ททท.ปลุกผู้ประกอบท่องเที่ยวไทยบูมSHAเพิ่มรายได้ปี'64 กระตุ้นเอกชนเร่งขายSHA-Workationดึงเงินตรงเข้าธุรกิจ
ททท.ปลุกผู้ประกอบท่องเที่ยวไทยบูมSHAเพิ่มรายได้ปี'64
กระตุ้นเอกชนเร่งขายSHA-Workationดึงเงินตรงเข้าธุรกิจ
“ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ติดอาวุธ Amazing Thailand Safety & Health Administration :SHA รุกเร็ว ต้อนรับไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2564 ต.ค.นี้ ระดมสินค้าท่องเที่ยวหรูทั่วไทยกระหน่ำลดราคาสูงถึง 50 % สายการบินแห่นำที่ว่างนับ 10 ล้านที่นั่งที่เคยขายต่างชาติราคาแพง ๆ มาชวนคนในประเทศหันมา “ท่องเที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA” เจาะตรงคนมีตังค์ในประเทศ 2 กลุ่มใหญ่ “คอร์ปอเรต-ต่างชาติในไทย” ปลื้มภายใน 5 เดือน ธุรกิจตื่นตัวขอรับตราสัญลักษณ์ SHA กว่า 10,000 ราย พร้อมผูกแพกเกจ “SHA กับ Workation Thailand” นำร่อง 3 เดือนนี้ ตั้งเป้าโกยแน่ ๆ 100,000 คน-ครั้ง งัดจุดขายใหม่ท่องเที่ยวไทย “สดใหม่-ยั่งยืน-คืนธรรมชาติ”
รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าการขับเคลื่อน “ตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย : Amazing Thailand Safty & Health Administration : SHA” ด้วยกลยุทธ์การเปิดตลาดให้ผู้ประกอบการธุรกิจแต่ละประเภทที่ผ่านการรับรองพร้อมได้ตราสัญลักษณ์ SHA เรียบร้อยแล้ว นำสินค้ามาเปิดบูธวางขายในงาน “ท่องเที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA :Dream Vacation @CentralWorld” ครั้งที่ 2 ภายใต้แคมเปญ Expat Travel Bonus และ The Healthy Jouney ระหว่างวันที่ 7-11 ตุลาคม 2563 ณ ฮอลล์ ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ต่อเนื่องจากครั้งที่ 1 จัดไปเมื่อวันที่ 11-13 กันยายน 2563 บริเวณฮอลล์ ชั้น 5 สามย่าน มิตรทาวน์ เน้นการขายระหว่างธุรกิจกับนักท่องเที่ยวทั่วไปซึ่งประสบความสำเร็จมียอดขายหน้าร้านออฟไลน์เกินกว่า 13 ล้านบาท และขายออนไลน์ได้ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
เพราะได้ใช้กลยุทธ์นำสินค้าท่องเที่ยวมาเสนอขายในราคาพิเศษลด 30-50 % 2.ผู้ประกอบการแต่ละรายได้รับเงินตรงเข้าบริษัทเพื่อนำไปใช้หมุนเวียนจ้างพนักงานและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 3.ห้องพัก แพกเกจท่องเที่ยว ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มมูลค่ามากขึ้น 4.สร้างการรับรู้ตราสัญลักษณ์ SHA ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเพิ่มมากขึ้น
สำหรับการจัดงาน “ท่องเที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA :Dream Vacation @CentralWorld” ครั้งที่ 2 เป็นกลยุทธ์จุดประกายความสำคัญให้คนในประเทศหันมาเลือกการเดินทางสู่จุดหมายปลายทางที่ฝันไว้ โดยผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้นำเสนอความพิเศษครอบคลุมทั้ง 1.สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งมีความหรูหรา 2.ราคาสัมผัสจับจ้องได้ 3.มั่นใจในการเดินทางด้วยความปลอดภัยด้านสุขอนามัยในช่วงป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ภายในงานได้เชิญชวนโรงแรมไฮเอนด์ที่มีบริการห้องพักหรูเปิดให้จองได้ในราคาลดพิเศษรวมกว่า 40 แห่ง และมีสายการบินในประเทศ ไทยแอร์ เอเชียนำตั๋วโดยสารราคาลดแรง ๆ ในช่วงฤดูเดินทางท่องเที่ยวมาร่วมขายจากเดิมปีก่อน ๆ ราคาค่อนข้างแพงจนคนไทยแทบจะซื้อไม่ได้เลย เพราะช่วงตุลาคมปีก่อนหน้านี้ตั๋วโดยสารของสายการบินในประเทศส่วนใหญ่จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อไปเกือบทั้งหมดจากจำนวนที่เข้ามาเที่ยวเมืองไทยเกือบ 10 ล้านคน
แต่ปี 2563 นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปเกือบทั้งหมด เพราะไม่สามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยได้ ทางโรงแรม สายการบินในประเทศ พากันลดราคาขายลงมากกว่า 50-60 % เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยววันหยุดยาวและการท่องเที่ยวช่วงปลายปีนี้
ดังนั้น ททท.จึงเร่งจัดแคมเปญโดยให้ผู้ประกอบการนำมาขายในงาน “ท่องเที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA :Dream Vacation @CentralWorld” ครั้งที่ 2 เน้นเจาะกำลังซื้อคุณภาพ 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ 1 บริษัท ห้างร้าน องค์กรขนาดใหญ่ (corporate) ภาคเอกชนและหน่วยงานรัฐ กลุ่มที่ 2 ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในเมืองไทย (Expat) ผนวกกับสถานการณ์โควิด-19 ได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสเรื่องชื่อเสียงของประเทศไทยที่สร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยติดอันดับต้น ๆ ของโลก ภายในงานจึงได้สร้างสรรค์แพกเกจ Expat Travel Bonus ขายคู่กับ The Healthy Jouney ด้วยไฮไลต์การตรวจสุขภาพ ทำสปา โดยมีโรงพยาบาลที่ได้การรับรอง JCI โรงแรมระดับ 5 ดาว ให้บริการสปาและสุขภาพ โปรแกรมฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ความสวยความงาม รวมอยู่ในแพกเกจซึ่งนำเสนอโดย ททท.ระหว่างวันที่ 10-11 ตุลาคม 2563
นางสาวฐาปนีย์ยืนยันว่า การจัดมหกรรมขาย “ท่องเที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA” นั้นเป้าหมายหลักต้องการสร้างความภูมิใจให้ผู้ประกอบการทุกธุรกิจที่ได้รับตรามาตรฐาน SHA แล้วก็ขอให้รักษาคุณภาพบริการให้คงอยู่ตลอดไป มีคุณูปการต่อนักท่องเที่ยว สามารถขายจริงได้ด้วย โดย ททท.จะทุ่มเทช่วยสนับสนุนทุกช่องทาง ได้แก่ “ตลาดในประเทศ” เปิดทุกช่องทางทั้งการทำออนไลน์ ออฟไลน์ ออนกราวนด์ “ตลาดต่างประเทศ” สร้างการรับรู้ให้ทั่วโลกรู้จักอย่างแพร่หลาย โดย ททท.สำนักงานต่างประเทศ 29 แห่ง เผยแพร่ไปยังภาคีพันธมิตร บริษัทตัวแทนการท่องเที่ยว พนักงานหน้าร้านผู้ขายการท่องเที่ยวมาเมืองไทย นำจุดขาย SHA บวกกับเข้าสินค้าและกิจกรรมท่องเที่ยวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม 2563 ภายในเวลาเพียงแค่ 5 เดือน มีธุรกิจประเภทต่าง ๆ สมัครเข้าร่วมขอการรับรองตราสัญลักษณ์ SHA มากกว่า 10,000 ราย ผ่านการพิจารณารอบแรกแล้วกว่า 8,500 ราย ได้รับรองตราสัญลักษณ์ไปเรียบร้อยแล้วเกือบ 6,000 ราย
ในปี 2564 ททท.ต้องการกระจายให้ทุกกลุ่มธุรกิจได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ตอนนี้ อันดับ 1 กลุ่มธุรกิจโรงแรมรับตราสัญลักษณ์ SHA ไปมากที่สุด รองลงมาตามลำดับได้แก่ บริษัทตัวแทนนำเที่ยว รถบริการท่องเที่ยวหรือโลจิสติกส์ และเริ่มมีสายการบินขอเข้ารับด้วยเช่นกัน คือ การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เกิดความแข็งแกร่งภายใต้มาตรฐาน SHA ของไทย
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวต้องขอชื่นชม ขณะนี้มีแหล่งท่องเที่ยวชุมชนและโฮมสเตย์ทยอยเข้าร่วมแล้ว อีกทั้งยังแหล่งท่องเที่ยวประเภทกีฬา SPORT TOURISM เช่น สนามกอล์ฟ การจัดอีเวนต์ท่องเที่ยว เช่นวิ่ง ต้องนำมาตรฐาน SHA เข้ามาใช้ทุกขั้นตอน เพื่อป้องกันให้ทุกธุรกิจมีส่วนร่วมรณรงค์ไม่ให้เกิดอาการการ์ดตกเรื่องป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ขณะเดียวกัน ททท.ได้จัดทำรีวิวจากผู้บริโภคแจ้งเข้ามายัง คอล เซนเตอร์ ถึงสถานที่แห่งใดบ้างที่ได้ตราสัญลักษณ์ SHA ไปแล้วกำลังการ์ดตก ทางทีมของ ททท.ที่รับผิดชอบดูแลก็จะส่งคำเตือน พร้อมทั้งแนะนำให้กลุ่มธุรกิจเหล่านั้นเร่งข้อบกพร่องกลับเข้ามาสู่มาตรฐานโดยเร็ว ส่วนใหญ่จะเริ่มไม่สวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร จะต้องคลุมภาชนะการนำมาใช้งานหรือเสิร์ฟผู้บริโภค
นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า ได้วางแผนผสมผสานจุดขายของตราสัญลักษณ์ SHA เข้ากับโครงการ Workation Thailand ซึ่งเป็นความตั้งใจของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายเร่งกระตุ้นให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกิดสภาพคล่อง ตรึงการจ้างงาน โดยขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเติมเงินตรงให้แก่ผู้ประกอบการทั่วประเทศ
ตอนนี้ ททท.กำลังเป็นแม่งานจับคู่ประสานงานกับทางบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ องค์กรขนาดใหญ่ ที่ต้องการซื้อแพกเกจท่องเที่ยวในราคาเหมารวมแต่ละครั้งยกล็อตใหญ่ขนาด 100-200-300 ห้อง (roomnight) สามารถซื้อได้ในราคาพิเศษมาก ๆ แต่ละบริษัทสามารถจ่ายเงินทันทีเพื่อซื้อก่อนการเดินทางไปใช้บริการ แล้วนำไปให้พนักงานเดินทางไปจัดกิจกรรมกลางแจ้ง outing ประชุมสัมมนา หรือทำงานนอกสถานที่ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
ไฮไลต์อีกเรื่องคือ ททท.ต้องการจะบอกให้ทุกคนเปลี่ยนทุกสถานที่ทั่วเมืองไทยให้กลายเป็นที่ทำงานตามคอนเซ็ปต์ Workation Thailand เพื่อช่วยกันฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่กำลังประสบปัญหาวิกฤตรุนแรง อีกส่วนคือเรื่อง กระทรวง ทบวง กรม ต่าง ๆ สามารถรับประโยชน์จากการจ่ายเงินซื้อแบบยกล็อตเปลี่ยนกลับมาเป็นการสะสมคะแนน “แต้มสะสมความอยู่รอดของผู้ประกอบการ :Survival Point” ตอนนี้ได้วางระบบจัดทำเป็น Tier ระหว่างนี้-ธันวาคม 2563 จะสรุปยอดว่ามีผู้ใช้บริการรายใดมียอดคะแนนอยู่ระดับเทียร์ใด เพื่อเข้ารับรางวัล Trophy จากนายกรัฐมนตรี
ขณะนี้มีบริษัทนำร่องเรียบร้อยแล้วในเครือ ปตท.ทั้งหมด รวม 8 บริษัท (OR, IRPC, ไทยออยล์ และอื่น ๆ ) ปิดดีลการซื้อห้องพักยกล็อตกว่า 3,000 ห้อง มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท
ส่วนภาพรวมของโครงการ Workation Thailand ตอนนี้มีกระแสตอบรับจากองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ตอบรับดีมาก มีกลุ่มต่าง ๆ เริ่มทยอยเข้ามาใช้บริการตามแบบ ปตท.โมเดลแล้ว เช่น ธุรกิจน้ำมันกลุ่ม PT กลุ่มโตชิบาผู้จำหน่ายเครื่องไฟฟ้ารายใหญ่ของประเทศ และกลุ่มอื่น ๆ ภาครัฐเองก็มี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (กลต.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายในสิ้นปีนี้พนักงาน กฟผ.12,000 คน จะกระจายเดินทางท่องเที่ยวนอกพื้นที่ของตนเอง เพื่อตอกย้ำความร่วมมือช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ
สำหรับการเชื่อมโยงตราสัญลักษณ์ SHA กับโครงการ Workation Thailand นั้น ททท.จะทำให้เกิดเป็นรูปธรรมชัดเจน โดยการนำเสนอเส้นทางแหล่งท่องเที่ยว ห้องพักโรงแรม รถขนส่ง ที่ได้ตราสัญลักษณ์ SHA ให้เป็นจุดหมายปลายทางแนะนำให้นักท่องเที่ยวและองค์กรต่าง ๆ เลือกใช้บริการ โดย ททท.จะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในการบรรจุไว้ในแพกเกจท่องเที่ยวเพื่อให้คนเดินทางได้ใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.workationthailand.com ส่วนผู้ประกอบการ เข้าไปที่ ไลน์แอด @workationagency
นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่าวางเป้าหมายกระตุ้นรายได้จากการผสมผสานการนำตราสัญลักษณ์กับ Workation Thailand หลอมรวมจุดขายเข้าด้วยกัน ได้วิเคราะห์ไว้ภายใน 3 เดือน ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม 2563 จะสามารถกระตุ้นให้คนออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศร่วมกับ SHA และ Workation Thailand ไม่ต่ำกว่า 100,000 คน-ครั้ง
โดยเตรียมใส่ลูกเล่นให้กลุ่มคอร์ปอเรตที่มองหาสินค้าใหม่ ๆ เพื่อจะไป Outing , Working, Meeting ททท.จะแนะนำสินค้ายอดนิยม กลุ่มแรก สินค้าเกี่ยวเนื่องการทำซีเอสอาร์ กลุ่มที่ 2 สินค้าหรือแหล่งท่องเที่ยวชุมชน กลุ่มที่ 3 สินค้าท่องเที่ยวหรูหราเชิงอาหาร Gastronomy กลุ่มที่ 4 ความสนใจพิเศษ Special Deal
ตลอดปลายฝนต้นหนาว ททท.ด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ได้สอดแซก “หมวดสินค้าแปลกใหม่” เน้นสินค้าท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่น เรื่องที่ 1 “ความยั่งยืน-คืนสู่ธรรมชาติ” ซึ่งสินค้าท่องเที่ยวดังกล่าวข้างต้นสามารถตอบโจทย์ได้อย่างชัดเจน ต่อด้วย การท่องเที่ยวรับพลัง (Power Spot) ท่องเที่ยวชุมชนตามรอยศาสตร์พระราชา ททท.ทำมาอย่างต่อเนื่อง หรือเส้นทางแนะนำใหม่ล่าสุด “ชุมชนทุ่งมัจฉา” จังหวัดตรัง
เรื่องที่ 2 “ความสดและความแปลกใหม่” มีความคิดสร้างสรรค์ ตอนนี้เริ่มนำร่องทำแพกเกจดูดาวตามดาราศาสตร์พื้นที่แรกเขาใหญ่ เรื่องที่ 3 “ติดตรึงอยู่ในใจของนักท่องเที่ยว” ต้องสร้างให้เกิดประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยวหรือ experience ให้ได้
ททท.จะทำเป็นขุมทรัพย์ท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นได้ในปี 2564 ต่อไป ตอบโจทย์ครอบคลุมทั้งทางด้าน “ความยั่งยืน-คืนความสุขสู่ธรรมชาติ-ประกาศศักดาความยิ่งใหญ่แหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น