เจาะลึก“มิรามา”ทุนไทยเปิดเทรนด์ธุรกิจใหม่TRAVEL SOLUTION ปลุกท่องเที่ยวไทยพลิกตลาดหลังโควิด19-ชูโปรเจ็กต์เกษียนสำราญ
เจาะลึก“มิรามา”ทุนไทยเปิดเทรนด์ธุรกิจใหม่TRAVEL SOLUTION
ปลุกท่องเที่ยวไทยพลิกตลาดหลังโควิด19-ชูโปรเจ็กต์เกษียนสำราญ
บัตรคิงเพาเวอร์พักโรงแรมแอคคอร์13แบรนด์ลด35%ถึง28ก.พ.64
คิงเพาเวอร์นำฬานิกาเทรน์ด์หรู6แบรนด์โลกมากระตุ้นต่อมนักช้อป
ททท.กระตุ้นภัตตาคาร/ร้านอาหารทั่วไทยเข้าSHAด้วยสูตร14-6-6
ททท.ชวนเที่ยวงานลอยกระทงทั่วประเทศ6พื้นที่31ต.ค.-1พ.ย.นี้
มูลนิธิปิดทองผนึก6องค์กรร่วมใช้แนวพระราชดำริฟื้นชีวิตคนไทย
“เที่ยวเมืองแพร่”สัมผัสธรรมชาติภูผาเมืองไทยอะเมซิ่งยิ่งกว่าเดิม
ระวัง!ช่วงหน้าฝนเร่งป้องกันและรักษา3 โรคติดต่อยอดฮิตมาแรง
รร.อิมพีเรียลทั่วไทยเทขายห้องพักวันธรรมดาราคาเดียว700บาท
รร.อลอฟท์สุขุมวิทจัดโปรStay&Savourพัก/กินไม่อั้นซีฟู้ดินเนอร์
โชว์โลมาภูเก็ตเทเพิ่ม2โปรโมชั่นใหญ่“ตั๋วเข้าชม-ว่ายน้ำกับโลมา”
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #มิรามาเปิดเทรนด์ธุรกิจใหม่TRAVELSOLUTION #บูมทัวร์เกษียนสำราญ #คิงเพาเวอร์นำนาฬิกา6แบรนด์หรูบุกไทย และฟังLiveสดจากลิงค์ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1473174256209961&id=100005522016696
ช่วงที่ 1 เจาะลึกการลงทุนธุรกิจเทรนด์ใหม่ของ “นายจิระวัฒน์
บุษยะอรุณวิทย์” ซีอีโอ บริษัท มิรามา เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด” โชว์บริการ Travel
Solution รับมือตลาดท่องเที่ยวเปลี่ยนหลังโควิด-19 ลั่นพร้อมแข่งขัน OTA ต่างชาติที่เข้ามาปักหลักโกยรายได้อยู่ในเมืองไทย
ด้วยกลยุทธ์ “บริการแนวใหม่ครบวงจร” ตั๋วเครื่องบิน แพกเกจท่องเที่ยว รับทำวีซ่า Work
Permit จ่อเปิดบิ๊กโปรเจ็กต์
“เกษียนสำราญ” ปลุกผู้สูงวัยต่างจังหวัดชิงแห่เข้าเที่ยวกรุงเทพฯ ช่วงปลอดต่างชาติ
ระดมพันธมิตร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร เข้าร่วมกระจายรายได้ต้นปี’64
นายจิระวัฒน์
บุษยะอรุณวิทย์ ซีอีโอ บริษัท มิรามา เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า
ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้นำคอนเซ็ปต์แนวใหม่เข้ามาใช้ในรูปแบบ
Travel Solution แบ่งเป็น มิรามาเป็นบริษัทดำเนินธุรกิจให้บริการท่องเที่ยวแบบครบวงจร
ส่วน Wonderfull เป็นแบรนด์ขายแพกเกจการท่องเที่ยว
การเดินทางพักผ่อนแบบครบวงจร โดยได้ประเมินสถานการณ์ธุรกิจหลังไวรัสโควิด-19
ผู้ประกอบการไทยจะต้องเผชิญหน้าเรื่องการแข่งขันกับกลุ่ม Online Travel
Agents :OTA ต่างชาติค่อนข้างสูงทะลักเข้ามาเป็นจำนวนมาก
จึงต้องทำโครงสร้างใหม่ขึ้นมาต่อสู้ด้วย travel Solution ประกอบด้วย
การจัดทำแพกเกจท่องเที่ยวแบบครบวงจรเพื่อวางขาย
ให้ลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อได้อย่างสะดวกสบายผ่านช่องทางดิจิทัลออนไลน์
มีทั้งตั๋วเครื่องบิน ห้องพักโรงแรม บัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว
บัตรรับประทานอาหาร บริการรถเดินทางหรือโลจิสติกส์
ซึ่งเป็นบริการที่นักท่องเที่ยวต้องใช้ตลอดการท่องเที่ยว
รวมทั้งบริการจัดทำวีซ่า
เอกสารขอประกอบอาชีพในไทย (work permit)
และบริการคอร์ปอเรตที่ต้องการให้กลุ่มทที่ได้รับรางวัลท่องเที่ยวฟรี (incentive) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของ Travel
Solution ในเมืองไทยยังค่อยมีผู้ประกอบการไทยลงทุนทำ
ส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาตินำเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดในไทย อาทิ Traveloka ของอินโดนีเซีย และ Expedia อเมริกา
ดังนั้น
มิรามา เซอร์วิส (ประเทศไทย) จะขอเป็นผู้นำร่องรายแรกเพื่อทำ Travel
Solution เทรนด์บริการแนวใหม่ที่จะสามารถเข้ามารักษาส่วนแบ่งตลาดท่องเที่ยวในไทยไว้ให้ได้มากที่สุด
เมื่อเปรียบเทียบกับ OTA
ต่างชาติที่เข้ามาปักหลักทำการตลาดในไทยจะเน้นแต่เรื่อง “ราคา” เพียงอย่างเดียว
แต่ไม่มี “บริการ-Service” ตัวอย่างคือเมื่อนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการ
OTA ของต่างชาติที่มีอยู่ในไทย
เช่น ซื้อตั๋วโดยสารเครื่องบินเสร็จเรียบร้อย
เมื่อมีปัญหาก็จะต้องอีเมลเข้าไปถามโดยไม่สามารถสื่อสารตอบโต้กับพนักงานโดยตรงได้
แต่ Travel Solution ของมิรามาจะเพิ่มบริการมีพนักงานพูดคุยกับลูกค้าเมื่อติดขัดปัญหาเรื่องต่าง
ๆ ก็สามารถโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาสอบถามโดยตรงจากพนักงานได้
พร้อมจะให้บริการแบบครบวงจร ทั้งกลุ่มเดินทางเดี่ยวอิสระ (F.I.T.) หรือกลุ่มคณะขนาดใหญ่ (G.I.T.)
ทางมิรามาได้พัฒนาระบบ
Travel Solution ต่อเนื่องมาแล้วถึง
3 ปี
โดยได้พัฒนาระบบบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า เช่น มีบริการ Group
& Go เมื่อขายตั๋วโดยสารเครื่องบินให้ลูกค้าทั้งแบบเดินทาง
เดี่ยวรายบุคคล หมู่คณะกลุ่มขนาดใหญ่ และครอบครัว
ขณะนี้กำลังจัดทำโครงการ
“เกษียณสำราญ” บริการนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุ แบ่งรายการกลุ่มเป้าหมาย Segment โดยออกแบบตามความต้องการของแต่ละกลุ่ม (telemade Service)
ได้อย่างสะดวกสบาย
นายจิระวัฒน์กล่าวว่า
ตลอดช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19
ต้องยอมรับว่าธุรกิจได้รับผลกระทบค่อนข้างมากบาดเจ็บเหมือนกันทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
เพราะทุกอย่างหยุดนิ่งไม่มีผู้เดินทาง โดยมิรามาเองมีหลายหน่วยธุรกิจหรือ Business
Unit :BU เช่น
อินเซ็นทีฟ ตัวแทนจำหน่ายสายการบินต่าง ๆ แต่ทุกผู้ประกอบการหยุดทั้งหมด
ดังนั้นทางมิรามาจึงเปิดหน่วยธุรกิจใหม่นั่นคือ
รุกเจาะตลาดชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักในเมืองไทย (Expat) เช่น บริการทำวีซ่า
ยื่นขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบอาชีพในประเทศไทย ซึ่งเป็นเซกเมนท์ใหม่
และกำลังขยายเซกเมนท์ใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อให้เกิดการเดินทางคือ นำคนต่างจังหวัดเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกรุงเทพฯ
โดยสรุปแล้วทางมิรามาได้ใช้โอกาสช่วงที่การท่องเที่ยวหยุดนิ่งในสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สร้างสรรหน่วยธุรกิจใหม่เข้ามาเสริมทัพ
เริ่มลงมือทำโครงการเกษียณสำราญปลุกกำลังซื้อตลาดผู้สูงอายุและผู้บกพร่องทางกาย
(ผู้พิการ) เพราะมีความเชื่อว่าหลังสถานการณ์โควิด-19 คนน่าจะออกเดินทางท่องเที่ยวค่อนข้างมาก
นายจิระวัฒน์กล่าวว่าการออกแบบหรือดีไซน์แคมเปญ
“เกษียนสำราญ” นั้นต้องการให้คนได้เที่ยวกรุงเทพฯ เพราะตอนนี้ทรัพยากรต่าง ๆ
ก็ได้รับผลกระทบจากโควิดเหมือนกัน สถานที่ท่องเที่ยวหลักอย่างวัดพระแก้วที่เคยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก
ดังนั้นตอนนี้เป็นโอกาสของนักท่องเที่ยวไทยที่จะได้มาสักการะ
ทางมิรามาจึงไปคุยกับทางผู้ประกอบการ ลอนดอน แค็ป หรือ ลอนดอน คาร์
เพื่อสร้างสินค้าใหม่ให้นักท่องเที่ยว 76 จังหวัด
ได้ใช้บริการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ
ส่วนการปักหมุดโรงแรม
ห้องพัก โดยได้คุยกับหลายแห่ง รวมถึงร้านอาหารสามารถดูแลผู้สูงอายุ คนพิการ
เราพยายามสร้างโปรดักต์ที่รองรับตลาดกลุ่มดังกล่าวได้
อีกทั้งยังจะขอเสนอโครงการไปยังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
โดยเฉพาะวัดพระแก้วเดิมหากจะมาเที่ยวต้องการจะมากราบไหว้ตอนนี้สะดวกมาก
จึงได้ดีไซน์แพกเกจผู้สูงอายุรวมกันแพกเกจละ 4 คน นั่งรถลอนดอน คาร์ มาไหว้พระแก้วมรกต
และสถานที่ท่องเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
แล้วไปรับประทานอาหารมิชลินตรงเสาชิงชนะซึ่งเป็นสตรีทฟู้ด
หลังจากนั้นก็พาไปช้อปปิ้งในห้างหรูของกรุงเทพฯ
ซึ่งมีหลากหลายให้เลือก เดิมบริการแต่นักท่องเที่ยวต่างชาต
แต่ตอนนี้เป็นโอกาสของคนไทยได้มาท่องเที่ยวกรุงเทพฯ อย่างคุ้มค่า
นายจิระวัฒน์กล่าวว่า
ตอนนี้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องผ่าทางรอด โดยปรับองค์กร โครงสร้าง
แนวคิดทั้งผู้บริหาร พนักงาน เพื่อไปสู่วิถีใหม่ New Normal เช่น การซื้อตั๋วเครื่องบิน
ต้องทำให้ผู้บริโภคเห็นความสะดวกรวดเร็วของบริการซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ
เหมาะกับผู้บริโภคยุคใหม่ เริ่มจากการปรับวิธีคิดของแต่ละคน
ประเมินแล้วอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะอยู่รอดได้จากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ต้องให้ความสะดวก ความรู้
ให้โปรดักซ์ให้เหมาะกับแต่ละกลุ่ม เช่น ผู้สูงวัย ผู้พิการ ครอบครัว
แล้วต่อไปคนจะซื้อผ่านออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เดินไปซื้อตรงจากบริษัทนำเที่ยวน้อยลง
สำหรับการทำธุรกิจเพื่อคืนกำไรสู่สังคมปีนี้ทางมิรามาได้คุยกับเครือข่ายพันธมิตร
ลงนามข้อตกลงกับสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย เพื่อบริการผู้พิการ ผู้สูงอายุ
ซึ่งเป็นอีกเซกเมนท์ที่เกื้อหนุนคนออกไปท่องเที่ยวเมืองไทย
เพื่อนำรายได้กลับเข้าสู่สมาคม โดยการเข้าไปช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้คนพิการ
ได้ อนาคตยังจะนำแพลตฟอร์มดังกล่าวไปเสนอขายต่างชาติในจีน
เพราะสามารถรู้ถึงความต้องการของคนพิการอย่างลึกซึ้ง
พร้อมให้บริการได้อย่างตรงกับความต้องการของคนอีกมากมาย ทั้งเรื่องที่พัก
ร้านอาหาร รถบริการรับส่ง
ทางมิรามาจะร่วมกับสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทยทำอย่างเต็มเพื่อสร้างโอกาสให้เกิดความเท่าเทียมกันในอนาคตข้างหน้านี้
ข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 บัตรคิงเพาเวอร์พักโรงแรมแอคคอร์13แบรนด์ลด35%ถึง28ก.พ.64
คิง เพาเวอร์ จับมือแอคคอร์เชนโรงแรมอันดับต้น
ๆ ของโลก มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกผู้ถือบัตรคิง เพาเวอร์ ทุกประเภท ระหว่างวันนี้ –
28 กุมภาพันธ์ 2564 รับส่วนลดค่าห้องพักโรงแรมเครือแอคคอร์ทั้งในไทยและทั่วโลกได้ถึง
35% ฟรีอาหารเช้า 2
คน เมื่อจองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย
24 ชั่วโมงกับโรงแรมกว่า 160 แห่ง 13 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น โซฟิเทล พูลแมน โนโวเทล เมอร์เคียว ไอบิส และอื่นๆ ทั้งในไทย กัมพูชา
ลาว พม่า ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และมัลดีฟส์
รวมถึงสิทธิ์เปลี่ยนแปลงการจองล่วงหน้าได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
สามารถจองห้องพักเพื่อเข้าพักช่วงเวลาเดียวกัน
ที่ all.accor.com/Kingpower โดยจะต้องเป็นสมาชิกของ ALL –
Accor Live Limitless ก่อน (สมัครสมาชิก ALL ได้ทันที
ไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ที่นี่ https://all.accor.com/loyalty-program/reasonstojoin/index.th.shtml)
จำกัด 2 สิทธิ์ / คน / วัน
พิเศษ!! สมาชิก คิง เพาเวอร์ ประเภท VEGA และ
CROWN รับสิทธิ์ยกระดับห้องพักฟรี
ขึ้นอยู่กับจำนวนห้องที่พร้อมให้บริการขณะเช็กอิน ต้องแสดงสถานะสมาชิกเพื่อยืนยันสิทธิ์เมื่อมาถึงโรงแรม
แต่ไม่รวมการใช้บริการเลานจ์และห้องแบบวิลล่า ห้องสวีทแบบพิเศษ
และห้องเพรสซิเดนเชียลสวีท สามารถใช้ได้เฉพาะห้องจูเนียร์สวีทเท่านั้น ที่โรงแรม Raffles อีกทั้งไม่สามารถใช้ได้อีกส่วนคือ Fairmont
Gold Floor โรงแรม Fairmont รวมถึงโรงแรมที่ไม่มีห้องประเภทสูงกว่า เช่น
ไอบิสและไอบิสสไตล์
ตรวจสอบเพิ่มทางเว็บไซต์ all.accor.com/Kingpower
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์นำฬานิกาหรู6แบรนด์โลกมากระตุ้นต่อมนักช้อป
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ พาเหรดสินค้าแบรนด์หรูปรากฏการณ์ใหม่ล่าสุดสไตล์ Flash New ฬานิกายอดนิยม6 แบรนด์
มาให้นักช้อปในประเทศไทยเลือกช้อปอย่างจุใจทั้งของสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี
เริ่มจากนาฬิกาหรู
3 แบรนด์โลก
ดีไซน์เก๋ไก๋สะดุดตาด้วยเสน่ห์ความเป็นสุภาพบุรุษเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นตัวตนประกอบด้วย
1.BVLGARI -เป็นการกลับมาของไอคอนมือรางวัลอย่าง Bvlgari
ในปี 2020 สร้างความแปลกใหม่ครั้งใหญ่ให้กับ Bvlgari
Aluminium ด้วยการใช้อลูมิเนียมและยางวัสดุที่มักไม่เข้าพวกในยามที่นึกถึงเรือนเวลาหรู
แต่กลับนำมาผสมผสานกันจนได้เรือนเวลาแบบสปอร์ตที่ทั้งให้น้ำหนักเบาสบายในยามสวมใส่
อีกทั้งยังดึงดูดสะกดทุกสายตาด้วยจิตวิญญาณของความเป็นอิตาเลียนโดยแท้ พร้อมอัพเกรดระดับการกันน้ำได้ถึง
100 เมตร
2.OMEGA ผู้ที่หลงใหลในสแตนเลสสตีลและสีน้ำเงินของ OMEGA
Seamaster Diver 300M แบบดั้งเดิม ถึงเวลาต้องเปิดใจให้กับโครโนกราฟคอลเลคชั่นใหม่ได้ไม่ยาก
ตัวเรือนมีขนาด 44 มิลลิเมตร
มาพร้อมขอบตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงินและสเกลดำน้ำอีนาเมลสีขาว
หน้าปัดสีเทาตกแต่งด้วยเลเซอร์ลวดลายคลื่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ Diver 300M ใช้งานในกิจกรรมใต้น้ำได้
ฝาหลังเรือนเวลาเป็นกระจกแซฟไฟร์ เปิดให้ยลโฉมกลไก OMEGA Master
Chronometer Calibre 9900
3.IWC มาพร้อมสไตล์คลาสสิกอันโดดเด่นเหนือกาลเวลาอันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของตระกูล
PORTUGIESER เน้นหน้าปัดเรียบหรู กลไกขึ้นลานอัตโนมัติ Calibre
89361 ฟังก์ชั่นการจับเวลาแบบ Flyback Chronograph
ที่สามารถเริ่มต้นจับเวลาใหม่ได้โดยกดปุ่มรีเซ็ตขณะจับเวลา
และสามารถจับเวลาได้นานถึง 12 ชั่วโมง
โดยแสดงบนหน้าปัดภายในผ่านตัวเรือนแซฟไฟร์ทรงโดมป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน PORTUGIESER
CHRONOGRAPH CLASSIC เรือนนี้มาพร้อมตัวเรือนทอง 18K ขนาด
42 มิลลิเมตร
ส่วนนาฬิกาหรูเทรนด์ใหม่ของสุภาพสตรีก็มี
Elegance คู่ควรอย่างมีคุณค่าเสมือนเป็นตัวแทนความเลอค่าน่าค้นหาสำหรับหญิงสาว
อีก 3 แบรนด์
1.CHOPARD ผนวกทุกความโดดเด่นเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ Chopard
Happy Fish เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจอันเลอค่าที่เผยให้เห็นสมบัติอันยิ่งใหญ่ของมหาสมุทรอันกว้างไกล
ผ่านความงดงามของตัวปลาสีทองอันโดดเด่นที่แหวกว่ายอยู่ในท้องทะเลสีเทอควอยซ์
บนหน้าปัดของเรือนเวลาโรสโกลด์ 18k
ขนาด 36 มิลลิเมตร
ล้อไปกับประกายเพชรเจียระไนหลากหลายขนาดที่นำมาประดับบนตัวเรือน เป็นรุ่นลิมิเต็ด
เอดิชั่น เพราะมีเพียงคนพิเศษในโลกที่จะได้ครองเพียงแค่ 25 คนเท่านั้น
2.JAEGER LECOULTRE หนึ่งในเรือนเวลาโปรดของคนรัก
Jaeger-LeCoultre คงขาด Master
Ultra Thin Moon ไปไม่ได้
ด้วยความโดดเด่นของสัดส่วนและความเรียบง่ายแต่หรูหรา
ของตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาดกำลังพอเหมาะที่ 34
มิลลิเมตร ประดับเพชรเจียระไนชั้นยอดที่รายรอบขอบหน้าปัดสีเงิน
เติมเสน่ห์บนหน้าปัดด้วยความซับซ้อนอันเป็นเอกลักษณ์
นั่นคือระยะการเปลี่ยนตำแหน่งของดวงจันทร์ในรูรับแสงที่ 6
นาฬิกา ที่หมุนรอบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ได้ภาพเสมือนข้างขึ้นข้างแรมที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดใจเพียงแค่เหลือบมอง
เคลื่อนไหวด้วยกลไกอัตโนมัติ กันน้ำได้ที่ระดับ 5
บาร์
3.VACHERON CONSTANTIN ความบริสุทธิ์และสง่างามเหนือกาลเวลา
คือนิยามของ VACHERON PATRIMONY MANUAL-WINDING เรือนเวลาไวท์โกลด์
18K ขนาดตัวเรือน 36 มิลลิเมตรเรือนนี้
ที่มาพร้อมเพชรเจียระไนทรงกลม 62 เม็ดบนหน้าปัด
เข้ากันได้ดีกับสายรัดที่มาพร้อมดีไซน์ อย่างซาตินสีดาร์กเกรย์
หรือหนังจระเข้สีดาร์กบลู
ข่าวที่ 3 ททท.กระตุ้นภัตตาคารร้านอาหารร่วมรับSHAตามสูตร14-6-6
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์
รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดเผยว่า ตลอดเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม 2563 ภายในเวลาเพียงแค่ 5 เดือน มีธุรกิจประเภทต่าง ๆ สมัครเข้าร่วมขอการรับรองตราสัญลักษณ์ SHA : Amazing Thailand Safety &
Health Administration แล้วกว่า 10,000 ราย ผ่านการพิจารณารอบแรกประมาณ 8,500 ราย
และได้การรับรองตราสัญลักษณ์ไปเรียบร้อยแล้วเกือบ 6,000 ราย
ปี 2564 ททท.ต้องการกระจายให้ธุรกิจทุกกลุ่มได้เข้าร่วมรับตราสัญลักษณ์ SHA อย่างทั่วถึง ตอนนี้ที่ได้ตราสัญลักษณ์นำเป็นอันดับ
1 คือ กลุ่มธุรกิจโรงแรม รองลงไปตามลำดับ
ได้แก่ บริษัทตัวแทนธุรกิจนำเที่ยว รถบริการท่องเที่ยวหรือโลจิสติกส์ ช่วงเดือนตุลาคม
2563 เป็นต้นไปเริ่มมีสายการบินขอเข้ารับตราสัญลักษณ์
SHA ด้วยเช่นกัน
คือ การบินไทย กับบางกอกแอร์เวย์ส
เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เกิดความแข็งแกร่งทางด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยแบบครบวงจร
นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า
ขณะนี้เริ่มเข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยวถือศีลกินเจช่วงตั้งแต่วันที่ 15-26 ตุลาคม 2563 นั้น จึงขอความร่วมมือจาก “ผู้ประกอบกิจการ
ภัตตาคาร/ร้านอาหาร” หันมาร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมการรับรองตราสัญลักษณ์มาตรฐาน SHA ซึ่งสามารถปฏิบัติได้ง่าย ๆ
ตามเกณฑ์มาตรฐานเบื้องต้น ของทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้ง 3 กลุ่ม
“ผู้ประกอบการ-ผู้ให้บริการ(พนักงาน)-ผู้รับบริการ(ลูกค้า) เพื่อเข้าร่วมมาตราฐาน SHA โดยปฏิบัติตามสูตร 14-6-6
ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 “ผู้ประกอบการภัตตาคาร/ร้านอาหาร” ททท.แนะนำให้ดำเนินการดังต่อไปนี้คือ
1.จัดให้มีทางเข้า-ออก ทางเดียว
แก่ผู้เข้ามารับบริการภายในร้าน
กรณีหากมีทางเข้าออกหลายทางจะต้องมีจัดคัดกรองทุกเส้นทาง
2.จัดบริการตรวจวัดอุณหภูมิทุกคน
ทั้งพนักงานและเข้ามาใช้บริการในร้านทุกครั้ง
รวมทั้งการทำสัญลักษณ์ให้ผู้ผ่านการคัดกรอง
3.บันทึกประวัติพนักงาน
และประวัติการเดินทาง
4.อนุญาตให้เฉพาะผู้เข้ามาใช้บริการที่สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเท่านั้นสามารถผ่านเข้าออกได้
5.จัดให้มีที่ล้างมือด้วยน้ำและสบู่
หรือเจลแอลกอฮอล์ เพื่อทำความสะอาดมือในบริเวณก่อนเข้าร้านอาหารและจุดชำระเงิน
6.จำกัดจำนวนคนเข้าร้าน
และจัดพื้นที่รอคิวแยกจากส่วนที่นั่งรับประทานอาหาร
รวมทั้งต้องจัดที่นั่งภายในร้านให้มีระยะห่างระหว่างบุคคลไม่ต่ำกว่า 1 เมตร
7.ทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ เช่น
โต๊ะอาหาร อุปกรณ์ที่ใช้ในการปรุงอาหาร ประกอบอาหาร
อุปกรณ์ที่ใช้ในการรับประทานอาหาร เรื่อยไปจนถึงการทำความสะอาดอื่น ๆ
ด้วยน้ำยาทำความสะอาดอย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง
8.จัดให้มีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดผิวสัมผัสร่วมอย่างน้อยทุก
2 ชั่วโมง
เช่น ที่จับประตูเข้าออกห้องน้ำและบริเวณทางเข้าออกภัตตาคาร ร้านอาหาร
9.บริการอาหารสำเร็จรูปจะต้องจัดหาอุปกรณ์ปกปิดอาหารโดยใช้อุปกรณ์หยิบจับ
หรือ ตัก ไม่ว่าจะเป็น ช้อน ทัพพี ที่คีบอาหาร และอื่น ๆ
10.มีการกำจัดขยะ ของเสีย กระดาษชำระ
และหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วอย่างเหมาะสม
11.จัดทำระบบระบายอากาศภายในร้านให้เพียงพอ
ติดตั้งและดูแลระบบการหมุนเวียน เพื่อป้องกันการเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
12.มีบริการการชำระเงินอย่างปลอดภัย
ลดการพูดคุย สัมผัส ระหว่างผู้ให้และผู้รับบริการ
13.สื่อสารให้ความรู้ข้อแนะนำผ่านช่องทางต่าง
ๆ เพื่อร่วมกันลดความเสี่ยงและป้องกันโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19
14.ลดการใช้เสียงภายในภัตตาคารและร้านอาหาร
เพื่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของทุกคน
กลุ่มที่ 2 “ผู้ให้บริการหรือพนักงานในภัตตาคาร/ร้านอาหาร”
ทุกคนควรปฏิบัติให้ถูกต้องหลัก
6
เรื่องสำคัญ ได้แก่
1.ต้องดูแลรักษาความสะอาดร่างกาย
สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย หรือ เฟซชีล หมวกคลุมผม ถุงมือ
ให้เรียบร้อยทุกครั้งขณะปฏิบัติงาน 2.ล้างมือด้วยน้ำและสบู่
หรือเจลแอลกอฮอล์อย่างสม่ำเสมอ 3.หากมีอาการไอหรือจาม
มีน้ำมูกหรือเหนื่อยหอบให้หยุดปฏิบัติแล้วไปพบแพทย์ทันที
4.เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร 5.พนักงานที่ทำหน้าที่จัดการขยะ
จะต้องล้างมือทันทีหลังเสร็จงานในการเก็บกระดาษชำระ
หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว ก็ต้องจัดการอย่างเหมาะสมก่อนทิ้งลงขยะ 6.ไม่ควรรับเงินด้วยการสัมผัสกับมือโดยตรง
อาจสวมถุงมือ หรือมีถาดรับเงิน และต้องทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
กลุ่มที่ 3 “ผู้รับบริการหรือลูกค้าภัตตาคาร/ร้านอาหาร” เมื่อเดินเข้าไปยังร้านทุกแห่ง
ททท.แนะนำให้ดูแลสุขอนามัยไปพร้อม ๆ กัน 6 เรื่อง ได้แก่
1.ให้ความร่วมมือตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย
สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย 2.เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร 3.ล้างมือก่อนและหลังใช้บริการด้วยน้ำและสบู่
หรือเจลแอลกอฮอล์ 4.ไม่ควรชำระเงิด้วยเงินสดเพื่อการสัมผัส
แนะนำให้หันไปชำระเงินโดยโอนผ่านแอพลิเคชั่นหรือพร้อมเพย์ ก็ได้ 5.ควรบริหารจัดการระยะเวลาในการรับประทานอาหารในร้านไม่ควรเกินครั้งละ
1 ชั่วโมง
และ 6.ลดการใช้เสียงภายในภัตตาคาร/ร้านอาหาร
นางสาวฐาปนีย์
ย้ำว่า ททท.ขอให้ทุกธุรกิจร่วมมือกัน
รักษาคุณภาพบริการให้คงอยู่ตลอดไป ภายใต้มาตรฐาน SHA นอกจากจะมีคุณูปการต่อนักท่องเที่ยวแล้วยังสามารถขายได้จริง
อีกทั้งขณะนี้ ททท.ทุ่มเทช่วยสนับสนุนภาคธุรกิจทุกประเภท ทั้ง “ตลาดในประเทศ”
ได้เปิดทุกช่องทางโดยการทำออนไลน์ ออฟไลน์ ออนกราวนด์ รณรงค์และสร้างการรับรู้สื่อความหมายตราสัญลักษณ์
SHA เข้าถึงทั้งผู้ประกอบการ และผู้ใช้บริการครอบคลุมทุกกลุ่ม
ข่าวที่ 4 ททท.ชวนเที่ยวงานลอยกระทงทั่วประเทศ6พื้นที่31ต.ค.-1พ.ย.นี้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชิญชวนมาเที่ยวเทศกาลสีสันแห่งสายน้ำ
มหกรรมลอยกระทง ในสไตล์ New Normal ปี 2563 ททท.สนับสนุนการจัดงานสืบสานวัฒนธรรมอันดีงามกระจายทั่วประเทศใน
6 พื้นที่ ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สุโขทัย เชียงใหม่ ตาก สมุทรสงคราม และร้อยเอ็ด
1. "สีสันแห่งสายน้ำ
มหกรรมลอยกระทง" จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่วันที่ 29 – 31 ตุลาคม 2563 ณ
วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
ชมขบวนแห่ประเพณีลอยกระทงวิถีไทย การแสดงดอกไม้ไฟโบราณ
การแสดงวัฒนธรรมที่หาชมได้ยาก กิจกรรมสาธิตศิลปวัฒนธรรม
และเลือกชิมเลือกช้อปกับการจัดจำหน่ายอาหารและหัตกรรม
2. "ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน
เล่นไฟ” จังหวัดสุโขทัย ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 ณ
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ชมการแสดงพลุ
ตะไล ไฟพะเนียง การแสดงมหรสพครบแสง สี เสียง และการประกวดนางนพมาศ
พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับสินค้าและอาหารในตลาดย้อนยุค
และร่วมสนุกกับกิจกรรมข้าวขวัญวันเล่นไฟ
3. “ประเพณียี่เป็งเชียงใหม่”
จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 ณ
เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนา
ความอลังการของรถกระทงใหญ่ทั้ง 7 จุดรอบเมืองเชียงใหม่ การประกวดหนูน้อยยี่เป็ง
และเทพบุตรและเทพียี่เป็งเชียงใหม่ มาร่วมกันจุดผางประทีปรอบคูเมือง
“ต๋ามผางปะตี๊ดส่องฟ้าฮักษาเมือง”
4. “ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐
ดวง” จังหวัดตาก ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 จังหวัดตาก
ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 ชมการแสดงวิจิตรงดงาม และพลุ
ขบวนแห่เรือสายกระทง และไฮไลท์ การแสดงการลอยประทีปกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง
พร้อมเลือกชมเลือกซื้อสินค้า OTOP มากมาย
5. “ประเพณีสมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป
ครั้งที่ 22 ประจำปี 2563” จังหวัดร้อยเอ็ด ในวันที่ 30 – 31 ตุลาคม ณ บึงพลาญชัย
และสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ด 2563 ชวนสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดร้อยเอ็ด
ชมการประกวดรำวงสมมาน้ำคืนเพ็งเส็งประทีป การรำวงสมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป จำนวน
5,000 คู่ ขบวนเสด็จอัญเชิญพระประทีป และขบวนแห่กระทงประทีป 12 เมืองร่วมสมัย
และการแสดงแสง สี เสียง จากศิลปินคับคั่ง พร้อมร่วมกันลอย “กระทงกะลา”
6. “ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วย
เมืองแม่กลอง” จังหวัดสมุทรสงคราม วันที่
31 ตุลาคม 2563 ณ วัดภุมรินทร์กุฎีทอง อำเภออัมพวา ชมการลอยกระทงกาบกล้วยกว่า 200,000
ใบ การประกวดกระทง และเรือไฟสวยงามชิงถ้วยพระราชทาน ประกวดนางนพมาศแม่ลูก และร่วมกิจกรรมวัฒนธรรมพื้นบ้าน
ข่าวที่ 5 มูลนิธิปิดทองผนึก6องค์กรใช้แนวพระราชดำริฟื้นชีวิตคนไทย
ม.ร.ว.ดิศนัดดา
ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ นำทีมจัดเวทีเสวนา
"พระราชดำริ ค้ำจุนสังคม " ไม่ท้อ ไม่ถอย หัวข้อหลัก "จากนภา ผ่านภูผา
สู่ มหานที" ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ 6
องค์กร ร่วมมือกันเพื่อที่จะขยายผลต่อยอดโครงการพระราชดำริ ดิน น้ำ
ป่า ให้ประชาชน มีอาชีพอยู่ได้อย่างยั่งยืน
สภาพโดยรวมทุกวันนี้ประเทศไทยเข้าสู่วิกฤตครั้งรุนแรงที่สุดกว่าครั้งใด
สืบเนื่องจากสงครามการค้าสู่โรคระบาดโควิด-19
จนคาดว่าแรงงานไม่น้อยกว่า 14 ล้านคนจะได้รับผลกระทบ
แต่หกองค์กรภาคีมั่นใจการประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่จะสร้างชนบทให้แข็งแกร่ง
เป็นแหล่งซึมซับความทุกข์และพร้อมจะขยายไปสู่การสร้างชนบทที่ยั่งยืนต่อไป
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2563 กลุ่มภาคีพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ ประกอบด้วย
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
และมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ
ได้ร่วมกันจัดพิธีทางศาสนาถวายเป็นพระราชกุศลและการเสวนาเรื่อง
“พระราชดำริค้ำจุนสังคม” ขึ้น เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตวันที่ 13 ตุลาคม
โดยทั้ง 6 หน่วยงาน
ได้สร้างระบบนิเวศเพื่อความยั่งยืนให้แก่ภาคชนบท ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
ผ่านโครงการและกิจกรรมที่มุ่ง "สืบสาน รักษา ต่อยอด"
จนเกิดผลเป็นที่ประจักษ์ เช่น สามารถเพิ่มพื้นที่ป่าได้ 105.83 ล้านไร่ เพิ่มความสามารถในการกักเก็บน้ำ 6,776.71 ล้านลูกบาศก์เมตร
เพิ่มพื้นที่รับประโยชน์จากน้ำ 9.44 ล้านไร่ เพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน
3.23 ล้านไร่
สร้างอาชีพและเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรตามแนวทฤษฎีใหม่ 2.83 ล้านครัวเรือน
พัฒนากลุ่มอาชีพที่มั่นคงและกลุ่มบริหารจัดการตัวเองได้ 70,431 กลุ่ม สร้างปราชญ์และผู้นำเพื่อร่วมขยายแนวพระราชดำริ มากกว่า 3.55
แสนราย
ผลการดำเนินงานดังกล่าวช่วยบรรเทาปัญหาในชนบท
ซึ่งจากการศึกษาของธนาคารแห่งประเทศไทยพบว่ามีประชาชนไม่น้อยกว่า 3.6 ล้านคน
อยู่ในสภาพตกงานและเสมือนตกงาน คือ มีงานทำแต่ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ นอกจากนี้
ผู้ที่อพยพมาหางานทำในเมืองต้องกลับไปในชนบทไม่น้อยกว่า 1.3 ล้านคน
ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล
เลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ กล่าวว่าการรวมตัวกันของ 6 หน่วยงานครั้งนี้
เพื่อมาแสดงความมุ่งมั่นในการสืบสานแนวพระราชดำริให้ประเทศผ่านความท้าทายต่าง ๆ
นานาที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน เพราะทุกคนทราบดีแล้วว่า ในช่วงเวลาสองปีมานี้ ประเทศของเราได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
จากสงครามการค้า ภัยพิบัติทางธรรมชาติและ Technology disruption ที่เข้ามาทดแทนแรงงานคนอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะกระทบกับแรงงานไทยไม่ต่ำกว่า 14
ล้านคน และส่งผลกระทบต่อคนไทยทุกคนอย่างไม่เคยมีมาก่อน
โดยเฉพาะประชาชนที่ด้อยโอกาสอยู่แล้ว จะยิ่งลำบากกว่าเดิม
ถ้าไม่สามารถปรับตัวรับสถานการณ์ได้ทันท่วงที
“เรามักพบเสมอว่า
ประชาชนในชนบท ลำบากยากแค้น รอความช่วยเหลือ ขาดโอกาสในการพัฒนาตนเอง
จึงละทิ้งชนบทเข้ามาหางานทำในเมือง แต่ขณะนี้โอกาสของการทำงานในเมืองก็ลดลง เหล่านี้
กระตุ้นให้พวกเราเห็นชัดว่า เราจะต้องทำงานให้หนัก
เพื่อให้ประเทศไทยของเราผ่านโควิด-19 และ Technology
disruption ไปได้ เพื่อให้ประเทศไทยดีว่าเดิม
ไม่ใช่แค่กลับไปเหมือนเดิม”
เลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ
กล่าวว่า องค์กรต่าง ๆ ที่มาร่วมในวันนี้ ล้วนมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งไม่เพียงเป็นการทำงานสนองแนวพระราชดำริเท่านั้น
แต่หมายถึงการช่วยให้ผู้ด้อย โอกาสสามารถยืนบนขาของตัวเอง มีอิสระภาพในชีวิต
และเป็นรากฐานให้แก่การพัฒนาประชาธิปไตยได้โดยแท้จริง
ช่วงที่
2
ออกเดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยไปกับ SHA ณ “เมืองแพร่ เที่ยวเมืองไทยอะเมซิ่ง
ยิ่งกว่าเดิม” ลมหนาวมาแล้วขึ้นดอยไปไหว้พระธาตุดอยเล็ง ดื่มด่ำธรรมชาติผาสิงห์
กางเตนท์นอนสัมผัสไอเย็นบนยอดอุทยานแห่งชาติแม่ยม ไม่ต้องเดี๋ยว ออกมาเที่ยวกันเลย
ส่วนการดูแลสุขภาพ ปีนี้ฝนตกหนักยาว ๆ ต้องรู้ “วิธีป้องกัน 3โรคยอดฮิตหน้าฝน” และข่าวโปรโมชั่นสุดคุ้มทั้ง
“การจองห้องพักเครือโรงแรมอิมพีเรียล” วันธรรมดาราคาเดียวทั่วไทยแค่ 700 บาท “อลอฟท์ กรุงเทพฯ สุขุมวิท 11” เล่นใหญ่ Stay&Savour ห้องพักบวกดินเนอร์ซีฟู้ดกินได้ไม่อั้น ขณะที่ “โชว์โลมาภูเก็ต” เพิ่ม2โปรเด็ด บัตรเข้าชม3 โซน เหลือแค่ 300 บาท และว่ายน้ำกับโลมาแสนรู้เทลงอีก 30%
“เที่ยวเมืองแพร่”สัมผัสธรรมชาติภูผาเมืองไทยอะเมซิ่งยิ่งกว่าเดิม
ทุกการเดินทางคือการเปิดโลกกว้างรับประสบการณ์ใหม่
ๆ วันนี้ท่องเที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง
ยิ่งกว่าเดิม ชวนกันไป “เที่ยวเมืองแพร่” ก่อนจะตลุยชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ
ต้องเริ่มจากการเติมบุญขึ้นดอยสูงมุ่งหน้าไป “วัดพระธาตุดอยเล็ง”
ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง ได้ทั้งการขอพรและชมวิวทิวทัศน์สวยงามแบบพาโนรามาทั่วเมืองแพร่ได้แบบเต็มสายตา
ทั้งวิวภูเขาและผืนป่า มีระเบียงที่สามารถถ่ายรูปชมวิว ไฮไลต์คือการขึ้นไปชมพระอาทิตย์สายหมอกขึ้นยามเช้า
และตกยามเย็น
จากนั้นก็ลองไป “ผาสิงห์”
ภูเขาหินปูนมีระยะขึ้นไปจุดชมวิวประมาณ 350 เมตร และห่างจากวัดประมาณ 200
เมตร มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นหมู่บ้าน ที่ล้อมรอบด้วยขุนเขาทั้งสี่ด้าน
คนสมัยก่อนเล่าต่อกันมาว่าบริเวณผาแห่งนี้มองแล้วมีลักษณะคล้ายหัวสิงห์สัตว์ในวรรณคดี
เนื้อหินมีลักษณะพิเศษเมื่อนำไม้ไปเคาะจะมีเสียงกังวานคล้ายระฆัง
ในบริเวณไม่ไกลกันก็มีจุดชมต้นจันทร์ผา
ที่ขึ้นอยู่มากมายตามหน้าผาสูงชัน หรือพืชแปลก ๆ หายากอีกหลากหลายชนิด เช่น
ต้นฤาษีคืนชีพ ขนุนดิน ต้นมะพร้าวเต่า ปรงโบราณ
จะไปท่องเที่ยวผาสิงห์ต้องตระหนักถึงความปลอดภัย
มีผู้นำทาง ซึ่งสามารถสอบถาม รายละเอียดได้จาก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)สำนักงานแพร่
โทร. 054-521-127
หรือ054-521-118
ตอนนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ทาง “ผาอิงหมอก
อุทยานแห่งชาติแม่ยม”
ก็พร้อมจะเปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้มากางเตนท์นอนพักค้างคืน
หรือจองห้องพักของทางอุทยาน เพื่อดื่มด่ำการสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
ได้ด้วยเช่นกัน
ก่อนเดินทางควรโทรศัพท์สอบถามห้องพัก จุดกางเต้นท์ กับทางอุทยานแห่งชาติแม่ยม
โทร. 054-556-537 หรือจองผ่านเว็บไซต์.
Nps.dnp.go.th
ทุกการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย
นับจากนี้ไปจะอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม
แหล่งท่องเที่ยวเมืองแพร่กำลังรอนักท่องเที่ยวทุกคนมาเยือน มาได้ทุกวัน ทุกเวลา
ระวังหน้าฝนเร่งป้องกันและรักษา3 โรคติดต่อยอดฮิตมาแรง
ในช่วงหน้าฝนนี้ นอกจากโควิด-19
ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยเฝ้าระวังให้น้องๆ หนูๆ แล้ว ยังมีโรคติดต่อยอดฮิต
ที่ต้องคอยสังเกตใส่ใจเด็กเล็กและเด็กวัยเรียนเป็นพิเศษ ดังนี้ด้วย
1.โรคมือ เท้า ปาก อาการเบื้องต้น
: มีอาการจุดตุ่มแดงอักเสบที่ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม มีตุ่มหรือผื่นนูนสีแดงเล็ก
ๆ ที่ฝ่าเท้าและมีไข้
วิธีป้องกัน :
ล้างมือให้สะอาดหลังการขับถ่าย และดูแลความสะอาดอยู่เสมอ
2.โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ อาการเบื้องต้น : มีไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น
ปวดศีรษะ ไอ จาม หรือมีน้ำมูกไหล
วิธีป้องกัน : ล้างมือด้วยสบู่
หรือใช้เจลล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังทานอาหารหรือเข้าห้องน้ำ, สอนให้น้องๆ
เช็ดน้ำมูก และปิดปากปิดจมูกเวลาไอ หรือจาม
3.โรคตาแดง อาการเบื้องต้น
: เคืองตาคล้ายผงเข้าตา กลัวแสง น้ำตาไหล มีขี้ตาเล็กน้อยลักษณะสีขาว
อาจมีอาการหนังตาบวม ลืมตาไม่ค่อยขึ้น
วิธีป้องกัน :
ใช้ยาหยอดตาเพื่อลดอาการระคายเคือง และหมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่
ไม่สัมผัสขี้ตา น้ำตา
การปฏิบัติตัวป้องกันโรคติดต่อช่วงหน้าฝนที่จะต้องทำเป็นประจำนั่นก็คือ
-กินอาหารให้ครบ 5
หมู่ เน้นปรุงสุก -กินผักหรือผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามิน -ดื่มน้ำอุ่นให้มาก ๆ -ใช้หน้ากากอนามัย
-หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กับเด็กๆ ที่ป่วย -ล้างมือเป็นประจำ
-ออกกำลังกายสม่ำเสมอ -นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก โรงแรมอิมพีเรียลทัวร์ไทยเทขายห้องพักวันธรรมดาราคาเดียว700บาท
ทีซีซี โฮเทล รายงานว่าขณะนี้โรงแรมเครืออิมพีเรียล นำห้องพักเข้าร่วมกระตุ้นการท่องเที่ยววันธรรมดาราคาเดียว
ทั่วไทย 700 บาท/ห้อง/คืน โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าออนไลน์จองพักได้ทุกวันตลอด
24 ชั่วโมง
โดยเลือกห้องพักวันธรรมดาเฉพาะ วันจันทร์ อังคาร พุธ ของแต่ละสัปดาห์
ได้ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม
2563 ปัจจุบันเครืออิมพีเรียลมีโรงแรมให้บริการครอบคลุมทั่วทั้ง
ภาคเหนือ ภาคกลาง และโรงแรมริมชายหาดส่วนตัว เฉพาะที่ร่วมรายการ
สำหรับราคาโปรโมชั่น
“วันธรรมดาราคาเดียว” เฉพาะการเข้าพักวันจันทร์ อังคาร พุธ นักท่องเที่ยวจะไม่สามารถใช้สิทธิ์ร่วมกับโปรโมชั่นอื่นได้ ราคา 700 บาทต่อห้อง/คืน
ห้องพักไม่รวมอาหารเช้า และราคา 900 ต่อห้อง/คืน ห้องพักรวมอาหารเช้า 2 คน จองได้ที่ www.imperialhotels.com สอบถามเพิ่มเติม
@imperialhotels
ข่าวที่สอง รร.อลอฟท์สุขุมวิท11จัดโปรแรงStay&Savourพัก/กินไม่อั้นซีฟู้ดินเนอร์
โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 ชวนใช้โปรโมชั่น
‘Stay & Savour’ ห้องพักราคาพิเศษเริ่มต้น 1,999++
บาทรวมอาหารเช้า 1 คน พร้อมสิทธิ์รับประทานทานซีฟู้ดดินเนอร์บุฟเฟต์ เมื่อจองศุกร์
เสาร์ อาทิตย์ ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2563
โปรโมชั่น ‘Stay & Savour’ เหมาะสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารทะเลได้
ทางโรงแรมได้รวมซีฟู้ดบุฟเฟต์ดินเนอร์ไว้ด้วย โดยมีบริการทุกวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์
เวลา 18.00-22.00 น. ยกเว้นวันอาทิตย์เริ่ม 17.00 น.
ลูกค้าจะได้อิ่มอร่อยกับอาหารทะเลจัดเต็มไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา ทั้งแบบออนไอซ์ เช่น
หอยนางรม ปูม้า และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ แบบปิ้งย่าง เช่น กุ้งแม่น้ำ กุ้งลายเสือ
กั้ง แซลมอน หอยหวาน เรื่อยไปจนถึงพาสต้าเส้นสด สปาเกตตี้ ซูชิ ผักโขมอบชีส
ขาแกะอบ โคลด์คัต ชีสแพลตเตอร์ ขนมหวานและไอศกรีมหลากรส
ลูกค้าสามารถใช้สิทธิ์
‘เราเที่ยวด้วยกัน’ กับโปรโมชั่นนี้ได้ด้วย เพียงแค่จองโปรโมชั่นนี้ทางออนไลน์ที่ https://bit.ly/2F8Rldj
กรุณาใส่รหัสโปรโมชั่น YQ1 สอบถามเพิ่มเติมที่ โทร. 02 207 7000
หรืออีเมล reservations.aloftbkk@alofthotels.com
ข่าวที่สาม โชว์โลมาภูเก็ตเท2โปรโมชั่นใหญ่
“ตั๋วเข้าชม-ว่ายน้ำกับโลมา”
โชว์โลมาภูเก็ต (Dolphins Bay
Phuket) จัดมหกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย 2
โปรโมชั่นเด็ด ระหว่างตุลาคม-พฤศจิกายน-ธันวาคม 2563 เมื่อ 1.ซื้อบัตรเข้าชมดังนี้ โชว์โลมาภูเก็ต ซื้อ 1️ แถม 1️
ทุกที่นั่ง จากราคาปกติเริ่มต้นคนละ 250 บาท หรือ ซื้อบัตรถ่ายภาพกับโลมา
สำหรับ 4 คน หรือแมวน้ำ สำหรับ 1 คน
ราคาเพียง 300 บาท บริการโชว์โลมาจะเปิดเฉพาะวันศุกร์
เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 11:00
และ 14:00 น.
2.บริการทำกิจกรรมว่ายน้ำกับโลมาแสนรู้
พิเศษต่อเนื่องถึงเดือนตุลาคม 2563 ลด
30% เหลือเพียง 2,450
บาท จากราคาปกติ 3,500 บาท โดยขอให้จองล่วงหน้าก่อนเข้าร่วมกิจกรรม
สำรองที่นั่งล่วงหน้า โทร. 076-374-300
หรือ 099-313-7666
, FB:Dolphins Bay Phuket/โชว์โลมา ภูเก็ต และIG:dolphins_bay_phuket
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น