

·         สมาชิก คิง เพาเวอร์ ประเภท CROWN และ VEGA ร่วมรับประทานอาหารว่างที่บริเวณ Welcome Area ชั้น 2 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ วันที่ 15 ตุลาคม 2563

·         เพิ่มบรรยากาศการช้อปให้มีสีสันด้วยการแสดงจาก ดีเจ ที่บริเวณ Delights Bar ชั้น 1 และดนตรีสด ที่บริเวณ Welcome Area ชั้น 2 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของงานที่พลาดไม่ได้ ในวันที่ 15 ตุลาคม 2563 เวลา 17.00 น. ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พบพระเอกหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ กับกิจกรรม Meet & Greet แจกของขวัญและมินิคอนเสิร์ตสุดอบอุ่น นอกจากนั้นยังมีการ Live Steaming แนะนำโปรโมชั่น Cash Card และสิทธิพิเศษต่างๆ ผ่านทาง King Power Facebook รวมถึงส่งความคิดถึงไปยังแฟนๆ ที่ประเทศจีน ผ่านช่องทาง Weibo และ WeChat โดยลูกค้าชาวจีนสามารถร่วมโปรแกรมช้อปปิ้งในรูปแบบ Cross-border E-Commerce ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของ คิง เพาเวอร์ ที่ชื่อว่า “ไท่ไห่เถา” ในจีนได้อีกด้วย

ข่าวที่ 3 ททท.ปลุกเทรนด์ธุรกิจใช้SHAแม่เหล็กเพิ่มรายได้ตลาดท่องเที่ยวปี’64

                การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อัพเดทสถานการณ์ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม 2563 ภายในเวลาเพียงแค่ 5 เดือน มีธุรกิจประเภทต่าง ๆ สมัครเข้าร่วมขอการรับรองตราสัญลักษณ์ Amazing Thailand Safety & Health Admininstration : SHA รวมแล้วมากกว่า 10,000 ราย ผ่านการพิจารณารอบแรกแล้วกว่า 8,500 ราย ได้รับรองตราสัญลักษณ์ไปเรียบร้อยแล้วเกือบ 6,000 ราย

ในปี 2564 ททท.ต้องการกระจายให้ทุกกลุ่มธุรกิจได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ตอนนี้ อันดับ 1 กลุ่มธุรกิจโรงแรมรับตราสัญลักษณ์ SHA ไปมากที่สุด รองลงมาตามลำดับได้แก่ บริษัทตัวแทนนำเที่ยว รถบริการท่องเที่ยวหรือโลจิสติกส์ และเริ่มมีสายการบินขอเข้ารับด้วยเช่นกัน คือ การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เกิดความแข็งแกร่งภายใต้มาตรฐาน SHA ของไทย

                สำหรับธุรกิจโรงแรมและที่พัก กับสถานที่จัดประชุม ซึ่งต้องการจะยื่นขอการรับรองตราสัญลักษณ์มาตรฐาน Amazing Thailand Safety and Health Administration : SHA จาก ททท. ต้องปฏิบัติตามคู่มือให้ได้ก่อน ดังนี้

ผู้ประกอบการห้องพักโรงแรม จะต้องจัดเตรียมดูแล “บริเวณพื้นที่สาธารณะ” ให้ครบทั้ง 15 ข้อ ดังนี้

1.จัดให้มีทางเข้า-ออก ทางเดียว หากมีหลายทางจะต้องจัดจุดคัดกรองทุกเส้นทาง 2.จัดให้มีพนักงานคอยตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนที่เข้าออก พร้อมกับทำตราสัญลักษณ์เพื่อให้ผู้ผ่านจุดคัดกรองรับรู้อุณหภูมิร่างกายขณะตรวจะต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส 3.ลงทะเบียนประวัติพนักงานและผู้รับบริการ รวมทั้งประวัติการเดินทาง 4.อนุญาตให้เฉพาะผู้รับบริการที่สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเท่านั้นสามารถผ่านเข้า-ออก ได้ 5.จัดให้มีที่ล้างมือด้วยน้ำหรือสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ อย่างเพียงพอในบริการทำความสะอาด 6.จัดพื้นที่รอคิว พร้อมกับต้องจัดระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร 7.จัดวางแผ่นรองพื้นผสมน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณทางขึ้น หรือทางเข้าอาคาร  8.จัดพื้นที่เพื่อใช้ต้อนรับให้เหมาะ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร 

9.ทำความสะอาดสถานที่อย่างสม่ำเสมอ และผิวสัมผัสร่วมอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง เช่น ลูกบิด มือจับประตู ราวบันได ลิฟท์ ขึ้น-ลง 10.จัดระบบกำจัดขยะของเสียกระดาษชำระ และหน้ากากอนามัยให้เหมาะสม 11.จัดระบบระบายอากาศเป็นอย่างดีเพื่อการไหลเวียนรวมทั้งมีเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพ สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 เพื่อลดการเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคหรือแบคทีเรีย 12.จำกัดจำนวนผู้เข้าไปใช้บริการในสัดส่วนเหมาะสม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดหรือติดเชื้อ 13.ควรมีแนวเส้นบอกเส้นทางโดยการตีเส้นบอกผู้ใช้บริการ หรือทำจุดสีแสดงการเว้นระยะห่าง 14.พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในโรงแรม เพื่อลดช่วยการสัมผัส เช่น QR CODE แทนการใช้คีย์การ์ด 15.สื่อสารให้ความรู้ข้อแนะนำผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19

ผู้ประกอบการจะต้องดูแลภายใน “ห้องพัก” ตามข้อแนะนำอย่างน้อย 7 ข้อ ดังนี้

1.ทำความสะอาดห้องพักอย่างสม่ำเสมอและทำความสะอาดผิวสัมผัสทุก 2 ชั่วโมง เช่น ที่จับประตู ห้องน้ำ 2.ทำระบบกำจัดขยะ ของเสีย กระดาษชำระ หน้ากากอนามัย อย่างเหมาะสม 3.จัดทำฝาครอบอาหารทุกครั้งขณะเสิร์ฟรือให้บริการภายในห้อง (room service) ตามมาตรฐานร้านอาหาร 4.ใช้ผ้าที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาทำความสะอาด ร่วมกับน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อทำความสะอาดห้องพักให้มีความปลอดภัยสูงสุด 5.ล้างอุปกรณ์ทำความสะอาด ผ้าทำความสะอาดทั้งหมด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เพิ่มระดับความเข้มข้นของน้ำยาทำความสะอาด 6.ทำความตามทางเดินห้องพักอย่างสม่ำเสมอด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค 7.ปรับตำแหน่งเครื่องปรับอากาศภายในห้องพักทุกห้องให้เหมาะสม ตรวจสอบการไหลเวียนของอากาศตลอดทุกวัน

สำหรับ สถานประกอบการ “ห้องประชุม” จะต้องเข้ม 5 ข้อ ดังนี้

1.จัดให้มีบริการทางเข้า-ออก ทางเดียว  กรณีมีหลายช่องทางจะต้องจัดจุดคัดกรองไว้ทุกเส้นทาง 2.จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนที่ผ่านเข้า-ออก ทุกครั้ง พร้อมทำสัญลักษณ์ให้ผู้ผ่านการคัดกรองเห็นอุณหภูมิของร่างกายต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส 3.ลงทะเบียนประวัติพนักงาน และผู้ใช้บริการ พร้อมประวัติของคนผ่านเข้าออกในการเดินทาง 4.จัดพื้นที่รอคิว และต้องมีระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร และ 5.อนุญาตให้เฉพาะผู้รับบริการที่สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเท่านั้นสามารถใช้บริการห้องประชุมได้

ข่าวที่ 4 ททท.ผนึกจัดหัวหินเมืองความสุขต.ค.-ธ.ค.ไฮไลต์4งานยักษ์

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมสนับสนุนพันธมิตรในหัวหินจัดมหกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวปลายปี 2563 “หัวหินเมืองแห่งความสุข” ร่วมกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี  นางสาวพราวพุธ ลิปตภัลลพ กรรมการบริหาร กลุ่มพราว กรุ๊ป ชวนคนไทยเที่ยวเมืองไทย นายชาตรี จันทร์วีรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินหน้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจให้กับประเทศ จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ 360 องศา ต่อเนื่องเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เลือกงานที่ชอบตลอดไตรมาส 4 ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม 2563

ในการดึงดูดนักท่องเที่ยว พร้อมเพิ่มความสุขขึ้นไปอีกระดับกับของขวัญแห่งความสุข เอาใจเหล่านักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนเมืองหัวหินสำหรับกิจกรรมสร้างความสุข โดยมีไฮไลต์ตลอด 3 เดือน 4 งานดังนี้

 

งานแรก “Pepsi presents Glamping Festival 2020" ร่วมสัสผัสไลฟ์สไตล์ เฟสติวัล ยิ่งใหญ่ของหัวหิน ในบรรยากาศแคมปิ้งซ์คลูชีฟ แบบ New Normal พร้อมกิจกรรมความบันเทิง จากศิลปินแถวหน้า, Talk show และภาพยนตร์จากเครือเมเจอร์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-24 ตุลาคม 2563 ที่ ทรู อารีนำ หัวหิน สามารถซื้อบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกซ่องทาง หรือเว็บไซต์ www.thaiticketmajor.com

งานที่ 2 กิจกรรม Cal-Comp & CCAU Industry 4.0 ร่วมกับมูลนิธิภาพถ่ายแห่งประเทศไทย จัดประกวดภาพถ่ายหัวหินเมืองแห่งความสุข ให้คุณส่งรูปภาพ ถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ท่องเที่ยวเมืองหัวหิน รวม 672 รางวัล ชิงรางวัลมูลค่ากว่า 1,500,000 บาท เปิดรับตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2563-15 มกราคม 2564 สมัคร ผ่านทาง Line OA @CPFTTHAILAND

งานที่ 3 การแข่งขันเทนนิส Hua Hin Open 2020 presented by Cal-Comp & CCAU Industy 4.0 ประเภทชายเดียว หญิงเดี่ยวชายคู่ และหญิงคู่ ชิงเงินรางวัล 1,500,000 บาท ตั้งวันที่ 1 พฤศจิกายน - 27 ธันวาคม 2563

งานที่ 4 เคาท์ดาวน์ริมชายหาดโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท แลนด์มาร์คเคาท์ดาวน์จุดใหญ่ที่สุดในหัวหิน ชมความยิ่งใหญ่การจุดพลุเหนือท้องทะเล พร้อมแสง สี เสียง ค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี

ข่าวที่ 5 TCEBดัน4แผนเด็ดลุยกระตุ้นตลาดไมซ์ไทย-ต่างชาติปี’64

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB เปิดเผยว่า ได้วางแผนดำเนินงานปีงบประมาณ 2564 เพื่อมุ่งเสริมสร้างรากฐานความยั่งยืนภายใต้แนวคิด “ไมซ์วิถีใหม่ เติบโตอย่างยั่งยืน” ด้วยการขับเคลื่อนกลยุทธ์หลัก 4 แผนงานหลัก ประกอบด้วย 1.กระตุ้นตลาดในประเทศ 2.มุ่งชิงประมูลงานไมซ์ต่างประเทศเข้ามาจัดในไทย 3.ขับเคลื่อนไมซ์ด้วยนวัตกรรม 4.พัฒนาระบบนิเวศไมซ์ไทย ตั้งเป้าหมายความสำเร็จตลอดทั้งปีที่จะสร้างนักเดินทางไมซ์ให้ได้ถึง 10.4 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 64,000 ล้านบาท

โดยประเมินสถานการณ์อุตสาหกรรมไมซ์ปี 2564 จะเติบโตประมาณ 3.5% เริ่มไตรมาสแรกภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2563 ทีเส็บสามารถให้การสนับสนุนการจัดงานได้เรียบร้อยแล้วกว่า 70 งาน ตอกย้ำถึงอุตสาหกรรมไมซ์พร้อมจะเป็นกลไกสำคัญให้ประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ ซึ่งมีพันธมิตรทุกฝ่ายทั้งรัฐและเอกชนร่วมมือกันอย่างดี

ทีเส็บวางแผนกระตุ้นตลาดไมซ์ MICE ปี 2564 แบ่งเป็น 4 แผนงานหลัก คือ

แผนงานแรก “กระตุ้นตลาดในประเทศ” เน้นกระจายงานไมซ์สู่ภูมิภาคทั่วไทย พร้อมกับทำงานเชิงรุกร่วมกับภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น ชุมชน ควบคู่การยกระดับจัดงานไมซ์ในภูมิภาคเป็นงานระดับประเทศ สร้างจุดหมายปลายสถานที่ทางเลือกรองรับการจัดงานไมซ์ประเภทต่าง ๆ โดยใช้องค์ประกอบต่าง ๆ ของชุมชนท้องถิ่นชูอัตลักษณ์จุดขายเด่น ๆ ที่จะสามารถสร้างแม่เหล็กดึงดูดตลาดได้อย่างมีพลัง

เริ่มตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2564 ระหว่างตุลาคม – ธันวาคม 2563 ทีเส็บเตรียมต่อยอดแพ็กเกจสนับสนุนหลักการจัดงานไมซ์ในประเทศด้วยแคมเปญ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” ด้วยวิธีเติมงบประมาณเพิ่มอีก 10 ล้านบาท เร่งส่งเสริมหน่วยงานรัฐและเอกชนจัดประชุมสัมมนาในประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจและกระจายเม็ดเงินสู่ชุมชน โดยสนับสนุนเงินให้องค์กร บริษัท และผู้ประกอบการไมซ์จัดงานภายในเดือนธันวาคม 2563 ประกอบด้วย

1.จัดประชุม (Meetings) 2.จัดการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) 3.จัดงานสัมมนา (Seminars) การอบรม (Training) 4.กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) 4.กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์ (Outing) และ 5.กิจกรรมอื่นๆ โดยเลือกใช้สถานที่ในประเทศเพื่อการจัดงานดังกล่าว

อีกทั้งทีเส็บยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนงานแสดงสินค้าในประเทศควบคู่กันไปตลอดปี 2564  ผ่านโครงการบูรณาการร่วมมือภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐเอกชน หรือที่เรียกว่า “Empower Thailand Exhibition (EMTEX)”

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ทีเส็บเตรียมเสริมทัพตลาดในประเทศโดยจะเปิดตัวแนวคิด “เฟสติวัล อีโคโนมี” การสร้างมรดกทางเศรษฐกิจโดยการจัดงานเทศกาลส่งเสริมให้กระจายจัดทั่วทุกภูมิภาค เพิ่มการสร้างมูลค่าและพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่และจังหวัดต่างๆ

แผนงานที่ 2 ชิงประมูลงาน “ตลาดต่างประเทศ” ทีเส็บได้เร่งส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ตลาดนานาชาติ ผ่านการจัดงานแสดงสินค้าเล็งเจาะเป็นรายอุตสาหกรรม นำร่องจากการ “ทำแผนแม่บทงานแสดงสินค้านานาชาติ E :EXHIBITION  ภายใต้แคมเปญ “ไทยแลนด์ ล็อก-อิน อีเวนต์” เจาะกลุ่มโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน (Logistic & Infrastructure) ตอบโจทย์แนวทางโครงการแผนพัฒนาประเทศระดับมหภาคของรัฐบาล กระตุ้นทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนสร้างงานใหม่ ขยายงานเดิม กระจายงานสู่ภูมิภาค และประมูลสิทธิ์การจัดงานระดับโลกเข้ามาจัดในไทย โดยเฉพาะพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor :EEC)

ซึ่งทางทีเส็บเตรียมแผนเตรียมรุกเจาะการดึงงานไมซ์ในตลาดต่างประเทศผ่านตัวแทนการตลาดหลักใน 7 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อังกฤษ ยุโรป และอเมริกาเหนือ นำงานเข้ามาจัดในประเทศไทย

แผนงานที่ 3 มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม ทีเส็บจะมีมาตรการช่วยเหลือ สนับสนุน และฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ก้าวผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนไมซ์ร่วมกับเอกชน ด้วยวิธีพัฒนาการจัดงานรูปแบบออนไลน์ (Online) ในรูปแบบผสมผสาน (Hybrid)

ตลอดไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2564  ทีเส็บเตรียมสนับสนุนใช้แพลตฟอร์ม Virtual Meeting Space : VMS หรือ ส่งเสริมการจัดประชุมและงานแสดงสินค้าออนไลน์ ประกอบด้วย 1.การจัดแสดงสินค้าผ่านระบบออนไลน์ (Offline to Online – O2O) 2.การประชุมสัมมนาเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ (Webinar) รวม 8 งาน ได้แก่ Thailand Dive Expo (TDEX) งานมหกรรมดำน้ำ  Intercare Asia 2020 งานแสดงสินค้าเทคโนโลยี นวัตกรรมสำหรับผู้สูงอายุและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ Coffee and Bakery Fair 2020 งานแสดงสินค้ากาแฟ และเบเกอรี่ Khon Kaen International Motor Expo งานขอนแก่นมอเตอร์โชว์ Chiang Mai Design Week เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ Global Running Summit การประชุมงานวิ่งมาราธอนระดับโลก ISURA 2020 Bangkok การประชุมวิชาการทางการแพทย์ด้านวิสัญญี และ AHC 2020 การประชุมวิชาการพืชสวนแห่งเอเซีย

แผนงานที่ 4 การพัฒนาระบบนิเวศไมซ์ไทย วางแผนจัดตั้งศูนย์ประสานการอำนวยความสะดวกธุรกิจไมซ์ (One-Stop Service Center for MICE) เพื่อให้บริการข้อมูลและคำปรึกษาการจัดงานเชื่อมโยงธุรกิจครบวงจรด้วยระบบดิจิทัล บูรณาการเพื่ออำนวยความสะดวกด้านกฎระเบียบและมาตรการส่งเสริมธุรกิจไมซ์ รวมทั้งประสานงานให้บริการจัดงานไมซ์แก่หน่วยงานรัฐ ครอบคลุมไปถึงพัฒนาการให้บริการไมซ์เลน อำนวยความสะดวกให้แก่นักเดินทางไมซ์ที่เข้ามายังประเทศไทยทั้งเรื่องพิธีการตรวจคนเข้าเมือง บริการ Fast Track Visa on Arrival และการดูแลด้านสุขอนามัย

                ช่วงที่ 2 ชวนกันออกเดินทาง “ท่องเที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA” เทศกาลใหญ่ “ถือศีลกินเจกินผัก” ทั้ง 4 ภาค จาก เทศกาลเจเยาวราช ลัดเลาะไปยัง ไหว้ศาลเจ้าสมุทรสาคร 9 แห่ง กินเจปากน้ำโพ นครสวรรค์ ข้ามไปอันดามัน “กินเจภูเก็ต” อิ่มใจได้บุญทุกเส้นทาง จากนั้นแนะนำให้ดูแลสุขภาพ “เลิกกินอาหารรสจัดหวานมันเค็ม” ส่งผลเสียอย่างรุนแรงกับหลอดเลือด ส่วนข่าวร้อนท่ามกลางสายฝนต้องยกให้ “มหากาพย์ฟื้นฟูการบินไทย” กำลังจะกลายเป็นหลุมดำของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะที่ “บางกอกแอร์เวย์ส” คิดกลยุทธ์ใหม่ให้สมาชิกใช้แต้มแลกห้องหรูพักฟรีที่เกาะสมุย

เที่ยวเมืองไทยไปกับSHAทัวร์บุญใหญ่ร่วมถือศีลกินเจทั่วไทย

ได้เวลาออกเดินทาง “ท่องเที่ยวเมืองไทย ปลอดภัยไปกับ SHA” ช่วงเทศกาลบุญ “ถือศีลกินผัก กินเจ” ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 17 - 26 ตุลาคม 2563 มีไฮไลต์กินเจแต่ละภาคมาให้เลือกไปร่วมอิ่มบุญกันวันที่  16 - 25 ตุลาคม 2563 

เริ่มในภาคกลาง "กินเจเยาวราช" กรุงเทพฯ บรรดาร้านอาหารเจรวมเมนูมาให้เลือกกว่า 100 เมนู เดินเลือกชิมตามบูธได้ตั้งแต่วงเวียนโอเดียนจนถึงแยกเฉลิมบุรี พร้อมกับร่วมกิจกรรมทำบุญ เสริมดวง ชมขบวนแห่รถบุปผชาติ การเชิดสิงโต

ต่อด้วย “ประเพณีไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจสมุทรสาคร” ระหว่างวันที่ 16 - 25 ตุลาคม 2563 ศาลเจ้าทั่วเมืองสมุทรสาคร และบริเวณริมเขื่อนหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาครร่วมกันจัดงานขายอาหารเจกว่า 50 ร้าน

สายบุญแนะนำเสริมสร้างสิริมงคลไหว้ทั่วสมุทรสาครให้ครบ 9 ศาล ทางจังหวัดจัดเตรียมรถรางไว้บริการรับ-ส่ง ตลอดเส้นทาง ได้แก่ ที่ “มหาชัย” ก็มี ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร (มหาชัย) โรงเจมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ศาลเจ้าปุนเถ้ากงในคลอง ศาลเจ้าแม่กวนอิมพันมือคลองจาก “ท่าฉลอม” มีศาลเจ้าแม่จุ๊ยบ๋วยเนี้ย โรงเจเชงเฮียงตั๊ว ศาลเจ้าปุนเถ้ากง ศาลเจ้าพ่อกวนอู และ พระโพธิสัตว์กวนอิม

“ภาคเหนือตอนล่าง” ต้องไปสัมผัสบุญใหญ่ เทศกาลกินเจ เมืองปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 17 -25 ตุลาคม 2563 จัดอย่างยิ่งใหญ่บริเวณ ศาลเจ้าพ่อ-เจ้าแม่หน้าผา เมืองปากน้ำโพ  ร่วมกราบไหว้เจ้าพ่อ-เจ้าแม่หน้าผา เดินข้ามสะพานบุญ ลอยประทีปสีประจำวันเกิดเสริมดวงเพิ่มบารมี และอิ่มอร่อยกับอาหารเจหลากชนิดนำมาบริการตลอดทั้งวัน

       “ภาคตะวันออก” กินเจ พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่  16 – 26 ตุลาคม สถานที่ : ณ มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เชิญชวนให้ทุกคนพร้อมใจแต่งกายด้วยชุดสีขาว เพื่อร่วมขบวนอัญเชิญเทพยดาฟ้าดิน (เซ็งทีตี้) กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว และพระโพธิสัตว์ ไปสถิต ณ โรงเจสว่างบริบูรณ์ จากนั้นวัดถัดไปจะมีพิธีสวดมนต์ เดินธูป พิธีลอยกระทง ขอขมาต่อพระแม่คงคา พิธีเซ่นไหว้ดวงญาณผู้ไร้ญาติ พิธิทิ้งกระจาด และเผาเครื่องทรงถวาย กิ้วอ้วงฮุกโจ้วและพระโพธิสัตว์ ส่วนวันสุดท้ายจะเคลื่อนขบวนออกจากหน้าโรงเจไปยังชายหาดหน้าต้นโพธิ์ ทำพิธีส่ง กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว และ พระโพธิสัตว์ หลังจากนั้นกลับมาที่โรงเจ ดื่มน้ำมนต์เพื่อความเป็นศิริมงคล และเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมอันดีของประชาชนในพื้นที่ที่ดำเนินกิจกรรมการกุศลนี้ และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอีกทางหนึ่ง

“ภาคใต้” ชวนไปร่วมเทศกาลถือศีลกินผัก จ.ภูเก็ต ได้ตามศาลเจ้าต่าง ๆ ทั่วเกาะ ระวห่างวันที่ : 17 - 25 ตุลาคม 2563  ปีนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตกับคณะกรรมการศาลเจ้าทุกแห่ง จะจัดแบบวิถีชีวิตใหม่ New Normal สามารถชมพิธียกเสาโกเต้ง วันที่ 16 ต.ค.นี้ รวมทั้งพิธีสะเดาะเคราะห์ ไหว้พระในศาลเจ้า แต่จะไม่มีการแสดงอภินิหารต่าง ๆ เหมือนปีอื่น ๆ  เช่น ลุยไฟ อาบน้ำมัน จะเน้นการจัดงานแบบเรียบง่าย ปฏิบัติตามมาตรการหลักที่ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 รณรงค์ให้ทุกคนที่เข้าร่วมงานสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคมด้วย

โดยจะใช้ขบวนแห่ด้วยรถยนต์แทนการแห่พระเดินไปตามถนนต่าง ๆ  อีกทั้งยังได้จำกัดจำนวนม้าทรง จำกัดจำนวนอ๊ามหรือศาลเจ้ากับขนาดองค์เทพเจ้าทรงทำพิธีแห่งละ 1 องค์  

ถึงเวลาท่องเที่ยวทางบุญประจำปีกับเทศกาลถือศีลกินเจ เลือกได้ตามความสะดวก ทั้ง กรุงเทพฯ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ ออกมาเที่ยวเมืองไทยแล้วจะรู้ว่าอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม อย่างแน่นอน

 

ฟังชัดๆ “กินอาหารรสจัดหวานมันเค็ม”ส่งผลเสียต่อหลอดเลือด

การกินอาหารรสจัด เช่น หวานจัด เค็มจัด มันสูง และไม่กินผัก ส่งผลเสียต่อหลอดเลือดเราอย่างไรบ้าง? มาดูกัน

1.กินหวานจัด : กินน้ำตาลมากเกินไป จะทำให้เลือดเหนียว ข้น จนหลอดเลือดในร่างกายอักเสบ และหากกินมากเกินไปร่างกายจะเปลี่ยนน้ำตาลส่วนเกินมาเป็นไขมันสะสม ทำให้เสี่ยงเป็นโรคอ้วนและเบาหวานด้วย

2.กินมันจัด : การกินอาหารทอด เนื้อติดมัน ไขมันจากสัตว์ มากเกินไป ไขมันเกาะติดในผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบ นำไปสู่โรคอ้วน และกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

3.กินเค็มจัด: โซเดียมเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเกาะกับโมเลกุลของน้ำ ยิ่งกินเค็มจัดก็ยิ่งมีน้ำในกระแสเลือดมากกว่าปกติ ก็ยิ่งทำให้เกิดความดันเลือดสูง ซึ่งจะทำให้เซลล์เยื่อบุข้างในหลอดเลือดที่รับแรงกระแทกจากความดันแข็งตัวและเสื่อมลง โดยเฉพาะหลอดเลือดบริเวณไต เสี่ยงหลอดเลือดไตถูกทำลาย และเนื้อไตเสียหายในที่สุด

 ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก มหากาพย์ฟื้นฟู“การบินไทย”หลุมดำรัฐบาลพลเอกประยุทธ์

มหากาพย์สายการบินแห่งชาติ “การบินไทย” ผลพวงจากน้ำผึ้งหยดเดียว หลัง "นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร" รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ลงนามคำสั่งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 แต่งตั้ง "นางพงศ์อุมา ดิษยะศริน" รับ 2 ตำแหน่ง ในการบินไทย คือ ผู้จัดการกองบริหารทรัพยากรและสนับสนุนปฏิบัติการด้านความปลอดภัยมั่นคงและมาตรฐานการบิน (JO) กับโปรโมตขึ้นเป็นรักษาการ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมองค์กรเพื่อสังคมลิ่งแวดล้อม (4F)

 

นางพงศ์อุมา ดิษยะศริน มีฐานะเป็นภรรยา พลอากาศเอกชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ประธานบอร์ดการบินไทย

นางพงศ์อุมา ดิษยะศริน เป็นพนักงานการบินไทยที่เหลืออายุงานอีกเพียง 1 ปี จะเกษียน

นางพงศ์อุมา ดิษยะศริน ได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งใหญ่โตขึ้นรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายฯ

เป็นช่วงที่ บมจ.การบินไทย อยู่ระหว่างทำแผนฟื้นฟูกิจการตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง

 

นับจากวันที่ 1 ตุลาคม 2563 พนักงานการบินไทยต่างลุกฮือหาเอกสาร หลักฐาน พร้อม ๆ กับ ลำดับเหตุการณ์ การทำหน้าที่ของพลอากาศเอกชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ประธานบอร์ดการบินไทย และเส้นทางการทำงานของนางพงศ์อุมา ดิษยะศรินมีตำแหน่งเติบโตในการบินไทย ได้อย่างไร

 

วันพุธที่ 7 ตุลาคม 2563 พนักงานเขียนบทความ ลำดับเหตุการณ์การรับหน้าที่ประธานบอร์ดของ พลเอกชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ที่เข้ามาทำหน้าที่ประธานบอร์ด การบินไทย กับ การที่นางพงศ์อุมา ดิษยะศริน ได้รับการโปรโมตตำแหน่งต่อเนื่องทุกปี

บทความดังกล่าวได้ทวงถามถึง "ธรรมาภิบาล" บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยมี กระทรวงการคลังเคยถือหุ้นใหญ่มาก่อน

 

วันพฤหัสที่ 8 ตุลาคม 2563 สหภาพการบินไทย ออกแถลงการณ์ รณรงค์ให้พนักงานช่วยกันแต่งดำ วันประชุม Staff Meeting เพื่อแสดงสัญลักษณ์ให้รู้ว่าสิ่งที่ฝ่ายบริหารบางคน กับบอร์ดบางคน กำลังกระทำกันอยู่ขณะนี้ ขาดความชอบธรรมอย่างชัดเจนหรือไม่ !?

 

วันที่ 9 ตุลาคม 2563 พนักงานพร้อมใจกันแต่งชุดดำเข้าไปสำนักงานใหญ่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ขับไล่นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร พ้นตำแหน่งรักษาการ DD

 

พนักงานทั้งการบินไทย จะต้องสิ้นเปลืองน้ำหมึก เพื่อเขียนลำดับเหตุการณ์ต่อไปอีกกี่วัน กี่ปี

นายกรัฐมนตรี "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" จึงจะเข้าใจ พร้อมจะแสดงความจริงใจทำให้นโยบาย ลดความเหลื่อมล้ำกับสร้างความเป็นธรรม เกิดขึ้นจริง ตามที่ประกาศไว้กับประชาชนมาตลอด 5 ปี

 

วันนี้ถึงเวลาใช้โมเดล "การบินไทย" ครั้งนี้เปลี่ยนแปลง แก้ไข เป็นตัวอย่าง ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ความมั่นใจ ความศรัทธา ว่านโยบายรัฐที่ประกาศ "ลดความเหลื่อมล้ำ-สร้างความเป็นธรรม" มิใช่เรื่องลมปากทางการเมือง หากแต่เป็นเรื่องจริงที่จับต้องได้นั่นเอง

ข่าวที่สอง บางกอกแอร์ดึงวนาเบลล์ฯรีสอร์ตหรูนำไมล์แลกห้องพักฟรี

สายการบินบางกอกแอร์เวย์สจับมือกับพันธมิตร “วนาเบลล์ เอ ลักซ์ซูรี่ คอลเลคชั่น รีสอร์ท เกาะสมุย” มอบสิทธิประโยชน์ให้สมาชิกฟลายเออร์โบนัส สามารถนำคะแนนสะสมแลกเป็นรางวัลบัตรห้องพักซึ่งมีให้เลือกถึง 5 ประเภท เริ่มต้นที่ 32,500 คะแนน เริ่มตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป

สำหรับ “วนาเบลล์ เอ ลักซ์ซูรี่ คอลเลคชั่น รีสอร์ท เกาะสมุย” เป็นรีสอร์ตหรูในแบรนด์ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น ในเครือแมริออทอินเตอร์เนชั่นแนล ตั้งอยู่บนหาดเฉวงน้อยอันเงียบสงบ ซึ่งมีชายหาดระยะทางยาว 180 เมตร และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดในเอเชีย

มีห้องพักทั้งหมด 79 ห้อง ซึ่งเป็นห้องสวีทและพูลวิลล่าที่มาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ตกแต่งอย่างสวยงามและกว้างขวาง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากป่าหิมพานต์และธรรมชาติอุดมสมบูรณ์รอบข้าง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทางท่องเที่ยวที่มองหาการพักผ่อนหย่อนใจที่หรูหราสะดวกสบาย ท่ามกลางความสวยงามของทะเลอ่าวไทยและธรรมชาติที่ร่มรื่น

ดูรายละเอียดการแลกรางวัลบัตรห้องพักโรงแรม ได้ที่ https://flyerbonus.bangkokair.com หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลสมาชิกฟลายเออร์โบนัส โทร. 1771 กด 2 (ภายในประเทศ) หรือ +66 (0) 2 270 6699 กด 2 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 20.00 น.

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง